ปีกไก่ทอดธัญพืช



ส่วนผสม
ปีกบนไก่ 10ชิ้น
ถั่วผสม (Mixed Nut) 1/2 ถ้วยตวง
เมล็ดมะม่วงหิมพานต์อบบดหยาบ 1/2 ถ้วยตวง
เมล็ดทานตะวันอบบดหยาบ 1/4 ถ้วย
งาขาว 2-3 ชต
เกลือป่น 1 ชช
แป้งทอดกรอบ 1/2 ถ้วย
น้ำเปล่า พอประมาณ
น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ
1 เลาะเนื้อส่วนกระดูกปีกบนไก่ ตรงโคนลงมาพอประมาณ (นกเลาะประมาณ 1-2 ซม)
2 นำถั่ว เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ งา เกลือป่นผสมให้เข้ากัน พักไว้
3 ผสมแป้งทอดกรอบ น้ำเปล่าให้เข้ากัน เวลาเทน้ำเปล่าให้เทลงที่ละนิด ผสมแป้งดูอย่าให้เหลวเกินไป จากนั้นนำปีกไก่ลงชุบในแป้ง และชุบ ส่วนผสมของธัญพืช ให้ทั่วทั้งชิ้น
4 ตั้งกระทะบนเตา เปิดไฟแรง ใส่น้ำมันลงในกระทำ รอให้น้ำมันร้อน จากนั้นนำปีกบนไก่ลงทอดในน้ำมันเบาไฟให้เป็นไฟปานกลาง ทอดจนกระทั่งไก่สุก ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานเสิรฟคู่กับน้ำจิ้มตามชอบได้เลย

***ถ้าเพื่อน ๆ ชอบ ธัญพืชอื่น สามารถนำมาผสมได้อีกนะค่ะ ของนกเอาเท่าที่พอจะหาได้นะค่ะ สำหรับงาถ้าจะใส่งาดำก็ได้เช่นเดียวกัน ที่บ้านงาดำหาซื้อไม่ได้นะค่ะ ***

ราดหน้าคะน้าหมูนุ่ม



ส่วนผสม
เส้นก๋วยเตียว ตามชอบ (วันนี้นกใช้เส้นหมี่)
คะน้าหั่นเฉียง 6-8 ต้น
เนื้อหมูสันในหมัก 1 ถ้วย
กระเทียมสับ 5-6 กลีบ
ซีอิ้วขาว 2 ชต
ซีอิ้วดำ 2 ชต
น้ำมันหอย 2 ชต
น้ำตาลทราย ตามชอบ
เต้าเจี้ยว 2 ชต
แป้งข้าวโพด 2 ชต
น้ำมันสำหรับผัด
น้ำซุปไก่ ตามชอบ (ไม่มีใช้น้ำเปล่าได้ค่ะ)

ส่วนผสมหมูหมัก
เนื้อหมูสันใน หั่นสไลด์ 1 ถ้วย
แป้งข้าวโพด 1 ชช
ซีอิ้วขาว 1 ชต
ซอสหอยนางรม 1 ชต
น้ำมันงา 1 ชช

วิธีทำ
1 ผสมส่วนผสมหมูหมักทั้งหมดเข้าด้วยกัน จากนั้นหมักไว้ประมาณ 1 ชม
2 เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไปพอประมาณ จากนั้นรอจนน้ำมันร้อน ใส่เส้นหมี่ ซีอิ้วดำ ลงไป ผัดให้ซีอิ้วดำคลุกเส้นให้ทั่ว จากนั้นปิดเตา ตักขึ้นใส่จาน พักไว้
3 ตั้งกระทะอีกครั้ง ใส่น้ำมันลงไปน้ำมันร้อนก็ใส่กระเทียมลงไปผัดจนกระเทียมหอม ใส่เนื้อหมูหั่นลงไป ผัดจนหมูเริ่มสุกก็ใส่เครื่องปรุงต่างๆ คือ ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย และน้ำตาลทรายลงไป
4 ผัดให้เครื่องปรุงต่างๆ เข้ากัน จนหมูสุกก็เติมน้ำซุปลงไป รอจนน้ำซุปเดือด ก็ใส่เต้าเจี้ยวลงไป ชิมรสตามชอบ จากนั้นรอให้น้ำซุปเดือดอีกครั้งก็ใส่ผักคะน้าที่หั่นไว้ลงไป ระหว่างนี้ให้ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำเปล่า คนให้แป้งละลายจนหมด จากนั้นเทลงน้ำซุป คนเร็วๆ อย่าให้แป้งจับตัวเป็นก้อน น้ำซุปจะข้นขึ้น รอจนน้ำซุปเดือดอีกครั้งปิดไฟในเตา ตักน้ำซุปราดบนเส้นหมี่ โรยด้วยพริกไทยป่น ยกเสริฟได้เลยค่ะ

*** เวลาละลายแป้งมันลงไปแล้วหาน้ำซุปยังไม่ข้นตามที่ต้องการ ก็ให้ละลายแป้งเพิ่มลงไปอีก***

ลูกชื้นหมู

ลูกชิ้นเด้งดึง ๆ มาแล้วจ้า ด้วยความที่เป็นคนชอบอาหารเส้น ดังนั้นลูกชิ้นเป็นเมนูที่ขาดไม่ได้เลยที่เดียว ทำครั้งหนึ่งเก็บไว้กินหลายวันเลยค่ะ ส่วนใหญ่นกจะแบ่งแช่แข็งเอาไว้ นอกจากจะใส่ในก๋วยเตียวแล้วบางครั้งยังเอามาทอด ปิ้งย่าง ยำ หรือไม่ก็เอามาแกง อยู่เมืองไทยหาซื้อได้ง่าย อยู่ต่างแดนหาซื้อยากแถมยังแพงทำเองดีกว่าปลอดภัยไร้สาร ว่าแล้วเข้าครัวกันเถอะค่ะ



ส่วนผสม
เนื้อหมูบดละเอียด 500 กรัม
ซีอิ๊วขาว 2 ชต.
น้ำตาล 1 ชต.
แป้งข้าวโพด 2 ชต.
ผงฟู 1 1/2 ชต.
เกลือ 1/2 ชช
น้ำมันพืช 2 ชต.
น้ำเย็นจัด 2 ชต
พริกไทยตามชอบ

วิธีทำ
1 ผสมเกลือ น้ำตาล ซีอิ๊ว แป้งข้าวโพด ผงฟู น้ำและน้ำมันเข้าด้วยกันใส่ลงไปเนื้อหมูบดละเอียด นวดให้เข้าจนเป็นเนื้อเดียวกันทั้งหมด เติมพริกไทยลงไปแล้วนวดต่อให้เข้ากันอีกครั้ง
2 นำหมูบดที่นวดเสร็จแล้วแช่ตู้เย็นประมาณ 1 ชม
3.ตั้งกระทะใส่น้ำตั้งบนเตาใช้ไฟแรงต้มให้เดือด จากนั้นดับไฟที่ต้มน้ำในกระทะ เอาหมูบดออกมาบีบให้เป็นก้อนกลม แล้วใช้ช้อนตักใส่ลงในกระทะที่มีน้ำร้อนทำแบบนี้จนหมดค่ะ เปิดเตาอีกครั้งต้มต่อใช้ไฟอ่อนที่สุดอย่าให้น้ำในกระทะเดือน
4 เตรียมน้ำเย็นใส่น้ำแข็งไว้1กะละมัง พอลูกชิ้นในกระทะเริ่มลอยลูกชิ้นได้ที่เริ่มจะสุก พอลูกชิ้นสุกได้ที่ตักใส่กะละมังที่ใส่น้ำและน้ำแข็งทิ้งๆไว้สักครู่จากนั้นตักใส่จานหรือกล่องเก็บแช่ตู้เย็นไว้ปรุงกับกว๋ยเตียว หรืออาหารอื่น ๆ ได้เลย

***สุตรนี้ใช้ได้กับทุกเนื้อ แต่ที่บ้านส่วนใหญ่จะมีลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นไก่ และลูกชิ้นไก่งวง ส่วนลูกชิ้นกุ้ง ปลา นกใช้อีกสูตรหนึ่ง แต่ขั้นตอนของการทำลูกชิ้นก็จะคล้าย ๆ กันนะค่ะ***

ลูกชิ้นไก่


ลูกชิ้นไก่งวง




แกงส้มใบSpinachไข่กุ้งสด

จริงๆ แล้วเมนูนี้นกทำอยู่หลายรอบแต่ไม่มีโอกาสได้เอามาลงสักที่วันนี้ว่างมีโอกาสเลยพิมพ์เสียที่ นกเป็นคนที่ชอบทานแกงส้มชะอมไข่ แต่ที่บ้านชะอมนั้นอยู่ห่างไกลกันเหลือเกิน นี้ถ้าอยู่เมืองไทยไปตลาดก็ได้มาแล้ว แต่อยุ่ต่างแดนบ้านไกลกว่าจะได้มาความอยากคงจบ หรือไม่ก็ยากกินต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ชะอม นกเลยใช้ใบSpinach ที่หาซื้อง่ายแกงกินนะค่ะ ที่บ้านส่วนใหญ่ทำไข่เจียวใบ Spinach กินกับน้ำพริกอยู่เป็นประจำ นกเอามาใสแกงเสียเลยง่ายดี




