หลนปูทะเล

นกไปเที่ยวตลาดนัดวันศุกร์ กะไปเดินดูโน่นนี้ให้หายเบื่อสักหน่อย ไปเห็นปูราคาไม่แพงเท่าไรเลยซื้อมา 2 ตัวค่ะ จริง ๆแล้วปูที่มีราคาแพงไม่เล่นเลยค่ะ แถมไม่ค่อยอร่อยเหมือนปูที่บ้านเรา อีกอย่างปูที่นี้เค้าจะปรุงสุกแกะเนื้อมาให้เรียบร้อยใส่กระดองปูกลับมาสวยงามไม่ต้องเสียเวลามานั่งปรุงกันอีก แต่สำหรับนกแล้วคิดว่าอย่างบ้านเราดีกว่าเพราะดูแล้วสดเนื้อหวานกว่ากันเยอะเลยค่ะ



ส่วนผสม
ปูสุกแกะเนื้อ 1 ถ้วย
ไข่ปูนึ่ง 1/2 ถ้วย (ถ้ามี)

กะทิ 1 1/2 ถ้วย
หอมแดงซอยบาง ๆ 8 หัว

หอมแดงสำหรับโขลกกับเนื้อปู 2 หัว
พริกชี้ฟ้าสีเขียว สีแดง สีเหลือง หั่นเป็นแว่น ตามชอบ
น้ำมะขามเปียก 2-3 ชต
น้ำตาลปึก ตามชอบ
เกลือหยิบมือ

วิธีทำ
1.เรื่มจากโขลกหอมแดง 3 หัว กับเกลือให้ละเอียด ตักเนื้อปูที่แกะประมาณ 2 ชต มาโขลกรวมกัน พักไว้

2.เอากระทะตั้งเตาเปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลางใส่กะทิลงในกระทะรอจนกระทั้งกะทิเดือดเคี่ยวให้กะทิแตกมัน
3.ใส่เนื้อปูและไข่ปู เคี่ยวไปจนพอจวนจะงวด ใส่หอมซอย พริก น้ำตาล เกลือ น้ำส้มมะขามเปียก ชิมรสตามชอบ คนให้เข้ากันอีกครั้งตักใส่ถ้วยยกเสริฟทานคู่กับผักสดตามชอบได้เลยค่ะ


แกงหน่อไม้ปลาย่าง

แกงหน่อไม้เมนูนี้นกแกงตามแบบฉบับปักษ์ใต้ ใจจริงนกจะแกงกับไก่ แต่ดันลืมเอาไก่ไปทอดทำข้าวมันไก่ทอดเสียหมด เปิดกระป๋องหน่อไม้แล้ว ไม่อยากเก็บไว้นาน วันนี้เลยเอามาแกงกับปลาเสียเลย ถือว่าเป็นเมนูเอาใจคนชอบกินปลาก็แล้วกันนะค่ะ




เนื้อปลาย่าง ตามชอบ
น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ชต

กะทิ1กป (แยกหัวกะทิ หางกะทิ)
น้ำปลา 2 ชต

พริกชี้ฟ้าแดง เขียว หั่นตามยาว 3-4 ดอก
โหระพา เด็ดใบ 2 กิ่ง
ใบมะกรูด ฉีกเป็นชิ้น ๆ 4-5 ใบ
น้ำตาล 1ชต
หน่อไม้ หั่นเป็นชิ้น ๆ 1 กป

เกลือ ตามชอบ

วิธีทำ
1. เอาหม้อตั้งบนเตาเปิดไฟในเตาปานกลางค่อนข้างแรง ใส่หัวกะทิ รอให้กะทิแตกมัน จากนั้นเติมน้ำพริกแกงเผ็ดลงไป คนจนเครื่องแกงกับกะทิเข้ากัน รอจนกระทั้งน้ำแกงเืดือด
2.ใส่เนื้อปลาย่างและใบมะกรูดลงไป จากนั้น เติมหางกะทิและหน่อไม้ลงไปในหม้อ ปรุงรสด้วย น้ำปลา, น้ำตาล, เกลือ คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน ชิมรสตามชอบ รอจนเดือดอีกครั้ง
3.ใส่ใบโหระพา พริกชี้ฟ้าลงไป คนให้ทั่วจึงปิดไฟแล้ว ตักแกงใส่ถ้วย แต่งหน้าด้วยใบโหระพาเสริฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ได้เลยค่ะ




