ที่บ้านเวลามีงานเลี้ยงสังสรร นกมักจะทำลาบหมูทอดขึ้นโต๊ะอยู่บ่อยครั้ง นกว่าลาบหมูทอดจะติดปากคนที่นี้มากว่าลาบหมูธรรมดา ถ้าจะพูดไปแล้ว เมนูลาบหมูที่บ้านทำบ่อย เพราะแฟนคลับชอบ นกเองก็ชอบ นกเคยทำเลี้ยงสังสรรครอบครัวตอนมาอยู่ใหม่ ๆ แต่ดูแล้วไม่ค่อยจะสนใจ ไม่เหมือนลาบหมูทอด ตั้งโต๊ะ เดี๋ยว ๆ ก็หมด
ส่วนผสม
หมูบด 500 กรัม
พริกป่น ตามชอบ ( นกใช้ 3 ชต)
ข้าวคั่ว 1/4 ถ้วย
น้ำปลา 2 ชต
ซีอิ้วขาว 1 ชต
น้ำมะนาว ตามชอบ
แป้งสาลี 3 ชต
หอมแดงหั่นซอย 4-5 หัว
ต้มหอมหั่นซอย 3-4 ต้น
วิธีทำ
1. นำหมูสับมาผสมกับพริกป่น ข้าวคั่ว หอมแดงซอย ต้นหอมซอย คลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และใส่แป้งสาลีลงไปคลุกเคล้าให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันอีกครั้ง
2. นำส่วนผสมทั้งหมดมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ ขนาดตามชอบ อย่าให้หนาเกินหรือบางเกินไป เพราะบางเกินไปก็จะแห้งแข็ง หนาเำกินก็จะทอดไม่สุข ปั้นเสร็จลองทอดดูสักก้อนก่อน เพื่อชิมและดูว่าขนาดได้หรือไม่
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน เปิดไฟปานกลาง รอจนกระทั้งน้ำมันร้อน นำก้อนลาบที่ปั่้นไว้แล้วลงทอด ทอดจนเหลืองสุกได้ที่ ตักขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมันจนสะเด็ดน้ำมัน แล้วก็ตักใส่จาน ยกเสริฟคู่กับผักสดตามชอบได้เลย
***สำหรับน้ำมันที่ใช้ทอด ให้ใช้เพียงพอที่จะทอดก้อนลาบไม่้ต้องใส่ให้เยอะไปพอน้ำมันร้อนแล้วหยิบก้อนลาบที่ปั้นไว้ใส่ลงไป รอให้เหลืองแล้วจึงค่อยกลับ ไม่จำเป็นต้องกลับไปมาบ่อยๆนะคะ หากจะทอดชุดใหม่เอาตะหลิวช้อนเศษผักที่คากระทะออกให้หมดเสียก่อน เพราะเดียวจะทำให้น้ำมันดำไหม้ เวลาทอดชุดใหม่จะไม่สวยนะคะ ***
ยำกุนเชียง/กุนเชียงไร้สาร
นกทำกุนเชียงกินเองอยู่เป็นประจำ ถ้าเพื่อนๆ สนใจสูตรกุนเชียงละก็แวะอ่านได้ที่ห้องครัวแปรรูป-ถนอมอาหารนะค่ะ พูดถึงกุนเชียง ที่บ้านจะใช้ทำข้าวผัดเสียส่วนใหญ่ หรือไม่ก็ทอดกินเฉย ๆ นั้นเป็นเมนูที่แฟนคลับจะกินด้วย แต่วันนี้แฟนคัลบมีประชุม แล้วจะกลับบ้านคำ นกอยู่บ้านคนเดียวอากาศหนาว ๆ เลยต้มข้าวตั้งแต่เ้ช้าเลย ตอนแรกกะจะทอดกุนกินกับข้าวต้มเฉยๆ เปิดตู้เย็นมีแตงกว่า คื่นฉ่ายเลยเปลี่ยนใจเป็นยำกุนเชียงเสียเลย
ส่วนผสม
กุนเชียง 3 แท่ง
แตงกวาหั่นเป็นแว่น ตามชอบกุนเชียง 3 แท่ง
พริกสดหั่นซอย 2-3 เม็ด
