ไก่ผัดไข่

 วันนี้นกขอทำเมนูง่าย  ๆ แต่อร่อยกินคู่กับข้าวต้มกุ๋ย หรือข้าวสวยร้อน ๆ ก็ได้เช่นกัน สำหรับไก่ผัดไข่ ที่บ้านจะใช้ไข่จากไก่ตัวเล็ก ที่เรียกว่า Bantam ซึ่งไข่ของไก่Bantam มีขนาดเล็ก ไม่มีขายตามท้องตลาดทั่ว ๆ ไป เป็นไก่ที่เลี้ยงตามบ้านเสียส่วนใหญ หากไก่บ้านไหนออกไข่เยอะๆ เค้าจะนำมาใส่กล่องวางขายไว้หน้าบ้าน คนที่นี้จะเรียกว่า free range egg ไข่ที่ได้จะเป็นไข่สด เก็บกันทุกวันเลยค่ะ และก่อนจะลงมือทำขอเทียบให้เห็นความแตกต่างระหว่างไข่ไก่ปกติ กับไข่ไก่   จะเห็นว่าต่างกันครึ่งต่อครึ่งเลยที่เดียว (ไข่ไก่ Bantam  2 ฟอง เทียบกับไข่ไก่ปกติ  1 ฟอง)







ส่วนผสม
ไข่ไก่ Bantam 5  ฟอง
เนื้ออกไก่หั่นชิ้นพอคำ 200 กรัม
กระเทียมสับ 3  กลีบ
ต้นหอมหั่นท่อน 2  ต้น
พริกไทยป่น   หยิบมือ
ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น  เล็กน้อย
น้ำตาลทราย  เล็กน้อย
พริกชี้ฟ้าหั่นเฉียง   2  ดอก
น้ำมันพืช สำหรับผัด 

วิธีทำ
1. ใส่น้ำมันในกระทะตั้งบนเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรง พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่กระเทียมลงผัดให้พอหอม 
2. ใส่เนื้อไก่ลงผัด พอเริ่มสุกให้เลื่อนขึ้นไปด้านบนเล็กน้อย แล้วตอกไข่ใส่ ลงไปตรงที่ว่าง
3. ยีไข่ในกระทะให้แตก พอไข่เริ่มสุกผัดเคล้ารวมกับเนื้อไก่  ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว เกลือป่นและน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ ส่วนผสมทุกอย่างสุก
4. ใส่ต้นหอม พริกชี้ฟ้าแดง พริกไทยป่นลงไปผัดให้เข้ากันอีกครั้ง จึงตักขึ้นใส่จานยกเสิร์ฟได้เลย


***รูปภาพไก่ Bantam จากอินเตอร์เน็ท***








กล้วยหอมอบน้ำผึ้ง

สำหรับเพื่อนชาวครัวที่ชอบซื้อกล้วยหอมติดบ้านเช่นเดียวกับนก วันนี้นกแนะนำเมนูของหวานรวดเร็ว ๆ ง่ายนิดเดียว ส่วนผสมก็ไม่เยอะรับรองอร่อยถูกใจ





ส่วนผสม
กล้วยหอม 2 ลูก
เนยสดรสจืด 1 ช้อนชา
น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายแดง 1/2 ช้อนโต๊ะ
เม็ดมะม่วงหิมพานอบ ตามชอบ

วิธีทำ
1. ตั้งกระทะไฟอ่อนๆ ใส่เนยสด น้ำตาลทรายแดง และน้ำผึ้ง คนให้ทุกอย่างละลายเข้ากัน พักไว้
2. ผ่ากล้วยหอมตามยาว ขวาง ตามชอบ วางในถ้วยอบ
3. ใส่ซอสน้ำผึ้ง  เอาเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 200C  จนกล้วยอ่อนนุ่มปิดไฟๆในเตาอบ
4. ตักกล้วยใส่จานราดน้ำผึ้งและโรยเม็ดมะม่วงหิมพาน ยกเสิร์ฟคู่กับไอศรีมได้เลย

ซี่โครงหมูตุ๋นลำไย

วันนี้หิมะตกแต่เช้าเลยค่ะ  พยากรณ์อากาศบอกว่าจะมีหิมะตกหนักหลายพื้นที่เลย โดยเฉพาะทางตอนเหนือของประเทศ หิมะตกเยอะ การเดินทางค่อยข้างลำบาก  โรงรียนหลาย ๆ แห่งประกาศหยุดเรียนกันเลยละค่ะ สำหรับแฟนคลับดีหน่อยเพราะที่วันนี้เป็นวันหยุดไม่ได้ไปทำงาน อากาศหนาวๆ อย่างนี้ต้องทำเมนูออุ่น ๆ ร้อน ๆ กิน จะได้คลายหนาว ที่บ้านมีซีโครงหมู และลำไยกระป๋องที่ซื้อมาจากเมืองที่แฟนคลับทำงาน นกใช้ทำข้าวเหนียวเปียกลำไยไปแล้วแต่ยังไม่หมดเหลืออีกส่วน เอามาทำเมนูตุ๋นลำไยก็น่าจะดีไม่น้อย





ส่วนผสม
ซี่โครงหมูต้มจนนิ่ม   300  กรัม
ลำไยกระป๋อง  10-15  ลูก (น้ำลำไยกระป๋อง 2 ช้อนโต๊ะ)
กระเทียม 3  กลีบ
หอมแดง  2  หัว
ขิงหั่นแว่น  1  แง่ง
รากผักชี  1 ราก
ซีอิ้วขาว   2 ช้อนโต๊ะ
ซอสหอยนางรม  1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วดำ   เล็กน้อย  (นกใส่ให้มีสีเข้มเล็กน้อย)
เกลือป่น  ตามชอบ
พริกไทย  หยิบมือ
น้ำซุปหมู    ตามชอบ
ต้นหอม ผักชี หั่นท่อน  ตามชอบ

วิธีทำ
1. โขลก รากผักชี กระเทียม หอมแดง พริกไทย เกลือป่น ให้ละเอียดตามชอบ พักไว้
2. ใส่น้ำซุป ขิงหั่นแว่นในหม้อต้ม นำขึ้นตั้งบนเตา ใช้ไฟร้อน  ต้มน้ำซุปจนเดือด ใส่ส่วนผสมที่โขลกไว้ลงไป
3. ใส่ซีโครงหมูต้มลงไป  ต้มให้สุกนิ่ม ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว ซอสหอยนางรม ซีอิ้วดำเล็กน้อย ชิมรสตามชอบ
4. ใส่ลำไยและน้ำลำไยกระป๋อง  คนให้เข้ากัน ปิดไฟในเตาตักใส่ถ้วย โรยด้วยต้นหอม ผักชี ยกเสิร์ฟได้เลย



ผัดวุ้นเส้นไข่เค็มหมูสับ






ส่วนผสม
วุ้นเส้น ( แช่น้ำให้นุ่มและเสด็ดน้ำแล้ว) 1 ห่อเล็ก
ไข่เค็มดิบ 1 ฟอง 
หมูสับ  100 กรัม
กระเทียมสับ 3 กลีบ
หอมใหญ่  1/2 หัว
กระเทียมดองหั่นซอย  1 หัว (ถ้ามี นกไม่มีเลยไม่ได้ใช้)
ต้นหอมผักชีหั่นท่อน 2 ต้น
พริกชี้ฟ้าหั่นเฉียง  ตามชอบ
คื่นช่าย 1 ต้น
ซีอิ๊วขาว  เล็กน้อย
น้ำมันหอย  เล็กน้อย
พริกไทยป่น ตามชอบ
น้ำมันพืช สำหรับผัด
วิธีทำ

1. ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งบนเตาใช้ไฟปานกลาง พอน้ำมันเริ่มร้อน ใส่กระเทียบสับลงเจียวให้พอหอม ใส่หอมใหญ่
2. ใส่หมูสับ ผัดจนกระทั้งหมูเริ่มสุก ใส่ไข่ใส่ลงผัด ยีไข่ให้แตกผัดจนกระทั้งไข่สุก
3. ใส่วุ้นเส้นลงไป ผัดจนกระทั่ง วุ้นเส้นนุ่ม ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย พริกไทยป่น กระเทียมดอง ชิมรสตามชอบ
4.  ผัดให้ทุกอย่างสุก ใส่ต้นหอม ผักชี คื่นช่ายและ พริกชี้ฟ้า ลงไปผัดเร็ว ๆ อีกครั้ง จากั้นปิดไฟในเตาตักใส่จานยกเสิรฟ์ได้เลยคะ


