Crispy Bacon and Spaghetti

อาหารอิตาเลี่ยนทำง่ายไม่อยากอย่างที่คิด โดยเฉพาะ เมนูพาสต้าที่หลายๆ คนชอบ ตอนอยู่เมืองไทยนกไม่ค่อยสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับพาสต้าสักเท่าไร คิดว่าเค้ามีแค่เส้นสปาเก็ตตี้ มะกะโรนี และพาสต้า ด้วยความที่เราไม่รู้และไม่สนใจศึกษาเพราะที่บ้านนาน ๆ จะทำเมนูอิตาเลียนกินสักที่ เวลาทำน้องสาวก็มักใช้พาสต้าสองอย่างนี้ทำเสียส่วนใหญ่ นกเป็นแค่คนกิินไม่ได้ลงมือทำกับเค้าหรอกค่ะ แต่พอมาอยู่ต่างแดน เป็นผู้จัดการบ้าน ต้องทำกับข้าวเอง นกได้รู้ได้เห็นอะไรมากขึ้นถึงได้เข้าใจว่าพาสต้าของอิตาลีมีหลากหลายแบบ ทำอาหารแตกต่างกันไป จากนั้นนกเริ่มฝึกฝนทำเมนูพาสต้ามากขึ้นเรื่อย ๆ บวกกับความที่นกเป็นคนชอบเมนูอาหารเส้น แฟนคลับชอบพาสต้า เลยสนุกที่ทำเพราะมีคนชิม หลาย ๆ ครั้งที่นกผสมความเป็นไทยกับเมนูพาสต้าของอิตาลี และทุก ๆครั้งที่ทำไม่เคยทำให้นกผิดหวังใจรสชาิติเลย อย่างวันนี้ใจจริงอยากจะทำ Spaghetti Carbonara แต่อยากกินผัก อีกอย่างผักกะหล่ำเหลืออยู่จากเมื่อวานหั่นไว้เยอะไม่ทำอะไรเดี๋ยวก็เสียของอีก นกเลยเปลี่ยนใจไม่ทำ Spaghetti Carbonara มาทำ Crispy Bacon and Spaghetti ลูกผสมไทยอิตาเลียนแทนค่ะ




ส่วนผสม
เบคอน 4 ชิ้น
เส้นสปาเก็ตตี้ต้มสุกสำหรับ 2 คน
กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
ผักกะหล่ำหั่นซอย 1 ถ้วย
ใบพาสลีย์ ( parsley) หั่นละเอียด 2-3 ต้น
น้ำมันมะกอก (olive oil) 3 ชต
เกลือ ตามชอบ
พริกไทยตามชอบ
Parmesan cheese ขูด 2 ชต

วิธีทำ
1. ทอดเบคอนให้สุกกรอบ วางบนกระดาษซับมันพักไว้
2. เปิดไฟในเตาใช้ใไฟปานกลาง ใส่น้ำมันมะกอกลงไป จากนั้นใส่กระเทียมสับลงไปผัดให้พอหอม
3. ใส่ผักกะหล่ำลงไปผักให้สุก จากนั้นใส่เส้นสปาเก็ตตี้ลงไปผัดต่อ ใส่เบคอน เกลือ พริกไทย ชิมรสตามชอบ จากนั้นตักใส่จานโรยหน้าด้วย Parmesan cheese และใบพาสลีย์สับ ยกเสริฟได้เลย

ต้มแซบไก่






ส่วนผสม
ไก่หั่นชิ้น 200 กรัม
ข่าแก่หั่นแว่น 1 แง่ง
ตะไคร้ทุบหั่นท่อน 1 ต้น
ใบมะกรูดฉีก 2  ใบ
หอมแดงทุบ 1 หัว
กระเทียมทุบ 2 กลีบ
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย เล็กน้อย
น้ำมะนาว ตามชอบ
พริกขี้หนูทุบ ตามชอบ
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง 2  เม็ด
ผักชีฝรั่งหั่นท่อน 1 กำมือ
ต้นหอมหั่นท่อน 2 ต้น
ผักชีหั่นท่อน1 ต้น
น้ำเปล่า ตามชอบ

วิธีทำ
1. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟใช้ไฟร้อน ต้มจนน้ำเดือด ใส่ข่า ตะไคร้ หอมแดง กระเทียม และใบมะกรูดลงต้มจนเดือดอีกครั้ง
2. ใส่ไก่ต้มจนสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลทราย คนผสมจนเข้ากัน ปิดไฟในเตา
3. ใส่ผักชีฝรั่ง ต้นหอม ผักชี พริกชี้หนูทุบ พริกชี้ฟ้าหั่นเฉียง น้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ ตักใส่ชามเสริฟได้เลย

ข้าวผัดเทอริยากิกับปลาแซลมอนทอด








ส่วนผสม
ข้าวสวยเย็น 2 ถ้วย
แครอทหั่นเต๋า ตามชอบ
กระเทียมสับ 2 กลีบ
หอมหัวใหญ่หั่นเต๋า 1/2 หัว
ต้นหอมหั่นชอย 2 ต้น
พริกหวานหั่นเต๋า 1/2 ผล
ซอสเทอริยากิ 2 ชต
พริกไทยป่น หยิบมือ
น้ำตาลทราย เล็กน้อย
น้ำมันพืชสำหรับผัด

วิธีทำ
1. ใส่น้ำมันในกระทะ เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง น้ำมันร้อน ใส่กระเทียมเจียวให้พอหอม
2. ใส่หอมใหญ่ แครอท พริกหวาน ผัดให้เข้ากันพอสุก
3. ใส่ข้าวสวยลงผัด ปรุงรสด้วย ซอสเทอริยากิน น้ำตาลทราย พริกไทยป่น ชิมรสตามชอบ ตักใส่จานเสริฟคู่กับปลาแซลมอนทอดได้เลยค่ะ

สำหรับซอสเทอริยากิ นกมีส่วนผสมและวิธีทำไว้ให้เพื่อน ๆ ชาวครัวได้ทำใช้ขั้นตอนและวิธีการง่าย ๆ สำปรุงอาหารเองที่บ้าน
ซีอิ้วญี่ปุ่น  (Kikkoman) 1/2 ถ้วย
เหล้าญี่ปุ่น (Sake)  1/2 ถ้วย
เหล้าหวานมิริน (Mirin) 1/4 ถ้วย
ขิงสับละเอียด 1 แง่ง
น้ำมันงา 2 ชช
น้ำตาลทรายแดง 2 ชต
งาขาวคั่ว 1  ชต
วิธีทำ
1. ผสมซีอิ้วญี่ปุ่น เหล้าญี่ปุ่น เหล้าหวานมิริน ขิงสับ น้ำมันงา น้ำตาลทราย น้ำเปล่า ต้มให้น้ำตาลละลาย 
2. กรองเอาขิงออก โรยงาขาวคั่ว เก็บใส่ขวดไว้ใช้ปรุงอาหารได้เลยค่ะ

***เวลานำไปใช้ใส่ผัดก็ให้ผสมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อยก่อนจะใช้  จากนั้นใส่แป้งข้าวโพดละลายน้ำลงไปผัดให้ส่วนผสมตั้งไฟคนให้เข้ากันจนได้ซอสเหนียว ๆ สำหรับราด***

หอมทอด



ส่วนผสม
หอมหัวใหญ่สีขาว  ตามชอบ
แป้งทอดกรอบ 1 ถ้วย (แบ่งออกเป็น 2 ส่วน)
เบียร์ ขวดเล็ก
ผงปาปริก้า
เกลือป่น หยิบมือ
พริกไทยป่น หยิบมือ
น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ
1. ลอกเปลือกหั่นหัวหอมเป็นแว่นๆ แกะออกให้เป็นแว่น ๆ
2. ผสมแป้งทอดกรอบส่วนที่1 ผสมกับเบียร์พอข้น ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทยป่น เล็กน้อย
3. ใส่น้ำมันในกระทะ เปิดไฟในเตาใช้ไฟกลางตั้งน้ำมันให้ร้อน
4. นำหอมหั่นแว่นมาคลุกแป้งกรอบส่วนที่2 เรียกว่าแป้งแห้ง กับผงปาปริก้า คลุกเคล้าให้ทั่วแล้วค่อยนำไปชุบแป้งที่ผสมเบียร์ไว้แล้ว ชุปให้ทั่วแล้ว นำลงทอดให้สุกเหลืองกรอบ
5. ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมันจัใส่จานเสิร์ฟ พร้อมซอสจิ้มได้เลยค่ะ

สำหรับซอสจิ้ม วันนี้นกใช้ซอสมะเขือเทศที่นกทำเอง สนใจอ่านจากลิงค์นี้นะค่ะ

http://nd-thaifood8.blogspot.co.uk/2010/12/blog-post_5793.html


หมี่เหลืองผัดกุ๋ยช่าย

ใครชอบหมี่เหลืองบ้างยกมือขึ้น นกคงยกมือเป็นคนแรก ยิ่งหมี่เหลืองผัดยิ่งชอบใหญ่่ และถ้าจะบอกว่าผัดหมี่เหลืองเป็นของชอบของทุกๆ ในบ้านนกก็ว่าได้ วันเสาร์- อาทิตย์ ทุกคนไม่ได้ไปทำงาน เช้า ๆ แม่จะไปตลาดนัดซื้อหมี่มาผัดให้กินเป็นประจำ นกทำผัดหมี่เหลืองกินอยู่บ่อยๆ ใช้สูตรที่แม่ทำ แต่ไม่เคยลงในครัวเลย จำได้ว่าเคยลงสูตร "ผัดหมี่เหลืองทรงเครื่อง" เอาไว้ วันนี้ผัดหมี่เหลืองแต่เป็นคนละสูตรกัน เลยนำมาฝากเพื่อนชาวครัวค่ะ





