ปลาแชลมอนทอดกระเทียม

ส่วนผสม

ปลาแชลมอน  2 ชิ้น

กระเทียมทุบและสับพอหยาบ  4-5 กลีบ

เกลือป่น ¼ ชช

พริกไทยป่น ¼ ชช

น้ำมันสำหรับทอดปลา

วิธีทำ
1. ตั้งกระทะบนเตาใช้ไฟกลางค่อนข้างร้อนใส่น้ำมัน เตรียมไว้
2. เคล้าปลากับเกลือ พริกไทยและกระเทียมให้เข้ากันนำ พอน้ำมันร้อนนำปลาลงไปทอดจนสุกเหลืองกรอบตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จากนั้นลดไฟลงนำกระเทียมลงทอดให้สุกเหลือง จัดปลาใส่จานโรยหน้าด้วยกระเทียมกรอบ เสริฟคู่ข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

แกงเลียงกุ้งแห้ง

ส่วนผสมน้ำพริกแกงเลียง
พริกไทยเม็ด 1 ชช
หอมแดง 6-8 หัว
เกลือ 1/2 ชช
กะปิ 1 ชช

กุ้งแห้ง 1/4 ถ้วย

ส่วนผสมผักแกง
กุ้งแห้ง ตามชอบ
แตงกวาหั่นเป็นชิ้น ๆ 1 ลูก
ฟักทองชิ้น ๆ พอคำ 1/2 ถ้วย

ถั่วฝักยาก หั่นเป็นท่อน ๆ 1/4 ถ้วย
ใบแมงลัก ตามชอบ (ไม่มีไม่ต้องใส่)
พริกขี้หนูสด 7-8 ดอก

วิธทำ
1.โขลกส่วนผสมเครื่องปรุงน้ำแกงให้ละเอียดเข้ากัน
2.เอาหม้อใส่น้ำตั้งบนเตาใช้ไปกลางค่อยข้างแรงต้มน้ำพอเดือนใส่น้ำพริกแกงเลียงลงไป คนให้ละลาย
3.เมื่อน้ำแกงเดือดอีกครั้งจึงใส่ผักให้ใส่ผักที่สุกยากลงไปก่อน แล้วใส่ผักที่สุกง่ายตามลำดับ จากนั้นใส่กุ้งแห้งลงไป ปรุงรสตามชอบ
4.พอเดือดอีกครั้งเสร็จอีกครั้งจึงใส่ใบแมงลัก คนสองสามที่ให้เข้ากัน ปิดไปในเตาตักใส่ชามยกเสริฟ ร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

ปลาทอดกรอบผัดพริกแกง

ส่วนผสม
ปลาแชลมอน หั่นเป็นชิ้น บาง ๆ พอคำ  ตามชอบ (นกใช้ประมาณ 300 กรัม)
น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ชต
น้ำตาลปี๊บ 1 ชต
น้ำปลา 1 ชต
ใบมะกรูดหั่นฝอย
พริกชี้ฟ้าหั่นเฉียง 2 ชต
น้ำมันสำหรับทอด และผัด
น้ำเปล่า


วิธีทำ
1.เอาน้ำมันใส่กระทะตั้งบนเตาใช้ไฟปานกลาง พอน้ำมันร้อน นำปลาลงทอดให้กรอบเหลือง
2.ใช้กระทะใบเดิม เทน้ำมันออก เหลือไว้พอสำหรับผัดเครื่องแกง ใส่เครื่องแกงลงผัดให้พอหอม เติมน้ำเล็กน้อย
3.ใส่น้ำตาล น้ำปลา ผัดให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ จากนั้นนำปลาที่ทอดสุกลงผัดคลุกเค้าให้เข้ากับน้ำพริก ใส่ใบมะกรูด พริกชี้ฟ้า ปิดไฟในเตายกตักใส่จากยกเสริฟ กับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

หมูสามชั้นผัดกะปิสับปะรด

นกไม่แน่นใจว่าจะมีบ้านไหนทำหมูกะปิสับปะรดกินบ้าง แต่สำหรับนกแล้วเมนูนี้รู้จักตั้งแต่จำความได้  ฝีมือแม่อร่อยมากๆ  เวลากลับเมืองไทยมักจะให้แม่ทำให้กินเป็นประจำ วันนี้นึกอยากกิน จริงๆ แล้วนกไม่ค่อยทำเมนูนี้สักเท่าไร นานๆ ถึงจะทำสักที่ คิดว่าปีหนึ่ง ๆ นับครั้งก็ว่าได้ เหตุเพราะเวลาผัดกลิ่นกะปิหอมติดบ้าน ยิ่งทำกินหน้าหนาวปิดหน้าต่าง ยิ่งหอมไปกันใหญ่ ส่วนใหญ่จะทำกินหน้าร้อน นกว่าคนไทยกับกะปิ น้ำปลา ของคู่ครัว อดใจไม่กินไม่ได้ใช้ไม่ค่ะ

ส่วนผสม

หมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้นพอคำ 250 กรัม

สับปะรดหั่นเป็นชิ้น 1 ถ้วย

หอมหัวใหญ่ หั่นชิ้น 1 หัว (หอมหัวไม่ค่อยใหญ่ เลยใช้ทั้งหมด)

พริกชี้หนูสวน 3-4 เม็ด

หอมแดง 2 หัว

กระเทียม 2-3 กลีบ

น้ำตาลปี๊บ 1 ชต

กะปิอย่างดี  1 ชต

น้ำปลา 1 ชช

น้ำมันหอย 1 ชช

ต้นหอมหั่่นเป็นท่อน ๆ 2 ต้น

พริีกชี้ฟ้าหั่นเฉียง  2-3 ดอก

น้ำเปล่าเล็กน้อย

น้ำมันพืชสำหรับผัด

วิธีทำ

1.โขลกพริกขี้หนูสด หอมแดง และกระเทียมพอหยาบ ๆ จากนั้นนำน้ำตาลและกะปิลงโขลกรวมกัน

2.นำกระทะตั้งไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไปพอน้ำมันร้อน นำส่วนผสมของกะปิที่โขลกไว้ลงผัดให้พอหอม

3.ใส่หมูสามชั้นลงผัดให้พอสุกหอม จากนั้นใส่สับปะรดลงผัดต่อ เติมน้ำเปล่า ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย น้ำปลา  ชิมรสตามชอบ รสที่ได้จะเป็นรสเปรี้ยวหวาน ใส่พริกชี้ฟ้า และต้นหอมลงผัดต่อ รอให้เดือดทุกอย่างปรุงสุก ปิดไฟในเตาตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลยค่ะ

Homemade fish & chips

Fish &Chips เมนูยอดนิยมของคนอังกฤษใครๆ กินแล้วก็ติดใจ Fish &Chips กันทั้งนั้นค่ะ สำหรับร้าน Fish & Chips ที่นี้หาง่ายมาก ๆ มีร้าน Fish &Chips เต็มไปหมด เหมือนร้านข้าวเหนียวไก่ทอดบ้านเรานะค่ะ เจ้าไหนอร่อย ไม่อร่อยก็ขึ้นชื่อก็อยุ่ที่ตัวแป้งทอด สำหรับนกแล้ว นกชอบกินแบบแป้งเบาบางกรอบ หลาย ๆ ร้านที่นี้จะทำแบบแป้งหนา เรียกว่าหนักเนื้อแป้งก็เป็นได้ค่ะ ส่วนใหญ่คนอังกฤษนิยม กินปลา Cod กันค่ะ เค้าบอกว่าเป็นปลาที่มีเนื้อเยอะ หรือไม่ก็ปลา Haddock เนื้อปลาไม่เยอะ แต่หวานมีรสชาติกว่า สำหรับนกมักจะทำกินเองที่บ้านเสียส่วนใหญ่ ก่อนจะเขียนสูตร นกขอพูดถึงส่วนผสมที่สำคัญที่เรียกว่า แบตเตอร์ (Batter) เป็นแป้งสำหรับชุปปลาทอด วิธีการคือนำแป้งผสมกับของเหลว ของเหลวที่ว่านี้จะเป็น น้ำเปล่า  น้ำโซดา (sparkling water) หรือว่า เบียร์ beer แล้วแต่จะเลือกสูตร ส่วนใหญ่คนอังกฤษชอบสูตรเบียร์ค่ะ หลายคนพูดว่าแป้งจะกรอบอร่อยกว่าสูตรอื่น ๆ  สำหรับนกแล้วใช้สูตร น้ำโซดา หรือเบียร์ ขึ้นอยู่กับปลาที่ทอดนะค่ะ สำหรับวันนี้นกใช้สูตรเบียร์ทำแป้งทอด

ส่วนผสม

ปลาสำหรับทอดแล้วแต่ชอบ 2-3 ชิ้น (นกใช้ปลา Sea bass บ้านเราน่าจะเป็น ปลากระพงนะค่ะ)

แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย

แป้งข้าวโพด ¼ ถ้วย

เบียร์ หรือ น้ำโซดา 1 ขวด (นกใช้ผสมพอให้แป้งเหลวชุปทอดได้) 

แป้งสาลีอเนกประสงค์ สำหรับคลุกปลา 1 ถ้วย

เกลือและพริกไทยป่น สำหรับโรยปลาเล็กน้อย

น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ

1.  ผสมตัวแป้งทอด โดยนำแป้งสาลีและแป้งข้าวโพดผสมลงในอ่างผสมคนด้วยตระกร้อมือให้เข้ากัน จากนั้นเทเบียร์ลงไปทีละน้อยระหว่างนั้นให้ใช้ตะกร้อมือคนไป เรื่อยๆ จนส่วนผสมเข้ากันหมด 

