ข้าวหมูแดง

นกทำข้าวหมูแดงหลายรอบ คิดว่าได้ลงสูตรเอาไว้ในครัวแล้วเสียอีก แต่พอมาดูเอาไม่มี วันนี้ทำอีกรอบเลยนำสูตรมาให้เพื่อน ๆ ชาวครัวได้ชิมกัน เมนูข้าวหมูแดงเป็นอีกเมนูที่แฟนคลับหมายเลขหนึ่งชอบกินอีกด้วยเช่นกัน 

ส่วนผสม หมักหมูแดง 

สันในหมู 1 กิโลกรัม  

ผงหมักหมูแดง 1 ซอง 

ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ  

ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา  

ซอสปรุงรส 2 ช้อนชา  

น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ 

น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ  

น้ำเปล่า (ใช้ประมาณ 1 ถ้วย) 

วิธีทำ ข้าวหมูแดง 

1.ล้างทำความสะอาดหมู นำเนื้อหมูใส่ลงในชามผสม ตามด้วยเครื่องปรุงสำหรับหมักหมูแดงทั้งหมด คลุกเคล้าให้เข้ากันนำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 12-24 ชั่วโมง 

2.ครบกำหนดนำหมูไปอบที่อุณหภูมิ 200 องศา ใช้เวลา 40-45 นาทีจนกระทั้งหมูสุก หรือจะนำไปย่างก็ได้ 

ส่วนผสมน้ำราดหมูแดง 

ซอสที่ได้จากการหมักหมูแดง  

สามเกลอ (รากผักชี กระเทียม พริกไทยโขลก) 1 ช้อนโต๊ะ 

น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ 

ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ 

ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ 

ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ 

น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ  

งาขาวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ  

น้ำซุปหมู ประมาณ 1 ลิตร 

แป้งมันละลายน้ำ ตามชอบ

 วิธีทำน้ำราดหมูแดง 

1.นำน้ำหมักหมูแดงที่เหลือ เทใส่หม้อ ตามด้วยเครื่องปรุงสำหรับทำน้ำราดคนให้เข้ากัน 

2.นำหม้อไปตั้งไฟให้เดือด คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่แป้งมันผสมน้ำลงไปคนให้ซอสข้นขึ้น 

ส่วนผสม ซีอิ้วพริกดอง 

พริกชี้ฟ้าเขียว, พริกสด

ซีอิ้วดำ 1 ช้อนโต๊ะ 

ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ 

น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ 

น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ 

วิธีทำซีอิ้วพริกดอง 

1.นำซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว น้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย และน้ำต้มสุก คนให้เข้ากัน 

2.ซอยพริกชี้ฟ้าพริกสดลงไป คนให้เข้ากัน

 ***สุดท้ายจัดจานเสิรฟ์โดยหั่นสไลซ์หมู หมูกรอบและกุนเชียงทอดให้เป็นชิ้นพอคำ วางเรียงข้าวสวยร้อนพร้อม ไข่ต้มผ่าซีก ราดด้วยน้ำซอสนำหมูแดง เท่านี้ก็ได้ข้าวหมูแดงอร่อย ๆ ยกเสิรฟ์แล้วละค่ะ***

ข้าวผัดไก่ ใส่คะน้า

ส่วนผสม 
ข้าวสวย 1 ถ้วย
กระเทียมสับ 3 กลีบ

อกไก่หั่นชิ้น 150 กรัม

ไข่ไก่ 1 ฟอง

คะน้า 1 ต้น

มะเขือเทศหั่นเฉียง 1 ลูก

น้ำตาลทราย เล็กน้อย

ซอสปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ

ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันพืชสำรับผัด

วิธีทำ 

1.ใส่น้ำมันลงในกระทะรอให้น้ำมันเริ่มร้อน ใส่กระเทียมสับลงไปเจียวจนหอม 

2.ใส่เนื้อไก่ลงไปผัดพอสุก จากนั้นตอกไข่ไก่ลงไปยีพอแตก ตามด้วยคะน้า ผัดให้ทุกอย่างพอสุก 