ส่วนผสม
หมี่เหลือง 450 กรัม
กุ้งสด 200 กรัม
ปลาเส้น (ฺืฮื่อก้วน) 150 กรัม
ผักกุ๋ยช่าย 1 กำ
ถั่วงอก ตามชอบ
กระเทียมกลีบใหญ่ 3 กลีบ
น้ำมันหอย 3 ชต
ซีอิ้วขาว 1 ชต
ซีอิ้วดำ 2 ชช
น้ำตาลทราย 1 ชต
น้ำมันพืชสำหรับผัด
ลิงก์
วิธีทำ
1. ล้างกุ๋ยช่ายให้สะอาดหั่นเป็นท่อน ๆ ขนาด 1 นิ้ว กระเทียมนำมาสับให้ละเอียด พักไว้
2. นำปลาเส้นมาหั่นเป็นชิ้น ๆ (ปลาเส้นนกทำเอง หากเพื่อนๆ สนใจสูตรแวะอ่านได้นะค่ะ)
3. นำกุ้งมาแกะเปลือก ผ่าหลังดึงเส้นดำออก เปิดในเตาใช้ไฟปานกลาง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันสำหรับผัดลงไปกะพอประมาณ พอน้ำมันเริ่มร้อน ใส่กระเทียมลงไปผัดให้พอหอม
4. ใส่กุ้งที่แกะไว้ลงไปรวนพอสุก ใส่ปลาเส้นลงไปผัดต่อ ใส่เครื่องปรุงต่างๆ ลงไป จากนั้น ใส่เส้นหมี่เหลืองลงไปผัดให้เส้นกระจายทั่วๆ กัน ชิมรสตามชอบ ก่อนปิดไฟในเตาใส่ผักกุ๋ยช่าย และถั่วงอกลงไป ผัดสองสามที่ ตักใส่จานยกเสริฟได้เลยค่ะ


ส้มตำไส้กรอกมะระกอเทียม (ลูกSwede)

ส้มตำเมนูอร่อยคู่ครัวคนไทย ไม่ว่าจะอยู่ภาคไหน ๆ ก็ชื่นชอบส้มตำกันทั้งนั้น อยู่เมืองไทย ถ้าไม่ซื้อเค้ากิน น้องสาวก็จะเป็นคนตำให้กิน ตำไทย ตำปู ตำลาว กินได้ทั้งนั้นค่ะ เวลากินกันหลายๆ คน ยิ่งเพิ่มความอร่อยรสชาติความอร่อยเข้าไปอีก อยู่ต่างแดนนกจะตำส้มตำกินเวลานึกอยากจริงๆ กินคนเดียว เหงา ๆ ชอบกล ส้มตำที่ทำมักขาด ๆ เกินๆ ส่วนใหญ่ที่ขาดมักจะเป็นเครื่องปรุงที่ไม่ค่อยจะครบเครื่อง ส่วนเกิน ๆ นกมักจะใส่โน่นนี้เพิ่มอยู่เสมอ อย่างที่เพื่อนๆ เห็นนี้ละค่ะ



ส่วนผสม
มะละกอเีทียมขูดหรือสับ 2 ถ้วย (นกใช้ลูก Swede แทนลูกมะระกอ)
น้ำมะนาว 2 ชต
น้ำปลา 1 1/2 ชต
น้ำตาลปี๊ป 2 ชต
กระเทียมกลีบใหญ่ 3-4 กลีบ
พริกสด ตามชอบ ( นกใส่ประมาณ 6-7 ดอก)
ถั่วลิสงคั่ว 2 ชต
ถั่วฝักยาว 3 ฝัก (หั่นยาวประมาณ 1 นิ้ว)
ไส้กรอกต้มสุกหั่นชั่น ตามชอบ

วิธีทำ
1. นำลูก Swede มาปลอกเปลือก ล้างน้ำให้สะอาด แบ่งครึ่ง ขูดเป็นเส้นๆ หรือจะสับทั้งลูกแล้วฝานเป็นเส้นๆ ก็ได้เช่นกัน
2.โขลกพริก กระเทียมให้ละเอียดตามชอบ
3. ใส่น้ำตาลปี๊บ ตำต่อจนน้ำตาลละลาย จึงใส่มะละกอเทียม ถั่วฝักยาว ถั่วลิสง ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมะนาว ตำต่อจนส่วนผสมเข้ากันทั้งหมด จากนั้นใส่ไส้กรอกลงไปคลุกเคล้า ชิมรสตามชอบ ตักใส่จานเสริฟคู่กับผักสดได้เลย

***ส่วนใหญ่แล้วส้มตำของนกไม่ตายตัว บางครั้งก็ใช้ผลไม้ตำ อย่างผลไม้ก็เลือกที่มีรสเปรี้่ยวเป็นหลัก วันนี้นกใช้ลูกSwede ตำ รสชาติใก้ลเคียงกับมะระกอเลยที่เดียว หากเพื่อนๆ ไม่รู้จักนกมีภาพของลูก Swede มาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันค่้ะ***




แกงเขียวหวานหมูอบมะระหวาน

หลังจากที่นกหายหน้าหายตา ไปจากห้องครัวหลายวัน เหตุเพราะติดภาระกิจทำขนม วันนี้กลับพร้อมกับเมนูแกงเขียวหวาน เอาใจแฟนคลับที่บ้าน หมูอบเหลือจากเมื่อวานอีกแล้วค่ะ ใจอยากจะแกงใส่มะเขือเปราะ ตอนไปตลาดซื้อตั้งใจเอาไว้ แต่พอไปถึงมะเขือเปราะไม่สวยเลย พ่อค้าบอกว่าของยังไม่มาจากเมืองไทย พรุ่งนี้ถึงจะมี อ๋าวพรุ่งนี้มีก็ไม่ได้ซื้ออยู่ดี เพราะตลาดไม่ได้มีพรุ่งนี้ หมูอบนอนคอยอยู่ในตู้เย็นอยู่แล้ว ยังงัยๆ ก็ต้องทำให้ได้ ไม่มีมะเขือเปราะใส่มะระหวานก็ได้ไม่เห็นจะง้่อเลย



ส่วนผสม
หมูอบ 1 ถ้วย
กะทิ 1 กป (แยกหัวกะทิ หางกะทิ)
มะระหวานขนาดกลาง 2 ลูก
น้ำพริกแกงเขียวหวาน 2 ชต
โหระพาเด็ดใบ 1 กิ่ง
ใบมะกรูดฉีก 2-3 ใบ
พริกชี้ฟ้าแดง/เขียว 2 ดอก (นกใช้อย่างละดอกหั่นเฉียง)
น้ำปลา 2 ชต
น้ำตาลทราย ตามชอบ

วิธีทำ
1. เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง ใส่หัวกะทิลงในหม้อ รอจนหัวกะทิเดือด จากนั้นใส่น้ำพริกแกงเขียวหวานลงไป ผัดให้น้ำพริก กับหัวกะทิเข้ากัน รอจนกระทั้งกะทิแตกมัน (คอยหมั่นคนกะทิเป็นระยะ)
2.พอกะทิแตกมันได้ที่ใส่หมูอบลงไป ทยอยเติมกะทิที่เหลือลงไป หมั่นคนเป็นระยะ ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ คนให้ทั่ว และเคี่ยวด้วยไฟอ่อนประมาณ 15-20 นาีที
3. หมููอบเคี่ยวเข้าเนื้อกับเครื่องแกง ใส่มะระหวานลงไป ต้มจนมะระหวานสุกนิ่ม ใส่ใบโหระพา พริกชี้ฟ้าแดง ใบมะกรูด คนให้ทั่วอีกครั้ง จากนั้นปิดไฟในเตาตักใส่ถ้วยยกเสริฟคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ หรือขนมจีนได้เลย

***หากต้องการความเผ็ดให้โรยพริกขี้หนูสดลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ ความเผ็ดได้อีกทาง วันนี้นกกินคู่กับขนมจีน ส่วนแฟนคลับกินคู่กับข้าวสวย วันนี้นกไม่ได้โรยพริกสด เพราะมีพริกทอด ทอดเก็บเอาไว้นะค่ะ***

ข้่าวต้มมัด/ ข้าวต้มผัด /ข้าวต้มกะทิ (ไส้กล้วยหอม)

ข้าวต้มมัด/ข้าวต้มผัด/ข้าวต้มกะทิ เป็นขนมที่ทำไม่ยาก แต่ยุ่งยากกตรงที่ขั้นตอนการทำเยอะใช้เวลาทำนานกว่าจะได้กิน บ้านที่เมืองไทยแม่ปลูกต้นกล้วยน้ำว้าไว้หลายต้น เวลากล้วยออกลูก เมนูขนมหวานเมนูหนึ่งที่แม่มักจะทำก็คือ ข้าวต้มมัด นกเคยได้ดูวิธีการที่่แม่่ทำว่าทำอย่างไร ห่อแบบไหน แต่ไม่เคยได้ลงมือทำเลย คอยแต่เป็นคนกินอย่างเดียว หลายอาทิตย์มาแล้วนกเห็นเพื่อนชาวครัวเอารูปข้าวต้มมัดมาให้ชม แค่เห็นรูปก็นึกอยากกินเข้าวต้มมัด แต่ไม่มีใบตองเลยไม่ได้ลงมือทำสักกะทีจนวันอังคารที่ผ่านมา นกได้เข้าไปในเมืองที่นั้นมีตลาดนัดใหญ่เลยที่เดียว เคยไปเดินหลายครั้งแล้วละค่ะ มีของขายมากมาก บางครั้งก็เจอะผักผลไม้จากฝั่งเอเซียบ้านเรา มาขายอยู่บ้าง อย่างวันนี้ระหว่างที่เดินดูโน่น ก็ไปเจอใบตองตั้งขายอยู่ พ่อค้าเค้าบอกว่า พอดีมีลูกค้าชาวอินเดียสั่งใบตอง ไปใช้ในงาน เค้าเลยสั่งเผื่อมาขาย เผื่อว่าลูกค้าคนอื่นต้องการ ดีใจจริงๆ จะได้กินข้าวต้มมัดเสียที กล้วยน้ำว้าไม่มี ใช้กล้วยหอม แทนก็ได้เหมือนกัน (คิดเอาเอง)




