หมูหวาน

คนส่วนใหญ่เรามักจะเห็นหมูหวานเคียงกับข้าวคลุกกะปิเสียส่วนใหญ่ สำหรับนก จะผัดหมูหวานกินคู่กับน้ำพริกเสียส่วนใหญ่ อย่างวันนี้หมูหวาน น้ำพริกหนุ่มเข้ากันได้ดีเลยค่ะ จริงแล้วหมูหวานเอามาราดข้าวอย่างเดียวก็อร่อย ยิ่งครอบครัวไหนมีเด็ก ๆ แล้วละก็ เมนูนี้ก็น่าจะเป็นเมนูโปรดสำหรับเด็กๆ ก็ว่าได้ค่ะ







ส่วนผสม 
หมูติดมัน 350 กรัม 
หอมหัวแดงหั่นซอย 4 หัว 
น้ำมันพืชสำหรับผัด 1 ชต 
ซีอิ๊วขาว 1 ชต 
น้ำตาลทรายแดง 2-3  ชต 
ซีอิ๊วดำ ตามชอบ (นกกะใส่เอานะค่ะ)
 น้ำเปล่าประมาณ 1/4 ถ้วยตวง 

 วิธีทำ 
1.ล้างหมูหั่นเป็นชิ้นขนาดพอคำ 
2. เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง เอาใส่น้ำมันในกระทะ นำหัวหอมลงผัดในกระทะให้พอเหลืองสุกตักใส่จานพักไว้ก่อน
3. กระทะใบเดิมใส่หมูผัด ผัดจนกระทั้งหมูเริ่มสุก จากนั้นใส่ซีอิ๊วขาว  ซีอิ๊วดำ น้ำเปล่า และน้ำตาล เคี่ยวไฟอ่อน จนกระทั้งน้ำน้ำข้นเล็กน้อย ชิมรสตามชอบ 
4. พอหมูสุกนุ่ม ปิดไฟในเตาตักใส่จานยกเสริฟได้เลยค่ะ 

ขนมข้าวตู

อากาศช่วงนี้เริ่มหนาวขึ้นทุกวันแล้วค่ะ แถมบางเมืองมีฝนตกหนักน้ำท่วมอีกต่างหาก นกโชคดีที่ๆ อยู่ไม่มีผลกระทบเรื่องน้ำท่วม ถึงแม้จะมีฝนตกอยู่บ้าง ตอนนี้คุยกับใคร ๆ เรื่องที่พูดก็จะไม่พ้นเรื่องน้ำท่วม เห็นจากข่าวแล้วน่าเห็นใจค่ะ พูดเรื่องหนักๆ กลับมาเรื่องครัว ๆ ของเราดีกว่าค่ะ ขนมข้าวตูเป็นขนมโบราณของไทยทำจากข้าวสวยตากแห้งเอามาคั่ว นกเห็นหลายๆ สูตรที่ทำจะมีส่วนผสมของน้ำกะทิ สูตรของนกไม่ได้ใช้ค่ะ ข้าวตูถือว่าเป็นขนมที่หากินได้ยากในปัจจุบัน ซึ่งจริง ๆ แล้ววิธีการทำไม่ยากอย่างที่คิดเลย ที่บ้านเวลาทำกลับข้าวหุงข้าวกินหากมีเหลือก็จะเก็บใส่กล่องแช่ตู้เย็นไว้ นกเก็บไว้เยอะพอควร ก็เอาออกมาตากใช้ทำข้าวคั่วทำขนมข้าวตูกินค่ะ




ส่วนผสม 
ข้าวสุกตากแห้ง 250 กรัม
น้ำตาลปึก/น้ำตาลมะพร้าว 250 กรัม
มะพร้าวทึนทึกขูดละเอียด 250 กรัม
น้ำลอยดอกไม้ 1/2 ถ้วย
เืทียนอบ

วิธีทำ 
1.น้ำข้าวสุกตากแห้งมาคั่วให้เหลืองกรอบแล้วนำไปป่นให้ละเอียดดีพักไว้ (นกใช้เครื่องปั่นประหยัดเวลากว่านำมาโขลกให้ละเอียด)
2.เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง ผสมน้ำตาลกับน้ำลอยดอกไม้ในกระทะตั้งไฟให้น้ำตาลละลาย เคี่ยวให้น้ำตาลเหนียว 
3.ใส่มะพร้าวขูดลงกวนกับน้ำตาลที่เคี่ยวไว้ ยกลงจากเตาพักไว้ให้เย็น 
4.ใส่ข้าวคั่วที่ป่นละเอียดแล้วลงคลุกกับน้ำตาลที่เคี่ยวไว้ คลุกเคล้าให้เข้ากันจนทั่ว 
5.นำข้าวตูมาอัดใส่ในพิมพ์ แล้วเคาะออก จากนั้นใส่ขวดโหลหรือภาชนะอบควันเทียน อบประมาณ 1/2 ชม. จากนั้นจัดลงจานยกเสริฟได้เลยค่ะ

ไข่ดาวทรงเครื่อง

แฟนคลับหวังดีสุดๆ  ซื้อไข่ไก่มาให้ 3 โหล อาทิตย์นี้งานเค้กก็ไม่มี ไข่ที่อยู่ก่อนหน้านี้ก็ต้องใช้ไปก่อน เลยต้องหาเมนูกำจัดไข่ นกแบ่งส่วนทำไข่เค็มไปแล้ว วันนี้ทำเมนูที่สอง ไข่ดาวทรงเครื่อง เมนูที่ใคร ๆ ก็ทำได้ไม่ยาก แถมบ้านไหนมีเด็กๆ เมนูรับรองเด็กชอบค่ะ สีสรรสดใสน่ากินว่าแล้วก็ลงมือทำกันเลยค่ะ






