ข้าวผัดอินโด นาซีโกเร็ง Nasi Goreng /Indonesian Fried Rice

คำว่า“นาซีโกเร็ง”แปลตรงตัวก็คือ "ข้าวผัด"  ที่มีต้นกำเนิดที่ประเทศอินโดนีเซีย และถือเป็นอาหารหลักของอินโดนีเซียมายาวนาน นอกจากนี้นาซีโกเร็งยังแพร่หลายในชุมชนที่พูดภาษามาเลย์ในประเทศต่างๆ 
เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ และบรูไน นาซีโกเร็งเป็นเมนูข้าวผัดที่ปรุงด้วยเนื้อสัตว์และผัก มีกลิ่นหอมควันของเครื่องแกงและรสชาติเผ็ดร้อนเป็นอาหารจานอร่อยที่มีเอกลักษณ์ใช้น้ำพริกซัมบัลมาผัดไม่มีสูตรเฉพาะแตกต่างกันไปในแต่ละครัวเรือน ผู้คนทั่วโลกโหวตให้เป็นอาหารที่อร่อยและในปีพ.ศ. 2561 ทางฐบาลของประเทศอินโดนีเซีย ก็ได้ขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการให้นาซีโกเร็งเป็นหนึ่งในห้าอาหารประจำชาติ สำหรับนาซีโกเร็งที่บ้านนั้นทำอยู่บ่อยครั้ง และเป็นเมนูข้าวผัดที่คนที่บ้านชอบอีกเมนูหนึ่ง




ส่วนผสม 
ข้าวสวยเย็น 1 กล่อง (สำหรับ 2 คน)
น้ำพริกซัมบัล(พริกแกง) 2 ช้อนโต๊ะ
พริกสด 3 เม็ด
พริกหวาน 1 ลูก
พริกชี้ฟ้าแดง 2 เม็ด
หอมหัวใหญ่ 1/2 ลูก
หมูแดง 140 กรัม
กุ้งสด 8 ตัว
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำตาลทราย ตามชอบ
ไข่ไก่ 2 ฟอง
น้ำมันสำหรับผัด 

วิธีทำ 
1.ล้างหั่นซอยพริกสด พริกหวาน พริกชี้ฟ้าแดง หอมหัวใหญ่
2.หั่นหมูแดงเป็นชิ้นๆ เล็ก ๆ และทอดไข่ดาวพักไว้ 
3.ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันสำหรับผัดข้าวลงไป รอให้น้ำมันเริ่มร้อน ใส่พริกสด พริกหวาน พริกชี้ฟ้าแดง หอมหัวใหญ่ ลงในกระทะผัดให้เข้ากันจนทุกอย่างเริ่มสุก
4.ใส่กุ้งสดลงไปผัดต่อจนกระทั้งกุ้งเริ่มแดงๆ ใส่น้ำพริกซัมบัล(พริกแกง) และหมูแดงลงไปผัดต่อให้เข้ากันจนหอมได้กลิ่นเครื่องแกง
5.ใส่ข้าวสวยเย็นลงไปผัด คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลทราย และเกลือป่นเล็กน้อย เร่งไฟให้แรงผัดจนกระทั้งได้กลิ่นข้าวผัด ชิมรสตามชอบ ตักใส่จานยกเสิร์ฟพร้อมไข่ดาวและแตงกวา







ปีกไก่คลุกฝุ่น

ที่บ้านชอบปีกไก่กันทุกคนโดยเฉพาะเมนูทอดไม่ว่าจะทอดสูตรแบบไหนได้ทั้งนั้น  และทุกครั้งที่มีเมนูปีกไก่ทอด ยังไม่ทันจะเสร็จตั้งโต๊ะ ก็มีคนเดินเข้า ๆ ออกๆในครัว แอบหยิบกินเป็นว่าเล่น นกชอบนะที่เห็นทุกคนชอบขนาดนี้ พอคิดว่าจะทำเมนูอะไรให้กับคนที่ใช้ในหัวก็คิดถึงเมนูปีกไก่ขึ้นมาในความคิดแรกเลยก็ว่าได้ วันนี้ได้ปีกไก่มาแล้วต้องทำแน่นนอนเมนูนี้ปีกไก่ทอด