ส่วนผสม
ข้าวเหนียว 500 กรัม
กะทิ 2 กป
เกลือ 1 ชช.
น้ำตาลทราย 150 กรัม
กล้วยหอม 4 ผล

วิธีทำ
1. นำข้าวเหนียวแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นล้างซาวข้าวเหนียวให้สะอาด สงให้สะเด็ดน้ำ พักไว้
2. นำข้าวเหนียว กะทิ เกลือ น้ำตาลทราย ถั่ว ไปผัดรวมกันในกระทะทองเหลือง หรือกระทะเทฟล่อน จนน้ำกะทิเริ่มแห้ง พักไว้ให้เย็น
3. กล้วยหอมปอกเปลือกผ่าให้ได้ขนาดตามชอบ
4. นำใบตองมาวาง ใบเล็กวางบนใบใหญ่ ให้ด้านนวลชนกัน ตักข้าวเหนียวลงไปเกลี่ยให้ข้าวกระจายออกตรงกลางใบตองและวางกล้วยลงไป 1 ชิ้น ตักข้าวเหนียวทับอีกครั้งห่อใบตองให้มิดชิด ทำแบบเดิมอีกชิ้นหนึ่งห่อให้เรียบร้อย แล้วนำขนม 2 ห่อมาประกบกันเป็นคู่ แล้วมัดด้วยเชือก
5. นำห่อข้าวเหนียวแต่ละมัด มาเรียงใส่ลงไปในหม้อนึ่ง นำไปนึ่งด้วยไฟแรงประมาณ 30-35 นาที หรือนึงจนกระทั้งข้าวต้มสุก พักไว้ให้เย็น พร้อมเสิรฟได้เลย


***ข้าวต้มมัดหลายคนชอบใส่ถั่วเพื่อเพิ่มความมัน สำหรับนกไม่ชอบที่มีถั่วเลยไม่ใส่นะค่ะ นกทำข้าวต้มมัดครั้งนี้ครั้งแรกทำเยอะมากๆ จะบอกว่ากินคนเดียว กินทั้งวัน แทนข้าว ก็ยังไม่หมด จะทิ้งก็เสียดาย เลยเก็บแช่แข็งไว้กินวันหลังอีก เพื่อนชาวครัวไม่ต้องตกใจไปนะค่ะ ว่าข้าวต้มมัดแช่้แข็งได้ด้วยหรือ ตอบว่าได้ค่ะ เวลาเราจะกินก็เอามานึ่งให้ร้อน ๆ อีกครั้ง ก็อร่อยเหมือนกับทำใหม่ ๆ เลยละค่ะ และสำหรับเพื่อน ๆ ชาวครัวที่หาใบตองไม่ได้ นกแนะนำให้ใช้กระดาษรองอบห่อแล้วนำไปนึ่งก็ได้เช่นกันค่ะ***



ผัดมะระหวานหมูแดง

มะระหวาน หรือฟักแม้ว ที่หลาย ๆคนรู้จักกัน นำไปต้ม แกง หรือผัดก็อร่อยทั้งนั้น นกเห็นเพื่อนชาวครัวส่วนมากจะนำมะระหวานมาผัดกับไข่ แต่วันนี้นกเปลี่ยนจากไข่เป็นหมูแดงเหลือจากเมื่อวาน ตอนแรกคิดว่าจะใช้มะระหวานแกง แต่นึกขึ้นได้ว่ามีน้ำพริกกะปิอยู่ในกระปุก รอคอยอยู่เลยเปลี่ยนใจจากแกงมาเป็นผัด ถ้ามีไข่ คงผัดกับไข่ แต่ไม่มี เอาไปทำขนมดหมด เลยต้องผัดกับหมูแดงอย่างที่เห็นนี้ละค่ะ



ส่วนผสม
มะระหวาน 1 ลูก
หมูแดงหั่นชิ้น 200-250 ขีด
น้ำมันหอย 1 ชต
กระเทียมสับ 3 กลีบ
ซีอิ้วขาว 1 ชต
พริกไทยป่น นิดหน่อย
น้ำตาลทราย ตามชอบ

วิธีทำ
1.ล้างมะระหวาน หั่นเป็นซอยเป็นชิ้นบาง ๆ พอคำ (เปลือกมะระหวานจะปอกหรือไม่ปอก ได้ทั้งนั้นแล้วแต่ชอบนะค่ะ)
2. เปิดไฟในเตาใช้ไฟกลาง ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันและกระเทียมสับลงไป ผัดจนกระทั้งกระเทียมสับหอม
3. ใ่ส่มะระหวานลงไปผัดจนกระทั้งมะระนิ่ม ใส่หมูแดงลงไปผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ พอมะระสุก ปิดไฟในเตาตักใส่จาน โรยพริกไทยป่นเล็กน้อยเพิ่มความหอม จากนั้นยกเสริฟได้เลย

แกงส้มหน่อไม้ดอง

วันไหนคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรกินดี นกมักจะจบที่แกงส้มทุกครั้งไป สำหรับนกแกงส้มกินทุกวันไม่เบื่อเลย ยิ่งอุ่นยิ่งเข้าเนื้อ รสชาติเข้มข้น อย่างวันนี้แกงส้มหน่อไม้ดอง คิดไม่ตกว่าจะแกงกับกุ้งหรือปลา ตัดใจไม่ได้ใส่ทั้งสองอย่างเลยง่ายดี พริกแกงส้้มเป็นพริกแกงส้มแบบปักษ์ใต้แท้ ๆ โขลกเองกับมือ นกไม่ได้เขียนสูตรน้ำพริกแกงส้มเอาไว้ หากเพื่อน ๆสนใจ แวะอ่านได้ที่ห้องครัวต้มแกง ดูที่แกงส้มมะม่วงกับกุ้ง จะมีสูตรเครื่องแกงส้มบอกเอาไว้แล้วนะค่ะ



ส่วนผสม
กุ้งสด 250 กรัม
หน่อไม้ดอง 300 กรัม
ปลาสด 1 ตัว
น้ำพริกแกงส้ม 2 ชต
น้ำมะขามเปียก ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำตาลปิ๊ป ตามชอบ
น้ำเปล่า ตามชอบ

วิธีทำ
1. นำกุ้งมาแกะเปลือกออก ผ่าหลัง ดึงเส้นดำออก ปลาหั่นเป็นท่อน ๆ ล้างน้ำให้สะอาด สะเด็ดน้ำพักไว้
2. เปิดเตา่ในเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อพอประมาณ รอจนกระทั้งน้ำเดือด ใส่หน่อไม้ดองลงไปต้มประมาณ 10-15 นาที เทน้ำต้มหน่อไม้ทิ้ง จากนั้นเปิดน้ำล้างอีกที บีปน้ำออกจากหน่อไม้ให้หมดพักไว้
3.ใส่น้ำเปล่าในหม้อ รอจนน้ำเดือดก็ใส่น้ำพริกแกงส้มลงไปแล้วคนให้น้ำพริกละลาย น้ำแกงเดือดอีกครั้งใส่ปลาที่หั่นไว้ใลงไป (ห้ามคนน้ำแกง) รอจนน้ำแกงเดือด ใส่หน่อไม้ดองลงไป
4. น้ำแกงเดือดอีกรอบ ใส่น้ำปลา น้ำตาลปี๊ป น้ำมะขามเปียก ชิมรสตามชอบ เคี่ยวต่อประมาณ 20-25 นาที จนหน่อไม้สุกได้ที่ ใส่กุ้งสดลงไปคนให้เข้ากัน พอกุ้งสุกปิดไฟในเตาตักใส่ถ้วยยกเสริฟได้เลย

หมูนึ่งไข่เค็ม

อยู่เมืองไทยเวลาไปกินร้านข้าวต้มมักจะเห็นเมนูนี้วางขายเป็นเมนูเครื่องเคียงข้าวต้มอยู่บ่อยๆ ตอนอยู่เมืองไทยที่บ้านมักจะทำกินอยู่บ่อย กินคู่กับข้าวสวยก็อร่อยเช่นเดียวกัน เมนูนี้บ้านไหนมีเด็ก ๆ นกแนะนำให้ทำนะค่ะ บอกได้เลยว่าต้องถูกใจ ถูกปากแน่นนอนค่ะ เห็นจากน้องสาวทำให้หลายชายกิน หลายชายนี้ชมไม่หยุดปากเลยค่ะ แต่จะบอกว่าถูกใจเฉพาะเด็กเห็นจะไม่ได้ เพราะผู้่ใหญ่อย่างเราๆ ก็ชื่นชอบไม่แพ้กัน วิธีการปรุงง่ายๆ เครื่องปรุงไม่มาก ใช้เวลาไม่นาน ยิ่งนกมาอยู่ต่างแดนไข่เค็มจะดองเอง เลยทำมีโอกาสได้ทำเป็นประจำ ประมาณว่าเดือนละครั้งก็ว่าได้ค่ะ



ส่วนผสม
เนื้อหมูบด 500 กรัม
ไข่เค็ม 3 ฟอง
พริกไทย 1 ชช
กระเทียม 5-6 กลีบ
รากผักชี 2 ราก
เกลือป่น 1/2 ชช
ซีอิ้วขาว 1 ชช
น้ำตาลทราย ตามชอบ