แกงไตปลา

นกไปเที่ยวทะเลกับแฟนคลับ เลยถือโอกาสตกปลาเสียเลย ได้ปลาซาบะตามที่ตั้งใจไว้แต่ต้น แถมยังตกได้หลายตัวดีใจมาก ๆ เลยละค่ะ แต่หลักใหญ่ๆที่ทำให้ดีใจมากที่สุดเห็นจะเป็นพุงปลาละค่ะ วิธีการหมักไม่ยากค่ะเพื่อน เพียงนำพุงปลามารีดเอา ขี้ปลาไส้ออกให้หมด ล้างพุงปลาให้สะอาดทิ้งให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นใส่เกลือหมักไว้ประมาณ 1 เดือนขึ้นไป แม่สอนมาอย่างนั้น อ๋อขวดที่หมักต้องเอาไปต้มฆ่าเชื้อโรคเสียก่อนนะค่ะ ครบกำหนดนำมาปรุงอาหารได้ และแล้ววันที่รอคอยของนกก็มาถึงค่ะ ไตปลาพร้อม ขนมจีนพร้อม เครื่องปรุงพร้อม ลงมือเข้าครัวกันเลยค่ะ



ส่วนผสม
ปลาสด 1 ตัว
ไตปลา 2-3 ชต
ห่อไม้ 1 กป
ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อน ๆ พอคำ 1/2 ถ้วย
เห็ด 1/2 ถ้วย
มะเขือเปราะหั่นสี่ส่วน ประมาณ 8-10 ลูก
ข้าวโพดอ่อน หั่นเป็นท่อน ๆ พอคำ 1/2 ถ้วย
พริกชี้ฟ้าแดงเขียว หั่นเฉียง 3-4 ดอก
ใบมะกรูดฉีก 4-5 ใบ
น้ำเปล่า ตามชอบ ( นกใส่ประมาณ 2 ถ้วย)

ส่วนผสมเครื่องแกง
ขมิ้นผง1 ชช
ข่าหั่น5-6 แว่น
หอมแดง2 หัว
กระเทียม6-8 กลีบ
ตะไคร้หั่นละเอียด 2 ต้น
พริกขี้หนูสด ตามชอบ
ผิวมะกรูด 1 ชช
พริกไทยเม็ด 1 ชช
เกลือ 1 ชช
กะปิ 1/2 ชต
น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช.ช

วิธีทำ
1. โขลกส่วนผสมเครื่องแกงทั้งหมดให้ละเอียด หรือจะใช้เครื่องปั่นก็ได้ปั่นให้ละเอียด ยกเว้นกระปิ และน้ำตาลไว้โขลกหลังสุดโขลกให้เข้ากัน พักไว้
2. ปลาสด นำมาควักไส้ออกล้างให้สะอาด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นนำไปย่างให้สุกแกะเอาแต่เนื้อปลา พักไว้
3. ตักไตปลาใส่ชาม พักไว้ จากนั้นใส่น้ำลงในหม้อ ตั้งบนเตาใช้ไปปานกลางค่อนข้างแรง รอให้น้ำเดือดใส่ไตปลา ละลายไตปลา กรองใส่หม้อ
4. ใส่เครื่องแกงที่โขลกไว้พอหอม ใส่ผัก ใส่เนื้อปลาย่าง ใส่ใบมะกรูดฉีก ชิมรสตามชอบ รอให้เดือดอีกครั้ง ปิดไฟในเตา ตักใส่ชามยกเสริฟ ทานกับข้าวสวย ร้อน ๆ หรือจะเป็นขนมจีน ค่ะ

*** นี้เป็นพุงปลาที่นกหมักเองค่ะ ภูมิใจสุด ๆ เลยนำภาพมาให้เพื่อน ๆ ได้ชมกันด้วยนะค่ะ



วิธีการหมักพุงปลา นำพุงปลาที่ได้ คลุกเคล้ากับเกลือ ใช้เวลาในการหมัก ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ก็นำไปทำแกงไตปลาได้แล้วค่ะ ( แต่ของนกหมัก 1 เดือน สำหรับเกลือที่ใส่นกกะประมาณเอา ดูจากพุงปลาที่มีนะค่ะ
)