ส่วนผสม 
ปีกไก่ 10 ปีก
แป้งทอดกรอบ  2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น เล็กน้อย
น้ำโซดา  เล็กน้อย
ผงปรุงรสลาบ 3 ช้อนโต๊ะ
พริกแห้งป่น ตามชอบ
ข้าวคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมผักชี  ตามชอบ
น้ำมันสำหรับทอด 

วิธีทำ 
1.นำปีกมาหั่นล้างให้สะอาด ซอยต้นหอมผักชีพักไว้ 
2.ผสมแป้งทอดกรอบ เกลือป่น พริกไทยป่น เข้าด้วยกัน 
3.นำปีกไก่คลุกกับแป้งทอดกรอบ เติมน้ำโซดาลงไปนิดหน่อย คลุกเคล้าให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันหมักทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที
4.ตั้งหม้อทอดใส่น้ำมันบนเตา รอให้น้ำมันร้อน ใส่ปีกไก่ลงไปทอดให้สุก ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
5.นำผงปรุงรสลาบ พริกแห้งป่น และข้าวคั่ว ใส่ลงในชามผสม คนให้ส่วนผสมเข้ากัน
6.นำปีกไก่ที่ทอไว้ไปคลุกในชามผสม ตักใส่จานโรยด้วยต้นหอมผักชียกเสิร์ฟ







หมูทอดกรอบ/หมูกรอบ

นกเคยเขียนสูตรหมูกรอบเอาไว้นานมากแล้ว ขั้นตอนและส่วนผสมเยอะ วันนี้นกทำแบบขั้นตอนและส่วนผสมมีไม่กี่อย่าง ทำออกมาแล้วเพื่อน ๆ ชาวครัวต้องชอบมากแน่นนอน งานนี้แฟนคลับเค้าบอกมาเองว่าอร่อย




ส่วนผสม 
หมูสามชั้น  500  กรัม
เกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะ  (แบ่งออกเป็น 3 ส่วน)
น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ  (แบ่งออกเป็น 2 ส่วน)
น้ำมันสำหรับทอด 

วิธีทำ 
1.ล้างหมูสามชั้นให้สะอาด นำไปคลุกด้วยเกลือป่น และน้ำส้มสายชู พักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที 
2.ใส่น้ำเปล่า น้ำส้มสายชู และเกลือป่น ลงในหม้อ นำขึ้นตั้งบนเตาต้มจนน้ำเริ่มเดือด 
3.เอาหมูสามชั้นใส่ลงไปต้ม จนหนังหมูนิ่ม ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ
4.เช็ดหนังหมูให้แห้งสนิท  เอาส้อมมาจิ้มหนังหมูให้ทั่วนำไปแช่ในน้ำส้มสายชูหนังหมักทิ้งไว้ให้ประมาณ 15 นาที
5.ก่อนนำเข้าอบโรยเกลือป่นให้ทั่วหมูสามชั้น นำอบพอให้หมูแห้งประมาณ 15-20 นาที  พักหมูสามชั้นให้เย็น
6.ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันลงไปในกระทะพอให้ท่วมหมู ใช้ไฟกลางใส่หมูที่อบแห้งแล้วลงไปทอดให้พอเริ่มเหลือง ๆ ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน  
7.เร่งไฟในเตาให้แรงขึ้นนำหมูสามชั้นทอดครั้งที่สอง ทอดจนหนังพองกรอบ หมูสามชั้นเหลืองสุก 
8.นำมาหั่นเป็นชิ้นพอคำใส่จานยกเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มหรือนำไปประกอบอาหารต่อไป