ส่วนผสม
ใบSpinach หั่นเป็นเส้น ๆ 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 2 ฟอง
กุ้งสด 1 ขีด
น้ำตาลปีบ ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำมะขามเปียก ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับทอดชะอม ตามชอบ

ส่วนผสมพริกแกง
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
หัวหอมแดง 5-6 หัว
กระชาย 3 ราก (ถ้ามี)
กะปิ 1 ชต
เกลือป่น 1/2 ชช
ปลาต้มสุกแกะเนื้อ 1 ตัว

วิธีทำ
1.เอาพริกแห้งแช่น้ำให้นิ่ม พริกนิ่มแล้วให้บีบน้ำออก หั่นหรือฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในครก ใส่เกลือป่นไปนิดหน่อย โขลก ๆ ให้พริกละเอียด จากนั้นเติมส่วนผสมอื่นเข้าไปโขลกต่อจนส่วนผสมทุกอย่างละเอียดเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
2.เอาหม้อตั้งบนเตาใส่น้ำลงไปต้มให้เดือด ใส่พริกแกงที่โขลกเสร็จแล้วลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลปึบ น้ำปลาดี น้ำมะขามเปียก ชิมรสตามชอบพักไว้ เวลาจะทานยกหม้อตั้งเตาอีกครั้งพอน้ำแกงเดือดค่อยใส่กุ้งลงไป
3.ใบSpinach หั่นซอยผสมกับไข่ปรุงรสด้วยน้ำปลา ลงทอดเหลืองสองด้านแล้ว ตักขึ้นมาพักไว้รอเย็น แล้วหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าพอคำ จากนั้นราดด้วยน้ำแกง ยกเสริฟทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

****ถ้าใครแกงด้วยใบSpinach เหมือนนก เวลาใส่น้ำปลาให้ใส่เยอะกว่าชะอมนิดหน่อย เพราะใส่น้อยเกินไปไข่จะจืดเวลากินไม่ค่อยได้รสเท่าไร แต่ถ้าใครไม่ชอบใบSpinach เปลี่ยนเป็นไข่เจียวใบคะน้า หรือไข่เจียวแครอทก็ได้ค่ะ****

ข้าวผัดขิง

ขิงๆๆๆ สมุนไพรไทยมีคุณประโยชน์ โดยเฉพาะหน้าหนาวอย่างนี้ต้องกินเยอะ ๆ จะได้ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นถ้าเราพูดถึงคุณประโยชน์ของขิงคงพูดกันไม่จบมีเยอะมาก ๆ อย่างเรากินขิงอ่อน แต่ถ้าขิงแก่ก็จะเอาไปทำยานะค่ะ ขิงเป็นพืชที่ปลูกได้ดีในเขตร้อน อย่างเมืองไทยบ้านเราถือว่าเป็นแหล่งปลูกขิงเลยก็ว่าได้ค่ะ คุยเรื่องขิงแค่นี้ก่อนนะค่ะ เพราะว่าหิวแล้วไปเข้าครัวก่อนนะจ้า




ส่วนผสม
กุ้งสดขนาดเล็กใหญ่ ตามชอบ (วันนี้นกใช้กุ้งตัวใหญ่ 10 ตัว)
หมูกรอบ 1/2 ถ้วย
ข้าวสวย 2 ถ้วย
กระเทียมสับ ตามชอบ
ขิงซอย 1 แง่ง
พริกหวานหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 ลูก
ข้าวโพดอ่อนหั่นเป็นท่อนบาง ๆ 1/2 ถ้วย
หัวหอมใหญ่ หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/2 ลูก
แครอท หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/4 ถ้วย
ต้อนหอมผักชี หั่นหยาบ 2 ต้น
ชีอิ้วขาว 2 ชต
น้ำตาล ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ

วีธีทำ
1. เอากะทะตั้งบนเตาใช้ไฟแรงปานกลาง ใส่น้ำมันสำหรับผัดลงไป พอน้ำมันร้อนใส่เจียวกระเทียมลงผัดให้หอม เอากุ้งลงผัดให้พอกุ้งมีเริ่มมีสีแดงสุก
2.ใส่หัวหอมใหญ่ แครอทลงไปผัดให้เข้ากันจนกระทั้งผักเริ่มสุก ใส่ข้าวสวย หมูกรอบ ลงไปผัด ปรุงรสด้วย ชีอิ้วขาว น้ำตาล น้ำปลา ชิมรสตามชอบ
3.ผัดให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นใส่ขิงซอยลงไปผัดต่อให้ขิงสุก ชิมรสอีกครั้ง หากได้ที่ปิดไฟในเตา ใส่ต้นหอมผักชีลงไป ผัดให้เข้ากันตักใส่จานโรยขิงซอยอีกนิดหน่อย ยกเสริฟคู่กับไข่ดาวได้เลย ค่ะ

***ถ้าใครต้องการความเผ็ด เวลาเสริฟ ก็ตักพริกมะนาวใส่ลงไป และถ้าไม่ชอบกินไข่ดาว จะใส่ไข่ตอนที่ผัดก็ได้เช่นเดียวกันคะ **


ข้าวผัดพริกแกงไก่

จำได้เด็ก ๆ เวลาแม่ทำกับข้าวมีผัดพริกแกง หรือผัดเผ็ด หลังจากตักอาหารใส่จานเสร็จแล้วในกระทะยังมีเครื่องแกงเหลืออยู่แม่ก็จะเอาข้าวสวยลงไปผัดเสมอ ลูก ๆ ก็จะตักข้าวที่ผัดเครื่องแกงในกระทะราดด้วยผัดพริกแกง หรือผัดเผ็นที่แม่ทำอีกที่ อร่อยจริงๆ




ส่วนผสม
ข้าวสวย 1 1/2 ถ้วย
เนื้อไก่หั่นเป็นชิ้นพอคำ ตามชอบ
ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อนๆ 2-3 ฝัก
พริกแกงเผ็ดใต้ 1 ชต
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำตาลทราย ตามชอบ
ใบโหระพา ตามชอบ
พริกชี้ฟ้าแดงเขียว หั่นเฉียง 2-3 ดอก
น้ำมันสำหรับผัด

วิธีทำ
1.ตั้งกระทะบนเตาไฟใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันลงไปในกระทะสำหรับผัดพริกแกง ผัดให้พริกแกงพอหอม จากนั้นใส่เนื้อไก่ลงในกระทะผัดจนกระทั้งไก่เริ่มสุก
2.ใส่ข้าวสวยลงไปผัด ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ ผัดให้ข้าวเข้ากันดี พอได้ที่ใส่ถั่วฝักยาว พริกชี้ฟ้า ลงผัดให้เข้ากันสัก สองสามครั้ง ปิดไฟในเตา ใส่ใบโหระพาลงไปผัดคลุกเค้าอีกครั้งตักใส่จานเสริฟคู่กับไข่ดาว หรือไข่เจียวตามชอบได้เลยค่ะ

เต้าเจี้ยวหลน



ส่วนผสม
เต้าเจี้ยวขาวตำละเอียด 3 ชต
เนื้อกุ้งสดสับ 1/2 ถ้วย
หมูสับ 1/2 ถ้วย
หัวหอมแดงซอย 5-6 หัว
พริกชี้ฟ้าเขียว แดง หั่นเป็นท่อนๆ ตามชอบ
พริกขี้หนูสดหั่นเป็นท่อน ๆ ตามชอบ
กะทิ ๑ กระป๋อง
น้ำตาลทราย ตามชอบ
เกลือ 1 ชช
น้ำมะขามเปียก ตามชอบ

วิธีทำ
1.เทกะทิใส่หม้อ ละลายเต้าเจี้ยว หมู กุ้ง แล้วตั้งไฟคนให้สุก
2.ใส่พริกชี้ฟ้า พริกขี้หนูสด หอมแดง ลงในหม้อ จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือ น้ำมะขามเปียก ชิมรส เปรี้ยว หวาน เค็ม ตามชอบ พอเดือนอีกครั้งตักใส่ถ้วยเสริฟพร้อมผักสด แครปหมู ได้เลยค่ะ


แกงหมูตะไคร้

เมนูนี้นกทำหลายรอบแต่ไม่เคยได้ลงสูตรในครัวสักที ช่วงนี้อากาศหนาวไปไหนมาไหนไม่สะดวกยิ่งวันนี้มีหิมะแต่เช้าเลยได้โอกาสสะสางเมนูเก่า ๆ ได้ไปหลายเมนูเลย นกประทับใจแกงหมูตะไคร้เป็นที่สุด ตอนที่ทำครั้งแรกยังกังวลว่าจะชอบกลิ่นของตะไคร้หรือเปล่า เพราะใส่มากกว่าปกติ อีกอย่างตัดเป็นท่อน ๆ ไม่ได้โขลกให้ละเอียดเหมือนทำแกงอื่น ๆ พอทำเสร็จยกขึ้นโตแฟนคลับชิมชมใหญ่เลยค่ะ ว่าได้กลิ่นสมุนไพร แถมแฟนคลับยังบอกว่าแกงตะไคร้นี้ บอกตัวตนของความเป็นสมุนไพรไทยที่มีกลิ่นหอมชื่นใจทำเอานกยิ้มแก้มป่องไปเลย