ส่วนผสม
ไข่ไก่ 5 ฟอง
หมูสับ 150 กรัม
มะเขือเทศ หั่นเป็นสีเหลี่ยมลูกเต๋า 2 ลูก
หอมหัวใหญ่หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/2 ลูก
กระเทียมสับละเอียด 3-4 กลีบ
ต้นหอมหั่นซอย 3 ต้น
น้ำมันหอย 2 ชต
ซีอิ้วขาว 2 ชต
น้ำตาลทราย ตามชอบ (นกใช้ประมาณ 1 ชต หากใครชอบออกหวานก็เพิ่มได้ค่ะ)
ซอสมะเขือเทศ 2 ชต
แป้งข้าวโพด 1 ชช (ละลายน้ำเปล่าเล็กน้อย)
น้ำมันสำหรับผัด /น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ
1. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันสำหรับทอดลงไป รอจนน้ำมันร้อนได้ที่ก็ตอกไข่ใส่ลงไป ทอดจนไข่สุกก็ตักขึ้นพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน
2.ใช้ก่ระทะใบเดิม ตักน้ำมันออก เหลือไว้เล็กน้อยพอผัดหมูและผักได้ ใส่กระเทียมสับ หัวหอมใหญ่ พอหอมใหญ่เริ่มสุก ใส่หมูสับลงไปผัดต่อ ผัดจนหมูเริ่มสุก
3.ใส่มะเขือเทศและเติมซีอิ้วขาว น้ำมันหอย ซอสมะเขือเทศ และน้ำตาลทรายลงไป แล้วผัดให้หมูสับและเครื่องปรุงทุกอย่างเข้ากันจนหมูสับสุก ชิมรสตามชอบ
4.นำแป้งข้าวโพดมาละลายน้ำเปล่า คนให้ละลายแล้วใส่ลงในกระทะ คนเร็วๆ ให้เข้ากัน ใส่ต้นหอมซอยลงไป คนให้ทั่ว ปิดไฟในเตาจากนั้น นำเครื่องมาตักราดลงบนไข่ดาวที่ทอดเตรียมไว้ในจานให้ทั่ว ยกเสริฟคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลย

ต้มข่าหมูอบหัวปลี

นกทำต้มข่ากินไม่กี่ครั้ง เหตุเพราะขัดใจเรื่องของข่า ต้มข่าหากให้ได้รสชาตดีต้องเป็นข่าอ่อนสด ๆ  แต่อยู่ต่างแดนข่าอ่อนสด ๆ นั้นหายาก ได้ข่าแก่มาต้มก็ยังดี แต่ข่าแก่ที่มีก็ไม่ได้ดังใจ เพราะเป็นข่าแก่ตากแห้ง ไร้กลิ่น ไร้รสชาต เหมือนกินเปลือกไม้ก็ว่าได้  แต่คราวนี้ข่าแห้งที่ซื้อมาเก็บไว้หลายวันยังกลิ่นหอมของข่าพอควร นกเลยตัดใจทำต้มข่าอีกครั้ง  แถมด้วยหัวปลีกระป๋องซื้อมาพร้อมกับข่า ตอนที่ซื้อมาเจอะก็นึกอยากกิน แต่คิดเมนูไม่ออกว่าจะทำเมนูอะไรดี ทิ้งไว้หลายวันไม่กินเดี๋ยวจะหมดอายุเสียก่อน เลยเอามาใส่ต้มข่า เพราะเคยได้ยินว่าคนโบราณเค้าเอาปลีกล้วยมาต้มข่าแทนเห็ดนะค่ะ หัวปลีใส่ต้มข่ารสชาติอร่อยอีกแบบ คนที่ชอบกินหัวปลีหรือมีหัวปลีแต่ไม่รู้จะทำอาหารอะไรดี ลองทำเมนูนี้ดูนะค่ะแล้วจะติดใจ 


  
ส่วนผสม
หมูอบ หั่นเป็นชิ้น 1 ถ้วย 
หัวปลี 1 กป. (นกเอาหัวปลีมาล้างน้ำร้อนอีกครั้ง) 
กะทิ 1 กป. (แยกหัวกะทิ หางกะทิ)
ข่า 1/2 ถ้วย  (เอาแช่น้ำร้อนให้เนื้อข่าอ่อนตัว)
ตะไคร้ หั่นเป็นท่อน 2 ต้น
ใบมะกรูด 3-4 ใบ 
พริกขี้หนู หั่นเฉียง 5 เม็ด 
เกลือป่น 1 ชช ซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ชต

น้ำมะนาว 3 ชต
น้ำเปล่าประมาณ 1  ถ้วย
ผักชี เด็ดเป็นใบๆ ถ้ามี (นกไม่มีไม่ได้ใช้)

วิธีทำ
1.เปิดไฟในเตาใช้ไฟแรงปานกลาง นำหางกะทิและน้ำเปล่า 1 ถ้วยใส่ลงหม้อ รอจนกระทั้งน้ำกะทิเดือดใส่ข่า ตะไคร้และใบมะกรูดลงไป เคี่ยวพอประมาณ
2.ใส่เนื้อหมูอบลงไป รอจนเดือดอีกครั้งจึงใส่เกลือป่นลงไป แล้วคนให้เข้ากัน
3.ใส่หัวกะทิลงไป คนให้เข้ากัน รอจนกระทั้งน้ำแกงเดือด ใส่หัวปลีและพริกที่หั่นไว้ลงไป ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) น้ำตาลทราย และน้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ ปิดไฟในเตา จากนั้นโรยด้วยผักชีและคนให้เข้ากัน ตักใส่ชามยกเสริฟได้เลยค่ะ

***จริงๆ แล้วกะจะใช้เนื้อไก่ทำ แต่หมูิอบเหลืออีกเยอะจากเมื่อวาน เลยเอามาทำเมนูนี้ต่อ แบบว่าเแม่บ้านยุคประหยัดนะค่ะ***



สมูทตี้กล้วยหอม(Banana Smoothy)/น้ำกล้วยหอมปั่น

วันนี้นกทำน้ำผลไม้ปั่น /สมูทตี้ (Smoothy) สำหรับสาว ๆ ที่รักสุขภาพค่ะ ช่้วงหน้าร้อนนกมักจะทำสมูทตี้ และเชก (Shake) ดืมดับร้อนอยู่บ่อยครั้ง พูดถึงเรื่องสมูทตี้และเชกแล้ว หลาย ๆ คนยังเข้าใจผิดกันอยู่จริงๆแล้ว ระหว่างสมูทตี้และเชกมีข้อที่แตกต่างกันที่ตรงที่ สมูทตี้จะไม่ใส่ไอศรีมลงไปปั่นผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ นอกนั้นจะเหมือนกันเสียส่วนใหญ่ หลักๆ ก็จะเป็นผลไม้ โยเกริต์ นม น้ำตาล น้ำผึ้ง แล้วแต่จะชอบกัน  ผลไม้ที่นำไปปั่นจะเลือกผลไม้ที่มีเนื้อนุ่ม รสหวาน ปั่นง่าย เพราะเวลาปั่นจะได้น้ำผลไม้ปั่นที่มีเนื้อที่เนียนนุ่มนั้นเอง




