ผัดไทยกุ้งสด โบราณๆ สูตรของคุณยายที่บ้าน

ผัดไทยกุ้งสดโบราณๆ สูตรแบบของคุณยายทำให้กินเป็นประจำเมื่อกลับไปบ้าน หากเราจะพูดถึงผัดไทย เมนูอาหารจานเดียวที่มีชื่อเสียวดังไปไกลระดับโลก ทุก ๆ คนรู้จักและคุ้นเคยกับเมนูนี้เป็นอย่างดี ทำกินเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ผัดไทยอร่อย ๆ หลากหลายร้านที่นิยมให้ได้พูดถึงให้ได้ยินกันบ่อย ๆ แต่ส่วนตัวนั้นจะชอบแบบที่คุณยายที่บ้าน ผัดให้กิน  ทุก ๆ ครั้งที่มีโอกาสกับไปบ้านไปเยี่ยมน้องสาวและคุณยาย ก็มักจะให้คุณยายทำผัดไทยให้กินเสมอๆ เราชอบรสชาติ ผัดไทยแบบที่คุณยายทำ มีความรู้สึกว่าน้ำซอสรสชาติกลมกล่อม เส้นที่ใช้ผัดก็จะเหนียวนุ่มน่ากิน


ส่วนผสม 
ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก 200 กรัม
ซอสผัดไทย  5 ช้อนโต๊ะ
กุ้งสด 10 ตัว
กุ้งแห้ง 30 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง
เต้าหู้ขาว 100 กรัม
หัวไชโป๊ 2 ช้อนโต๊ะ
ถั่วงอกดิบ 1 กำมือ
ใบกุยช่าย 1 กำมือ
น้ำมันพืชสำหรับผัด 
ผักเคียงกินคู่กับผัดไทย 

วิธีทำ 
ล้างปลอกเปลือกกุ้ง หั่นเต้าหู้ขาว สับหัวไชโป๊ ล้างถั่วงอกดิบ หั่นใบกุยช่าย แตงกวา มะนาวและหั่นแช่หัวปลี พักไว้
ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะรอให้น้ำมันร้อน ใส่เต้าหู้ลงไปผัดในกระทะผัดเต้าหู้พอเหลือง
ใส่กุ้งแห้ง หัวไชโป๊สับลงไปผัด ตอกไข่ใส่ลงไป ตีให้พอแตกรอจนไข่เริ่มสุก เขี่ยหลบไว้ข้างกระทะ
ใส่กุ้งสดลงไปผัดให้พอสุก เขี่ยไว้ข้างกระทะรวมกับเต้าหู้ขาว กุ้งแห้ง และหัวไชโป๊
ใส่เส้นเล็กที่แช่น้ำแล้วลงไปผัดให้เข้ากันเบา ๆ  ใส่น้ำซอสผัดไทยลงผัดให้เข้ากัน
ใส่ถั่วงอกดิบ ใบกุ๋ยฉ่าย ผัดเร็ว ๆ ให้เข้ากันอีกครั้ง  
ตักใส่จานยกเสิร์ฟคู่กับผัดสด ถั่วลิสงคั่วบด พริกป่น และมะนาว






🌸สำหรับซอสผัดไทยที่บ้านจะเคี่ยวไว้ก่อนล่วงหน้าหนึ่งวันก่อนจะทำผัดไทย ส่วนผสมประกอบด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะขามเปียก พริกป่น น้ำเปล่า  ขั้นตอนการทำให้ผสมน้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก น้ำปลา และพริกป่นเข้าด้วยกัน นำขึ้นตั้งไฟ ต้มเคี่ยวจนน้ำตาลละลายเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นก็ชิมรสชาติตามชอบได้เลย🌸