ส่วนผสม
เนื้อหมูหั่นชิ้น 500 กรัม
สับประรดหั่นชิ้น 1 ถ้วย
ตะไคร้ทุบพอหยาบหั่นเป็นท่อน ๆ 4-5 ต้น
น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ชต
กระทิ 1 กป
ใบมะกรูด 6-8 ใบ
พริกขี้หนูสด ตามชอบ
น้ำมันพืช 2 ชต
น้ำตาล 1 ชต
น้ำปลา ตามชอบ

วิธีทำ
1.ตั้งกระทะบนเตาเปิดไฟในเตาปานกลาง เอาน้ำมันใส่กระทะ พอน้ำมันร้อน ใส่เครื่องแกง และตะไค้รลงผัดให้พอหอม (ระวังอย่าให้ไฟแรงเดียวเครื่องแกงจะไหม้)
2.เครื่องแกงหอมใส่เนื้อหมูและสับปะรด พริกขี้หนูสด ลงไปผัด ผัดให้เนื้อหมูพอเริ่มสุกหน่อย ๆ จากนั้นใส่น้ำกระทิ ใบมะกรูด ลงไป ค้นให้ส่วนผสมเข้ากัน พักให้น้ำแกงเดือด
4. พอน้ำแกงเดือดอีกรอบ ใส่ น้ำตาล น้ำปลา ชิมรสตามชอบ เคี่ยวให้แกงงวดซึมเข้าเนื้อหมู และเนื้อหมูนุ่ม ได้ที่ชิมรสอีกครั้งตามชอบ จากนั้นตักใส่ถ้วยยกเสริฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

***เนื้อหมูที่ใช้ให้พอมติดมันนิด ๆ เพราะเวลาผัดน้ำมันจะได้ออกมาไม่ทำให้เครื่อแกงแห้งเกินไปนะค่ะ เวลาเนื้อหมูหั่นพยายามหั่นให้หนาๆ สักหน่อย เพราะถ้าหั่นบางๆ จะทำให้เนื้อหมูร่วนแตกดูไม่น่ากิน***


ข้าวมันไก่ทอด/ไก่ต้ม

เสาร์ -อาทิตย์ แฟนคลับไม่ได้ไปทำงาน ถ้าไม่ได้ออกไปไหน เมนูมื้อกลางวันมักจะเป็นเมนูอาหารจานเดียวเสมอ วันนี้เสาร์ก็เช่นเดียวกันค่ะ นกกับแฟนคลับไม่ได้ออกไปไหนเหตุเพราะอากาศไม่อำนวย จริงๆ แล้วมีโปรแกรมว่าจะออกไปปิกนิคกัน พยากรณ์อากาศก็บอกว่าอากาศดี ตื่นมาทำไม่เป็นแบบนี้ กลุ้มใจอากาศที่นี้เปลี่ยนเร็วรับไม่ค่อยทันจริงๆ เลยค่ะ ดีนะเนี้ยที่เครื่องปรุงพร้อม เพราะกะจะทำวันอาทิตย์ ไหน ๆ ไม่ได้ไปแล้วก็ทำมันวันนี้เสียเลย ส่วนวันอาทิตย์ค่อยว่ากันใหม่ ข้าวมันไก่ทอด/ไก่ต้ม เป็นเมนูอาหารโปรดของแฟนคลับเลยก็ว่าได้ค่ะ แต่เวลาทำข้าวมันไก่ นกมักจะทำข้าวมันไก่ทอด เพราะเวลากินไม่หมดก็จะเอาไก่ทอดไปทำลาบไก่กรอบอีกรอบไว้กินมื้อเย็นอีกที่ โดยส่วนตัวชอบไก่ต้มมากว่าไก่ทอด แต่ก็ชอบลาบไก่กรอบด้วยเหมือนกัน (เลือกไม่ถูกหลายใจจริงๆ เลยเรา)





ส่วนผสมข้าวมันไก่ทอด
ข้าวมัน 1 1/2 ถ้วย
เนื้อไก่ 300-400 กรัม
แป้งทอดกรอบ 150 กรัม
น้ำแย็นจัด ตามชอบ
เกร็ดขนมปัง ตามชอบ
เกลือ 1 ชช
น้ำจิ้มข้าวมันไก่ 1 ถ้วย
ต้นหอมผักชีหั่นหยาบ 2-3 ต้น
แตงกวาหั่นชิ้น ตามชอบ

วิธีทำ
1 นำเนื้อไก่มาล้างให้สะอาด ซับให้แห้ง
2 ผสมน้ำเย็นกับแป้งทอดกรอบเข้าด้วยกัน ให้ผสมน้ำเย็นลงไปทีละน้อยจดได้แป้งข้นตามต้องการ
3 เอาไก่ที่ต้องการจะทอดชุบกับแป้งทอดกรอบแล้วนำไปคลุกกับเกร็ดขนมปังนำลงทอดให้สุก เหลือกรอบสวย ตักขึ้นวางบนกระดาษซับมัน พักไว้
4 ตักข้าวมันใส่จานหั่นไก่ทอดวางบนข้าว เสริฟด้วยแตงกวา น้ำจิ้มข้าวมันไก่ โรยหน้าด้วยต้นหอมผักซี เท่านี้ก็ได้ข้าวมันไก่ทอดอร่อย ๆ แล้วละค่ะ

***ถ้าเพื่อนๆ ไม่ชอบข้าวมันไก่ทอด จะเปลี่ยนเป็นไก่ต้มแทนก็ได้เช่นกัน วิธีการหุ้งข้าวมัน น้ำจิ้มเหมือนกับข้าวมันไก่ทอด เพียงแต่เปลี่ยนมาเป็นต้มไก่แทนจานนี้ข้าวมันไก่ต้มของนกเองค่ะ***


ส่วนผสมข้าวมัน
ข้าวสาร 1 1/2 ถ้วย
มันไก่ ตามชอบ
กระเทียมสับ 4-5 กลีบ
ขิงหั่นแว่น ตามชอบ
น้ำซุปไก่/น้ำเปล่า ตามชอบ

วีธีทำ
1 ล้างข้าวสารแล้วเทใส่ตะแกรงพักไว้
2 ตั้งกระทะบนเตาเอามันไก่ใส่ไป เจียวให้ออกมาจากนั้นตักกากทิ้งไปให้เหลือแต่น้ำมัน จากนั้นใส่กระเทียมสับลงไปผัดให้พอหอม ใส่ข้าวสาร ขิงลงไปผัดสองสามที ตักขึ้นใส่หม้อหุงข้าวเทน้ำซุปไก่ลงไปตามปริมาณที่เราหุงข้าวตามปกติ

***มีบางร้านทำข้าวมันไก่ใส่ข้าวเหนียวลงไปหุงด้วย สูตรของนกไม่ได้ใส่เพราะแฟนคลับไม่กินข้าวเหนียวนะค่ะแต่ถ้าเพื่อน ๆ จะใส่ก็ได้นะค่ะประมาณ 1/4 ถ้วย ใส่น้ำซุปลงไปในข้าวปริมาณน้ำปกติเหมือนกับหุงข้าวทั่ว ๆ เช่นเดียวกันค่ะ***


ส่วนผสมน้ำจิ้ม
ขิงแก่หั่นหยาบ 1แง่งใหญ่
กระเทียมหั่น 20-25 กลีบ
พริกขี้หนูสด 10 ดอก
เต้าเจี้ยว 2 ชต
ซีอิ๊วขาว 4 ชต
น้ำตาลทราย 3 ชต
น้ำมะนาว/น้ำส้มสายชู 2 ชต

วิธีทำ
นำส่วนผสมทั้งหมดเข้าเครื่งปั่น ปั่นให้พอส่วนผสมเข้ากัน ถ้าไม่ปั่นก็ให้หั่นขิ่ง กระเทียม พริกขี้หนูสดสับซอยให้ละเอียดตามต้องการจากนั้นนำไปผสมกับเต้าเจี้ยว ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย น้ำมะนาว ก็ได้เช่นเดียวกัน (น้ำจิ้มที่บ้านนกไม่ได้ปั่นใช้หั่นสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ นะค่ะ)

***นี้คือหน้าของลาบไก่กรอบที่นกกินทำอยู่เป็นประจำ หลังจากมีไก่กรอบเหลือ ถ้าหากเพื่อนๆ มีไก่กรอบเหลือลองทำดูซิค่ะ กินคู่กับผักสด ๆ อร่อยนะจะบอกให้ ***





สปาเก็ตตี้ทะเล

วันนี้ทำอาหารอิตาลีทานกันค่ะ จริงๆ แล้วเวลาทำสปาเก็ตตี้ส่วนใหญ่มักจะทำรสแบบไทย ๆ ไม่ค่อยเน้นอิตาลีกับเค้าสักเท่าไร เอาตามใจตัวเองเข้าว่านะค่ะ แต่มื้อนี้ขอเป็นอิตาลีกับเค้าเสียหน่อย



ส่วนผสม
เส้นสปาเก็ตตี้ต้มสุก 2 จาน
เนื้อสัตว์ทะเลต้มสุก ตามชอบ (วันนี้นกมี กุ้ง หอย และปลาหมึก)