3.ใส่ข้าวสวยลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส ใส่มะเขือเทศ ผัดคลุกเคล้าพอเข้ากัน ตักใส่จานยกเสิร์ฟ 

ไก่แดงผัดข้าวโพดอ่อน

ไก่แดงเป็นเมนูที่ไม่ได้ทำมานานมาแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นข้าวไก่แดงซึ่งนกเคยนำสูตรมาลงไว้ในครัวหากเพื่อน ๆ สนใจสูตรแวะอ่านได้จากลิงค์นี้ https://pinkroselove-nd.blogspot.com/2010/05/blog-post.html  สำหรับไก่แดงที่ทำในวันนี้นกเอามาผัดกับข้าวโพดอ่อนเป็นมื้อกลางวันให้แฟนคลับว่าว่าแล้วเข้าครัวกันเลย

ส่วนผสม 

ไก่แดง 2 อก

กระเทียม 3 กลีบ

หอมหัวใหญ่ 1/2 หัว

พริกหวาน 1/2 ลูก

ต้นหอม 2 ต้น

ซอสแดง 2 ช้อนโต๊ะ

ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ

ผงปรุงรส เล็กน้อย

น้ำตาลทราย  ตามชอบ

น้ำเปล่า เล็กน้อย 

น้ำมันพืชสำหรับผัด 

วิธีทำ 

1.หั่นไก่แดง หอมหัวใหญ่ พริกหวาน เป็นชิ้นพอคำ สับกระเทียม ต้นหอมหั่นทอน พักไว้ 

2.ตั้งกระทะขึ้นตั้งบนเตาไฟใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพืชสำหรับผัด รอจนน้ำมันร้อนให้ใส่กระเทียมสับและหอมหัวใหญ่ลงไปผัดให้พอหอม 

3.ใส่ข้าวโพดอ่อนและพริกหวานลงผัดให้พอเริ่มสุก 

4.ใส่ไก่แดง ซอสแดง ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำมันหอย ผงปรุงรส น้ำตาลทราย น้ำเปล่าเล็กน้อย ชิมรสตามชอบ ใส่ต้นหอมผัดเร็ว ตักเสิรฟ์

ผัดถั่วงอก (ถั่วงอกเพาะเอง)

ส่วนผสม 

ถั่วงอก (ถั่วงอกเพาะเอง)  1

เต้าหู้หั่นชิ้น  1

หมูกรอบหั่นชิ้น 200

พริกสดหั่นซอย 3

กระเทียมสับ 3

ต้นหอมหั่นทอน 2

น้ำมันสำหรับทอดและผัด

วิธีทำ 

1.ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันสำหรับทอดเต้าหู้  พอน้ำมันร้อนนำเต้าหู้ลงทอดให้พอเหลืองๆทั่วเต้าหู้ ตักใส่จานพักไว้

2.ตั้งกระทะสำหรับผัด ใส่น้ำมันเล็กน้อย พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่กระเทียมลงผัดให้พอหอม 

3.ใส่หมูกรอบลงผัดต่อ พอหมูกรอบร้อนได้ที่ใส่เต้าหู้ และถั่วงอกลงผัด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย น้ำลงเล็กน้อย ชิมรสตามชอบ

4.ใส่พริกสด ต้นหอม ผัดให้เข้ากัน ตักใส่จานยกเสิรฟ์

***เพาะถั่วงอกง่ายๆที่บ้าน (How to Grow Bean Sprouts at Home)*** 

ส่วนใหญ่หากนกไม่เร่งรีบที่จะต้องใช้ถั่วงองในการทำอาหาร นกจะเพาะถั่วงอกใช้เอง เพาะไม่มากเอาเท่าที่ใช้ในแต่ละครั้ง  ถั่วงอกที่เราเพาะเองได้จะสดสะอาด อร่อยปลอดภัย ปราศจากสารพิษต่างๆ และนำไปประกอบเป็นอาหาร 

สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ในการเพาะถั่วงอกมี 

เมล็ดถั่วเขียว 1 กำมือ 

ตะกร้ามีรูรอบ ๆ พร้อมฝา 1 ใบ 

กระดาษทิชชู่ ตามชอบ 

ชามใหญ่ 1 ใบ ถุงดำ 1 ถุง

 

เริ่มขั้นตอนเพาะถั่วเขียว

1.นำเมล็ดถั่วเขียวมาล้างทำความสะอาดให้สะอาดเลือกเมล็ดถั่วเขียวไม่สมบูรณ์ทิ้ง จากนั้นแช่น้ำทิ้งไว้ค้างคืนเมล็ดถั่วเขียวแช่น้ำครบกำหนดเวลา นำเมล็ดถั่วเขียวมาเทน้ำออกให้หมด

2.นำกระดาษทิชชู่ มาวางลงไปด้านล่างของตะกร้า ใส่เมล็ดถั่วเขียวแช่น้ำลงไปด้านบนของกระดาษทิชชู่ วางให้เมล็ดถั่วเขียวกระจายให้ทั่วๆ ตระกร้า

3.นำกระดาษทิชชู่ มาวางปิดด้านบนใส่เมล็ดถั่วเขียวแช่น้ำลงไปด้านบนของกระดาษทิชชู่ วางให้เมล็ดถั่วเขียวกระจายให้ทั่วๆ ตระกร้า ทำซ้ำ ๆ จนเมล็ดถั่วเขียวที่แช่น้ำหมด วางด้านบนกระดาษทิชชู่อีกด้านบนอีกครั้งรดน้ำกระดาษทิชชู่เปียกทั่วๆ ปิดด้านบนด้วยฝาตะกร้าให้สนิท 

4.นำไปวางบนชามที่มีขนาดใหญ่กว่าตระกร้า เวลารดน้ำถั่วงอก แล้วน้ำจะไหลลงใส่ชาม เทน้ำทิ้งได้ง่าย จากนั้นนำตะกร้ามาใส่ในถุงดำ แล้วปิดคลุมหุ้มให้สนิท

5.นำตะกร้าไปวางในที่มืดไม่มีแสงแดดส่องถึง แล้วรดน้ำวันละสามเวลา ผ่านกระดาษทิชชูที่คลุมไว้ รดน้ำรดเบาๆ และเทน้ำออกทิ้ง ปิดใส่ถุงดำคลุมไว้เหมือนเดิม 

6.รดน้ำเมล็ดถั่วเขียวจนเป็นถั่วงอก ใช้เวลาประมาณ 4-5 วัน นำถั่วงอกออกมาจากถุง ค่อยๆ แกะออกจากกระดาษทิชชู่ แล้วล้างน้ำให้สะอาด เท่านี้ก็จะได้ถั่วงอกพร้อมใช้แล้วละค่ะ

พะโล้แห้ง

หากพูดถึงพะโล้หลาย ๆ คนน่าจะชอบกิน สำหรับวันนี้นกเข้าครัวไม่ได้ทำพะโล้แบบทั่วไป แต่จะทำพะโล้แห้งแทน จริงๆ แล้วก็เหมือนกับพะโล้แห้ง วิธีการทำเหมือนกับพะโล้ทั่วไปเพียงแต่เคี่ยวจนน้ำพะโล้จนงวดลงทำให้รสชาติของพะโล้เข้มข้นเข้าเนื้อมากขึ้น จะกินคู่กับข้าวสวย หรือหมั่นโถวร้อน ๆ ก็ได้เช่นกัน