วิธีทำ
1.โขลก พริกไทย กระเทียม รากผักชี และเกลือ จนกระทั้งละเีอียด นำมาคลุกกับหมูสับ ให้ส่วนผสมเข้าด้วยกัน
2. ปั่นหมูให้เป็นก้อนกลม ๆ ขนาดตามชอบ จากนั้นกดให้แบนเล็กน้อย วางในภาชนะสำหรับนึ่ง
3. ตอกไข่เค็ม แยกไข่ขาว ไข่แดงออกจากกัน ใช้เฉพาะไำข่แดง นำไข่แดงที่ได้ผ่าแบ่งครึ่งวางบนหมูก้อนจนครบ จากนั้นนำไปนึ่งให้สุก ยกเสริฟได้เลย

***ถ้าต้องการให้หมูมีรสหวานนิดหน่อยให้เพิ่มน้ำตาลลงไป หากไม่แน่นใจว่าหมูที่จะนำไปนึ่งมีรสชาติอย่างไร ให้หยิบหมูมาสักก้อนเล็ก ๆ เอาเข้าไมโครเวป อุ่นให้สุก ชิมรส หมูนึ่งไข่เค็มส่วนใหญ่เวลาทำ นกจะไม่ทำน้ำราด เพราะน้ำจากหมูจะออกมาอยู่แล้ว แต่ถ้าเพื่่อน ๆ ต้องการทำน้ำราดเหมือนน้ำราดหน้าก็ได้เช่นกันค่ะ แต่ต้องลดความเค็มของหมูก้อนลง เพราะน้ำราดก็มีความเค็มอยู่เช่นกัน ขั้นตอนการทำ คือผัดกระเทียมสับให้พอหอม ใส่หมูบดลงไปผัดให้เข้ากันเติมน้ำตาลทราย ซีอิ้วขาว น้ำปลา น้ำซุป ผักให้เข้ากันจนเดือด จากนั้นละลายแป้งมันใส่ลงไป คนให้เข้ากันชิมรสตามชอบ โรยหอมผักชีนิดหน่อยคนตักราดบนหมูนึ่งได้เลยค่ะ***

Sausage Pasta Bake /มะกะโรนีอบ

วันนี้นกเปลี่ยนบรรยากาศเป็นเมนูอาหารอิตาเลียนกันบ้าง ที่บ้านจะทำเมนูอาหารไทย กับเมนูิอาหารฝรั่งสลับกัน จริง ๆ แล้วแฟนคลับไม่มีปัญหารเรื่องอาหาร เค้าชื่นชอบทานอาหารไทย เลยไม่ได้ทำให้นกลำบากใจแต่อย่างใด แต่นกรู้สึกเกรงใจว่า เค้าเคยกินอาหารฝรั่งอยู่มาเปลี่ยนให้กินอาหารไทย ต้องมีบ้างที่คิืดถึงอาหารของเค้าเอง อย่างนกก็เป็นกินอาหารฝรั่งทุกวันก็ไม่ไหวค่ะ พาสต้าอบชีส จานนี้ไม่ยากเท่าไรค่ะ ส่วนผสมก็มีไม่เยอะ ใช้เวลาทำไม่นาน ช่วงนี้หน้าหนาวส่วนใหญ่มักจะทำอาหารประเภท comfort food กินร้อน ๆ ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น พาสต้าเองก็ถือเป็นเมนูประเภท comfort food เมนูหนึ่งเช่นกันค่ะ



ส่วนผสม
ไส้กรอกหมูทอดสุกหั่นเป็นชิ้นพอคำ(Pork Sausages) 250 กรัม
Tricolor Fusilli (พาสต้าเกลียว) ต้มพอสุก 250 กรัม
Tomato purée 2 ชช
กระเทียมสับ 4 กลีบ
มะเขือเทศสับละเอียด 2 กป
น้ำมันมะกอก 2 ชต
ใบโหระพาฝรั่ง (Sweet Basil) เด็ดใบ 1 ถ้วย
หัวหอมหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก 1 หัว
น้ำตาล ตามชอบ
เกลือ ตามชอบ
พริกไทยป่น ตามชอบ
Cheddar Cheese ขูด 100 กรัม
Parmesan Cheese ขูด 50 กรัม

วิธีทำ
1. เปิดเตาอบที่อุุณหภูมิ 180°C
2. เปิดไฟในเตาใช้ไฟกลาง ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมัน ใส่กระเทียม และหอมลงผักให้พอหอม จากนั้นใส่ไส้กรอกลงผัดต่อ ให้ไส้กรอก หอม กระเทียมเข้ากัน
3. ใส่มะเขือเทศสับ น้ำตาล เกลือ ชิมรสตามชอบ ต้มให้ิเดือดประมาณ 10-15 นาที
4. ใส่พาสต้า และใบโหระพาฝรั่งลงไปคลุกให้เข้ากันตักใส่ภาชนะสำหรับอบ โรยหน้าด้วย Cheddar Cheese และ Parmesan Cheese จากนั้นเอาเข้าเตาอบ ใช้เวลาในการอบประมาณ 20 นาที แล้วแต่เตาอบของแต่ละบ้าน หรืออบจนกระทั้ง Cheese ละลายเหลืองสุกสวย ตักใส่จานยกเสริฟได้เลยค่ะ

***สำหรับเส้นพาสต้าจะเปลี่ยนเป็นเส้นพาสต้าชนิดแล้วแต่จะชอบ แต่ต้องเป็นแบบ Short pasta นะค่ะ***





แกงส้มกระดูกหมูผักกวางตุ้ง


ส่วนผสม
ผักกวางตุ้ง 250 กรัม
กุระดูกอ่อนหมู 450 กรัม
น้ำพริกแกงส้ม 2 ชต
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำมะขามเปียก ตามชอบ
น้ำตาลปี๊บ ตามชอบ
น้ำเปล่า

ิวิธีทำ
1. ล้างกระดูกหมูให้สะอาด หั่นเป็นท่อน ๆ พอคำพักไว้
2. ผักกวางตุ้ง นำมาหั่นเป็นท่อนๆ ล้างให้สะอดาพักไว้
3. เปิดเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ใส่น้ำลงในหม้อพอประมาณ รอจนน้ำเดือด ใส่กระดูกหมูลงไปต้ม ค่อย ๆ ช้อนฟองทิ้ง
4. ต้มจนกระดูกหมูเปื่อยได้ที่ จากนั้นใส่เครื่องแกงส้มลงไป คนให้เครื่องแกงละลายให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล และน้ำมะขามเปียก ชิมรสตามชอบ
5. น้ำแกงเดือดอีกครั้งใส่ผักกวางตุ้งลงไป คนให้เข้ากัน พอผักสุก ปิดไฟในเตาตักใส่ถ้วยยกเสริฟได้เลยค่ะ



น้ำพริกปลาย่าง

นกชอบน้ำพริกปลาย่าง แต่ไม่มีแม่ครัวคนไหนทำรสชาติได้เหมือนกับแม่เลย พอมาอยู่ต่างแดนนึกอยากกินอยู่นานแล้วแต่ไม่ได้ฤกษ์ลงมือทำเสียทีเหตุเพราะต้องย่างปลาเอง กลัวว่าจะย่างไม่ได้อย่างที่มีขายในตลาด หรือย่างไม่ได้อย่างที่แม่ทำ เมื่อวานไปชุปเปอร์ฯ เห็นเค้าลดราคาครึ่งราคา ไม่แพงเลยซื้อมาเยอะเลย แบ่งส่วนไว้แกงกับทอด ยังเหลืออีกส่วนหนึ่ง ลองดูทำน้ำพริกปลาย่างดูสักครั้ง โทรถามสูตรจากแม่ โอโห้ทำไม่มันยุ่งยากขนาดนี้ แค่ย่างปลา แม่บอกว่า นกลูกต้องย่างปลาให้แห้งกรอบเลยนะ แล้วปลาที่ลูกซื้อมานะตัวเล็กตัวใหญ่ ถ้าตัวใหญ่ก็ต้องย่างนาน ๆ เอาละซิ นี้ถ้าอยู่เมืองไทยปลาย่างหาซื้อง่ายไม่ต้องมาย่างให้มันยุ่งยาก แต่ด้วยความอยากถึงอย่างไรก็ต้องให้ได้ ดีนะเนี้ยปลาที่ซื้อมาเนื้อไม่หนามาก ย่างไม่นานเท่าไร ย่างจนแห้งกรอบ วิธีการย่าง แม่บอกว่าอย่าใช้ไฟแรงเดี๋ยวปลาจะไห้มก่อนมันจะแห้ง กว่าจะได้น้ำพริกปลาย่างรสมือเหมือนกับแม่ทำ เล่นเอาลูกสาวแม่เหนื่อยไปเลยค่ะ แต่มันก็คุ้มค่า นกได้น้ำพริกปลาย่างกระปุกใหญ่เก็บแช่เย็นไว้กินหลายมือเลยที่เดียว



ส่วนผสม
ปลาย่าง 2 ตัว
พริกแห้ง 15 ดอก
หัวหอมแดง 4-5 หัว
กระเทียม 7-8 กลีบ
เกลือ 1 ชต
น้ำตาลตามชอบ
มะม่วงดิบขนาดใหญ่ื 1 ลูก
น้ำมะขามเปียก ตามชอบ

วิธีทำ
1. นำปลาย่างมาโขลก หรือปั่นให้ละเอียด พักไว้
2. หอมแดง กระเทียม ปอกเปลือก หั่นเป็นเล็ก ๆ ไปคั่ว กับพริกแห้งจนกระทั้งหอมพักให้เย็น (นกจะคั่วพริกก่อนนิดหน่อยจากนั้นถึงจะใส่หอม และกระเทียมลงไปคั่วด้วยกัน)
3. มะม่วงปอกเปลือก ล้างแล้วสับให้ละเอียดเป็นเส้น ๆ
4. หอม กระเทียม พริกเย็นได้ที่นำมาโขลก หรือปั่นร่วมกันปลาป่น และเกลือ ปั่นจนส่วนผสมละเอียดเข้ากันจนหมด ใส่มะม่วงดิบลงไปโขลกพอหยาบ ๆ ชิมรสตามชอบ หากมะม่วงเปรี้ยไม่เพียงพอ เติมน้ำมะขามเปียกลงไป โขลก ให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่ถ้วยเสริฟคู่กับผักสดได้เลยค่ะ

