กระดูกหมูเปรี้ยวหวาน

วันนี้เข้าครัวมาทำเมนูกระดูกหมูเปรี้ยวหวาน เอาใจคนชอบกินกระดูกหมูเปี่อย ๆ นุ่ม ๆ หลุดออกจากกระดูก  ส่วนตัวเป็นชอบเมนูกระดูกหมู ไม่ว่าเมนูอะไรก็ชอบทั้งนั้น ยิ่งเป็นกระดูกอ่อน ๆ ยิ่งชอบ ที่บ้านนกส่วนใหญ่แล้วจะทำให้สุกเปี่อยนุ่ม แต่ถ้าไม่เปื่อยขอนุ่มหน่อยๆ  แฟนคลับบอกว่าชอบกินแล้วอร่อยดี

ส่วนผสม 

กระดูกหมู 500 กรัม

ขิงสด 1 แง่ง

กระเทียม 3  กลีบ

หอมใหญ่   1/2 หัว

เม็ดพริกไทย 1/2 ช้อนชา

ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนโต๊ะ

ซีอิ้วขาว 2  ช้อนโต๊ะ

น้ำมันหอย  2  ช้อนโต๊ะ

น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล(Apple Cider Vinegar)  2  ช้อนโต๊ะ

วูสเตอร์ซอส (Worcestershire Sauce) 1  ช้อนโต๊ะ

เหล้าจีน 1  ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทรายแดง  ตามชอบ

ต้นหอม ผักชี ตามชอบ

พริกสด ตามชอบ

งาขาวคั่ว ตามชอบ

น้ำเปล่า ตามชอบ (นกใส่พอทั่วกระดูกเล็กน้อย)

น้ำมันพืช

วิธีทำ 

1.ล้างหั่นกระดูกหมูเป็นชิ้น ๆ ขนาดตามชอบ ปลอกหั่นทุบ ขิงสด กระเทียม หอมใหญ่ พักไว้

2.ตั้งหม้อน้ำเปล่าบนเตา ใส่กระดูกหมู ขิงสด หอมใหญ่ กระเทียม เม็ดพริกไทยลงในหม้อ ต้มไปเรื่อย ๆ ให้กระดูกพอหมูสุกตักขึ้นพักไว้

3.นำซอสมะเขือเทศ ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย  วูสเตอร์ซอส (Worcestershire Sauce) น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล (Apple Cider Vinegar)  น้ำตาลทรายแดง และน้ำเปล่าเล็กน้อย ลงในถ้วยผสมจากนั้นคนให้เข้ากัน 

4.ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย นำกระดูกหมูที่ต้มสุกลงไปผัด ให้น้ำมันเคลือบชิ้นหมูให้ทั่วๆ 

5.ใส่เหล้าจีนลงไปผัดให้ทั่ว ๆ ใส่ซอสที่ผสมแล้วคนทุกอย่างให้เข้ากัน เติมน้ำเปล่าลงในกระทะรอเดือดอีกครั้งลดไฟลงเป็นไฟอ่อนปิดฝา ต้มไปจนกระทั้งน้ำซอสลดลงกระดูกหมูนิ่ม ชิมรสตามชอบ

6.พอน้ำซอสลดลง หมูสุกนิ่มดี เร่งไฟให้แรงขึ้นครั้งอีกครั้ง ผัดให้กระดูกหมูเคลือบซอสทั่วทุกๆ ชิ้น

ตักใส่ถ้วยโรยด้วยต้นหอมผักชี งาขาวคั่ว พริกสดซอย ยกเสิร์ฟ

หมูสามชั้นทอดกรอบ

วันนี้อากาศที่บ้านคลึ่ม ๆ หนาว ๆ เลยทำให้ตื่นสายนิดหน่อย ตอนแรกคุยกันว่าจะทำจะอาหารเช้าแบบฝรั่งกินกัน แต่เค้าตื่นกว่านกเลยกินขนมปังกับกาแฟไปแล้ว เลยไม่ต้องการอะไรอีก เมื่อแฟนคลับไม่ต้องการ มองในตู้เย็นมีสามชั้นอยู่กันการทอดกินเป็นอาหารเช้าคู่กับข้าวเหนียวหม้อหุงข้าวเสียเลย

