ข้าวมันไก่ทอด/ไก่ต้ม

เสาร์ -อาทิตย์ แฟนคลับไม่ได้ไปทำงาน ถ้าไม่ได้ออกไปไหน เมนูมื้อกลางวันมักจะเป็นเมนูอาหารจานเดียวเสมอ วันนี้เสาร์ก็เช่นเดียวกันค่ะ นกกับแฟนคลับไม่ได้ออกไปไหนเหตุเพราะอากาศไม่อำนวย จริงๆ แล้วมีโปรแกรมว่าจะออกไปปิกนิคกัน พยากรณ์อากาศก็บอกว่าอากาศดี ตื่นมาทำไม่เป็นแบบนี้ กลุ้มใจอากาศที่นี้เปลี่ยนเร็วรับไม่ค่อยทันจริงๆ เลยค่ะ ดีนะเนี้ยที่เครื่องปรุงพร้อม เพราะกะจะทำวันอาทิตย์ ไหน ๆ ไม่ได้ไปแล้วก็ทำมันวันนี้เสียเลย ส่วนวันอาทิตย์ค่อยว่ากันใหม่ ข้าวมันไก่ทอด/ไก่ต้ม เป็นเมนูอาหารโปรดของแฟนคลับเลยก็ว่าได้ค่ะ แต่เวลาทำข้าวมันไก่ นกมักจะทำข้าวมันไก่ทอด เพราะเวลากินไม่หมดก็จะเอาไก่ทอดไปทำลาบไก่กรอบอีกรอบไว้กินมื้อเย็นอีกที่ โดยส่วนตัวชอบไก่ต้มมากว่าไก่ทอด แต่ก็ชอบลาบไก่กรอบด้วยเหมือนกัน (เลือกไม่ถูกหลายใจจริงๆ เลยเรา)





ส่วนผสมข้าวมันไก่ทอด
ข้าวมัน 1 1/2 ถ้วย
เนื้อไก่ 300-400 กรัม
แป้งทอดกรอบ 150 กรัม
น้ำแย็นจัด ตามชอบ
เกร็ดขนมปัง ตามชอบ
เกลือ 1 ชช
น้ำจิ้มข้าวมันไก่ 1 ถ้วย
ต้นหอมผักชีหั่นหยาบ 2-3 ต้น
แตงกวาหั่นชิ้น ตามชอบ

วิธีทำ
1 นำเนื้อไก่มาล้างให้สะอาด ซับให้แห้ง
2 ผสมน้ำเย็นกับแป้งทอดกรอบเข้าด้วยกัน ให้ผสมน้ำเย็นลงไปทีละน้อยจดได้แป้งข้นตามต้องการ
3 เอาไก่ที่ต้องการจะทอดชุบกับแป้งทอดกรอบแล้วนำไปคลุกกับเกร็ดขนมปังนำลงทอดให้สุก เหลือกรอบสวย ตักขึ้นวางบนกระดาษซับมัน พักไว้
4 ตักข้าวมันใส่จานหั่นไก่ทอดวางบนข้าว เสริฟด้วยแตงกวา น้ำจิ้มข้าวมันไก่ โรยหน้าด้วยต้นหอมผักซี เท่านี้ก็ได้ข้าวมันไก่ทอดอร่อย ๆ แล้วละค่ะ

***ถ้าเพื่อนๆ ไม่ชอบข้าวมันไก่ทอด จะเปลี่ยนเป็นไก่ต้มแทนก็ได้เช่นกัน วิธีการหุ้งข้าวมัน น้ำจิ้มเหมือนกับข้าวมันไก่ทอด เพียงแต่เปลี่ยนมาเป็นต้มไก่แทนจานนี้ข้าวมันไก่ต้มของนกเองค่ะ***


ส่วนผสมข้าวมัน
ข้าวสาร 1 1/2 ถ้วย
มันไก่ ตามชอบ
กระเทียมสับ 4-5 กลีบ
ขิงหั่นแว่น ตามชอบ
น้ำซุปไก่/น้ำเปล่า ตามชอบ

วีธีทำ
1 ล้างข้าวสารแล้วเทใส่ตะแกรงพักไว้
2 ตั้งกระทะบนเตาเอามันไก่ใส่ไป เจียวให้ออกมาจากนั้นตักกากทิ้งไปให้เหลือแต่น้ำมัน จากนั้นใส่กระเทียมสับลงไปผัดให้พอหอม ใส่ข้าวสาร ขิงลงไปผัดสองสามที ตักขึ้นใส่หม้อหุงข้าวเทน้ำซุปไก่ลงไปตามปริมาณที่เราหุงข้าวตามปกติ

***มีบางร้านทำข้าวมันไก่ใส่ข้าวเหนียวลงไปหุงด้วย สูตรของนกไม่ได้ใส่เพราะแฟนคลับไม่กินข้าวเหนียวนะค่ะแต่ถ้าเพื่อน ๆ จะใส่ก็ได้นะค่ะประมาณ 1/4 ถ้วย ใส่น้ำซุปลงไปในข้าวปริมาณน้ำปกติเหมือนกับหุงข้าวทั่ว ๆ เช่นเดียวกันค่ะ***


ส่วนผสมน้ำจิ้ม
ขิงแก่หั่นหยาบ 1แง่งใหญ่
กระเทียมหั่น 20-25 กลีบ
พริกขี้หนูสด 10 ดอก
เต้าเจี้ยว 2 ชต
ซีอิ๊วขาว 4 ชต
น้ำตาลทราย 3 ชต
น้ำมะนาว/น้ำส้มสายชู 2 ชต

วิธีทำ
นำส่วนผสมทั้งหมดเข้าเครื่งปั่น ปั่นให้พอส่วนผสมเข้ากัน ถ้าไม่ปั่นก็ให้หั่นขิ่ง กระเทียม พริกขี้หนูสดสับซอยให้ละเอียดตามต้องการจากนั้นนำไปผสมกับเต้าเจี้ยว ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย น้ำมะนาว ก็ได้เช่นเดียวกัน (น้ำจิ้มที่บ้านนกไม่ได้ปั่นใช้หั่นสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ นะค่ะ)

***นี้คือหน้าของลาบไก่กรอบที่นกกินทำอยู่เป็นประจำ หลังจากมีไก่กรอบเหลือ ถ้าหากเพื่อนๆ มีไก่กรอบเหลือลองทำดูซิค่ะ กินคู่กับผักสด ๆ อร่อยนะจะบอกให้ ***





สปาเก็ตตี้ทะเล

วันนี้ทำอาหารอิตาลีทานกันค่ะ จริงๆ แล้วเวลาทำสปาเก็ตตี้ส่วนใหญ่มักจะทำรสแบบไทย ๆ ไม่ค่อยเน้นอิตาลีกับเค้าสักเท่าไร เอาตามใจตัวเองเข้าว่านะค่ะ แต่มื้อนี้ขอเป็นอิตาลีกับเค้าเสียหน่อย



ส่วนผสม
เส้นสปาเก็ตตี้ต้มสุก 2 จาน
เนื้อสัตว์ทะเลต้มสุก ตามชอบ (วันนี้นกมี กุ้ง หอย และปลาหมึก)

มะเขือเทศสดหั่นเป็นสี่เหลื่ยมลูกเต๋า 1 ถ้วย
มะเขือเทศสับ 1 กป
กระเทียมสับ 4-5 กลีบ
หัวหอม หั๋นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 หัว
แครอท หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเตา 1/2 ถ้วย
ซอสมะเขือเทศ 4 ชต
ซอสพริก 2 ชต
ซาลาลี (celery)หั่นละเอียดเป็นชิ้น ๆ 1/2 ถ้วย
ปาปริก้า (paprika) 1 ชช
tomato pree 1 ชช
italian seasoning 1 ชช

oregno 1 ชช
น้ำมันมะกอก 2 ชต
พริกไทย ตามชอบ
เกลือ ตามชอบ
น้ำซุปไก่ ตามชอบ

วิธีทำ
1.เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง ตั้งกระทะเอาน้ำมันใส่ลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อนก็นำหอมหัวใหญ่ที่หั่นไว้ใส่ลงไป ผัดจนหอมหัวใหญ่เริ่มสุกใสและมีกลิ่นหอม ใส่กระเที่ยมลงไปผัดต่อ แล้วจึงใส่แครอท ซาลาลี มะเขือเทศสดลงไปผัดให้พอสุก
2.ใส่มะเขือเทศกระป๋อง ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก paprika tomato pree italian seasoning และoregnoเติมน้ำซุปไก่ลงไปหรี่ไฟให้เบาลงจากนั้นผัดเคี่ยวจนเป็นน้ำซอสเนื้อเดียวกัน ปรุงรสด้วย พริกไทย เกลือ ชิมรสตามชอบอีกครั้ง
3.เมื่อน้ำซอสได้ที่นำเนื้อสัตว์ทะเลลงไปคลุกกับซอส เคี่ยวต่อไปอีกจนกระทั้งน้ำซอสเดือดได้ที่ ปิดไฟในเตา ตักสปาเก็ตตี้ใส่จาน ราดด้วยซอสเสริฟได้เลยค่ะ


น้ำพริกเห็ดแชมปิญอง



ส่วนผสม
เห็ดแชมปิญอง 250 กรัม
กุ้งแห้ง 150 กรัม
พริกขี้หนู ตามชอบ
พริกชี้ฟ้า ตามชอบ
หอมแดง 6-8 หัว
กระเทียม 10-15 กลีบ
น้ำมะนาว ตามชอบ
น้ำปลา 3 ชต
น้ำตาลทราย เล็กน้อย

วิธีทำ
1.โขลกกุ้งแห้งให้ละเอียดพักไว้
2.เอา พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า หอม กระเทียม ย่างไฟให้พอสุกหอม แกะเปลือกออกแล้วนำมาโขลกให้ละเอียดตามชอบพักไว้
3.เอาหม้อใส่น้ำตั้งบนเตาเล็กน้อยจากนั้นเอาเห็ดลงต้มค้นให้เห็ดสุกนิ่ม จากนั้นตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ
4.นำเห็ดที่ต้มสุกไปสับให้ละเอียด จากนั้นนำเห็ดสับ กุ้งแห้งลงไปครกโขลกรวมกับพริก หอม กระเทียม ให้เข้ากัน เติมน้ำปลา น้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ หากต้องการให้น้ำพริกออกหวานเติมน้ำตาลลงไปนิดหน่อยก็ได้ค่ะหากข้นเกินให้เติมน้ำอุ่นลงไปนิดหน่อย ชิมรสอีกครั้งตักใส่ถ้วยเสริฟคู่กับผักสด หรือผักต้มได้เลยค่ะ

หอยเชลล์ผัดพริกขิง

พอพูดถึงหอยเชลล์ หลาย ๆ คนคิดถึงหอยเชลล์อบเนย สำหรับนกชอบเอามาผัดพริกขิง ตามแบบฉบับคนไทยรสเผ็ดสะใจกว่ากันเยอะเลย ยิ่งตัวโตสด ๆ ใหม่ เนื้อมีรสหวานอร่อยเลยที่เดียวค่ะ แต่เวลาผัดอย่างผัดนานนะค่ะ เดียวมันจะเหนียวกินไม่อร่อยนะค่ะ




ส่วนผสม
เนื้อหอยเชลล์ 250 กรัม
น้ำพริกแกงเผ็ด 1 ช้อนโต๊ะ
ขิงอ่อนซอย 1 แง่ง
หอมหัวใหญ่หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/2 ลูก
พริกหวาน แดง เขียว หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ตามชอบ
น้ำตาลทราย ตามชอบ
เกลือ ตามชอบ

วิธีทำ
1.ล้างเนื้อหอยเชลล์ ใส่ตะแกรงพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2.ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป 1 ช้อนโต๊ะ ใช้ไฟกลาง ใส่พริกแกงลงไป ผัดจนพริกเครื่องแกงหอม ใส่หอยเชลล์ลงผัด ใส่น้ำตาล เกลือลงไปคนให้เข้ากันสองสามที
ปิดไฟ ตักใส่จานพักไว้
3.ใช้นำกระทะใบเดิมไม่ต้องล้าง ขึ้นตั้งไฟอีกรอบ ใส่น้ำมันลงไปสักเล็กน้อย ใช้ไฟกลาง พอน้ำมันร้อน ใส่หอม พริกหวานและขิงซอยลงไปผัดจนกระทั้งสุก ใส่หอยเชลล์ที่ผัดกับพริกแกง เติมน้ำลงไปเล็กน้อยให้พอขลุกขลิก ชิมตามชอบ จากนั้นผัดให้ส่วนผสมเข้าปิดไฟในเตาตักใส่จานยกเสิรฺ์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

เส้นใหญ่ทะเลราดหน้า



ส่วนผสม
ก๋วยเตียวเส้นใหญ่ 300 กรัม
กุ้ง ปลาหมึก หอยแมงภู่ 250 กรัม
เต้าเจี้ยว 2 ชช
ซีอิ๊วขาว 1 ชต
น้ำมันงา 2 ชช
เหล้าจีน 1 ชช
กระเทียมสับละเอียด 2-3 กลีบ
แครอทหั่นเป็นเส้น ๆ 1ถ้วย
ผักกาดขาวหั่นเป็นชิ้นพอคำ 5 ก้าน
เห็ดแชมปิญองหั่นเป็นชิ้น 1 ถ้วย
แป้งมัน 2 ชต
น้ำซุปไก่ ตามชอบ (นกใช้ประมาณ 3-4 ถ้วย)
น้ำตาลทราย ตามชอบ
พริกไทยป่น ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับผัด
น้ำเปล่าสำหรับละลายแป้งมัน