2. โรยเกลือและ พริกไทยลงบนตัวปลา คลุกเนื้อปลากับแป้งสาลีให้ทั่ว จากนั้นนำไปชุบกับแป้งทอดให้ทั่วตัวปลา แล้วจึงนำลงทอดในน้ำมันร้อนจัดทอดจนสุกเป็นสีเหลืองทองทั้งสองด้าน ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน  จัดปลาใส่จานตักถั่วลันเตาบดวางด้านข้างพร้อมมันฝรั่งทอดและเลมอน ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่ พร้อมเสริฟได้เลยค่ะ

***สำหรับถั่วลันเตาบด นกลงสูตรไว้แล้ว เพื่อน ๆ สนใจดูได้จากลิงค์นะค่ะ***

http://pinkroselove-nd.blogspot.co.uk/2016/10/homemade-mushy-peas.html

แกงส้มหมูอบผักรวม

นกโขลกเครื่องแกงส้มเก็บแช่แข็งไว้เยอะเลยค่ะ ใจจริงแล้วอยากโขลกเวลาจะแกงเพราะจะได้เครื่องแกงที่สดหอม แต่ด้วยความที่หน้าร้อนนี้ปลูกพริกไว้เยอะทั้งที่บ้านตัวเอง แถมยังที่พ่อแฟนคลับปลูกให้อีก  แบ่งให้เพื่อน ๆบางส่วน ทำโน่นนี้แล้ว ก็ยังเหลือเก็บอีกเยอะเลยละค่ะ นกไม่อยากจะเก็บพริกสดเอาไว้นาน ๆ การเอามาทำเป็นเครื่องแกงจึงเป็นวิธีกาที่ดีที่สุด เก็บแช่แข็งได้นานเป็นเดือนเลยละค่ะ

ส่วนผสม

หมูอบหั่้นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย

หัวไชเท้าหั่นเป็นชิ้น ๆ  ½  ถ้วย (นกใช้หัว Radish กินเหมือนหัวไชท้าสีขาว ๆ ของบ้านเรานะค่ะ )

แครอทหั่นเป็นชิ้น ๆ   1 หัว

ผักกาดขาวหั่นเป็นชิ้น ๆ  4-5 ใบ

ถั่วฝักยาวหั่นเป็นชิ้น ๆ  4 ฝัก

พริกแกงส้ม 2 ชต.

น้ำมะขามเปียก และน้ำส้มสายชู ร่วมกันประมาณ 4 ชต.

น้ำตาลปี๊บ 2 ชต.

น้ำปลา 2 ชต.

เกลือ ½ ชช.

น้ำเปล่า ประมาณ ½ หม้อแกง

วิธีทำ

1. ใส่น้ำลงในหม้อแกง นำขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟกลางค่อนข้างแรง ต้มให้น้ำเดือด เติมพริกแกงส้มลงไป คนให้ละลาย

2.ใส่หมูอบ และผักที่ค่อนข้างแข็งลงต้มก่อน ปิดฝาไว้ประมาณ 5 นาที ให้ผักพอเริ่มนิ่ม จากนั้นปรุงรสด้วยเกลือ, น้ำปลา, น้ำมะขามเปียก ,น้ำส้มสายชู และ น้ำตาลปี๊บ แล้วคนให้น้ำตาลปี๊บละลายเข้ากัน
3.ใส่ถั่วฝักยาว รอให้ถั่วฝักยาวเริ่มสุกเล็กน้อย แล้วค่อใส่ผักกาดขาวลงไปคนให้เข้ากัน ชมรสตามชอบ จากนั้นปิดไฟในเตาได้เลย ปิดฝาครอบอบไว้ ประมาณ 10 นาทีให้ผักกาดขาวนิ่ม เป็นอันเสร็จ ตักใส่ถ้วยยกเสริฟได้เลยค่ะ

ปลาแชลมอนราดผัดขิง

เมนูนี้ทำไว้หลายวันแล้วละค่ะ แต่ไม่ได้ลงสูตรวันนี้มีเวลาเลยนำสูตรมาให้เพื่อนๆ ได้ชิมกัน หลายๆ คน ชอบกินปลาแชลมอน แต่นึกไม่ออกว่าจะทำอะไรดี นกหวังว่าเมนูนี้จะเป็นทางเลือกอีกทางสำหรับเพื่อน ๆ ชาวครัวทุก ๆคนนะค่ะ

ส่วนผสม

ปลาแชลมอนหั่นชิ้นพอคำ ทอดจนสุก  (นกใช้ประมาณ 300 กรัม)

แกระเทียมสับ 3-4 กลีบ 

พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง 3-4 ดอก

ขิงหั่นซอยเป็นเส้น ๆ  1  ถ้วย

น้ำปลา  1 ชต

ซิอิ๊วขาว 1 ชต

ซ๊อสหอยนางรม 2 ชต

น้ำตาล 1 ชต

หอมใหญ่หั่น 1/2 หัว

ต้นหอมหั่น 2 ต้น

ผักชีหั่น 3-4 ต้น 

น้ำเปล่า เล็กน้อย

น้ำมันพืชสำหรับผัด

วิธีทำ

1. ใส่น้ำมันในกระทะ และนำไปตั้งไฟ ใส่กระเทียมลงไปผัดจนเหลืองหอม

2. นำขิงซอย และหอมใหญ่ลงไปผัด จากนั้นใส่เครื่องปรุงรสต่าง ๆ เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย ผัดต่อจนส่วนผสมในกระทะเริ่มเดือด ชิมรสตามชอบ

3. ใส่พริกชี้ฟ้า ต้นหอม และผัดชี ผัดให้เข้ากัน จากนั้นตักขึ้นราดบนปลาแชลมอนทอดสุก ยกเสริฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ได้เลยค่ะ

homemade-mushy-peas

ส่วนผสม
ถั่วลันเตาแช่แข็ง 500 กรัม (ใช้แบบสดถ้ามี)
เนยแข็ง 25 กรัม (นกใช้แบบเค็ม)
สะระแหน่ เด็ดเป็นใบ ๆ 1 กำมือ  (หั่นให้พอหยาบ ๆ )
พริกไทยป่น เกลือป่น หยิบมือ


วิธีทำ
นำถั่วลันเตาไปต้ม หรือจะนึ่งแล้วแต่ชอบ  จนสุกได้ที่ จากนั้น ใส่เนย และใบสะระแหน่ลงไป ใช้ที่บดมันฝรั่ง บดให้พอหยาบ ๆ เติมพริกไทยป่น เกลือป่น ชิมรสตามชอบ เสริฟคู่กับ ปลาทอด มันฝรั่งทอดได้เลย (fish and chips)

แกงส้มหัวปลาแซลมอน แกงส้มปักษ์ใต้

นกชอบซื้อปลาแซลมอนทั้งตัว เวลาซื้อต้องบอกว่าเราจะเอาหัวปลาแซลมอนด้วย ไม่นั้น คนขายปลาก็ทิ้งหัวปลาไป ส่งแต่เนื้อปลาให้เรา คนที่นี้ไม่กินหัวปลาอย่างบ้านเราค่ะ ส่วนใหญ่ถ้าเค้าต้องการจริง ๆ  ก็จะนำไปต้มเอาน้ำซุป สำหรับคนไทยแล้ว หัวปลาทำอะไรได้หลาย อย่าง แถมอร่อยเสียวด้วย วันนี้นกทำแแกงส้มอาหารของคนใต้ รสชาติ เผ็ด เปรี้ยว เค็ม ยิ่งอากาศเย็น ๆ กินกับข้าวสวยร้อน ๆ อร่อยอยากบอกใครเลยละค่ะ นกแกงกับสับปะรด ผลไม้หาซื้อง่ายไม่ว่าจะเป็นฤดูไหนฤดูไหนในห้างมีทุกฤดูกาล หากอยู่เมืองไทย แกงส้มมื้อนี้คงจะต้องแกงกับหน่อไม้ดองเป็นแน่นแท้ (ของชอบ) สำหรับสูตร นกเอาง่ายๆ เข้าไว้นะค่ะ เอาสายตาประมาณเอานะค่ะ

ส่วนผสม
หัวปลา หั่นชิ้น 1 หัว

น้ำพริกแกงส้ม   ตามชอบ (วันนี้นกตำไม่ค่อยละเอียดสักเท่าไร ทำกินเอง เอาง่าย ๆเข้าไว้)

กะปิ อย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลปี๊บ ตามชอบ

น้ำเปล่า สำหรับทำน้ำแกง

สับปะรด 1/2 หัว

น้ำมะนาว ตามชอบ

น้ำปลา  1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1.เปิดไฟในเตาใช้ไฟแรง เอาน้ำใส่ในหม้อแกง ยกขึ้นตั้งบนเตาต้มให้น้ำเดือด

2.ใส่พริกแกงคนให้ละลาย ปรุงรสต่างๆตามต้องการ

3. ใส่หัวปลาลงไปต้มให้สุก ห้ามคนจะทำให้คาวพอปลาสุกดีแล้ว ใส่สับปะรดลงไปต้มให้สุก จากนั้นชิมรสตามชอบถ้าได้ต้องการแล้วปิดไฟในเตาตักเสิร์ฟได้เลยค่ะ

เต้าหู้ไข่ทรงเครื่อง

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ชาวครัวทุกๆคน ช่วงนี้ที่บ้านนกอุณหภูมิลดลงเรื่อย ๆ  อีกไม่นานก็หนาวกันอีกแล้วละค่ะ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาห้างสรรพสินค้าแถวบ้าน เค้ากำลังลดราคาน้ำเต้าหู้กล่อง ถูกมากเลยซื้อมา 2 กล่อง เอาไว้ทำเต้าหู้ไข่ และเต้าหู้แข็ง  สำหรับนกแล้ว จะกินเต้าหู้แต่ละครั้งจะต้องทำเอง หาซื้อกินค่อนข้างยาก อีกอย่างนกกินคนเดียว แฟนคลับเค้าไม่ชอบเต้าหู้  ทำให้นาน ๆ จะทำกินสักครั้ง จริง ๆ นี้เมนูนี้นกทำกินอยู่บ่อยครั้งเวลาทำเต้าหู้ไข่กิน แต่ไม่เคยลงสูตรในครัววันนี้มีเวลาจัดการอัพเดทเสียก่อนที่จะลืมอีก