ส่วนผสม 

หมูสามชั้นประมาณ 500 กรัม

ผงปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ

พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ

เกลือป่น ตามชอบ

แป้งทอดกรอบ 3 ช้อนโต๊ะ

น้ำโซดาแช่เย็น ตามชอบ  (นกใส่ให้พอแป้งเกาะกับชิ้นหมู)

น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ 

1.ล้างหมูสามชั้นให้สะอาด ตั้งหม้อน้ำบนเตาใส่เกลือป่นและน้ำส้มสายชูลงในหม้อ รอให้น้ำเดือดนำหมูสามชั้นลงไปต้มให้สุก ตักขึ้นพักไว้ให้เย็น 

2.หั่นหมูสามชั้นให้เป็นชิ้นพอคำแล้วใส่ลงในชาม ตามด้วยผงปรุงรส พริกไทยป่น เกลือป่น ผสมให้เข้ากันพักทิ้งไว้ 15-20 นาที 

3.ใส่แป้งทอดกรอบและน้ำโซดาแช่เย็นจัด คลุกให้เข้ากัน

4.ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไปในกระทะ รอจนน้ำมันร้อนก็ใส่หมูสามชั้นลงไปทอดจนกรอบเหลือง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานยกเสิร์ฟ

คอหมูย่าง/ข้าวผัดคอหมูย่างน้ำจิ้มแจ่ว

วันนี้ทำคอหมูย่าง/ข้าวผัดคอหมูย่างน้ำจิ้มแจ่ว พร้อม ๆ กัน เลยนำมาลงในครัวให้เพื่อน ๆ ชาวครัวได้ชิมกันอีกครั้ง จริงๆ ในครัวบ้านนกมีสูตรข้าวผัดแจ่วคอหมูย่าง และคอหมูย่างเขียนไว้แล้วเช่นเดียวกัน วิธีการและขั้นตอนคล้าย ๆ กัน อาจจะต่างตรงส่วนผสม หากเพื่อนชาวครัวสนใจ แวะอ่านข้าวผัดแจ่วคอหมูย่างได้จากลิงค์นี้ได้เลย https://pinkroselove-nd.blogspot.com/2018/05/blog-post_49.html  และคอหมูย่างได้จาก ลิงคิ์นี้ https://pinkroselove-nd.blogspot.com/2017/01/blog-post_30.html ว่าแล้วเราก็มาเริ่มทำกันเลย

ส่วนผสมคอหมูย่าง

คอหมู 4 ชิ้น

ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ

ซีอิ้วขาว   ตามชอบ (นกใช้นิดหน่อย เพราะผงหมักของที่บ้านมีเกลือป่นผสมอยู่แล้ว)

น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ

ผงปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ

ผงสำหรับหมักหมู 1 ช้อนโต๊ะ

(สูตรของที่บ้านเราประกอบไปด้วยพริกไทยดำ พริกไทยเสฉวน ลูกผักชี เกลือป่น ผงกระเทียม นำมาปั่นให้ละเอียดตามชอบ) 

วิธีทำ 

1.ล้างทำความสะอาดคอหมู ซับน้ำให้เนื้อหมูแห้ง นำมาทุบกับค้อนทุบเนื้อ

2.ใส่คอหมูที่ทุบทั้งหมดลงในชามผสม จากนั้นใส่ผงสำหรับหมักหมู ผงปรุงรส ซอสหอยนางรม ซีอิ้วขาว น้ำผึ้ง คลุกให้เข้ากันหมักไว้ 30 นาที ก่อนนำเข้าเตาอบ

3.ครบกำหนดวางหมูที่หมักไว้บนตะแกรง นำเข้าเตา อบที่อุณหภูมิ 200 C  ใช้เวลาประมาณ 25 นาที หรือจนกระทั้งหมูสุก

4.นำออกมาหั่นเป็นชิ้นจัดใส่จานเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มแจ่ว

สำหรับน้ำจิ้มแจ่ว นกทำแบบง่าย ๆ โดยส่วนใหญ่เพื่อนชาวครัวคงจะใช้ส่วนผสมและขั้นตอนเช่นเดียวกับที่บ้านนกทำ