วิธีทำ
1.เตรียมเส้นด้วยการนำเส้นใหญ่มาคลี่ออกจากกัน จากนั้นคลุกด้วยซีอิ๊วดำเล็กน้อย พักไว้
2.ตั้งกระทะบนเตาใช้ไฟแรง ใส่น้ำมันเลี้ยงกระทะนิดหน่อย นำเส้นลงผัด จนกระทั้งสุกหอมตักใส่จานพักไว้
3.ใส่น้ำมันในกระทะใบเดิมเจียวกระเทียมให้พอหอม จากนั้นใส่เต้าเจี้ยวลงผัดพอเข้ากัน เติมน้ำซุป ต้มจนกระทั่งเดือด ใส่แครอทลงผักให้พอสุกจากนั้น ใส่กุ้ง ปลาหมึก หอยลงไป ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทรายและพริกไทยชิมรสตามชอบ
4.รอจนส่วนผสมเดือดอีกครั้ง ใส่ผักกาดขาวคนให้เข้ากันอีกครั้ง ใส่แป้งมันที่ละลายน้ำ คนผสมจนกระทั่งส่วนผสมข้นเหนียว เติมน้ำมันงาและเหล้าจีน คนผสมพอเข้ากัน ชิมรสอีกครั้ง จากนั้นปิดไฟในเตาตักราดบนก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ที่เตรียมไว้ ยกเสริฟร้อน ๆ กับพริกดอง หรือพริกน้ำส้มตามชอบได้เลยค่ะ


ผัดมะระใส่ไข่



ส่วนผสม
มะระขนาดกลาง 1 ลูก,
กระเทียมสับ 5-6 กลีบ
ไข่ 2 ฟอง
ซีอิ้ว 2 ชต
น้ำมันหอย 1 ชต
น้ำตาลทราย ตามชอบ

วิธีทำ
1.มะระล้างแล้วผ่าสี่ ขูดไส้ออกให้หมด ซอยหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ โรยเกลือลงไปในมะระขยำให้ทั่วๆ เติมน้ำลงไปนิดหน่อยแช่ไว้สัก 10-15 นาที ให้ความขมของมะระออกบีบเนื้อมะระขึ้นใส่อีกชาม เติมเกลือลงไปอีกแช่ไว้ประมาณ 5-10 นาทีจากนั้นล้างน้ำให้สะอาด บีบให้แห้งพักไว้
2.ตั้งกะทะบนเตาใช้ไฟปานกลางเจียวกระเทียมมหเพอหอม จากนั้นใส่มะระลงไป ผัดไปมาจนมะระนิ่ม ใส่ใข่ลงไปผัดต่อ คลุกเคล้าเข้ากัน ปรุงรสด้วยซีอิ้ว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบอีกครั้ง
3.ผัดจนกระทั้งมะระและไข่สุก ปิดไฟในเตาตักใส่จานเสริฟกับข้าวสวย หรือข้าวต้มแล้วแต่ชอบได้เลยค่ะ

ลาบหมูอบ

นกไม่ใช้ลูกอีสาน และอาหารอีสานชอบกินหลายอย่าง โดยเฉพาะเจ้าลาบหมูนี้ถือเป็นของโปรดเลยก็ว่าได้ แฟนคลับก็ชอบเช่นเดียวกัน ส่วนใหญ่จะเป็นหมูบดติดมันหน่อย ๆ แต่วันนี้เปลี่ยนส่วนผสมสักหน่อยเพราะหมูที่ซื้อมาอบมันชิ้นใหญ่มาก ๆ นกเลยแบ่งมาทำลาบกินมื้อกลางวันส่วนหนึ่ง อีกส่วนเก็บไว้กินมื้อเย็น ได้สองมื้อประหยัดกะตังอีกแล้วเรา



ส่วนผสม
หมูอบ ตามชอบ
พริกแห้งคั่วป่น 2 ชต
พริกสดหั่นหยาบ ตามชอบ
ข้าวคั่วป่น 2 กำมือ
น้ำมะนาว ตามชอบ
น้ำปลา 1 ชต
ใบสาระแหน่ เด็ดใบ ตามชอบ
ต้นหอมผักชีซอย 4-5 ต้น
หอมแดงซอย 5-6 หัว

วิธีทำ
1.หมูอบหั่นเป็นชิ้น ๆ พอคำ ใส่ลงในอ่างผสม จากนั้นเติมข้าวคั่ว น้ำมะนาว น้ำปลา พริกป่น พริกสด ชิมรสตามชอบ
2.ใส่หอมแดง ต้นหอมผักชีชอย ใส่ใบสาระแหน่ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสอีกครั้ง จากนั้นตักใส่จานยกเสริฟกินกับข้าวเหนียวร้อนได้เลยค่ะ

ไส้อั่ว

ไส้อั่วอาหารพื้นบ้านทางเหนือ ที่ใคร ๆ ก็ชอบ ไม่ว่าจะกินกับข้าวเหนียวร้อน ๆ หรือกินเป็นกับแกล้ม ก็อร่อยทั้งนั้น เทศกาลงานเลี้ยงไหน ๆ ก็มักจะเห็นไส้อั่วขึ้นโต๊ะอยู่เสมอ ๆ แต่สำหรับนกวันนี้ไม่มีงานเทศกาลใดๆแต่ดีใจที่หาซื้อไส้หมูได้ ฉลองความตั้งใจของตัวเองเสียหน่อย คราวนี้รู้แหล่งซื้อแล้ว ครั้งต่อๆไปคงได้ทำกันอีกหลายๆไส้ละค่ะเพื่อน ๆ


ส่วนผสม
หมูเนื้อแดงบด 1 กก (ติดมันนิดหน่อย)
น้ำพริกแกงเผ็ด 1 1/2 ชต
ผงขมิ้นผงเหลือง 2 ชช
ใบมะกรูดหั่นซอย 7-8 ใบ
ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 2 ชช
พริกไทยป่น 1 ชต
ต้นหอมผักชีซอย 4-5 ต้น
ผักชีฝรั่ง 8-10 ใบ (ถ้ามี)
เกลือป่น 2 ชช
ซอสถั่วเหลือง ตามชอบ
ผงปรุงรสหมู 2ชช (ถ้ามี)
ไส้หมู 1 พวง (ประมาณ 4 ขีด)

วิธีทำ
1.ล้างไส้หมูให้สะอาดแล้วบีบน้ำออกให้หมดผึ่งให้ไส้หมูแห้งสนิท
2.ผสมผิวมะกรูด เกลือป่น ผงขมิ้น ซอสถั่วเหลือง ผงปรุงรสหมู พริกไทยป่นลงในเนื้อหมูบด ใช้มือขยำให้เครื่องปรุงต่างๆ เข้ากับเนื้อหมูบด จึงนำไปหมักทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 20- 30 นาที
3.นำต้นหอม ผักชี ใบมะกรูด ผักชีฝรั่ง ใส่ลงในเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียดตามชอบ จากนั้นเทเครื่องปรุงที่ปั่นไว้ในหมูที่หมักจนครบกำหนดคลุกให้เข้ากัน (ถ้ามีเครื่องบดจะดีมากเลยใส่เครื่องบดให้เข้ากันสัก 2 เที่ยว) จากนั้น กรอกหมูบดลงในไส้หมูที่เตรียมไว้จนเต็ม อย่าให้แน่นมากนัก ใช้เชือกมัดหัวท้าย เป็นท่อน ๆ ขนาดตามชอบ ทำจนหมดไส้ จากนั้นนำนำไส้กรอกไปย่างบนเตาให้สุกเกรียมทั่วจัดใส่จานยกเสริฟคู่กับข้าวเหนียวร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

*** ก่อนที่จะเอาหมูใส่ลงในไส้ หยิบหมูสักนิดหน่อย ใส่ไมโครเวป ชิมรสตามชอบ จากนั้นจัดการยัดใส่ไส้ได้เลย หากต้องการความเผ็ดเยอะหน่อย โขลกพริกแห้งลงไปตามความชอบค่ะ ถ้าไม่ต้องการจะปิ้งใช้อบก็ได้อร่อยเช่นเดียวกันค่ะ ก่อนปิ้งหรืออบให้ใช้เข็มแหลม ๆ จิ้มไส้สักหน่อย ให้น้ำมันไหลออกเสมอ มิฉะนั้นจะทำให้ไส้อั่วแตกไม่สวย ไม่น่ากิน ส่วนเพื่อน ๆคนไหนไม่มีไส้หมูอย่าท้อใจไปนะค่ะ เราทำแบบไรไส้อย่างจานข้างล่างนี้ค่ะ***






ขนมโมจิ

ขนมโมจิถ้าจะพูดไปแล้วต้นตำรับเป็นของญี่ปุ่น แต่คนไทยเอามาดัดแปลงให้เป็นแบบไทย ๆ แหล่งขนมโมจิดัง ๆ ก็ต้องเป็นนครสวรรค์ผ่านไปต้องซื้อหาติดมาด้วยเป็นประจำ นกละคิดถึงขนมโมจิตั้งใจจะทำอยู่หลายวันแล้วละค่ะ แต่ติดที่ไส้ถั่วกวน เพราะลืมซื้อถั่วทุกที่ ครั้งนี้ไปช๊อปฯ นกเขียนรายการที่ต้องการไปเลย พอได้ถั่วเขียวก็จัดการแช่น้ำเลย ได้ของครบแล้วลงมือทำขนมโมจิกินกับกาแฟยามบ่ายในวันที่ฝนตกลมแรง ได้อะไรกินอะไร อร่อยๆ ทำให้มีความสุขไปได้เหมือนกันเพื่อน ๆ ว่าจริงๆไม่ค่ะ




ส่วนผสม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 300 กรัม
นมข้นหวาน 150 กรัม
น้ำตาลทรายละเอียด 50 กรัม
Bicarbonate of soda 1 ชช
Baking powder 1 ชช
Vanilla extract 1 ชช (ถ้ามี)
เนยจืดละลาย 50 กรัม
ไข่ไก่ตีให้ขึ้นฟู 1ฟอง
เกลือ หยิบมือ
แป้งสาลีอเนกประสงค์ สำหรับทำแป้งนวล
ไส้ถั่วกวน ปั้นเป็นลูกกลม ๆ ตามชอบ
ผลไม้เชื่อม/ผลไม้แห้งหั่นชิ้นเล็ก ตกแต่งหน้า ตามชอบ

วิธีทำ
1 ร่อนแป้งสาลี Bicarbonate of soda และเกลือ เข้าด้วยกัน 2 ครั้งพักไว้
2 ผสมน้ำตาลทรายกับนมสดในอ่างผสม คนให้น้ำตาลทรายละลายดี
3 ผสมเนยละลาย นม และไข่ไก่ลงในอ่างผสม ตามด้วยแป้งที่ร่อนแล้ว คนให้เข้าจนเป็นเนื้อเดียวกัน หากแป้งเนื้อเละให้ผสมแป้งเพิ่มที่ละนิดอย่าใส่เยอะจนเกินไป จากนั้นใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำบิดให้หมาด ๆ คลุมแแป้งพักไว้ ประมาณ 1 ชม
4 ครบกำหนด 1 ชม เอาแป้งมาแบ่งปั่นเป็นก้อนกลม ๆ ขนาดเท่า ๆกัน นวดให้เนียน แผ่งแป้งออกให้บาง บรรจุไส้ถั่วกวนห่อให้มิด วางบนถาดที่ทาด้วยเนยพร้อมอบ ตกแต่งหน้าด้วยผลไม้เชื่อม
5 นำขนมเข้าอบที่อุณหภูมิ 170 องศาซี ประมาณ 15 นาที หรือจนกระทั้งขนมสุกสวย

ไส้ถั่วกวน
ส่วนผสม
ถั่วเขียวนึ่งบดละเอียด 300 กรัม
น้ำตาลทราย 100 กรัม
น้ำกระทิ 150 กรัม

วิธีทำ
1 นำถั่วเขียวบดละเอียด น้ำตาลทราย น้ำกระทิ ใส่กะทะผสมเข้าด้วยกัน
2 ยกกะทะขึ้นตั้งบนเตา เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง กวนจนกระทั่งร่อนจากกะทะ ตักขึ้นจากเตาพักให้เย็น ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ พักไว้
3 นำแป้งที่เตรียมไว้ มาหุ้มไส้ให้เรียบร้อย

***หากต้องการใส่สีให้ใส่ช่วงทีผสมเนย นมและไข่ไก่ จะได้สีผสมที่เข้ากันจากนั้นใส่แป้งลงไป เวลาอบให้วางขนมให้ระยะห่างกัน เพราะขนมจะขยายตัว อบเสร็จแล้วขนมจะตัวขนมแข็งๆ ไม่ต้องตกใจ พักให้เย็นเก็บใส่กล่องเปิดฝาทิ้งไว้ตัวขนมจะนิ่มขึ้นมาเอง เท่านี้เราก็ได้ขนมโมจิหอมหวานอร่อยนุ่ม ๆ กินกับชา กาแฟยามบ่ายแล้วละค่ะ***





กะหล่ำปียัดไส้



ส่วนผสม
หมูสับ 350 กรัม
กะหล่ำปลีขนาดกลาง 1 หัว
วุ้นเส้น 1 กำมือ
กระเทียม4-5 กลีบ
รากผักชี 2 ราก
น้ำมันหอย 1 ขต
ซีอิ้วขาว 2 ชต
เหล้าจีน 1 ชช
ผักชี ต้นหอมหั่นหยาบ 3 ต้น
แครอทหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก 1/4 ถ้วย
เห็ดหอมหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก 3 ดอก
พริกไทย ตามชอบ