น้ำพริกมะขามอ่อนแบบผัด

วันนี้ครัวบ้านนกขอนำเสนอเมนูเพื่อสุขภาพ น้ำพริกมะขามอ่อน เมนูชอบของใครหลาย ๆ คน  มีรสชาติที่กลมกล่อม เปรี้ยวนำ หวานตาม และไม่เผ็ดจนเกินไป  ทำได้ง่ายๆ ทำครั้งหนึ่งเก็บไว้กินได้หลายวันเลย น้ำพริกมะขามอ่อน นำไปคลุกกับข้าวสวยร้อย ๆ  กินคู่กับผักสด อร่อยมาก ๆ 





ส่วนผสม 
มะขามอ่อน 300 กรัม
หมูสับ 150 กรัม
พริกสด 8-10 เม็ด
หอมแดง 4 หัว
กระเทียม 4 กลีบ
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น  เล็กน้อย
น้ำตาลปี๊บ ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำมันสำหรับผัด 
ผักสด

วิธีทำ 
1.นำมะขามอ่อนมาล้างทำความสะอาดผิว นำขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ 
2.นำมะขามอ่อนใส่ลงในครก ใส่เกลือป่นลงไปโขลกให้ละเอียด ตักขึ้นพักไว้ (การใส่เกลือป่นจะทำให้มะขามไม่ดำ)
3.โขลกพริกขี้หนู กระเทียม และหอมแดง ให้ละเอียดตามชอบ ใส่กะปิลงไปโขลกให้เข้ากัน 
4.ตั้งกระทะใส่น้ำมันสำหรับผัดลงไป รอให้น้ำมันเริ่มร้อน ใส่เครื่องที่โขลกไว้ ผัดให้พอเริ่มหอม ๆ
5.ใส่หมูสับลงในกระทะ ผัดให้เข้ากับเครื่องปรุงที่โขลกไว้ 
6.ใส่มะขามอ่อนลงผัดต่อจนน้ำพริกแห้ง มีสีเข้มขึ้น  ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ผัดจนเข้ากันดี ใส่พริกสดลงไปผัดเข้าด้วยกัน ชิมรสตามชอบตักน้ำพริกใส่ชาม พร้อมเสิร์ฟคู่ผักสด









ผัดฟักทองใส่ไข่ เมนูเด็ก ๆ ชอบ

ฟักทองที่สวนของน้องสาว ออกลูกมาให้ได้กินแล้ว จริงๆ แล้วฟักทองต้นนี้น้องสาวไม่ได้ปลูก เอาเม็ดมาโยนทิ้งเอาไว้เฉย ๆ ไม่ได้ดูแลเอาใจใส่ กับได้ฟักทองลูกงาม ๆ มาให้กิน สิ่งแรกที่คิดนั้นก็คือเมนูผัดฟักทองใส่ไข่ เมนูย้อนวัยสมัยเด็กๆ เมนูโปรดของใครหลายๆ คน  กินง่าย เมนูนี้เด็ก ๆ ส่วนใหญ่จะชอบกันทุกคน ทำง่าย ๆ ด้วยส่วนผสมไม่กี่อย่าง






ส่วนผสม 
ฟักทอง 1/2 ลูก
ไข่ไก่  4-5 ฟอง
กระเทียม 3 กลีบ
ซี้อิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย ตามชอบ 
น้ำเปล่า  เล็กน้อย
น้ำมันสำหรับผัด

วิธีทำ  
1.ล้างหั่นฟักทองเป็นชิ้น ๆ ขนาดตามชอบ สับกระเทียม พักไว้
2.ตั้งกระทะไฟกลางใส่น้ำมัน พอน้ำมันร้อนใส่กระเทียมสับ ผัดให้เหลืองหอม
3.ใส่ไข่ลงไปผัดยีให้แตก ผัดจนกระทั้งไข่สุก  ตักใส่จานพักไว้
4.ใส่ฟักทองลงในกระทะใบเดิมผัดสักพัก ใส่น้ำเปล่าลงในกระทะ ปิดฝารอจนกระทั้งฟักทองสุก
5.ฟักทองเริ่มสุก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย ผัดให้น้ำแห้งลงเล็กน้อย ชิมรสตามชอบ
6.ใส่ไข่ที่ผัดไว้กลับลงไปในกระทะ ผัดให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ จัดใส่ยกเสิร์ฟ