ส่วนผสม

เต้าหู้ไข่ไก่  3 ก้อน

หมูสับ 150 กรัม
เห็ดหอมไม่มีนกใช้เป็นเห็ดขาวสดแทน หั่นเป็นเส้น 3 – 4 ดอก
ต้นหอมซอย 2 ต้น
กระเทียมสับหยาบ 3 กลีบ
แครอท หั่นลูกเต๋าเล็ก ๆ  ประมาณ  1 หัว น้ำมันหอย 2 ชค ซีอิ๊วขาว 2 ชต น้ำตาลทรายประมาณ 1 ชต พริกไทยป่นเล็กน้อย ตามชอบ
น้ำเปล่่า ½ – 1 ถ้วยตวง แป้งข้าวโพด  1 ชต ผสมน้ำนิดหน่อย  (ไม่มีใช้แป้งมันแทนค่ะ)
แป้งข้าวโพดสำหรับคลุกเต้าหู้ไข่สำหรับทอด  2 – 3 ช้อนโต๊ะ (ไม่มีใช้แป้งมันแทนค่ะ)

น้ำมันพืช ใช้สำหรับทอดเต้าหู้ไข่

วิธีทํา

1. นำเต้าหู้ไข่ไก่มาหั่นเป็นชิ้นๆ พอคำ  ใช้กระดาษหรือผ้าสะอาดซับน้ำให้พอหมาดๆ

2. นำเต้าหู้ไข่ไก่ที่หั่นแล้วไปคลุกเคล้ากับแป้งข้าวโพด พอให้แป้งฉาบผิวบางๆ

3. ตั้งกระทะไฟกลางใส่น้ำมันพืชลงไปพอประมาณสำหรับทอด รอให้น้ำมันร้อน จากนั้นใส่เต้าหู้ไข่ตามลงไปทอดให้สีเหลืองสวย ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน (เวลาทอดไม่ควรกลับข้างเต้าหู้รอจนกว่าจะเหลืองแล้วค่อยกลับข้าง ไม่อย่างนั้นเต้าหู้จะแตกได้ค่ะ)

4. เทน้ำมันที่ทอดเต้าหู้ออกให้ปริมาณเหลือพอใช้สำหรับผัด นำกระเทียมสับลงเจียวให้พอหอมเหลือง จากนั้นใส่หมูสับ เห็ด และแครรอท ลงไปผัดให้หอม

5. เติมน้ำสะอาดลงไปประมาณ ½ – 1 ถ้วยตวง เร่งไฟในเตา รอให้เดือด ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ จากนั้นลดไฟอ่อน ค่อยๆเทแป้งข้าวโพดที่ผสมน้ำนิดหน่อยลงไปทีละน้อย ระหว่างเทใช้ตะหลิวคนให้ทั่ว จนได้น้ำราดเข้มข้นตามชอบ รอให้เดือกครั้ง ก็ปิดไฟในเตา

6.นำน้ำราดที่ได้ ราดบนเต้าหู้ไข่ที่ทอดไว้แล้ว โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยและพริกไทยป่นเล็กน้อย ยเกเสริฟได้เลยค่ะ

เต้าหู้ไข่นกทำกินเอง ไม่ได้ซื้อ สูตรตามลิงค์นี้เลยค่ะ http://pinkroselove-nd.blogspot.co.uk/2008/04/blog-post.html

ขนมปังแซนด์วิชไส้ปูอัดแตงกวา

นกจะไปในเมืองเลยทำขนมปังแซนด์วิชใส่กล่องไปกินเวลาหิว วันนี้อากาศค่อนข้างดีมีที่นั่งไว้ให้หากรู้สึกเหนื่อย ส่วนใหญ่แล้วนกจะขึ้นรถประจำทางไปเที่ยวในเมืองเดือนละ2ครั้ง และเลือกไปวันที่มีตลาดนัด ซึ่งจะมีร้านขายผัดผลไม้ที่ขายของนำเข้าจะเอเชียหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยด้วย นกจะซื้อใบกระเพา โหระพา ข่า กระชาย พริกไทยอ่อนเก็บไว้ติดตู้แช่เย็นตลอดเพราะค่อยข้างหาซื้อยาก บางครั้งที่ร้านเองก็ไม่มี ไปแล้วก็ไม่ได้ของที่ต้องการ นี้ถ้าอยู่เมืองไทยเครื่องปรุงเหล่านี้หาซื้อไม่ยากแถมสด ๆ ใหม่ ๆ 

ส่วนผสม

ปูอัดฉีกเป็นเส้น ๆ 6  แท่ง (นกลวกน้ำร้อน พักไว้ให้เย็นแล้วค่อยนำมาฉีก)

แตงกวาหั่นชิ้นบาง ๆ ตามชอบ

Seafood Mayonnaise ตามชอบ

ขนมปัง

วิธีทำ

1. ผสมปูอัด และ Seafood Mayonnaiseข้าด้วยกัน คนผสมให้เข้ากัน

2. นำส่วนผสมไส้ปูอัดทาลงบนขนมปัง แตงกวา ประกบด้วยขนมปังอีกหนึ่งแผ่น หั่นเป็นชิ้น ๆ ขนาดตามชอบ เสริฟคู่กับสลัดผัดและมันฝรั่งทอดกรอบได้เลยค่ะ

***สำหรับ Seafood Mayonnaise นั้นทำง่ายนิดเดียวค่ะ แค่นำ mayonnaise ผสมกับซอสมะเขือเทศ  (tomato ketchup) น้ำมะนาว เพิ่มรสด้วยTabasco และWorcestershire sauce ถ้าเพื่อน ๆ มีติดครัว ชิมรสตามชอบเท่านี้ก็ได้แล้วค่ะ***

บัวลอยกล้วยหอม

ช่วงนี้ที่บ้านซื้อกล้วยหอม กินเกือบทุกอาทิตย์เลยก็ว่าได้ บางครั้งกล้วยหอมสุกเกินไป เลยต้องแบ่งๆ ออกไปทำเมนูอื่น ๆ เสียบ้าง สำหรับนกชอบเอามาทำเป็นบัวลอยกล้วยหอม หรือไม่ก็เค้กกล้วยหอมให้แฟนคลับไปแบ่งเพื่อน ๆ กินที่ทำงานตอนช่วงพัก คนที่นี้ชอบดืมชา กาแฟ และมักจะมีขนมคู่กับชาและกาแฟเสมอ วันนี้นกลงสูตรบัวลอยกล้วยหอมไว้ก่อน ไว้ทำเค้ากล้วยหอมเมื่อไรจะเอาสูตรมาลงให้นะค่ะ

ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย

แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ

กล้วยหอมบดพอละเอียด 1 ลูก
น้ำเปล่า สำหรับผสมแป้ง  (นกกะเอาให้พอปั้นได้)
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
กะทิ 2 ถ้วย (นกใช้กะทิกระป๋อง ไม่ได้แยกหัวกะทิ หางกะทิ)  
เกลือป่น เล็กน้อย
สีผสมแป้งตามใจชอบ
ใบเตย (ถ้ามี นกไม่มีเลยไม่ได้ใช้)


วิธีทำ

1.ผสมแป้งข้าวเหนียวกับแป้งมันเข้าด้วยกัน จากนั้นนำกล้วยหอมบดลงไปนวดให้เข้ากันค่อยๆเติมน้ำ และสีตามใจชอบ นวดจนแป้งเหนียว

และเนียนจนปั้นได้ (หลายคนพูดว่า ยิ่งนวดนานแป้งบัวลอยก็จะเหนียวนุ่มนกเลยทำตามเค้าบอก)
2.นำแป้งที่ได้มาเป็นก้อนกลมๆ ขนาดเล็กใหญ่ตามใจชอบ แล้วคลุมด้วยผ้าขาวบางเอาไว้กันแป้งบัวลอยแห้ง
3.ผสมน้ำตาลทรายกับกะทิ เกลือป่น นำไปตั้งไฟต้มให้เดือดแตกมัน ใส่ใบเตยลงไปเพิ่มความหอม(ถ้ามี) จากนั้นตักใบเตยออก ชิมรสตามชอบ(ความหวานนั้น แล้วแต่จะชอบหวานมาก หวานน้อย เพิ่มลดได้ตามใจชอบนะค่ะ) นำลงจากเตาพักไว้
4.เอาน้ำเปล่าใส่หม้อตั้งไฟให้พอเดือด ใส่แป้งบัวลอยที่ปั้นไว้ลงต้มจนสุก สังเกตุดูถ้าแป้งสุกจะลอยขึ้นมา ตักเม็ดบัวลอยขึ้นมาแล้วนำไปล้างในน้ำเย็น
ก่อน1 ครั้ง จากนั้น ตักใส่น้ำกะทิที่ต้มไว้ จากนั้นยกหม้อขึ้นตั้่งไฟ ใช้ไฟอ่อนคนเป็นระยะ ๆ ต้มให้เดือดเข้ากันอีกครั้ง จากนั้นปิดไฟในเตาได้เลย