วิธีทำ :
1.เอาวุ้นเส้นแช่น้ำให้นุ่มหั่นเป็นท่อน ๆ พอเหมาะพักไว้
2.โขลกกระเทียม พริกไทย รากผักชี ให้ละเอียด จากนั้นนำไปผสมกับหมูสับ น้ำมันหอย ซีอิ้วขาว เหล้าจีน วุ้นเส้น ต้นหอม ผักชี แครอท และ เห็ดหอม จากนั้นนวดให้เข้ากันพักไว้ในตู้เย็น 15 นาที
3.นำกะหล่ำปลี มากเจาะตรงกลางให้เป็นช่องสำหรับยัดหมู เอาส่วนที่เจาะออกมาหั่นเป็นชิ้น ๆ พอคำไว้ใส่ในแกงจืด จากนั้นนำไส้ที่ผสมแล้วยัดใส่ลงไปในข่องกะหล่ำปลี
4.นำกะหล่ำปลีไปนึ่งสัก 10 นาที
5.เอาหม้อใส่น้ำตั้งบนเตาใช้ไฟแรง ต้มน้ำซุปให้เดือดปรุงรสตามชอบ จากนั้นใส่กะหล่ำปลีลงไปต้มต่อประมาณ 15 นาที ปิดไฟในเตาตักใส่ชามยกเสริฟกับข้าวสวยร้อย ๆ ได้เลยค่ะ

น้ำพริกมะม่วง

วันนี้นกทำอาหารยอดฮิตของคนไทย ทุก ๆ บ้านต้องมีแล้วแต่จะว่าใครจะชอบส่วนผสมอะไร แบบไหน สำหรับนกแล้ววันนี้เป็นมะม่วงค่ะ จริงๆแล้วต้องเป็นมะม่วงสามฤดู อยู่นี้จะหามะม่วงสามฤดูจากไหน แต่ถ้าเป็นมะม่วงลูกโต ๆ เปรี้ยวๆพอจะหาแก้ขัดกันได้ค่ะ ว่าแล้วลงมือกันเถอะค่ะเพื่อน ๆ



ส่วนผสม
มะมว่งดิบขนาดใหญ่ 1 ลูก
กะปิ 2 ชช
กระเทียม 5-6 กลีบ
พริกขี้หนูสด ตามชอบ
กุ้งแห้งป่น ตามชอบ (วันนี้นกใช้ประมาณ 1/4 ถ้วย)
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำตาลปี๊บ 2 ชช
วิธีทำ
1.ล้างมะม่วงให้สะอาด จากนั้นปอกเปลือกและสับเป็นเส้นๆ ล้างใส่กระชอนพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2.โขลกพริกขี้หนู,กะเทียม,หอมแดง,ให้ละเอียดตามชอบ ใส่กุ้งแห้งและกะปิ โขลกรวมกับพริกขี้หนู โขลกให้เข้ากัน จากนั้นใส่มะม่วงลงไปโขลกรวมกันอีกครั้ง โขลกไม่ต้องให้ละเอียด
3.ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ,น้ำปลา,ชิมรสตามชอบ จากนั้นตักใส่ถ้วยเสริฟคู่ผักสดได้เลย

***ถ้าหากมะม่วงไม่เปรี้ยวพอให้บีบมะนาวช่วยนะค่ะ แต่ของนกวันนี้เปรี้ยวพอแล้วค่ะ***

หอยจ้อ

เมนูนี้คิดไว้อยู่นานที่เดียว แต่ยังหาเครื่องปรุงที่สำคัญไม่ได้สักที่ โชคดีอาทิตย์นี้แฟนคลับหยุดพักร้อนยาว เลยมีเวลาขับรถพาไปดูที่ร้านค้าจีนต่างเมืองออกไป ร้านใหญ่มากๆ อยู่ติดถนนใหญ่หาง่าย ขายเครื่องปรุงจากเอเซียเรียกว่าเกือบครบก็ว่าได้ นกเลยได้ฟองเต้าหู้มาทำหอยจ้อ ตอนซื้อแฟนคลับก็ถามว่ามันคืออะไรเอาไปทำอะไร อธิบายกันยาวยังไม่รู้ว่าจะชอบหรือไม่ชอบดี นกตัดปัญหากลับถึงบ้านจัดการเสียเลย แล้วเป็นดังที่คิดไว้จริงๆ ว่าแฟนคลับต้องชอบเมนูนี้ ฟองเต้าหูที่นกซื้อมา 1แพคทำได้เยอะที่เดียวเลยละค่ะ นกทอดเอาพอกิน1 มื้อ ที่เหลือเก็บเข้าช่องแช่แข็งไว้กินวันต่อไป




ส่วนผสม
เนื้อหมูบดติดมันเล็กน้อย 500กรัม
เนื้อกุ้งสับละเอียด 350 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง
รากผักชี 3-4 ราก (ไม่มีใช้ก้านผักชีแทน)
กระเทียม 7-8 กลีบ
เกลือ 1 ชช
พริกไทยดำ 1/2 ชช
แป้งมัน 3 ชต
เหล้าจีน 2 ชต
ซีอิ๊วขาว 3 ชต
เกลือป่น 1/2 ชช
ต้นหอมผักชีซอย 4-5 ต้น
ฟองเต้าหูสำหรับห่อ 1 แพค
น้ำมันพืช สำหรับทอด
เชือกผ้าฝ้าย สำหรับมัด

วิธีทำ
1.โขลกกระเทียม, รากผักชี, เกลือและพริกไทยเข้าด้วยกันจนละเอียดใส่ส่วนผสมที่โขลกเตรียมไว้ลงไปผสมกับเนื้อกุ้งสับ, เนื้อหมูสับ, แป้งมัน, ไข่, ซีอิ๊วขาว, เหล้าจีน, ต้นหอมและผักชี นวดจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี พักไว้ในตู้เย็น 15 นาที
2.นำฟองเต้าหู้ไปแช่น้ำให้พอนิ่ม จากนั้นจึงนำมาแผ่ขยายตามขนาดที่ต้องการ (ฟองเต้าหูของนกเป็นขนาดกำลังดีไม่ต้องมาตัดอีก บางยี่ห้อต้องนำมาตัดเพราะมันใหญ่มากเกินไป ถ้าจะตัดให้ตัดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ากะขนาดให้พอเหมาะตามต้องการ)
3. ตักส่วนผสมที่นวดจนเข้ากันดีแล้วในข้อหนึ่งไปวางบนฟองเต้าหู้ ม้วนส่วนผสมเข้าด้วยฟองเต้าหู้ เสร็จแล้วมัดหัวและท้าย จากนั้นมัดเป็นปล้องตรงกลางให้แน่น แบ่งให้แต่ละปล้องหนาเท่า ๆ กันประมาณ 1 1/2 นิ้ว ห่อไปจนหมด
4.นำไปหอจ้อไปนึ่งประมาณ 10-15 นาทีหรือจนกระทั้งสุกดี พักให้เย็นนำมาตัดออกเป็นปล้องๆ ตามที่ได้มัดไว้ จากนั้นนำไปทอดในน้ำมันร้อนจัด เวลาทอดใส่น้ำมันให้เยอะหน่อย ทอดจนเหลืองกรอบสวยจึงตัก ขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานสริฟพร้อมน้ำจิ้มเป็นของกินเล่นหรือกับกินกับข้าวก็ดีอร่อยเช่นเดียวกันค่ะ

***แฟนคลับนกไม่กินปู สูตรที่เห็นเลยไม่มีปู แต่ถ้าจะใช้เนื้อปูก็ใช้ประมาณ 150 กรัม และลดปริมาณเนื้อกุ้งสับลงไปเท่ากับจำนวนเนื้อปูที่ใช้***

เห็ดนึ่ง





ส่วนผสม
เห็ดแชมปิญองขนาดกลาง ๆ ตามชอบ
หมูสับ 250 กรัม
กุ้งสับ 150 กรัม
วุ้นเส้นแช่น้ำหั่นเป็นท่อนๆ 1 กำมือ
ต้นหอมผักชีหั่นซอย 1/4ถ้วย
แครอทหั่นเป็นลูกเต๋าเล็ก ๆ 1/2 ถ้วย
เห็ดหอมแช่น้ำหั่นเป็นลูกเต๋าเล็ก ๆ 4-5 ดอก
ชีอิ้วขาว 2 ชต
น้ำมันหอย 2 ชต
พริกไทยป่น 2 ชช
แป้งมัน 1 ชต
เหล้าจีน 1 ชต

วิธีทำ
1.คลุกส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน แล้วนำไปพักไว้ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที
2.ล้างเห็ดให้สะอาดจากนั้นเอาแป้งมันโรยใต้ท้องเห็ดสักนิดเวลาใส่หมูลงไปนึ่งจะได้อยู่ตัว
3.เอาหมูสับใส่ลงไปในเห็ด จากนั้นเอาไปนึ่งจนกระทั้งหมูสุกตักใส่จานแต่งด้วยใบผักชี เสริฟกินกับข้าวสวยร้อย ๆ หรือจะกินเป็นอาหารว่างก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ

***เวลานึ่งไม่ต้องเติมน้ำ เพราะเดี่ยวน้ำเห็ดจะออกมาเอง***

แกงคั่วมะระกุ้ง



ส่วนผสม
มะระ ขนาดกลาง 2 ลูก (ประมาณ ครึ่งโล)
กุ้งสด 350 กรัม
น้ำพริกแกงคั่ว 2 ชต
กะทิ 1 กล่อง (แยกหัวกะทิ หางกะทิ)
ใบมะกรูด ตามชอบ
น้ำปลา 2 ชช
น้ำตาลปี๊ป 1 ชช
น้ำเปล่า เล็กน้อย

วิธีทำ
1.นำมะระมาผ่าครึ่ง คว้านไส้เอาเมล็ดและเยื่อขาวๆออก หั่นบางๆตามขวางของลูก จากนั้นนำไปเคล้าเกลือ ทิ้งไว้ให้ความขมออกสักประมาณ 5-10 นาที แล้วนำมาขยำเบาๆล้างออกด้วยน้ำเปล่าอีกครั้งจากนั้นพักไว้
2.กุ้งสดนำมาล้างให้สะอาด ปลอกเปลือกกุ้ง ผ่าหลังเอาเส้นดำออกพักไว้ พักไว้
3.ตั้งกระทะบนเตาใช้ไฟร้อนปานกลางใส่หัวกะทิ น้ำพริกแกงลงไปผัด ผัดไปเรื่อยๆจนกะทิแตกมันหอม จากนั้นเติมกะทิส่วนที่เหลือและน้ำเปล่า ต้มให้เดือดสักครู่ จากนั้นใส่กุ้ง มะระ และใบมะกรูดลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊ป ชิมรสตามชอบอีกครั้ง เดือดอีกครั้ง ปิดไฟในเตายตักใส่ถ้วยพร้อมเสริฟคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือขนมจีนได้เลยค่ะ

***สำหรับคนที่ชอบน้ำแกงข้น ๆ ก็ไม่ต้องเติมน้ำเปล่าลงไป ของนกชอบกินน้ำแกงเลยใส่น้ำลงไปมากหน่อยนะค่ะ***

ลูกชุบ

ครั้งแรกกับการประดิษฐ์ประดอยทำขนมลูกชุบ ขอบอกว่าประทับใจสุด ๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะทำออกมาได้ดีขนาดนี้ อยู่เมืองไทยได้แต่ซื้อเค้า หยิบกินไม่กี่ที่ก็หมด เคยคิดสงสัยคงทำยากเลยแพง แต่มาถึงวันนี้ นกคิดว่ามันไม่ได้ยากอย่างที่คิดเอาไว้เลย เพียงแต่ต้องอดทนกับขั้นตอนในการทำเท่านั้นเอง



ส่วนผสม
ถั่วเขียวเราะเปลือก 400 กรัม
กะทิกระป๋อง 2 กระป๋อง
น้ำตาลทราย 2 1/2 ถ้วย
วุ้นผง 2 ชช
น้ำลอยดอกมะลิ 2 ถ้วย (นกไม่มีเลยใชกลิ่นมะลิแทน)
ไม้เสียบลูกชิ้น
สีผสมอาหาร
พู่กัน
จานผสมสี

วิธีทำ
1. ล้างถั่วให้สะอาด แช่น้ำประมาณ 2-3 ชั่วโมง จากนั้นนำถั่วที่แช่มานึ่งให้สุก (สังเกตว่าเม็ดถั่วจะบานๆออกมาก็ใช้ได้แล้วค่ะ)
2. นำกะทิผสมถั่วนึ่งสุก แบ่งลงปั่นในเครื่องปั่นให้ละเอียด
3. ตั้งกระทะบนเตาใช้ไฟร้อนค่อนข้างแรงจากนั้นเทถั่วปั่นลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย ตั้งไฟให้เดือด กวนตลอดเวลา พอเริ่มเหนียวให้ลดไฟให้เบาลงเคี่ยวไปจนกว่าถั่วจะแห้งร่อนไม่ติดกระทะ เสร็จแล้วยกลงจากเตาปล่อยให้เย็น จนพอปั้นได้จึงนวดให้เข้ากัน จากนั้นนำมาปั่นตามรูปที่ต้องการ แล้วเสียบลงบนไม้เสียบลูกชิ้นรอไว้
4. เมื่อปั้นจนแป้งหมดแล้ว ก็ระบายสีตามชอบ ระบายสีเสร็จก็เริ่มนำไปชุบวุ้น (ให้เรียงลำดับไปทีละแถว ทำอย่างน้อย 2-3รอบ หรือทำจนวุ้นเคลือบได้เงาหนาสวย) ทิ้งไว้จนวุ้นจับตัวได้ที่เอาออกจากไม้เสียบลูกชิ้นจัดใส่จานเสริฟได้เลยค่ะ

***วิธีทำวุ้น ให้ผสมวุ้นกับน้ำกลิ่นมะลิหยดลงในหม้อ คนให้เข้ากัน จากนั้นนำขึ้นตั้งบนเตาใช้ไฟกลาง คนตลอดเวลาจนกระทั่งวุ้นใสเป็นมัน เหนียวพอติดพาย ก็เป็นอันใช้ได้ ลดให้เหลือไฟอ่อนๆ พอให้วุ้นอุ่น ๆ***