แกงคั่วหอยแมงภู่กับใบSpinach

ใครที่กำลังคิดถึงแกงหอยจุ๊บ(หอยขม)ใบชะพูลอยู่ละก็ เมนูนี้คงจะช่วยเพื่อน ๆ ที่อยู่ต่างแดนหายคิดถึงไปได้เยอะเลยที่เดียว ส่วนผสมเครื่องปรุงหาได้ง่ายในต่างแดน หากเพื่อนคนไหนไม่ชอบหอย เปลี่ยนเป็นแกงกับกุ้ง หรือปลา ก็อร่อยเช่นเดียวกัน



ส่วนผสม
หอยแมงภู่ลวก 250 กรัม
กระทิ 1 กป (แยกหัวกระทิ หางกระทิ)
ใบSpinach
น้ำพริกแกงคั่ว 1 ชต
ใบมะกรูดซอย 2-3 ใบ
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำตาลปีบ ตามชอบ

วิธีทำ
1. เอาหม้อตั้งบนเตาใส่หัวกระทิลงไปผัดให้แตกมัน พอกะทิแตกมัน ใส่น้ำพริกแกงลงไปละลายผัดให้หอม
2. ใส่หอยแมงภู่ลงไปผัดสองสามที จากนั้นใส่หางกะทิ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปีบ ใบมะกรูดชิมรสตามชอบ
3.กระทิเดือดอีกครั้งใส่ใบSpinach ลงไปคนนิดหน่อยพอให้ผักสลบ ปิดไฟในเตาตักใส่ชามยกเสริฟได้เลยค่ะ

***อันนี้เป็นแกงคั่วปลากับใบSpinach ใช้สูตรเดียวกัน นกนำมาฝากเพื่อน ๆ เผื่อว่าไม่ชอบหอยแมงภู่นะค่ะ***





ปลาซาบะสามรส



ส่วนผสม
ปลาซาบะ 2 ตัว
พริกขี้หนู 2-3 ดอก
กระเทียม 2-3 กลีบ
หัวหอม 1 หัว
น้ำปลา 1 ชต
น้ำตาล 2 ชต
น้ำมะขามเปียก 2 ชต
น้ำเปล่า 2-3 ชต
ต้นหอมหั่นหยาบ 1 ต้น
น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ
1. เอาปลาตัดหัวผ่าท้อง ดึงเอาไส้ออกให้หมด ตัดเป็นชิ้น ๆ ล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งไว้ในตะแกรงหรือกระชอนให้สะเด็ดน้ำ
2.โขลกพริกขี้หนู กระเทียม หอม ให้ละเอียดตามชอบพักไว้
3.นำกระทะตั้งบนเตาเปิดไฟในเตาใช้ไฟค่อนข้างร้อน ใส่น้ำมันสำหรับทอดลงไปรอจนกระทั้งน้ำมันร้อนจัด ๆ นำปลาลงทอดให้เหลืองกรอบแล้วตักขึ้นพักไว้บนจานที่เตรียมไว้ จากนั้นตักน้ำมันขึ้นให้เหลือเพียงเล็กน้อยสำหรับผัด
3. นำส่วนผสมที่โขลกไว้มันผัดให้พอหอม ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล น้ำส้มมะขาม น้ำเปล่า ผัดลงคลุกเคล้าให้ทั่ว ชิมรสตรตามชอบให้ได้สามรส เปรี้ยว หวาน เค็ม กลมกล่อมดีแล้วตักราดลงบนตัวปลาแต่งหน้าด้วยด้วยต้นหอมหั่นหยาบเสร็จแล้วยกเสริฟได้เลยค่ะ