ส่วนผสม 

กระดูกหมู 300 กรัม

เนื้อหมูติดมัน 250 กรัม

ไข่ไก่ต้ม 6 ฟอง

เต้าหู้ทอด 1 ก้อน

พริกไทยดำ 1 ช้อนโต๊ะ

กระเทียม 3 กลีบ

รากผักชี 3 ราก

หอมแดง 2 หัว

ซีอิ๊วขาว 1  ช้อนโต๊ะ

ซีอิ๊วดำ 1  ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลปี๊บ ตามชอบ

โป๊ยกั๊ก 3 ดอก

อบเชย 2 แท่ง

เกลือป่นเล็กน้อย 

น้ำเปล่าสำหรับเคี่ยวหมู 

น้ำมันสำหรับผัดเล็กน้อย

วิธีทำ 

1.โขลกพริกไทย กระเทียมและรากผักชีให้ละเอียดตามชอบ

2.ตั้งกระทะใส่น้ำมันพอน้ำมันเริ่มร้อนให้ร้อน เอาเครื่องที่โขลกไว้ลงไปผัดให้หอม ใช้ไฟอ่อนปานกลาง

3.ใส่กระดูกหมู เนื้อหมู น้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ โป๊ยกั๊กและอบเชย น้ำเปล่าเล็กน้อย ผัดจนกระทั้งหมูพอสุกเติมน้ำใช้ไฟแรง

4.ใส่ไข่ต้ม เต้าหู้ทอด ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย พอน้ำซุปเดือดแล้วให้เบาไฟลงโดยใช้ไฟอ่อนค่อยๆ เคี่ยวจนเนื้อหมูนุ่มน้ำซุปจึงจะเริ่มเข้าเนื้อ ชิมรสตามชอบปิดไฟในเตาพร้อมเสิร์ฟ

แกงส้มวุ้นเส้นปลากระป๋อง

 

ส่วนผสม 

ปลากระป๋อง 1 กระป๋อง

หัวไชเท้า 1/2 หัว

มะเขือเทศ  10 ลูก

วุ้นเส้น 1 ห่อ

เครื่องแกงส้ม 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำมะขามเปียก 1 ก้อน

น้ำปลา ตามชอบ

น้ำตาล  ตามชอบ

น้ำเปล่าสำหรับทำน้ำแกง

วิธีทำ 

1.นำวุ้นเส้นไปแช่น้ำ หั่นหัวไชเท้าพอคำ แล้วพักไว้ 

2.ตั้งหม้อน้ำบนเตาพอน้ำต้มให้เดือด ใส่เครื่องส้มลงไป คนให้เข้ากัน ใส่หัวไช้เท้าปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล น้ำมะขามเปียก ต้มให้หัวไชเท้าสุก

3.ใส่ปลากระป๋อง วุ้นเส้นแช่น้ำ มะเขือเทศ คนให้เข้ากัน ชิมรส รอให้เดือดอีกครั้งปิดไฟในเตาตักเสิร์ฟได้เลย

Chili Con Carne (ชิลิกอนการ์เน)

 Chili Con Carne (เรียกอีกอย่างว่า Chilli Con Carne หรือ Chile Con Carne ออกเสียงภาษาสเปน: [ˈtʃili kon ˈkaɾne]) หมายถึง "พริกกับเนื้อ" เป็นสตูว์รสเผ็ดที่มีพริกป่น เนื้อสัตว์ (โดยปกติคือเนื้อวัว) มะเขือเทศ ถั่วแดง(Red Kidney Beans) เป็นหลัก เมนูนี้มีต้นกำเนิดในเม็กซิโกตอนเหนือหรือเท็กซัสตอนใต้

ส่วนผสม   

เนื้อวัวบด 500 กรัม

มะเขือเทศสับ 1 ถ้วย

ถั่วแดง(Red Kidney Beans) 1 ถ้วย

ผงปรุงChili Con Carne 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำซุปเนื้อ  ตามชอบ ( นกใช้พอท่วมเนื้อ)