Chicken Pasta Bake /พาสต้าไก่อบชีส

หลาย ๆ ครั้งที่ทำเมนูอาหารอบในวันอาทิตย์ จะมีเนื้อสัตว์เหลือทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นอบไก่ เป็ด หมู หรือแกะ พอเนื้อสัตว์เหลือเยอะ ก็ต้องพยายามหาเมนูที่พอจะใช้เนื้อสัตว์เหล่านี้ โดยที่ไม่ซ้ำกับเมนูเดิม อย่างวันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ทำเมนู Roast Chicken ทำให้มีเนื้อไก่อบเหลืออีกแล้ว แฟนคลับว่าเอาเนื้อไก่มาทำพาสต้าไก่อบชีสเป็นเมนูของวันจันทร์ดีหรือเปล่า นกเห็นดีด้วยไม่ต้องคิดมากว่าจะทำเมนูอะไรดี เพื่อน ๆ ชาวครัวเป็นแบบนกหรือเปล่าบางครั้งไม่รู้ว่าจะทำเมนูอะไรดี ต้องถามเอาจากคนในครอบครัวว่าวันนี้อยากกินอะไรเป็นพิเศษ (เพราะเราคิดเมนูอาหารไม่ออก)




ส่วนผสม  
พาสต้า (penne)  250 กรัม
เนื้อไก่ต้มสุก 1 ถ้วย (ประมาณ 180 กรัม)
ผักอบ (Roasted Vegetables) 150 กรัม
เชดดาร์ชีส (Cheddar cheese)   ตามชอบ
มอสซาเรลล่าชีส (Mozzarella)  ตามชอบ
ซอสมะเขือเทศเข้มข้น 1 ถ้วย
เกลือป่น หยิบมือ
พริกไทยป่น  หยิบมือ

วิธีทำ
1.ฉีกเนื้อไก่ต้มพักไว้ ตั้งหม้อน้ำใส่เกลือป่นรอจนกระทั้งน้ำเดือนนำพาสต้าลงต้มให้สุก พักเส้นไว้ในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ
2.ตั้งหม้อใส่ซอสมะเขือเทศเข้มข้นลงต้มให้พอเริ่มเดือด ใส่ผักอบ  เนื้อไก่  พาสต้า และมอสซาเรลล่าชีส (Mozzarella) ลงคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสตามชอบ 
 3.ตักพาสต้าใส่ภาชนะสำหรับอบ โรยด้วยเชดดาร์ชีส (Cheddar cheese) นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 200 °C  อบจนกระทั้งชีสละลาย นำออกจากเตาอบ  ยกเสิรฟ์ 






***สำหรับ Roasted Vegetables นกใช้ พริกหวาน หอมหัวใหญ่  ผงพาสลีย์  เกลือป่น พริกไทยป่น น้ำมันมะกอก นำเข้าเตาอบจนผักสุก หากเพื่อน ๆสนในวิธีการทำ อ่านได้จากลิงค์นี้นะค่ะ https://pinkroselove-nd.blogspot.com/2021/09/roasted-mediterranean-vegetables.html ***






ไก่ผัดเห็ดแชมปิญองน้ำมันหอย

หากจะพูดถึงเมนูอาหารที่คุณพ่อของแฟนคลับชอบ ต้องเป็นเมนูนี้เลยไก่ผัดเห็ดแชมปิญองน้ำมันหอย ทุกๆครั้งที่เราไปเยี่ยมท่านที่บ้าน บางครั้งจะพวกเราจะสั่งอาหารจีนตามสั่ง (Chinese takeaway) มากิน เมนูนี้จะเป็นเมนูแรกที่เราจะต้องสั่งให้ คุณพ่อท่านอายุเยอะจะกินคนเดียวก็ไม่หมด พวกเราจะต้องแบ่งส่วนจากท่านทุกครั้ง 