แกงป่าปลากระป๋อง


ส่วนผสม
น้ำพริกแกงป่าสำเร็จรูป 2 ชต
ปลากระป๋อง 2 กระป๋อง
ถั่วฝักยาว 100 กรัม
ข่า 7-8 แว่น
ตะไคร้ 1 ต้น
กระชาย 4 แง่ง
พริกชี้ฟ้า 1 เม็ด
ใบกะเพาะเด็ดใบ 1 กิ่ง
พริกไทยอ่อน ตามชอบ (ถ้ามี)
พริกขี้หนูสด ตามชอบ
น้ำปลา 2 ชต
น้ำตาลทราย 2 ชช
น้ำเปล่า

วิธีทำ
1.ล้างตะไคร้และข่าให้สะอาด ตะไคร้มาซอยหยาบๆ ข่าก็ปลอกเปลือกแล้วหั่นเป็นแว่นๆ จากนั้นนำไปโขลกให้ละเอียด ใส่น้ำพริกแกงป่าลงไป โขลกให้ตะไคร้และข่าเข้ากันกับน้ำพริก
2. ล้างถั่วฝักยาว ข้าวโพดอ่อนให้สะอาดหั่นเป็นท่อนๆ พริกชี้ฟ้ามาหั่นเฉียงๆ ส่วนกระชายก็นำมาซอยกระชายเป็นเส้นๆ พักไว้
3.เปิดเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง นำน้ำเปล่า 1 ถ้วยใส่ในหม้อรอจนน้ำเดือดจึงนำน้ำพริกแกงที่โขลกไว้มาใส่ลงไป คนให้น้ำพริกแกงละลายจนทั่ว เมื่อน้ำแกงเดือดแล้วจึงนำไก่ที่หั่นไว้ใส่ลงไป
4.เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ รอจนกระทั้งน้ำเดือด นำพริกแกงที่โขลกใส่ลงไป คนให้น้ำพริกแกงละลายจนทั่ว เมื่อน้ำแกงเดือดแล้วใส่ถั่วฝักยาวที่หั่นไว้ใส่ลงไป
5.เมื่อน้ำแกงเดือดอีกครั้ง ใส่ข้าวโพดอ่อนลงไป คนให้ทั่วแล้วปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลทราย คนให้เครื่องปรุงทั้งหมดเข้ากัน ชิมรสตามชอบ
6.เคี่ยวแกงไปประมาณ 10 นาที จากนั้นใส่พริกชี้ฟ้าที่หั่นไว้ กระชายซอย ใบกะเพรา และพริกไทยอ่อน ใส่ลงไป คนให้เครื่องทุกอย่างเข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟในเตาตักใส่ถ้วยยกเสริฟได้เลยค่ะ

***ว้ันนี้นกไม่ได้โขลกพริกแกงเอง ใช้พริกแกงสำเร็จรูป เลยต้องเพิ่มตะไคร้ กับข่าลงไปอีกนิดหน่อย ช่วยเพิ่มรสชาติให้น้ำแกงนะค่ะ เพราะพริกแกงสำเร็จรูปนกว่ารสมันเบา ๆ บอกไม่ถูก ส่วนผักที่ใส่ในแกงป่าแล้วแต่จะชอบกันนะค่ะ ***

กระดูกหมูพะโล้

ไข่นกกระทาที่นี้แพงน่าดู เคยเห็นที่เค้าแพ็คขาย 8 ฟอง คิดเป็นเงินไทยประมาณ 100 กว่าบาท นกไม่เคยซื้อหรอกค่ะ ได้แต่มองๆ อดใจไว้เวลากลับเมืองไทยค่อยซื้อกิน ส่วนใหญ่เวลาทำพะโล้ก็ใช้ไข่ไก่ทำ วันนี้โชคดีมาก ๆ เพื่อนฝรั่งโทรถามว่าทานไข่นกกระทาหรือเปล่า นกตอบว่ากินซิ ของชอบด้วยนะ คุณเธอเลยบอกว่านั้นฉันจะเอาไข่นกกระทามาให้เธอนะ สักพักเพื่อนมาพร้อมด้วยไข่นกกระทาใส่ถุงกระดาษใบย่อม ๆ มาให้ คุณเธอบอกว่าเค้าไม่กิน เพื่อนสามีเอามาให้สามีอีกที คุณเธอเลยนึกถึงนกหวังว่านกคงใช้ประโยชน์ แหมน่ารักจริง ๆ ที่นึกถึงฉัน ขอบคุณเพื่อนมากๆ เลยจ้า



ส่วนผสม
กระดูกหมู 500 กรัม
ไข่นกกระทา 15 ฟอง
เต้าหู้ทอด ตามชอบ (นกใช้ประมาณ 300 กรัม)
ซีอิ้วขาว 3 ชต
ซีอิ้วดำ 1 ชต
รากผักชี 3 ต้น
น้ำตาลปี๊ป 5 ชต
ผงพะโล้ 1 ชช
กระเทียม 3 กลีบ
หอมแดง 2 หัว
เกลือ 1 ชช
พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 4 ถ้วย

วิธีทำ
1. ล้างกระดูกหมูให้สะอาดพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นต้มน้ำในหม้อ รอจนน้ำเดือด ใส่ไข่ลงไปต้มจนสุก นำไข่ออกมาปอกเปลือกเตรียมไว้
2.โขลก หอม กระเทียม พริกไทย รากผักชี และเกลือ ให้ละเอียดเข้ากัน
3.เปิดเตาที่ไฟปานกลาง เอาน้ำมันใส่หม้อ รอจนน้ำมันเริ่มร้อน นำกระเทียมและพริกไทย รากผักชีที่โขลกไว้ใส่ลงไปผัดให้หอม จากนั้นใส่กระดูกหมูลงไปผัดต่อจนกระทั้งสุก
4. ใส่ผงพะโล้ ซีอิ้วดำ น้ำตาลปี๊ป ผัดให้เครื่องทั้งหมดเข้ากัน ใส่ไข่นกกระทา เติมน้ำเปล่าลงไป รอจนน้ำแกงเริ่มเดือดจึงใส่ซีอิ้วขาว ลดไฟลงเหลือไฟอ่อน และเคี่ยวไปประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ชิมรสตามชอบ
5.ใส่เต้าหู้ทอดและเคี่ยวต่อไปอีก1 ชั่วโมง ปิดไฟในเตาเตาตักใส่ถ้วยเสริฟได้เลยค่ะ

***พะโล้ที่บ้านจะเคี่ยวนาน เพราะอยากให้เครื่องปรุงเข้าเนื้อ ยิ่งวันที่สอง พะโล้ยิ่งได้ที่อร่อยสุด ๆ ที่บ้านเวลาทำพะโล้ แฟนคลับชอบกินคู่กับก๋วยเตียว ส่วนนกชอบกินคู่กับข้าวสวย ตามด้วยน้ำพริกผักจิ้ม งานนี้เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมค่ะ ***

ผัดเผ็ดหมูกรอบ


ส่วนผสม
หมูกรอบหั่นชิ้นพอคำ 300 กรัม
ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อนๆ 8-10 ฝัก
น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ชต
หัวกระทิ 3/4ถ้วย
ใบโหระพา ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำตาลทราย ตามชอบ
ใบมะกรูดฉีก ตามชอบ

วิธีทำ
1. ตั้งกระทะบนเตาใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันลงไป พอเริ่มร้อน ใส่น้ำพริกแกงเผ็ด ผัดพอหอม จากนั้นตักกระทิประมาณ 3 ชต ลงไปผัดให้เข้ากับเครื่องแกงจนกระทิแตกมัน
2.ใส่หมูกรอบ ผัดพอทั่ว ใส่ถั่วฝักยาว ผัดให้เข้ากัน เร่งเป็นไฟแรง เติมน้ำกระทิส่วนที่เหลือลลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาล ชิมรสตามชอบ จากนั้น ใส่ใบมะกรูด พริกชี้ฟ้าแดง ผัดให้ทั่ว ก่อนปิดไฟในเตาใส่ใบโหระพาลงไปผัดสองสามครั้ง ตักใส่จานยกเสริฟได้เลยค่ะ

***น้ำกระทิใส่มากน้ัอย แล้วแต่ชอบ เพราะบางคนชอบน้ำแกงมัน ๆ ขลุกขลิก ก็ได้เช่นกัน อย่างผัดเผ็ดรวมมิตรทะเลที่เห็น นกทำแบบน้ำแกงขลุกขลิก เพียงแต่ลดกระทิลงเป็น 1/2 ถ้วยนะค่ะ ส่วนผสมอย่างอื่นเหมือนเดิมค่ะ***