น้ำมะนาว 1ชตซีอิ้วขาว/หรือน้ำปลา 2 ชช
น้ำตาลทราย 2 ชชน้ำมันพืช 2 ชต
5. นำหอมหัวใหญ่ซอย แตงกวา คื่นช่าย ต้นหอม และกุนเชียงที่หั่นไว้มาใส่รวมกันในชามผสม เทน้ำยำลงไปแล้วคลุกเคล้าทั้งหมดให้เข้ากันตักยำกุนเชียงใส่จาน จากนั้นก็ยกเสริฟได้เลยค่ะ
ไก่อบราดซอสแกงเขียวหวานสปาเก็ตตี้
ส่วนผสม
เนื้ออกไก่ิอบ 1 ชิ้น
เส้นสปาเกตตีต้มสุก ตามชอบ
กะทิ 1 กป (แยกหัวกะทิ หางกะทิ)
น้ำพริกแกงเขียวหวาน 2 ชต
เห็ดแชมปิญอง หั่นชิ้น 1/4 ถ้วย
พริกหวานหั่นพอคำ 1 ลูก
ใบโหระพา 1 กำมือ
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง 2-3 เม็ด
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
วิธีทำ
1. ใส่หัวกะทิลงในกระทะ ตั้งไฟกลาง เคี่ยวให้แตกมัน ใส่น้ำพริกแกง ผัดพอทั่ว ค่อยๆ ใส่กะทิจนหมด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล คนพอทั่ว ใส่พริกหวาน เห็ดลงไปผัดให้สุก ชิมรสตามชอบ เดือดอีกครั้งปิดไฟในเตาโรยพริกชี้ฟ้าแดง และใบโหระพา คนให้เข้ากันพักไว้
2. หั่นเนื้อไก่อบเป็นชิ้นพอคำ เรียงชิ้นไก่อบใส่จานและจัดเส้นสปาเกตตีใส่จานเดียวกัน ตักซอสแกงเขียวหวานใส่จาน ยกเสริฟได้เลย
***ไก่อบนกใช้ไก่อบที่เหลือจากเมื่อวาน เอาไปอุ่นให้ร้อน อีกครั้ง ส่วนผักที่ใส่ในแกงแล้วแต่จะชอบกัน วันนี้ที่บ้่านนก มีผักไม่กี่อย่างเลยใส่เท่าที่มี แต่ถ้าเพื่อน ๆ มีมะเขือพวง มะเขือเปราะ ข้าวโพดหวาน ก็ใช้ได้เช่นกันค่ะ ส่วนไก่อบ นกไม่ได้ลงสูตรไว้ แต่คิดว่าหลายๆ บ้านคงทำกันเป็นประจำอยู่แล้ว ไก่อบแล้วแต่สูตรของแต่ละบ้าน หากไม่มีเนื้อส่วนหน้าอก จะใช้เนื้อส่วนอื่นก็ได้เช่นกันค่ะ***
เส้นสปาเกตตีต้มสุก ตามชอบ
กะทิ 1 กป (แยกหัวกะทิ หางกะทิ)
น้ำพริกแกงเขียวหวาน 2 ชต
เห็ดแชมปิญอง หั่นชิ้น 1/4 ถ้วย
พริกหวานหั่นพอคำ 1 ลูก
ใบโหระพา 1 กำมือ
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง 2-3 เม็ด
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
วิธีทำ
1. ใส่หัวกะทิลงในกระทะ ตั้งไฟกลาง เคี่ยวให้แตกมัน ใส่น้ำพริกแกง ผัดพอทั่ว ค่อยๆ ใส่กะทิจนหมด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล คนพอทั่ว ใส่พริกหวาน เห็ดลงไปผัดให้สุก ชิมรสตามชอบ เดือดอีกครั้งปิดไฟในเตาโรยพริกชี้ฟ้าแดง และใบโหระพา คนให้เข้ากันพักไว้