***จะใช้ผักชี โรยหน้าโดย เด็ดผักชีเป็นใบ ๆ พริกชีฟ้าหั่นเป็นเส้น ๆ โรยหน้าก่อนเสริฟก็ได้เช่นกันค่ะ***

ยำปลากระป๋อง

ปลากระป๋องซื้อจากร้านขายของเอเซียตอนแฟนคลับว่างครั้งก่อน ตายนานมากเลยนะเนี้ย ดีนะที่วันนี้ไปจัดตู้เอาของที่ซื้อใหม่ใส่ไว้ด้านหลัง ไม่นั้นลืมทิ้งเสียของแน่นเลย ตอนที่ซื้อมาใหม่ ๆ จำได้ว่าอยากจะเอามาแกงส้มมะระกอ แต่ไม่มีมะระกอจะแกงสักที่เลยทำให้ลืม ไม่เป็นไรไม่ทำแกง เอามายำก็อร่อย พุงกางเหมือนกัน




ส่วนผสม
ปลากระป๋องขนาดเล็ก 2 กป
น้ำมะนาว 2 ลูก
หอมแดงซอย 8-9 หัว
ตะไคร้ซอย 3 ต้น
พริกขี้หนูซอย ตามชอบ
น้ำปลา 1 ชต
ใบสะระแหน่ ตามชอบ
ขิงซอย 1 แง่ง (ถ้ามี)

วิธีทำ
1 ผสมน้ำยำโดยผสมพริกขี้หนู เกลือ และน้ำมะนาว เข้าด้วยกัน
2 ใส่ขิง หอมแดง ตะไคร้ พริกขี้หนู ใบสะระแหน่ ปลากระป๋องลงไปในน้ำยำ คลุกเคล้าให้พอทั่ว ๆ จากนั้นตักใส่จานตกแต่งด้วยใบสาระแหน่ยกเสริฟได้เลย
***ขิงซอยเหลือจากเมื่อวานอยู่หน่อยหนึ่งเลยเอามาใส่เสียด้วยเลย จะได้ไม่เสียของ ถ้าเพื่อน ๆ ไม่มีไม่ต้องใส่ก็ได้นะค่ะ***

พิซซ่า

พิซซ่าร้อน ๆ BY NOK เสริฟร้อน ๆ มาแล้วจ้า ที่บ้านนกจะทำเป็นแบบแป้งบางกรอบ ถ้าเป็นพิซซ่าที่บ้านส่วนใหญ่จะทำกินเองเหตุเพราะจะได้ใส่หน้าตามที่ตัวเองชอบ แป้งพิซซ่านกจะทำติดตู้แช่แข็งเอาไว้ อยากจะกินเมื่อไรก็เอามาพักให้หายเย็นจากนั้นก็ลงมือทำหน้าพิซซ่าได้เลย ไม่เกินชม. ก็ได้กินแล้วละค่ะ



ส่วนผสมแป้งพิซซ่า
แป้งอเนกประสงค์ 2 ถ้วย
ยีสต์แห้ง 1 ซอง
น้ำตาลทราย 1 ชช
น้ำมันมะกอก 2 ชต.
น้ำอุ่น
เกลือหยิบมือ

ส่วนผสมหน้าพิซซ่า
แฮมหั่นเป็นเส้น 200 กรัม
เบคอนหั่นเป็นเส้น 200 กรัม
Tomato puree 2 ชต
ซอสมะเขือเทศ 1 ชต
ผงปาปริกา 2 ชช
หอมใหญ่หั่เป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก 1 หัว
พริกหวาน หั่นซอย 1 ลูก
เห็ดแชมปิยอง หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ 1 ถ้วย
มอสซาเรลล่าชีส ตามชอบ