ส่วนผสม 
กล้วยหอมหั่นเป็นชิ้น 1 ลูก
นมสด 1/4 ถ้วย
น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วย
เกลือป่น หยิบมือ
น้ำต้มสุก 1 ถ้วย
น้ำแข็งบด ตามชอบ (นกกะประมาณ เวลาปั่นใส่นิดหน่อยก่อนแล้วค่อยเติมที่หลัง)

 วิธีทำ 
1.ใส่กล้วยหอม นมสด น้ำเชื่อม เกลือ น้ำแข็ง และน้ำต้มลงในโถปั่น ปั่นเข้ากันให้ดี  จากนั้นใส่น้ำแข็งเติมลงไปแล้วปั่นอีกครั้งให้เข้ากัน จนส่วนผสมเนียน
2. เมื่อทุกอย่างเข้ากันดี เทใส่แก้วตกแต่งด้วยกล้วยหอมหั่นชิ้น พร้อมเสริฟได้เลยค่ะ

***กล้วยหอมมีสรรพคุณหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะโรคท้องผูก เพราะเส้นใยอาหารในกล้วยหอมช่วยทำให้ระบบขับถ่ายในร่างกาย ทำงานได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยลดภาวะความดันโลหิตได้อีกด้วย***

 

เส้นหมี่หมูสับแห้ง





ส่วนผสม 
หมูสับ 350 กรัม 
ตับหมู 250 กรัม 
ผักกวางตุ้ง 1 กำ 
ซีอิ๊วขาวสำหรับหมักหมู 1 ชต
น้ำตาลทรายสำหรับหมักหมู เล็กน้อย (นกใช้ประมาณ 1 ชช. ให้เนื้อหมูออกรสหวานนิด ๆ) 
พริกไทยสำหรับหมักหมู ตามชอบ (นกใช้ประมาณ1/2 ชช) 
น้ำมันงาสำหรับหมักหมู 1 ชช
ซอสหอยนางรมสำหรับหมักหมู 1 ชต.
กระเทียมเจียว ตามชอบ
ถั่วงอกลวก ตามชอบ

 วิธีทำ 

1. นมผักมาล้างให้สะอาด ตัดเป็นท่อน ๆ แช่น้ำพักไว้
2. นำเนื้อหมูบดมาหมัก ใส่เครื่องปรุงสำหรับหมักหมูลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน จานนั้นนำเข้าตู้เย็น หมักไว้อย่างน้อย 1 ชม.
3. เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรง เอาหม้อใส่น้ำพอประมาณ พอน้ำเดือด ใส่หมูสับลงไปต้มให้สุก ชิมรสน้ำชุปตามชอบ
4. เปิดไฟในเตาอีกเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรงเอาน้ำใส่ในหม้ออีกใบ ต้มน้ำให้เดือด นำผักที่หั่นเอาไว้ลงลวกพอสุก 
5. พอผักสุกใช้หม้อใบเดิมลวกเส้นหมี่ จนเส้นสุกได้ที่ ใส่กระเทียมเจียวลงคลุก ใส่น้ำมันที่เจียวลงไปเล็กน้อยค่ะ เส้นจะได้ไม่ติดกัน 
6. ลวกเส้นเสร็จ ก็ให้ลวกตับหมูพอตับหมูสุกจัดใส่จาน จากนั้นจัดเรียงเส้นหมี่ หมูสับ ตับหมู ผักกวางตุ้ง ถั่วงอก ลงในชามแล้วปรุงรส ด้วยซอสปรุงรส น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว และพริกป่น ถั่วป่น ยกเสริฟได้เลยค่ะ


***หากเพื่อน ชอบรสเปรี้ยวนิดหน่อยจะเติมมะนาวด้วยก็ได้นะคะ รสตามชอบค่ะ วันนี้นกใช้ถั่วอัลมอนด์แทนถั่วป่น นกจใส่น้ำตาลทรายเยอะหน่อยเพราะจะได้ออกรสหวานนิดๆ  ถ้าเพื่อน ๆ ชอบให้มีสีสรรจจะใส่ซีอิ๊วดำลงใสเส้นหมี่สักนิดก่อนจะใส่เครื่องปรุงอื่น เพื่อสีสันก็ได้ค่ะ หากจะให้น้ำชุปมีรสชาตดีนกแนะนำให้ต้มน้ำซุปกระดูกหมูจะทำให้น้ำชุปอร่อยเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ*** 

ข้าวแกงทอด/ ข้าวยำทอด/ ทอดมันข้าว

นกไม่รู้ว่าจะเรียกเมนูนี้ว่าอะไรดี ข้าวแกงทอด ข้าวยำทอด หรือทอดมันข้าวดี เพราะเคยได้อ่านเรื่องข้าวแกงทอด จะมีเกร็ดขนมปัง ของนกไม่มี ข้าวยำทอด เค้าจะเอาข้าวไปคลุกกลับเครื่องแกงแล้วนำไปทอด ของนกมี แต่ยังมีส่วนผสมอื่นเป็นตัวประกอบหลักอีก จะเรียกทอดมันข้าวก็ไม่รู้จะใช้ไม่อีก เลยเรียกทั้งสามชื่อเสียเลย




ส่วนผสม
ข้าวสวย 2 ถ้วย
หมูบดละเอียด 250 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง
น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ชต
น้ำตาลทราย ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ (นกใส่นิดหน่อยเพราะเครื่องแกงมีรสเค็มอยู่แล้ว)
ต้นหอมหั่นซอย (จริงๆ ต้องใช้ใบมะกรูดหั่นซอย ที่บ้านไม่มีเลยใช้ต้นหอมแทน)

 วิธีทำ
1. นำหมูบดและน้ำพริกแกงเผ็ดมานวดเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นใส่ไข่ไก่ลงไปนวดต่อ
2. เมื่อไข่ไก่และหมูบดนวดเข้ากันได้ที่ นำข้าวสวย ลงไปนวดคลุกให้เข้ากับน้ำพริกแกงและเนื้อหมู เติมน้ำปลา น้ำตาล จากนั้น แบ่งส่วนผสมออกมาเล็กน้อยนำเข้าเตาไมโครเวฟ ให้สุก จากนั้นชิมรส ปรุงรสตามที่ตนต้องการ นำไปพักไว้ในตู้เย็นประมาณ 15 นาที
3. พอถึงกำหนด เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรง อย่าให้แรงมากเดี๋ยวเวลาทอดเดี๋ยวจะไหม้ นำข้าวมาทอด ให้เหลืองสุกสวย จัดใส่จานยกเสริฟได้เลย (จะทานเป็นของว่างกับสลัด หรือจะทานเป็นอาหารพร้อมข้าวสวยร้อยๆ ก็ได้เช่นกัน)