ส่วนผสม 
อกไก่ 1 อก
เห็ดแชมปิญอง 250 กรัม
กระเทียมสับ 3 กลีบ
ต้นหอม ผักชี  ตามชอบ
น้ำมันหอย ตามชอบ
ซีอิ๊วขาว ตามชอบ
น้ำตาลทราย ตามชอบ
ผงปรุงรสไก่ เล็กน้อบ
น้ำเปล่า เล็กน้อย
น้ำมันสำหรับผัด 

วิธีทำ 
1.ล้างหั่นไก่ เห็ดแชมปิญอง สับกระเทียม 
2.ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ตั้งบนเตารอให้น้ำมันเริ่มร้อนใส่กระเทียบสับ ผัดให้กระเทียมพอหอม
3.ใส่ไก่ลงไปผัดจนกระทั้งสุก ใส่เห็ดแชมปิญองตามลงไปผัดให้เข้ากัน 
4.ใส่น้ำเปล่าเล็กน้อย  ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ผงปรุงรสไก่  ผัดให้เข้ากันชิมรสตามชอบ
5.โรยด้วยต้นหอมผักชี ผัดเร็ว ๆ อีกครั้งตักใส่จานยกเสิร์ฟ







ต้มข่าไก่ไวน์ขาว

ที่บ้านนกนั้นชอบเมนูไก่อยู่หลายเมนูเลยที่เดียว แต่สำหรับต้มข่าไก่แล้วนกเฉย ๆ นาน ๆ จะทำกินสักครั้ง แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่บ้านซื้อไวน์ขาวมาดื่มเหลือติดขวด เลยเอามาเป็นส่วนผสมในต้มข่าไก่ พอได้ชิมแล้ว รู้สึกชอบในรสชาติขึ้นมา แฟนคลับเองก็ชอบเช่นกัน กลายเป็นว่าเมนูต้มข่าไก่เป็นเมนูที่เราทั้งสองคนชอบ แต่ต้องเป็นสูตรนี้นะ




ส่วนผสม 
น่องไก่ 6-8 น่อง
ไวน์ขาว(White Wine )  1 แก้ว
เครื่องปรุงต้มข่าสำเร็จรูป  1 ซอง
ตะไคร้ 3 ต้น
กระเทียม 4 กลีบ
หอมแดง 2 หัว
แครอท 2 หัว
แอปเปิ้ล 2 ลูก
น้ำปลา  ตามชอบ
เกลือป่น  ตามชอบ
พริกไทยป่น ตามชอบ
หัวกะทิ 1 ถ้วย
น้ำซุปไก่  ตามชอบ

วิธีทำ 
1.ล้างน่องไก่ให้สะอาด ทุบตะไคร้ หอมแดง กระเทียม จากนั้นหั่นแครอท แอปเปิ้ล พักไว้
2.นำน่องไก่  ตะไคร้ กระเทียม หอมแดง แครอท แอปเปิ้ล ไวน์ขาว เครื่องต้มข่า น้ำซุปไก่ ใส่ลงใน Slow Cooker  เสียบปลั๊กไฟ เปิดไฟที่ระดับสูง ต้มให้พอทุกอย่างสุก 
3.ตักน่องไก่ส่วนผสมทั้งหมดใส่ถ้วย นำน้ำซุปใส่ในหม้อต้มให้น้ำซุปเหลือครึ่งหนึ่ง ใส่หัวกะทิปรุงรสด้วย น้ำปลา เกลือป่น พริกไทยป่น
4.นำน่องไก่ส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในหม้อต้มให้เดือด ชิมรสตามชอบ ตักใส่ถ้วยยกเสิร์ฟ








***นี้เป็นหม้อ Slow Cooker ที่ใช้อยู่เป็นประจำ เวลาจะใช้ก็นำถุงมาวางไว้ในหม้อ เพราะสะดวกไม่ต้องล้างหม้อเวลาปรุงอาหารเสร็จ***