ส่วนผสมน้ำจิ้มแจ่ว

พริกป่น 2 ช้อนโต๊ะ

หอมแดง 4 หัว

น้ำปลา ตามชอบ

น้ำมะนาว ตามชอบ

น้ำตาล  ตามชอบ

ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ

ต้นหอม ผักชี ตามชอบ

วิธีทำ นำพริกป่น หอมแดง น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล และข้าวคั่ว ผสมให้เข้ากัน  (ให้ได้รสเปรี้ยว เค็ม เผ็ดนำ) โรยหน้าด้วยต้นหอมผักชี 

หลังจากกินคอหมูย่างน้ำจิ้มแจ่วไปแล้วหนึ่งมื้อ และยังไม่หมด เราก็เอามาทำข้าวผัดคอหมูย่างจิ้มแจ่ว กินเป็นอาหารมื้อถัดไป

ส่วนผสมข้าวผัด 

ข้าวสวย 2 ถ้วย

คอหมูย่าง  1 ถ้วย

น้ำจิ้มแจ่ว  ตามชอบ

ไข่ไก่ 2 ฟอง

กระเทียมเจียว ตามชอบ

พริกสด ตามชอบ

พริกชี้ฟ้าแดง  ตามชอบ

ซีอิ้วขาว เล็กน้อย

น้ำตาลทราย เล็กน้อย

ต้นหอมผักชี  ตามชอบ

น้ำมันสำหรับผัดข้าว

วิธีทำ  

1.ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันลงใส่กระทะรอให้น้ำมันร้อน ตอกไข่ลงในกระทะ คนให้เข้ากัน ผัดให้ไข่เริ่มสุก

2.ใส่คอหมูลงไปผัดให้เข้ากัน เติมกระเทียมเจียวผัดจนกระทั้งไข่สุกหอม

3.ใส่ข้าวสวยลงไปผัด จากนั้นใส่น้ำจิ้มแจ่ว ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว และน้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ

4.ใส่พริกสด และพริกชีฟ้าแดง ผัดเร็วอีกครั้ง ตักใส่จานยกเสิร์ฟ พร้อมกับคอหมูย่าง และผักเครื่องเคียงตามชอบ

ปีกไก่แดงทอดกรอบ

ที่บ้านชอบกินปีไก่ทอดกันมาก เดินเข้าออกในครัวหยิบกินไม่หยุด นกว่าปีกไก่เวลานำมาทอดจะสุกง่ายและสุกทั่วชิ้นในเวลาเดียวกัน ปีกไก่ทอดต้องกรอบนอกนุ่มใน จะกินเล่นเพลิน ๆ หรือจะเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้ม ข้าวเหนียวร้อน ๆ ก็อร่อย แต่ส่วนใหญแล้วแฟนคลับเค้าจะไม่กินข้าวเหนียว ชอบกินเล่น ๆ คู่กับเครื่องดืมเย็น ๆ นั้นละที่แฟนคลับชอบ 

ส่วนผสม 
ปีกไก่ 12 ปีก (นกใช้ทั้งปีกไก่บนและล่างรวมกันไม่ได้ตัดแยก)

สีแดงผสมอาหาร เล็กน้อย 

แป้งทอดกรอบ 2 ช้อนโต๊ะ

ผงปรุงรส  ตามชอบ 

ผงกระเทียม ตามชอบ 

พริกไทยดำป่น ตามชอบ 

เม็ดผักชีป่น ตามชอบ 

เกลือป่น ตามชอบ 

วิธีทำ 

1.ล้างแช่ปีกไก่ในน้ำเกลือประมาณ 10-15 นาที นำขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ 

2.ใส่ปีกไก่ลงในชามผสมนำผงปรุงรส ผงกระเทียม พริกไทยดำป่น เม็ดผักชีป่น คลุกให้เข้ากันหมักทิ้งไว้ 10-15 นาที 

3.นำสีแดงผสมอาหารใส่ลงในถ้วยเล็กน้อยผสมด้วยน้ำเปล่าคนให้เข้ากัน

4.ใส่แป้งทอดกรอบและสีแดงผสมอาหาร ลงในชามหมักไก่ จากนั้นนวดให้เข้ากัน

5.ตั้งหม้อทอดใส่น้ำมันตั้งบนเตา รอให้น้ำมันร้อนนำไก่ลงทอดให้สุกกรอบ ตักขึ้นฟักให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานยกเสิร์ฟ 