เกาเหลาหมู/เกาเหลาลูกชิ้น

เวลานกไปร้านขายก๋วยเตียวหมู มักจะสั่งเกาเหลามากินเล่นอยู่บ่อยครั้ง หรือไม่ก็กินคู่กับข้าว เกาเหลาถือเป็นอาหารแบบด่วน ๆ เร็วๆ ทำง่ายแถมอร่อย แต่ไม่ค่อยทำเพราะหาซื้อกินง่าย พอมาอยู่ต่างแดนอยากกินอะไรก็ต้องทำเอง อย่างเมนูเกาเหลาทำกินอยู่บ่อยครั้ง นกไม่เคยลงสูตรเกาเหลาในครัว เพราะคิดว่าเพื่อนชาวครัวหลายๆ คนคงทำกินกันอยู่บ่อยแล้ว แต่พอเอารูปลงให้เพื่อน ๆได้เห็นมีเพื่อนสมาชิกชาวครัวถามสูตรเข้ามา วันนี้ทำอีกครั้งได้โอกาสถ่ายรูปจัดการเขียนสูตร แบ่งปันเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบเกาเหลาเช่นเดียวกันกับนกค่ะุ






หมูเนื้อแดง ตามชอบ (นกใช้ประมาณ 250-300 กรัม)
หมูสับ 200 กรัม
ตับหมู 250 กรัม
ซี่โครงหมู 5 ซี่
ลูกชิ้นหมู ตามชอบ
หัวไช้เท้าหั่นเป็นท่อน ๆ   1/2 หัว
แครอทหั่นเป็นท่อนๆ 2 หัว
เห็ดหอมแช่น้ำ 6 หัว

ซีอิ๊วขาว 2 ชต
ซอสปรุงรส 1 ชต (ถ้ามี)
น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 2 ชช
พริกไทยป่น หยิบมือ
ผัึกซีหั่นฝอย ตามชอบ
ถั่วงอก ตามชอบ (ุถ้ามี)
ขึ้นฉ่าย ตามชอบ (ถ้ามี)

วิธีทำ
1. หมูสับเติมน้ำมันหอย 1 ชต ซีอิ๊วขาว 1 ชต ซอสปรุงรส 1 ชต คลุกเคล้าให้เข้ากันพักไว้
2. กระดูกล้างน้ำให้สะอาด ใส่หมอนำขึ้นต้ม เปิดไฟในเตา้ใช้ไฟปานกลาง
3. ใส่เนื้อหมูแดง หัวไชเท้า แครอท และเห็ดหอมลงในหม้อพร้อมเกลือป่น ต้มจนทุกอย่างสุก เวลาต้มห้ามคนทิ้งไว้จนน้ำซุปใส
4. ใส่หมูบดปรุงรสที่เตรียมไว้ปั้นเป็นก้อนลงในน้ำซุป และน้ำแช่เห็ดหอม พอหมูสุก ชิมรสตามชอบปิดไฟยกลง
5. ตับหมูหั่นเป็นชิ้นๆ  นำไปลวกในน้ำร้อนจัดประมาณ 1-2 นาทีให้สุก ช้อนขึ้นพักไว้
6. ถึงเวลาเสริฟ ใส่ลูกชิ้นลงในหม้อน้ำซุปตามต้องการ ใส่ถั่วงอกและขึ้นฉ่ายรองชามไว้ ตักน้ำซุปพร้อมหมูสับที่เดือดจัดใส่ลงในชาม จากนั้นตักตับหมู ลูกชิ้น ใส่ตามลงไป โรยหน้าด้วยผักชีและพริกไทยป่น เสริฟพร้อมเครื่องปรุง และข้าวสวยร้อนๆได้เลยค่ะ

***ที่บ้านเวลากินเกาเหลาหมูจะกินคู่กับพริกน้ำส้มดอง สูตรพริกน้ำส้มดองที่บ้านจะมีพริกขี้หนู เกลือ กระเทียม ตำหยาบหรือละเอียดตามชอบ ใส่น้ำตาล น้ำส้มสายชู รสชาตจะเปรี้ยวนำ หวานตาม เกาเหลาเป็นเมนูที่ชอบทำกินอยู่เป็นประจำยิ่งอากาศเย็น ๆ ชอบทำ เพราะมีลูกชิ้นติดบ้านอยู่แล้ว ส่วนชามที่เห็นข้างล่างเป็นเกาเหลาลูกชิ้นค่ะ***






หน่อไม้ต้มกะทิกุ้งสด

นกห่างหายจากครัวไปหลายวันเลย ยิ่งช่วงหน้าร้อนยิ่งไม่ค่อยอยู่บ้านสักเท่าไร แถมปีนี้มีโอกาสได้ลูกค้าทำขนมเค้กเพิ่มขึ้นทำให้ไม่ค่อยมีเวลา จริงๆ แล้วอยู่บ้านนกทำกับข้าวทุกวันค่ะ มีที่ถ่ายรูปเก็บไว้ก่อน ไว้ค่อยมาลงสูตร อย่างหน่อไม้ต้มกะทินี้ทำกินหลายวันแล้ว เป็นเมนูอาหารภาคใต้ ส่วนใหญ่แล้วนกจะต้มแบบน้ำซุปธรรมดาใส่หมู ใส่ไก่ ก็ว่ากันไปค่ะ แต่ครั้งนี้พิเศษจริง ๆ เหตุผลเกิดจากความอยากกินเหตุผลเดียวค่ะ ส่วนสูตรโทรถามน้องสาวที่บ้านค่ะ เค้าทำให้กินอยู่บ่อยๆ ตอนอยู่เมืองไทย





ส่วนผสม

หน่อไม้ ตามชอบ (นกใช้ที่เค้าต้มสำเร็จในกระป๋อง 2 กระป๋อง)
ขนิ้มผง 1 ชช ( นกกะเอาพอให้มีสีเหลือง ๆ )
กะทิ 1 กระป๋อง
 น้ำปลานิดหน่อย  (จะใช้ซีิอิ้วขาวก็ได้เช่นกัน)
กุ้งสดปอกเปลือ 250-300 กรัม
กุ้งแห้ง ตามชอบ (ถ้ามี)
พริกไทยดำ 1 ชต
หอมหัวแดง 3 หัว
เกลือป่น 1 ชช