แกงไตปลาซาบะรมควัน

แกงไตปลา หรือแกงพุงปลา เป็นเมนูอาหารพื้นเมืองของชาวปักษ์ใต้ ที่มีเอกลักษณ์คือรสชาติเผ็ด แกงไตปลามีทั้งแบบที่ใส่กะทิและไม่ใส่กะทะ ที่นกทำเป็นแบบไม่ใส่กะทิ ไตปลา หรือพุงปลา เป็นการนำเอากระเพาะของปลามาหมักด้วยเกลือ ปลาที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นปลาทู ปลาลัง แต่ของที่บ้านนกใช้กระเพาะของปลาซาบะ มาหมัก สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจวิธีการหมักไตปลาสามารถหากอ่านได้จากลิงค์นี้นะค่ะ  http://pinkroselove-nd.blogspot.co.uk/2009/09/blog-post_1644.html






ส่วนผสม 
ปลาซาบะรมควัน (แกะเป็นชิ้นๆ)  4 ชิ้น
ไตปลา 2 ช้อนโต๊ะ
หน่อไม้  1 ถ้วย
ถั่วฝักยาว 3 ฝัก
ข้าวโพดอ่อน 4 ฝัก
หน่อไม้ฝรั่ง 4 ต้น
พริกชี้ฟ้าแดง 4  เม็ด
ใบโหระพา ตามชอบ
พริกแกงไตปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ  ตามชอบ 
น้ำมะขามเปียก ตามชอบ 
น้ำเปล่าสำหรับทำน้ำแกง

วิธีทำ 
1.ตั้งหม้อน้ำเปล่าบนเตาใส่ตะไคร้ทุบ ข่าทุบ หอมแดงทุบ ใบมะกรูด ไตปลา ต้มจนกระทั้งไตปลาละลาย ปิดไฟในเตายกลง แล้วกรองเอาแต่น้ำ ต้มจนเดือดอีกครั้ง 
2.ใส่พริกแกงลงไปต้มจนหอม ใส่ถั่วฝักยาว ข้าวโพดอ่อน และหน่อไม้ลงต้มจนเกือบสุก ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำมะขามเปียกและน้ำปลา ชิมรสตามชอบ
3.ใส่เนื้อปลาซาบะรมควัน และพริกชี้ฟ้าแดง ใบโหระพาคนให้เข้ากัน ปิดไฟยกเสิรฟ์







อกเป็ดเขียวหวานแห้ง

แกงเขียวหวานเป็นเมนูชื่นชอบของหลาย ๆ คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนคลับที่บ้านนกเองค่ะ อาจเป็นเพราะว่าแกงเขียนหวานเป็นเมนูอาหารไทยจานแรกที่แฟนคลับรู้จักก็เป็นได้ พอได้ชิมครั้งแรกก็ติดใจ เวลานกทำกินทุกครั้งชมทุกครั้ง อย่างวันนี้แกงเขียวหวานที่นกทำเป็นแกงเขียวหวานแห้ง อาหารจานเดียวเสิร์ฟเป็นมื้อกลางวัน




ส่วนผสม
เนื้อเป็ดอบหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 250  กรัม
น้ำพริกแกงเขียวหวาน 1 ช้อนโต๊ะ
กะทิ  4 ช้อนโต๊ะ
ถั่วฝักยาวหั่นท่อน  4   ฝัก
ข้าวโพดอ่อนหั่นท่อน  4   ฝัก
หน่อไม้ฝรั่งหั่นท่อน 4   ต้น
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง 2  เม็ด
ใบมะกรูดฉีก 2 ใบ
ใบโหระพา  เล็กน้อย
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำตาลทราย  ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับผัด

วิธีทำ
1. ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมัน เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง พอน้ำมันเริ่มร้อน ใส่เครืองแกงลงผัดให้พอหอม
2. ใส่กระทิลงในกระทะผัดให้เข้ากัน ใส่ถั่วฝักยาว ข้าวโพดอ่อน หน่อไม้ฝรั่ง ผัดให้ทุกอย่างสุก ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ
3. ใส่เนื้อเป็ดอบลงไปผัดต่อ ใส่ใบมะกรูด ใบโหระพา พริกชีฟ้าแดง ผัดเร็ว ๆ อีกครั้งปิดไฟในเตา ตักใส่จานข้าวยกเสิร์ฟ 







Sweet Potato and Sweet Pepper Soup/ซุปมันเทศและพริกหวานแดง

 แฟนคลับชอบกินซุปเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว อากาศหนาว ๆ เย็น ๆ ที่บ้านก็จะทำเมนูซุปกินเป็นอาหารมื้อกลางวันบ่อย ๆ และซุปที่ทำจะต้องเป็นซุปที่ข้น ๆ ถึงจะถูกใจคนกิน และซุปที่ทำแล้วไม่เคยผิดหวังหนึ่งในนั้นก็คือ Sweet Potato and  Sweet Pepper Soup เป็นซุปนกสามารถทำได้บ่อยเท่าที่อยากจะทำ




ส่วนผสม 
มันเทศ 3 หัว
หอมใหญ่ 1 หัว
พริกหวานแดง 2 ลูก
น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุปผัก ตามชอบ
เกลือป่น  เล็กน้อย
พริกไทยป่น  เล็กน้อย

วิธีทำ 
1.หั่นล้าง มันเทศ หอมใหญ่ พริกหวานแดง พักไว้
2.ตั้งหม้อใส่น้ำมันมะกอกในหม้อต้ม ใส่หัวหอมลงไปผัดให้พอเริ่มสุก จากนั้นใส่มันเทศลงไปผัดต่อ 
3.ใส่น้ำซุปผักลงไปเล็กน้อย รอให้มันเทศเริ่มสุก
4.ใส่พริกหวานแดงลงผัดให้ทุกอย่างเข้ากันเข้ากัน ใส่น้ำซุปผักลงไปในหม้อคนให้เข้ากัน ปิดฝาต้มเป็นเวลา 25 นาทีหรือจนผักทั้งหมดนิ่ม
5.นำไปปั่นด้วยเครื่องปั้นหรือที่ปั่นแบบมือถือจนเนียน ยกตั้งบนเตาอีกครั้ง ปรุงรสด้วย เกลือป่น พริกไทยป่น ชิมรส ตักใส่ถ้วยโรยหน้าด้วยขนมปังกรอบยกเสิร์ฟ









ต้มจับฉ่ายเต้าหู้

"เมนูของคุณยาย (แม่)" เมื่อสองวันก่อนได้คุยกันเรื่องต้มจับฉ่ายที่คุณยายชอบทำน้ำซุปน้อย ๆ ไว้กินคู่กับน้ำพริกหรือคู่กับข้าวต้มกุ๊ย คุณยายบอกว่าตอนใส่เครื่องปรุงอย่าใส่เครื่องปรุงให้หนักมือ เพราะเดี๋ยวพอน้ำซุปลดลงผักก็จะเค็มตามไปด้วย เค็มเกินกินกับน้ำพริกไม่อร่อย เพราะน้ำพริก็เค็มกะปิอยู่แล้ว




ส่วนผสม 
เต้าหู้ทอด  1 ถ้วย
ผักกวางตุ้ง 12 ต้น
กระเทียม 3 กลีบ
หอมแดง 2 หัว
ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วดำหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น ตามชอบ
ผงปรุงรส  1 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุปไก่  ตามชอบ
น้ำมันสำหรับผัดผัก 