น้ำพริกมะเขือเทศ

น้ำพริกกับคนไทยนี้ขาดจากกันไม่ได้จริง กินอาหารอะไร ๆ ก็ไม่อร่อยเท่ากินน้ำพริกเผ็ดคลุกกับข้าวร้อน ๆ เพื่อน ๆ คิดเหมือนกับนกไม่ค่ะ คนไทยส่วนใหญ่จะไม่อดน้ำพริก ไปเที่ยวบ้านไหน ทุก ๆ บ้านมักจะทำติดตู้กับข้าวไว้เสมอ หรือแม้กระทั้งไปกินข้าวตามร้านข้าวแกง เรามักจะเห็นมีถ้วยน้ำพริกและผักสดเสริฟบริการให้ลูกค้ากินฟรีไม่คิดเงินเช่นเดียวกัน แล้วคนไทยอย่างเรามาอยู่ต่างแดนน้ำพริกจะตัดขาดกันได้อย่างไร ที่บ้านทำครั้งหนึ่งก็จะทำไว้เยอะตักใส่ขวดปิดฝามิดชิดเก็บใส่ตู้เย็นกินได้หลายวันเลยละค่ะ




ส่วนผสม
มะเขือลูกเล็ก 10-12 ลูก (หรือมะเขือเทศสีดา)
พริกขี้หนู ตามชอบ
หอม 2 หัว
กระเทียม 6-8 กลีบ
กะปิ 2 ชช
กุ้งแห้งโขลกละเอียด 2-3 ชต
น้ำตาล 1 ชต
น้ำปลา 1 ชต
น้ำมะนาว2 ลูก

วิธีทำ
1. นำมะเขือเทศ พริกขี้หนู หอม กระเทียม เข้าเตาอบ หรือ เตาเผาให้ทุกอย่างสุกหอม แล้วนำไปโขลกพักพักไว้
2.ใส่โขลกกุ้งแห้งลงผสมให้เข้ากัน แล้วใส่กะปิ น้ำตาลโขลกให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้น ใส่น้ำปลา มะนาว ชิมรสให้กลมกล่อมตามชอบแล้วตักใส่ถ้วยเสริฟคุ่กับ ผักสดได้เลยค่ะ

***วันนี้ไม่ได้วางแผนไว้ก่อน นกมีไข่เจียวแครอท ทานคู่กับน้ำพริก ถ้ามีปลาเค็ม หรือปลาทอดขมิ้น ต้องอร่อยมากว่านี้แน่น ๆ เลย***

ขนมปังฝรั่งเศส


ส่วนผสม
แป้งขนมปัง 3 ถ้วย (Strong White Flour)
ยีส 1 ซอง (7 กรัม)
น้ำอุ่น 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 2 ชต
Olive Oil 2 ชต (ถ้าไม่มีใช้น้ำมันพืชทั่วไปก็ได้ค่ะ)
เกลือ 1 ชช
ไข่ผสมน้ำเจือจาง เอาไว้ทาขนมปัง (จะทาก็ได้ไม่ทาก็ได้ค่ะ)

วิธีทำ
1. ใส่น้ำอุ่นใส่แก้ว ใส่ยีสต์ และน้ำตาลลงไปจากนั้นคนให้เข้ากันพักไว้ให้ยีสต์ทำงาน (ประมาณ 5นาที )
2.ใส่แป้งลงในอ่างผสมจากนั้นทำหลุมตรงกลาง เทส่วนผสมยีสต์ลงไป ค่อยๆตะล่อมแป้ง นวดให้เป็นเนื้อเดียวกันจนเนียน เมื่อแป้งเนียนได้ที่เอาออกจากอ่างผสม คลึงแป้งเป็นลูกกลม ๆ
3.หาอ่างผสมอีกใบ ทาเนยให้ทั่วอ่าง แล้วใส่แป้งที่เรานวดคลึงเป็นก้อนกลมๆลงไปในอ่าง หาผ้าสะอาด หรือพาสติกมาคลุมไว้ จากนั้นนำอ่างแป้งไปวางไว้ในที่อุ่นๆ พักจนแป้งขึ้นเป็นสองเท่า (หมักทิ้งไว้ประมาณ 1 ชม)
4.เมื่อแป้งขึ้นเต็มที่ ให้เอากำปั้นกดแป้งลงไปไล่ลม แล้วหยิบแป้งขึ้นมาคลึงทำเป็นก้อนกลมๆรีๆ จากนั้นเอาแป้งวางบนถาดสำหรับที่จะนำเข้าเตา หมักแป้งต่ออีกเป็นให้แป้งจะขึ้นเป็นสองเท่า (ประมาณ 45-50 นาที)5.ระหว่างที่หมักแป้งเปิดเตาอบที่ 170 C พอแป้งขึ้นเต็มที่แล้ว ใช้มีคคม ๆ กรีดขนมปังสามกรีด
แล้วทาด้วยไข่ผสมน้ำเจือจาง นำเข้าเตาอบ อบขนมปังไปนานประมาณ ๒0 นาที หรือจนขนมปังเป็นสีน้ำตาลสวย จากนั้นเอาออกจากเตาอบ พักบนตะแกง พร้อมเสริฟได้เลยค่ะ

***วันนี้นกทำสองแบบ ธรรมดา กับโรยงา ถ้าต้องการจะโรยงาให้โรยหลังจากทาไข่ผสมนม จากนั้นเอาเข้าเตาอบได้เลย***


ข้าวเหนียวถั่วแดงต้มกระทิ

ถั่วแดงเม็ดโต ที่นี้เรียกว่า Red Kidney Beans นกซื้อเอาไว้นานแล้วละค่ะ คนที่นี้เค้าเอาปรุงอาหารชื่อ Chili Con Carne แต่นกไม่กินเนื้อ เลยไม่ได้ทำ ตอนที่ซื้อกะจะลองเอามาทำถั่วแดงกวน ไว้ทำซาลาเปาไส้ถั่วแดง แต่ไป ๆ มา ๆ ไม่ได้ทำสักกะที อยู่ในตู้นานแล้วเลยเปลี่ยนใจมาเป็นข้าวเหนียวถั่วแดงดีกว่า เหตุผลหรือค่ะ เพราะความยากเหมือนเดิมงานนี้กินคนเดียวตามระเบียบ แฟนคลับนกไม่ชอบขนมหวานไทยบอกว่ามันแปลก ๆ แปลกตรงไหนยังหาคำตอบไปได้สักที่ อ๋อเกือบลืมไปค่ะ ถั่วแดงที่นี้เม็ดโตมาก ๆ ไม่เหมือนถั่วแดงหลวงอย่างบ้านเราหรอกค่ะ รสชาดต่างกันไม่ บอกได้ว่าต่างกัน อร่อยไปคนละแบบ เพื่อนๆ ลองทำดูนะค่ะ


ส่วนผสม
กะทิสำเร็จรูป 1 1/2กระป๋อง
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย

เกลือป่น หยิบมือ
ถั่วแดงต้มสุก 2 ถ้วย
ข้าวเหนียวมูน 2 ถ้วย

น้ำเปล่า เล็กน้อย ( จะใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้)


วิธีทำ
1.เอากะทิสำเร็จรูป น้ำตาล น้ำ และเกลือป่น ใส่หม้อนำขึ้นตั้งไฟใช้ไฟแรงพอน้ำกระทิเดือด เติมถั่วแดงต้มสุกลงไป คนให้เข้ากัน ชิมรสหวานตามชอบอีกครั้ง เดือดอีกครั้งปิดไฟในเตาพักไว้
2 ตักข้าวเหนียวมูนใส่ถ้วย ราดด้วยถั่วแดงต้มกะทิที่เตรียมไว้ ยกเสริฟได้เลยค่ะ จะทานตอนร้อน ๆ หรือเย็นตามชอบ


*** น้ำเปล่าใส่เล็กน้อยถ้ากะทิข้นเกินไป ส่วนข้าวเหนียวถ้าไม่ชอบข้าวเหนียวมูล จะใช้ข้าวเหนียวนึ่งก็ได้เช่นเดียวกัน***


กล้วยหอมทอด สูตรแป้งสาลี


ส่วนผสม 
กล้วยหอมสุกผ่าครึ่ง 5 ผล 
แป้งสาลี 1 ถ้วย 
ไข่ไก่ 1 ฟอง 
น้ำตาลทราย 2 ชต
น้ำมันเนยละลาย 3 ชต 
ผงฟู 1 ชช 
น้ำมันพืช 2 ถ้วย 
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย

วิธีทำ 
1. ตอกไข่ใส่ชามผสมก้นลึก ตามด้วยน้ำตาลทราย เนยละลาย ผงฟู ตีส่วนผสมทั้งหมดให้ละลายเข้ากัน
2. ใส่แป้งสาลีลงไป ค่อยๆ เทน้ำเปล่าที่ละนิดลงไปตีแป้งให้ละลายกับน้ำแล้วก็หยุดเติมน้ำ ระวังอย่าให้แป้งเหลวจนเกินไป 3. เอาน้ำมันใส่กระทะตั้งบนเตาใช้ไฟค่อนข้างแรง พอน้ำมันร้อนเบาไฟใฟ้เหลือปานกลาง นำกล้วยหอมลงชุบกับแป้ง แล้วทอดในน้ำมันจนกระทั้งสุกเหลืองสวย จากนั้นตักใส่จานเสิร์ฟร้อนๆ พร้อมน้ำตาลไอซิ่ง หรือ น้ำผึ้ง ตามชอบ


ขนมหัวล้าน

นกไม่รู้ว่าที่อื่นเรียกขนมนี้ว่าอะไรกันบ้าง แต่ที่บ้านนกเรียกว่าขนมหัวล้าน เป็นขนมของทางปักษ์ใต้ ขนมหัวล้านนี้จะนึ่งหรึอต้มแล้วนำไปราดน้ำกระทิ แล้วแต่ใครจะถนัดแบบไหน นอกจากราดน้ำกระทิแล้ว บางคนก็จะนำไปทอด ถ้านำไปทอดจะเรียกว่าขนมหัวล้านทอด หรือขนมมด



ส่วนผสมไส้
ถั่วเขียวเราะเปลือก 1 ถ้วย
น้ำตาล 1 ถ้วย
น้ำกะทิ 1 ถ้วย
เกลือ หยิบมือ

ส่วนผสมตัวแป้ง
แป้งข้าวเหนียว 250 กรัม
น้ำอุ่น 1 ถ้วย (ค่อยๆรินใส่นะคะ ถ้าไม่พอให้เติมน้ำลงไปอีก)

ส่วนผสมกะทิสำหรับราดขนม
หัวกะทิ 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 2ชต
เกลือ หยิบมือ

วิธีทำ
1.ล้างถั่วให้สะอาด แช่น้ำค้างคืนไว้ 1 คืน พอครบกำหนดนำถั่วที่แช่น้ำล้างให้สะอาดจากนั้นนำไปนึงให้สุกพักไว้ให้เย็น
2. นำถั่วที่นึ่งสุกแล้วมาบดให้ละเอียด จากนั้นนำถั่วที่บดละเอียดใส่ลงในหม้อพร้อมกับกะทิ น้ำตาล และเกลือ กวนส่วนผสมให้เข้ากันจนเหนียวจนสามารถปั้นได้ จากนั้นยกลงจากเตาพักไว้ให้เย็น แล้วปั้นเป็นก้อนกลมขนาดเล็กใหญ่ตามชอบ ใส่จานพักไว้เป็นไส้
3.นวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำอุ่น นวดจนกระทั้งแป้งไม่ติดมือ ปั้นเป็นก้อนๆไว้สำหรับห่อ จากนั้นไส้แล้วห่อไส้ให้เรียบร้อย พยายามให้แป้งหนาสักหน่อย จะได้ห่อง่าย พอห่อไส้ครบทุกลูกแล้ว ให้เอาหม้อใส่น้ำ พอน้ำเดือดเอาขนมลงต้ม ขนมลูกที่สุกแล้วจะลอยน้ำขึ้นมา ตักขึ้นใส่ถ้วยพักไว้
4. ทำน้ำกะทิสำหรับราดขนม ให้เอากะทิ น้ำตาล และเกลือ ใส่หม้อ ตั้งบนเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรง คนให้น้ำตาลละลาย ชิมรสตามชอบ พอน้ำกะทิเดือดเปิดไฟในเตาพักไว้ จากนั้นตักขนมใส่ถ้วยราดด้วยน้ำกะทิยกเสริฟได้เลย จะทานร้อน หรือเย็นก็ได้ตามชอบ

ผัดขนุนอ่อน / ตำขนุน (ตำบ่าหนุน)

แฟนคลับมีวันหยุดพักผ่อนหลายวันเลยมีเวลาว่างไปร้านค้าจีนที่อยู่อีกเมืองหนึ่ง ก่อนไปจดรายการของที่ต้องการไว้เสร็จ แต่พอไปถึงที่ร้านเท่านั้น โอโห้มีเยอะกว่าที่เราคิดเสียอีก นกไม่พลาดโอกาส จัดการขนซื้อเสียหลายอย่าง บางอย่างไม่มีในรายการก็ได้มาเพราะความยาก อย่างเจ้าขนุนที่เอามาผัดขนุน (ตำขนุน หรือตำบ่าหนุน) นี้ก็เหมือนกัน ขอโปรดเลยที่เดียว แม่เท่านั้นที่จะช่วยเหลือเราได้ รุ่งขึ้นโทรถามสูตรจากแม่เลย ได้สูตรเสร็จแล้วดูส่วนผสมว่ามีอะไรบ้างสาย ๆ จะได้ออกไปซื้อวันนี้ต้องสนองความอยากให้ได้ โชคดีจังเลยส่วนผสมมีครบ นั้นก็จัดการเสียเลยค่ะ




ส่วนผสม
ขนุนอ่อน 400 กรัม
หมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย
พริกแกงเผ็ด 2 ชต
น้ำมันพืชเล็กน้อย
ใบมะกรูดซอย
น้ำปลา 1 ชต
น้ำตาลทราย ตามชอบ