วิธีทำ

1. นำหน่อไม้มาล้างน้ำอุ่น พักทิ้งไว้
2. โขลกพริกไทย หอมแดง เกลือป่น เข้าด้วยกัน โขลกให้ละเอียดตามความชอบ
3. เปิดไฟในเตาปานกลางค่อนข้างแรง นำกะทิใส่หม้อต้มให้เดือด ใส่เครื่องปรุงที่โขลกไว้ และขมิ้นผง คนให้ทั่ว ๆ จากนั้นใส่หน่อไม้ กุ้งแห้ง ลงไปต้มให้พอพอเดือด ปรุงรสด้วยน้ำปลาหรือซีอิ้วขาว ชิมรสชาตตามชอบ  รสชาตจะที่จะต้องมีความมัน ความเค็มนำ  จากนั้นจึงใส่กุ้งสด พอเดือนอีกครั้ง ปิดไฟในเตา ตักใส่ชามยกเสริฟ กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ได้เลยค่ะ



บัวลอยน้ำกะทิ

นกเห็นเพื่อนชาวครัวเอาขนมไทยมาให้ชม เห็นแล้วนึกอยากกิน วันนี้ลงมือทำขนมบัวลอย เมนูง่ายๆ สะดวก จริงๆ  อยากทำบัวลอยเผือกแต่ด้วยความกลัวว่าเผือกที่เห็นหัวใหญ่มากๆ ซื้อกินเข้าไปเกิดอาการแพ้คันขึ้นมาจะลำบาก ตัดสินใจไม่ใส่เผือก ใส่สีผสมอาหารแทนสะดวกดี วันนี้นกเลือกใช้ สีแดง สีเหลือง และสีเขียว




ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
กะทิ 1 กระป๋อง
น้ำตาลทราย 6 ชต
เกลือป่น หยิบมือ
สีผสมอาหาร ตามชอบ
เนื้อมะพร้าวอ่อน ตามชอบ (นกไม่มีเลยไม่ได้ใส่)

 วิธีทำ
1. แบ่งน้ำกะทิออกประมาณ 1 ส่วน
2. ผสมแป้งข้าวเหนียว  กับน้ำกะทิที่แบ่งออกมาใส่น้ำกะทิลงไปที่ละน้อย จากนั้นนวลให้เข้ากัน ถ้าแป้งแห้งไปให้เติมกะทิลงไปอีก นวดพอให้นุ่มมือ พอปั้นเป็นก้อนกลมได้
3. แบ่งแป้งออกเป็น 3 ส่วนเท่าๆ กัน นำไปผสมสีตามชอบ ( วันนี้นกใช้ สีเขียน สีแดง และสีเหลือง)
4.เมื่อนวดจนแป้งเนียนได้ที่แล้วก็ปั้นแป้งเป็นลูกกลมๆ ขนาดตามชอบ ปั้นไปเรื่อยๆ จนแป้งหมด จากนั้น เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรง เอาน้ำเปล่าใส่ลงไปในหม้อ ต้มจนน้ำเดือดจึงเอาแป้งที่ปั้นไว้ใส่ลงไป รอจนแป้งสุก (สังเกตว่าแป้งจะลอยขึ้นมาเอง) ก็ช้อนแป้งที่สุกแล้วมาแช่ในน้ำเย็นจัดเพื่อให้แป้งคงตัว
5. เปิดไฟในเตาอีกครั้งที่ไฟปานกลาง นำกะทิในหม้อตั้งบนเตา ใส่น้ำตาลทราย และเกลือป่นลงไป หมั่นคนตลอดเวลา พอน้ำกะทิเดือด ใส่เม็ดบัวลอยที่เย็นแล้วใส่ลงในหม้อกะทิ คนให้เข้ากัน ชิมรสชาต ปรับความหวานตามชอบ จากนั้นปิดไฟในเตาตักใส่ถ้วยยกเสริฟได้เลยค่ะ



***หากเพื่อน ๆ ชอบความหวานเติมน้ำตาลลงไปได้อีกนะค่ะ สำหรับนกแล้วคิดว่าหวานได้ใจแล้วละค่ะ***





มะเขือชุบไข่ทอด

นกไปซุปเปอร์ฯ ตอนวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เห็นมะเขือสีม่วง รูปทรงเหมือนมะเขือเปราะสีม่วงบ้านเราแต่ลูกมันโตมากๆ เลยค่ะ  ตั้งใจซื้อมาทอดกินโดยเฉพาะ   กลับถึงบ้านอยากรู้ว่าเค้าเรียกว่าอะไร มองหาในอินเตอร์เน็ต และแล้วก็ไปเจอะชาวสวนคนหนึ่งปลูกมะเขือชนิดนี้ เค้าเรียกว่ามะเขือยักษ์ หรือ มะเขือเปราะยักษ์ อืมได้คำตอบให้กับตัวเองและแฟนคลับเสียที




ส่วนผสม
มะเขือเปราะยักษ 1 ลูก
ไข่ไก่ 1 ฟอง
แป้งทอดกรอบ 2 ชตฃ
น้ำเย็นจัด พอประมาณ (ใส่ที่ละนิดกะให้พอชุปมะเขือติด)
ซีอิ้วขาว 1 ชช
น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ
1.นำมะเขือไปล้างให้สะอาด ตัดหั่นเป็นชิ้น ๆ บางๆ ขนาดตามชอบ นำไปแช่ในน้ำเกลือ ทิ้งไว้สัก 10-15 นาที จากนั้นนำขึ้นพักทิ้งให้สะเด็ดน้ำ
2. นำแป้งทอดกรอบ ผสมกับน้ำเย็นคนให้เข้ากันจนแป้งเป็นเนื้อเนียน จากนั้นตอกไข่ใส่ลงไปคนให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกันอีกครั้ง
3. นำส่วนผสมของแป้งมาชุบมะเขือให้ทั่วๆ จากนั้นนำลงทอด
4. เปิดไฟในเตาปานกลาง นำกระทะตั้งบนเตาใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันลงเอามะเขือชุบไข่ลงทอดที่ละชิ้น รอให้แป้งเหลืองกรอบจึงค่อยกลับด้าน ทอดจนทั้งสองด้านเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้บนกระดาษซับน้ำมันจัดใส่จานยกเสริฟ คู่กับน้ำพริกผักสดเครื่องเคียงอื่นๆ ได้เลย