วิธีทำ 
1.ล้างและหั่นผักกวางตุ้ง ทุบหอม กระเทียม พักไว้
2.ตั้งกระทะใส่น้ำมันสำหรับผัดผัก พอน้ำมันเริ่มร้อน ใส่กระเทียมและหอมทุบลงผัดให้พอหอม 
3.ใส่ผักลงผัดให้พอผักสลบ ใส่ซีอิ้วดำหวานลงไปผัดให้หอมจนได้กลิ่นซีอิ้วดำหวาน 
4.ใส่เต้าหู้ทอดลงผัด ปรุงรสด้วย น้ำมันหอย ซีอิ้วขาว ผงปรุงรส เกลือป่นเล็กน้อน ผัดให้เข้ากัน 
5.เติมน้ำชุปลงในกระทะต้มให้ผัดสุกนิ่ม ชิมรสตามชอบ ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิรฟ์








แกงส้มบรอกโคลี

น้องสาวคนรองของที่บ้านเรา เป็นคนที่ชอบอาหารแบบเผ็ดๆ เปรี้ยวๆ  จนบางครั้งคุณยาย (แม่) ต้องบอกให้ลดๆ ลงหน่อยเพราะกินด้วยไม่ได้ เมนูที่น้องสาวชอบมาก ๆ จึงเป็นเมนูประเภท ยำ ต้มแซบ แกงส้ม  ซึ่งที่บ้านเวลาทำจะแกงก็จะหม้อใหญ่ๆ นำอุ่นแล้วอุ่นอีกจนเครื่องแกงเข้าเนื้อ ส่วนผักที่ใส่ในแกงจะเป็นผักอะไรก็ได้ทั้งนั้น ทำได้หมดแล้วแต่ว่าจะเลือกใส่ หรือไม่ก็ทำแบบกินมื้อเดียวแบบเร็ว ๆ อย่างแกงส้มบรอกโคลี



ส่วนผสม 
ไข่ไก่ 4 ฟอง
บรอกโคลี 1 หัว
น้ำพริกแกงส้ม 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มมะนาว ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำตาลปึก ตามชอบ
เกลือป่น เล็กน้อย
น้ำเปล่าสำหรับทำน้ำแกง 
น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ 
1.ล้างหั่นก้านใบและดอกบรอกโคลี  จากนั้นตอกไข่ใส่ชาม ตีไข่ให้ไข่แตกปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่บรอกโคลีในชามไข่คนให้เข้ากัน
2.ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งบนเตารอให้น้ำมันร้อนใส่บรอกโคลีที่ผสมกับไข่ ลงไปทอดให้สุก ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน หั่นเป็นชิ้น ๆ
3.ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ ตั้งบนเตารอให้น้ำรอให้เครื่องแกงส้มลงไปคนให้เข้ากัน ใส่ก้านและใบบรอกโคลีที่หั่นไว้ลงไป ต้มให้สุก ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลปึก น้ำส้มมะนาว  ชิมรสตามชอบ
4.ใส่ไข่เจียวบรอกโคลีลงหม้อแกงคนให้เข้ากัน ตักใส่ชามยกเสิร์ฟ









ผัดพริกแกงเต้าหู้





ส่วนผสม 
เต้าหู้ทอด 1 ก้อน
ถั่วฝักยาว 6 ฝัก
พริกหยวก 2 เม็ด
พริกชี้ฟ้า 3 เม็ด
พริกแกง 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำเปล่า เล็กน้อย
น้ำมันสำหรับผัด

วิธีทำ 
1.ล้างหั่นถั่วฝักยาว พริกหยวก พริกชี้ฟ้าพักไว้ ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงในกระทะ พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่พริกแกงลงไปในกระทะจนมีกลิ่นหอมๆ 
2.ใส่เต้าหู้ทอดลงไปผัดให้เข้ากัน
3.ใส่ถั่วฝักยาวไปผัดเติมน้ำเปล่าเล็กน้อย ผัดจนถั่วฝักยาวเริ่มสุก
4.ใส่พริกหยวก พริกชี้ฟ้า ผัดให้เข้ากันปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำปลา ชิมรสตามชอบ 
5.ใส่ใบโหระพา ผัดเร็ว ๆ อีกครั้ง ตักใส่จานยกเสิร์ฟ