วิธีทำ
1.นำขนุนอ่อนมาหั่นเป็นชิ้นๆ พอคำ จากนั้นเอาหม้อใส่น้ำตั้งบนเตา เปิดไฟปานกลางค่อนข้างแรก พอน้ำเดือนใส่ขนุนอ่อนลงต้ม ต้มจนสุกแล้วเอามาโขลกพอหยาบ ๆ ไม่ต้องละเอียดมาก เสร็จแล้วพักไว้
2.ตั้งกระทะบนเตาใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันเล็กน้อย พอน้ำมันร้อน เอาพริกขี้หนูแห้งลงไปทอดพอสุกสวย ตักใส่จานพักไว้
3.ใช้กระทะใบเดิม เพิ่มน้ำมันลงไปอีกเล็กน้อยสำหรับผัดขนุน จากนั้นเอาพริกแกงเผ็ดลงผัดให้พอหอม ใส่หมูสามชั้นลงไปผัดต่อจนหมูสามชั้นเริ่มสุก เอาขนุนที่โขลกไว้ลงผัด ให้เข้ากับพริกแกง ใส่ใบมะกรูดหั่นฝอย น้ำปลา น้ำตาล ชิมรสตามชอบ ผัดให้ทุกอย่างเข้ากันกับเนื้อขนุนเสร็จแล้ว ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วย พริกขี้หนูทอด เสริฟคู่กับข้าวสวยหรือ ข้าวเหนียวร้อน ๆ



ฟักทองนมสม (Butternut Squash)

นกกลัวว่าเพื่อน ๆ ยังหวานกันไม่เต็มที่ วันนี้เลยทำของหวานอีกเมนูค่ะ แต่เปลี่ยนจากกระทิมาเป็นนมสด เอาใจเพื่อนสมาชิกที่ไม่ชอบกระทิกันนะค่ะ แต่สำหรับนกแล้วอะไรก็ได้ชอบเหมือนๆ กันนะค่ะ จะว่าไปแล้วเมนูนี้อุดมไปด้วยสารอาหารจริง ๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นฟักทอง หรือ นมสด โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟักทองมีสารเบต้าแคโรทีน ช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็ง พูดเสียเยอะอยากรู้แล้วใช้ไม่ละว่าปรุงกันอย่างไร



ส่วนผสม
ฟักทอง (butternut squash ) หั่นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย
นมสด 1 1/2 ถ้วย
น้ำตาล 1/2 ถ้วย
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
เกลือ (หยิบมือ

วิธีทำ
1.เอาน้ำใส่หม้อ ตั้งไฟร้อนปานกลาง พอน้ำเดือดใส่น้ำตาลลงคนให้ละลาย
2.นำฟักทองที่หั่น นมสด เกลือ ใส่ลงในหม้อต้มจนฟักทองสุก ชิมรสตามชอบ จากนั้นปิดไฟในเตาตักใส่ถ้วยยกเสริฟได้เลยคะ

บวดคง (บวดข้าวโพด)

นานแล้วละค่ะที่นกไม่ได้ทำขนมหวานไทยเลย ช่วงนี้หนาวเลยทำแต่พวกซุปเสียส่วนใหญ่ อยู่ ๆ คิดถึงของหวานเสียเหลือเกินโดยเฉพาะ พวกใส่น้ำกระทิ ยิ่งเป็นกระทิคั่นสด ๆ ละก็ได้ใจเลยละ แต่นั้นละมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอย่างนี้จะหาจากไหนนอกจากกระทิกระป๋องเท่านั้นละ คิดแล้วกลุ้ม ว่าแล้วเข้าครัวเถอะค่ะ





ส่วนผสม
ข้าวโพดแกะเม็ด 1 กป
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
กะทิ 1 กป (แยกหัวกระทิ หางกระทิ)
เกลือป่น หยิบมือ
วิธีทำ
1. เอาหม้อใส่หางกระทิตั้งบนเตา ใช้ไฟแรง คนจนไปเรื่อย ๆ จนกระทั้งกระทิเดือด
2.ใส่ข้าวโพดลงไปต้มประมาณ 10 นาที ใส่น้ำตาลทรายต้มจนน้ำตาลละลาย
3. ใส่หัวกระทิ และเกลือ ลงไปชิมรสหวานตามชอบ ต้มให้เดือดสักพักปิดไฟในเตาตักใส่ถ้วยยกเสริฟได้เลย

***ความหวานแล้วแต่ใครจะชอบหวานมากหวานน้อยนะค่ะ สูตรที่นกให้กำลังพอดีกับความหวานแบบปานกลางนะค่ะ (เอารสตัวเองเป็นหลักนะค่ะ) ถ้าต้องการหวานเยอะเพิ่มน้ำตาลลงไปอีกนะค่ะ***

แกงจืดปลาหมึกยัดไส้

ช่วงนี้อากาศที่บ้านเริ่มหนาวแล้วละค่ะ ได้อะไรร้อน ๆ ชดคล้องคอน่าจะดี ปลาหมึกนี้นกซื้อมาชุปแป้งทอดกรอบให้แฟนคลับ เป็นเมนูปลาหมึกอย่างเดียวที่แฟนคลับกินค่ะ ถ้าเอาไปทำเมนูอย่างอื่นบอกลา กลุ้ม ไม่คิดจะเปลี่ยนเมนูมัง ปลาหมึกนี้นกทอดไปจานใหญ่แล้ว ยังเหลืออยู่เลยเอามาแกงจืดเสียเลย ปลาหมึกที่นี้ไม่สดใสเหมือนบ้านเราหรอกค่ะ เค้าลอกลอกเยื่อบาง ๆ ออกหมดใส่ถุงแช่แข็งมาเสร็จ ถ้าซื้อที่บ้านเรา ก็ต้องเลือกที่เนื้อแน่น ไม่เละ ไม่มีกลิ่นฉุน ๆ ตาใส ปลาหมึกมี 2 ประเภท คือปลาหมึกกล้วย และ ปลาหมึกกระดอง ที่นกทำเป็นปลาหมึกกล้วยส่วนใหญ่ใช้แกงจืด ส่วนปลาหมึกกระดอง ส่วนใหญ่จะใช้ปิ้ง ผัด หรือไม่ก็ยำ นะค่ะ




ส่วนผสม
ปลาหมึกตัวขนาดพอเหมาะ ประมาณ 6-8 ตัว
หมูสับ 250 กรัม
แครอทหั่นลูกเต๋าเล็กๆ 1 ถ้วย (แบ่งออกเป็น 2 ส่วน)
ต้นหอม หั่นหยาบ 2 ต้น
วุ้นเส้น แช่น้ำจนนิ่ม หั่นเป็นท่อนประมาณ 1 กำมือ
เห็ดหอม หั่นเป็นลี่เหลี่ยมลูกเต๋า 3-4 ดอก
รากผักชี 2 ราก
กระเทียม 3-4 กลีบ
น้ำต้มกระดูกไก่ พอประมาณ
ต้นหอมผักชี หั่นหยาบๆโรยหน้า ตามชอบ
น้าปลา 1-2 ชต
ซีอิ้วขาว 2 ชต
พริกไทยป่น ตามชอบ

วิธีทำ
1. โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทยให้ละเอียด คลุกเคล้ากับหมูสับให้เข้ากัน ใส่ซีอิ๊วขาว วุ้นเส้น ต้นหอมหั่นหยาบ และแครอทส่วนที่หนึ่งลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง นำเข้าตู้เย็นหมักให้ส่วนผสมเข้ากัน ประมาณ 30 นาที
2. ให้นำปลาหมึกไปล้างให้สะอาด ดึงหัวดึงไส้ออกออก ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ นำผสมหมูที่หมักไว้ยัดลงไปในตัวปลาหมึก เอาแค่พอให้ปลาหมึกอ้วนๆ ไม่ต้องถึงกับแน่นเต็มท้อง จากนั้นบั้งปลาหมึกเป็นริ้วๆ พักไว้
3. เอาหม้อน้ำซุปตั้งบนเตาเปิดไฟค่อนข้างแรง รอจนกระทั้งน้ำซุปให้เดือด ใส่แครอทส่วนที่สอง ปลาหมึกลงไปในหม้อ ใส่น้ำปลาลงไป ชิมรสตามชอบอีกครั้ง ต้มจนปลาหมึกสุก ( (อย่าต้มนานนะค่ะ เดี่ยวปลาหมึกเหนียวไม่อร่อย) จากนั้นปิดไฟในเตาตักใส่ชาม โรยด้วยผักชี ยกเสริฟ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ได้เลยค่ะ



แตงกวาผัดไข่ (แตงกวาพ่อปลูก)

นกไปบ้านพ่อแม่แฟนคลับมาค่ะ พ่อเก็บแตงกวามาให้หลายลูกเลยค่ะ ตอนรับมามีเมนูไว้ในใจแล้วว่าจะทำเมนูอะไรดี เพราะทำกินคนเดียว ไม่ต้องนึกถึงแฟนคลับ เค้าไม่กินแตงกวา เมนูนี้นึกอยากมาหลายวันแล้ว นกจำได้เด็ก ๆ แม่ผัดให้กิน ในจานผัดจะมีน้ำผัดเยอะหน่อย ผัดให้ออกรสหวานนิด ๆ ตักราดข้าวบนสวยร้อน ๆ บอกได้คำเดียวอร่อยสุด ๆๆ เมนูนี้ถ้าบ้านไหนมีเด็ก ๆ แล้วละก็ลองทำดูนะค่ะ นกรับรองว่าเด็ก ๆ ต้องกินข้าวได้เยอะกว่าปกติแน่นนอนค่ะ (จริง ๆ นะไม่เชื่อลองดู)



ส่วนผสม
แตงกวา ตามชอบ (นกใช้ 2 ลูก)
ไข่ไก่ 2 ฟอง
กระเทียมสับละเอียด 5-6 กลีบ
ซีอิ้วขาว 2-3 ชต
น้ำตาล 1 ชช
น้ำมันสำหรับผัด

วิธีทำ
1.แตงกวาล้างปอกเปลือกออกผ่าซีกหั่นเฉียงบางหนาตามชอบ ตอกใส่ชามตีให้ไข่แตกพักไว้
2.นำกะทะตั้งไฟให้กะทะแห้ง ใ่ส่น้ำมันลงไป รอน้ำมันร้อนใส่กระเทียมลงไปเจียว
3.ใส่แตงกวาลงไป ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว น้ำตาล ชิมรสตามชอบผัดแตงกวาพอเริ่มเปลี่ยนสีเขี่ยแตงกวาไวด้านหนึ่ง ใส่ไข่ลงไปรอจนไข่เริ่มสุก จากนั้นเขี่ยแตงกวาลงมาผัดให้เข้ากัน ผัดจนไข่สุกทั่ว ตักใส่จานพร้อมเสิรฟร้อน ๆ ทานคู่กับข้าวสวยได้เลยค่ะ (อร่อยมื้อนี้นกมีน้ำพริกหนุ่ม สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังหาสูตรน้ำพริกหนุ่มอยู่แวะอ่านที่ลิงค์นี้ได้เลย https://pinkroselove-nd.blogspot.com/2010/10/blog-post_8.html)


ปีกไก่ทอดขมิ้น

มาอีกแล้วอาหารปักษ์ใต้บ้านเรา จริง ๆ เมนูนี้ถือว่าเป็นเมนูที่ชอบมากๆ เมนูหนึ่งเลยละค่ะ ได้ข้าวเหนียวร้อน ๆ เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม เมนูนี้แฟนคลับเองก็ติดอกติดใจกับกลิ่นขมิ้นบอกว่าหอมดี ทำที่ไรหยิบไม่วางมือ ชิ้นเดียวไม่พอก็ว่าได้ค่ะ



ส่วนผสม
ปีกไก่ 8-10 ปีก
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
ขมิ้นผง 2 ชช
แป้งทอดกรอบ 2 ชต

วิธีทำ
1.นำปีกไก่ใส่อ่างเอาส่วนผสมทุกอย่างคลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 30-45 นาทีให้เครื่องซึมเข้าในเนื้อไก่
2.นำกะทะตั้งบนเตาเปิดไฟปานกลางค่อยข้างแรงพอประมาณเติมน้ำมันพอทอด พอน้ำมันร้อนใส่ปีกไก่ ลงทอดในกระทะ พอเนื้อสุกเหลืองตักขึ้นพักในกระดาษซับมัน จัดใส่จานเสริฟคู่กับข้าวเหนียวร้อน ๆ โรยหน้ายกเสริฟได้เลยค่ะ

หลนปูทะเล

นกไปเที่ยวตลาดนัดวันศุกร์ กะไปเดินดูโน่นนี้ให้หายเบื่อสักหน่อย ไปเห็นปูราคาไม่แพงเท่าไรเลยซื้อมา 2 ตัวค่ะ จริง ๆแล้วปูที่มีราคาแพงไม่เล่นเลยค่ะ แถมไม่ค่อยอร่อยเหมือนปูที่บ้านเรา อีกอย่างปูที่นี้เค้าจะปรุงสุกแกะเนื้อมาให้เรียบร้อยใส่กระดองปูกลับมาสวยงามไม่ต้องเสียเวลามานั่งปรุงกันอีก แต่สำหรับนกแล้วคิดว่าอย่างบ้านเราดีกว่าเพราะดูแล้วสดเนื้อหวานกว่ากันเยอะเลยค่ะ



ส่วนผสม
ปูสุกแกะเนื้อ 1 ถ้วย
ไข่ปูนึ่ง 1/2 ถ้วย (ถ้ามี)