มะเขือเทศสดหั่นเป็นสี่เหลื่ยมลูกเต๋า 1 ถ้วย
มะเขือเทศสับ 1 กป
กระเทียมสับ 4-5 กลีบ
หัวหอม หั๋นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 หัว
แครอท หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเตา 1/2 ถ้วย
ซอสมะเขือเทศ 4 ชต
ซอสพริก 2 ชต
ซาลาลี (celery)หั่นละเอียดเป็นชิ้น ๆ 1/2 ถ้วย
ปาปริก้า (paprika) 1 ชช
tomato pree 1 ชช
italian seasoning 1 ชช

oregno 1 ชช
น้ำมันมะกอก 2 ชต
พริกไทย ตามชอบ
เกลือ ตามชอบ
น้ำซุปไก่ ตามชอบ

วิธีทำ
1.เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง ตั้งกระทะเอาน้ำมันใส่ลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อนก็นำหอมหัวใหญ่ที่หั่นไว้ใส่ลงไป ผัดจนหอมหัวใหญ่เริ่มสุกใสและมีกลิ่นหอม ใส่กระเที่ยมลงไปผัดต่อ แล้วจึงใส่แครอท ซาลาลี มะเขือเทศสดลงไปผัดให้พอสุก
2.ใส่มะเขือเทศกระป๋อง ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก paprika tomato pree italian seasoning และoregnoเติมน้ำซุปไก่ลงไปหรี่ไฟให้เบาลงจากนั้นผัดเคี่ยวจนเป็นน้ำซอสเนื้อเดียวกัน ปรุงรสด้วย พริกไทย เกลือ ชิมรสตามชอบอีกครั้ง
3.เมื่อน้ำซอสได้ที่นำเนื้อสัตว์ทะเลลงไปคลุกกับซอส เคี่ยวต่อไปอีกจนกระทั้งน้ำซอสเดือดได้ที่ ปิดไฟในเตา ตักสปาเก็ตตี้ใส่จาน ราดด้วยซอสเสริฟได้เลยค่ะ


น้ำพริกเห็ดแชมปิญอง



ส่วนผสม
เห็ดแชมปิญอง 250 กรัม
กุ้งแห้ง 150 กรัม
พริกขี้หนู ตามชอบ
พริกชี้ฟ้า ตามชอบ
หอมแดง 6-8 หัว
กระเทียม 10-15 กลีบ
น้ำมะนาว ตามชอบ
น้ำปลา 3 ชต
น้ำตาลทราย เล็กน้อย

วิธีทำ
1.โขลกกุ้งแห้งให้ละเอียดพักไว้
2.เอา พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า หอม กระเทียม ย่างไฟให้พอสุกหอม แกะเปลือกออกแล้วนำมาโขลกให้ละเอียดตามชอบพักไว้
3.เอาหม้อใส่น้ำตั้งบนเตาเล็กน้อยจากนั้นเอาเห็ดลงต้มค้นให้เห็ดสุกนิ่ม จากนั้นตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ
4.นำเห็ดที่ต้มสุกไปสับให้ละเอียด จากนั้นนำเห็ดสับ กุ้งแห้งลงไปครกโขลกรวมกับพริก หอม กระเทียม ให้เข้ากัน เติมน้ำปลา น้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ หากต้องการให้น้ำพริกออกหวานเติมน้ำตาลลงไปนิดหน่อยก็ได้ค่ะหากข้นเกินให้เติมน้ำอุ่นลงไปนิดหน่อย ชิมรสอีกครั้งตักใส่ถ้วยเสริฟคู่กับผักสด หรือผักต้มได้เลยค่ะ

หอยเชลล์ผัดพริกขิง

พอพูดถึงหอยเชลล์ หลาย ๆ คนคิดถึงหอยเชลล์อบเนย สำหรับนกชอบเอามาผัดพริกขิง ตามแบบฉบับคนไทยรสเผ็ดสะใจกว่ากันเยอะเลย ยิ่งตัวโตสด ๆ ใหม่ เนื้อมีรสหวานอร่อยเลยที่เดียวค่ะ แต่เวลาผัดอย่างผัดนานนะค่ะ เดียวมันจะเหนียวกินไม่อร่อยนะค่ะ




ส่วนผสม
เนื้อหอยเชลล์ 250 กรัม
น้ำพริกแกงเผ็ด 1 ช้อนโต๊ะ
ขิงอ่อนซอย 1 แง่ง
หอมหัวใหญ่หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/2 ลูก
พริกหวาน แดง เขียว หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ตามชอบ
น้ำตาลทราย ตามชอบ
เกลือ ตามชอบ

วิธีทำ
1.ล้างเนื้อหอยเชลล์ ใส่ตะแกรงพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2.ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป 1 ช้อนโต๊ะ ใช้ไฟกลาง ใส่พริกแกงลงไป ผัดจนพริกเครื่องแกงหอม ใส่หอยเชลล์ลงผัด ใส่น้ำตาล เกลือลงไปคนให้เข้ากันสองสามที
ปิดไฟ ตักใส่จานพักไว้
3.ใช้นำกระทะใบเดิมไม่ต้องล้าง ขึ้นตั้งไฟอีกรอบ ใส่น้ำมันลงไปสักเล็กน้อย ใช้ไฟกลาง พอน้ำมันร้อน ใส่หอม พริกหวานและขิงซอยลงไปผัดจนกระทั้งสุก ใส่หอยเชลล์ที่ผัดกับพริกแกง เติมน้ำลงไปเล็กน้อยให้พอขลุกขลิก ชิมตามชอบ จากนั้นผัดให้ส่วนผสมเข้าปิดไฟในเตาตักใส่จานยกเสิรฺ์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

เส้นใหญ่ทะเลราดหน้า



ส่วนผสม
ก๋วยเตียวเส้นใหญ่ 300 กรัม
กุ้ง ปลาหมึก หอยแมงภู่ 250 กรัม
เต้าเจี้ยว 2 ชช
ซีอิ๊วขาว 1 ชต
น้ำมันงา 2 ชช
เหล้าจีน 1 ชช
กระเทียมสับละเอียด 2-3 กลีบ
แครอทหั่นเป็นเส้น ๆ 1ถ้วย
ผักกาดขาวหั่นเป็นชิ้นพอคำ 5 ก้าน
เห็ดแชมปิญองหั่นเป็นชิ้น 1 ถ้วย
แป้งมัน 2 ชต
น้ำซุปไก่ ตามชอบ (นกใช้ประมาณ 3-4 ถ้วย)
น้ำตาลทราย ตามชอบ
พริกไทยป่น ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับผัด
น้ำเปล่าสำหรับละลายแป้งมัน

วิธีทำ
1.เตรียมเส้นด้วยการนำเส้นใหญ่มาคลี่ออกจากกัน จากนั้นคลุกด้วยซีอิ๊วดำเล็กน้อย พักไว้
2.ตั้งกระทะบนเตาใช้ไฟแรง ใส่น้ำมันเลี้ยงกระทะนิดหน่อย นำเส้นลงผัด จนกระทั้งสุกหอมตักใส่จานพักไว้
3.ใส่น้ำมันในกระทะใบเดิมเจียวกระเทียมให้พอหอม จากนั้นใส่เต้าเจี้ยวลงผัดพอเข้ากัน เติมน้ำซุป ต้มจนกระทั่งเดือด ใส่แครอทลงผักให้พอสุกจากนั้น ใส่กุ้ง ปลาหมึก หอยลงไป ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทรายและพริกไทยชิมรสตามชอบ
4.รอจนส่วนผสมเดือดอีกครั้ง ใส่ผักกาดขาวคนให้เข้ากันอีกครั้ง ใส่แป้งมันที่ละลายน้ำ คนผสมจนกระทั่งส่วนผสมข้นเหนียว เติมน้ำมันงาและเหล้าจีน คนผสมพอเข้ากัน ชิมรสอีกครั้ง จากนั้นปิดไฟในเตาตักราดบนก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ที่เตรียมไว้ ยกเสริฟร้อน ๆ กับพริกดอง หรือพริกน้ำส้มตามชอบได้เลยค่ะ


ผัดมะระใส่ไข่



ส่วนผสม
มะระขนาดกลาง 1 ลูก,
กระเทียมสับ 5-6 กลีบ
ไข่ 2 ฟอง
ซีอิ้ว 2 ชต
น้ำมันหอย 1 ชต
น้ำตาลทราย ตามชอบ

วิธีทำ
1.มะระล้างแล้วผ่าสี่ ขูดไส้ออกให้หมด ซอยหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ โรยเกลือลงไปในมะระขยำให้ทั่วๆ เติมน้ำลงไปนิดหน่อยแช่ไว้สัก 10-15 นาที ให้ความขมของมะระออกบีบเนื้อมะระขึ้นใส่อีกชาม เติมเกลือลงไปอีกแช่ไว้ประมาณ 5-10 นาทีจากนั้นล้างน้ำให้สะอาด บีบให้แห้งพักไว้
2.ตั้งกะทะบนเตาใช้ไฟปานกลางเจียวกระเทียมมหเพอหอม จากนั้นใส่มะระลงไป ผัดไปมาจนมะระนิ่ม ใส่ใข่ลงไปผัดต่อ คลุกเคล้าเข้ากัน ปรุงรสด้วยซีอิ้ว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบอีกครั้ง
3.ผัดจนกระทั้งมะระและไข่สุก ปิดไฟในเตาตักใส่จานเสริฟกับข้าวสวย หรือข้าวต้มแล้วแต่ชอบได้เลยค่ะ