ผัดพริกโหระพาหมูยอ

 



ส่วนผสม 
หมูยอ 2 แท่ง
พริกสด 6  เม็ด
พริกชี้ฟ้า 5  เม็ด
หอมหัวใหญ่ 1/2 หัว
กระเทียม 4 กลีบ
ใบโหระพา 1 กำมือ
ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
ผงปรุงรส เล็กน้อย
น้ำตาลทราย เล็กน้อย
น้ำเปล่า  เล็กน้อย
น้ำมันสำหรับผัด

วิธีทำ 
1.หั่นหมูยอ พริกชี้ฟา หอมหัวใหญ่ ซอยพริกสดและกระเทียม ล้างเด็ดโบโหระพาพักไว้ ตั้งกระทะบนเตา 2.ใส่น้ำมันลงในกระทะ รอให้น้ำมันเริ่มร้อนใส่พริกสด และกระเทียม ลงไปผัดให้พอหอม
3.ใส่หมูยอลงไปผัดให้เข้ากัน 
4.ใส่พริกชี้ฟ้าและหอมหัวใหญ่ลงไปผัด ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย ผงปรุงรสและน้ำเปล่าเล็กน้อย พอทุกอย่างสุกชิมรสตามชอบ
5.ใส่ใบโหระพาผัดเร็ว ๆ ให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จานยกเสิร์ฟ










ไก่พิริพิริ (Piri Piri Chicken)

ไก่พิริพิริ (Piri Piri Chicken) เป็นเมนูหลักของ Nando's ส่วนใหญ่คนที่เข้าไปกินจะถูกใจกับรสชาติของซอส Piri Piri  ที่ Nando's ทำขึ้นเองซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นกได้ชิมครั้งแรกตอนที่ตามแฟนคลับไปเที่ยวที่ทำงานต่างเมือง ครั้งนั้นเพื่อน ๆ ที่ทำงานแฟนคลับรู้ว่านกตามแฟนคลับมาด้วย เลยขอนัดเลี้ยงอาหารกันที่ Nando's เพื่อทำความรู้จัก เพราะพวกเค้าไม่เคยรู้จักนกเลย มีแต่กินขนมอบที่นกทำให้แฟนคลับไปวางที่ห้องทำงานทุก ๆ วันจันทร์ เพื่อนๆ เลยอยากจะขอบคุณความมีน้ำใจ ทำให้นกได้รู้จักกับ Piri Piri Chicken พอกลับบ้านนกก็ลงทำซอส Piri Piri ไว้ใช้เองตามแบบของฉบับที่คิดว่าน่าจะใก้ลเคียงกับของ Nando's มากที่สุด 






ส่วนผสม 
สะโพกไก่ 8 สะโพก
ซอสพริพริ  3 ช้อนโต๊ะ 
ผงปรุงรสไก่ 1 ช้อนชา
น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ 
1.นำสะโพกไก่มาล้างเอาหนังออก และเลาะกระดูกหมักด้วยผงปรุงรสไก่ พักไว้ประมาณ 30 นาที
2.นำไก่ที่หมักคลุกด้วย ซอสพริพริ และน้ำมันมะกอก พักทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
3.เปิดเตาอบที่ 200 องศาเซลเซียส เตรียมถาดอบสำหรับอบไก่ จัดเรียงชิ้นไก่บนถาด 
4.นำเข้าเตาอบเป็นเวลา 25-30 นาทีหรือจนกระทั้งสุก จัดใส่จานยกเสิร์ฟ คู่กับสลัด มันฝรั่งทอด หรือคู่กับข้าวเม็กซิกัน










***นี้เป็นซอส Piri Piri ที่นกทำเอง ***