แกงจืดเต้าหู้ยัดไส้หมูสับ

หากพูดถึงแกงจืดหรือต้มจืดแล้วละก็ มีหนึ่งในแกงจืดที่ชื่นชอบ และทำอยู่เป็นประจำก็คงเป็นแกงจืดเต้าหุ้ยัดไส้หมูสับนี้ละค่ะ ส่วนผสมเครื่องปรุงไม่มากมาก สะดวกรวดเร็ว ยิ่งเรื่องเต้าหู้แข็งสำหรับนกแล้วยิ่งหาง่ายเพราะทำเอง ดีเหมือนกันนะค่ะ การที่เรามาอยู่ไกลบ้านอย่างนี้ ทำให้เราได้เรียนรู้ที่จะทำอะไรหลายๆ อย่าง นกทำเต้าหู้แข็งที่หนึ่งประมาณ ครึ่งกิโลกรัม แบ่งเอาไปทอด ที่เหลือก็เอาไว้แกง ผัด และก็ต้มจืดอย่างที่เห็นนี้ละค่ะ



ส่วนผสม
เต้าหู้แข็งหั่น สามเหลี่ยม 8 ชิ้น
หมูสับ 300 กรัม
ผัดกาดขาวหั่นชิ้นพอคำ 8 ใบ
ซีอิ้วขาว 2 ชต
ต้นหอมผักชี หั่นเป็นท่อน ๆ 4 ต้น
พริกไทยป่น 1 ชช
น้ำมันหอย 2 ชต
น้ำตาลทรายเล็กน้อย
ซุปไก่ก้อน 1 ก้อน
สาหร่าย   ตามชอบ
น้ำเปล่า 3 ถ้วย

วิธีทำ
1.นำหมูสับผสมกับน้ำมันหอย ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย และพริกไทยป่น คลุกเคล้าให้เข้ากับหมูสับ พักไว้ประมาณ 15-20 นาที
2.นำเต้าหู้แข็งที่หั่นเป็นสามเหลี่ยมาผ่ากลาง จากนั้นเอาหมูสับที่ผสมเรียบร้อนแล้วยัดใส่ตรงกลางของเต้าหู้ จากนั้นนำไปนึ่งประมาณ 25 นาที หรือจนกระทั้งหมูสุก พักไว้
3.เปิด เตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ใส่น้ำเปล่าลงไปในหม้อ ใส่ซุปไก่ก้อนลงไป พอน้ำเดือดตักเต้าหู้ยัดไส้หมูสับลงไป ต้มสัก 5 นาทีให้น้ำซุปเข้าเนื้อ จากนั้นปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว และน้ำตาลทรายเล็กน้อย ชิมรสตามชอบ
4. ใส่ผักกาดขาวลงไปต้ม พอผักเริ่มสุกใส่ สาหร่ายต้นหอมและผักชีที่หั่นเป็นท่อนแล้วใส่ลงไป จากนั้นคนให้เข้ากันปิดไฟในเตาตักใส่ถ้วย โรยด้วยพริกไทยป่นเล็กน้อย ยกเสริฟได้เลยค่ะ

***เต้าหู้ที่เห็นนกทำเองไม่ได้ซื้อเค้าหรอกค่ะ ถ้าเพื่อนๆ สนใจที่จะทำเต้าหู้แข็งเองแวะอ่านสูตร โดยคลิ๊กที่รูปภาพข้างล่างก็จะไปยังสูตรที่นกได้เขียนไว้นะค่ะ***

หมูยอ/ไก่ยอ

ยำหมูยอเมนูที่หลายๆ คนชอบ นกเองก็ชอบเช่นกัน แต่อยู่ต่างแดนจะหาหมูยอ ส. ขอนแก่น ได้ที่ไหนกัน หรือถ้ามีขายก็ไม่สบายใจเรื่องสารกันบูดอีก เมืือหาซื้อไม่ได้อยากกินก็ต้องทำเอง และแล้วนกก็ได้หมูยอกินสมใจเลยอยากเอามาแบ่งปันเพื่อนๆ ชาวครัว เผื่อว่าหาหมูยอไม่ได้เช่นกัน



ส่วนผสม
เนื้อหมู 1/2 กก
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วย
เกลือป่น 1 ชช
พริกไทยป่น 1-2 ชช (แล้วแต่ชอบ)
กระเทียม 4-5 กลีบ
น้ำตาลทราย 2 ชช
ผงฟู 1/2 ชช
น้ำแข็งป่น 1 ถ้วย