ลาบหมูอบ

นกไม่ใช้ลูกอีสาน และอาหารอีสานชอบกินหลายอย่าง โดยเฉพาะเจ้าลาบหมูนี้ถือเป็นของโปรดเลยก็ว่าได้ แฟนคลับก็ชอบเช่นเดียวกัน ส่วนใหญ่จะเป็นหมูบดติดมันหน่อย ๆ แต่วันนี้เปลี่ยนส่วนผสมสักหน่อยเพราะหมูที่ซื้อมาอบมันชิ้นใหญ่มาก ๆ นกเลยแบ่งมาทำลาบกินมื้อกลางวันส่วนหนึ่ง อีกส่วนเก็บไว้กินมื้อเย็น ได้สองมื้อประหยัดกะตังอีกแล้วเรา



ส่วนผสม
หมูอบ ตามชอบ
พริกแห้งคั่วป่น 2 ชต
พริกสดหั่นหยาบ ตามชอบ
ข้าวคั่วป่น 2 กำมือ
น้ำมะนาว ตามชอบ
น้ำปลา 1 ชต
ใบสาระแหน่ เด็ดใบ ตามชอบ
ต้นหอมผักชีซอย 4-5 ต้น
หอมแดงซอย 5-6 หัว

วิธีทำ
1.หมูอบหั่นเป็นชิ้น ๆ พอคำ ใส่ลงในอ่างผสม จากนั้นเติมข้าวคั่ว น้ำมะนาว น้ำปลา พริกป่น พริกสด ชิมรสตามชอบ
2.ใส่หอมแดง ต้นหอมผักชีชอย ใส่ใบสาระแหน่ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสอีกครั้ง จากนั้นตักใส่จานยกเสริฟกินกับข้าวเหนียวร้อนได้เลยค่ะ

ไส้อั่ว

ไส้อั่วอาหารพื้นบ้านทางเหนือ ที่ใคร ๆ ก็ชอบ ไม่ว่าจะกินกับข้าวเหนียวร้อน ๆ หรือกินเป็นกับแกล้ม ก็อร่อยทั้งนั้น เทศกาลงานเลี้ยงไหน ๆ ก็มักจะเห็นไส้อั่วขึ้นโต๊ะอยู่เสมอ ๆ แต่สำหรับนกวันนี้ไม่มีงานเทศกาลใดๆแต่ดีใจที่หาซื้อไส้หมูได้ ฉลองความตั้งใจของตัวเองเสียหน่อย คราวนี้รู้แหล่งซื้อแล้ว ครั้งต่อๆไปคงได้ทำกันอีกหลายๆไส้ละค่ะเพื่อน ๆ


ส่วนผสม
หมูเนื้อแดงบด 1 กก (ติดมันนิดหน่อย)
น้ำพริกแกงเผ็ด 1 1/2 ชต
ผงขมิ้นผงเหลือง 2 ชช
ใบมะกรูดหั่นซอย 7-8 ใบ
ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 2 ชช
พริกไทยป่น 1 ชต
ต้นหอมผักชีซอย 4-5 ต้น
ผักชีฝรั่ง 8-10 ใบ (ถ้ามี)
เกลือป่น 2 ชช
ซอสถั่วเหลือง ตามชอบ
ผงปรุงรสหมู 2ชช (ถ้ามี)
ไส้หมู 1 พวง (ประมาณ 4 ขีด)

วิธีทำ
1.ล้างไส้หมูให้สะอาดแล้วบีบน้ำออกให้หมดผึ่งให้ไส้หมูแห้งสนิท
2.ผสมผิวมะกรูด เกลือป่น ผงขมิ้น ซอสถั่วเหลือง ผงปรุงรสหมู พริกไทยป่นลงในเนื้อหมูบด ใช้มือขยำให้เครื่องปรุงต่างๆ เข้ากับเนื้อหมูบด จึงนำไปหมักทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 20- 30 นาที
3.นำต้นหอม ผักชี ใบมะกรูด ผักชีฝรั่ง ใส่ลงในเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียดตามชอบ จากนั้นเทเครื่องปรุงที่ปั่นไว้ในหมูที่หมักจนครบกำหนดคลุกให้เข้ากัน (ถ้ามีเครื่องบดจะดีมากเลยใส่เครื่องบดให้เข้ากันสัก 2 เที่ยว) จากนั้น กรอกหมูบดลงในไส้หมูที่เตรียมไว้จนเต็ม อย่าให้แน่นมากนัก ใช้เชือกมัดหัวท้าย เป็นท่อน ๆ ขนาดตามชอบ ทำจนหมดไส้ จากนั้นนำนำไส้กรอกไปย่างบนเตาให้สุกเกรียมทั่วจัดใส่จานยกเสริฟคู่กับข้าวเหนียวร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

*** ก่อนที่จะเอาหมูใส่ลงในไส้ หยิบหมูสักนิดหน่อย ใส่ไมโครเวป ชิมรสตามชอบ จากนั้นจัดการยัดใส่ไส้ได้เลย หากต้องการความเผ็ดเยอะหน่อย โขลกพริกแห้งลงไปตามความชอบค่ะ ถ้าไม่ต้องการจะปิ้งใช้อบก็ได้อร่อยเช่นเดียวกันค่ะ ก่อนปิ้งหรืออบให้ใช้เข็มแหลม ๆ จิ้มไส้สักหน่อย ให้น้ำมันไหลออกเสมอ มิฉะนั้นจะทำให้ไส้อั่วแตกไม่สวย ไม่น่ากิน ส่วนเพื่อน ๆคนไหนไม่มีไส้หมูอย่าท้อใจไปนะค่ะ เราทำแบบไรไส้อย่างจานข้างล่างนี้ค่ะ***






ขนมโมจิ

ขนมโมจิถ้าจะพูดไปแล้วต้นตำรับเป็นของญี่ปุ่น แต่คนไทยเอามาดัดแปลงให้เป็นแบบไทย ๆ แหล่งขนมโมจิดัง ๆ ก็ต้องเป็นนครสวรรค์ผ่านไปต้องซื้อหาติดมาด้วยเป็นประจำ นกละคิดถึงขนมโมจิตั้งใจจะทำอยู่หลายวันแล้วละค่ะ แต่ติดที่ไส้ถั่วกวน เพราะลืมซื้อถั่วทุกที่ ครั้งนี้ไปช๊อปฯ นกเขียนรายการที่ต้องการไปเลย พอได้ถั่วเขียวก็จัดการแช่น้ำเลย ได้ของครบแล้วลงมือทำขนมโมจิกินกับกาแฟยามบ่ายในวันที่ฝนตกลมแรง ได้อะไรกินอะไร อร่อยๆ ทำให้มีความสุขไปได้เหมือนกันเพื่อน ๆ ว่าจริงๆไม่ค่ะ




ส่วนผสม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 300 กรัม
นมข้นหวาน 150 กรัม
น้ำตาลทรายละเอียด 50 กรัม
Bicarbonate of soda 1 ชช
Baking powder 1 ชช
Vanilla extract 1 ชช (ถ้ามี)
เนยจืดละลาย 50 กรัม
ไข่ไก่ตีให้ขึ้นฟู 1ฟอง
เกลือ หยิบมือ
แป้งสาลีอเนกประสงค์ สำหรับทำแป้งนวล
ไส้ถั่วกวน ปั้นเป็นลูกกลม ๆ ตามชอบ
ผลไม้เชื่อม/ผลไม้แห้งหั่นชิ้นเล็ก ตกแต่งหน้า ตามชอบ

วิธีทำ
1 ร่อนแป้งสาลี Bicarbonate of soda และเกลือ เข้าด้วยกัน 2 ครั้งพักไว้
2 ผสมน้ำตาลทรายกับนมสดในอ่างผสม คนให้น้ำตาลทรายละลายดี
3 ผสมเนยละลาย นม และไข่ไก่ลงในอ่างผสม ตามด้วยแป้งที่ร่อนแล้ว คนให้เข้าจนเป็นเนื้อเดียวกัน หากแป้งเนื้อเละให้ผสมแป้งเพิ่มที่ละนิดอย่าใส่เยอะจนเกินไป จากนั้นใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำบิดให้หมาด ๆ คลุมแแป้งพักไว้ ประมาณ 1 ชม
4 ครบกำหนด 1 ชม เอาแป้งมาแบ่งปั่นเป็นก้อนกลม ๆ ขนาดเท่า ๆกัน นวดให้เนียน แผ่งแป้งออกให้บาง บรรจุไส้ถั่วกวนห่อให้มิด วางบนถาดที่ทาด้วยเนยพร้อมอบ ตกแต่งหน้าด้วยผลไม้เชื่อม
5 นำขนมเข้าอบที่อุณหภูมิ 170 องศาซี ประมาณ 15 นาที หรือจนกระทั้งขนมสุกสวย

ไส้ถั่วกวน
ส่วนผสม
ถั่วเขียวนึ่งบดละเอียด 300 กรัม
น้ำตาลทราย 100 กรัม
น้ำกระทิ 150 กรัม

วิธีทำ
1 นำถั่วเขียวบดละเอียด น้ำตาลทราย น้ำกระทิ ใส่กะทะผสมเข้าด้วยกัน
2 ยกกะทะขึ้นตั้งบนเตา เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง กวนจนกระทั่งร่อนจากกะทะ ตักขึ้นจากเตาพักให้เย็น ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ พักไว้
3 นำแป้งที่เตรียมไว้ มาหุ้มไส้ให้เรียบร้อย