กะทิ 1 1/2 ถ้วย
หอมแดงซอยบาง ๆ 8 หัว

หอมแดงสำหรับโขลกกับเนื้อปู 2 หัว
พริกชี้ฟ้าสีเขียว สีแดง สีเหลือง หั่นเป็นแว่น ตามชอบ
น้ำมะขามเปียก 2-3 ชต
น้ำตาลปึก ตามชอบ
เกลือหยิบมือ

วิธีทำ
1.เรื่มจากโขลกหอมแดง 3 หัว กับเกลือให้ละเอียด ตักเนื้อปูที่แกะประมาณ 2 ชต มาโขลกรวมกัน พักไว้

2.เอากระทะตั้งเตาเปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลางใส่กะทิลงในกระทะรอจนกระทั้งกะทิเดือดเคี่ยวให้กะทิแตกมัน
3.ใส่เนื้อปูและไข่ปู เคี่ยวไปจนพอจวนจะงวด ใส่หอมซอย พริก น้ำตาล เกลือ น้ำส้มมะขามเปียก ชิมรสตามชอบ คนให้เข้ากันอีกครั้งตักใส่ถ้วยยกเสริฟทานคู่กับผักสดตามชอบได้เลยค่ะ


แกงหน่อไม้ปลาย่าง

แกงหน่อไม้เมนูนี้นกแกงตามแบบฉบับปักษ์ใต้ ใจจริงนกจะแกงกับไก่ แต่ดันลืมเอาไก่ไปทอดทำข้าวมันไก่ทอดเสียหมด เปิดกระป๋องหน่อไม้แล้ว ไม่อยากเก็บไว้นาน วันนี้เลยเอามาแกงกับปลาเสียเลย ถือว่าเป็นเมนูเอาใจคนชอบกินปลาก็แล้วกันนะค่ะ




เนื้อปลาย่าง ตามชอบ
น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ชต

กะทิ1กป (แยกหัวกะทิ หางกะทิ)
น้ำปลา 2 ชต

พริกชี้ฟ้าแดง เขียว หั่นตามยาว 3-4 ดอก
โหระพา เด็ดใบ 2 กิ่ง
ใบมะกรูด ฉีกเป็นชิ้น ๆ 4-5 ใบ
น้ำตาล 1ชต
หน่อไม้ หั่นเป็นชิ้น ๆ 1 กป

เกลือ ตามชอบ

วิธีทำ
1. เอาหม้อตั้งบนเตาเปิดไฟในเตาปานกลางค่อนข้างแรง ใส่หัวกะทิ รอให้กะทิแตกมัน จากนั้นเติมน้ำพริกแกงเผ็ดลงไป คนจนเครื่องแกงกับกะทิเข้ากัน รอจนกระทั้งน้ำแกงเืดือด
2.ใส่เนื้อปลาย่างและใบมะกรูดลงไป จากนั้น เติมหางกะทิและหน่อไม้ลงไปในหม้อ ปรุงรสด้วย น้ำปลา, น้ำตาล, เกลือ คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน ชิมรสตามชอบ รอจนเดือดอีกครั้ง
3.ใส่ใบโหระพา พริกชี้ฟ้าลงไป คนให้ทั่วจึงปิดไฟแล้ว ตักแกงใส่ถ้วย แต่งหน้าด้วยใบโหระพาเสริฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ได้เลยค่ะ




แกงไตปลา

นกไปเที่ยวทะเลกับแฟนคลับ เลยถือโอกาสตกปลาเสียเลย ได้ปลาซาบะตามที่ตั้งใจไว้แต่ต้น แถมยังตกได้หลายตัวดีใจมาก ๆ เลยละค่ะ แต่หลักใหญ่ๆที่ทำให้ดีใจมากที่สุดเห็นจะเป็นพุงปลาละค่ะ วิธีการหมักไม่ยากค่ะเพื่อน เพียงนำพุงปลามารีดเอา ขี้ปลาไส้ออกให้หมด ล้างพุงปลาให้สะอาดทิ้งให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นใส่เกลือหมักไว้ประมาณ 1 เดือนขึ้นไป แม่สอนมาอย่างนั้น อ๋อขวดที่หมักต้องเอาไปต้มฆ่าเชื้อโรคเสียก่อนนะค่ะ ครบกำหนดนำมาปรุงอาหารได้ และแล้ววันที่รอคอยของนกก็มาถึงค่ะ ไตปลาพร้อม ขนมจีนพร้อม เครื่องปรุงพร้อม ลงมือเข้าครัวกันเลยค่ะ



ส่วนผสม
ปลาสด 1 ตัว
ไตปลา 2-3 ชต
ห่อไม้ 1 กป
ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อน ๆ พอคำ 1/2 ถ้วย
เห็ด 1/2 ถ้วย
มะเขือเปราะหั่นสี่ส่วน ประมาณ 8-10 ลูก
ข้าวโพดอ่อน หั่นเป็นท่อน ๆ พอคำ 1/2 ถ้วย
พริกชี้ฟ้าแดงเขียว หั่นเฉียง 3-4 ดอก
ใบมะกรูดฉีก 4-5 ใบ
น้ำเปล่า ตามชอบ ( นกใส่ประมาณ 2 ถ้วย)

ส่วนผสมเครื่องแกง
ขมิ้นผง1 ชช
ข่าหั่น5-6 แว่น
หอมแดง2 หัว
กระเทียม6-8 กลีบ
ตะไคร้หั่นละเอียด 2 ต้น
พริกขี้หนูสด ตามชอบ
ผิวมะกรูด 1 ชช
พริกไทยเม็ด 1 ชช
เกลือ 1 ชช
กะปิ 1/2 ชต
น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช.ช

วิธีทำ
1. โขลกส่วนผสมเครื่องแกงทั้งหมดให้ละเอียด หรือจะใช้เครื่องปั่นก็ได้ปั่นให้ละเอียด ยกเว้นกระปิ และน้ำตาลไว้โขลกหลังสุดโขลกให้เข้ากัน พักไว้
2. ปลาสด นำมาควักไส้ออกล้างให้สะอาด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นนำไปย่างให้สุกแกะเอาแต่เนื้อปลา พักไว้
3. ตักไตปลาใส่ชาม พักไว้ จากนั้นใส่น้ำลงในหม้อ ตั้งบนเตาใช้ไปปานกลางค่อนข้างแรง รอให้น้ำเดือดใส่ไตปลา ละลายไตปลา กรองใส่หม้อ
4. ใส่เครื่องแกงที่โขลกไว้พอหอม ใส่ผัก ใส่เนื้อปลาย่าง ใส่ใบมะกรูดฉีก ชิมรสตามชอบ รอให้เดือดอีกครั้ง ปิดไฟในเตา ตักใส่ชามยกเสริฟ ทานกับข้าวสวย ร้อน ๆ หรือจะเป็นขนมจีน ค่ะ

*** นี้เป็นพุงปลาที่นกหมักเองค่ะ ภูมิใจสุด ๆ เลยนำภาพมาให้เพื่อน ๆ ได้ชมกันด้วยนะค่ะ



วิธีการหมักพุงปลา นำพุงปลาที่ได้ คลุกเคล้ากับเกลือ ใช้เวลาในการหมัก ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ก็นำไปทำแกงไตปลาได้แล้วค่ะ ( แต่ของนกหมัก 1 เดือน สำหรับเกลือที่ใส่นกกะประมาณเอา ดูจากพุงปลาที่มีนะค่ะ
)

แกงคั่วหอยแมงภู่กับใบSpinach

ใครที่กำลังคิดถึงแกงหอยจุ๊บ(หอยขม)ใบชะพูลอยู่ละก็ เมนูนี้คงจะช่วยเพื่อน ๆ ที่อยู่ต่างแดนหายคิดถึงไปได้เยอะเลยที่เดียว ส่วนผสมเครื่องปรุงหาได้ง่ายในต่างแดน หากเพื่อนคนไหนไม่ชอบหอย เปลี่ยนเป็นแกงกับกุ้ง หรือปลา ก็อร่อยเช่นเดียวกัน



ส่วนผสม
หอยแมงภู่ลวก 250 กรัม
กระทิ 1 กป (แยกหัวกระทิ หางกระทิ)
ใบSpinach
น้ำพริกแกงคั่ว 1 ชต
ใบมะกรูดซอย 2-3 ใบ
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำตาลปีบ ตามชอบ

วิธีทำ
1. เอาหม้อตั้งบนเตาใส่หัวกระทิลงไปผัดให้แตกมัน พอกะทิแตกมัน ใส่น้ำพริกแกงลงไปละลายผัดให้หอม
2. ใส่หอยแมงภู่ลงไปผัดสองสามที จากนั้นใส่หางกะทิ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปีบ ใบมะกรูดชิมรสตามชอบ
3.กระทิเดือดอีกครั้งใส่ใบSpinach ลงไปคนนิดหน่อยพอให้ผักสลบ ปิดไฟในเตาตักใส่ชามยกเสริฟได้เลยค่ะ

***อันนี้เป็นแกงคั่วปลากับใบSpinach ใช้สูตรเดียวกัน นกนำมาฝากเพื่อน ๆ เผื่อว่าไม่ชอบหอยแมงภู่นะค่ะ***





ปลาซาบะสามรส



ส่วนผสม
ปลาซาบะ 2 ตัว
พริกขี้หนู 2-3 ดอก
กระเทียม 2-3 กลีบ
หัวหอม 1 หัว
น้ำปลา 1 ชต
น้ำตาล 2 ชต
น้ำมะขามเปียก 2 ชต
น้ำเปล่า 2-3 ชต
ต้นหอมหั่นหยาบ 1 ต้น
น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ
1. เอาปลาตัดหัวผ่าท้อง ดึงเอาไส้ออกให้หมด ตัดเป็นชิ้น ๆ ล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งไว้ในตะแกรงหรือกระชอนให้สะเด็ดน้ำ
2.โขลกพริกขี้หนู กระเทียม หอม ให้ละเอียดตามชอบพักไว้
3.นำกระทะตั้งบนเตาเปิดไฟในเตาใช้ไฟค่อนข้างร้อน ใส่น้ำมันสำหรับทอดลงไปรอจนกระทั้งน้ำมันร้อนจัด ๆ นำปลาลงทอดให้เหลืองกรอบแล้วตักขึ้นพักไว้บนจานที่เตรียมไว้ จากนั้นตักน้ำมันขึ้นให้เหลือเพียงเล็กน้อยสำหรับผัด
3. นำส่วนผสมที่โขลกไว้มันผัดให้พอหอม ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล น้ำส้มมะขาม น้ำเปล่า ผัดลงคลุกเคล้าให้ทั่ว ชิมรสตรตามชอบให้ได้สามรส เปรี้ยว หวาน เค็ม กลมกล่อมดีแล้วตักราดลงบนตัวปลาแต่งหน้าด้วยด้วยต้นหอมหั่นหยาบเสร็จแล้วยกเสริฟได้เลยค่ะ

***จะใช้ผักชี โรยหน้าโดย เด็ดผักชีเป็นใบ ๆ พริกชีฟ้าหั่นเป็นเส้น ๆ โรยหน้าก่อนเสริฟก็ได้เช่นกันค่ะ***

ยำปลากระป๋อง

ปลากระป๋องซื้อจากร้านขายของเอเซียตอนแฟนคลับว่างครั้งก่อน ตายนานมากเลยนะเนี้ย ดีนะที่วันนี้ไปจัดตู้เอาของที่ซื้อใหม่ใส่ไว้ด้านหลัง ไม่นั้นลืมทิ้งเสียของแน่นเลย ตอนที่ซื้อมาใหม่ ๆ จำได้ว่าอยากจะเอามาแกงส้มมะระกอ แต่ไม่มีมะระกอจะแกงสักที่เลยทำให้ลืม ไม่เป็นไรไม่ทำแกง เอามายำก็อร่อย พุงกางเหมือนกัน




ส่วนผสม
ปลากระป๋องขนาดเล็ก 2 กป
น้ำมะนาว 2 ลูก
หอมแดงซอย 8-9 หัว
ตะไคร้ซอย 3 ต้น
พริกขี้หนูซอย ตามชอบ
น้ำปลา 1 ชต
ใบสะระแหน่ ตามชอบ
ขิงซอย 1 แง่ง (ถ้ามี)

วิธีทำ
1 ผสมน้ำยำโดยผสมพริกขี้หนู เกลือ และน้ำมะนาว เข้าด้วยกัน
2 ใส่ขิง หอมแดง ตะไคร้ พริกขี้หนู ใบสะระแหน่ ปลากระป๋องลงไปในน้ำยำ คลุกเคล้าให้พอทั่ว ๆ จากนั้นตักใส่จานตกแต่งด้วยใบสาระแหน่ยกเสริฟได้เลย
***ขิงซอยเหลือจากเมื่อวานอยู่หน่อยหนึ่งเลยเอามาใส่เสียด้วยเลย จะได้ไม่เสียของ ถ้าเพื่อน ๆ ไม่มีไม่ต้องใส่ก็ได้นะค่ะ***

พิซซ่า

พิซซ่าร้อน ๆ BY NOK เสริฟร้อน ๆ มาแล้วจ้า ที่บ้านนกจะทำเป็นแบบแป้งบางกรอบ ถ้าเป็นพิซซ่าที่บ้านส่วนใหญ่จะทำกินเองเหตุเพราะจะได้ใส่หน้าตามที่ตัวเองชอบ แป้งพิซซ่านกจะทำติดตู้แช่แข็งเอาไว้ อยากจะกินเมื่อไรก็เอามาพักให้หายเย็นจากนั้นก็ลงมือทำหน้าพิซซ่าได้เลย ไม่เกินชม. ก็ได้กินแล้วละค่ะ



ส่วนผสมแป้งพิซซ่า
แป้งอเนกประสงค์ 2 ถ้วย
ยีสต์แห้ง 1 ซอง
น้ำตาลทราย 1 ชช
น้ำมันมะกอก 2 ชต.
น้ำอุ่น
เกลือหยิบมือ