ซอสมะเขือเทศเข้มข้น(Tomato Purée) 1 ช้อนโต๊ะ

วูสเตอร์ซอส (Worcestershire Sauce) 2 ช้อนโต๊ะ

พริกไทยป่น  เล็กน้อย

พริกป่น  เล็กน้อย

เกลือป่น  เล็กน้อย

วิธีทำ 

1.หั่นหอมใหญ่ขนาดลูกเต๋าเล็ก  ตั้งกระทะบนเตาใส่เนื้อวัวบดและหอมใหญ่หั่นเต๋าลงผัดให้สุก (ไม่ต้องใส่น้ำมันเพราะน้ำมันจากเนื้อวัวจะออกมาเวลาผัด) ผัดจนกระทั้งเนื้อวัวบดสุก

2.ใส่ผงปรุงChili con carne มะเขือเทศสับ ถั่วแดง(Red Kidney Beans)  ซอสมะเขือเทศเข้มข้น(Tomato Purée)  วูสเตอร์ซอส (Worcestershire Sauce) พริกไทยป่น พริกป่น เกลือป่น และน้ำซุปเนื้อ คนส่วนผสมให้เข้ากันอีกทีปิดฝาเปิดไฟอ่อนๆเคี่ยวไปจนส่วนผสมออกรสอร่อยชิมรส ยกลงจากเตายกเสิรฟ์พร้อมข้าวสวยร้อน ๆ 

หากต้องการจะทำเป็น Chili Con Carne  Pie ก็ได้เช่นกัน ถ้าจะทำพาย (Pie) ก็นำมันฝรั่งบดอุ่น ๆ ตักโป๊ะไปบน Chilli con carne เกลี่ยให้มันฝรั่งบดปิดทับหน้าหมดทุกด้านใช้ส้อมกดโรยหน้าด้วยชีส 

นำเข้าเตาอบให้ชีสละลายเหลืองสวย ยกเสิรฟ์

ผัดตับไก่หน่อไม้

ส่วนผสม 

ตับไก่ 200 กรัม

หน่อไม้ต้ม 1 ถ้วย

พริกหยวก 2 เม็ด

พริกสด 5 เม็ด

กระเทียม 4 กลีบ

พริกไทยป่น ตามชอบ

ใบโหระพา 1 กำมือ

น้ำมันพืชสำหรับผัด

วิธีทำ  

1.ทำความสะอาดตับไก่หั่นเป็นชิ้น  และตีพริกสด กระเทียมให้แตกแล้วสับตามชอบ 

2.ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่พริกกระเทียมผัดให้หอม 

3.ใส่ตับไก่ลงผัดจนเกือบสุกใส่หน่อไม้ พริกหยวก พริกไทยป่นลงผัดต่อให้เข้าก้น ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย น้ำมันหอย ชิมรสตามชอบ  

4.ใส่ใบโหระพา ผัดเร็ว ๆ ให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จาน ยกขึ้นเสิร์ฟได้เลย

ปลาแซลมอนเต้าเจี้ยว

ช่วงนี้เวลาคุยกับแม่มักจะถามว่าวันนี้ทีบ้านทำอะไรกิน แม่ก็จะบอกว่าทำนั้นกินทำนี้กิน เมนูไหนน่าสนใจก็ลอกเมนูจากแม่มา  นกว่าถ้าเราเข้าครัวทำอาหารทุกวันบางที่ก็ไม่รู้จะทำอะไรดีเหมือนกัน บางครั้งต้องถามแฟนคลับว่าอยากกินอะไร เมนูอาหารไทยคงจะลำบากเพราะรู้จักอยู่ไม่กีอย่าง ถ้าเมนูฝรั่งก็ไม่มีปัญหา แต่เราคนไทยอยากกินอาหารไทยมากกว่า เพื่อน ๆ ชาวครัวว่าจริงไม่ค่ะ

ส่วนผสม 

ปลาแซลมอน 5 ชิ้น

ขึ้นฉ่าย (คื่นไฉ่)  3 ต้น

ขิง 1 แง่ง

กระเทียม 3  กลีบ

ต้นหอม 2  ต้น

หอมใหญ่ 1  หัว

พริกสด 4  เม็ด

ซอสเต้าเจี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย ตามชอบ

น้ำเปล่า เล็กน้อย

น้ำมันพืชสำหรับทอดและผัด

วิธีทำ 

1.ตั้งกระทะใส่น้ำมันทอดปลาแซลมอนให้สุกเหลือง พักไว้

2.ตั้งกระทะใส่น้ำมันสำหรับผัด พอน้ำมันร้อนนำกระเทียมลงไปผัดพอกระเทียมเริ่มหอมใส่หอมใหญ่ และขิงลงผัดต่อ