2. หั่นเนื้อไก่อบเป็นชิ้นพอคำ เรียงชิ้นไก่อบใส่จานและจัดเส้นสปาเกตตีใส่จานเดียวกัน ตักซอสแกงเขียวหวานใส่จาน ยกเสริฟได้เลย
***ไก่อบนกใช้ไก่อบที่เหลือจากเมื่อวาน เอาไปอุ่นให้ร้อน อีกครั้ง ส่วนผักที่ใส่ในแกงแล้วแต่จะชอบกัน วันนี้ที่บ้่านนก มีผักไม่กี่อย่างเลยใส่เท่าที่มี แต่ถ้าเพื่อน ๆ มีมะเขือพวง มะเขือเปราะ ข้าวโพดหวาน ก็ใช้ได้เช่นกันค่ะ ส่วนไก่อบ นกไม่ได้ลงสูตรไว้ แต่คิดว่าหลายๆ บ้านคงทำกันเป็นประจำอยู่แล้ว ไก่อบแล้วแต่สูตรของแต่ละบ้าน หากไม่มีเนื้อส่วนหน้าอก จะใช้เนื้อส่วนอื่นก็ได้เช่นกันค่ะ***
สาคูเปียกข้าวโพด
มาอีกแล้วจ๋า... ขนมหวานไทยถูกใจคนไทย ถ้าจะบอกว่าสาคูเป็นอะไรที่หาซื้อง่ายในซุปเปอร์ฯ ทั่ว ๆ ไปเพื่อนๆ จะเชื่อไม่ค่ะ ตอนเห็นครั้งแรกถามแฟนคลับว่าคนที่นี้กินสาคูกันด้วยเหรอ แฟนคลับบอกหลายๆ คนชอบ แต่เค้าไม่ชอบ สาคูที่นี้เค้าจะเอาไปทำเมนูที่เรียกว่า tapioca pudding ซึ่งต่างกับเราตรงที่ เค้าจะใช้นมแทนน้ำกะทิ นกละสงสัยว่าเค้าทำกันอย่างไร เลยเข้าไปอ่านสูตรและวิธีทำ บอกได้เลยค่ะสู้ของเราไม่ได้เลยค่ะ ของเราน่ากินกว่ากันเยอะ
ส่วนผสม
สาคูเม็ดเล็ก 1 ถ้วย
ข้าวโพด 1 กป
ัหัวกะทิ 1/2 ถ้วย
เกลือป่น หยิบมือ
น้ำตาลทราย ตามชอบ (นกใช้ัประมาณ 4 ชต)
น้ำเปล่า ตามชอบ (นกกะใช้ประมาณ 3-4 ถ้วย)
วิธีทำ
1. นำสาคูเทใส่ในกระชอนร่อนเอาเศษผงออกเปิดน้ำผ่านเสียก่อนเพื่อล้างฝุ่นที่เกาะเม็ดสาคูออก สงให้สะเด็ดน้ำ แล้วพักไว้
2. ต้มน้ำเปล่าจนเดือด เทสาคูลงไปและคอยคนให้ทั่วสาคูจะได้ไม่ติดก้นหม้อ ต้มทิ้งไว้สักครู่ จนสาคูมีลักษณะเป็นตากบ (ข้างนอกใสข้างในเป็นสีขาว)
3. ใส่น้ำตาลลงไปคนน้ำตาล และัข้าวโพดลงไปคนให้เข้ากัน พอเม็ดสาคูสุกใสไม่มีไตขาวปิดไฟในเตาให้ยกลงได้เลย
4. ้นำหัวกะทิประมาณ 1 ถ้วย ใส่หม้อเติมเกลือ ยกขึ้นตั้งไฟ คนให้ละลาย พอกะทิเริ่มเดือดยกลง ตักสาคูเปียกใส่ถ้วยหยอดหน้าด้วยหัวกะทิเสิรฟได้เลยค่ะ
***ถ้าสาคูข้นขึ้นให้เติมน้ำร้อนลงไป เพราะเวลาเย็นสาคูจะแห้งข้นขึ้นอีก เรื่องความหวานถ้าต้องการให้หวานอีก ก็ให้เพิ่มน้ำเชื่อมลงไปในหม้อ หรือเวลาทำหัวกะทิราดสาคูก็ให้ผสมน้ำตาล ไม่ต้องใส่น้ำตาลเวลาต้มสาคูก็ได้เช่นกันค่ะ***
ข้าวโพด 1 กป
ัหัวกะทิ 1/2 ถ้วย
เกลือป่น หยิบมือ
น้ำตาลทราย ตามชอบ (นกใช้ัประมาณ 4 ชต)
น้ำเปล่า ตามชอบ (นกกะใช้ประมาณ 3-4 ถ้วย)
วิธีทำ
1. นำสาคูเทใส่ในกระชอนร่อนเอาเศษผงออกเปิดน้ำผ่านเสียก่อนเพื่อล้างฝุ่นที่เกาะเม็ดสาคูออก สงให้สะเด็ดน้ำ แล้วพักไว้