ส่วนผสมหน้าพิซซ่า
แฮมหั่นเป็นเส้น 200 กรัม
เบคอนหั่นเป็นเส้น 200 กรัม
Tomato puree 2 ชต
ซอสมะเขือเทศ 1 ชต
ผงปาปริกา 2 ชช
หอมใหญ่หั่เป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก 1 หัว
พริกหวาน หั่นซอย 1 ลูก
เห็ดแชมปิยอง หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ 1 ถ้วย
มอสซาเรลล่าชีส ตามชอบ

วิธีทำแป้งพิซซ่า
1 เอาน้ำอุ่นมาใส่ลงในถ้วยประมาณ 1/4 ถ้วย เทยีสต์ น้ำตาลลงไป คนให้เข้ากัน พักไว้ให้ยีสต์ขึ้น
2 เทแป้ง น้ำมันมะกอก เกลือ ลงในอ่างผสม จากนั้นใส่ยีสต์ที่มักจนขึ้นแล้ว มาผสมกันแล้วนวดให้เข้ากันเติมน้ำอุ่นลงไปเป็นระยะ ๆ อย่าเติมเยอะจนแป้งเปียก นวดจนแป้งเนียนได้ไม่ติดมือ ทำแป้งเป็นก้อนกลม นำกลับใส่ชามอ่าง เอาผ้าคลุมพักไว้ประมาณ 30 นาที ให้แป้งขึ้น
3.นำแป้งที่พักไว้มาคลึงให้เป็นแผ่นกลมๆ แล้วยกใส่ถาดพิซซ่า รีดให้ได้ขนาดเท่ากันกับถาด
4.เทTomato puree ซอสมะเขือเทศลงไปทาให้ทั่วแผ่นแป้ง แล้วแบ่งมอสซาเรลล่าชีสมาครึ่งนึง โรยให้ทั่ว จากนั้นโรยแฮม เบคอนวางผักต่างๆ และโรยชีสอีกรอบ จากนั้นแล้วโรยผงปาปริกา ก่อนนำเข้าอบที่ 200C ประมาณ 20 นาที หรืออบจนแป้งสุกกรอบเหลือได้ที่ เอาออกจากเตายกเสิรฟ คู่กับขนมปังกระเทียม หรือจะเป็นสลัดผัดได้เลย

***สุตรแป้งพิซซ่าแล้วแต่ใครจะชอบนะค่ะ จริง ๆ แล้วนกมีหลายสูตรเลยที่เดียว บางสูตรใช้แป้งขนมปัง เป็นแบบแป้งหนานุ่ม บางสูตรก็ใส่ผงฟู แทนยีสต์ แต่ที่บ้านเวลาทำนกจะใช้สูตรนี้ทำนะค่ะ ขั้นตอนไม่เยอะได้กินเลย***

ก๋วยเตียวหมูสับ

เมนูนี้มีน้องที่น่ารักคนหนึ่งถามนกว่า"รู้จักไม่ค่ะ แล้วเค้าทำกันอย่างไร ถ้าอย่างไรขอสูตรหน่อยให้นู๋หน่อยนะค่ะ" เมนูนี้ของชอบเสียด้วยเลยไม่รอช้าทำเสร็จถ่ายรูปจัดการส่งสูตรให้น้องทันที่ จริงๆแล้วนกคิดว่าจะเอาสูตรมาเขียนไว้ในครัวให้เพื่อน ๆ ได้ชมได้ชิมกันด้วย นกมั่วแต่ยุ่ง ๆ ไม่ได้เอาสูตรมาลงจนลืมไปเลยละคะ วันนี้มีโอกาสค้นรูปอาหารให้แฟนคลับเมนูหนึ่ง (สงสัยจะเอาไปโชว์เพื่อน)ไปเจอะรูปนี้พอดีจัดการเก็บรูปลงสูตรเสียเลยเดียวจะลืมอีก จริง ๆ เมนูนี้แฟนคลับยังไม่ได้ชิมเลยค่ะ ให้ดูรูปแล้วบอกว่าหน้าตาน่าสนใจดี คิดว่าคงต้องทำให้กินในวันหยุดนี้เสียหน่อย วันเสาร์นี้ต้องไปเดินดูที่ตลาดหาดูผักกาดหมอเสียหน่อย เพราะแฟนคลับไม่ชอบทานผักกาดขาวเอาเสียเลยกลุ้มจริง



ส่วนผสม
ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ ตามชอบ (วันนี้นกใช้เส้นก๋วยเตี่ยวประมาณ 500 กรัม)

หมูสับ 250-300 กรัม
มะเขือเทศลูกใหญ่ หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก 1 ลูก
ผักกาดหอม 1 ต้น

หัวหอมใหญ่ หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก ½ หัว
กระเทียมสับละเอีดย 3-4 กลีบ
ต้นหอมหั่นเป็นท่อนเล็ก ๆ 2 ต้น
ซีอิ้วขาว2 ชต

ซีอิ้วดำ 1 ชต

น้ำมันหอย 2 ชต
น้ำตาลทราย 1 ชต
ผงกะหรี่ 1ชช

แป้งข้าวโพด 2ชต

น้ำเปล่า

น้ำมันสำหรับผัด

วิธีทำ
1.เอาก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ใส่จานนำมายีให้เส้นแยกออกจากกัน จากนั้น เปิดเตาในเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อนให้นำเส้นใหญ่ที่ยีไว้แล้วลงไปผัด เติมซีอิ้วดำลงไป ผัดให้ซีอิ้วดำคลุกกับเส้นให้ทั่วก็ปิดไฟในเตา ตักใส่จาน พักไว้
2.เปิดเตาในเตาอีกครั้งไฟปานกลาง ตั้งกระทะใบเดิม ใส่น้ำมันลงไปพอน้ำมันเริ่มร้อนให้นำกระเทียมสับหัวหอมใหญ่หั่นและส่วนก้านของต้นหอมซอยที่เป็นสีขาวลงไปผัดให้หอม พอหอมเริ่มสุก แล้วจึงใส่หมูสับลงไปผัดจนกระทั้งหมูเริ่มสุกเติมเครื่องปรุง ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทรายลงไป ชิมรสตามชอบ ผัดให้หมูสับและเครื่องปรุงเข้ากัน

3.นำมะเขือเทศที่หั่นไว้แล้วลงไป ผัดซักพักจนมะเขือเทศเริ่มนิ่มก็ใส่น้ำเปล่าลงไป คนให้ทั่ว รอจนกระทั้งน้ำซุปในกระทะเริ่มเดือด ก็ใส่ผงกะหรี่ลงไปและเคี่ยวต่อไปสักหน่อย แล้วจึงละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำเปล่าใส่ลงไปในกระทะ คนเร็วๆ อย่าให้แป้งจับตัวเป็นก้อนจนส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นใส่ต้นหอมซอยลงไปคนให้เข้ากันปิดไฟในเตา

4.จัดผักกาดหอมรองในจาน ใส่เส้นก๋วยเตียวที่ผัดไว้แล้วลงไป ราดน้ำผัดลงไปบนเส้นก๋วยเตี๋ยว ยกเสริฟได้เลยค่ะ

*** เส้นก๋วยเตียวที่ใช้วันนี้เป็นเส้นที่ทำเองเพราะถ้าคอยสั่งซื้อเดียวจะนานช้าไปอีกไม่อยากให้น้องคอยนาน เลยทำเส้นก๋วยเตียวเสียเองเลย และมีอีกอย่างผักที่รองเป็นผักกาดขาวนะค่ะ ในตู้เย็นไม่มีผักกาดหมอ เลยใช้ใบผักกาดขาว 3 ใบ เลาะเอาเฉพาะใบมารองจานนะค่ะ ****

หมี่ผัดซีอิ้วหมูแดง



ส่วนผสม
ก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่ 250 กรัม
หมูแดงหั่นสไลด์เป็นชิ้นพอคำ 300 กรัม
ผักคะน้าหั่นเป็นชิ้น ๆ ตามชอบ
ถั่วงอก ตามชอบ
กระเทียมสับ 4-5 กลีบ
น้ำมันหอย 3 ชต
ซีอิ้วขาว 1 ชต
ซีอิ้วดำ 2 ชต
น้ำตาลทราย 1 ชต
น้ำมันสำหรับผัด ตามชอบ

วิธีทำ
1.นำเส้นหมี่มาแช่น้ำประมาณ 10 นาที จากนั้นสะเด็ดน้ำพักไว้
2.เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง นำกระทะตั้งลงบนเตา ใส่น้ำมันลงไป รอจนกระทั้งน้ำมันร้อนใส่กระเทียมลงไปผัดจนกระเทียมหอม ใส่หมูแดงลงไป จากนั้นใส่ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย น้ำตาลทราย ผัดให้เครื่องปรุงเข้ากัน
3.ใส่เส้นหมี่ลงไปผัดจากนั้นใส่ซีอิ้วดำลงไปผัดให้เข้ากันอีกครั้ง
4.ใส่ผักคะน้าลงไปผัดให้เข้ากัน จนกระทั้งผักสุด ปิดเตาตักใส่จานยกเสริฟได้เลยค่ะ

***ถ้าชอบใส่ไข่ ก่อนจะใส่เส้นหมี่ก็ให้ทำหลุมตรงกลางกระทะ ตอกไข่ลงไป ตีไข่ให้กระจาย รอจนไข่เริ่มสุกก็นำหมูมากลบ รอซักพักก็กลับไข่ จากนั้นใส่เส้นหมี่ลงไปและผัดให้เข้ากัน***

แกงอ่อมปีกไก่

พอเข้าหน้าร้อนที่ไร นกและแฟนคลับชอบหาเวลาเที่ยวพักผ่อนเสมอเลยทำให้ต้องทิ้งร้างห่างครัวไปหลายวัน อย่างเมนูนี้จริง ๆ นกทำแล้วทิ้งรูปเอาไว้ในเวป วันนี้กลับมาแล้วค่ะมีเวลามากขึ้นเพราะ ช่วงนี้เข้าหนาวไม่ได้ไปไหนมีเวลาเข้าครัวบ่อยขึ้น นกเลยมาเล่าสู่เรื่องแกงอ่อมกับเพื่อน ๆ นกเคยได้ยินคนเฒ่าคนแก่พูดกันว่าแกงอ่อมทางภาคเหนือ กับทางภาคอีสานไม่เหมือนกัน จะแตกต่างกันที่ส่วนผสมของน้ำแกง อย่างที่นกทำวันนี้เป็นของทางภาคอีสานค่ะ อ่อมไก่ทำได้ง่ายมาก ๆ เพราะส่วนผสมของผักนั้นใส่ตามใจคนทานค่ะ ผักที่นกใส่เยอะกว่าอย่างอื่นเห็นจะเป็นลูกcourgette ปลูกได้ผลมีมากจริง ๆ เลยค่ะ



ส่วนผสม
ปีกไก่บน 8-10 ชิ้น
ผักชีลาว ตามชอบ
ใบแมงลัก ตามชอบ (ถ้ามี)
courgette หั่นเป็นชิ้น ๆ 2-3 ลูก
เห็ด หั่นเป็นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย
ต้นหอม หั่นเป็นท่อน ๆ ตามชอบ
ผักอื่น หั่นเป็นชิ้นพอคำ ตามชอบ
น้ำปลา 2 ชต
น้ำปลาร้า 2 ชต (ถ้ามี)
ข้าวเบือ 2 ชต
ใบมะกรูด ตามชอบ

ส่วนผสมเครื่องแกง
พริกสด ตามชอบ
หอมแดง 3-4 หัว
กระเทียม 2-3 กลีบ
ตะไคร้ หั่นเป็นท่อนเล็ก ๆ 2 ต้น

วิธีทำ
1 โขลกส่วนผสมเครื่องแกงให้ละเอียด พักไว้
2 เอาหม้อตั้งบนเตา เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลางใส่ไก่ และเครื่องแกงที่ตำคั่วให้หอม จากนั้นเติมน้ำนิดหน่อยพอขลุกขลิก คนต่อจนไก่สุก
3. พอน้ำแกงเริ่มเดือดใส่ผักลงไป ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำปลาร้า ชิมรสตามชอบอีกครั้ง
4.เติมข้าวเบือลงไปหมั่นคนบ่อย ๆ เพราะ ข้าวเบือจะเหนียวหนืดทำให้ข้น จากนั้นเติมน้ำเพิ่มตามต้องการ
5. พอน้ำแกงเริ่มเดือดอีกครั้งใส่ผักลงไปยกเว้น ผักชีลาว ต้นหมอ รอจนกระทั้งผัดเริ่มสุกจากนั้นใส่ผักชีลาว ต้นหอมลงไปคนให้เข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟในเตา ตักใสชามยกเสริฟได้เลยค่ะ

*** หากพูดถึงข้าวเบือ บางคนอาจนึกไม่ออก ข้าวเบือ คือข้าวดิบไม่ว่าจะข้าวเหนียวหรือข้าวสารเอามาแช่น้ำให้นิ่มๆ จากนั้นเอามาตำให้ละเอียด ข้าวเบือจะทำให้น้ำแกงเหนียว อาหารเกาะตัว หากไม่ชอบข้าวเบื่อ จะใช้เป็นข้าวคั่วก็อร่อยเช่นเดี่ยวกันค่ะ ไว้ครั้งหน้านกจะนำเมนูแกงอ่อมทางเหนือมาให้เพื่อน ๆ ได้ชมได้ชิมอีกครั้งค่ะ ***

ปลาแชลม่อนทอดต้มยำน้ำข้น

พูดถึงปลาแชลม่อนที่นี้มีเยอะเลยที่เดียวหากินง่ายกว่าปลาอื่น ๆ ราคาก็ไม่แพงเท่าไร ถ้าเทียบกับปลาอื่น ๆ นกเลยซื้อมาทำอาหารเป็นประจำ จึงทำให้นกต้องเปลี่ยนเมนูโน่นนี้ไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ผัด ทอด อบ นึ่ง ยำ ไปจนถึงต้ม อย่างเมนูวันนี้นกคิดทำต้มยำ และก็อยากกินปลาทอดด้วยเลยทำมันเสียทั้ง 2 อย่างในหนึ่งเมนูเสียดูแล้วมันตรงจุดความต้องการพอดี