3.ใส่เต้าเจี๊ยว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย เติมน้ำลงไปในกระทะชิมรสตามชอบ จากนั้นใส่ต้นหอม พริกสด ขึ้นฉ่าย และปลาทอดลงไปผัดให้เข้ากันปิดไฟตักใส่จานยกเสิร์ฟ

แกงอินเดีย Balti Curry

 

ส่วนผสม 

น้ำพริกแกงBalti สำเร็จรูป 1 ขวด

หมูอบ 1 ถ้วย

พริกหวาน 1 ผล

หอมหัวใหญ่ 1 หัว

เห็ดขาว 5 ดอก

เกลือป่น ตามชอบ

น้ำตาลทราย  ตามชอบ

น้ำเปล่าเล็กน้อย

วิธีทำ 

1.หั่นหมูอบ พริกหวานหอมใหญ่ เห็ดขาว เป็นชิ้นขนาดพอคำ

2.ใส่น้ำมันในกระทะตั้งบนเตา พอน้ำมันร้อนใส่หอมใหญ่ ลงผัดให้พอเริ่มสุก จากนั้นใส่พริกหวานและเห็ดขาวลงผัดต่อ พอทุกอย่างเริ่มสุก

3.ใส่เนื้อหมูอบลงผัดให้เข้ากัน ใส่น้ำพริกแกงBalti  เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย ผัดให้เข้ากัน ชิมรส ปรุงรสตามชอบ รอให้เดือดอีกครั้งปิดไฟตักใส่ถ้วยยกเสิรฟ์

***พริกแกงBalti นกซื้อที่เค้าทำสำเร็จบรรจุขวดขายในห้างฯ พริกแกงBalti ที่ใช้แกงบ่อย ๆ จะเป็นของ Patak's ***

ผัดพริกแกงหมูอบ

 

ส่วนผสม 

หมูอบหั่นชิ้น 1 ถ้วย

ถั่วฝักยาว 5 ฝัก

หน่อไม้ฝรั่ง 4  หน่อ

ข้าวโพดอ่อน  3 ฝัก

พริกสด 4 เม็ด

ใบโหระพา 1 กำมือ

พริกแกงเผ็ด  1  ช้อนโต๊ะ

น้ำปลา ตามชอบ

น้ำตาลทราย ตามชอบ

น้ำเปล่า เล็กน้อย

น้ำมันพืชสำหรับผัด

วิธีทำ 

1.ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันสำหรับผัด รอให้น้ำมันเริ่มร้อนใส่พริกแกงเผ็ดลงผัดให้พอหอม 

2.ใส่หมูอบหั่นชิ้นลงผัดให้เข้ากัน

3.ใส่ถั่วฝักยาว หน่อไม้ฝรั่ง ข้าวโพดอ่อน เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ รอจนทุกอย่างสุก

4.ใส่พริกสดและใบโหระพาผัดให้เข้ากันปิดไฟในเตา ตักใส่จานยกเสิรฟ์

แกงคั่วหมูสับผักเคล(Kale) หรือผักคะน้าใบหยิก

 

ส่วนผสม
เนื้อหมูสับ 350 กรัม

พริกแกงเผ็ด 1 ช้อนโต๊ะ

ผักเคล (Kale)หรือผักคะน้าใบหยิก  150 กรัม

กะทิ (แบ่งหัวกะทิ หางกะทิ) 1 ถ้วย

น้ำปลา  ตามชอบ

น้ำตาลปี๊บ  ตามชอบ

น้ำมันสำหรับผัดเครื่องแกง

วิธีทำ 

1.ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันสำหรับผัดเครื่องแกง พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่พริกแกงผัดให้พอหอมจากนั้นเติมหัวกะทิเล็กน้อย ผัดเครื่องให้เข้ากัน 