ผัดวุ้นเส้นกุ้งสด

เมนูผัดวุ้นเส้น เมนูธรรมดาๆ ที่ต้องใช้เวลารอคอยที่นานแสนนาน ถ้าจะพูดไปเมนูนี้วุ้นเส้นส่วนผสมหลัก ปกตินกจะสั่งของทางอินเตอร์เน็ต เวลาของใก้ลจะหมดก็สั่ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้สั่งค่ะ เพราะแฟนจะพาไปซื้อที่ร้านขายของเอเซียที่เพื่อนเค้าแนะนำมา เลยทำให้ นกต้องคอยอยู่หลายเดือนเลยที่เดียวเพราะต้องคอยแฟนคลับว่างพาไปซื้อ เพื่อนเค้าลอกว่าร้านใหญ่เลยที่เดียว แต่ต้องใช้เวลาในการเดินทางประมาณ สองชั่วโมงกว่า ๆ ไปกลับรวมกันก็เกือบ ๆ 5 ชั่วโมงเห็นจะได้ ดังนั้นต้องคอยแฟนคลับหยุดพักผ่อนอย่างเดียว หลังจากแฟนคลับหาวันหยุดพักผ่อนได้แล้ว นกก็เริ่มจดรายการของที่ต้องการจะซื้อ กะว่าไปครั้งนี้ ก็ไปจะไปตรวจสอบราคาสินค้าที่ชอบซื้อบ่อยๆ ถ้าราคาดีกว่าทางอินเตอร์เน็ตก็จะซื้อเก็บตุนไว้เลย และหากถูกกว่านกคงยกเลิกสั่งของทางอินเตอร์เน็ตเสียเลย จนกระทั้งถึงวันที่ไปซื้อของที่ร้าน โอโห้ของเยอะจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น จีัน อินเดีย เวียดนาม ไทย ลาว มีหมด นกหยิบใส่รถเข็นเพลินไปเลยค่ะ หลังจากซื้อของจ่ายเงินเสร็จ นกกับแฟนคลับคุยกันว่าเราจะกลับมาซื้อของที่ร้านนี้อีก เพราะมีเยอะกว่าที่ร้านทางอินเตอร์เน็ต แถมราคาก็ถูกกว่า




ส่วนผสม
วุ้นเส้นกำเล็ก 2 กำ
กุ้งสดแกะเปลือกผ่าหลัง 250 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง
ผักกาดขาว 7-8 ก้าน
ข้าวโพดอ่อน 200 กรัม
หัวหอมใหญ่ ½ หัว
ต้นหอม 2-3 ต้น
มะเขือเทศสีดา 5-6 ลูก
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง ตามชอบ (นกใช้ 1 ดอก)
ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา
น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
พริกไทยป่น ½ ช้อนชา
น้ำมันสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า นิดหน่อย

วิธีทำ
1. นำวุ้นเส้นมาแช่น้ำให้นิ่ม เมื่อนิ่มแล้ว ตัดวุ้นเส้นให้ได้ความยาวตามชอบ
2. ปลอกเปลือกหัวหอมใหญ่ หั่นหั่นเป็นแว่นบางๆ หั่นผักกาดขาว ข้าวโพดอ่อน เป็นชิ้นๆ พอคำ ต้นหอมหั่นเป็นท่อน ๆ ส่วนมะเขือเทศสีดาหั่นแบ่งเป็น 4 ส่วน
3. เปิดเตาในเตาใช้ไฟปานกลางค่อนแรง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อน ให้นำหัวหอมใหญ่ที่หั่นไว้ลงไปผัดจนหอม ใส่กุ้งลงไป ผัดจนกุ้งเริ่มสุกไข่ขาวลงผัด รวมกับกุ้ง พอไข่เริ่มสุก ใส่ข้าวโพดอ่อน ผักกาดขาวลงไป จากนั้นเริ่มใส่เครื่องปรุงรส ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย และน้ำตาลทรายลงไป
4. ผัดเครื่องทั้งหมดให้เข้ากัน ใส่วุ้นเส้น และน้ำเปล่าลงบนวุ้นเส้นกะประมาณพอให้วุ้นเส้นนิ่ม จากนั้นนำมะเขือเทศที่หั่นไว้ใส่ลงไป ผัดให้เครื่องทั้งหมดเข้ากัน ก่อนปิดเตา ใส่พริกชี้ฟ้าแดง ต้นหอมลงไป คลุกให้ทั่ว ปิดไฟในเตาตักใส่จาน โรยพริกไทยป่นให้ทั่ว ยกเสิรฟได้เลยค่ะ

***นี้ถ้าได้ใส่ใบคื่นฉ่าย อีกสักหน่อย อร่อยครบสูตรเลยที่เดียวค่ะ***

ปลาอบ

เวลาทำปลาอบที่บ้านนกจะทำสูตรลูกครึ่งไทยฝรั่งค่ะ นกทำครั้งแรกให้ แฟนคลับชิม ชอบใจ ถูกใจสุด ๆ หลังจากนั้นก็ใช้สูตรนี้ทำมาเรื่อยๆ จนกระทั้งวันหนึ่งเห็นเชฟชื่อดังของอังกฤษทำเมนูปลาอบหน้าตาคล้าย ๆ กัน แถมส่วนผสมพื้นฐานก็คล้าย ๆ กัน มีแตกต่างกันนิดหน่อยตรงเนื้อปลาที่ใช้ เพิ่มผักชีสับลงไป และเค้าไม่ได้ใส่ซีอิ้วขาวเท่านั้นเอง



ส่วนผสม

ปลาซาบะขนาดใหญ่ 2 ตัว
กระเทียม 8-10 กลีบ
ขิง 1 แง่ง
พริกขี้หนูสด ตามชอบ ( นกใช้ประมาณ 10 ดอก)
รากผักชีตีแตก 4 ราก
มะนาว 1 ลูก
น้ำมันมะกอก ตามชอบ
เกลือ ตามชอบ

วิธีทำ
1.ล้างปลาให้สะอาด เอาเหงือก พุงปลา ไส้ปลาออกให้หมดนะคะ พักไว้
2.โขลกหรือสับ กระเทียม ขิง พริกขี้หนู ให้ละเอียดตามชอบ จากนั้นนำมาผสมกลับเกลือ (นกไม่ได้สับจะโขลกรวมกับเกลือ ส่วนใหญ่จะโขลกเอาพอหยาบ ๆ นะค่ะ)
3.นำปลามาวางบนฟอล์ยสำหรับอบ นำปลามาวาง เอาเครื่องปรุงยัดใส่ตัวปลา เหงือก และคลุกเค้าให้ทั่วตัวปลา ปีบมะนาวและเหยาะซีอิ้วขาวลงบนตัวปลา (ซีอิ้วขาว พยายามเหยาะให้ทั่ว ๆ ตัวปลา) ราดด้วยน้ำมันมะกอก จากนั้นห่อฟอล์ให้สนิท
4.นำเข้าเตาอบ ที่อุณหภูมิ 190 C ประมาณ 20-25 นาที่ อยู่ที่น้ำหนักของปลา (ปลาขนาด 500 กรัม ใช้เวลาประมาณ 25 นาที) เท่านี้ก็ได้ปลาอบ เสริฟคู่กับผักต้ม หรือจะเป็นข้าวสวยตามสไตล์คนไทยได้เลยค่ะ

*** นกใส่ซีอิ้วขาวเพิ่มความหมอบนตัวปลานิดหน่อย หากเพื่อน ๆ ชอบซีอิ้วขาว ให้ลดเกลือลงหน่อยนะค่ะ เดี๋ยวจะเค็มไปนะค่ะ ส่วนปลาที่นกใช้วันนี้เป็นปลาซาบะ ซึ่งเป็นปลาซาบะที่เราไปตกกันเอง แฟนคลับเป็นคนตก นกไปช่วยเชียร์ค่ะ ตกแล้วเอากลับบ้าน เอาพุงปลาออกไว้ดอง ล้างตัวปลาให้สะอาด ซับให้แห้ง หากไม่ทำอาหารในวันนั้น ก็แช่แข็งไว้ทำอาหารในวันต่อไปได้เลบค่ะ แต่หากเพื่อนๆ ไม่ชอบปลาซาบะ ใช้ปลาอื่นตามชอบได้เลยนะค่ะ ***


ไก่ทอดเคเอฟซี (สูตรบ้านนก)

หลายๆ คนมักสงสัยเวลาไปทานไก่ทอดเคเอฟซีว่าเค้าทำกันอย่างไร ไก่ทอดเค้าใส่อะไร มีอะไรบ้าง มีคนทำอาหารหลายๆ คนให้ความสนใจคิดสูตรโน่นนี้ให้ได้รสชาติที่ใก้ลเคียงมากที่สุด ดังนั้นสูตรจึงมีให้เห็นกันมากมาย นกเองก็เช่นกัน กินแล้วคิดว่าเค้าใส่อะไรบ้างถึงมีรสชาติ สีสรรอย่างนี้ เค็มนิด ออกรสเผ็ดหน่อย ๆ หอมพริกไทย จากนั้นก็ลอง ๆมาทำดู ทำอยู่หลายรอบจนได้สูตรไก่ทอดเคเอฟซี (บ้านนก) อย่างที่เห็นนี้ละค่ะ



ส่วนผสม
เนื้อไก่ตามชอบ (วันนี้นกใช้ปีกไก่ประมาณ 500 กรัม)
เกลือ 2 ชต (แบ่งออกเป็นสองส่วนเท่าๆ กัน)
นมสดรสจืด 1/4 ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย
พริกปาปิก้าป่น 2 ชช
พริกไทยป่น ตามชอบ ( นกใช้ประมาณ 2 ชช)
น้ำเปล่า 1 ส่วน (สำหรับแช่ไก่)
น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ
1.ล้างไก่ให้สะอาด นำน้ำผสมกับเกลือ 1 ชต เป็นน้ำเกลือใช้สำหรับแช่ไก่ แช่ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง (เพื่อให้ความเค็มซึมเข้าเนื้อไก่ ทำให้เนื้อไก่มีรสชาติเพิ่มขึ้น)
2. ผสมแป้งสาลี พริกปาปิก้า พริกไทยป่น เกลือส่วนที่เหลือ คลุกเค้าส่วนผสมให้เข้ากัน
3. ตีไข่ไก่ให้แตก ใส่นมลงไปผสมให้เข้ากันพักไว้
4. เตรียมหม้อสำหรับทอดไก่ น้ำมันจะต้องใส่ให้ท่วมไก่ที่เราต้องการจะทอด (นกใช้หม้อทอดไฟฟ้าปรับอุณหภูมิที่ 180 C
5.เมื่อครบกำหนดแช่ไก่เรียบร้อยแล้วนำไก่ขึ้นมาซับน้ำให้แห้งสนิท เอาไก่คลุกกับแป้งที่ผสมไว้ แล้วเคาะแป้งออก ให้แป้งติดบาง ๆ แล้วเอามาชุบในส่วนผสมไข่กับนมให้ทั่ว จากนั้นเอากลับมาชุบกับแป้ง ตัวเดิมไม่ต้องเคาะออก ชุบให้หนา ๆ ได้เลย
6. นำไปทอดให้สุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมัน เป็นอันเสร็จ ยกเสริฟไก่ทอดเคเอฟซี ฉบับบ้านนกค่ะ