วิธีทำแป้งพิซซ่า
1 เอาน้ำอุ่นมาใส่ลงในถ้วยประมาณ 1/4 ถ้วย เทยีสต์ น้ำตาลลงไป คนให้เข้ากัน พักไว้ให้ยีสต์ขึ้น
2 เทแป้ง น้ำมันมะกอก เกลือ ลงในอ่างผสม จากนั้นใส่ยีสต์ที่มักจนขึ้นแล้ว มาผสมกันแล้วนวดให้เข้ากันเติมน้ำอุ่นลงไปเป็นระยะ ๆ อย่าเติมเยอะจนแป้งเปียก นวดจนแป้งเนียนได้ไม่ติดมือ ทำแป้งเป็นก้อนกลม นำกลับใส่ชามอ่าง เอาผ้าคลุมพักไว้ประมาณ 30 นาที ให้แป้งขึ้น
3.นำแป้งที่พักไว้มาคลึงให้เป็นแผ่นกลมๆ แล้วยกใส่ถาดพิซซ่า รีดให้ได้ขนาดเท่ากันกับถาด
4.เทTomato puree ซอสมะเขือเทศลงไปทาให้ทั่วแผ่นแป้ง แล้วแบ่งมอสซาเรลล่าชีสมาครึ่งนึง โรยให้ทั่ว จากนั้นโรยแฮม เบคอนวางผักต่างๆ และโรยชีสอีกรอบ จากนั้นแล้วโรยผงปาปริกา ก่อนนำเข้าอบที่ 200C ประมาณ 20 นาที หรืออบจนแป้งสุกกรอบเหลือได้ที่ เอาออกจากเตายกเสิรฟ คู่กับขนมปังกระเทียม หรือจะเป็นสลัดผัดได้เลย

***สุตรแป้งพิซซ่าแล้วแต่ใครจะชอบนะค่ะ จริง ๆ แล้วนกมีหลายสูตรเลยที่เดียว บางสูตรใช้แป้งขนมปัง เป็นแบบแป้งหนานุ่ม บางสูตรก็ใส่ผงฟู แทนยีสต์ แต่ที่บ้านเวลาทำนกจะใช้สูตรนี้ทำนะค่ะ ขั้นตอนไม่เยอะได้กินเลย***

ก๋วยเตียวหมูสับ

เมนูนี้มีน้องที่น่ารักคนหนึ่งถามนกว่า"รู้จักไม่ค่ะ แล้วเค้าทำกันอย่างไร ถ้าอย่างไรขอสูตรหน่อยให้นู๋หน่อยนะค่ะ" เมนูนี้ของชอบเสียด้วยเลยไม่รอช้าทำเสร็จถ่ายรูปจัดการส่งสูตรให้น้องทันที่ จริงๆแล้วนกคิดว่าจะเอาสูตรมาเขียนไว้ในครัวให้เพื่อน ๆ ได้ชมได้ชิมกันด้วย นกมั่วแต่ยุ่ง ๆ ไม่ได้เอาสูตรมาลงจนลืมไปเลยละคะ วันนี้มีโอกาสค้นรูปอาหารให้แฟนคลับเมนูหนึ่ง (สงสัยจะเอาไปโชว์เพื่อน)ไปเจอะรูปนี้พอดีจัดการเก็บรูปลงสูตรเสียเลยเดียวจะลืมอีก จริง ๆ เมนูนี้แฟนคลับยังไม่ได้ชิมเลยค่ะ ให้ดูรูปแล้วบอกว่าหน้าตาน่าสนใจดี คิดว่าคงต้องทำให้กินในวันหยุดนี้เสียหน่อย วันเสาร์นี้ต้องไปเดินดูที่ตลาดหาดูผักกาดหมอเสียหน่อย เพราะแฟนคลับไม่ชอบทานผักกาดขาวเอาเสียเลยกลุ้มจริง



ส่วนผสม
ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ ตามชอบ (วันนี้นกใช้เส้นก๋วยเตี่ยวประมาณ 500 กรัม)

หมูสับ 250-300 กรัม
มะเขือเทศลูกใหญ่ หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก 1 ลูก
ผักกาดหอม 1 ต้น

หัวหอมใหญ่ หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก ½ หัว
กระเทียมสับละเอีดย 3-4 กลีบ
ต้นหอมหั่นเป็นท่อนเล็ก ๆ 2 ต้น
ซีอิ้วขาว2 ชต