วันนี้นกทำน้ำพริกไข่ต้มกินคู่กับปีกไก่แดงทอดกรอบด้วย หากเพื่อนสนใจน้ำพริกไข่ต้ม อ่านได้จากลิงค์นี้ https://pinkroselove-nd.blogspot.com/2024/09/blog-post_80.html

น้ำพริกไข่ต้ม

วันนี้นกทำน้ำพริกไข่ต้ม กินเป็นอาหารมื้อเที่ยง ช่วงนี้พริกที่บ้านออกเยอะมากจริงๆ เก็บกินทุกวัน รวมถึงเก็บแช่ช่องแข็งเอาไว้แล้วด้วย แฟนคลับบอกว่าปีนี้อากาศดี ทำให้พริกที่เราปลูกออกเยอะ อีกอย่างเราปลูกไว้หลายตัวด้วย เพราะกลัวว่าจะไม่ได้ผลเท่าที่ควรเหมือนปีที่แล้ว สำหรับไข่ไก่วันนี้นกใช้ไข่ไก่สีขาว ช่วงนี้ที่ห้างฯมีแต่ไข่ไก่สีขาว สำหรับเรื่องของไข่ไก่ มีสีเปลือกที่แตกต่างกัน หากเพื่อนชาวครัวสนใจแวะอ่านได้จากลิงค์นี้ https://nd-nokdiary.blogspot.com/2021/09/blog-post_06.html

ส่วนผสม 

ไข่ต้ม 3 ฟอง

พริกหยวก 4 เม็ด

พริกหนุ่ม 3  เม็ด

พริกแดงหวาน 2  เม็ด

พริกจินดาแดง 8  เม็ด

 พริกสดเขียว 8  เม็ด

กระเทียม 1

หอมแดง 2

น้ำตาลปี๊บ ตามชอบ

น้ำปลา  ตามชอบ

น้ำมะนาว  ตามชอบ

น้ำตาล  ตามชอบ

วิธีทำ 

1.ตั้งหม้อน้ำต้มไข่บนเตาใช้ไฟแรงต้มประมาณ 8-10 นาทีหรือจนกว่าไข่จะสุก นำไข่ไปปลอกเปลือกหั่นเป็นชิ้น ๆ พักไว้
2.นำพริกหยวก พริกหนุ่ม พริกแดงหวาน พริกจินดาแดง พริกสดเขียว ไปย่างให้ทุกอย่างสุกหมอ 
3.นำส่วนผสมที่ย่างทั้งหมดไปตำให้ละเอียดตามชอบ  ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ คนส่วนผสมให้เข้ากัน 
4.นำไข่ต้มที่หั่นเตรียมไว้ใส่ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่น้ำมะนาว ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันชิมรสตามชอบ 

ตักใส่ถ้วยยกเสิรฟ์พร้อมผักสด 

วันนี้นกทำน้ำพริกไข่ต้มเสิรฟ์คู่กกับปีกไก่แดงทอดกรอบ หากเพื่อนชาวครัวสนใจแวะอ่านได้จากลิงค์นี้ https://pinkroselove-nd.blogspot.com/2024/09/blog-post_29.html

แกงส้มปลาSea bream กับแอปเปิ้ล

แอปเปิ้ลเริ่มออกลูกเขียว ๆ ให้พอได้เก็บทำแกง ทำน้ำพริกได้แล้ว  ปีนี้แอปเปิ้ลออกลูกเร็วมากๆ ดีหน่อยที่อากาศไม่เย็นจนทำให้ดอกแอปเปิ้ลแข็งอมน้ำ ทำให้ดอกแข็งแรงติดลูกมากกว่าปีที่แล้ว ที่บ้านพ่อต้นใหญ่

ออกลูกจนกิ่งข้างหนึ่งโน้มกิ่งลงมาจนเก็บได้เลย ปกติกิ่งนี้นกต้องให้แฟนคลับมาเก็บให้เพราะเก็บไม่ถึง