2.ใส่เนื้อหมูสับลงไปผัด แล้วเติมหางกะทิลงไปรอให้เดือดอีกครั้งใส่ผักเคล (Kale) ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ชิมรสตามชอบ พอผักสุกปิดไฟ ตักเสิร์ฟได้เลย

ผักเคล (Kale) ได้ฉายาว่าราชินีผักใบเขียว (Queen of Greens) เป็น Super Food ที่ดีต่อสุขภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงผักเคล (Kale)หรือผักคะน้าใบหยิกเป็นพืชผักที่อยู่สายพันธุ์เดียวกับผักคะน้า ผักเคล (Kale) ขึ้นชื่อว่าเป็นตัวล้างสารพิษโดยธรรมชาติเพราะมีไฟเบอร์และซัลเฟอร์ช่วยดึงพิษสะสมและกำจัดออกจากร่างกาย ธาตุเหล็กสูง ช่วยการไหลเวียนโลหิต ลดคอเลสเตอรอล ช่วยให้หัวใจแข็งแรง ผักเคลมีหลากหลายสายพันธุ์ ที่เราใช้เรียกว่า Vates Blue Curled Scotch Kale 

ไก่งวงผักรวมน้ำมันหอย

 

ส่วนผสม 

เนื้อไก่งวงสุกหั่นชิ้น 1 ถ้วย

กระเทียมสับ 3 กลีบ

เห็ดขาว 3  ดอก

บร็อคโคลี่ 1/2 หัว

แครอท 1 หัว

กะหล่ำปลีดาว 5 ดอก

ข้าวโพดอ่อน 4 ฝัก

คะน้า 2 ต้น

หน่อไม้ฝรั่ง 3 หน่อ

น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ

ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย  เล็กน้อย

น้ำเปล่า เล็กน้อย

น้ำมันพืชสำหรับผัด

วิธีทำ 

1.นำผักทุกอย่างมาหั่นเป็นชิ้นพอคำ ไม่ต้องหนามาก

2.ตั้งกระทะใส่น้ำมันรอให้น้ำมันร้อน ใส่กระเทียมสับ เจียวให้พอหอม

3.ใส่บร็อคโคลี่ แครอท กะหล่ำปลีดาว ข้าวโพดอ่อน คะน้า หน่อไม้ฝรั่ง เห็ดขาว ผัดไฟปานกลาง 

4.ใส่เนื้อไก่งวงหั่นชิ้นลงไป ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย น้ำมันหอย  เปิดไฟแรง ผัดจนผักสุก ตักใส่จาน ยกเสิรฟ์

เต้าหู้ผัดพริกเสฉวน (มาโบโทฟุ /หม่าโผวโตว ฟุ /Mapo tofu/ 麻婆豆腐)

เต้าหู้ผัดพริกเสฉวน (มาโบโทฟุ หรือหม่าโผวโตว ฟุ) เป็นเมนูเที่มีความผ็ดร้อนสไตล์เสฉวน ซึ่งได้มาจากพริกเสฉวนนั้นเอง มาโบโทฟุ หรือหม่าโผวโตว ฟุ นอกจากจะเป็นเมนูของเสฉวนแล้วยังมีชื่อเสียงกระจายไปในอีกหลาย ๆ ประเทศ ใครที่นิยมและชื่นชอบรสชาติของความเผ็ดหากได้ลิ้มลองก็จะถูกใจในเมนูนี้กันทุกคน

ส่วนผสม
เต้าหู้ขาว 1 ก้อน
หมูสับ 250 กรัม
หอมหัวใหญ่สับ 1 หัว
กระเทียมสับ 4 กลีบ
ขิงสับ 1 แง่ง
ต้นหอมซอย 4 ต้น
พริกเสฉวนในน้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสถั่วเต้าซี่ 1 ช้อนโต๊ะ
เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย เล็กน้อย
น้ำมันงา  เล็กน้อย
น้ำซุปหมู ตามชอบ
แป้งมันละลายน้ำ 2 ช้อนโต๊ะ 
น้ำมันสำหรับทอดและผัด