***สำหรับไข่เค็มที่บ้านจะดองไข่เค็มเอง นกใช้ไข่ไก่ทำเสียส่วนใหญ่ ไข่แดงเลยไม่ค่อยแดงอย่างกับไข่เป็ด แต่ก็ใช้ทดแทนกันได้ค่ะ หากเพื่อน ๆชาวครัวสนใจแวะอ่านได้จากลิงค์นี้นะค่ะ http://pinkroselove-nd.blogspot.co.uk/2008/03/blog-post_5834.html  ***

ข้าวผัดหมูพริกสด

หากถามว่าแม่ชอบข้าวผัดอะไร ลูก ๆ จะตอบได้ทันทีว่าแม่ชอบกินข้าวผัดหมู เวลามีข้าวเย็นเหลือเยอะรู้เลยแม่ต้องเอามาทำข้าวผัดหมูแน่นนอน  บางครั้งใส่พริกสด บางครั้งใส่พริกชี้ฟ้า หรือไม่ก็เป็นผักอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นพริกสดที่ปลูกติดอยู่ในสวนข้างบ้านเสียส่วนใหญ่ นอกจากพริกแล้ว แม่ยังปลูกพืชผักอีกหลายอย่าง สองสาววันก่อนแม่บอกว่ามีคนมาขโมยมะละกอ และมะม่วงเบาไป  แม่บอกว่ามอง ๆ อยู่หลายวันรอให้ได้ที่ก่อนถึงจะเก็บมากิน แต่ยังไม่ได้ทันเก็บคนอื่นมาเก็บไปก่อนเสียแล้ว นกเลยต้องบอกให้น้องสาวหาผ้ามาห่อมะละกอเสียคนจะได้มองไม่เห็น ถึงมองเห็นกว่าจะได้ก็ต้องแก้ผ้าที่ห่อเอาไว้ออก คงใช้เวลานานพอควร ใคร ๆ ที่เดินผ่านไปมาก็ต้องเห็นว่าเข้าไปทำอะไรในสวนแม่ สำหรับมะม่วงก็ใช้ถุงกระดาษมาห่อ แม่บอกว่าถ้ามาขอก็จะแบ่งให้กิน แต่ไม่อยากให้มาขโมย ทำให้เสียความรู้สึกนิดหน่อย  คุยเรื่องขโมยเสียยืดยาว มาดูสูตรทำข้าวผัดหมูกันต่อดีกว่าค่ะ









ส่วนผสม
เนื้อหมูหั่นชิ้นพอคำ ตามชอบ (นกใช้ประมาณ 150 กรัม )
ข้าวสวยเย็น 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 1  ฟอง
กระเทียมสับ 3-2  กลีบ
พริกสดหั่นซอย ตามชอบ (พริกสดที่บ้านปลูกเองค่ะมีหลากหลายชนิดผสมกัน)
หัวหอมแดงซอย 2 หัว
ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายเล็กน้อย
ต้นหอม ผักชี หั่นซอย 2 ต้น
น้ำมันสำหรับผัด

วิธีทำ
1.ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟใช้ไฟร้อน จากนั้น ใส่กระเทียม เจียวให้หอม
2. ใส่เนื้อหมู ผัดจนกระทั้งเนื้อเริ่มหมูสุก ตอกไข่ลงในกระทะ ยีให้ไข่พอแตก รอจนกระทั้งไข่เริ่มสุก ใส่พริกสด หอมแดงลงผัดให้เข้ากัน
3. ใส่ข้าวลง ผัดให้ทั่ว ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ โรยด้วยพริกซอย ต้นหอม ผักชี ผัดเร็ว ๆ อีกครั้งปิดไฟในเตาตักใส่จาน ยกเสิรฟ์คู่กับแตงกวา มะนาวหั่นชิ้นได้เลยค่ะ



ต้มหมูดอกไม้จีน

วันนี้นกโทรคุยกับแม่ สำหรับนกแล้วจะหาโอกาสโทรคุยกับแม่อยู่บ่อยครั้ง หากไม่ได้คุยก็เป็นเพราะแม่เป็นคนของประชาชนไปงานโน่นนี้ไม่ค่อยหยุด จำได้ครั้งหนึ่งโทรไปหาท่านอยู่ในงานๆ หนึ่ง แม่บอกว่าคุยไม่ได้ลูกแม่ยุ่งอยู่อีกอย่างเครื่องเสียงก็ดังเอาไว้คุยกันวันหลังนะลูกนะ  สรุปนกต้องโทรไปคุยกับน้องสาวแทน  อย่างวันนี้แม่ไม่ได้ไปไหน เลยได้คุยกันคุยโน่นนี้จนสุดท้ายมาที่ต้มหมูดอกไม้จีน เพราะนกมีดอกไม้จีนติดบ้านอยากกินเลยต้องขอวิธีทำมาจากท่าน ต้มหมูดอกไม้จีนเป็นสูตรของแม่ที่ชอบทำให้ลูก ๆ กิน ลักษณะคล้ายกับ หมูพะโล้  แต่ไม่มีผงพะโล้ รสชาติหวาน เปรี้ยวเล็ก ๆ ต้มชดน้ำอร่อยมากๆ เลยละค่ะ







ส่วนผสม
เนื้อหมู  ตามชอบ
ดอกไม้จีน 1 กำมือ
หอมแดงทุบ 2  หัวกระเทียมทุบ  3 กลีบ
ส้มแขก 8-10 ชิ้น  (นกไม่มีใช้น้ำมะขามเปียกแทน)
ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วดำหวาน 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าสีอ่อนไปเพิ่มซีอิ้วดำได้อีก)
เกลือป่น  ตามชอบ
น้ำตาลปี๊บ   ตามชอบ
น้ำเปล่า สำหรับต้มหมู
น้ำมันพืช สำหรับผัด 

วิธีทำ  
1. ตั้งกระทะบนเตา ใส่น้ำมันเล็กน้อย ใช้ไฟปานกลาง พอน้ำมันเริ่มร้อน ใส่หอมแดง กระเทียมทุบ ผัดให้พอหอม
2. ใส่เนื้อหมูลงผัดให้เข้ากัน จากนั้นใส่ซีอิ๊วขาว ซีอิ้วดำหวานลง ผัดพอหมูเริ่มตึง
3. ใส่ดอกไม้จีน น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก และน้ำเปล่าเติมน้ำลงไปให้ท่วมเคี่ยวหมูให้เนื้อหมูเปื่อยนุ่ม ชิมรสตามชอบ (รสชาติออกเปรี้ยวหวานกลมกล่อม) 
ตักใส่ชามเสิร์ฟได้เลย





ปลาทอดราดผัดเปรี้ยวหวาน

ช่วงนี้นกใช้ปลาSea Bream มาทำอาหารบ่อยครั้งก็ว่าได้ค่ะ ราคาไม่แพงคิดเป็นเงินไทยก็ตกประมาณตัวละ 130 บาทเห็นจะได้  นกใช้ปลา Sea Bream  ทำเมนูอบอยู่หลายรอบ วันนี้เปลี่ยนเป็นเมนูไทย ๆ กันบ้าง เมนูนี้ออกรสเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ เมูนนี้แฟนคลับที่บ้านชอบถือเป็นอีกเมนูหนึ่งที่ต้องจดเก็บไว้เลยละค่ะ





ส่วนผสม
ปลาSea Bream  1 ตัว
เกลือป่น  เล็กน้อย
ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย  1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย   ตามชอบ
น้ำส้มแอปเปิ้ล 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสมะเขือเทศ  2  ช้อนโต๊ะ
กระเทียมสับ  3 กลีบ
หอมใหญ่หั่นชิ้น 1/2  หัว
แตงกวาหั่นชิ้น 1/4  ลูก
แครรอทหั่นเส้น 1/2  ลูก
สับปะรดหั่นชิ้น 100  กรัม
ต้นหอมหั่นท่อน  2  ต้น
พริกหวานหั่นชิ้น   1/2  ลูก
น้ำเปล่า เล็กน้อย
น้ำมันพืช สำหรับทอดและผัด

วิธีทำ
1. นำปลามาล้างทำความสะอาด บั้งให้ทั่วตัวปลาทั้งสองด้าน คลุกเกลือป่นเล็กน้อย พักไว้
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันสำหรับทอด ใช้ไฟกลาง พอน้ำมันร้อน นำปลาลงทอดให้ปลาสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
3. ตั้งกระทะบนเตา ใส่น้ำมันพืชให้พอสำหรับผัดลงไป รอจนกระทะร้อนใส่กระเทียมสับลงมาเจียวให้หอม ใส่หอมใหญ่ สับปะรด พริกหวาน ผัดจนผักเกือบสุกดี
4. ใส่ต้นหอม ปรุงรสด้วย น้ำตาลทราย ซีอิ้วขาว น้ำส้มแอปเปิ้ล ซอสมะเขือเทศ  น้ำเปล่าเล็กน้อย ผัดให้เข้ากันดี ชิมรสตามชอบ จัดปลาใส่จานตักเปรี้ยวหวานราดบนตัวปลา พร้อมเสิร์ฟได้เลย