2. ต้มน้ำเปล่าจนเดือด เทสาคูลงไปและคอยคนให้ทั่วสาคูจะได้ไม่ติดก้นหม้อ ต้มทิ้งไว้สักครู่ จนสาคูมีลักษณะเป็นตากบ (ข้างนอกใสข้างในเป็นสีขาว)
3. ใส่น้ำตาลลงไปคนน้ำตาล และัข้าวโพดลงไปคนให้เข้ากัน พอเม็ดสาคูสุกใสไม่มีไตขาวปิดไฟในเตาให้ยกลงได้เลย
4. ้นำหัวกะทิประมาณ 1 ถ้วย ใส่หม้อเติมเกลือ ยกขึ้นตั้งไฟ คนให้ละลาย พอกะทิเริ่มเดือดยกลง ตักสาคูเปียกใส่ถ้วยหยอดหน้าด้วยหัวกะทิเสิรฟได้เลยค่ะ
***ถ้าสาคูข้นขึ้นให้เติมน้ำร้อนลงไป เพราะเวลาเย็นสาคูจะแห้งข้นขึ้นอีก เรื่องความหวานถ้าต้องการให้หวานอีก ก็ให้เพิ่มน้ำเชื่อมลงไปในหม้อ หรือเวลาทำหัวกะทิราดสาคูก็ให้ผสมน้ำตาล ไม่ต้องใส่น้ำตาลเวลาต้มสาคูก็ได้เช่นกันค่ะ***
หมูผัดผักกาดดองเค็ม
ส่วนผสม
เนื้อหมู 400 กรัม (นกซื้อจากที่เค้าหั่นมาเสร็จแล้วจากซุปเปอร์ฯ)
ผักกาดดองเค็ม (เกี่ยมฉ่าย) 1 กป
น้ำมันหอย 1 ชต
น้ำตาลทราย 2 ชช
เกลือป่น หยิบมือ
พริกไทยป่น 1 ชช
พริกป่นหยาบ ตามชอบ
น้ำมันสำหรับผัด ตามชอบ
วิธีทำ
1. นำเนื้อหมูมาล้างน้ำให้สะอาด สะเด็ดน้ำแล้วนำเกลือป่นมาโรย คลุกให้ทั่วเินื้อหมู พักไว้
2. เอาผักกาดดองเค็มมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ขนาดตามชอบ และเก็บน้ำผักกาดดองเอาไว้ใช้ผัด
3. เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อนให้ใส่หมูลงไปทอดจนหมูค่อนสุกเหลืองคล้าย ๆ หมูทอด จากนั้นตักวขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน จากนั้นเทน้ำมันออกจากกะทะให้หมด
4. เทหมูลงกะทะใหม่อีกครั้ง จากนั้นเทน้ำผักกาดดองลงไปผัดเนื้อหมู ใส่พริกไทยป่น พริกป่นหยาบลงไป ผัดไปเรื่อยๆ จนน้ำเกือบจะแห้งจากนั้นจึงนำผักกาดดองเค็มที่หั่นไว้ใส่ลงไปผัดต่อ เติมน้ำมันหอยและน้ำตาลทราย ผัดให้เครื่องปรุงทุกอย่างเข้ากันชิมรสตามชอบ เสร็จแล้วปิดไฟในเตาตักใส่จานยกเสริฟคู่กับข้า่วต้ม หรือข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ
***ผักหมูผักกาดดองเค็มจะมีรสเค็มๆ หวาน ๆ และเผ็ดเล็ก ๆ ถ้าบ้านไหนมีเด็กไม่ต้องใส่พริกป่นก็ได้นะค่ะ เด็กๆ จะได้กินได้นะค่ะ วันนี้นกใส่พริกป่นนิดหน่อย เพราะมันหมด นกชอบกินคู่กับข้าวต้มกุ๋ยร้อน ๆ ยิ่งอากาศเย็น อย่างนี้ได้ข้าวต้มสักถ้วยคงทำให้ร่างกายอุ่นขึ้ันอีกเยอะเลยละค่ะ สำหรับเกลือนกใส่ไม่เยอะเพราะผักกาดดองมีความเค็มอยู่แล้ว ถ้าใส่เยอะไปจะทำให้ยิ่งเค็มขึ้นไปอีกนะค่ะ แตุ่ถ้าเพื่อนๆ ชอบเค็มให้เพิ่มเกลือให้นิดหน่อย แต่ทางที่ดีชิมผักกาดของเราก่อนว่ามีรสชาติอย่างไรจะได้ใส่เกลือไดุ้ถูกนะค่ะ***
Chocolate and Beer Cake