วิธีทำ
1.นำเต้าหู้มาหั่นครึ่งและนำไปทอดให้ผิวเต้าหู้เหลืองๆทั้งสองด้าน พักให้หายร้อนจากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็ก
ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันในกระทะ รอให้น้ำมันเริ่มร้อนนำหอมใหญ่  กระเทียม และขิงไปผัดให้สุกหอม 
2.ใส่หมูสับลงไปผัด ผัดจนกระทั้งหมูสับสุก 
3.ใส่พริกเสฉวนในน้ำมัน ซอสถั่วเต้าซี่ เหล้าจีน น้ำตาลทราย น้ำมันงา น้ำซุปหมู
4.ใส่เต้าหู้ขาว และแป้งมัน คนให้เข้ากันชิมรสตามชอบ ตักใส่จานโรยด้วยต้นหอมซอยยกเสิรฟ์พร้อมข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลย

Cottage Pie หรือพายเนื้อวัวมันฝรั่ง

Cottage Pie หรือพายเนื้อวัวมันฝรั่ง เป็นพายแรกในการทำเมนูอาหารฝรั่งเลยก็ว่าได้ จำได้ว่าอ่านเจอะวิธีการและขั้นตอนการทำในหนังสือ เอาไปให้แฟนคลับดู ได้รู้ว่าเป็นเมนูโปรดอีกเมนูของแฟนคลับ  แฟนคลับบอกว่าตอนเด็ก ๆ แม่ทำให้ทานบ่อย พ่อแฟนคลับเองก็ชอบ พอได้ทำเองรู้เลยว่าไม่ยากอย่างที่คิดเลย สำหรับมันฝรั่งบดที่ใช้คู่กับพาย เพือน ๆ ชาวครัวสามารถอ่านได้จากลิงค์นะค่ะ http://pinkroselove-nd.blogspot.com/2022/01/mashed-potato.html

ส่วนผสม
เนื้อวัวบด 500 กรัม
หัวหอมใหญ่ 1 หัว
แครอท 2 หัว
มันฝรั่งบด ตามชอบ
เกลือป่น  ตามชอบ
พริกไทยป่น  ตามชอบ
ซุปเนื้อวัวก้อน 1 ก้อน
แป้งข้าวโพดละลายน้ำ 2 ช้อนโต๊ะ
เนยสด 1/2 ก้อน
น้ำมันมะกอสำหรับผัด  เล็กน้อย

วิธีทำ 

1.หั่นหัวหอมใหญ่ และแครรอทขนาดเต๋าเล็ก

2.ตั้งกระทะบนเตาด้วยไฟอ่อนใส่เนยและน้ำมันสำหรับเล็กน้อยพอเนยละลาย ใส่หัวหอมใหญ่และแครอทลงไปผัดกับเนย ให้พอเริ่มสุก

3.ใส่เนื้อวัวบดไปผัดให้สุกหอม ใส่ซุปเนื้อก้อนและน้ำเปล่าลงในกระทะ ปรุงรสด้วยเกลือป่น พริกไทยป่น แป้งข้าวโพดละลายน้ำ ผัดให้เข้ากันปิดไฟในเตา 

4.ตักใส่ถ้วยแบ่ง จากนั้นนำเอามันฝรั่งบดตักโป๊ะไปบนเนื้อ เกลี่ยให้มันฝรั่งบดปิดทับหน้าหมดทุกด้าน ใช้ส้อมกดขอบให้เรียบร้อย

5.นำชีสมาโรยหน้าพายจากนั้นนำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศา ประมาณ10-15 นาที หรือจนกว่าหน้าพายเหลืองหอม นำออกจากเตาอบ ยกเสิรฟ์