ปีนี้แค่เขย่งเท้านิดเดียวก็เก็บได้แล้ว

ส่วนผสม 

ปลาSea bream (ปลาอีคุด) 2 ตัว

เแอปเปิ้ลเขียว ( แอปเปิ้ลอ่อน) 4 ลูก

น้ำเพริกแกงส้มใต้ 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล ตามชอบ

น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

เกลือป่น ตามชอบ

น้ำตาลปี๊บ ตามชอบ

น้ำเปล่าสำหรับทำน้ำแกง

วิธีทำ 

1.ล้างหั่นปลาและแอปเปิ้ลเขียว เป็นชิ้น ๆ ขนาดตามชอบ พักไว้

2.ตั้งหม้อน้ำเปล่าบนเตา ใส่เครื่องแกงลงไปผสมให้เข้ากัน รอจนเครื่องแกงเดือด 

3.ใส่ปลาลงในหม้อ อย่าคนปลาในหม้อ เพราะทำให้คาว รอจนกระทั้งเนื้อปลาเริ่มสุก

4.ใส่แอปเปิ้ลเขียว  ปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือป่น น้ำตาลปีบ  น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล  ชิมรสตามชอบ ทุกอย่างสุก ตักใส่ถ้วยยกเสิร์ฟคู่กับไข่เจียวหมูสับได้เลย

น้ำพริกมะเขือเทศแอนโชวี่

 วันนี้เข้าครัวชวนเพื่อน ๆ ชาวครัวทำน้ำพริกมะเขือเทศแอนโชวี่  เมนูเอาใจคนชอบกินน้ำพริก ผักสด และรักสุขภาพกันเถอะ 

Anchovy/แอนโชวี่ หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักในนามว่า ปลาร้าฝรั่ง ปลาร้าอิตาลี เป็นปลาน้ำเค็มขนาดเล็ก ในภาษาไทยจะเรียกรวม ๆ กันว่า "ปลากะตัก", "ปลาแมว","ปลาหางไก่", "ปลาไส้ตัน" หรือ "ปลากล้วย" มีวิธีการทำก็คล้ายๆกับปลาร้าของไทย คือจะแล่ปลาและทำความสะอาดก่อนที่จะนำไปหมัก ซึ่งจะหมักแช่ในเกลือ  แช่ในน้ำมันมะกอ หรือจะดองในน้ำส้มสายชู แล้วแต่จะเลือกวิธีการใช้ จากนั้น ก็จะทิ้งไว้ตามระยะเวลาที่กำหนด 

ส่วนใหญ่แล้ว  Anchovy จะแช่ในน้ำมันมะกอก โดยจะใช้ทั้งตัวและน้ำมันเพื่อปรุงอาหาร Anchovy จะมีรสชาติเค็มและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์  Anchovy เป็นปลาที่เรียกว่า ถ้าใครชอบก็ชอบเลย แต่ถ้าใครไม่ชอบก็ไม่ชอบเอาเสียเลย 

ส่วนผสม 

พริกชี้ฟ้าแดง 10 เม็ด

กระเทียม 1 หัว

หอมแดง 2 หัว

มะเขือเทศ 2 ผล

ปลาร้าฝรั่ง (Anchovy/แอนโชวี่ /ปลาร้าอิตาลี)  100 กรัม

น้ำปลา ตามชอบ

ผงปรุงรส  ตามชอบ

พริกป่น  ตามชอบ

น้ำมะนาว  ตามชอบ

วิธีทำ 
1.นำพริกชี้ฟ้า หอมแดง กระเทียม มะเขือเทศ ไปย่างจนสุก แล้วเเกะเปลือกออก หั่นให้เรียบร้อย
2.นำพริกชี้ฟ้า กระเทียม หอมแดง และมะเขือเทศ ตำให้ละเอียดตามชอบ ตักใส่ถ้วย
3.ใส่น้ำร้อนลงในปลาร้าฝรั่ง คนให้เข้าจนเป็นเนื้อเดียวกัน 

4.เทลงในถ้วย ปรุงรสด้วยน้ำปลา ผงปรุงรส พริกป่น น้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ
5.ตักใส่ถ้วยยกเสิร์ฟคู่กับผักสด หมูย่างหอมๆ ข้าวเหนียวร้อนๆ ตามชอบได้เลย