***นกเอาภาพลูกมะเขือเปราะยักษ์ เทียบกับไข่ไก่ ให้เพื่อนๆ เห็นความแตกต่าง ว่ามันใหญ่จริงๆ***





หมูต้มเต้าเจี้่ยวขิง

เมนูแนะนำวันนี้เป็นหมูต้มเต้าเจี้ยวค่ะ  นกห่างหายจากการอัฟบล๊อกไปหลายวันเลยที่เดียวเพราะยุ่งกับการทำขนมเค้ก เดือนที่ผ่านมามีขนมเค้กให้ทำหลายเจ้าเลยที่เดียวค่ะ การทำขนมเค้กของนกไม่ได้ทำเป็นอาชีพหรอกนะค่ะ เรียกว่ามีใครจ้างให้ทำก็ทำ ดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆ ได้สตางค์กินขนมนิดหน่อยก็ยังดี อาทิตยนี้ที่้บ้านฝนตกติดๆ กันสองวันแล้วค่ะ  ฤดูกาลของที่นี้เริ่มเข้าหน้าร้อนก็ว่าได้ค่ะ แต่แปลกมากๆ ยังมีฝนตกอยู่อีก วันไหนฝนตกนกไม่อยากออกไปไหนเลยละค่ะ เพราะออกไปเปียกฝนก็หนาวอีกอยู่บ้านทำโน่นนี้ที่บ้านดีกว่าออกเปียกฝน ฝนตกอย่างนี้หากได้ขิงมาช่วยให้ร่างกายอบอุ่นสู้กับอากาศที่เปลี่ยนแปลงก็น่าจะดีเพื่อนๆว่าจริงไม่ค่ะ






ส่วนผสม
หมูแดงติดมันตามชอบ หั่นชิ้นพอคำ  1  ถ้วย
ขิงสดหั่นซอย 1/4 ถ้วย ( นกใช้ประมาณ 1 แง่งใหญ่)
หอมใหญ่หั่นชิ้น  1 หัว
น้ำตาลทราย ตามชอบ (นกใส่แค่พอตัดรสเค็ม)
น้ำมันหอย 1 ชต
เห็ดหอม หั่นชิ้น ตามชอบ (นกใช้ 4 ดอก หั่นตัดเป็นสี่ชิ้นต่อ 1 ดอก)
น้ำมันงาสำหรับผัดหมู ตามชอบ  (นกใส่นิดหน่อยพอผัดหมูได้นะค่ะ)
เต้าเจี้ยวขาว/เต้าเจี้ยวดำ 2 ชต. (จะใช้เป็นเต้าเจี้ยวขาวหรือดำแล้วแต่ชอบ)
ซีอิ๊วขาว 2 ชต.
พริกไทยป่น 1/2 ชช.
เกลือป่น 1/2 ชช.
น้ำเปล่า/ น้ำซุป ตามชอบ
พริกขี้หนูสวน 7-8 เม็ด
ต้นหอมหั่นท่อน 2 ต้น
 ต้นคื่นฉ่ายหั่นท่อน 1 ต้น


 วิธีทำ
1. นำหมูลงไปผัดให้พอเห็นผิวเริ่มสุก ตักขึ้นใส่จานพักไว้
2. เปิดไฟในเตาปานกลางค่อยข้างอ่อน ใช้กะทะใบเดิม ใส่หอม ขิงซอย ผัดให้พอหอมสุก เติมเต้าเจี้ยว ลงไปนิดหน่อย (ไว้เพิ่มที่หลังหากยังไม่เค็มพอ) ตามด้วยซีอิ้วขาว น้ำมันหอย  น้ำตาลทราย
3. ใส่หมูลงไปคลุกเคล้่าให้เข้ากัน เติมน้ำซุปลงไป ปรับไฟในเตาเป็นไฟกลาง ต้มเคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนกระทั้งน้ำซุปเดือด ใส่เห็ดหอมลงไปต้มต่อ ชิมรสตามชอบ หากยังไม่เค็มพอให้เติมเ้ต้าเจี้ยวลงไปอีก
4. เมื่อน้ำซุปเดือด ให้หรี่ไฟในเตาลงเป็นไฟกลางค่อนข้างอ่อน ต้มเคี่ยวไปจนเนื้อหมูเปื่อยได้ที่ ก่อนปิดไฟในเตาโรยพริกขี้หนูคนให้เข้ากันจากนั้นปิดไฟในเตาตักใส่ชามโรยหน้าด้วยต้นหอม คื่่นฉ่ายหั่นเป็นท่อนๆ ยกเสริฟได้เลยค่ะ

***สำหรับหมูต้มเต้าเจี้ยว หากใครชอบให้มีรสชาติออกเปรี้ยวนิด ๆ นกแนะนำให้เพิ่มน้ำส้มสายชู หรือ สับปะรดหั่นเป็นชิ้น ๆ ใส่ลงในหม้อต้ม แล้วแต่จะเลือกนะค่ะ อย่างของนกรสชาติอแบบคนจีน แต่ถ้ารสชาติไทยๆ คงต้องออกรสเปรี้ยวนิด ๆ  แล้วแต่เืพื่อนชาวครัวจะชอบกันนะค่ะ***


ยำปลาแซลมอน

หากเพื่อนชาวครัว นึกอยากจะกินยำบูดูปลาย่าง แต่อยู่ต่างแดนหาซื้อน้ำบูดูไม่ได้ นกขอแนะนำให้ทำยำปลาแบบที่นกทำจะง่ายกว่า บอกได้เลยอร่อยไม่แพ้กันเลย สูตรนี้นกได้จากแม่จากเมืองไทย ทำให้กินอยู่เป็นประจำ แม่บอกว่าปลาไม่ต้องย่างให้ควันไฟทั่วบ้าน เอาไปทอดให้กรอบก็ใช้ได้แล้ว





ส่วนผสม

ปลาแซลมอนทอดแกะเนื้อ 2 ชิ้น
พริกขี้หนูหั่นซอย 3-4 เม็ด
ตะไคร้ซอย 2 ต้น
หอมแดงซอย 4 หัว
น้ำมะนาว ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำตาลทราย ตามชอบ

วิธีทำ
1.ผสมส่วนน้ำยำโดยนำน้ำมะนาว น้ำปลา  และน้ำตาลทรายผสมเข้าด้วยกัน คนให้น้ำตาลละลาย 
2.นำซอยพริกขี้หนู ตะไคร้ หอมแดงใส่ลงในส่วนผสมน้ำยำคนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ จัดเสริฟพร้อมผักสดได้เลย