***หากต้องการใส่สีให้ใส่ช่วงทีผสมเนย นมและไข่ไก่ จะได้สีผสมที่เข้ากันจากนั้นใส่แป้งลงไป เวลาอบให้วางขนมให้ระยะห่างกัน เพราะขนมจะขยายตัว อบเสร็จแล้วขนมจะตัวขนมแข็งๆ ไม่ต้องตกใจ พักให้เย็นเก็บใส่กล่องเปิดฝาทิ้งไว้ตัวขนมจะนิ่มขึ้นมาเอง เท่านี้เราก็ได้ขนมโมจิหอมหวานอร่อยนุ่ม ๆ กินกับชา กาแฟยามบ่ายแล้วละค่ะ***





กะหล่ำปียัดไส้



ส่วนผสม
หมูสับ 350 กรัม
กะหล่ำปลีขนาดกลาง 1 หัว
วุ้นเส้น 1 กำมือ
กระเทียม4-5 กลีบ
รากผักชี 2 ราก
น้ำมันหอย 1 ขต
ซีอิ้วขาว 2 ชต
เหล้าจีน 1 ชช
ผักชี ต้นหอมหั่นหยาบ 3 ต้น
แครอทหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก 1/4 ถ้วย
เห็ดหอมหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก 3 ดอก
พริกไทย ตามชอบ

วิธีทำ :
1.เอาวุ้นเส้นแช่น้ำให้นุ่มหั่นเป็นท่อน ๆ พอเหมาะพักไว้
2.โขลกกระเทียม พริกไทย รากผักชี ให้ละเอียด จากนั้นนำไปผสมกับหมูสับ น้ำมันหอย ซีอิ้วขาว เหล้าจีน วุ้นเส้น ต้นหอม ผักชี แครอท และ เห็ดหอม จากนั้นนวดให้เข้ากันพักไว้ในตู้เย็น 15 นาที
3.นำกะหล่ำปลี มากเจาะตรงกลางให้เป็นช่องสำหรับยัดหมู เอาส่วนที่เจาะออกมาหั่นเป็นชิ้น ๆ พอคำไว้ใส่ในแกงจืด จากนั้นนำไส้ที่ผสมแล้วยัดใส่ลงไปในข่องกะหล่ำปลี
4.นำกะหล่ำปลีไปนึ่งสัก 10 นาที
5.เอาหม้อใส่น้ำตั้งบนเตาใช้ไฟแรง ต้มน้ำซุปให้เดือดปรุงรสตามชอบ จากนั้นใส่กะหล่ำปลีลงไปต้มต่อประมาณ 15 นาที ปิดไฟในเตาตักใส่ชามยกเสริฟกับข้าวสวยร้อย ๆ ได้เลยค่ะ

น้ำพริกมะม่วง

วันนี้นกทำอาหารยอดฮิตของคนไทย ทุก ๆ บ้านต้องมีแล้วแต่จะว่าใครจะชอบส่วนผสมอะไร แบบไหน สำหรับนกแล้ววันนี้เป็นมะม่วงค่ะ จริงๆแล้วต้องเป็นมะม่วงสามฤดู อยู่นี้จะหามะม่วงสามฤดูจากไหน แต่ถ้าเป็นมะม่วงลูกโต ๆ เปรี้ยวๆพอจะหาแก้ขัดกันได้ค่ะ ว่าแล้วลงมือกันเถอะค่ะเพื่อน ๆ



ส่วนผสม
มะมว่งดิบขนาดใหญ่ 1 ลูก
กะปิ 2 ชช
กระเทียม 5-6 กลีบ
พริกขี้หนูสด ตามชอบ
กุ้งแห้งป่น ตามชอบ (วันนี้นกใช้ประมาณ 1/4 ถ้วย)
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำตาลปี๊บ 2 ชช
วิธีทำ
1.ล้างมะม่วงให้สะอาด จากนั้นปอกเปลือกและสับเป็นเส้นๆ ล้างใส่กระชอนพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2.โขลกพริกขี้หนู,กะเทียม,หอมแดง,ให้ละเอียดตามชอบ ใส่กุ้งแห้งและกะปิ โขลกรวมกับพริกขี้หนู โขลกให้เข้ากัน จากนั้นใส่มะม่วงลงไปโขลกรวมกันอีกครั้ง โขลกไม่ต้องให้ละเอียด
3.ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ,น้ำปลา,ชิมรสตามชอบ จากนั้นตักใส่ถ้วยเสริฟคู่ผักสดได้เลย

***ถ้าหากมะม่วงไม่เปรี้ยวพอให้บีบมะนาวช่วยนะค่ะ แต่ของนกวันนี้เปรี้ยวพอแล้วค่ะ***

หอยจ้อ

เมนูนี้คิดไว้อยู่นานที่เดียว แต่ยังหาเครื่องปรุงที่สำคัญไม่ได้สักที่ โชคดีอาทิตย์นี้แฟนคลับหยุดพักร้อนยาว เลยมีเวลาขับรถพาไปดูที่ร้านค้าจีนต่างเมืองออกไป ร้านใหญ่มากๆ อยู่ติดถนนใหญ่หาง่าย ขายเครื่องปรุงจากเอเซียเรียกว่าเกือบครบก็ว่าได้ นกเลยได้ฟองเต้าหู้มาทำหอยจ้อ ตอนซื้อแฟนคลับก็ถามว่ามันคืออะไรเอาไปทำอะไร อธิบายกันยาวยังไม่รู้ว่าจะชอบหรือไม่ชอบดี นกตัดปัญหากลับถึงบ้านจัดการเสียเลย แล้วเป็นดังที่คิดไว้จริงๆ ว่าแฟนคลับต้องชอบเมนูนี้ ฟองเต้าหูที่นกซื้อมา 1แพคทำได้เยอะที่เดียวเลยละค่ะ นกทอดเอาพอกิน1 มื้อ ที่เหลือเก็บเข้าช่องแช่แข็งไว้กินวันต่อไป




ส่วนผสม
เนื้อหมูบดติดมันเล็กน้อย 500กรัม
เนื้อกุ้งสับละเอียด 350 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง
รากผักชี 3-4 ราก (ไม่มีใช้ก้านผักชีแทน)
กระเทียม 7-8 กลีบ
เกลือ 1 ชช
พริกไทยดำ 1/2 ชช
แป้งมัน 3 ชต
เหล้าจีน 2 ชต
ซีอิ๊วขาว 3 ชต
เกลือป่น 1/2 ชช
ต้นหอมผักชีซอย 4-5 ต้น
ฟองเต้าหูสำหรับห่อ 1 แพค
น้ำมันพืช สำหรับทอด
เชือกผ้าฝ้าย สำหรับมัด

วิธีทำ
1.โขลกกระเทียม, รากผักชี, เกลือและพริกไทยเข้าด้วยกันจนละเอียดใส่ส่วนผสมที่โขลกเตรียมไว้ลงไปผสมกับเนื้อกุ้งสับ, เนื้อหมูสับ, แป้งมัน, ไข่, ซีอิ๊วขาว, เหล้าจีน, ต้นหอมและผักชี นวดจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี พักไว้ในตู้เย็น 15 นาที
2.นำฟองเต้าหู้ไปแช่น้ำให้พอนิ่ม จากนั้นจึงนำมาแผ่ขยายตามขนาดที่ต้องการ (ฟองเต้าหูของนกเป็นขนาดกำลังดีไม่ต้องมาตัดอีก บางยี่ห้อต้องนำมาตัดเพราะมันใหญ่มากเกินไป ถ้าจะตัดให้ตัดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ากะขนาดให้พอเหมาะตามต้องการ)
3. ตักส่วนผสมที่นวดจนเข้ากันดีแล้วในข้อหนึ่งไปวางบนฟองเต้าหู้ ม้วนส่วนผสมเข้าด้วยฟองเต้าหู้ เสร็จแล้วมัดหัวและท้าย จากนั้นมัดเป็นปล้องตรงกลางให้แน่น แบ่งให้แต่ละปล้องหนาเท่า ๆ กันประมาณ 1 1/2 นิ้ว ห่อไปจนหมด
4.นำไปหอจ้อไปนึ่งประมาณ 10-15 นาทีหรือจนกระทั้งสุกดี พักให้เย็นนำมาตัดออกเป็นปล้องๆ ตามที่ได้มัดไว้ จากนั้นนำไปทอดในน้ำมันร้อนจัด เวลาทอดใส่น้ำมันให้เยอะหน่อย ทอดจนเหลืองกรอบสวยจึงตัก ขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานสริฟพร้อมน้ำจิ้มเป็นของกินเล่นหรือกับกินกับข้าวก็ดีอร่อยเช่นเดียวกันค่ะ

***แฟนคลับนกไม่กินปู สูตรที่เห็นเลยไม่มีปู แต่ถ้าจะใช้เนื้อปูก็ใช้ประมาณ 150 กรัม และลดปริมาณเนื้อกุ้งสับลงไปเท่ากับจำนวนเนื้อปูที่ใช้***

เห็ดนึ่ง





ส่วนผสม
เห็ดแชมปิญองขนาดกลาง ๆ ตามชอบ
หมูสับ 250 กรัม
กุ้งสับ 150 กรัม
วุ้นเส้นแช่น้ำหั่นเป็นท่อนๆ 1 กำมือ
ต้นหอมผักชีหั่นซอย 1/4ถ้วย
แครอทหั่นเป็นลูกเต๋าเล็ก ๆ 1/2 ถ้วย
เห็ดหอมแช่น้ำหั่นเป็นลูกเต๋าเล็ก ๆ 4-5 ดอก
ชีอิ้วขาว 2 ชต
น้ำมันหอย 2 ชต
พริกไทยป่น 2 ชช
แป้งมัน 1 ชต
เหล้าจีน 1 ชต