มี หลาย ๆ คนถามนก "ทำไม่ถึงได้เก่งในเรื่องการทำอาหาร และทำได้หลายๆประเภท" คำตอบของนกที่ตอบอยู่เป็นประจำก็คือ......นกไม่ได้เก่งการทำอาหารมาตั้งแต่ เริ่มต้น เครื่องปรุงหลายๆ อย่างก็ไม่รู้จัก เหตุเพราะตัวเองเข้าครัวน้อยหรือจะบอกได้ว่าไม่ได้เข้าครัวทำอาหารเลยก็ว่า ได้ค่ะ นกมาเริ่มต้นจริงๆ จังๆ ก็เมื่อมีครอบครัวเป็นแม่บ้าน ซึ่งเป็นเหตุบังคับให้เราต้องทำให้เป็นทำให้ได้ ดังนั้นอาหารหลายๆอย่างเกิดจากแม่ที่คอยให้ความรู้ คอยบอกไม่เข้าใจก็จะโืทรไปถามท่านอยู่เสมอๆ นอกเหนือจากแม่แล้ว นกก็ยังมีตำราอาหารที่มีอยู่มากมายตามร้านหนังสือเป็นครูช่วย สอนทำให้เกิดความรู้ ซึ่งนกมักจะเข้าไปเดินดู และเลือกซื้อหาติดมือมาเป็นประจำนกเชื่อว่าคนเราต้องมีการฝึกฝน หัดทำ ถึงจะพัฒนาฝีมือของตนเองไปได้ไม่มีใครเก่งคิดได้เองในทันที่ทันใดโดยไม่เคย จับต้อง และไม่เคยได้เห็นหรือมีใครบอกและฝึกมาก่อน นกเองก็เป็นเช่นนั้น เมื่อนกเริ่มที่จะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรก็สามารถปรับประยุกต์ให้เป็นไปใน สิ่งที่ตนเองชอบ นกว่าการทำอาหารก็เป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่ใครชอบแบบไหนก็ปรุงแต่งในแบบของตน เอง เพื่อน ๆ ว่าจริงๆไม่ค่ะ วันนี้นกมีเค้กมากฝากเพื่อน ๆ แต่นกเพิ่มความแปลกไปโดยใช้เบียร์เป็นส่วนผสมในการทำเค้กตัวนี้จากเดิมที่เป็นสูตรเค้กชอคโกแลต์ธรรมดา ที่นกทำอยู่เป็นประจำนะค่ะ
ส่วนผสมตัวเค้ก
ผงโกโก้ 50 กรัม (cocoa powder)
เบียร์ 200 มิลิลิตร
เนยสดรสจืด 110 กรัม
น้ำตาลทรายป่น 275 กรัม (นกใช้ Dark soft brown sugar)
ไข่ไก่ขนาดใหญ่ 2 ฟอง
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 180 กรัม
ผงฟู 1/4 ชช
โซดาไบคาร์บอร์เนต (เบคกิ้งโซดา) 1 ชช
ส่วนผสมสำหรับไอซิ่งแต่งเค้ก
น้ำตาลไอซิ่ง 120 กรัม
เนยสดรสจืด 60 กรัม
เบียร์ 2 ชต
Dark Chocolate 110 กรัม
Walnut บดหยาบ ๆ 25 กรัม (นกทุบเอาพอแตก ๆ )
Walnut ไ้ว้ตกแต่งหน้าเค้ก ตามชอบ
วิธีทำ
1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาซี เริ่มที่ตัวเค้กก่อน โดยผสมผงโกโก้ กับเบียร์ คนให้ทเข้ากันพักไว้ (เวลาผสมให้เทเบียร์ลงไปที่ละน้อย แล้วค่อยๆ คนให้เข้ากันทำอย่างนี้จนเบียร์หมด)