วิธีทำ
1.เอาเนื้อหมูไปแช่ให้เย็นจัด แล้วนำไปปั่นใน Food Processor จนละเอียด

2.
จากนั้นใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงไปปั่นให้เข้ากัน ช่วงนี้เนื้อหมูจะเริ่มคลายความเย็น ให้ใส่น้ำแข็งทุบละเอียดลงไปปั่นจะทำให้หมูยอเหนียวขึ้น
3.
นำหมูที่ได้ห่อด้วยใบตอง (นกไม่มีใบตอง) ห่อด้วยถุงพลาสติกทนความร้อน หรือถ้าไม่มีใช้กล่องพลาสติกแบบทนความร้อนแทน อัดเนื้อหมูให้แน่นอย่าให้มีรช่องอากาศข้างใน เพราะจะทำให้หมูยอเนื้อไม่แน่นสวย 4.นำหมูไปนึ่งประมาณ 25-30 นาที หรือจนกระทั้งหมูสุกค่ะ เสร็จแล้วพักให้เย็นเท่านี้ก็ได้หมูยออร่อยๆ ไว้ยำ หรือจะนำใส่ในก๋วยเตียวก็อร่อยแล้วละค่ะ


***บางคนทำหมูยอจะใส่มันหมูลงไปด้วย แต่ของนกที่ทำไม่ได้ใส่แต่นกใช้เนื้อติดมันนิด ๆ มาทำนะค่ะ แต่ทำเฉพาะเนื้อแดงก็ได้เช่นกันแล้วแต่จะชอบนะค่ะ ส่วนไก่ยอก็ใช่สูตรและวิธีทำเหมือนกัน ๆ กันค่ะ สิ่งที่สำคัญเนื้อจะต้องเย็นจัด เนื้อที่เราบดจะนุ่มเหนียวกรอบอร่อยค่ะ นี้เป็นหมูยอที่นกทำใหม่ๆ เลยหั่นมาให้ชมกันค่ะ***






ผัดเผ็ดซี่โครงหมู

ผัดเผ็ดหรือผัดพริกแกงเผ็ดเมนูอาหารปักษ์ใต้จานโปรด นกเห็นหลาย ๆ คน เวลาผัดเผ็ดซี่โครงหมู จะที่จะใส่พริกไทยอ่อน มะเขือเปราะ หรือผักอื่น ๆลงไปเพิ่มความอร่อยและสีสรรของอาหารที่ทำ แต่สำหรับนกแล้ว หากผัดเผ็ดซี่โครงหมูนกมักจะผัดแบบง่ายๆ ไม่ใส่ผักอะไร มีแต่พริกแกงเผ็ด แบบว่าชอบซี่โครงหมู ยิ่งเป็นกระดูกอ่อน ๆแล้วยิ่งชอบใหญ่




ส่วนผสม
ซี่โครงหมู ตามชอบ
น้ำพริกแกงเผ็ด 1 ชต
ซีอิ้วขาว/น้ำปลา 1 ชต
น้ำตาลทราย ตามชอบ
นมข้นจืด 1/2 ถ้วย (แบ่งออกเป็น 2 ส่วน)
น้ำมันพืชสำหรับผัด เล็กน้อย (นกใช้ประมาณ 2 ชต)

วิธีทำ
1. นำซี่โครงหมูมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วหั่นสับเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ ใส่นมข้นจืดเล็กน้อยลงไปหมักประมาณทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
2. เปิดเตาไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันลงไป รอจนกระทั้งน้ำมันเริ่มร้อน ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัดจนน้ำพริกละลายและเริ่มหอม จากนั้นใส่ซี่โครงหมูลงไปผัดเคล้าให้เข้ากัน
3.ใส่นมข้นจืดลงไปส่วนหนึ่ง จากนั้นผัดซี่โครงหมูกับเครื่องแกงไปเรื่อยๆ จนหมูเริ่มสุก ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว หรือน้ำปลา และน้ำตาลทราย จากนั้นก็ใส่นมข้นจืดที่เหลือลงไป
4.ผัดให้เครื่องทั้งหมดเข้ากัน ชิมรสตามชอบ หมั่นคนเรื่อยๆ จนน้ำเริ่มงวดตักใส่จาน จากนั้นตักใส่จานยกเสิรฟได้เลยค่ัะ