วิธีทำ
1.คลุกส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน แล้วนำไปพักไว้ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที
2.ล้างเห็ดให้สะอาดจากนั้นเอาแป้งมันโรยใต้ท้องเห็ดสักนิดเวลาใส่หมูลงไปนึ่งจะได้อยู่ตัว
3.เอาหมูสับใส่ลงไปในเห็ด จากนั้นเอาไปนึ่งจนกระทั้งหมูสุกตักใส่จานแต่งด้วยใบผักชี เสริฟกินกับข้าวสวยร้อย ๆ หรือจะกินเป็นอาหารว่างก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ

***เวลานึ่งไม่ต้องเติมน้ำ เพราะเดี่ยวน้ำเห็ดจะออกมาเอง***

แกงคั่วมะระกุ้ง



ส่วนผสม
มะระ ขนาดกลาง 2 ลูก (ประมาณ ครึ่งโล)
กุ้งสด 350 กรัม
น้ำพริกแกงคั่ว 2 ชต
กะทิ 1 กล่อง (แยกหัวกะทิ หางกะทิ)
ใบมะกรูด ตามชอบ
น้ำปลา 2 ชช
น้ำตาลปี๊ป 1 ชช
น้ำเปล่า เล็กน้อย

วิธีทำ
1.นำมะระมาผ่าครึ่ง คว้านไส้เอาเมล็ดและเยื่อขาวๆออก หั่นบางๆตามขวางของลูก จากนั้นนำไปเคล้าเกลือ ทิ้งไว้ให้ความขมออกสักประมาณ 5-10 นาที แล้วนำมาขยำเบาๆล้างออกด้วยน้ำเปล่าอีกครั้งจากนั้นพักไว้
2.กุ้งสดนำมาล้างให้สะอาด ปลอกเปลือกกุ้ง ผ่าหลังเอาเส้นดำออกพักไว้ พักไว้
3.ตั้งกระทะบนเตาใช้ไฟร้อนปานกลางใส่หัวกะทิ น้ำพริกแกงลงไปผัด ผัดไปเรื่อยๆจนกะทิแตกมันหอม จากนั้นเติมกะทิส่วนที่เหลือและน้ำเปล่า ต้มให้เดือดสักครู่ จากนั้นใส่กุ้ง มะระ และใบมะกรูดลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊ป ชิมรสตามชอบอีกครั้ง เดือดอีกครั้ง ปิดไฟในเตายตักใส่ถ้วยพร้อมเสริฟคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือขนมจีนได้เลยค่ะ

***สำหรับคนที่ชอบน้ำแกงข้น ๆ ก็ไม่ต้องเติมน้ำเปล่าลงไป ของนกชอบกินน้ำแกงเลยใส่น้ำลงไปมากหน่อยนะค่ะ***

ลูกชุบ

ครั้งแรกกับการประดิษฐ์ประดอยทำขนมลูกชุบ ขอบอกว่าประทับใจสุด ๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะทำออกมาได้ดีขนาดนี้ อยู่เมืองไทยได้แต่ซื้อเค้า หยิบกินไม่กี่ที่ก็หมด เคยคิดสงสัยคงทำยากเลยแพง แต่มาถึงวันนี้ นกคิดว่ามันไม่ได้ยากอย่างที่คิดเอาไว้เลย เพียงแต่ต้องอดทนกับขั้นตอนในการทำเท่านั้นเอง



ส่วนผสม
ถั่วเขียวเราะเปลือก 400 กรัม
กะทิกระป๋อง 2 กระป๋อง
น้ำตาลทราย 2 1/2 ถ้วย
วุ้นผง 2 ชช
น้ำลอยดอกมะลิ 2 ถ้วย (นกไม่มีเลยใชกลิ่นมะลิแทน)
ไม้เสียบลูกชิ้น
สีผสมอาหาร
พู่กัน
จานผสมสี

วิธีทำ
1. ล้างถั่วให้สะอาด แช่น้ำประมาณ 2-3 ชั่วโมง จากนั้นนำถั่วที่แช่มานึ่งให้สุก (สังเกตว่าเม็ดถั่วจะบานๆออกมาก็ใช้ได้แล้วค่ะ)
2. นำกะทิผสมถั่วนึ่งสุก แบ่งลงปั่นในเครื่องปั่นให้ละเอียด
3. ตั้งกระทะบนเตาใช้ไฟร้อนค่อนข้างแรงจากนั้นเทถั่วปั่นลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย ตั้งไฟให้เดือด กวนตลอดเวลา พอเริ่มเหนียวให้ลดไฟให้เบาลงเคี่ยวไปจนกว่าถั่วจะแห้งร่อนไม่ติดกระทะ เสร็จแล้วยกลงจากเตาปล่อยให้เย็น จนพอปั้นได้จึงนวดให้เข้ากัน จากนั้นนำมาปั่นตามรูปที่ต้องการ แล้วเสียบลงบนไม้เสียบลูกชิ้นรอไว้
4. เมื่อปั้นจนแป้งหมดแล้ว ก็ระบายสีตามชอบ ระบายสีเสร็จก็เริ่มนำไปชุบวุ้น (ให้เรียงลำดับไปทีละแถว ทำอย่างน้อย 2-3รอบ หรือทำจนวุ้นเคลือบได้เงาหนาสวย) ทิ้งไว้จนวุ้นจับตัวได้ที่เอาออกจากไม้เสียบลูกชิ้นจัดใส่จานเสริฟได้เลยค่ะ

***วิธีทำวุ้น ให้ผสมวุ้นกับน้ำกลิ่นมะลิหยดลงในหม้อ คนให้เข้ากัน จากนั้นนำขึ้นตั้งบนเตาใช้ไฟกลาง คนตลอดเวลาจนกระทั่งวุ้นใสเป็นมัน เหนียวพอติดพาย ก็เป็นอันใช้ได้ ลดให้เหลือไฟอ่อนๆ พอให้วุ้นอุ่น ๆ***

น้ำพริกมะเขือเทศ

น้ำพริกกับคนไทยนี้ขาดจากกันไม่ได้จริง กินอาหารอะไร ๆ ก็ไม่อร่อยเท่ากินน้ำพริกเผ็ดคลุกกับข้าวร้อน ๆ เพื่อน ๆ คิดเหมือนกับนกไม่ค่ะ คนไทยส่วนใหญ่จะไม่อดน้ำพริก ไปเที่ยวบ้านไหน ทุก ๆ บ้านมักจะทำติดตู้กับข้าวไว้เสมอ หรือแม้กระทั้งไปกินข้าวตามร้านข้าวแกง เรามักจะเห็นมีถ้วยน้ำพริกและผักสดเสริฟบริการให้ลูกค้ากินฟรีไม่คิดเงินเช่นเดียวกัน แล้วคนไทยอย่างเรามาอยู่ต่างแดนน้ำพริกจะตัดขาดกันได้อย่างไร ที่บ้านทำครั้งหนึ่งก็จะทำไว้เยอะตักใส่ขวดปิดฝามิดชิดเก็บใส่ตู้เย็นกินได้หลายวันเลยละค่ะ




ส่วนผสม
มะเขือลูกเล็ก 10-12 ลูก (หรือมะเขือเทศสีดา)
พริกขี้หนู ตามชอบ
หอม 2 หัว
กระเทียม 6-8 กลีบ
กะปิ 2 ชช
กุ้งแห้งโขลกละเอียด 2-3 ชต
น้ำตาล 1 ชต
น้ำปลา 1 ชต
น้ำมะนาว2 ลูก

วิธีทำ
1. นำมะเขือเทศ พริกขี้หนู หอม กระเทียม เข้าเตาอบ หรือ เตาเผาให้ทุกอย่างสุกหอม แล้วนำไปโขลกพักพักไว้
2.ใส่โขลกกุ้งแห้งลงผสมให้เข้ากัน แล้วใส่กะปิ น้ำตาลโขลกให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้น ใส่น้ำปลา มะนาว ชิมรสให้กลมกล่อมตามชอบแล้วตักใส่ถ้วยเสริฟคุ่กับ ผักสดได้เลยค่ะ

***วันนี้ไม่ได้วางแผนไว้ก่อน นกมีไข่เจียวแครอท ทานคู่กับน้ำพริก ถ้ามีปลาเค็ม หรือปลาทอดขมิ้น ต้องอร่อยมากว่านี้แน่น ๆ เลย***

ขนมปังฝรั่งเศส


ส่วนผสม
แป้งขนมปัง 3 ถ้วย (Strong White Flour)
ยีส 1 ซอง (7 กรัม)
น้ำอุ่น 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 2 ชต
Olive Oil 2 ชต (ถ้าไม่มีใช้น้ำมันพืชทั่วไปก็ได้ค่ะ)
เกลือ 1 ชช
ไข่ผสมน้ำเจือจาง เอาไว้ทาขนมปัง (จะทาก็ได้ไม่ทาก็ได้ค่ะ)