ปลาเจี๋ยนเต้าเจียว

นกทำเมนูปลาราดเต้าเจียวไปแล้วครั้งหนึ่งใช้ปลาแซลมอนทำ หากเพื่อนๆ ชาวครัวสนใจสูตรอ่านได้จากลิงค์นี้นะค่ะ http://pinkroselove-nd.blogspot.co.uk/2017/04/blog-post.html  วันนี้ได้ปลาสดจากตลาดปลา เลยเอามาทำเมนูเจี๋ยนเต้าเจียว เอาใจคนรักเมนูปลาอีกครั้ง ว่าแล้วเข้าครัวกันเลยค่ะ


ส่วนผสม
ปลาทอด 1 ตัว
หมูสับ  เล็กน้อย 
เต้าเจียว  1  ช้อนโต๊ะ
ขิงอ่อนซอย 1 แง่ง
ต้นหอม ผักชีหั่นท่อน 2 ต้น
พริกชี้ฟ้าหั่นเฉียง 1 เม็ด
น้ำตาลทราย  ตามชอบ
น้ำซุป  เล็กน้อย
น้ำมันพืชสำหรับผัด

วิธีทำ
1. ตั้งกะทะบนเตาใส่น้ำมันสำหรับผัด เปิดไฟในเตาใช้ไฟกลาง พอน้ำมันร้อน ใส่ขิงลงไปผัดให้หอม
2. ใส่หมูสับลงไปผัด พอหมูเริ่มสุก ใส่เต้าเจี้ยว  ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วย น้ำตาลทราย น้ำซุปเล็กน้อย ชิมรสตามชอบ
3. ใส่พริกชี้ฟ้าแดง ต้นหอม ผักชี ผัดเร็ว ๆ ปิดไฟในเตา ตักน้ำราดลงบนปลาทอดพร้อมเสิร์ฟได้เลยค่ะ




หมูอบผัดหน่อไม้







ส่วนผสม
เนื้อหมูอบหั่นชิ้น พอคำ 150 กรัม
หน่อไม้ต้มหั่นบาง  200 กรัม
กระเทียมสับ 5 กลีบ
พริกไทย  หยิบมือ
พริกขี้หนูสับ   ตามชอบ
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย  1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
ใบโหระพา   ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับผัด

วิธีทำ
1. โขลกกระเทียม พริกไทย และพริกขี้หนู ให้พอหยาบ ๆ ตามชอบ
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันบนเตา ใช้ไฟปานกลาง พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่พริกที่โขลกไว้ลงผัดให้หอม
3. ใส่เนื้อหมูลงไปผัดให้เข้ากันกับพริกที่โขลกไว้
4. ใส่หน่อไม้ ใช้ไฟแรง ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ โรยใบโหระพา ผัดเร็ว ๆให้เข้ากัน ตักใส่จานยกเสิร์ฟได้เลย

ผัดพริกแกงหมูสามชั้นถั่วแขก (French Beans)


ถั่วแขก (French Beans)  คล้าย ๆ ถั่วฝักยาว แต่ฝักจะสั้นกว่า รสชาติหวาน  คนที่นี้่จะกินสด ๆ เป็นผักสลัด หรือไม่ก็เอาไปต้มกินคู่กับอาหาร ถั่วแขก (French Beans) ราคาไม่แพง หาซื้อง่ายคนที่นี้นิยมกินกันเยอะค่ะ  นกซื้อติดตู้เย็นเป็นประจำเลยละค่ะ แล้วแต่ว่าจะว่าใช้ทำอาหารไทย หรืออาหารฝรั่ง  แฟนคลับชอบกินแบบต้มเป็นผักกินคู่กับอาหารอบ








ส่วนผสม
เนื้อหมูสามชั้นหั่นชิ้นเล็ก ๆ พอคำ 250 กรัม
ถั่วแขก(French Beans)  ตามชอบ
น้ำพริกแกงเผ็ด 1 ชต
น้ำปลา 1 ชต
น้ำตาลทราย ตามชอบ
ใบโหระพา ตามชอบ
พริกชี้ฟ้า/พริกขี้หนูสดหั่นเฉียง  ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับผัด

วิธีทำ
1. เอาน้ำมันใส่กระทะนิดหน่อยให้พอผัดเครื่องแกง จากนั้นเอากระทะตั้งบนเตาใช้ไฟร้อนปานกลาง ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัดจนหอมแตกมัน ใส่เนื้อหมูลงผัดจนเนื้อหมูสุก ผัดให้มันหมูสามชั้ันออกสักหน่อย
2. ใส่เนื้อหมูลงผัดจนเนื้อหมูสุก ผัดให้มันหมูสามชั้ันออกสักหน่อย
3. ใส่ถั่วฝักยาวลงไป ผัดให้เข้ากันจากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ชิมรสตามชอบ
4. เร่งไฟให้ร้อนขึ้นผัดให้ทุักอย่างเข้ากันดี ถั่วสุก ใส่ใบโหระพา และพริกชี้ฟ้า/พริกขี้หนูสดหั่นเฉียง ผัดให้เข้ากันจากนั้นปิดไฟในเตาตักใส่จานยกเสริฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ได้เลยค่ะ




หมูสามชั้นผัดเต้าหู้ยี้





ส่วนผสม
หมูสามชั้นหั่นชิ้นพอคำ 250 กรัม
หอมใหญ่หั่นชิ้น  1/2 หัว
กระเทียมสับ 2 กลีบ
พริกหั่นเฉียง ตามชอบ
เต้าหู้ยี้แดง 2 ก้อน
น้ำตาลทราย ตามชอบ
น้ำปลา  เล็กน้อย
น้ำมันพืชสำหรับผัด เล็กน้อย
น้ำเปล่า เล็กน้อย       

วิธีทำ
1. ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งบนเตาเปิดไฟในเตาใช้ไฟกลาง พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่กระเทียมสับลงผัดจนหอม
2. ใส่หอมใหญ่ลงผัดต่อพอเริ่มสุก ใส่หมูสามชั้นลงผัดจนกระทั้งหมูเริ่มสุก
3. ใส่เต้าหู้ยี้ลงผัดยีให้เต้าหู้ยี้ละเอียด ใส่พริก เติมน้ำเปล่าเล็กน้อยพอคนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ ปิดไฟในเตา ตักใส่จาน กินกับข้าวสวยร้อนๆ ได้เลยค่ะ


***เต้าหู้ยี้ที่นกใช้ เป็นเต้าหู้ยี่ที่เค็มไม่มาก  นกเลยได้ใส่น้ำปลาปรุงรสไปอีกนิดหน่อย เพื่อน ๆ ชาวครัวชิมเสียก่อนนะค่ะ แล้วค่อยใส่น้ำปลา***



มันเทศต้มขิง

มันเทศที่นี้เรียกว่า Sweet Potato นกซื้อมากจากห้างฯ หลายหัวเอาไปอบกินแล้วยังเหลืออยู่ ไม่อยากทิ้งไว้นาน  เลยเอามาต้มกับขิงกินแก้หนาว ยิ่งช่วงนี้อากาศหนาวทุกวัน พูดถึงมันเทศต้มขิ นกไม่ได้กินมานานแล้วเหมือนกัน





ส่วนผสม
มันเทศ 1 หัว (มันเทศที่นกใช้หัวใหญ่ประมาณ 600 -700 กรัม)
น้ำเปล่า  ตามชอบ
น้ำตาลทราย   ตามชอบ
เกลือป่น  หยิบมือ
ขิงแก่ หั่แว่น 1 แง่้ง


วิธีทำ
1. ปอกเปลือกมันเทศ ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น ๆ ขนาดตามชอบ แช่น้ำ เตรียมไว้
2. ใส่น้ำลงในหม้อต้ม นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง ใส่น้ำตาลทราย คนผสมจนน้ำตาลละลายหมดรอจนกระทั้งน้ำเดือด
3. ใส่มันเทศลงต้มจนเดือดอีกครั้ง จากนั้นใส่ขิงลงต้มจนมันเทศสุก ชิมรสตามชอบ ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟได้เลย


***เข้าหน้าหนาวใบไม้ก็เริ่มเปลี่ยนสี บางต้นใบร่วงหล่นไปบ้างแล้วก็มี ต้นนี้ใบยังเต็มต้นถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนสีไปแล้วก็ตามนกเห็นว่าสวยดีเลยถ่ายรูปเก็บมาให้เพื่อน ๆ ชาวครัวได้ชืนชมกันค่ะ***