***หากเพื่อนคนใดชอบปรุงอาหารด้วยผงปรุงรส สามารถเพิ่มรสชาติให้ไก่ของเราได้เช่นกัน โดยเติมผงผงปรุงรสในแป้งมีผงปรุงรสจะเพิ่มรสชาติให้ไก่ทอดเคเอฟซีได้อีกอย่างหนึ่งเช่นกันค่ะ และหากไม่ใช้หม้อทอดไฟฟ้า สามารถใช้กระทะ หรือหม้อใส่น้ำมันตั้งบนเตาใช้ไฟกลาง ก็ได้เช่นกันค่ะ***

แกงส้มปลาทอดผักรวม

นกส่งเมนูแกงส้มติด ๆ กันเลย จริงๆ แล้ว แกงส้มปลาทอดนั้นทำนานแล้ว แต่ไม่ได้ลงสูตรในครัว วันนี้นกมีเวลาว่่างเลยลงสูตรให้เพื่อนชาวครัวได้ชิมได้ชมกัน ช่วงนี้อากาศหนาว แกงส้มเผ็ด ๆ เปรี้ยว ๆ ร้อน คงช่วยให้ร่างกายอบอุ่นได้เยอะเลย เพื่อน ๆ ว่าอย่างนั้นไม่ค่ะ



ส่วนผสม
Cod Fish หั่นชิ้น 2 ตัว (ปลาหั่นชิ้นแล้วนำไปทอดในน้ำมันจนสุกเหลืองกรอบ)
พริกสด ตามชอบ (นกใช้ประมาณ 20-25 ดอก)

กระเทียม 4-5 กลีบ
หัวหอมแดง 2-3 หัว

แครอท 1 หัว

ผักกวางตุ้งฮ่องเต้ 2 ต้น

ผักกะหล่ำดอก 1/2 หัว
ขมิ้นผง 2 ชช
มะขามเปียก 1 ปั้น

กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ

เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

น้ำตาลปีบ ตามชอบ

น้ำปลา ตามชอบ

น้ำเปล่า 2 1/2 ถ้วย


วิธีทำ
1.ใส่พริกสด กระเทียม หอมแดง ขมิ้น เกลือ ใส่ครก โขลกให้เข้ากัน จากนั้นเอากะปิ น้ำตาลปีบ ลงไปโขลกให้เข้ากันอีกครั้ง

2. ล้างผักให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น ๆ พอคำ พักไว้

3.เอาหม้อใส่ ประมาณ 1/2 ถ้วยน้ำตั้งบนเตาใช้ไฟแรง พอน้ำเดือน เอาเครื่องแกงลงคน ๆ ให้เครื่องแกงกระจายตัวจนทั่ว จากนั้นเติมน้ำที่เหลืออีก 2 ถ้วยลงไปให้เข้ากัน
4.เอามะขามเปียกให้น้ำเล็กน้อยคั่นแล้วกรองเอาแต่น้ำ พอน้ำแกงเดือดใส่ผักที่สุกยากลงไปก่อน เติมน้ำมะขามเปียก น้ำปลา ปรุงรสให้ได้รสเปรี้ยว ๆ เค็มๆ หวานนิดหน่อย ชิมแล้วให้ได้สามรส

5. พอผักเริ่มสุก ใส่ผักที่สุกง่าย และปลาทอดลงไปพอเดือดปิดไฟในเตาตักใส่ชามยกเสริฟได้เลยค่ะ

***ปลาที่จะใช้ต้องหั่นล้างให้สะอาด คลุกด้วยเกลือป่นนิดหน่อย จากนั้นนำไปทอดในน้ำมันให้สุก***

แกงส้มผักรวมปลากระบอง


ส่วนผสม
ปลากระป๋อง 1 กระป๋อง
พริกสด ตามชอบ (นกใช้ประมาณ 20-25 ดอก)
กระเทียม 4-5 กลีบ
หัวหอมแดง 2-3 หัว
แครอท 2 หัว
กะหล่ำดอก 1/2 หัว
ผักกวางตุ้งฮ่องเต้ 2 ต้น
หัวไช้เท้า 1 ถ้วย
ขมิ้นผง 1 ชช
มะขามเปียก 1 ปั้น
กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
น้ำตาลปีบ ตามชอบ
น้ำปลาดี ตามชอบ
น้ำเปล่า 2 1/2 ถ้วย

วิธีทำ
1.ใส่พริกสด กระเทียม หอมแดง ขมิ้น เกลือ ใส่ครก โขลกให้เข้ากัน จากนั้นเอากะปิ น้ำตาลปีบ ลงไปโขลกให้เข้ากันอีกครั้ง
2. ล้างผักให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น ๆ พอคำ พักไว้
3.เอาหม้อใส่ ประมาณ 1/2 ถ้วยน้ำตั้งบนเตาใช้ไฟแรง พอน้ำเดือน เอาเครื่องแกงลงคน ๆ ให้เครื่องแกงกระจายตัวจนทั่ว จากนั้นเติมน้ำที่เหลืออีก 2 ถ้วยลงไปให้เข้ากัน
4.เอามะขามเปียกให้น้ำเล็กน้อยคั่นแล้วกรองเอาแต่น้ำ พอน้ำแกงเดือดใส่ผักที่สุกยากลงไปก่อน เติมน้ำมะขามเปียก น้ำปลา ปรุงรสให้ได้รสเปรี้ยว ๆ เค็มๆ หวานนิดหน่อย ชิมแล้วให้ได้สามรส
5. พอผักเริ่มสุก ใส่ผักที่สุกง่าย และปลากระป๋องลงไป (ใส่ทั้งเนื้อทั้งน้ำ ใส่ปลาแล้วห้ามคนแรง ๆ เพราะจะทำให้เนื้อปลาแตกกระจาย ) พอเดือดปิดไฟในเตาตักใส่ชามยกเสริฟคู่กับไข่เจียวร้อนได้เลยค่ะ

***ถ้าเพื่อนชาวครัวชอบน้ำแกงข้น ๆ ตำเครื่องแกงเสร็จแล้ว แบ่งปลากระป๋องสักส่วนลงไปตำรวมกับเครื่องแกงก็จะได้น้ำแกงข้น ๆ แล้วละค่ะ***


คาราเมล คัสตาร์ด (Caramel Custard )



ส่วนผสมคัสตาร์ด
นมสดรสจืด 2 ถ้วย
วานิลลา 1 ช้อนชา
ไข่ไก่ 4 ฟอง (ไข่แดงของไข่ไก่ 2 ฟอง ไข่ไก่ทั้งฟอง 2ฟอง)
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
วานิลา 1 ชช
เกลือป่นหยิบมือ

ส่วนผสมคาราเมล
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย

วิธีทำ
1. เปิดเตาอบให้ร้อนเตรียมไว้ที่ 190 c
2. ทำคัสตาร์ดโดยผสมนมจืดกับวานิลลา ตั้งไฟอ่อนๆ พอเดือดปุด ยกลงพักเอาไว้
3. ตีไข่ไก่กับน้ำตาลให้เข้ากัน ค่อยๆ เทส่วนผสมของไข่ลงไปในนม ขณะที่เทให้คนอยู่ตลอดเวลาพอไข่หมด ใส่เกลือ จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดกรองด้วยผ้าขาวบางเพื่อให้ได้เนื้อคัสตาร์ดที่ละเอียด
4.ทำคาราเมลเตรียมไว้โดยตวงน้ำตาล 1/2 ถ้วย ลงในกระทะเทล่อน ใช้ไฟอ่อน ค่อยละลายน้ำตาลจนหมดและมีสีน้ำตาลอ่อน คอยระวังอย่าให้ไหม้
5. ทาเนยให้ทั่วพิมพ์ ใส่คาราเมลลงไป กะประมาณมากน้อยตามชอบ จากนั้นเทเนื้อคัสตาร์ดที่กรองไว้แล้วลงในพิมพ์ วางพิมพ์ในถาดขอบสูง เทน้ำร้อนใส่ถาดให้มีระดับน้ำเท่ากับระดับส่วนผสมในพิมพ์
6. นำถาดไปตั้งไฟ พอเริ่มเดือดจึงนำถาดไปใส่เตาอบประมาณ 20-25 นาทีหรือจนสุก ยกออกจากเตา ทิ้งไว้ให้เย็นจึงนำเข้าตู้เย็น เวลาจะเสิรฟให้กรีดขอบด้านในพิมพ์ด้วยมีด จากนั้นนำจานคว่ำปิดลงบนพิมพ์ แล้วพลิกจานกลับให้หงายขึ้น เสริฟได้เลยค่ะ

***นกแช่คาราเมลคัสตาร์ด ข้ามคืน เพราะทำตอนเย็น ๆ จริงๆ แล้วแช่ตู้เย็นทิ้งไว้เย็น ๆ ประมาณ สองสามชั่วโมงก็ได้ชิมแล้วละค่ะ บางคนชอบคัสตาร์ดที่มีความเข้มข้นมาก อาจจะเพิ่มส่วนผสมของครีมลงไปก็ได้เช่นกัน โดยให้ส่วนผสมของครีมสามส่วน และนม หนึ่งส่วน เท่านี้ก็เพิ่มความเข้มข้นให้เนื้อคัสตาร์ดของเราแล้วละค่ะ ***