ต้มยำหัวปลากะพงน้ำใส

ช่วงที่กลับไปบ้าน ได้มีโอกาสไปตลาดที่บ้านหลานครั้ง วันนี้นกไปตลาดเช้าวันอาทิตย์กับน้องสาว ได้หัวปลากะพงสด ๆ มาทำต้มยำหัวปลากะพง เมนูต้มยำน้ำใส น้ำซุปหวานหอมอร่อย รสแซ่บจัดจ้านถึงใจ  ซดน้ำซุปร้อนๆ คล่องคอ ไม่กังวัลเรื่องกลิ่นคาวปลา  จะกินคู่กับข้าวสวย หรือจะเป็นกับแกล้มก็อร่อยทั้งนั้น ทำง่ายๆไม่ยุ่งยาก




ส่วนผสม  
หัวปลากะพง 2 หัว
หอมแดง 4 หัว
กระเทียม 4 กลีบ
รากผักชี 5 ราก
ข่า 1 แง่ง
ตะไคร้ 3-5 ต้น
ใบมะกรูด ตามชอบ
ต้นหอม/ผักชี  ตามชอบ
มะเขือเทศ 3-5 ลูก
หอมหัวใหญ่ 1 หัว
เห็ดออริจิน 180 กรัม
น้ำมะนาว   ตามชอบ
พริกสด 10-15 เม็ด
พริกป่น  ตามชอบ
น้ำปลา  ตามชอบ
เกลือป่น ตามชอบ
น้ำตาลทราย ตามชอบ
น้ำเปล่าสำหรับทำน้ำต้มยำ

วิธีทำ
1.ล้างหั่นหัวปลากะพง  มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ เห็นออริจิน  รากผักชี ใบมะกรูด บุบหอมแดง กระเทียม  ข่า ตะไคร้ โขลกพริกสดและเกลือป่น พักไว้
2.ตั้งน้ำบนเตาให้เดือดแล้วใส่กระเทียม หอมแดง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด  รากผักชี ลงไปต้มจนน้ำมีกลิ่นรสสมุนไพร
3.ใส่หัวปลาลงไปต้ม ต้มจนหัวปลาสุก (ห้ามคนปลาในหม้อต้มจนกว่าปลาจะสุก เนื้อปลาเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่น)
4.ใส่เห็ดออริจิน หอมหัวใหญ่ ลงในหม้อ 
5.ใส่มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ ลงไปต้มต่อ ใส่พริกสดที่โขลกไว้ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ
6.ใส่ต้นหอม ผักชี คนให้เข้ากันอีกครั้ง ต้กใส่ถ้วยโรยหน้าด้วยต้นหอมผักชี และพริกป่น ยกเสิร์ฟ








ผัดขี้ยางใส่ไข่/ไชโป๊ผัดไข่

เพื่อนชาวครัวหลายคน ๆ อาจจะไม่รู้จัก หากเอ๋ยถึงชื่อเมนู"ผัดขี้ยางใส่ไข่" เพราะเป็นชื่อเรียกเฉพาะของคนพื้นเมืองท้องถิ่นทางภาคใต้ ในบางจังหวัดที่เรียกผัดไชโป๊ว่าผัดขี้ยาง ส่วนตัวไม่มีความรู้ว่าชื่อนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร แต่ยินคุณยายเรียก น้องสาวที่บ้านก็เรียกแบบเดียวกัน จากการสอบถาม คุณยายบอกว่าที่เรียกว่าผัดขี้ยางเพราะไชโป๊ เป็นเส้นๆเหมือนกับขี้ยาง ซึ่งขี้ยางนี้ได้มาจากน้ำยางที่แห้งติดรอยกรีด ลอกออกจากหน้ายางก่อนกรีด ขี้ยางชนิดนี้ ชาวสวนยางเรียกว่าขี้เส้น สามารถเก็บและนำไปขายได้  สำหรับไชโป๊ผัดไข่ เป็นเมนูอาหารแสนง่าย ใช้เวลาไม่นาน กินคู่กับข้าวต้ม หรือข้าวสวยก็อร่อยทั้งนั้น