วิธีทำ
1. ใส่น้ำอุ่นใส่แก้ว ใส่ยีสต์ และน้ำตาลลงไปจากนั้นคนให้เข้ากันพักไว้ให้ยีสต์ทำงาน (ประมาณ 5นาที )
2.ใส่แป้งลงในอ่างผสมจากนั้นทำหลุมตรงกลาง เทส่วนผสมยีสต์ลงไป ค่อยๆตะล่อมแป้ง นวดให้เป็นเนื้อเดียวกันจนเนียน เมื่อแป้งเนียนได้ที่เอาออกจากอ่างผสม คลึงแป้งเป็นลูกกลม ๆ
3.หาอ่างผสมอีกใบ ทาเนยให้ทั่วอ่าง แล้วใส่แป้งที่เรานวดคลึงเป็นก้อนกลมๆลงไปในอ่าง หาผ้าสะอาด หรือพาสติกมาคลุมไว้ จากนั้นนำอ่างแป้งไปวางไว้ในที่อุ่นๆ พักจนแป้งขึ้นเป็นสองเท่า (หมักทิ้งไว้ประมาณ 1 ชม)
4.เมื่อแป้งขึ้นเต็มที่ ให้เอากำปั้นกดแป้งลงไปไล่ลม แล้วหยิบแป้งขึ้นมาคลึงทำเป็นก้อนกลมๆรีๆ จากนั้นเอาแป้งวางบนถาดสำหรับที่จะนำเข้าเตา หมักแป้งต่ออีกเป็นให้แป้งจะขึ้นเป็นสองเท่า (ประมาณ 45-50 นาที)5.ระหว่างที่หมักแป้งเปิดเตาอบที่ 170 C พอแป้งขึ้นเต็มที่แล้ว ใช้มีคคม ๆ กรีดขนมปังสามกรีด
แล้วทาด้วยไข่ผสมน้ำเจือจาง นำเข้าเตาอบ อบขนมปังไปนานประมาณ ๒0 นาที หรือจนขนมปังเป็นสีน้ำตาลสวย จากนั้นเอาออกจากเตาอบ พักบนตะแกง พร้อมเสริฟได้เลยค่ะ

***วันนี้นกทำสองแบบ ธรรมดา กับโรยงา ถ้าต้องการจะโรยงาให้โรยหลังจากทาไข่ผสมนม จากนั้นเอาเข้าเตาอบได้เลย***


ข้าวเหนียวถั่วแดงต้มกระทิ

ถั่วแดงเม็ดโต ที่นี้เรียกว่า Red Kidney Beans นกซื้อเอาไว้นานแล้วละค่ะ คนที่นี้เค้าเอาปรุงอาหารชื่อ Chili Con Carne แต่นกไม่กินเนื้อ เลยไม่ได้ทำ ตอนที่ซื้อกะจะลองเอามาทำถั่วแดงกวน ไว้ทำซาลาเปาไส้ถั่วแดง แต่ไป ๆ มา ๆ ไม่ได้ทำสักกะที อยู่ในตู้นานแล้วเลยเปลี่ยนใจมาเป็นข้าวเหนียวถั่วแดงดีกว่า เหตุผลหรือค่ะ เพราะความยากเหมือนเดิมงานนี้กินคนเดียวตามระเบียบ แฟนคลับนกไม่ชอบขนมหวานไทยบอกว่ามันแปลก ๆ แปลกตรงไหนยังหาคำตอบไปได้สักที่ อ๋อเกือบลืมไปค่ะ ถั่วแดงที่นี้เม็ดโตมาก ๆ ไม่เหมือนถั่วแดงหลวงอย่างบ้านเราหรอกค่ะ รสชาดต่างกันไม่ บอกได้ว่าต่างกัน อร่อยไปคนละแบบ เพื่อนๆ ลองทำดูนะค่ะ


ส่วนผสม
กะทิสำเร็จรูป 1 1/2กระป๋อง
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย

เกลือป่น หยิบมือ
ถั่วแดงต้มสุก 2 ถ้วย
ข้าวเหนียวมูน 2 ถ้วย

น้ำเปล่า เล็กน้อย ( จะใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้)


วิธีทำ
1.เอากะทิสำเร็จรูป น้ำตาล น้ำ และเกลือป่น ใส่หม้อนำขึ้นตั้งไฟใช้ไฟแรงพอน้ำกระทิเดือด เติมถั่วแดงต้มสุกลงไป คนให้เข้ากัน ชิมรสหวานตามชอบอีกครั้ง เดือดอีกครั้งปิดไฟในเตาพักไว้
2 ตักข้าวเหนียวมูนใส่ถ้วย ราดด้วยถั่วแดงต้มกะทิที่เตรียมไว้ ยกเสริฟได้เลยค่ะ จะทานตอนร้อน ๆ หรือเย็นตามชอบ


*** น้ำเปล่าใส่เล็กน้อยถ้ากะทิข้นเกินไป ส่วนข้าวเหนียวถ้าไม่ชอบข้าวเหนียวมูล จะใช้ข้าวเหนียวนึ่งก็ได้เช่นเดียวกัน***


กล้วยหอมทอด สูตรแป้งสาลี


ส่วนผสม 
กล้วยหอมสุกผ่าครึ่ง 5 ผล 
แป้งสาลี 1 ถ้วย 
ไข่ไก่ 1 ฟอง 
น้ำตาลทราย 2 ชต
น้ำมันเนยละลาย 3 ชต 
ผงฟู 1 ชช 
น้ำมันพืช 2 ถ้วย 
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย

วิธีทำ 
1. ตอกไข่ใส่ชามผสมก้นลึก ตามด้วยน้ำตาลทราย เนยละลาย ผงฟู ตีส่วนผสมทั้งหมดให้ละลายเข้ากัน
2. ใส่แป้งสาลีลงไป ค่อยๆ เทน้ำเปล่าที่ละนิดลงไปตีแป้งให้ละลายกับน้ำแล้วก็หยุดเติมน้ำ ระวังอย่าให้แป้งเหลวจนเกินไป 3. เอาน้ำมันใส่กระทะตั้งบนเตาใช้ไฟค่อนข้างแรง พอน้ำมันร้อนเบาไฟใฟ้เหลือปานกลาง นำกล้วยหอมลงชุบกับแป้ง แล้วทอดในน้ำมันจนกระทั้งสุกเหลืองสวย จากนั้นตักใส่จานเสิร์ฟร้อนๆ พร้อมน้ำตาลไอซิ่ง หรือ น้ำผึ้ง ตามชอบ


ขนมหัวล้าน

นกไม่รู้ว่าที่อื่นเรียกขนมนี้ว่าอะไรกันบ้าง แต่ที่บ้านนกเรียกว่าขนมหัวล้าน เป็นขนมของทางปักษ์ใต้ ขนมหัวล้านนี้จะนึ่งหรึอต้มแล้วนำไปราดน้ำกระทิ แล้วแต่ใครจะถนัดแบบไหน นอกจากราดน้ำกระทิแล้ว บางคนก็จะนำไปทอด ถ้านำไปทอดจะเรียกว่าขนมหัวล้านทอด หรือขนมมด



ส่วนผสมไส้
ถั่วเขียวเราะเปลือก 1 ถ้วย
น้ำตาล 1 ถ้วย
น้ำกะทิ 1 ถ้วย
เกลือ หยิบมือ

ส่วนผสมตัวแป้ง
แป้งข้าวเหนียว 250 กรัม
น้ำอุ่น 1 ถ้วย (ค่อยๆรินใส่นะคะ ถ้าไม่พอให้เติมน้ำลงไปอีก)

ส่วนผสมกะทิสำหรับราดขนม
หัวกะทิ 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 2ชต
เกลือ หยิบมือ

วิธีทำ
1.ล้างถั่วให้สะอาด แช่น้ำค้างคืนไว้ 1 คืน พอครบกำหนดนำถั่วที่แช่น้ำล้างให้สะอาดจากนั้นนำไปนึงให้สุกพักไว้ให้เย็น
2. นำถั่วที่นึ่งสุกแล้วมาบดให้ละเอียด จากนั้นนำถั่วที่บดละเอียดใส่ลงในหม้อพร้อมกับกะทิ น้ำตาล และเกลือ กวนส่วนผสมให้เข้ากันจนเหนียวจนสามารถปั้นได้ จากนั้นยกลงจากเตาพักไว้ให้เย็น แล้วปั้นเป็นก้อนกลมขนาดเล็กใหญ่ตามชอบ ใส่จานพักไว้เป็นไส้
3.นวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำอุ่น นวดจนกระทั้งแป้งไม่ติดมือ ปั้นเป็นก้อนๆไว้สำหรับห่อ จากนั้นไส้แล้วห่อไส้ให้เรียบร้อย พยายามให้แป้งหนาสักหน่อย จะได้ห่อง่าย พอห่อไส้ครบทุกลูกแล้ว ให้เอาหม้อใส่น้ำ พอน้ำเดือดเอาขนมลงต้ม ขนมลูกที่สุกแล้วจะลอยน้ำขึ้นมา ตักขึ้นใส่ถ้วยพักไว้
4. ทำน้ำกะทิสำหรับราดขนม ให้เอากะทิ น้ำตาล และเกลือ ใส่หม้อ ตั้งบนเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรง คนให้น้ำตาลละลาย ชิมรสตามชอบ พอน้ำกะทิเดือดเปิดไฟในเตาพักไว้ จากนั้นตักขนมใส่ถ้วยราดด้วยน้ำกะทิยกเสริฟได้เลย จะทานร้อน หรือเย็นก็ได้ตามชอบ