แกงคั่วสับปะรดปลาซาบะรมควัน (smoked mackerel)

นกไปได้สับปะรดจากบ้านพ่อ  ตอนได้มาเปลือกยังเขียวอยู่เลยค่ะ สับปะรดที่นี้ส่วนใหญ่จะออกรสเปรี้ยว ยิ่งลูกเขียวเปรี้ยวมากค่ะ  นกต้องปล่อยทิ้งไว้จนเปลือกเปลี่ยนออกเหลือง ๆ หน่อยถึงจะเอามากิน ส่วนใหญ่จะเอามาปรุงเป็นอาหารเสียมากกว่า วันนี้นกเอาสับปะรดมาทำแกงคั่วแบบปักษ์ใต้ เมนูที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ ส่วนใหญ่จะแกงด้วยกุ้ง หมู ไก่ หรือเนื้อ แล้วแต่จะชอบกัน สำหรับวันนี้นกขอแนะนำเพื่อน ๆ ชาวครัวลองเปลี่ยนมาใช้เนื้อปลาซาบะรมควันมาแกงดูแล้วจะติดใจ










ส่วนผสม
สับปะรดหั่นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย
ปลาซาบะรมควันแยกชิ้นเนื้อ 2 ตัว (smoked mackerel)
กะทิ 1  กระป๋อง  (แยกหัวกะทิและหางกะทิ)
พริกแกงคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
กะปิ 1 ช้อนชา
น้ำตาลปี๊บ  ตามชอบ
น้ำปลา   ตามชอบ
เกลือป่น เล็กน้อย
ใบมะกรูดฉีก 2 ใบ
พริกชี้ฟ้าหั่นซอย   ตามชอบ

วิธีทำ
1.ใส่หัวกะทิในกระทะ ตั้งบนเตาพอกะทิ เริ่มเดือด ใส่พริกแกงคั่วและกะปิลงผัดจนหอม และกะทิแตกมัน
2.ใส่หางกะทิลงไปผัดต่อรอจนกะทิเริ่มเดือดใส่สับปะรด เคี่ยวไปจนน้ำกะทิเดือด
3.ใส่เนื้อปลาซาบะ  ใบมะกรูดปรุงรสน้ำปลา น้ำตาลปึก เกลือป่น ชิมรสตามชอบ (รสชาติจะออกหวานอมเปรี้ยว เค็ม) ตักใส่ชามโรยด้วย พริกชี้ฟ้า ยกเสิร์ฟได้เลย

***หากสับปะรดที่บ้านไม่เปรี้ยวให้ใส่น้ำมะขามเปียกเพิ่มรสเปรี้ยวได้นะค่ะ  สับปะรดของนกเปรี้ยวเลยไม่ได้ใช้ค่ะ***






ลูกเดือยเปียกวุ้นมะพร้าวอ่อน

ช่วงนี้กินแต่ขนมหวานโดยเฉพาะเมนูขนมหวานไทย ทำบ่อยมากๆ สำหรับวันนี้นกทำเมนูเปียก หากพูดถึงเปียก หลาย ๆ คน ก็จะนึกถึงเปียกข้าวเหนียวเสียส่วนใหญ่ นกไม่ได้มาทำเปียกข้าวเหนียวหรอกนะค่ะ แต่จะทำลูกเดือยเปียก สำหรับลูกเดือย นกทำเมนูลูกเดือยต้มน้ำตาล ต้มกะทิ มาก่อนหน้านี้แล้ว สำหรับสูตร เพื่อน ๆ ชาวครัวสามารถจากลิงค์นี้นะค่ะ (ลูกเดือยต้มน้ำตาล) http://pinkroselove-nd.blogspot.co.uk/2017/08/blog-post_16.html (ลูกเดือยต้มกะทิ) http://pinkroselove-nd.blogspot.co.uk/2017/11/blog-post_2.html




ส่วนผสม
ลูกเดือยแห้ง 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
เกลือป่น   หยิบมือ
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ  (ละลายน้ำเล็กน้อย)
เนื้อวุ้นมะพร้าวอ่อน  1 ถ้วย  (นกใช้วุ้นมะพร้าวอ่อนกระป๋อง)
น้ำเปล่าสำหรับต้ม   ตามชอบ

วิธีทำ
1. แช่ลูกเดือยในน้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 1 คืนจนลูกเดือยเริ่มนิ่ม จากนั้นนำมาล้างน้ำให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
2. ตั้งหม้อน้ำบนเตา เปิดไฟในเตาใช้ไฟแรงนำลูกเดือยที่แช่น้ำแล้วไปต้มจนสุกและบานออก ประมาณ 15 นาที
3. ใส่น้ำตาลทรายและเกลือป่นลงไป คนผสมจนน้ำตาลทรายละลายหมด ค่อย ๆ เทแป้งข้าวโพดละลายน้ำลงไป คนจนส่วนผสมเริ่มเหนียวและใส
4. ใส่เนื้อวุ้นมะพร้าวอ่อนลงไปคลุกให้เข้ากัน ชิมรสหวานตามชอบ  ยกลงจากเตาพักทิ้งไว้พร้อมเสิร์ฟ พร้อมน้ำกะทิ
 ***สำหรับส่วนผสม กะทิสำหรับราดหน้าจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้  น้ำกะทิราดประกอบด้วย กะทิ เกลือป่น เล็กน้อย และแป้งข้าวโพดละลายน้ำ  ส่วนขั้นตอนการทำ
ให้ต้มกะทิกับเกลือป่นในหม้อพอร้อน ใส่แป้งข้าวโพดละลายน้ำลงไปคนผสมให้เข้ากันจนมข้น ยกลงจากเตา เตรียมไว้สำหรับราดหน้าลูกเดือยเปียกเท่านี้ก็ได้น้ำกะทิไว้ราดหน้าพร้อมเสิร์ฟ***







ข้าวผัดน้ำพริกเผากุ้งสด-ไข่แดงเค็ม

ไข่เค็มที่นกดองเอาไว้ครบกำหนดเอามาใช้ได้แล้วค่ะ ส่วนใหญ่นกจะใช้ไข่ไก่ทำเพราะหาง่าย กว่าไข่เป็ด ซึ่งราคาก็ถูกว่าอีกด้วย นกดองไข่เค็มเอาไว้ทำอาหารคาวเสียมากกว่าอาหารหวาน อย่างเมนูวันนี้ถูกใจแฟนคลับมากที่สุด เพราะเค้าไม่กินไข่เค็มต้มเฉย ๆ  แต่ถ้านำทำคู่กับอาหารกินได้ไม่เป็นไร ส่วนตัวนกเองชอบเอามาทอดเป็นไข่ดาวกินคู่กับแกงส้มค่ะ แล้วเพื่อนๆชาวครัว ชอบเอาไข่เค็มไปทำเมนูอะไรกินบ้างค่ะ สำหรับน้ำพริกเผานกทำเองเป็นแบบเผ็ดกลางๆ ทำให้ใส่พริกซอยไม่เยอะ แต่ถ้าใครชอบเผ็ดเพิ่มพริกได้นะค่ะ




ส่วนผสม 
ข้าวสุกเย็น 1 ถ้วย
กุ้งสด  6-7 ตัว
ไข่แดงเค็ม 2  ฟอง 
กระเทียมสับ 3 กลีบ
หอมใหญ่หั่นตามยาว 1/4 หัว
พริกขี้หนูซอย 2 เม็ด
น้ำพริกเผา  1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วขาว  1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย  เล็กน้อย
ต้นหอมผักชีซอย 1 ต้น
น้ำมันพืช  สำหรับผัด
ผักเครื่องเคียง  ตามชอบ 
วิธีทำ
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน เปิดไฟในเตาใช้ไฟกลาง น้ำมันเริ่มร้อนกระเทียมลงไปเจียวให้พอหอม
2. ใส่หอมใหญ่ลงไปผัดพอหอมเริ่มสุกนิ่ม
3. ใส่กุ้งลงผัดจนกระทั้งกุ้งเริ่มสุก ใส่ไข่แดงเค็ม น้ำพริกเผาลงในกระทะใช้ตะหลิวยีให้น้ำพริกเผากระจายตัว 
4. ใส่ข้าวลงไป ใช้ตะหลิวบี้ข้าวให้กระจายทั่วกัน  ผัดให้ข้าวและน้ำพริกเผาเข้ากัน
5. ใส่พริกขี้หนูซอย ปรุงรสด้วยซีอิ้ว น้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ โรยด้วยต้นหอม ผักชี ผัดเร็ว ๆ อีกครั้ง เสร็จแล้วตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ


สำหรับไข่เค็ม หากเพื่อน ๆ ชาวครัวที่หาไข่เป็ดไม่ได้ สนใจใช้ไข่ไก่ เพื่อน ๆ ชาวครัวแวะอ่านได้จากลิงค์นี้นะค่ะ http://pinkroselove-nd.blogspot.co.uk/2008/03/blog-post_5834.html









แกงจืดหัวไชเท้าใส่หมู

ช่วงนี้ที่บ้านอากาศหนาวแล้วค่ะ ได้น้ำซุปร้อน ๆ แก้หนาวได้ดีที่เดียว เมื่อก่อนหัวไชเท้าค่อยข้างราคาแพง เพราะหาซื้อค่อยข้างยากที่เดียวค่ะ มีร้านเดียวในเมืองที่ขายอยู่เรียกว่าผูกขาดราคาก็ว่าได้ค่ะ ร้านนี้ขายทุกอย่างแพงหมด จนกระทั้งมีร้านขายผักเปิดใหม่อีกร้าน ขายผักเหมือนกันหลายอย่าง แต่ราคาถูกกว่าเยอะ โดยเฉพาะหัวไชเท้า เรียกว่าต่างกันมากๆ เลย นกเลยกลายเป็นลูกค้าของร้านนี้ไปเลย ร้านเก่าก็เดินไปดูอยู่บ้าง เพราะบางอย่างเค้าก็ยังไม่มี  วันนี้นอกจากแกงจืดหัวไชเท้าแล้ว นกยังทำข้าวผัดแอ๊ปเปิ้ลไว้กินคู่กันด้วยค่ะ สำหรับข้าวผัดแอ๊ปเปิ้ลหากเพือน ๆชาวครัวสนใจอ่านได้จากลิงค์นี้นะค่ะ http://pinkroselove-nd.blogspot.co.uk/2008/05/blog-post_11.html






ส่วนผสม
เนื้อหมู หั่นชิ้น 200 กรัม
หัวไชเท้าหั่นชิ้น  หัว (นกใช้หัวไชเท้าไขนาดกลาง)
กระเทียมทุกแตก  2   กลีบ
หอมแดงทุก 1 หัว
ต้นหอม ผักชีหั่นท่อน 2 ต้น
พริกไทยป่น   เล็กน้อย
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
ซุปหมู 1 ก้อน
เกลือป่น  เล็กน้อย

วิธีทำ
1. ใส่น้ำเปล่า และซุปหมูก้อนในหม้อต้ม ตั้งบนเตาใช้ไฟแรง ต้มจนเดือด ใส่เนื้อหมู หอมแดง  กระเทียม ต้มต่อกระทั้งเนื้อหมูเริ่มสุก
2. ใส่หัวไชเท้า ลงในหม้อต้ม ใช้ไฟกลางต้มจนผักเริ่มสุก ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว เกลือป่น ชิมรสตามชอบ ใส่ต้นหอม ผักชี คนให้เข้ากันตักใส่ชามโรยด้วยพริกไทยป่นยกเสิรฟ์

ลูกเดือยต้มกะทิ

นกอ่านเจอลูกเดือยเป็นยาเย็น ธัญพืชที่มีหลากหลายประโยชน์ โดยส่วนตัวชอบกินลูกเดือยอยู่แล้ว ยิ่งได้รู้ถึงประโยชน์ ยิ่งชอบไม่ว่าจะเป็นน้ำลูกเดือย หรือจะเอามาทำเป็นอาหารชอบทั้งนั้นค่ะ แต่นกไม่ค่อยมีโอกาสได้กินสักเท่าไร เพราะอยู่ต่างแดนค่อยข้างหายาก จนได้เจอร้านขายของคนจีนในตัวเมืองที่แฟนคลับไปทำงาน ดีใจมากๆ ที่ร้านนี้มีของหลากหลาย เวลาแฟนคลับไปทำงานที่เมืองนั้น นกก็ตามไปด้วย (เค้าไปทำงาน เราไปเที่ยว) กลับบ้านมีเครื่องปรุงที่อยากได้ติดมือกลับมาบ่อยครั้ง อย่างครั้งนี้เป็นลูกเดือย เสียดายซื้อมาเล็กน้อย กลัวว่าจะไม่ใช้อย่างที่คิด แต่พอเอามาทำใช้ได้เลย ครั้งหน้าไปอีกคงต้องซื้อถุงใหญ่ไปเลย ว่าแล้วเข้าครัวเลยค่ะ







ส่วนผสม
ลูกเดือย  150   กรัม
น้ำตาลทราย    ตามชอบ
กะทิ   1  กระป๋อง
เกลือป่น   เล็กน้อย
น้ำเปล่าสำหรับ ต้มลูกเดือย

วิธีทำ
1. นำลูกเดือยมาแช่น้ำทิ้งไว้ค้างคืนให้ลูกเดือยพองตัว ครบกำหนดเทน้ำทิ้ง พักไว้
2. ใส่น้ำในหม้อต้มตั้งบนเตา เปิดไฟในเตาใช้ไฟแรง นำลูกเดือยที่แช่น้ำแล้วลงต้มประมาณ 25 นาที หรือจนกระทั้งลูกเดือยสุกและนิ่ม
3. ลูกเดือยสุก ยกลงจากเตาเทน้ำต้มลูกเดือยออกเหลือแต่เม็ดลูกเดือย (นกเก็บน้ำต้มลูกเดือยเอาไว้ดืมเพื่อสุขภาพ ไม่ได้ทิ้งเสียดาย)
4. เทกะทิลงในหม้อต้ม ตามด้วยน้ำตาลทราย และ เกลือป่นเล็กน้อย คนให้ละลาย ต้มจนน้ำกะทิเดือด
5. ใส่ลูกเดือยที่ต้มสุกแล้วลงไป คนให้เข้ากัน รอจนกะทิเดือดอีกครั้ง ชิมรสตามชอบ ปิดไฟในเตา ตักใส่ถ้วยยกเสิร์ฟได้เลย



ข้าวเหนียวดำเปียก






ส่วนผสม
ข้าวเหนียวดำ 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย ตามชอบ
เกลือป่น หยิบมือ
น้ำเปล่าสำหรับต้มข้าวเหนียว
หัวกะทิ สำหรับเป็นกะทิยอดหน้า


วิธีทำ
1. นำข้าวเหนียวดำแช่น้ำเปล่าทิ้งไว้ล่วงหน้าก่อน 1 คืน จากนั้นล้างข้าวเหนียวให้สะอาด
2. ตั้งหมอต้มน้ำพอน้ำเดือดใส่ข้าวเหนียวดำลงไปต้มจนกระทั้งข้าวเหนียวสุก เติมน้ำตาลทรายค่อยๆคนให้น้ำตาลละลายจนหมด ชิมรสหวานตามชอบ ตักใส่ถ้วยราดด้วยหัวกระทิยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ











แกงส้มกระดูกหมูดอกกะหล่ำ




ส่วนผสม
กระดูกหมู 300 กรัม
ดอกกะหล่ำหั่นชิ้น  1/2 หัว (นกใช้ดอกกะหล่ำขนาดกลาง)
น้ำพริกแกงส้ม 2 ช้อนโต๊ะ
กะปิแกง 1 ช้อนชา
ขมิ้นผง 1/2 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี็บ  ตามชอบ
น้ำเปล่า  สำหรับทำน้ำแกง
น้ำมะนาว / น้ำส้มสายชู เล็กน้อย

วิธีทำ
1. เปิดไฟในเตาใช้ไฟแรง จากนั้นเอาน้ำใส่หม้อแกงยกขึ้นตั้งบนเตาพอน้ำเดือด นำกระดูกหมูลงต้มจนสุก เปื่อยนุ่ม
2. ใส่พริกแกงส้ม ผงขมิ้น ลงในหม้อ คนให้เข้ากัน เคี่ยวจนกว่าพริกแกงส้มเข้าจะเข้าเนื้อ จากนั้นใส่ดอกกะหล่ำ เติมกะปิ น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำส้มสายชู ชิมรส ตามชอบ หากยังเปรี้ยวไม่พอให้เติม น้ำมะนาว /น้ำส้มสายชู เพิ่มรส ปรุงให้ทุกอย่างสุกเข้ากัน ปิดไฟในเตา ยกเสิร์ฟได้เลย