ปลาแซลมอนราดเต้าเจี้ยวขิง

ทุก ๆ วันศุกร์ที่ห้างฯ มีโปรลดราคาปลาทุกชนิด นกไม่รู้หรอก แต่บังเอิญไปเจอะคนเพื่อนทีทำงานที่นั้น คุยทักทายกันไปเรื่อย ๆ นกบอกว่าจะมาซื้อปลา เพื่อนเลยบอกให้มาซื้อวันศุกร์จะได้ราคาดีกว่าเพราะเค้าลดราคาถึงครึ่งหนึ่งเลย หลังจากที่ตั้งใจจะซื้อปลาวันนี้เลยเปลี่ยนใจซื้ออย่างอื่นแทน พอถึงวันศุกร์นกมาอีกรอบได้ปลาแซลมอน 2  ตัวใหญ่ ให้เจ้าหน้าที่จัดการหั่นชิ้นปลา เราไม่ต้องมาทำเองที่บ้าน พอถึงบ้านทำความสะอาดจัดเก็บใส่ถุงแช่แข็ง แบ่งออกมาส่วนหนึ่งทำปลาราดเต้าเจี้ยวเพิ่มพริกขิงให้เผ็ดร้อน ๆ แก้หนาวอีกหน่อย

ส่วนผสม

ปลาแซลมอน 2 ชิ้น

กระเทียม 4-5 กลีบ

หอมใหญ่หั่น 1 หัว

ขิง 1 แง่ง

พริกสด 3-4 เม็ด

เต้าเจี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย  ตามชอบ

ซีอิ๊วดำหวาน เล็กน้อย

น้ำมันหอย   1 ช้อนโต๊ะ

เกลือป่น เล็กน้อย

ผักชีหั่นซอย ตามชอบ

น้ำมันสำหรับทอดและผัด

วิธีทำ 

1.ล้างปลาให้สะอาดพักให้สะเด็ดน้ำ โรยเกลือป่นเล็กน้อย นำกระเทียมมาสับพอหยาบ หั่นซอยหอมใหญ่ ขิง ผักชี

2.ใส่น้ำมันสำหรับทอดปลาในกระทะ พอน้ำมันร้อนใส่ปลาลงทอดให้สุกเหลืองกรอบตักขึ้นพักไว้

3.ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันเล็กน้อยสำหรับผัด รอให้น้ำมันร้อนใส่กระเทียมลงเจียวพอหอม ใส่หอมใหญ่ลงไปผัดให้เข้ากัน

4.ใส่ขิงลงไปผัดต่อให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเต้าเจี้ยว น้ำมันหอย ซีอิ๊วหวาน น้ำตาลทรายและน้ำเปล่าเล็กน้อยรอให้สุกชิมรสตามชอบ เคี่ยวจนน้ำผัดข้นหนืดนิด ๆ

5.ใส่ผักชีหั่นใส่ลงไปคนเร็ว ๆ อีกครั้ง ตักราดบนชิ้นปลายกเสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลย

ขนมจีนน้ำยาปู

นกทำขนมจีนน้ำยาปูแบบเร่งด่วนหลังจากกลับจากตลาดได้เนื้อปูแกะเรียบร้อยจากคนขายปลา จัดการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ไว้ทำข้าวผัดปูส่วนหนึ่ง อีกส่วนก็เอามาทำน้ำยาปู   ส่วนใหญ่ปูที่นี้เค้าจะจัดการแกะให้เราเรียบร้อยแล้ว หากอยู่เมืองไทย แม่จะแกงแบบใส่ปูม้าหั่นเป็นชิ้น ๆ  เรียกว่าได้กันเป็นตัว ๆ เวลากินขนมจีนจะได้รสชาติของการแกะเนื้อปูไปด้วย ยิ่งหน้ากระท้อนแม่จะทำแกงปูใส่เนื้อกระท้อน กินกับขนมจีน อร่อยสุด ๆ ไปเลยค่ะ

ส่วนผสม
เนื้อปู แกะ 350  กรัม 

น้ำพริกแกงเผ็ด  1 ช้อนโต๊ะ

กะทิ  1 กระป๋อง ( นกแยกหัวกะทิ หางกะทิ ออกจากกัน)

น้ำมะขามเปียก เล็กน้อย (นกไม่มีส้มแขก ใช้น้ำมะขามเปียกแทน)

น้ำตาลทราย ตามชอบ

น้ำปลา  ตามชอบ

ใบมะกรูดฉีก ตามชอบ

ขนมจีน/ ผักเครื่องเคียง/ ไข่ต้ม  สำหรับเสริฟ

วิธีทำ

1. ตั้งหม้อแกงบนเตา ใส่หางกะทิ  เปิดไฟในเตามใช้ไฟกลาง ต้มกะทิให้เดือด ใส่น้ำพริกแกงเผ็ด หมั่นคนจนเดือดทั่ว เคี่ยวต่อสักครู่

ใส่เนื้อปูแกะ ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลทราย
2. เติมส่วนหัวกะทิทีละน้อยจนหมด  คอยหมั่นคนเป็นระยะ ๆ ใส่ใบมะกรูด น้ำมะขามเปียก ชิมรสตามชอบ พอเดือดอีกรอบ เปิดไฟในเตาได้เลย
3. จัดขนมจีนใส่จานตักน้ำยาราด เสริฟพร้อมกับผักเครื่องเคียงได้เลย

ยำไก่ฉีก

ส่วนใหญ่ที่บ้านจะทำไก่อบเป็นประจำ ทุกครั้งจะใช้ไก่ขนาดกลางอบ  หลังจากกินไปส่วนหนึ่งแล้วยังมีเนื้อไก่เหลือ แฟนคลับก็จะทำแซนวิชไปกินที่ทำงาน หากเนื้อไก่ยังเหลืออยู่อีก นกมักจะเอามาทำเมนูโน่นนี้ในมื้อถัดไป แล้วแต่ว่าเนื้อไก่จะเหลืออยู่เท่าไร บางครั้งเหลือนิดหน่อยนกก็เอาไปใส่ในข้าวต้ม แต่วันนี้เหลือพอที่จะทำยำได้สักหนึ่งจาน หากเพื่อนๆ ไม่มีเนื้อไก่อบ ใช้เนื้อไก่ต้มก็ได้ค่ะ เลือกส่วนเนื้อที่ชอบนำไปต้มให้สุกแล้วนำมาฉีกเป็นเส้น ๆ ขนาดตามชอบ แล้วเอามายำ

ส่วนผสม
เนื้อไก่อบ ตามชอบ  (เนื้อน่องติดสะโพกและเนื้อหน้าอกรวมกัน ประมาณ 180 กรัม)
หอมแดงซอย 3 หัว
ตะไคร้ซอย  2 ต้น
พริกสดซอย  ตามชอบ
ใบสะระแหน่  1 กำมือ
น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
พริกป่น  เล็กน้อย
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วขาว  เล็กน้อย
น้ำมะนาว  ตามชอบ
น้ำตาลทราย  เล็กน้อย

วิธีทำ
1. เนื้อไก่อบเหลือจากมื้อก่อนนำมาฉีกเป็นชิ้นๆ ขนาดตามชอบ
2. เตรียมน้ำยำ ใส่น้ำพริกเผา น้ำปลา ซีอิ้วขาว น้ำมะนาว น้ำตาล และพริกป่น คนให้เข้ากันแล้วชิมรสชาติตามชอบ
3. ราดน้ำยำลงบนเนื้อไก่ จากนั้นใส่หอมแดง พริกสด ตะไคร้ ใบสะระแหน่ คนให้เข้ากันจัดใส่จานยกเสิร์ฟคู่กับผักเครื่องเครียงตามชอบ

หมูผัดถั่วลันเตา (Mangetout)

ส่วนผสม
เนื้อหมูหั่นชิ้นพอคำ  ตามชอบ (นกใช้ประมาณ 120 กรัม)
ถั่วลันเตา 2 กำมือ
กระเทียมทุบสับหยาบๆ 2 กลีบ
ซีอิ้วขาว 1-2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย เล็กน้อย
น้ำมันงา เล็กน้อย
น้ำมันพืชสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพืชในกระทะตั้งไฟให้พอร้อนใส่กระเทียมลงผัดให้พอหอม จากนั้นใส่หมูลงผัดต่อ
2. พอหมูเริ่มสุใส่ถั่วลันเตาลงไปผัด ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย น้ำมันงาน และน้ำเปล่าเล็กน้อย ผัดเร็วๆ ประมาณ 1-2 นาที ให้ถั่วลันเตาสุก ตักใส่จานยกเสริฟได้เลยค่ะ

ผัดเผ็ดหมูกับถั่วฝักยาว

ส่วนผสม

เนื้อหมูสันพอคำ  250  กรัม

ถั่วฝักยาวหั่นท่อน 8 ฝัก

พริกแกงเผ็ด 1 1/ 2 ช้อนโต๊ะ

กะปิ 1 ช้อนชา

น้ำตาลทราย ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับผัด
ใบมะกรูดหั่นซอย 1 ใบ
ใบโหระพาเด็ดใบ ตามชอบ
พริกชี้ฟ้าหั่นเฉียง ตามชอบ

วิธีทำ
1. ใส่น้ำมันในกระทะ ยกขึ้นตั้งบนเตาใช้ไฟปานกลาง พอน้ำมันร้อน ใส่พริกแกงลงผัดให้พอหอม
2. ใส่เนื้อหมูลงไปผัดพอเริ่มสุก ใส่ถั่วฝักยาว ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำเปล่าเล็กน้อย ชิมรสตามชอบ ผัดให้เข้ากัน
3. ใส่ใบมะกรูด ใบโหระพา และพริกชี้ฟ้า ปิดไฟในเตาตักใส่จานยกเสริฟได้เลยค่ะ

เกี๊ยวกุ้งต้มยำ

ช่วงนี้นกไม่ค่อยได้เขียนสูตรสักเท่าไร จริงๆ แล้วเข้าครัวทำอาหารเกือบทุกวัน แต่เป็นเมนูอาหารที่มีสูตรอยู่แล้วในครัว ด้วยความที่เครื่องปรุงอาหารไทย หมด ยังไม่ได้ไปซื้อเลยไม่มีเมนูใหม่มาให้เพื่อนชาวครัวได้ชิมกัน จะบอกว่าจริงๆ แล้วถึงเวลาที่จะไปซื้อเครื่องปรุงอาหารไทยกันแล้วละค่ะ แต่แฟนคลับไม่มีเวลาว่างให้เลย ต้องคอยกันต่อไป  วันนี้นกทำเกี้ยวกุ้งต้มยำทำอยู่หลายรอบ ไม่เคยเขียนสูตรเลยเอาเสียหน่อย ว่าแล้วไปดูส่วนผสมกันเลยค่ะ 