ส่วนผสม 
หัวไชโป๊วหวานแบบเส้น 380 กรัม
ไข่ไก่ 4 ฟอง
กระเทียม 4 กลีบ
น้ำตาลทราย  ตามชอบ
ซีอิ๊วขาว ตามชอบ
น้ำมันสำหรับผัด

วิธีทำ 
1.นำกระเทียมมาสับพอหยาบ ๆ ตอกไข่ไก่ใส่ถ้วยรอไว้ จากนั้นล้างหัวไชโป๊ว ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
2.ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ใช้ไฟกลาง ๆ รอจนน้ำมันเริ่มร้อนใส่กระเทียมลงไปเจียวให้หอม ตามด้วยไชโป๊วลงไปผัดให้เข้ากันจนไชโป๊วสุก
3.ใส่ไข่ไก่ที่ตอกไว้ลงตรงกลาง รอให้ไข่สุก แล้วค่อยๆกลับไข่อีกด้าน เกรี่ยงไข่เรื่อย ๆ ผัดไปมาจนไข่สุก ปรุงรส ซีอิ้วขาว น้ำตาลทรายชิมรส (ก่อนจะปรุงให้ชิมรสก่อน เพราะหัวไชโป๊วมีรสชาติอยู่บ้างแล้ว) ตักใส่จานยกเสิร์ฟ 








น้ำชุบลูกม่วงเบา/น้ำพริกมะม่วงเบา

น้ำชุบลูกม่วงเบา/น้ำพริกมะม่วงเบา เป็นน้ำพริกของชาวปักษ์ใต้ ที่มีรสชาติเปรี้ยวเผ็ดแซ่บ หอมกลิ่นกะปิย่าง ใครได้กินแล้วจะติดในความอร่อย สำหรับลูกม่วงเบาหรือมะม่วงเบานั้นเป็นมะม่วงพันธุ์พื้นเมืองทางภาคใต้  มีผลขนาดเล็กกินได้ทั้งผลดิบ ๆ และผลสุก 






ผลดิบนั้นจะมีรสเปรี้ยว นำมาปรุงเป็นอาหารอย่างน้ำพริก แกงส้ม หรือจะกินคู่กับน้ำปลาหวานก็อร่อย แต่หากปล่อยให้สุกเหลือง มะม่วงก็จะมีรสหวาน สามารถนำแปรรูปเป็นมะม่วงกวน มะม่วงแผ่น หรือจะนำมาปั่นกับน้ำแข็งก็อร่อย น้ำชุบลูกม่วงเบา/น้ำพริกมะม่วงเบา มีส่วนผสมไม่เยอะ ทำง่ายอร่อยมาก ต้องลอง






ส่วนผสม  
มะม่วงเบา 6-7 ลูก
กะปิ 2  ช้อนโต๊ะ
พริกสด 10-12  เม็ด (หากต้องการเผ็ดมาก ก็ใส่พริกให้มากได้)
หอมแดง 3 หัว
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ (นกใช้น้ำตาลแว่นขนาดใหญ่ ใส่ 2 แว่น)

วิธีทำ 
1.นำกะปิห่อด้วยใบตอย่างไฟ หรือนำไปจีในกระทะให้หอม ปลอกหอมแดง เปลือกมะม่วงล้างสับหรือขูดให้เป็นเส้นๆ พักไว้
2.ใส่หอมแดงและพริกสดลงไปโขลกพอแหลก ใส่กะปิที่เผาลงไปตามด้วยน้ำตาลปี๊บโขลกส่วนผสมให้เข้ากัน 
3ใส่มะม่วงสับลงไปโขลกคลุกเคล้าจนเข้ากันดี ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟพร้อมผักเคียงตามชอบ 