Samosa ( ซาโมซ่า)

ซาโมซ่า (Samosa) อาหารว่างของคนอินเดียว เป็นที่รู้กันว่าที่อังกฤษ อาหารอินเดียเป็นเมนูที่ขึ้นชื่อเลยที่เดียว แฟนคลับนกชื่นชอบอาหารอินเดียหลายอย่าง ทำให้นกต้องเรียนรู้เมนูอาหารอินเดียไปโดยปริยาย หลายเมนูๆ ไม่รู้จักไม่เคยกินมาก่อนก็ต้องดูจากตำราอาหารกันเลยก็ว่าได้ค่ะ อย่าซาโมซ่า นกได้ทดลองชิมดูว่ารสชาติเป็นอย่างไร หลังจากนั้นก็มาทำในแบบของตัวเอง ผลออกมาเป็นที่น่าภูมิใจ แฟนคลับบอกว่าทำได้ดีกว่าร้านอาหารอินเดียหลายๆ ร้านที่เค้าไปกินมาเสียอีก ได้ยินแล้วเป็นปลื้มจริงๆ เมนูไหนที่ทำแล้ว บอกว่าอร่อย ก็จะเก็บสูตรเอาไว้ ไม่ต้องหาสูตรใหม่ลองทำอีก อย่างซาโมซ่านี้ทำบ่อยสุด ๆ ในความรู้สึกของนกแล้วอาหารของคนเอเซียส่วนใหญ่จะมีรสชาติ และเครื่องปรุงที่คล้ายๆ กัน "ซาโมซ่า" นกว่าไม่ต่างไปจากกะหรี่พัฟบ้านเรานะค่ะ




วิธีทำ
เนื้อหมู/ ไก่ /Lamb บดละเอียด 250 กรัม (เลือกเนื้อที่เราชอบ สำหรับนกวันนี้ใช้เนื้อ Lamb นะค่ะ)
มันฝรั่งหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก 350-400 กรัม

หอมหัวใหญ่หั่นสี่เหลี่ยมลูํกเต๋าเล็ก 1 หัว

แครรอทหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก 1 หัว

Peas
(เมล็ดถั่วลันเตา) 100 กรัม
ผง masala 1 ชช

ผงยี่หร่า 1 ชช
ผงกะหรี่ 2 ชช

เกลือป่น 2 ชช
ซีอิ้วขาว 1 ชช

น้ำตาลทราย 2 ชต

แป้งปอเปี๊ยะ 1 ห่อ

ไข่ไก่ 1 ฟอง (สำหรับทายึดแป้งให้ติดกัน)

วิธีทำ
1. รวนเนื้อบดใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อน ยีให้เนื้อให้แยกออกจากกันไม่ติดกันเป็นก้อนๆ ใส่หอมใหญ่ลงไปผัดให้เข้ากันจนเริ่มมีกลิ่นหอม ๆ

2. ใส่มันฝรั่ง แครรอท ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน เปิดไฟในเตาให้เป็นไฟกลาง พอมันฝรั่งและแครรอทเริ่มสุก ใส่เครื่องปรุง ผง masala ผงยี่หร่า ผงกะหรี่ เกลือป่น ซีอิ้วขาว และน้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากันชิมรสตามชอบอีกครั้ง ผัดจนกระทั้งทุกอย่างสุกเข้ากันดี ปิดไฟในเตา พักไว้ให้เย็น

3. นำไส้ที่พักไว้จนเย็นมาห่อกับแผ่นแป้งปอเปี้ยะ ซาโมซา 1 ชิ้น นกใช้แผ่นแป้งปอเปี๊ยะ 1 แผ่นใหญ่ วิธีการห่อคือตัดแผ่นแป้งปอเีปี๊ยะ 1 แผ่นใหญ่ให้เป็นสี่เหลี่ยมผื่นผ้า 3 แผ่น (แป้งขนาดใหญ่นกตัดเป็น3 ส่วนเท่าๆ กันนะค่ะ) นำแผ่นทั้ง 3 แผ่นมาต่อเข้าด้วยกัน ตีไข่ไก่ให้แตกใช้แปรงชุบไข่ทาเป็นกาวต่อแผ่นแป้งเข้าด้วยกัน จะได้ สี่เหลี่ยมผื่นผ้าขนาดยาว

4. จับปลายแป้งด้านที่ถนัด พับขึ้นให้รูปกรวย จากนั้นใส่ไส้ลงไป พับปิดไส้จากนั้นก็พับไปเรื่อย ๆ จนหมดแผ่นแป้ง จะได้ ซาโมซ่า 1 ชิ้น ทำอย่างนี้ไปจนหมดแป้ง ( วันนี้นกทำได้ประมาณ 30 ชิ้น เลยแบ่งแช่ช่องแข็งส่วนหนึ่ง)

5. นำซาโมซ่าที่ห่อเรียบร้อยแล้วไปทอด ใช้ไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน พอน้ำมันร้อนได้ที่นำซาโมซ่าลงทอดจนสุกเหลืองกรอบสวย ตักวางบนกระดาษซับมัน จากนั้นยกเสริฟคู่กับน้ำจิ้มอาจาดได้เลย


***งานนี้นกยังไม่ได้จัดใส่จาน แฟนคลับทนกลิ่นหอมไม่ไหว หยิบใส่จานไม่รอเสริฟพร้อมน้ำจิ้มเลยค่ะ จริงๆ แล้วกะว่าจะทำน้ำจิ้มอาจาดเสริฟคู่กัน แต่แฟนคลับบอกไม่ต้องก็ได้ผมไม่ทานน้ำจิ้ม ชอบทานแบบนี้ นกเลยตามใจคนกิน ถ้าเพื่อนๆ คนไหนชื่นชอบอาจาด ทำง่าย ๆโดย ต้มน้ำตาล น้ำส้มสายชู น้ำเปล่า เกลือ พักไว้จนเย็น จากนั้นหั่นพริก หอม แตงกวาลงไป เท่านี้ก็ได้อาจาดเสริฟคู่่กับซาโมซ่าแล้วละค่ะ สำหรับซาโมซ่าถ้าทำมากเกินไป คิดว่าทานไม่หมดในมื้อเดียวเหมือนกันนก แนะนำให้แช่แข็งเอาไว้ วิธีการแช่ ให้แช่ในกล่อง โดยตัดกระดาษรองอบ รองก้นกล่อง จากนั้น เรียงซาโมซ่า อย่าเรียงซ่อนกันนะค่ะ เรียงเป็นตัว ๆ ไป หมดชั้นที่ 1 รองด้วยกระดาษรองอบในชั้นที่ 2 ทำอย่างนี้ไปจนหมดซาโมซ่า วันไหน อยากทานก็เอาออกมาทอดได้เลย ***


Puff pastry Sausage Rolls

นกห่างจากการครัวไม่เข้ามาทักทายเพืือน ๆ ชาวครัวนานเลยค่ะ จริงๆ แล้วนกทำอาหารทุกวันแต่นอกเหนือจากนั้นยังต้องทำเค้กควบคู่กันไปอีก ยิ่งใกล้เทศกาลคริสมาสต์นกต้องทำคริสมาสต์เค้ก สำหรับขายตอนช่วงใก้ล ๆ คริสมาสต์ หน้าร้อนนี้พริกที่ปลูกไว้ให้ผลผลิตดี ต้องทำซอสพริกอีก งานนี้ทำสต๊อกเก็บเอาไว้ขายเลยที่เดียว คิดว่าปีนี้คงขายได้เยอะกว่าปีที่แล้ว เพราะมีลูกค้าประจำ และลูกค้าใหม่ที่เพื่อน ๆ แนะนำให้อีก แถมแฟนคลับนกยังเป็นฝ่ายการขาย เอาไปขายเพื่อนๆ ที่ทำงาน งานนี้ซอสพริกกลายเป็นธุรกิจเล็ก ๆ ในครอบครัวไปเลย พูดเสียยืดยาว จริงๆ อยากบอกว่าทั้งหมดนี้ทำให้นกต้องห่างจากห้องครัีวไปนะค่ะ




ส่วนผสม
Puff pastry 200 กรัม (วันนี้ใช้แป้งสำเร็จรูป)
Sausage Meat 200 กรัม (ถ้าไม่มีใช้ไส้กรอกแทน)
ไข่ไก่ 1 ฟอง
นม 2 ซต

วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบที่ 180 C
2. แบ่งแป้งออกเป็น 2 ส่วน รีดแป้งให้มีความหนาและความกว้าง ยาวตามต้องการ (แป้งที่นกรีดมีความหนาประมาณ 2 มม. กว้าง 3 นิ้ว ยาวประมาณ 8 นิ้ว)
3. นำ Sausage Meat ใส่ลงไปด้านใดด้านหนึ่งของแป้ง วิธีการโดยเรียงต่อยาวจนสิ้นสุดแป้งโดยให้เหลือเนื้อที่สำหรับนำนำแป้งอีกดด้านปิดทับ
4. ก่อนนำแป้งอีกด้านปิดทับนำแปรงชุบนำทาขอบด้านที่มี Sausage Meat จากนั้นนำแป้งอีกด้านปิดทับให้สนิด จากนั้นตัดให้ได้ขนาดตามชอบ ใช้ช้อนส้อมจิ้มด้านบนเพื่อให้มีช่องระบายเวลาออบ
5. ตีไข่ให้แตก ทาให้ทั่ว Sausage Meat จากนั้นนำเข้าอบประมาณ 20 นาที่ หรือจนกระทั้งเหลือกรอบสวย