ส่วนผสม
เนื้อกุ้งแกะ 250 กรัม
หมูบดละเอียด 300 กรัม
ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น ตามชอบ
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมซอย 2-3 ต้น
น้ำมะนาว 2 ลูก
น้ำตาลทราย เล็กน้อย
พริกแห้งป่น ตามชอบ
เครื่องปรุงต้มยำสำเร็จรูป

น้ำซุปกระดูกหมูสำหรับทำน้ำต้มยำ


วิธีทำ
1. หมักเนื้อกุ้งกับแป้งมันพักไว้ 1 ชั่วโมง จากนั้นนำมาล้างด้วยการปล่อยน้ำไหลผ่าน ซับกุ้งให้แห้ง แล้วนำไปบดพร้อมกับหมูสามชั้น พริกไทยป่น เกลือป่น น้ำมันงาและต้นหอมซอยจนเนียนเหนียว
2. นำไปห่อด้วยเกี๊ยวให้สวยงาม ก่อนรับประทานนำไปลวกให้สุก

3.ตั้งหม้อน้ำซุป ใส่เครื่องปรุงต้มยำสำเร็จรูป ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย พริกแห้งป่น ชิมรสตามชอบ

4.ใส่ผักกาดแก้วลงในถ้วยตามด้วยเกี๊ยวลวกสุก ใส่น้ำต้มยำ  น้ำมะนาว โรยด้วยต้นหอมผักชี ยกเสิร์ฟ

***แผ่นเกี้ยว นกทำเอง หากเพื่อน ๆ สนใจสูตร แวะอ่านได้ตามลิงค์นี้ได้เลยนะค่ะ  http://nd-thaifood8.blogspot.co.uk/2010/12/blog-post_9799.html ***

 

หมูหวาน

คนส่วนใหญ่เรามักจะเห็นหมูหวานเคียงกับข้าวคลุกกะปิเสียส่วนใหญ่ สำหรับนก จะผัดหมูหวานกินคู่กับน้ำพริกเสียส่วนใหญ่ อย่างวันนี้หมูหวาน น้ำพริกหนุ่มเข้ากันได้ดีเลยค่ะ จริงแล้วหมูหวานเอามาราดข้าวอย่างเดียวก็อร่อย ยิ่งครอบครัวไหนมีเด็ก ๆ แล้วละก็ เมนูนี้ก็น่าจะเป็นเมนูโปรดสำหรับเด็กๆ ก็ว่าได้ค่ะ

ส่วนผสม 
หมูติดมัน 350 กรัม 
หอมหัวแดงหั่นซอย 4 หัว 
น้ำมันพืชสำหรับผัด 1 ชต 
ซีอิ๊วขาว 1 ชต 
น้ำตาลทรายแดง 2-3  ชต 
ซีอิ๊วดำ ตามชอบ (นกกะใส่เอานะค่ะ)
 น้ำเปล่าประมาณ 1/4 ถ้วยตวง 

 วิธีทำ 
1.ล้างหมูหั่นเป็นชิ้นขนาดพอคำ 
2. เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง เอาใส่น้ำมันในกระทะ นำหัวหอมลงผัดในกระทะให้พอเหลืองสุกตักใส่จานพักไว้ก่อน
3. กระทะใบเดิมใส่หมูผัด ผัดจนกระทั้งหมูเริ่มสุก จากนั้นใส่ซีอิ๊วขาว  ซีอิ๊วดำ น้ำเปล่า และน้ำตาล เคี่ยวไฟอ่อน จนกระทั้งน้ำน้ำข้นเล็กน้อย ชิมรสตามชอบ 
4. พอหมูสุกนุ่ม ปิดไฟในเตาตักใส่จานยกเสริฟได้เลยค่ะ 

ขนมข้าวตู

อากาศช่วงนี้เริ่มหนาวขึ้นทุกวันแล้วค่ะ แถมบางเมืองมีฝนตกหนักน้ำท่วมอีกต่างหาก นกโชคดีที่ๆ อยู่ไม่มีผลกระทบเรื่องน้ำท่วม ถึงแม้จะมีฝนตกอยู่บ้าง ตอนนี้คุยกับใคร ๆ เรื่องที่พูดก็จะไม่พ้นเรื่องน้ำท่วม เห็นจากข่าวแล้วน่าเห็นใจค่ะ พูดเรื่องหนักๆ กลับมาเรื่องครัว ๆ ของเราดีกว่าค่ะ ขนมข้าวตูเป็นขนมโบราณของไทยทำจากข้าวสวยตากแห้งเอามาคั่ว นกเห็นหลายๆ สูตรที่ทำจะมีส่วนผสมของน้ำกะทิ สูตรของนกไม่ได้ใช้ค่ะ ข้าวตูถือว่าเป็นขนมที่หากินได้ยากในปัจจุบัน ซึ่งจริง ๆ แล้ววิธีการทำไม่ยากอย่างที่คิดเลย ที่บ้านเวลาทำกลับข้าวหุงข้าวกินหากมีเหลือก็จะเก็บใส่กล่องแช่ตู้เย็นไว้ นกเก็บไว้เยอะพอควร ก็เอาออกมาตากใช้ทำข้าวคั่วทำขนมข้าวตูกินค่ะ

ส่วนผสม 
ข้าวสุกตากแห้ง 250 กรัม
น้ำตาลปึก/น้ำตาลมะพร้าว 250 กรัม
มะพร้าวทึนทึกขูดละเอียด 250 กรัม
น้ำลอยดอกไม้ 1/2 ถ้วย
เืทียนอบ

วิธีทำ 
1.น้ำข้าวสุกตากแห้งมาคั่วให้เหลืองกรอบแล้วนำไปป่นให้ละเอียดดีพักไว้ (นกใช้เครื่องปั่นประหยัดเวลากว่านำมาโขลกให้ละเอียด)
2.เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง ผสมน้ำตาลกับน้ำลอยดอกไม้ในกระทะตั้งไฟให้น้ำตาลละลาย เคี่ยวให้น้ำตาลเหนียว 
3.ใส่มะพร้าวขูดลงกวนกับน้ำตาลที่เคี่ยวไว้ ยกลงจากเตาพักไว้ให้เย็น 
4.ใส่ข้าวคั่วที่ป่นละเอียดแล้วลงคลุกกับน้ำตาลที่เคี่ยวไว้ คลุกเคล้าให้เข้ากันจนทั่ว 
5.นำข้าวตูมาอัดใส่ในพิมพ์ แล้วเคาะออก จากนั้นใส่ขวดโหลหรือภาชนะอบควันเทียน อบประมาณ 1/2 ชม. จากนั้นจัดลงจานยกเสริฟได้เลยค่ะ

ไข่ดาวทรงเครื่อง

แฟนคลับหวังดีสุดๆ  ซื้อไข่ไก่มาให้ 3 โหล อาทิตย์นี้งานเค้กก็ไม่มี ไข่ที่อยู่ก่อนหน้านี้ก็ต้องใช้ไปก่อน เลยต้องหาเมนูกำจัดไข่ นกแบ่งส่วนทำไข่เค็มไปแล้ว วันนี้ทำเมนูที่สอง ไข่ดาวทรงเครื่อง เมนูที่ใคร ๆ ก็ทำได้ไม่ยาก แถมบ้านไหนมีเด็กๆ เมนูรับรองเด็กชอบค่ะ สีสรรสดใสน่ากินว่าแล้วก็ลงมือทำกันเลยค่ะ

ส่วนผสม
ไข่ไก่ 5 ฟอง
หมูสับ 150 กรัม
มะเขือเทศ หั่นเป็นสีเหลี่ยมลูกเต๋า 2 ลูก
หอมหัวใหญ่หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/2 ลูก
กระเทียมสับละเอียด 3-4 กลีบ
ต้นหอมหั่นซอย 3 ต้น
น้ำมันหอย 2 ชต
ซีอิ้วขาว 2 ชต
น้ำตาลทราย ตามชอบ (นกใช้ประมาณ 1 ชต หากใครชอบออกหวานก็เพิ่มได้ค่ะ)
ซอสมะเขือเทศ 2 ชต
แป้งข้าวโพด 1 ชช (ละลายน้ำเปล่าเล็กน้อย)
น้ำมันสำหรับผัด /น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ
1. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันสำหรับทอดลงไป รอจนน้ำมันร้อนได้ที่ก็ตอกไข่ใส่ลงไป ทอดจนไข่สุกก็ตักขึ้นพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน
2.ใช้ก่ระทะใบเดิม ตักน้ำมันออก เหลือไว้เล็กน้อยพอผัดหมูและผักได้ ใส่กระเทียมสับ หัวหอมใหญ่ พอหอมใหญ่เริ่มสุก ใส่หมูสับลงไปผัดต่อ ผัดจนหมูเริ่มสุก
3.ใส่มะเขือเทศและเติมซีอิ้วขาว น้ำมันหอย ซอสมะเขือเทศ และน้ำตาลทรายลงไป แล้วผัดให้หมูสับและเครื่องปรุงทุกอย่างเข้ากันจนหมูสับสุก ชิมรสตามชอบ
4.นำแป้งข้าวโพดมาละลายน้ำเปล่า คนให้ละลายแล้วใส่ลงในกระทะ คนเร็วๆ ให้เข้ากัน ใส่ต้นหอมซอยลงไป คนให้ทั่ว ปิดไฟในเตาจากนั้น นำเครื่องมาตักราดลงบนไข่ดาวที่ทอดเตรียมไว้ในจานให้ทั่ว ยกเสริฟคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลย

ต้มข่าหมูอบหัวปลี

นกทำต้มข่ากินไม่กี่ครั้ง เหตุเพราะขัดใจเรื่องของข่า ต้มข่าหากให้ได้รสชาตดีต้องเป็นข่าอ่อนสด ๆ  แต่อยู่ต่างแดนข่าอ่อนสด ๆ นั้นหายาก ได้ข่าแก่มาต้มก็ยังดี แต่ข่าแก่ที่มีก็ไม่ได้ดังใจ เพราะเป็นข่าแก่ตากแห้ง ไร้กลิ่น ไร้รสชาต เหมือนกินเปลือกไม้ก็ว่าได้  แต่คราวนี้ข่าแห้งที่ซื้อมาเก็บไว้หลายวันยังกลิ่นหอมของข่าพอควร นกเลยตัดใจทำต้มข่าอีกครั้ง  แถมด้วยหัวปลีกระป๋องซื้อมาพร้อมกับข่า ตอนที่ซื้อมาเจอะก็นึกอยากกิน แต่คิดเมนูไม่ออกว่าจะทำเมนูอะไรดี ทิ้งไว้หลายวันไม่กินเดี๋ยวจะหมดอายุเสียก่อน เลยเอามาใส่ต้มข่า เพราะเคยได้ยินว่าคนโบราณเค้าเอาปลีกล้วยมาต้มข่าแทนเห็ดนะค่ะ หัวปลีใส่ต้มข่ารสชาติอร่อยอีกแบบ คนที่ชอบกินหัวปลีหรือมีหัวปลีแต่ไม่รู้จะทำอาหารอะไรดี ลองทำเมนูนี้ดูนะค่ะแล้วจะติดใจ 

  
ส่วนผสม
หมูอบ หั่นเป็นชิ้น 1 ถ้วย 
หัวปลี 1 กป. (นกเอาหัวปลีมาล้างน้ำร้อนอีกครั้ง) 
กะทิ 1 กป. (แยกหัวกะทิ หางกะทิ)
ข่า 1/2 ถ้วย  (เอาแช่น้ำร้อนให้เนื้อข่าอ่อนตัว)
ตะไคร้ หั่นเป็นท่อน 2 ต้น
ใบมะกรูด 3-4 ใบ 
พริกขี้หนู หั่นเฉียง 5 เม็ด 
เกลือป่น 1 ชช ซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ชต
น้ำมะนาว 3 ชต
น้ำเปล่าประมาณ 1  ถ้วย
ผักชี เด็ดเป็นใบๆ ถ้ามี (นกไม่มีไม่ได้ใช้)

วิธีทำ
1.เปิดไฟในเตาใช้ไฟแรงปานกลาง นำหางกะทิและน้ำเปล่า 1 ถ้วยใส่ลงหม้อ รอจนกระทั้งน้ำกะทิเดือดใส่ข่า ตะไคร้และใบมะกรูดลงไป เคี่ยวพอประมาณ
2.ใส่เนื้อหมูอบลงไป รอจนเดือดอีกครั้งจึงใส่เกลือป่นลงไป แล้วคนให้เข้ากัน
3.ใส่หัวกะทิลงไป คนให้เข้ากัน รอจนกระทั้งน้ำแกงเดือด ใส่หัวปลีและพริกที่หั่นไว้ลงไป ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) น้ำตาลทราย และน้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ ปิดไฟในเตา จากนั้นโรยด้วยผักชีและคนให้เข้ากัน ตักใส่ชามยกเสริฟได้เลยค่ะ

***จริงๆ แล้วกะจะใช้เนื้อไก่ทำ แต่หมูิอบเหลืออีกเยอะจากเมื่อวาน เลยเอามาทำเมนูนี้ต่อ แบบว่าเแม่บ้านยุคประหยัดนะค่ะ***

สมูทตี้กล้วยหอม(Banana Smoothy)/น้ำกล้วยหอมปั่น

วันนี้นกทำน้ำผลไม้ปั่น /สมูทตี้ (Smoothy) สำหรับสาว ๆ ที่รักสุขภาพค่ะ ช่้วงหน้าร้อนนกมักจะทำสมูทตี้ และเชก (Shake) ดืมดับร้อนอยู่บ่อยครั้ง พูดถึงเรื่องสมูทตี้และเชกแล้ว หลาย ๆ คนยังเข้าใจผิดกันอยู่จริงๆแล้ว ระหว่างสมูทตี้และเชกมีข้อที่แตกต่างกันที่ตรงที่ สมูทตี้จะไม่ใส่ไอศรีมลงไปปั่นผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ นอกนั้นจะเหมือนกันเสียส่วนใหญ่ หลักๆ ก็จะเป็นผลไม้ โยเกริต์ นม น้ำตาล น้ำผึ้ง แล้วแต่จะชอบกัน  ผลไม้ที่นำไปปั่นจะเลือกผลไม้ที่มีเนื้อนุ่ม รสหวาน ปั่นง่าย เพราะเวลาปั่นจะได้น้ำผลไม้ปั่นที่มีเนื้อที่เนียนนุ่มนั้นเอง

ส่วนผสม 
กล้วยหอมหั่นเป็นชิ้น 1 ลูก
นมสด 1/4 ถ้วย
น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วย
เกลือป่น หยิบมือ
น้ำต้มสุก 1 ถ้วย
น้ำแข็งบด ตามชอบ (นกกะประมาณ เวลาปั่นใส่นิดหน่อยก่อนแล้วค่อยเติมที่หลัง)

 วิธีทำ 
1.ใส่กล้วยหอม นมสด น้ำเชื่อม เกลือ น้ำแข็ง และน้ำต้มลงในโถปั่น ปั่นเข้ากันให้ดี  จากนั้นใส่น้ำแข็งเติมลงไปแล้วปั่นอีกครั้งให้เข้ากัน จนส่วนผสมเนียน
2. เมื่อทุกอย่างเข้ากันดี เทใส่แก้วตกแต่งด้วยกล้วยหอมหั่นชิ้น พร้อมเสริฟได้เลยค่ะ

***กล้วยหอมมีสรรพคุณหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะโรคท้องผูก เพราะเส้นใยอาหารในกล้วยหอมช่วยทำให้ระบบขับถ่ายในร่างกาย ทำงานได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยลดภาวะความดันโลหิตได้อีกด้วย***

 

เส้นหมี่หมูสับแห้ง

ส่วนผสม 
หมูสับ 350 กรัม 
ตับหมู 250 กรัม 
ผักกวางตุ้ง 1 กำ 
ซีอิ๊วขาวสำหรับหมักหมู 1 ชต
น้ำตาลทรายสำหรับหมักหมู เล็กน้อย (นกใช้ประมาณ 1 ชช. ให้เนื้อหมูออกรสหวานนิด ๆ) 
พริกไทยสำหรับหมักหมู ตามชอบ (นกใช้ประมาณ1/2 ชช) 
น้ำมันงาสำหรับหมักหมู 1 ชช
ซอสหอยนางรมสำหรับหมักหมู 1 ชต.
กระเทียมเจียว ตามชอบ
ถั่วงอกลวก ตามชอบ

 วิธีทำ 
1. นมผักมาล้างให้สะอาด ตัดเป็นท่อน ๆ แช่น้ำพักไว้
2. นำเนื้อหมูบดมาหมัก ใส่เครื่องปรุงสำหรับหมักหมูลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน จานนั้นนำเข้าตู้เย็น หมักไว้อย่างน้อย 1 ชม.
3. เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรง เอาหม้อใส่น้ำพอประมาณ พอน้ำเดือด ใส่หมูสับลงไปต้มให้สุก ชิมรสน้ำชุปตามชอบ
4. เปิดไฟในเตาอีกเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรงเอาน้ำใส่ในหม้ออีกใบ ต้มน้ำให้เดือด นำผักที่หั่นเอาไว้ลงลวกพอสุก 
5. พอผักสุกใช้หม้อใบเดิมลวกเส้นหมี่ จนเส้นสุกได้ที่ ใส่กระเทียมเจียวลงคลุก ใส่น้ำมันที่เจียวลงไปเล็กน้อยค่ะ เส้นจะได้ไม่ติดกัน 
6. ลวกเส้นเสร็จ ก็ให้ลวกตับหมูพอตับหมูสุกจัดใส่จาน จากนั้นจัดเรียงเส้นหมี่ หมูสับ ตับหมู ผักกวางตุ้ง ถั่วงอก ลงในชามแล้วปรุงรส ด้วยซอสปรุงรส น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว และพริกป่น ถั่วป่น ยกเสริฟได้เลยค่ะ


***หากเพื่อน ชอบรสเปรี้ยวนิดหน่อยจะเติมมะนาวด้วยก็ได้นะคะ รสตามชอบค่ะ วันนี้นกใช้ถั่วอัลมอนด์แทนถั่วป่น นกจใส่น้ำตาลทรายเยอะหน่อยเพราะจะได้ออกรสหวานนิดๆ  ถ้าเพื่อน ๆ ชอบให้มีสีสรรจจะใส่ซีอิ๊วดำลงใสเส้นหมี่สักนิดก่อนจะใส่เครื่องปรุงอื่น เพื่อสีสันก็ได้ค่ะ หากจะให้น้ำชุปมีรสชาตดีนกแนะนำให้ต้มน้ำซุปกระดูกหมูจะทำให้น้ำชุปอร่อยเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ*** 