น้ำตกเป็ดอบ

อาทิตย์ที่ผ่านมาก นกกับแฟนคลับไปซุปเปอร์เห็นน่องเป็ดติดสะโพกกำลังลดราคาพอดี เลยซื้อมาหลายชิ้นที่เดี๋ยวค่ะ เก็บแช่แข็งไว้วันไหนอยากกินก็เอาออกมาปรุง อย่างวันนี้นกอยู่บ้านคนเดียว ในใจอยากจะทำก๋วยเตียวเป็ดกิน แต่คิดไปคิดมาเปลี่ยนใจทำน้ำตกดีกว่าไม่ได้กินมานานแล้วอีกอย่างกินคนเดียวไม่ต้องสนใจเรื่องความเผ็ด เปรี้ยวเอาความชอบเราเป็นหลัก เวลาอยู่บ้าน 2 คน นกจะทำอาหารแบบกลางๆ ให้กินได้ทั้ง 2 คน มีบางที่แยกเมนูกัน แต่ไม่บ่อยนัก เพราะไม่อยากทำหลายๆ อย่าง แต่ถ้าจำเป็นก็ต้องทำเช่นกันค่ะ 




ส่วนผสม
เนื้อน่องเป็ดติดสะโพก 2 น่อง  
ต้นหอม/ ผักชีซอย ตามชอบ 
หัวหอมหั่นซอย 1 หัว 
พริกป่น 2 ชต
พริกขี้หนูสวน 8-10 เม็ด
น้ำตาลทราย 1 ชต
ข้าวคั่ว 3 ชต
น้ำปลา 2 ชต
มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้น 1-2 ลูก
ใบสาระแหน่ 1 กำมือ (ถ้ามี)
ผักสลัด (Rocket salad) 1 กำมืิอ


วิธีทำ
1. นำน่องเป็ดไปอบ จนกระทั้งสุก หั่นชิ้นพอคำใส่ชามพักไว้ จากนั้นใส่หัวหอม ต้นหอม ผักชี และมะเขือเทศลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน
2. ผสมพริกป่น น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาล และข้าวคั่วในถ้วยผสม คนให้เข้ากันแล้วนำไปราดบนน่องเป็ดคลุกเคล้าให้ทุกอย่างเข้ากันอีกครั้งชิมรสตามชอบ จากนั้นตักใส่จาน โรยด้วย Rocket salad ยกเสริฟได้เลยค่ะ


***นกไม่มีใบสาระแหน่เลยไม่ได้ใส่ แต่ถ้าเพื่อนๆ มีละก็ ให้เพิ่มสาระแหน่ลงไปจะได้รสชาติและความหอมมากยิ่งขึ้นนะค่ะ***

น้ำพริกกะปิเบคอน

นกทำเมนูคู่ครัวคนไทยอีกแล้วค่ะ ไปบ้านไหนก็ต้องเจอะน้ำพริกผักสดติดบ้านกันอยู่เป็นประจำ ที่บ้านนกเองก็มีติดบ้านอยู่เช่นกัน นกไม่ได้โขลกน้ำพริกทุกวัน แต่จะโขลกที่หนึ่งเยอะไปเลย แล้วเก็บแช่ตู้เย็นไว้ได้หลายวันเลยค่ะ ไม่อยากย่างกะปิหลายๆ หนนะค่ะ กลิ่นหอมกลัวข้างบ้านตามหากลิ่นนะค่ะ อย่างวันนี้นกทำน้ำพริกกะปิเบคอน จริงๆแล้วเบคอนนี้เหลือจากแฟนคลับทอดทำแซนวิชไปทานที่ทำงาน ทอดเสียเยอะเอาไปไม่หมด เหลือไว้นกเลยเอามาใส่น้ำพริกกะปิเสียเลย เมนูนี้เคยเห็นหรืออ่านเจอะทีไ่หนแล้วไม่ทราบ มีคนทำน้ำพริกเบคอน แต่ของเค้าจะเอาไปผัดกับน้ำมัน สำหรับของนกแล้วโขลกผสมร่วมกับส่วนผสมทำน้ำพริกเลย ทำง่ายไม่ยุ่งยากค่ะ เพื่อนชาวครัวที่ชื่นชอบน้ำพริกสนใจลองทำดูนะค่ะ รับรองว่าไม่ผิดหัวงเลยละค่ะ




ส่วนผสม
เบคอนทอดกรอบ ตามชอบ (แบ่งเป็นสองส่วน)
กระเทียม 6-7 กลีบ
หอมแดง 2 หัว
พริกขี้หนู ตามชอบ
กุ้งแห้งป่น 1 ชต
น้ำตาลปี๊บ 1 ชต
กะปิย่าง 2 ชช
น้ำมะนาวคั้น 3 ชต (นกใช้ 2 ลูก)
ซีอิ้วขาว เล็กน้อย

วิธีทำ
1.นำหอมแดง กระเทียม และพริกขี้หนูไปคั่วในกะทะไปให้พอหอม
2.โขลกพริกขี้หนู กระเทียม หอมแดงเข้าด้วยกัน ละเอียดหยาบตามชอบ จากนั้นใส่เบคอนส่วนที่หนึ่งลงไปโขลกต่อจนละเีอียดเข้าด้วยกัน
3.ใส่กุ้งแห้งป่นลงไปคลุกให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นใส่กะปิลงไปโขลกรวมกัน
4.ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว ซีอิ้วขาว ชิมรสตามชอบ ตักใส่ถ้วยโรยหน้าด้วยเบคอนส่วนที่สอง จากนั้นจัดใส่จานยกเสริฟคู่กับผักสด ไข่ต้มได้เลยค่ะ

***ถ้าเพื่อน ๆ ชอบน้ำพริกมะม่วงจะใส่เบคอนในน้ำพริกมะม่วงก็ได้เช่นกัน สำหรับซีอิ้วขาวอย่าใส่เยอะนะค่ะ เพราะกะปิเค็มอยู่แล้วจะทำให้น้ำพริกของเราเค็มขึ้นไปอีกนะค่ะ นกใส่เล็กน้อยพอให้ได้รสชาตินะค่ะ ***


ยำก้านบรอกโคลีหมูสับ




ส่วนผสม
หมูสับ 150 กรัม
กุ้งสด 8-10 ตัว
ก้านบรอกโคลีหั่นเฉียง  3  หัว
แครอทหั่นเฉียง 1/2 หัว
มะเขือเทศหั่นชิ้น 2  ลูก
พริกสดซอย  ตามชอบ
หอมแดง ซอย 2 หัว
น้ำปลา  ตามชอบ
น้ำมะนาว  ตามชอบ
น้ำตาลทราย  ตามชอบ
ต้นหอม ผักชี หั่นท่อน