ข้าวผัดแหนมตุ้มจิ๋ว

หากจะพูดถึงแหนม ส่วนตัวจะนึกถึงเมนูอาหารจานเดียวนั้นคือข้าวผัดแหนม ข้าวผัดหอมกลิ่นคั่วกระทะ รสชาติกลมกล่อม อร่อยสุดๆ ยิ่งได้ฝีมือคุณยาย(แม่)ผัดให้กิน ยิ่งอร่อย





ส่วนผสม 
ข้าวสุกเย็น 1 ถ้วย
แหนมตุ้มจิ๋ว 5 อัน
ผักคะน้า 2 ต้น
ไข่ไก่  2  ฟอง
กระเทียม 3 กลีบ
หอมหัวใหญ่ 1/2 หัว
ผงปรุงรส  เล็กน้อย
ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วดำหวาน  ตามชอบ
น้ำตาลทราย   ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับผัด

วิธีทำ
1.ล้างหั่นคะน้า หอมหัวใหญ่ สับกระเทียม และหั่นแหนมพักไว้ ตั้งกะทะบนเตาใส่น้ำมันพืชสำหรับผัด รอให้น้ำมันร้อน 
2.ใส่กระเทียมและหอมหัวใหญ่ผัดให้เข้ากันจนหอมเริ่มสุก ตอกไข่ลงในกะทะ ใช้ตะหลิวขยี้ให้ไข่กระจายจนกระทั้งเริ่มสุกปานกลาง 
3.ใส่แหนมในกะทะผัดให้แหนมกระจายตัว นำข้าวสวยเย็นลงไปผัดคลุกเคล้าให้เข้า
4.ใส่ผักคะน้าลงไปผัดต่อ ปรุงรสด้วย ผงปรุงรส ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย ซีอิ้วดำหวาน น้ำตาลทราย 
เร่งไฟให้แรงขึ้น ผัดผักให้คะน้าสุกและเข้ากันดี ชิมรสตาม
5.ตักใส่จาน ยกเสิร์ฟ พร้อมด้วยแตงกวาและมะนาวหั่นซีก








ตำมะเขือเปราะ/ซุปมะเขือ

ครัวบ้านนกขอนำเสนอตำมะเขือเปราะ/ซุปมะเขือ อาหารทางภาคเหนือที่หลาย ๆคนคุ้นเคยกันดี ตนเองทำในแบบฉบับของที่บ้าน สูตรง่าย ๆ ไม่ใส่น้ำปลาร้าก็อร่อย อาหารคลีนเพื่อสุขภาพ จะกินเล่นคู่กับ
ผักสดหรือจะกินคู่กับข้าวเหนียวร้อน ๆ ก็อร่อยเช่นเดียวกัน






ส่วนผสม 
มะเขือเปราะ 15 ลูก 
พริกสด 10 เม็ด
พริกชี้ฟ้า 5 เม็ด
พริกหนุ่ม 7-8 เม็ด
หอมแดง 5 หัว
กระเทียม 1 หัว 
ไข่ต้ม 3 ฟอง
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ 
เกลือป่น  ตามชอบ
สะระแหน่  ตามชอบ
ต้นหอม ผักชี  ตามชอบ