ซีอิ้วดำ 1 ชต

น้ำมันหอย 2 ชต
น้ำตาลทราย 1 ชต
ผงกะหรี่ 1ชช

แป้งข้าวโพด 2ชต

น้ำเปล่า

น้ำมันสำหรับผัด

วิธีทำ
1.เอาก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ใส่จานนำมายีให้เส้นแยกออกจากกัน จากนั้น เปิดเตาในเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อนให้นำเส้นใหญ่ที่ยีไว้แล้วลงไปผัด เติมซีอิ้วดำลงไป ผัดให้ซีอิ้วดำคลุกกับเส้นให้ทั่วก็ปิดไฟในเตา ตักใส่จาน พักไว้
2.เปิดเตาในเตาอีกครั้งไฟปานกลาง ตั้งกระทะใบเดิม ใส่น้ำมันลงไปพอน้ำมันเริ่มร้อนให้นำกระเทียมสับหัวหอมใหญ่หั่นและส่วนก้านของต้นหอมซอยที่เป็นสีขาวลงไปผัดให้หอม พอหอมเริ่มสุก แล้วจึงใส่หมูสับลงไปผัดจนกระทั้งหมูเริ่มสุกเติมเครื่องปรุง ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทรายลงไป ชิมรสตามชอบ ผัดให้หมูสับและเครื่องปรุงเข้ากัน

3.นำมะเขือเทศที่หั่นไว้แล้วลงไป ผัดซักพักจนมะเขือเทศเริ่มนิ่มก็ใส่น้ำเปล่าลงไป คนให้ทั่ว รอจนกระทั้งน้ำซุปในกระทะเริ่มเดือด ก็ใส่ผงกะหรี่ลงไปและเคี่ยวต่อไปสักหน่อย แล้วจึงละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำเปล่าใส่ลงไปในกระทะ คนเร็วๆ อย่าให้แป้งจับตัวเป็นก้อนจนส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นใส่ต้นหอมซอยลงไปคนให้เข้ากันปิดไฟในเตา

4.จัดผักกาดหอมรองในจาน ใส่เส้นก๋วยเตียวที่ผัดไว้แล้วลงไป ราดน้ำผัดลงไปบนเส้นก๋วยเตี๋ยว ยกเสริฟได้เลยค่ะ

*** เส้นก๋วยเตียวที่ใช้วันนี้เป็นเส้นที่ทำเองเพราะถ้าคอยสั่งซื้อเดียวจะนานช้าไปอีกไม่อยากให้น้องคอยนาน เลยทำเส้นก๋วยเตียวเสียเองเลย และมีอีกอย่างผักที่รองเป็นผักกาดขาวนะค่ะ ในตู้เย็นไม่มีผักกาดหมอ เลยใช้ใบผักกาดขาว 3 ใบ เลาะเอาเฉพาะใบมารองจานนะค่ะ ****

หมี่ผัดซีอิ้วหมูแดง



ส่วนผสม
ก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่ 250 กรัม
หมูแดงหั่นสไลด์เป็นชิ้นพอคำ 300 กรัม
ผักคะน้าหั่นเป็นชิ้น ๆ ตามชอบ
ถั่วงอก ตามชอบ
กระเทียมสับ 4-5 กลีบ
น้ำมันหอย 3 ชต
ซีอิ้วขาว 1 ชต
ซีอิ้วดำ 2 ชต
น้ำตาลทราย 1 ชต
น้ำมันสำหรับผัด ตามชอบ

วิธีทำ
1.นำเส้นหมี่มาแช่น้ำประมาณ 10 นาที จากนั้นสะเด็ดน้ำพักไว้
2.เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง นำกระทะตั้งลงบนเตา ใส่น้ำมันลงไป รอจนกระทั้งน้ำมันร้อนใส่กระเทียมลงไปผัดจนกระเทียมหอม ใส่หมูแดงลงไป จากนั้นใส่ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย น้ำตาลทราย ผัดให้เครื่องปรุงเข้ากัน
3.ใส่เส้นหมี่ลงไปผัดจากนั้นใส่ซีอิ้วดำลงไปผัดให้เข้ากันอีกครั้ง
4.ใส่ผักคะน้าลงไปผัดให้เข้ากัน จนกระทั้งผักสุด ปิดเตาตักใส่จานยกเสริฟได้เลยค่ะ

***ถ้าชอบใส่ไข่ ก่อนจะใส่เส้นหมี่ก็ให้ทำหลุมตรงกลางกระทะ ตอกไข่ลงไป ตีไข่ให้กระจาย รอจนไข่เริ่มสุกก็นำหมูมากลบ รอซักพักก็กลับไข่ จากนั้นใส่เส้นหมี่ลงไปและผัดให้เข้ากัน***