น้ำพริกสตอรเบอร์รี่

เมื่อสตอเบอร์รี่หาง่ายกว่ามะม่วงสามฤดู แถมลูกใหญ่ราคาถูกเปรี้ยวเข็ดฟัน อย่างนี้ต้องเอามาตำน้ำพริกเสียเลย หน้าหนาวที่บ้านนาน ๆ ถึงจะตำน้ำพริกสักครั้ง เหตุเพราะกลิ่นกะปิเวลาย่างจะฟุ้งกระจายอยู่ในบ้านไ ม่ไป ไหน กว่ากลิ่นจะหมดหายไป ฉีดน้ำหอมแล้วน้ำหอมอีก กะปิก็ยังหอมกว่าน้ำหอมปรับอากาศเสียอีก นกเกรงใจแฟนคลับ เพราะกลิ่นมันหอมจริงๆ เลยต้องนาน ๆ ทำกินสักที่ ถ้าไม่ทำอะไรกว่าจะกินหมดสตอเบอร์รีก็จะเน่าเสียก่อนไปก่อน เลยจำเป็นต้องทำ ย่างกะปิครั้งนี้ยอมเปิดหน้าต่างให้กลิ่นระบายออกเสียหน่้อย อากาศข้างนอกวันนี้มีแดด แต่ก็หนาวนิด ๆ ไม่หนาวมากเท่าไร เตรียมส่วนผสมให้พร้อมกะปิย่างเสร็จก็ผสมเลย จะได้ไม่ต้องเปิดหน้าต่างนาน ๆ




ส่วนผสม

สตอรเบอร์รี่ ตามชอบ

กะปิย่าง 2 ชช

กระเทียม 5-6 กลีบ
พริกขี้หนูสด ตามชอบ

กุ้งแห้งป่น ตามชอบ (ถ้ามี)

น้ำปลา ตามชอบ

น้ำตาลปี๊บ 2 ชช

น้ำมะนาว 2 ชต


วิธีทำ
1.ล้างสตอรเบอร์รี่ให้สะอาด จากนั้นนำมาหั่นเป็นเส้นๆ พักไว้

2.โขลก พริกขี้หนู,กะเทียม,หอมแดง,ให้ละเอียดตามชอบ ใส่กุ้งแห้งและกะปิย่าง โขลกรวมกับพริกขี้หนู โขลกให้เข้ากัน3.ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ,น้ำปลา, น้ำมะนาว,ชิมรสตามชอบ
4. ใส่สตอรเบอร์รี่ลงไปโขลกรวมกันอีกครั้ง โขลกไม่ต้องให้แรงจนละเอียด ย้ำ ๆ เบาเท่านั้นจากนั้นตักใส่ถ้วยเสริฟคู่ผักสดได้เลย
***ถ้าหากสตอเบอร์รี่ไม่เปรี้ยวพอให้บีบมะนาวช่วยนะค่ะ แต่ของนกวันนี้เปรี้ยวเลยใส่น้ำมะนาวเล็กน้อยนะค่ะ***

ขนมบ้าบิ่น (แบบใช้เตาอบ)

นกไม่ได้ทำขนมไทยนานแล้วค่ะ เพราะทำที่ไรสุดท้ายกินคนเดียวทุกที ถามว่าแฟนคลับทานไม่ขนมไทย บอกได้เลยค่ะว่าไม่ทาน เวลาทำทุกๆ ขนมนกจะให้ชิมดูํเสมอ แต่พอชิมนิดเดียวก็ไม่เอาอีกเลย แต่ขนมบ้าบิ่น ลองชิมนิดหนึ่ง แล้วยังขอชิมดูอีกรอบทานเสร็จแล้ว บอกว่าโอเค แต่ก็ยังไม่ชอบอยู่ดี



ส่วนผสม
มะพร้าวขูด 2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
แป้งข้าวเหนียว 1 1/2 ถ้วย
แป้งเท้ายายม่อม 1/2 ถ้วย (ไม่มีใช้แป้งมันแทน)
ไข่ไก่ 3 ฟอง (ไข่ไก่เฉพาะไข่แดง 1 ฟอง และทั้งไข่ขาวไข่แดง 2 ฟอง)
กะทิ 1/2 ถ้วย
กลิ่้นมะลิ 1 ชช
น้ำมันพืชสำหรับทาถาด เล็กน้อย


วิธีทำ
1 นำมะพร้าวขูดฝอยไปผสมกับ แป้งมัน, แป้งข้าวเหนียว, น้ำตาลทราย และกลิ่นมะลิ ให้เข้ากันจนเป็นน้ำกะทิ
2 ใส่ไข่ไก่ทั้งฟองและกะทิ คนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี
3 ตักส่วนผสมทั้งหมดใส่ถาด ที่ถาน้ำมันไว้แล้ว นำไปอบด้วยอุณหภูมิ ประมาณ 280 - 300 องศาเซลเซียสประมาณ 25-30 นาทีหรือจนสุกเหลืองทั่ว
4 เมื่อขนมสุก ได้ที่นำออกมาแล้วทาด้วยไข่แดงที่หน้าขนมนำไปอบต่ออีกสักพักจะได้ขนมที่มีหน้าเป็นสีน้ำตาล อบเสร็จนำออกมาทิ้งไว้ให้เย็น ตัดเป็นชิ้นๆเสริฟรับประทานได้ทันที