วิธีทำ 
1.นำพริกสด พริกชี้ฟ้า พริกหนุ่ม หอมแดง กระเทียม ไปย่างให้สุก นำมา มาลอกเปลือกออก เตรียมไว้
2.ตั้งหม้อต้มน้ำบนเตาใส่เกลือป่นลงไปเล็กน้อย พอน้ำเดือดใส่มะเขือเปราะลงไปต้มจนสุก
3.ตำพริก กระเทียม หอมแดง ให้แหลกตามชอบ 
4.ใส่มะเขือเปราะต้ม ที่หั่นไว้ลงไปตำให้เข้ากัน แบ่งต้นหอมผักชืเล็กน้อย 
5.ใส่ลงในครกตำเบาๆ รวมกับมะเขือเปราะ ปรุงรสด้วยน้ำปลาและเกลือป่น คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
6.ตักใส่จานโรยด้วย ต้นหอมผักชี ใบสะระแหน่ และไข่ต้มหั่นชิ้นขนาดตามชอบ ยกเสิร์ฟ 










ข้าวต้มเป็ดใส่Chestnut Mushrooms (เห็ดเกาลัด)

ข้าวต้มเป็ดใส่เห็ดเกาลัด เป็นเมนูข้าวต้มที่ชอบมาก ๆ อีกเมนูหนึ่ง ซึ่งที่บ้านจะทำแบบง่าย ๆ จะใช้เนื้อเป็ดที่อบเอาไว้ทำอาหารและกินไปมื้อหนึ่งแล้ว มาทำข้าวต้มต่อ โดยจะซื้อเป็ดตัว ๆ จากนั้นล้างทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย ก็จะโรยพริกไทยกับเกลือป่นเล็กน้อยบนตัวเป็ดแล้วนำไปอบ และหลังจากที่อบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำไปปรุงอาหารตามที่ต้องการเสียก่อน หลังจากนั้นก็จะเก็บเนื้อ กระดูกที่ยังใช้ไม่หมดนำเข้าแช่แข็งเอาไว้ เพื่อจะนำมาใช้ทำเป็นเมนูอาหารอื่นๆ ในครั้งต่อไปๆ ได้อีก และอย่างเช้าวันนี้เห็นว่าอากาศหนาว ๆ ฝนตก ๆ ทำข้าวต้มเป็นอาหารเช้าน่าจะดี ชวนเพื่อนชาวครัวมาทำกันเลย


 

ส่วนผสม 
ข้าวสวยเย็น 2 ถ้วย
เนื้อและกระดูกเป็ดอบ  ตามชอบ (เนื้ออกเป็ด ปีกเป็ด คอเป็ด และกระดูกช่วงตัวเป็ด)
กระเทียม 4 กลีบ
หอมแดง 3 หัว
ขิงสด 1 แง่ง
เห็ดเกาลัด (Chestnut Mushrooms )  5-6 ดอก
ซุปก้อน 1 ก้อน
เกลือป่น ตามชอบ
พริกไทยป่น เล็กน้อย
ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
น้ำมันกระเทียมเจียว ตามชอบ
ต้นหอม ผักชี  ตามชอบ
น้ำเปล่าสำหรับทำน้ำซุุป

วิธีทำ 
1.หั่นเนื้ออกเป็ด เห็ดเกาลัด ซอยขิงสด ต้นหอมผักชี ทุบกระเทียม หอมแดง พักไว้
2.ตั้งหม้อต้มใส่น้ำเปล่า ซุปก้อนกระเทียม หอมแดง ขิงสด รอให้น้ำเริ่มร้อน 
3.ใส่กระดูกเป็ดลงไปต้มให้เดือด ลดไฟเคี่ยวจนกระดูกอ่อนนุ่ม ให้ได้น้ำซุปเป็ดหอม ๆ
4.นำน้ำซุปที่ได้มากรอง ใส่ข้าวสวยเย็นลงไปในหม้อ ตั้งบนเตาต้มให้เม็ดข้าวบานตามชอบ ปรุงรสด้วยเกลือป่น ผงปรุงรส
5.ใส่เนื้อเป็ดลงเคี่ยวต่อสักพัก 
6.ใส่เห็ดหอม และขิงซอยลงไป คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ เคี่ยวต่อจนทุกอย่างสุกเข้ากัน
7.ตักใส่ถ้วยโรยหน้าด้วยต้นหอมผักชี พริกไทยป่นและกระเทียมเจียว ยกเสิร์ฟ