แกงอ่อมปีกไก่

พอเข้าหน้าร้อนที่ไร นกและแฟนคลับชอบหาเวลาเที่ยวพักผ่อนเสมอเลยทำให้ต้องทิ้งร้างห่างครัวไปหลายวัน อย่างเมนูนี้จริง ๆ นกทำแล้วทิ้งรูปเอาไว้ในเวป วันนี้กลับมาแล้วค่ะมีเวลามากขึ้นเพราะ ช่วงนี้เข้าหนาวไม่ได้ไปไหนมีเวลาเข้าครัวบ่อยขึ้น นกเลยมาเล่าสู่เรื่องแกงอ่อมกับเพื่อน ๆ นกเคยได้ยินคนเฒ่าคนแก่พูดกันว่าแกงอ่อมทางภาคเหนือ กับทางภาคอีสานไม่เหมือนกัน จะแตกต่างกันที่ส่วนผสมของน้ำแกง อย่างที่นกทำวันนี้เป็นของทางภาคอีสานค่ะ อ่อมไก่ทำได้ง่ายมาก ๆ เพราะส่วนผสมของผักนั้นใส่ตามใจคนทานค่ะ ผักที่นกใส่เยอะกว่าอย่างอื่นเห็นจะเป็นลูกcourgette ปลูกได้ผลมีมากจริง ๆ เลยค่ะ



ส่วนผสม
ปีกไก่บน 8-10 ชิ้น
ผักชีลาว ตามชอบ
ใบแมงลัก ตามชอบ (ถ้ามี)
courgette หั่นเป็นชิ้น ๆ 2-3 ลูก
เห็ด หั่นเป็นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย
ต้นหอม หั่นเป็นท่อน ๆ ตามชอบ
ผักอื่น หั่นเป็นชิ้นพอคำ ตามชอบ
น้ำปลา 2 ชต
น้ำปลาร้า 2 ชต (ถ้ามี)
ข้าวเบือ 2 ชต
ใบมะกรูด ตามชอบ

ส่วนผสมเครื่องแกง
พริกสด ตามชอบ
หอมแดง 3-4 หัว
กระเทียม 2-3 กลีบ
ตะไคร้ หั่นเป็นท่อนเล็ก ๆ 2 ต้น

วิธีทำ
1 โขลกส่วนผสมเครื่องแกงให้ละเอียด พักไว้
2 เอาหม้อตั้งบนเตา เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลางใส่ไก่ และเครื่องแกงที่ตำคั่วให้หอม จากนั้นเติมน้ำนิดหน่อยพอขลุกขลิก คนต่อจนไก่สุก
3. พอน้ำแกงเริ่มเดือดใส่ผักลงไป ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำปลาร้า ชิมรสตามชอบอีกครั้ง
4.เติมข้าวเบือลงไปหมั่นคนบ่อย ๆ เพราะ ข้าวเบือจะเหนียวหนืดทำให้ข้น จากนั้นเติมน้ำเพิ่มตามต้องการ
5. พอน้ำแกงเริ่มเดือดอีกครั้งใส่ผักลงไปยกเว้น ผักชีลาว ต้นหมอ รอจนกระทั้งผัดเริ่มสุกจากนั้นใส่ผักชีลาว ต้นหอมลงไปคนให้เข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟในเตา ตักใสชามยกเสริฟได้เลยค่ะ

*** หากพูดถึงข้าวเบือ บางคนอาจนึกไม่ออก ข้าวเบือ คือข้าวดิบไม่ว่าจะข้าวเหนียวหรือข้าวสารเอามาแช่น้ำให้นิ่มๆ จากนั้นเอามาตำให้ละเอียด ข้าวเบือจะทำให้น้ำแกงเหนียว อาหารเกาะตัว หากไม่ชอบข้าวเบื่อ จะใช้เป็นข้าวคั่วก็อร่อยเช่นเดี่ยวกันค่ะ ไว้ครั้งหน้านกจะนำเมนูแกงอ่อมทางเหนือมาให้เพื่อน ๆ ได้ชมได้ชิมอีกครั้งค่ะ ***