ข้าวแกงทอด/ ข้าวยำทอด/ ทอดมันข้าว

นกไม่รู้ว่าจะเรียกเมนูนี้ว่าอะไรดี ข้าวแกงทอด ข้าวยำทอด หรือทอดมันข้าวดี เพราะเคยได้อ่านเรื่องข้าวแกงทอด จะมีเกร็ดขนมปัง ของนกไม่มี ข้าวยำทอด เค้าจะเอาข้าวไปคลุกกลับเครื่องแกงแล้วนำไปทอด ของนกมี แต่ยังมีส่วนผสมอื่นเป็นตัวประกอบหลักอีก จะเรียกทอดมันข้าวก็ไม่รู้จะใช้ไม่อีก เลยเรียกทั้งสามชื่อเสียเลย

ส่วนผสม
ข้าวสวย 2 ถ้วย
หมูบดละเอียด 250 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง
น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ชต
น้ำตาลทราย ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ (นกใส่นิดหน่อยเพราะเครื่องแกงมีรสเค็มอยู่แล้ว)
ต้นหอมหั่นซอย (จริงๆ ต้องใช้ใบมะกรูดหั่นซอย ที่บ้านไม่มีเลยใช้ต้นหอมแทน)

 วิธีทำ
1. นำหมูบดและน้ำพริกแกงเผ็ดมานวดเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นใส่ไข่ไก่ลงไปนวดต่อ
2. เมื่อไข่ไก่และหมูบดนวดเข้ากันได้ที่ นำข้าวสวย ลงไปนวดคลุกให้เข้ากับน้ำพริกแกงและเนื้อหมู เติมน้ำปลา น้ำตาล จากนั้น แบ่งส่วนผสมออกมาเล็กน้อยนำเข้าเตาไมโครเวฟ ให้สุก จากนั้นชิมรส ปรุงรสตามที่ตนต้องการ นำไปพักไว้ในตู้เย็นประมาณ 15 นาที
3. พอถึงกำหนด เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรง อย่าให้แรงมากเดี๋ยวเวลาทอดเดี๋ยวจะไหม้ นำข้าวมาทอด ให้เหลืองสุกสวย จัดใส่จานยกเสริฟได้เลย (จะทานเป็นของว่างกับสลัด หรือจะทานเป็นอาหารพร้อมข้าวสวยร้อยๆ ก็ได้เช่นกัน)

เกาเหลาหมู/เกาเหลาลูกชิ้น

เวลานกไปร้านขายก๋วยเตียวหมู มักจะสั่งเกาเหลามากินเล่นอยู่บ่อยครั้ง หรือไม่ก็กินคู่กับข้าว เกาเหลาถือเป็นอาหารแบบด่วน ๆ เร็วๆ ทำง่ายแถมอร่อย แต่ไม่ค่อยทำเพราะหาซื้อกินง่าย พอมาอยู่ต่างแดนอยากกินอะไรก็ต้องทำเอง อย่างเมนูเกาเหลาทำกินอยู่บ่อยครั้ง นกไม่เคยลงสูตรเกาเหลาในครัว เพราะคิดว่าเพื่อนชาวครัวหลายๆ คนคงทำกินกันอยู่บ่อยแล้ว แต่พอเอารูปลงให้เพื่อน ๆได้เห็นมีเพื่อนสมาชิกชาวครัวถามสูตรเข้ามา วันนี้ทำอีกครั้งได้โอกาสถ่ายรูปจัดการเขียนสูตร แบ่งปันเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบเกาเหลาเช่นเดียวกันกับนกค่ะุ

หมูเนื้อแดง ตามชอบ (นกใช้ประมาณ 250-300 กรัม)
หมูสับ 200 กรัม
ตับหมู 250 กรัม
ซี่โครงหมู 5 ซี่
ลูกชิ้นหมู ตามชอบ
หัวไช้เท้าหั่นเป็นท่อน ๆ   1/2 หัว
แครอทหั่นเป็นท่อนๆ 2 หัว
เห็ดหอมแช่น้ำ 6 หัว

ซีอิ๊วขาว 2 ชต
ซอสปรุงรส 1 ชต (ถ้ามี)
น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 2 ชช
พริกไทยป่น หยิบมือ
ผัึกซีหั่นฝอย ตามชอบ
ถั่วงอก ตามชอบ (ุถ้ามี)
ขึ้นฉ่าย ตามชอบ (ถ้ามี)

วิธีทำ
1. หมูสับเติมน้ำมันหอย 1 ชต ซีอิ๊วขาว 1 ชต ซอสปรุงรส 1 ชต คลุกเคล้าให้เข้ากันพักไว้
2. กระดูกล้างน้ำให้สะอาด ใส่หมอนำขึ้นต้ม เปิดไฟในเตา้ใช้ไฟปานกลาง
3. ใส่เนื้อหมูแดง หัวไชเท้า แครอท และเห็ดหอมลงในหม้อพร้อมเกลือป่น ต้มจนทุกอย่างสุก เวลาต้มห้ามคนทิ้งไว้จนน้ำซุปใส
4. ใส่หมูบดปรุงรสที่เตรียมไว้ปั้นเป็นก้อนลงในน้ำซุป และน้ำแช่เห็ดหอม พอหมูสุก ชิมรสตามชอบปิดไฟยกลง
5. ตับหมูหั่นเป็นชิ้นๆ  นำไปลวกในน้ำร้อนจัดประมาณ 1-2 นาทีให้สุก ช้อนขึ้นพักไว้
6. ถึงเวลาเสริฟ ใส่ลูกชิ้นลงในหม้อน้ำซุปตามต้องการ ใส่ถั่วงอกและขึ้นฉ่ายรองชามไว้ ตักน้ำซุปพร้อมหมูสับที่เดือดจัดใส่ลงในชาม จากนั้นตักตับหมู ลูกชิ้น ใส่ตามลงไป โรยหน้าด้วยผักชีและพริกไทยป่น เสริฟพร้อมเครื่องปรุง และข้าวสวยร้อนๆได้เลยค่ะ

***ที่บ้านเวลากินเกาเหลาหมูจะกินคู่กับพริกน้ำส้มดอง สูตรพริกน้ำส้มดองที่บ้านจะมีพริกขี้หนู เกลือ กระเทียม ตำหยาบหรือละเอียดตามชอบ ใส่น้ำตาล น้ำส้มสายชู รสชาตจะเปรี้ยวนำ หวานตาม เกาเหลาเป็นเมนูที่ชอบทำกินอยู่เป็นประจำยิ่งอากาศเย็น ๆ ชอบทำ เพราะมีลูกชิ้นติดบ้านอยู่แล้ว ส่วนชามที่เห็นข้างล่างเป็นเกาเหลาลูกชิ้นค่ะ***

หน่อไม้ต้มกะทิกุ้งสด

นกห่างหายจากครัวไปหลายวันเลย ยิ่งช่วงหน้าร้อนยิ่งไม่ค่อยอยู่บ้านสักเท่าไร แถมปีนี้มีโอกาสได้ลูกค้าทำขนมเค้กเพิ่มขึ้นทำให้ไม่ค่อยมีเวลา จริงๆ แล้วอยู่บ้านนกทำกับข้าวทุกวันค่ะ มีที่ถ่ายรูปเก็บไว้ก่อน ไว้ค่อยมาลงสูตร อย่างหน่อไม้ต้มกะทินี้ทำกินหลายวันแล้ว เป็นเมนูอาหารภาคใต้ ส่วนใหญ่แล้วนกจะต้มแบบน้ำซุปธรรมดาใส่หมู ใส่ไก่ ก็ว่ากันไปค่ะ แต่ครั้งนี้พิเศษจริง ๆ เหตุผลเกิดจากความอยากกินเหตุผลเดียวค่ะ ส่วนสูตรโทรถามน้องสาวที่บ้านค่ะ เค้าทำให้กินอยู่บ่อยๆ ตอนอยู่เมืองไทย

ส่วนผสม
หน่อไม้ ตามชอบ (นกใช้ที่เค้าต้มสำเร็จในกระป๋อง 2 กระป๋อง)
ขนิ้มผง 1 ชช ( นกกะเอาพอให้มีสีเหลือง ๆ )
กะทิ 1 กระป๋อง
 น้ำปลานิดหน่อย  (จะใช้ซีิอิ้วขาวก็ได้เช่นกัน)
กุ้งสดปอกเปลือ 250-300 กรัม
กุ้งแห้ง ตามชอบ (ถ้ามี)
พริกไทยดำ 1 ชต
หอมหัวแดง 3 หัว
เกลือป่น 1 ชช

วิธีทำ
1. นำหน่อไม้มาล้างน้ำอุ่น พักทิ้งไว้
2. โขลกพริกไทย หอมแดง เกลือป่น เข้าด้วยกัน โขลกให้ละเอียดตามความชอบ
3. เปิดไฟในเตาปานกลางค่อนข้างแรง นำกะทิใส่หม้อต้มให้เดือด ใส่เครื่องปรุงที่โขลกไว้ และขมิ้นผง คนให้ทั่ว ๆ จากนั้นใส่หน่อไม้ กุ้งแห้ง ลงไปต้มให้พอพอเดือด ปรุงรสด้วยน้ำปลาหรือซีอิ้วขาว ชิมรสชาตตามชอบ  รสชาตจะที่จะต้องมีความมัน ความเค็มนำ  จากนั้นจึงใส่กุ้งสด พอเดือนอีกครั้ง ปิดไฟในเตา ตักใส่ชามยกเสริฟ กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ได้เลยค่ะ

บัวลอยน้ำกะทิ

นกเห็นเพื่อนชาวครัวเอาขนมไทยมาให้ชม เห็นแล้วนึกอยากกิน วันนี้ลงมือทำขนมบัวลอย เมนูง่ายๆ สะดวก จริงๆ  อยากทำบัวลอยเผือกแต่ด้วยความกลัวว่าเผือกที่เห็นหัวใหญ่มากๆ ซื้อกินเข้าไปเกิดอาการแพ้คันขึ้นมาจะลำบาก ตัดสินใจไม่ใส่เผือก ใส่สีผสมอาหารแทนสะดวกดี วันนี้นกเลือกใช้ สีแดง สีเหลือง และสีเขียว

ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
กะทิ 1 กระป๋อง
น้ำตาลทราย 6 ชต
เกลือป่น หยิบมือ
สีผสมอาหาร ตามชอบ
เนื้อมะพร้าวอ่อน ตามชอบ (นกไม่มีเลยไม่ได้ใส่)

 วิธีทำ
1. แบ่งน้ำกะทิออกประมาณ 1 ส่วน
2. ผสมแป้งข้าวเหนียว  กับน้ำกะทิที่แบ่งออกมาใส่น้ำกะทิลงไปที่ละน้อย จากนั้นนวลให้เข้ากัน ถ้าแป้งแห้งไปให้เติมกะทิลงไปอีก นวดพอให้นุ่มมือ พอปั้นเป็นก้อนกลมได้
3. แบ่งแป้งออกเป็น 3 ส่วนเท่าๆ กัน นำไปผสมสีตามชอบ ( วันนี้นกใช้ สีเขียน สีแดง และสีเหลือง)
4.เมื่อนวดจนแป้งเนียนได้ที่แล้วก็ปั้นแป้งเป็นลูกกลมๆ ขนาดตามชอบ ปั้นไปเรื่อยๆ จนแป้งหมด จากนั้น เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรง เอาน้ำเปล่าใส่ลงไปในหม้อ ต้มจนน้ำเดือดจึงเอาแป้งที่ปั้นไว้ใส่ลงไป รอจนแป้งสุก (สังเกตว่าแป้งจะลอยขึ้นมาเอง) ก็ช้อนแป้งที่สุกแล้วมาแช่ในน้ำเย็นจัดเพื่อให้แป้งคงตัว
5. เปิดไฟในเตาอีกครั้งที่ไฟปานกลาง นำกะทิในหม้อตั้งบนเตา ใส่น้ำตาลทราย และเกลือป่นลงไป หมั่นคนตลอดเวลา พอน้ำกะทิเดือด ใส่เม็ดบัวลอยที่เย็นแล้วใส่ลงในหม้อกะทิ คนให้เข้ากัน ชิมรสชาต ปรับความหวานตามชอบ จากนั้นปิดไฟในเตาตักใส่ถ้วยยกเสริฟได้เลยค่ะ



***หากเพื่อน ๆ ชอบความหวานเติมน้ำตาลลงไปได้อีกนะค่ะ สำหรับนกแล้วคิดว่าหวานได้ใจแล้วละค่ะ***

มะเขือชุบไข่ทอด

นกไปซุปเปอร์ฯ ตอนวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เห็นมะเขือสีม่วง รูปทรงเหมือนมะเขือเปราะสีม่วงบ้านเราแต่ลูกมันโตมากๆ เลยค่ะ  ตั้งใจซื้อมาทอดกินโดยเฉพาะ   กลับถึงบ้านอยากรู้ว่าเค้าเรียกว่าอะไร มองหาในอินเตอร์เน็ต และแล้วก็ไปเจอะชาวสวนคนหนึ่งปลูกมะเขือชนิดนี้ เค้าเรียกว่ามะเขือยักษ์ หรือ มะเขือเปราะยักษ์ อืมได้คำตอบให้กับตัวเองและแฟนคลับเสียที

ส่วนผสม
มะเขือเปราะยักษ 1 ลูก
ไข่ไก่ 1 ฟอง
แป้งทอดกรอบ 2 ชตฃ
น้ำเย็นจัด พอประมาณ (ใส่ที่ละนิดกะให้พอชุปมะเขือติด)
ซีอิ้วขาว 1 ชช
น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ
1.นำมะเขือไปล้างให้สะอาด ตัดหั่นเป็นชิ้น ๆ บางๆ ขนาดตามชอบ นำไปแช่ในน้ำเกลือ ทิ้งไว้สัก 10-15 นาที จากนั้นนำขึ้นพักทิ้งให้สะเด็ดน้ำ
2. นำแป้งทอดกรอบ ผสมกับน้ำเย็นคนให้เข้ากันจนแป้งเป็นเนื้อเนียน จากนั้นตอกไข่ใส่ลงไปคนให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกันอีกครั้ง
3. นำส่วนผสมของแป้งมาชุบมะเขือให้ทั่วๆ จากนั้นนำลงทอด
4. เปิดไฟในเตาปานกลาง นำกระทะตั้งบนเตาใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันลงเอามะเขือชุบไข่ลงทอดที่ละชิ้น รอให้แป้งเหลืองกรอบจึงค่อยกลับด้าน ทอดจนทั้งสองด้านเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้บนกระดาษซับน้ำมันจัดใส่จานยกเสริฟ คู่กับน้ำพริกผักสดเครื่องเคียงอื่นๆ ได้เลย

***นกเอาภาพลูกมะเขือเปราะยักษ์ เทียบกับไข่ไก่ ให้เพื่อนๆ เห็นความแตกต่าง ว่ามันใหญ่จริงๆ***

หมูต้มเต้าเจี้่ยวขิง

เมนูแนะนำวันนี้เป็นหมูต้มเต้าเจี้ยวค่ะ  นกห่างหายจากการอัฟบล๊อกไปหลายวันเลยที่เดียวเพราะยุ่งกับการทำขนมเค้ก เดือนที่ผ่านมามีขนมเค้กให้ทำหลายเจ้าเลยที่เดียวค่ะ การทำขนมเค้กของนกไม่ได้ทำเป็นอาชีพหรอกนะค่ะ เรียกว่ามีใครจ้างให้ทำก็ทำ ดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆ ได้สตางค์กินขนมนิดหน่อยก็ยังดี อาทิตยนี้ที่้บ้านฝนตกติดๆ กันสองวันแล้วค่ะ  ฤดูกาลของที่นี้เริ่มเข้าหน้าร้อนก็ว่าได้ค่ะ แต่แปลกมากๆ ยังมีฝนตกอยู่อีก วันไหนฝนตกนกไม่อยากออกไปไหนเลยละค่ะ เพราะออกไปเปียกฝนก็หนาวอีกอยู่บ้านทำโน่นนี้ที่บ้านดีกว่าออกเปียกฝน ฝนตกอย่างนี้หากได้ขิงมาช่วยให้ร่างกายอบอุ่นสู้กับอากาศที่เปลี่ยนแปลงก็น่าจะดีเพื่อนๆว่าจริงไม่ค่ะ

ส่วนผสม

หมูแดงติดมันตามชอบ หั่นชิ้นพอคำ  1  ถ้วย

ขิงสดหั่นซอย 1/4 ถ้วย ( นกใช้ประมาณ 1 แง่งใหญ่)

หอมใหญ่หั่นชิ้น  1 หัว

น้ำตาลทราย ตามชอบ (นกใส่แค่พอตัดรสเค็ม)

น้ำมันหอย 1 ชต

เห็ดหอม หั่นชิ้น ตามชอบ (นกใช้ 4 ดอก หั่นตัดเป็นสี่ชิ้นต่อ 1 ดอก)

น้ำมันงาสำหรับผัดหมู ตามชอบ  (นกใส่นิดหน่อยพอผัดหมูได้นะค่ะ)

เต้าเจี้ยวขาว/เต้าเจี้ยวดำ 2 ชต. (จะใช้เป็นเต้าเจี้ยวขาวหรือดำแล้วแต่ชอบ)

ซีอิ๊วขาว 2 ชต.

พริกไทยป่น 1/2 ชช.

เกลือป่น 1/2 ชช.

น้ำเปล่า/ น้ำซุป ตามชอบ

พริกขี้หนูสวน 7-8 เม็ด

ต้นหอมหั่นท่อน 2 ต้น

 ต้นคื่นฉ่ายหั่นท่อน 1 ต้น

 วิธีทำ

1. นำหมูลงไปผัดให้พอเห็นผิวเริ่มสุก ตักขึ้นใส่จานพักไว้

2. เปิดไฟในเตาปานกลางค่อยข้างอ่อน ใช้กะทะใบเดิม ใส่หอม ขิงซอย ผัดให้พอหอมสุก เติมเต้าเจี้ยว ลงไปนิดหน่อย (ไว้เพิ่มที่หลังหากยังไม่เค็มพอ) ตามด้วยซีอิ้วขาว น้ำมันหอย  น้ำตาลทราย

3. ใส่หมูลงไปคลุกเคล้่าให้เข้ากัน เติมน้ำซุปลงไป ปรับไฟในเตาเป็นไฟกลาง ต้มเคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนกระทั้งน้ำซุปเดือด ใส่เห็ดหอมลงไปต้มต่อ ชิมรสตามชอบ หากยังไม่เค็มพอให้เติมเ้ต้าเจี้ยวลงไปอีก

4. เมื่อน้ำซุปเดือด ให้หรี่ไฟในเตาลงเป็นไฟกลางค่อนข้างอ่อน ต้มเคี่ยวไปจนเนื้อหมูเปื่อยได้ที่ ก่อนปิดไฟในเตาโรยพริกขี้หนูคนให้เข้ากันจากนั้นปิดไฟในเตาตักใส่ชามโรยหน้าด้วยต้นหอม คื่่นฉ่ายหั่นเป็นท่อนๆ ยกเสริฟได้เลยค่ะ

***สำหรับหมูต้มเต้าเจี้ยว หากใครชอบให้มีรสชาติออกเปรี้ยวนิด ๆ นกแนะนำให้เพิ่มน้ำส้มสายชู หรือ สับปะรดหั่นเป็นชิ้น ๆ ใส่ลงในหม้อต้ม แล้วแต่จะเลือกนะค่ะ อย่างของนกรสชาติอแบบคนจีน แต่ถ้ารสชาติไทยๆ คงต้องออกรสเปรี้ยวนิด ๆ  แล้วแต่เืพื่อนชาวครัวจะชอบกันนะค่ะ***