หมูผัดกะหล่ำดาว (อาหารปิ่นโตไปวัดของคุณยาย)

 หลังจากที่คุณยายท่านเกษียณอายุงาน ท่านก็มีอะไรทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ให้เหงา อย่างช่วยเหลือหมู่บ้าน ชมรมผู้สูงอายุ  เป็นวิทยากรบรรยายให้กับกลุ่มการศึกษานอกโรงเรียน กลุ่มจัดดอกไม้ สิ่งเหล่านี้ทำให้ท่านสนุกกับชีวิตหลังกษียณเป็นอย่างมากๆ นอกจากนี้แล้วยังมีอีกอย่างที่ท่านทำเป็นประจำนั้นก็คือการตักบาตร ในตอนเช้าพร้อมๆ กับเพื่อนบ้าน









และการไปวัดทุก ๆวันพระ ตลอดจนการไปสวดมนต์ในวันสำคัญทางศาสนา ซึ่งการไปวัดของท่าน ทำให้ท่านได้เจอะกับเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกัน มีการจัดทำกิจกรรมช่วยเหลือทางวัดร่วมกัน ลูก ๆ หลานๆ อย่างพวกเราก็สบายใจ ที่ท่านมีอะไรทำ 







ในวันพระทุก ๆ ครั้งก็จะทำเมนูอาหารไปวัดด้วยเสมอ ๆ เส่วนใหญ่แล้วจะมีข้าว แกง ผัด ทอด และผลไม้ สลับกันไป อย่างวันพระนี้เป็นหมูผัดกะหล่ำดาว เป็นอาหารจานผัดที่ท่านชอบและอยากให้ทำไปถวายพระ





สำหรับกะหล่ำดาว/กะหล่ำปลีดาว  (Brussels Sprouts) นั้นเป็นพืชตระกูลกะหล่ำเช่นเดียวกับกะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ บรอกโคลี สามารถกินได้ทั้งดิบและปรุงให้สุก แต่ส่วนใหญ่จะไม่นิยมกินดิบๆ กัน จะนำมาปรุงให้สุกเสียก่อน อย่างเช่นนำมาผัด ต้ม แกงหรือไม่ก็ย่าง 





กะหล่ำดาวนั้นมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และยังเป็นแหล่งของโปรตีน มีสารต้านอนุมูลอิสระ  มีไฟเบอร์สูง  ลดการอักเสบในร่างกาย ฯลฯ เมนูหมูผัดกะหล่ำดาว ทำง่ายอร่อยมาก






ส่วนผสม 
เนื้อหมู 240 กรั
กะหล่ำดาว 180 กรัม
กระเทียม 3 กลีล
น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วขาว ตามชอบ
น้ำตาลทราย ตามชอบ
น้ำมันสำหรับผัด

วิธีทำ 
1.หั่นเนื้อหมู กะหล่ำดาว และสับกระเทียม  นำกะหล่ำดาวลงไปลวกให้พอเริ่มสุก ตักขึ้นพักไว้
2.ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันลงในกระทะ รอให้เริ่มร้อนใส่กระเทียมลงไปผัดให้พอเริ่มหอม
3.ใส่เนื้อหมูลงไปผัดให้เข้ากัน รอจนหมูเริ่มสุก
4.ใส่กะหล่ำดาวที่ลวกไว้ลงไปผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย เติมน้ำเปล่านิดหน่อย ชิมรสตามชอบ
5.ตักใส่ปิ่นโต พร้อมถวาย อีกส่วนตักใส่จานไว้กินที่บ้าน 









นอกจากอาหารจานผัดนี้แล้ว ก็ยังมีปลากระบอกแดดเดียว และน้ำพริก เป็นอาหารถวายพระครั้งนี้อีกด้วย