2. นำเนยสด และน้ำตาลใส่ลงในอ่างผสม จากนั้นตีเข้าด้วยกันจนเป็นเนื้อครีม (เนยสดที่ใช้จะต้องทิ้งไว้ในอุณภูมิห้อง ให้เนยอ่อนตัวแล้วถึงจะนำมาใช้)
3. นำส่วนผสมของแป้ง ผงฟู และโซดาไบคาร์บอร์เนต (เบคกิ้งโซดา) มาร่อนรวมกันสองครั้ง พักแป้งไว้
4. ตอกไข่ลงในอ่างผสมที่ละฟอง ตีให้ส่วนผสมของไข่เข้าเป็นเนื้อเดียวกับส่วนผสมของเนยและน้ำตาล
5. นำส่วนผสมของแป้งที่ร่อนไว้แล้งใส่ลงในอ่างผสมตีให้เข้ากันอีกครั้ง (เวลาตีให้ใช้ความเีร็วตำตีก่อนป้องกันการกระจายของแป้ง)
6. เมื่อส่วนผสมเข้ากันเป็นที่เรียบร้อยให้แบ่้งตัวแป้งเค้กออกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน เอาเข้าเตาอบ อบประมาณ 35 นาที หรืออบจนกระทั้งสุก ( เตาอบแต่ละบ้านไม่เท่ากัน เวลาอบให้เช็ดดูว่าเค้กของตนเองด้วย) อบเสร็จแล้วให้นำเค้กมาพักให้เย็น อัีนนี้แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคน
7. เมื่อเค้กเย็นสนิืทแล้วจึงมาทำไอซิ่งแต่งหน้าเค้ก โดยนำเนยแต่น้ำตาลไอซิ่งตีเข้าด้วยกัน (เวลาตีน้ำตาลไอซิ่งให้ใส่ที่ละน้อย ไม่อย่างนั้นน้ำตาลจะฟุ้งกระจาย) ตีจนกระทั้งจนกลายเป็นเนื้อครีม ใส่เบียร์ 2 ชต ลงไป คนให้เข้า ๆกัน
8. นำ Dark Chocolate ไปตุ่นให้ละลายจนหมด เสร็จแล้วเทลงไปในไอซิ่งครีมที่ตีไว้ ตีให้เข้ากันอีกครั้ง เสร็จแล้วแบ่งออกเป็น สามส่วน โดยหนึ่งส่วนเป็นไส้เค้กให้ใส่ Walnut บดหยาบลงไป คนให้เข้ากัน อีกสองส่วนไว้แต่งหน้าเค้ก
9. จัดการแต่งหน้าเค้กตามชอบได้เลย (ไอซิ่งChocolate ค่อนข้างจับตัวเร็วให้รีบแต่งหน้าอยางทิ้งไว้ ไม่นั้นมันจะแข็งตัว) แต่งหน้าเสร็จตัดใส่จานยกเสริฟได้เลยค่ะ
***ตัดมาให้ชมเห็นเนื้อเค้กด้านในกันอีกรอบ ก่อนยกเสริฟให้แฟนคลับชิมเสียก่อน จากนั้นตัดแบ่งไปให้พ่อแม่ที่บ้าน เค้กนี้กะจะทำให้แฟนคลับนำไปแจกเพื่อน ๆ ในงานเลี้ยงคริสมาสต์ของบริษัทที่จะถึงพร้อมกับเค้กอีกชิ้นที่มีเสียงบอกกล่าวให้ทำมาล่วงหน้านี้แล้ว***
*** สำหรับเบีียร์เพื่อน ๆ จะใช้เบียร์อะไรยี่ห้อไหนก็ได้แล้วแต่จะชอบนะค่ะ ของนกวันนี้เลือกใช้เบียร์ที่เห็นในภาพนี้่ละค่ะ เห็นบอกว่าเป็น King's of Beer นกเป็นคนไม่ดืมเบียร์ เลยเอามาทำขนมเสียเลยจะได้รู้ว่ามันอร่อยจริงอะป่าว***
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)