ปลา Dover Sole ทอดขมิ้น

เมื่อวานนี้นกและแฟนคลับไปเที่ยวเมืองชายฝั่งทะเลกันมากค่ะ อากาศค่อยข้างดีมีแดดอ่อนอุ่นกำลังดี นอกจากเป็นเมืองที่น่าเที่ยวแล้ว ที่นั้นยังมีร้านขายปลาที่นกและแฟนคลับชอบแวะไปซื้อปลาติดมือกลับบ้านเป็นประจำ ร้านนี้เค้ามีเรือหาปลาเอง และจะออกเรือไปหาปลาทุกวัน ในแต่ละวันปลาก็จะแตกต่างกันไป ความสดไม่ได้พูดถึง บอกได้เลยสดจริงๆ  นกและแฟนคลับได้ปลาเยอะพอควร โดยเฉพาะ ปลา Dover Sole ซื้อมาหลายตัวเลยค่ะ บ้านที่เมืองไทยเราเรียกปลาDover Sole ว่าปลาตาเดียว  แต่นกเคยได้ยินบางคนเรียกปลาลิ้นหมา แล้วเพื่อน ๆ ชาวครัวเรียกปลานี้ว่าปลาอะไรค่ะ








ส่วนผสม 
ปลาสด 2  ตัว (ปลา Dover Sole)
เกลือป่น  1ช้อนชา
กระเทียม  6-8  กลีบ
พริกไทย 1 ช้อนชา
ขมิ้นป่น  1 ช้อนชา
น้ำมันพืชสำหรับทอดปลา

วิธีทำ
1. ล้างทำความสะอาดปลา ควักไส้พุงออกให้เรียบร้อย พักให้สะเด็ดน้ำ
2. โขลกเกลือป่น กระเทียม พริกไทย และขมิ้น ให้ละเอียดตามชอบ
3. นำเครื่องผสมที่โขลกไว้มาทาลงบนตัวปลาให้ทั่ว หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น ประมาณ1-2 ชั่วโมง  (นกหมักปลาตอนเช้า ทอดเป็นเมนูมื้อเย็น)
4. ครบกำหนดแยกปลาและกระเทียมออกจากกัน นำปลาลงทอดให้สุกเหลือง พักให้สะเด็ดน้ำมัน จากนั้นนำส่วนผสมกระเทียมลงทอดให้กรอบจัดปลาใส่จานโรยด้วยกระเทียมกรอบยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ

***ปลาทอดกรอบ ๆ กินคู่กับแกงส้ม อร่อยจังหรูเลยค่ะ***








มะระขี้นกผัดกะปิ

ช่วงนี้อากาศเริ่มเปลี่ยน เลยต้องดูแดสุขภาพกันหน่อย เค้าว่ากันว่ากินมะระดีต่อสุขภาพ เรียกว่าหวานเป็นลมขมเป็นยา มะระขี้นกที่นี้หาซื้อง่ายกว่ามะระจีนเสียอีก ลูกค่อนข้างใหญ่พอควร ไม่ค่อยเหมือนมะระขี้นกที่เคยเห็นในเมืองไทย นกซื้อมาทำอาหารอยู่บ่อยครั้ง




 


ส่วนผสม
มะระขี้นก 2  ลูก (ลูกขนาดกลาง ๆ)
เกลือป่น  เล็กน้อย
เนื้อหมูสับ 120  กรัม
กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูทุบสับ  ตามชอบ
หอมแดงสับ  2 หัว
กระเทียมสับ 3 กลีบ
พริกเหลืองหั่นเฉียง   ตามชอบ 
น้ำตาลทราย ตามชอบ
น้ำเปล่า
น้ำมันพืชสำหรับผัด

วิธีทำ
1. นำมะระหั่นชิ้นคลุกกับเกลือป่นหมักทิ้ง ไว้ประมาณ 10-15 นาที
2. ตั้งหม้อน้ำบนเตา เปิดไฟในเตาใช้ไฟแรง พอน้ำเดือดใส่มะระลงลวก ปิดฝาหม้อต้มทิ้งไว้ประมาณ 5-8 นาที ครบกำหนด ตักมะระขึ้นแช่ในน้ำเย็นทิ้งไว้สักครู่หนึ่ง จากนั้นตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ
3. ละลายกะปิกับน้ำเปล่าเล็กน้อย เตรียมไว้ จากนั้นใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งบนเตาใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อน พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่กระเทียม หอมแดงกับพริกขี้หนูลงผัดให้พอหอม
4. ใส่หมูลงผัดต่อ จนหมูเริ่มสุกใส่กะปิลงผัดให้เข้ากับเนื้อหมู ปรุงรสด้วยน้ำตาล
5. ใส่มะระที่หั่นต้มไว้ลงผัดให้เข้ากัน ใส่พริกเหลือง ชิมรสตามชอบปิดไฟในเตาตักใส่จานเสิร์ฟ


***สำหรับความเค็มให้ปรับรสชาติกันเอง เพราะกะปิแต่ละที่มีรสเค็มต่างกันไป***









ข้าวเหนียวเปียกลำไย

ข้าวเหนียวเหลือจากทำข้าวเหนียวหมูทอดเลยเอามาทำข้าวเหนีวเปียกลำไยกินต่ออีกมื้อ สำหรับข้าวเหนียวเปียกนกเคยทำข้าวเหนียวเปียกลิ้นจิ้นและลงสูตรให้เพื่อนชาวครัวมาแล้วครั้งหนึ่ง หากเพื่อนๆ สนใจแวะอ่านได้จากลิงค์นี้นะค่ะ http://pinkroselove-nd.blogspot.co.uk/2010/10/blog-post_2339.html






ส่วนผสม

ข้าวเหนียวเปียก
ข้าวเหนียวสุก 1 ถ้วย
น้ำตาล ตามชอบ (นกใส่ประมาณ 1/4 ถ้วย)
เกลือป่น หยิบมือ
ลำไย 1 กป
น้ำเปล่า 1 ถ้วย

วิธีทำ
1. นำข้าวเหนียว น้ำ และน้ำเชื่อมลำไยใส่ลงในหม้อคนผสมเข้าด้วยกัน จากนั้นนำหม้อตั้งเตาเปิดไฟที่ปานกลาง คอยคนอย่าให้ข้าวติดก้นหม้อ
2.พอข้าวเหนียวเริ่มเดือดใส่น้ำตาลและเกลือลงไป คนให้เข้ากัน ชิมรสหวานตามชอบ (ถ้าหวานไม่พอให้เติมน้ำตาลลงไปได้อีก) จากนั้นใส่ลำไยลงไป แล้วก็คนให้เข้ากันดี รอเดือดอีกครั้ง เป็นอันใช้ได้ ตักใส่ถ้วยราดน้ำกะทิยกเสิรฟ์เลยค่ะ

***วันนี้นกทำน้ำกะทิราด ครั้งก่อนทำข้าวเหนียวเปียกลิ้นจี่ไม่ไดทำน้ำกะทิราดไว้แต่นกก็มีสูตรไว้นกนำมาลงให้อีกครั้ง***

ส่วนผสมหน้ากะทิสำหรับราด
หัวกะทิ 1 กป.
เกลือ หยิบมือ

วิธทำ เอาหัวกะทิและเกลือ ลงในหม้อต้มใบเล็ก ใช้ตะกร้อมือคน ๆ ให้เข้ากัน ยกขึ้นตั้งบนเตาใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อน คนให้เข้ากัน หมั่นคนกะทิในหม้อเรื่อยๆ จนกะทิข้นเป็นอันใช้ได้ค่ะ



ลูกเดือยต้มน้ำตาล

นกคิดว่าเพือนชาวครัวหลาย ๆ คนคงรู้ว่าลูกเดือยเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยประโยชน์ พอได้อ่านและได้ความรู้เรื่องลูกเดือยว่าช่วยบำรุง ตับ ไต และม้าม ยิ่งทำให้ชอบหากเจอะที่ไหนก็จะซื้อมาต้มกินอยู่บ่อยครั้ง  อย่างวันนี้ก็เช่นกันค่ะ นกซื้อจากร้านคนจีนจากเมืองที่แฟนคลับทำงาน กลับถึงบ้านก็ลงมือทำกันเลย





ส่วนผสม
ลูกเดือยแห้ง 150 กรัม
น้ำตาลทราย   ตามชอบ
น้ำเปล่า สำหรับต้มลูกเดือย และน้ำตาลทราย
ใบเตยหั่นท่อน 1 ใบ


วิธีทำ
1. แช่ลูกเดือยในน้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 1 คืนจนกระทั้งลูกเดือยเริ่มพองตัวและนิ่มขึ้น  จากนั้นนำมาล้างน้ำให้สะอาด
2. ใส่ลูกเดือยในหม้อน้ำ นำขึ้นตั้งบนเตา เปิดไฟในเตาใช้ไฟร้อนต้มจนลูกเดือยสุกและบานออก ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ
3.  ใส่น้ำตาลลงในหม้อน้ำ ต้มจนน้ำตาลละลาย ใส่ลูกเดือยลงไปต้มกับน้ำตาล  รอจนน้ำตาลเดือดอีกครั้ง ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ




ข้าวหน้าหมูทอด คัตสึด้ง (Katsudon)

หากพูดถึงอาหารญี่ปุ่นแล้วก็ต้องยกให้หลานชาย หลานรักของครอบครัว สาวกอาหารญี่ปุ่นชอบกินเป็นที่สุด โดยเฉพาะข้าวหน้าหมูทอดเป็นเมนูจานโปรดทีเจ้าตัวชอบสั่งกินอยู่บ่อยครั้ง  ทำให้น้องสาวต้องหาสูตรมาทำกินเอง รสชาติเหมือนกินในร้านอาหารญี่ปุ่นเลยค่ะ หลังจากนั้นนกก็จำเอามาทำกินเองที่บ้าน นกทำกินอยู่บ่อยครั้งแตไม่เคยลงสูตรสักครั้ง วันนี้ทำอีกรอบเลยเอาสูตรมาให้เพือน ๆ ชาวครัวได้ชิมกันค่ะ







ส่วนผสม
หมูทอดเกร็ดขนมปัง 2  ชิ้น (หั่นชิ้นขนาดตามชอบ)
ไข่ไก่ 2 ฟอง
หอมใหญ่หั่นชิ้น  1/2 หัว
ต้นหอมหั่นซอย  2  ต้น
ซีอิ้วญี่ปุ่น 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย เล็กน้อย
มิริน (เหล้าหวานญี่ปุ่น) 1 ช้อนโต๊ะ
สาเก 1 ช้อนโต๊ะ   
น้ำมันสำหรับผัด    เล็กน้อย
น้ำซุปปลา  ตามชอบ (นกใช้ผงชุปปลา 2 ช้อนชา ต้มกับน้ำเปล่า 2 ถ้วย)
ข้าวสวย ตามชอบ

วิธีทำ
1. ผสมน้ำซุปปลา น้ำตาลทราย มิริน สาเก คนให้เข้ากัน  พักไว้
2. ตั้งกระทะบนเตาเปิดไฟปานกลางใส่น้ำมันเล็กน้อย สำหรับผัดหอมใหญ่  ผัดจนกระทั้งหอมเริ่มสุก
3. ใส่น้ำซุปปลาที่เตรีมไว้ ลงต้มให้เดือด ชิมรสตามชอบ
4. ใส่หมูทอดเกร็ดขนมปัง(ทงคัตสึ)หั่นชิ้นลงไปกระทะ กดให้หมูทอดจมน้ำซุปปลา
5. ตีไข่ไก่ให้แตก จากนั้นเทไข่ลงในกระทะ พอไข่เริ่มเดือด ปิดฝาสักครู่ รอจนไข่เริ่มสุกจากนั้นปิดไฟในเตา
6. ตักข้าวใส่ถ้วย เทส่วนผสมทั้งหมดลงไป โรยด้วยต้นหอมซอย ยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ

ฉู่ฉี่ปลาทอด (สูตรใช้นมสดแทนกะทิ)







ส่วนผสม
ปลาทอด 2  ตัว (นกใช้ปลา Sea bass)
น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ
ใบโหระพา 1  กำมือ
พริกชี้ฟ้า พริกสด หั่นเฉียง  ตามชอบ
ใบมะกรูดหั่นซอย 2  ใบ
นมข้นจืด 1 ถ้วย
น้ำปลา  เล็กน้อย
น้ำตาลทราย  ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับผัด  เล็กน้อย
น้ำเปล่า เล็กน้อย

วิธีทำ
1. ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งกระทะบนเตาไฟ ใช้ไฟปากลางค่อนข้างอ่อน พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่พริกแกงลงผัดให้พอหอม
2. ใส่น้ำเปล่า จากนั้นใส่พริกชี้ฟ้า และพริกสด นมข้นจืด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ
3. ใส่ใบโหระพา ใบมะกรูด ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง  จากนั้นใส่่่ปลาทอดลงในกระทะ ตักน้ำแกงราดบนตัวปลาให้น้ำท่วมตัวปลาทอดสักพักแล้ว กลับอีกด้านหนึ่งทำเหมือนกัน ปิดไฟในเตา ตักใส่จานยกเสิร์ฟ ได้เลย





ถั่วเขียวต้มน้ำตาล

เมนูขนมหวานง่าย ๆ อร่อยถูกใจใครหลาย ๆ คน ใส่น้ำแข็งกินเย็น ๆ หรือไม่ก็ทำแช่แข็งเป็นไอศครีม แท่งรสถั่วเขียว ก็ได้เช่นกัน ยิ่งบ้านไหนมีเด็ก ๆ นกแนะนำรับรองว่าถูกใจเด็กๆ แน่นอนค่ะ









ส่วนผสม
ถั่วเขียวดิบ 1/2ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
เกลือป่น หยิบมือ
น้ำเปล่า สำหรับ แช่ และต้มถั่วเขียว

วิธีทำ
1. แช่ถั่วเขียวถั่วเขียวประมาณ  4-5 ชั่วโมง ให้ถั่วเขียวพองตัว (นกแช่ถั่วเขียวข้ามคืน)
2. เปิดเตาในเตาใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำเปล่าในหม้อต้ม ใส่ถั่วเขียวลงไป ต้มให้เดือด จากนั้นลดไฟอ่อน ต้มไปเรื่อยๆ จนถั่วเขียวบานออก สุกนุ่ม (หมั่นคนเป็นระยะ)
3. ใส่น้ำตาลทรายและเกลือป่นลงไป คนให้ละลาย ต้มต่อให้น้ำตาลเข้าเนื้อถั่วเขียว คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ตักถั่วเขียวต้มน้ำตาลใส่ถ้วย ยกเสิร์ฟได้เลย


แกงคั่วซีโครงหมูลิ้นจี่

จริงๆ แล้ววันนี้นกตั้งใจจะแกงคั่วซี่โครงหมูสับปะรด แต่นกเอาสับปะรดไปใช้ทำข้าวผัดให้แฟนคลับกินเป็นมื้อกลางวันเสียแล้ว มื้อเย็นแกงคั่วเลยต้องเปลี่ยนใส่ลิ้นจี่แทน รสชาติของลิ้นจี่เปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ใช้ทดแทนกันได้ ส่วนใหญ่ลิ้นจี่ที่นกใช้จะเป็นลิ้นจี่กระป๋องมีขายตามห้างฯ หาซื้อได้ง่ายกว่าลิ้นจี่สด 






วิธีทำ
ซี่โครงหมูหั่นชิ้น 250 กรัม
ลิ้นจี่  8 ลูก
กะทิ 1   กระป๋อง  (แยกหัวกะทิ หากะทิ)
น้ำพริกแกงคั่วใต้  1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ ตามชอบ
พริกชี้ฟ้าสีแดง หั่นเฉียง 2 เม็ด
ใบมะกรูดฉีก 2 ใบ
ใบโหระพา  เล็กน้อย
น้ำมันพืชสำหรับผัด  เล็กน้อย

วิธีทำ
1. ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาล พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่น้ำพริกแกงคั่วลงผัดพอหอม ใส่หัวกะทิ ผัดจนกะทิแตกมัน
2. ใส่ซี่โครงหมูลงไปผัดจนกระทั้งสุก ใส่หางกะทิ เคี่ยวให้กระดูกเปื่อยนุ่ม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ คนพอเข้ากันแล้วเคี่ยวต่อสักครู่  
3. ใส่ลิ้นจี่ โรยด้วย ใบมะกรูด ใบโหระพา พริกชี้ฟ้า คนพอเข้ากัน ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ



พายรวมมิตรถั่ว (spicy mixed bean puffs)

นกไม่รู้จะเรียกเมนูนี้ว่าอะไรดี จะเป็นเมนูฝรั่งก็ไม่ใช้ไทยก็ไม่ใช้ เรียกว่าผสม ๆ กันก็ว่าได้ค่ะ นกทำเมนูนี้ให้เข้ากับความชอบของตัวเองและแฟนคลับ นกทำกินอยู่หลายรอบแล้วค่ะวันนี้ทำอีกครั้งพึ่งเสร็จร้อน ๆ นกยกเสิร์ฟเป็นอาหารว่างสำหรับเพื่อน ๆ ชาวครัวลองนำไปทำดูนะค่ะ รับรองว่าจะติดใจ







ส่วนผสม
ถั่วรวมมิตร ต้มสุก  1 1/2  ถ้วย (นกใช้ Cannellini Beans, Flageolet Beans, Adzuki Beans, และ Chickpeas)
ผงกะหรี่ 1 1/2 ช้อนชา
หอมใหญ่หั่นเต๋า  1  ลูก (นกใช้ขนาดกลาง)
หอมแดงสับ 2 หัว
ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย  ตามชอบ
เกลือป่น เล็กน้อย
พริกไทยป่น  เล็กน้อย
ต้นหอม ผักชี หั่นซอย   ตามชอบ
เนยสดสำหรับผัด เล็กน้อย