แกงส้มหมูกรอบ

ส่วนผสม 

หมูกรอบ 1 ถ้วย

น้ำพริกแกงส้ม  2 ช้อนโต๊ะ

สับปะรด 1/4 ลูก

Savoy cabbage (กะหล่่าปลีซาวอย) 1/4 หัว

กะหล่ำดอก 1 กำมือ

แครอท 1 หัว

ข้าวโพดอ่อน 4 ฝัก

ถั่วฝักยาว 3 ฝัก

ถั่วลันเตาหวาน 10 ฝัก

น้ำส้มแอปเปิ้ล ตามชอบ

น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ

เกลือป่น 

น้ำตาลปี๊บ 

ซุปหมูก้อน  1 ก้อน

น้ำเปล่าสำหรับทำน้ำแกง

วิธีทำ 

1.ล้างหั่นผักทุกอย่างเป็นชิ้นพอคำพักไว้  

2.ตั้งหม้อใส่น้ำสำหรับทำน้ำแกงบนเตาพร้อมด้วยซุปหมูก้อน รอให้น้ำเดือดเติมพริกแกงส้มลงไป คนให้ละลายเข้ากันดี 

3.ใส่แครอท ข้าวโพดอ่อน ถั่วฝักยาว ถั่วลันเตาหวาน สับปะรด ลงต้มก่อนจนกระทั้งเริ่มสุก 

4.ใส่ Savoy cabbage (กะหล่่าปลีซาวอย) กะหล่ำดอก ถั่วลันเตาหวาน ลงไปต้มต่อ

5.ใส่หมูกรอบตามลงไปคนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วย น้ำปลา เกลือป่น น้ำตาลปี๊บ และน้ำส้มแอปเปิ้ล 

6.ต้มจนกระทั้งผักทุกอย่างสุกหมด ชิมรสตามชอบ ตักใส่ชามยกเสิรฟ์ 

ไก่ผัดกะปิตะไคร้

เมนูนี้ต้องยกให้กับน้องสาว เพราะเธอเป็นคนชอบกินตะไคร้สุด ๆ เมนูไหนที่มีต้นตะไคร้ เธอมักจะตักขึ้นมากินอย่างอร่อย ที่บ้านน้องสาวเราปลูกต้นตะไคร้ เป็นพืชสวนครัวไว้กินตลอดปี ไม่ต้องซื้อหาจากที่ไหน นอกจากปลูกไว้กินเองแล้วจัดเป็นกำ ๆ ไว้ขายอีกด้วย 

ส่วนผสม 

น่องติดสะโพกไก่  2

ตะไคร้  6 

พริกสด  ตามชอบ (สีแดงทำเครื่องผัด สีเขียวใส่ในผัด)

หอมแดง 2 หัว

กระเทียม 5 กลีบ

กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำอุ่น 3 ช้อนโต๊ะ

ซีอิ้วขาว ตามชอบ

น้ำมันหอย  ตามชอบ

น้ำตาลทราย ตามชอบ

ใบโหระพา 1 กำมือ

น้ำมันสำหรับผัด

วิธีทำ 

1.ล้างหั่นสับน่องติดสะโพกไก่ ขนาดตามชอบ  

2.หั่นซอยตะไคร้ พริกสด เด็ดใบโหระพา ละลายกะปิกับน้ำอุ่น 

3.ใส่พริกสด กระเทียม หอมแดง ตะไคร้ ลงไปโขลกให้เข้ากัน 

4.ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันลงไปรอให้น้ำมันเริ่มร้อน ใส่เครื่องที่โขลกไว้ผัดจนกระทั้งส่งกลิ่นหอม

5.ใส่เนื้อไก่ลงไปผัดให้เข้ากัน เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย ผัดจนกระทั้งไก่เริ่มสุก

6.ใส่กะปิที่ละลายไว้ลงไปให้เข้ากัน ผัดจนกระทั้งน้ำกะปิเริ่มงวดลง

7.ใส่ตะไคร้ซอย พริกสดซอย ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย  น้ำตาลทราย ผัดจนทุกอย่างสุก  ชิมรสตามชอบ