วิธีทำ
1. นำหมูสับ กุ้งสด ก้านบรอกโคลี และแครอทลวกให้พอสุก ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ
2. ใส่พริกสด น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย ลงในอ่างผสม คนผสมจนทุกอย่างละลายเข้ากันหมด
3. ใส่กุ้งลวก หมูสับ ก้านบรอกโคลี 
 แครอท คลุกเคล้าให้เข้ากัน
4. ใส่หอมแดง มะเขือเทศ ต้นหอม ผักชี คนทุกอย่างให้เข้ากันชิมรสตามชอบ จัดใส่จานยกเสิรฟ์









หมูอบต้มเค็ม

นกตั้งใจไว้หลายวันแล้วว่าจะทำหมูิอบต้มเค็มทาน เพราะที่บ้านจะมีเมนูอาหารอบทำเป็นประจำทุกๆ วันอาทิตย์ ไม่ว่าจะเป็น หมู หรือไม่ก็ไก่ คนที่นี้นิยมทานกันค่ะ นกคิดว่าน่าจะเป็นเมนูของวันแห่งครอบครัวก็ว่าได้ เพราะเห็นทุกวันอาทิตย์ ทุกๆ บ้าน ส่วนใหญ่เค้าจะทำทาน รวมไปถึงร้านอาหารก็ขายเมนูนี้ด้วยเช่นกันที่นี้จะเรียกเมนูนี้ว่า Roast Dinner หมูอบส่วนที่เหลือนั้นนกเอามาทำเมนู หมูต้มเค็ม ถ้าเพื่อนๆ เห็น หน้าตา ก็จะบอกว่าพะโล้ จริงๆ แล้ว ไม่ใช้พะโล้ แต่คล้าย ๆกับ หมูพะโล้ แต่ต่างกันตรงที่ไม่มีเครื่องพะโล้ รสชาติ ไม่หวาน เหมือนกับพะโล้นะค่ะ หมูต้มเค็มถือว่าเป็นอาหารไทยโบราณก็ว่าได้ค่ะ



ส่วนผสม
หมูอบ ตามชอบ (นกใช้ประมาณ 450 กรัม)
ไข่ต้ม 4 ฟอง
กระเทียม 7-8 กลีบ
พริกไทย 1 ชช
รากผักชี 3-4 ราก
น้ำตาลปี๊บ 1/4 ถ้วย
น้ำปลา 2 ชต
ซีอิ้วขาว 2 ชต
ซีอิ้วหวาน 1 ชช
น้ำมันสำหรับผัด เล็กน้อย

วิธีทำ
1. โขลกกระเทียม พริกไทย รากผักชีให้ละเอียดใส่ถ้วยไว้
2. เปิดไฟในเตาใช้ไฟกลาง ตั้งกระทะบนเตา ใส่น้ำมันลงไป พอเริ่มร้อน นำเครื่องที่โขลกไว้ลงไปผัดให้พอหอม
3. นำเนื้อหมูอบลงไปผัดให้หมูเข้ากันกับเครื่อง เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย จากนั้นใส่ไข่ต้ม ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว ซีอิ้วน้ำปลา น้ำตาลปี๊บผัดให้เข้ากัน เติมน้ำอีกครั้งให้พอกับการเคี่ยวหมู พอน้ำเดือด ชิมรสอีกครั้ง จากนั้นปรับไฟให้อ่อน เคี่ยวไปเรื่อยๆ จนหมูเปื่อยสุกตามต้องการ ยกลงตักใส่ถ้วยเสิรฟพร้อมข้าวสวนร้อนๆ ได้เลยค่ะ

***สำหรับหมู หากเืพื่อน ๆ ไม่มีหมูอบ จะใช้หมูสามชั้น หมูเืนื้อแดง กระดูกหมูอ่อน ซี่โครงหมู หากไม่ชอบหมูจะใช้ไก่ก็ได้เช่นเดียวกัน แต่แต่จะชอบนะค่ะ***

หมูตะไคร้

จริงแล้วเมนูนี้ต้องเป็นเป็นเนื้อวัว แต่นกไม่ทานเนื้อเลยเปลี่ยนเป็นหมูแทน แต่ถ้าเพื่อน ๆ ไม่ทานเนื้อสัตว์ใหญ่ จะเปลี่ยนเป็นเนื้อไก่บดก็ทำได้่อร่อยเช่นเดียวกันค่ะ นกเองก็เคยทำกับเนื้อไก่บดมาแล้วเช่นกัน สูตรเหมือนเดิมเปลี่ยนแค่เนื้อสัตว์เท่านั้นเอง ไว้วันไหนทำอีกจะนำภาพมาให้ชมกันนะค่ะ โดยปกติแล้วนกจะโรยหน้าด้วยตะไคร้หั่นซอย แต่วันนี้ตะไคร้ไม่ค่อยสดเท่าไรเลยไม่มีโรยหน้าให้เห็นนะค่ะ เมนูนี้เหมาะมากๆ สำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบทานตะไค้่ร จะบอกว่าเอาใจคนรักตะไคร้ก็ว่าได้ค่ะ




ส่วนผสม

หมูบด 500 กรัม
ตะไคร้หั่นฝอย ตามชอบ
หอมแดงหั่นซอย 4 หัว
กระเทียมหั่นซอย 10 กลีบ
เปลือกมะกรูด ตามชอบ
ใบมะกรูดหั่นฝอย ตามชอบ (นกไม่มีไม่ได้ใช้)
พริกขี้หนู ตามชอบ
น้ำปลา 1 ชต
ซีอิ๊วขาว 1 ชต
เกลือป่น เล็กน้อย
น้ำตาลทราย 1 ชต
น้ำมันหอย 1 ชต
พริกชี้ฟ้าหั่นตามยาว 1 เม็ด (นกไม่มีใช้พริกสดโรยแทน)
น้ำมันพืชสำหรับผัด

วิธีทำ
1. โขลกตะไคร้ หอมแดง กระเทียม เปลือกมะกรูด พริกขี้หนู ให้ละเอียด แบ่งส่วนกระเทียม หอมแดง และตะไคร้ ไว้สำหรับโรยหน้า
2. ใส่น้ำมันในกระทะ นำกระเทียมหอมแดงลงทอด จนกระทั้งสุขเหลือง ตักน้ำมันออกเหลือให้พอสำหรับผัด นำเครื่องที่โขลกให้หอม ใส่เนื้อหมูสับลงผัด ผัดจนกระทั้งเริ่มสุก
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ๊วขาว เกลือ น้ำตาล น้ำมันหอย ชิมรสตามชอบ
4. ผัดไปจนกระทั้งสุก จึงตักใส่จาน โรยด้วย หอม กระเทียมทอด พริกสด ยกเสริฟได้เลย