วิธีทำ
1. ใส่เนยในกระทะ เปิดไฟในเตาใช้ไฟอ่อน พอเนยละลาย ใส่หอมใหญ่ลงผัดให้พอหอม จากนั้นใส่หอมแดงลงผัดต่อ จนกระทั้งสุก
2. ใส่ถั่วรวมมิตร ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย  เกลือป่น พริกไทยป่น และผงกะหรี่ ผัดให้เข้ากัน  ชิมรสตามชอบ
3. ผัดจนให้ส่วนผสมแห้งดี ใส่ต้นหอมผักชี ผัดเร็ว ๆ ยกลงจากเตา ตักใส่จานพักไว้จนส่วนผสมเย็นสนิท สามารถนำไปพายได้เลย


***พายผัดเสร็จเรียบร้อย ตักใส่ถ้วยพักรอให้เย็น จากนั้นนำไปห่อเป็นไส้พายค่ะ***






***หน้าตาพายที่นกห่อไส้ก่อนนำไปอบ พายที่ทำวันนี้เป็นรูปสี่เหลี่ยม***










ปลาต้มส้ม / ปลาต้มขมิ้น(แบบปักษ์ใต้)

วันนี้นกทำเมนูง่าย ๆ สำหรับเพื่อนชาวครัวที่ชอบเมนูปลา เป็นอาหารพื้นเมืองทางภาคใต้ ปลาต้มส้ม หรือปลาต้มขมิ้น รสชาติเปรี้ยวๆ  เผ็ดเล็ก ๆ ส่วนใหญ่เวลาต้มที่บ้านแม่จะใช้ปลากระบอก หรือไม่ก็ปลาทูสดมาต้ม นกใช้ปลา Sea bass ขนาดกำลังดีต้มแทน







ส่วนผสม
ปลาสดหั่นชิ้น 2 ตัว 
น้ำส้มแอปเปิ้ล 1/2 ถ้วย
ตะไคร้ทุบ 2 ต้น (หั่นเป็นท่อนๆ)
กระเทียมทุบ 3 กลีบ
หอมแดงทุบ 1  หัว
ขมิ้นผง เล็กน้อย (ใช้ขมิ้นสด ถ้ามี)
เกลือป่น ตามชอบ
น้ำตาลทราย เล็กน้อย
น้ำเปล่า  สำหรับต้มปลา

วิธีทำ
1.ใส่น้ำเปล่าในหม้อตั้งไฟ เปิดไฟในเตาใช้ไฟร้อน ใส่ตะไคร้ กระเทียม ขมิ้น ใส่ลงไป รอจนน้ำเดือด
2.ใส่ปลาลงต้ม พอปลาสุกปรุงรสด้วยน้ำส้ม เกลือ น้ำตาล ชิมรสตามชอบ (รสชาติเปรี้ยวหวาน) เสร็จแล้วปิดไฟในเตายกลงตักใส่ถ้วยโรยพริกสด ยกเสิร์ฟได้เลย





หมูสับผัดกะปิ





ส่วนผสม
หมูสับ 300  กรัม
หน่อไม้ฝรั่งหั่นท่อน  6 ต้น
กะปิ  1 ช้อนชา
กระเทียมสับ  4 กลีบ
พริกสับ     ตามชอบ
หอมแดงซอย  3   หัว
ซีอิ้วขาว   1  ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย  ตามชอบ
น้ำเปล่า   เล็กน้อย
น้ำมันพืชสำหรับผัด

วิธีทำ
1.ใส่น้ำมันในกะทะ ตั้งบนเตาเปิดไฟปานกลางพอน้ำมันเริ่มร้อนใส่กระเทียม พริก หอม ลงผัดให้พอหอม
2. ใส่เนื้อหมูสับลงผัดต่อให้เข้ากัน ผัดจนกระทั้งหมูเริ่มสุก ใส่หน่อไม้ฝรั่งลงผัด จากนั้นนำกะปิ ผสมกับน้ำเปล่าเล็กน้อย พอละลายกะปิ
3. ใส่กะปิลงในกะทะ ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว น้ำตาล ชิมรสตามชอบ ผัดให้ทุกอย่างสุกหมด ตักใส่จานยกเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลย


แกงส้มกระดูกหมูผักกาดดอง






ส่วนผสม
กระดูกหมู 300 กรัม
ผักกาดดองหั่นชิ้น  1 ต้น
น้ำพริกแกงส้ม 2 ช้อนโต๊ะ
กะปิแกง 1 ช้อนชา
ขมิ้นผง 1/2 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี็บ  ตามชอบ
น้ำเปล่า  สำหรับทำน้ำแกง
น้ำมะนาว / น้ำส้มสายชู เล็กน้อย

วิธีทำ
1. เปิดไฟในเตาใช้ไฟแรง จากนั้นเอาน้ำใส่หม้อแกงยกขึ้นตั้งบนเตาพอน้ำเดือด นำกระดูกหมูลงต้มจนสุก เปื่อยนุ่ม
2. ใส่พริกแกงส้มลงในหม้อ คนให้เข้ากัน เคี่ยวจนกว่าพริกแกงส้มเข้าจะเข้าเนื้อ จากนั้นใส่ผักกาดดอง เติมกะปิ น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ชิมรส ตามชอบ หากยังเปรี้ยวไม่พอให้เติม น้ำมะนาว /น้ำส้มสายชู เพิ่มรส ปรุงให้ทุกอย่างสุกเข้ากัน ปิดไฟในเตา ยกเสิร์ฟได้เลย

แปะก๊วยน้ำเชื่อม





ส่วนผสม
แปะก๊วย 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
น้ำเปล่า 3/4 ถ้วย
น้ำตาลทราย และน้ำเปล่าสำหรับทำน้ำเชื่อม ตามชอบ
น้ำแข็งบด ตามชอบ

วิธีทำ
1. ใส่น้ำตาลทรายและน้ำเปล่าเล็กน้อยในหม้อต้ม นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ต้มจนน้ำตาลละลาย
2.ใส่แปะก๊วยลงไปต้มให้เดือด จากนั้นปิดไฟแล้วยกลงปล่อยทิ้งห้น้ำตาลซึมเข้าไปในเนื้อแปะก๊วย
3.  ตั้งหม้อบนเตาใส่น้ำตาลและน้ำเปล่าลงในหม้อ ใช้ไฟอ่อนต้มให้น้ำตาลละลาย จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็น
4. ได้เวลาเสิร์ฟ ให้ตักแปะก๊วยมาใส่ถ้วย พร้อมด้วยน้ำเชื่อม น้ำใส่น้ำแข็ง ยกเสิร์ฟได้เลย

ข้าวผัดปูอัด

เมื่อวานนกจัดระเบียบช่องแช่แข็งในตู้เย็นใหม่ เจอะกล่องปูอัดแช่แข็งทำให้นึกอยากกินข้าวผัดปูอัดขึ้นมาทันที ข้าวผัดปูอัดเป็นอาหารจานเดียวทำง่ายๆ แถมอร่อย ส่วนผสมไม่ยุ่งยาก หากบ้านไหนมีเด็ก ๆ เมนูนี้เหมาะที่สุด เด็ก ๆ ชอบมาก ๆ เลยค่ะ






ส่วนผสม
ข้าวสวยเย็น  1  ถ้วย
ปูอัดหั่นชิ้น 5   แท่ง
ไข่ไก่ 1  ฟอง
กระเทียมสับ   3 กลีบ
ซีอิ้วขาว  1  ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น  เล็กน้อย
น้ำตาลทราย  เล็กน้อย
หอมใหญ่หั่นเต๋า 1//4  หัว
คะน้าหั่นซอย  1  ต้น
น้ำมันพืชสำหรับผัด

วิธีทำ
1. ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมัน เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่กระเทียมลงผัดให้พอหอม
2. ใส่เนื้อปูอัด หอมใหญ่ ผัดให้เข้ากัน พอหอมเริ่มสุก ตอกไข่ไก่ลงผัดให้เข้ากัน ผัดให้ไข่สุก
3. ใส่ผักคะน้าลงผัดต่อ ผัดให้สุกเข้ากันจนทั่ว
4. ใส่ข้าวสวยลงผัด ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย พริกไทยป่น ผัดให้ทุกอย่างเข้ากัน ชิมรสตามชอบตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมแตงกวา ต้นหอม มะเขือเทศ น้ำปลาพริก ตามชอบได้เลย