8.ใส่ใบโหระพา ลงไปผัดให้เข้ากัน ตักใส่จานยกเสิร์ฟ 

ผักกาดดองผัดวุ้นเส้นใส่ไข่

เมนูนี้มาจากความอยากกินล้วน ๆ อยากกินผักกาดดองผัดไข่ และก็อยากกินวุ้นเส้นผักไข่ ในเวลาเดียกันแต่ด้วยความที่ส่วนผสมไม่ค่อยจะมีมากโดยเฉพาะไข่ไก่ เลยต้องจับทั้งหมดมารวมกันในเมนูเดียว บอกได้เลยว่ามันอร่อยมากๆ

ส่วนผสม 

ผักกาดดอง 1 หัว

วุ้นเส้น 1 ซอง

ไข่ไก่ 3 ฟอง

กระเทียม 3 กลีบ

ต้นหอม ตามชอบ

พริกสด 3-4 เม็ด

ซีอิ้วขาว  ตามชอบ

น้ำมันหอย  ตามชอบ

น้ำตาลทราย ตามชอบ

น้ำมันพืชสำหรับผัด

วิธีทำ 

1.ล้างหั่นและบีบน้ำผักกาดดองให้แห้ง หั่นพริกสด  ต้นหอม ทุบกระเทียม และนำวุ้นเส้นแช่น้ำ 

2.ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันลงไปพอน้ำมันเริ่มร้อน ใส่กระเทียมลงเจียวให้พอหอม 

3.ตอกไข่ลงในกระทะ ผัดให้ไข่เริ่มสุก 

4.ใส่ผักกาดดองลงไปผัดให้หอม

5.ใส่วุ้นเส้นลงในกระทะ เติมน้ำนิดหน่อย ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ

6.โรยด้วยต้นหอม พริกสด ผัดเร็วอีกครั้ง ตักใส่จานยกเสิร์ฟ

ข้าวราดพริกแกงเป็ดอบ

เนื้อเป็ดอบเหลือนิดหน่อย นกแช่แข็งเอาไว้ วันนี้ได้โอกาสเอามาทำพริกแกงราดข้าว ส่วนแฟนคลับวันนี้อยากกินฟิชแอนด์ชิปส์ (Fish And Chips) เจ้าประจำของเค้า เห็นบ่นอยู่หลายวันแล้ว นกอยากกินอะไรเผ็ด ๆ เลยแยกเมนูกัน จริงๆ แล้วที่บ้านบางครั้งก็กินด้วยกัน บางครั้งก็ทำเมนูแยกกัน แต่ถ้าสามารถกินด้วยกันได้ก็ดีมาก เพราะทำครั้งเดียวกินได้ทั้งสองคน 

ส่วนผสม 

เนื้อเป็ดอบ 180 กรัม (นกแยกหนังเป็ดออกแล้ว)

ถั่วฝักยาว 2  ฝัก

ขิงซอย 1/2 แง่ง

พริกหวาน  1/4 ผล

ข้าวโพดอ่อน 3 ฝัก

ถัวลันเตาหวาน 10 ฝัก

พริกสด 4-5 เม็ด

ใบโหระพา เล็กน้อย

พริกแกงเผ็ด 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำปลา ตามชอบ 

น้ำตาลทราย ตามชอบ

น้ำเปล่า เล็กน้อย

น้ำมันพืชสำหรับผัด

วิธีทำ 

1.หั่นเนื้อและหนังเป็ดอบ ล้างหั่นถั่วฝักยาว ถั่วลันเตาหวาน พริกหวาน ข้าวโพดอ่อน 

2.ตั้งกระทะบนเตาใส่หนังเป็ดลงในกระทะผัดจนกระทั้งมีน้ำมันในกระทะ ตักหนังเป็ดขึ้น

3.ใส่พริกแกงเผ็ดลงผัดให้หอม 

4.ใส่ถั่วฝักยาว ถั่วลันเตาหวาน พริกหวาน ข้าวโพดอ่อน ลงผัดให้เข้ากับเครื่องแกง เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย ผัดจนกระทั้งผัดเริ่มสุก

5.ใส่เนื้อเป็ดอบหั่นชิ้นลงผัดให้เข้ากันปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ รอจนทุกอย่างสุก

6,ใส่พริกสด ขิงซอบ และใบโหระพาผัดให้เข้ากันปิดไฟ ตักใส่จานยกเสิรฟ์