ส่วนผสม
ปลาแชลม่อนหั่นชิ้นพอคำ 500 กรัม
แป้งทอดกรอบ 2-3 ชต
หอมแดงทุบ ตามชอบ
เห็ดหั่นชิ้นพอคำ 250 กรัม
ตะไคร้หั่นเฉียง 2 ต้น
ข่าอ่อนหั่นบาง ๆ 2 หัว
มะเขือเทศสีดา ตามชอบ
ใบมะกรูดฉีก ตามชอบ
ต้นหอม ผักชี 2 ต้น
พริกสด 5 เม็ด
ซีอิ้วขาว 3 ชต
น้ำพริกเผา 2 ชต
น้ำมะนาว ตามชอบ
ซุปก้อนรสไก่ 1 ก้อน
นมข้มจืด ตามชอบ

วิธีทำ
1 นำปลาแชลมอนหั่นชิ้นมาคลุกกับแป้งทอดกรอบ นำไปทอดให้สุกเหลือง กรอบ
2. ผสมน้ำพริกเผากับนมจืดให้เข้ากัน พักไว้
2 เปิดเตาที่ไฟแรงปานกลาง เอาน้ำใส่หม้อ ใส่ซุปก้อนรสไก่ลงไป ต้มน้ำซุปจนกระทั้งเดือด จากนั้นใส่ตะไคร้ ใบมะกรูดลงไปต้ม ประมาณ 5 นาที
3 ใส่เห็ด มะเขือเทศสีดา ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว น้ำมะนาว น้ำพริกเผาผสมนมจืด และพริกทุบ ชิมรสตามชอบ จากนั้นใส่ต้นหมอ ผักชี คนให้เข้ากัน
4 เอาปลาแชลมอนกรอบใส่ถ้วย ตักน้ำต้มยำราดลงบนปลา โรยหน้าด้วยหอมผักชีอีกครั้ง จากนั้นก็ยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ


แกงส้มปักษ์ใต้ (แกงเหลือง)

วันนี้เข้าครัวเป็นเมนูปักษ์ใต้อีกแล้วค่ะ แกงส้ม หรือแกงเหลืองที่ใคร ๆ เค้าเรียกกัน ถ้าพูดถึงแกงส้มรสชาดคนใต้บอกเลยว่าเน้นเผ็ด เปรี้ยว สะใจ มีคนถามว่าแกงส้มภาคใต้ กับภาคกลางแตกต่างกันตรงไหน แกงภาคส้มใต้จะใส่ขมิ้น ส่วนแกงส้มภาคกลางจะใส่กระชาย อีกทั้งแกงส้มภาคกลางจะออกรสหวาน ส่วนภาคใต้จะออกรสเปรี้ยว นี้คือข้อแตกต่างของแกงส้มที่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยที่เดียว อีกทั้งความเผ็ดงานนี้ต้องยกให้แกงส้มภาคใต้ละค่ะ




ส่วนผสม
พริกขี้หนูสด ตามชอบ (นกใช้ประมาณ 20-25 เม็ดได้ค่ะ)
ขมิ้นผง 2 ชช
กระเทียม 5-6 กลีบ
หอมแดง 2 หัว
เกลือ 1 ชช
ปลาแซลมอนหั่นขนาดตามชอบ 6 ชิ้น
ลูก courgette หั่นเป็นชิ้นขนาดพอคำ 2 ลูก
กะปิ 1 ชต
น้ำตาลปี้บ 1 ชต
น้ำมะขามเปียก ตามชอบ

วิธีทำ
1 เอาพริกขี้หนูสด กระเทียม หัวหอม ขมิ้น และเกลือ โขลกหรือปั่นให้ละเอียด จากนั้นใส่กะปิ น้ำตาลปี้บ โขลกให้เข้ากันอีกครั้ง พักไว้
2 ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ ยกหม้อตั้งบนเตาเปิดไฟแรง พอน้ำเดือนใส่เครื่องแกงละลายให้เข้ากัน รอให้เดือดอีกครั้ง ใส่ผักตามต้องการ (ลูก courgette ของนกวันนี้สีเหลือง) จากนั้นใส่น้ำปลา น้ำมะขามเปียก ชิมรส ตามชอบ พอเดือดอีกครั้งปิดไฟในตักใส่ถ้วยยกเสริฟได้เลยค่ะ

***นี้เป็น courgette ที่ปลูกไว้ที่บ้าน จริงๆ แล้ว ปลูกแค่ 4 ต้น ออกลูกเยอะ กินกันไม่ทันเลย บางลูกต้องปล่อยให้โตติดต้นไปเลยก็มี สงสัยปีหน้าปลูกแค่ 2 ต้นน่าจะพอดี***




ขนมลุกตุ้ม /ขนมลูกระเบิด /ขนมโป้งเหน่ง

เมนูนี้มีน้องคนหนึ่งบอกว่าอยากได้สูตรขนมทีมีไส้กรอกตรงกลางจะเอาไปทำขายตอนเปิดเทอม แต่น้องเค้าไม่รู้ว่าขนมที่อยากจะทำขายชื่ออะไร เค้าบอกแต่เพียงแต่รูปลักษณ์มาให้ นกเองก็เดา ๆ ว่าน่าจะเป็นขนมแบบนี้เพราะเคยเห็นที่หน้าโรงเรียนหลานชาย กับที่ตลาด วันนี้เลยลองทำให้น้องเค้าได้ดูว่าใช้ขนมที่อยากจะทำหรือเปล่า จะว่าไปแล้วขนมลูกตุ้ม หลายๆ คนรู้จักเคยเห็น แถมบางบางคนได้ลิ้มลองมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่าอะไรกัน ขนมนี้มีหลายชื่อให้เรียกเลยที่เดียวค่ะ เคยถ้าแม่ค้าที่ขาย เค้าบอกว่าขนมลูกระเบิด แต่แม่เจ้าของร้านที่ขายขนมบอก ไม่ใช้ เค้าเรียกว่าลูกตุ้ม เลยไม่รู้ว่าลูกอะไรกันแน่น แถมเพื่อนยังบอกว่าอีกว่าที่บ้านเค้าเรียกขนมโป้งเหน่ง อ๋าวแล้วจะเรียกว่าอะไรดี นกไม่รู้จะใช้ชื่อไหนดี เลยเอามาทั้งหมด 3 ชื่อตัดปัญหาไปเลย มีใครบอกนกได้มั่งเอ๋ยชื่อที่ถูกต้องมันเรียกว่าอะไร


ส่วนผสม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 200 กรัม
แป้งข้าวเจ้า 1 ชต
ผงฟู 2 ชช
ไข่ไก่ 1 ฟอง
น้ำตาล 2 ชต
เกลือ 1 หยิบมือ
น้ำมันพืช 4 ช้อนโต๊ะ
นมสด 1/4 ถ้วย
น้ำปูนใส 2 ชช (ถ้ามี)
ไส้กรอกหั่นท่อนสั้นเสียบไม้ปิ้งลูกชิ้น ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับทอด


วิธีทำ
1 ร่อนแป้งสาลี แป้งข้าวเจ้า ผงฟู รวมกัน แป้งจะได้ฟู ร่อนรวมกัน 2 ครั้งพักไว้
2 ตอกไข่ลงในอ่างผสม ใช้ตะกร้อมือ ตีจนไข่ขึ้นเป็นครีมสีเหลืองๆ จากนั้นผสมน้ำตาลกับเกลือ ลงไปตีจนรู้สึกว่าไม่มีเม็ดน้ำตาล ใส่น้ำมันพืชลงไปตีต่อจนส่วนผสมเข้ากัน
3 ตักแป้งที่ร่อนไว้ใส่ในไข่ที่ตี สลับกับนมสด จนหมด ตีให้แป้งจะละลาย ถ้าแป้งเหนียวให้เติมนม ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จะได้แป้งชุบทอดที่เนื้อเนียนเข้ากัน สังเกตแป้งเหนียวหนืด ไม่เหลว ชุบไส้กรอกติดดีก็เป็นอันใช้ได้
4 เอาน้ำมันใส่หม้อให้เยอะพอทอดขนม จากนั้นตั้งบนเตาเปิดไฟปานกลาง รอให้น้ำมันร้อน จุ่มไส้กรอกลงในแป้ง นำไปทอด คอยดูอยุ่ตลอดเวลา พอเหลืองให้ตักออก ซับน้ำมันให้แห้ง จากนั้นนำไปจุ่มรอบที่ 2 ทอดไปจนเหลืองสุกสวยตักออก ซับน้ำมันให้แห้ง เสริฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

*** ถ้าต้องการให้ขนมมีขนาดโตเท่าใด ก็จุ่มแป้งเพิ่มตามขนาดที่ต้องการ การจุ่มแป้งครั้งที่2 พยายามหมุนแป้งให้ลงตามไม้ลูกชิ้นจะทำให้แป้งสวยเวลาทอด เวลาทอดค่อย ๆ หมุนแป้งให้โดนน้ำมันจะได้เหลืองเท่า ๆ กัน***

ไข่ลูกเขย



ส่วนผสม
ไข่ไก่หรือไข่เป็ดต้มสุก 3 ฟอง
น้ำตาลปี๊บ ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำมะขามเปียก
พริกแห้งทอด 5-6 เม็ด
หัวหอมซอยทอด 4-5 หัว
ผักชีสำหรับแต่งหน้า 1 กิ่ง

วิธีทำ
1. ต้มไข่ให้สุกไว้พักไว้ จากนั้นจึงนำไข่ไปทอดให้เหลืองสวย
เวลาจะทอดไข่ ใช้เข็ม หรือส้อมจิ้มไข่ให้ทั่วทั้งฟองไข่จะได้ไม่ระเบิดตอนทอด
2.เมื่อทอดไข่เสร็จแล้วตัดไข่ออกเป็นสองส่วนพักไว้ในจาน จากนั้นให้ทอดพริกแห้ง และหอมซอยไว้ให้เหลืองกรอบเช่นกัน
3.ทำน้ำราดไข่ลูกเขย โดยการผสมน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย เคี่ยวไปจนน้ำตาลละลายหมด เติมน้ำปลา ชิมรสให้ได้สามรส หวาน เปรี้ยว และก็เค็ม ยกลงราดไข่ลูกเขย โรยด้วยผักชี พริกแห้งทอด หัวหอมทอด ยกเสริฟได้เลยค่ะ

ปอเปี๊ยะสดเวียดนาม (Goi Guon /ก๋อยก้วน)

นกดีใจสุด ๆ เลยละค่ะเพื่อน ๆ ที่ได้ไปเจอะกับเจ้าแผ่นปอเปี้ยะโดยบังเอิญ จัดการเหมาหมดยกแผงเลย ดูออกจะเวอร์ไปหน่อย จริง ๆ แล้วมีเหลือแค่ 3 ห่อเองค่ะ ไม่เป็นไรเอาเท่าที่มีไปก่อน รู้แล้วว่าครั้งต่อไปเราจะหาซื้อได้จากที่ไหน ตอนซึ้อเจ้าแผ่นปอเปี้ยะแฟนคลับทำหน้า งง ผสมตื่นเต้นเล็ก ๆ คงรู้ตัวว่าต้องเป็นนักชิมที่ดีอีกตามเคย อาหารเวียดนามหลาย ๆ คนชอบเพราะขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เต็มไปด้วยผัก จริงแล้วอาหารเวียดนามหลายๆอย่างทำได้ไม่ยาก อย่างเจ้าปอเปี้ยะเป็นเมนูหนึ่งที่หลาย ๆ คนติดใจ สะดวกสามารถทำกินเองที่บ้านได้


ส่วนผสม ปอเปี้ยะ
กุ้งต้มขนาดกลาง 24 ตัว
อกไก่ต้มสุกหั่นเป็นชิ้นตาม 12 ชิ้น
แผ่นปอเปี๊ยะ 12 ชิ้น
ใบสะระแหน่ ตามชอบ (นกใช้ 3 ใบต่อ 1 ชิ้น)
แครรอทหั่นเป็นแท่งยาว ๆ ขนาด 2 นิ้ว 24 แท่ง
แตงกวาหั่นเป็นแท่งยาว ๆ ขนาด 2 นิ้ว 24 แท่ง
ใบSpinach ตามชอบ (นกใช้ 3 ใบต่อ 1 ชิ้น)

ส่วนผสมน้ำจิ้มเผ็ด
น้ำมะนาว 1/2 ลูก
เกลือ 1/2 ชช
พริกสด ตามชอบ
กระเทียม 3-4 กลีบ
น้ำตาล 2 ชช
ขิงซอยละเอียด ตามชอบ

วิธีทำ
1 ปรุงน้ำจิ้มโดยตำพริกกระเทียมให้ละเอียดจากนั้นนำส่วนผสมอื่นคนให้เข้ากันจนเกลือและน้ำตาลละลาย ตักใส่ถ้วยพักไว้
2 เทน้ำอุ่นใส่จานแบน แช่แผ่นแป้งปอเปี๊ยะสดในน้ำประมาณกะพอให้แป้งนุ่ม วางแผ่นปอเป๊ยะที่แข่น้ำแล้วบนพื้นที่เรียบ
3 วางใบใบSpinachตรงกลางแผ่นแป้ง เรียงแครอท แตงกวาง กุ้ง ไก่ แลละใบสาระแหน่ พับด้านข้างแผ่นแป้งปอเปี๊ยะทำใส่ ม้วนให้เป็นแท่ง ค่อยกดหัวท้ายให้บิดปลาย พักปอแปี๊ยะสดที่ห่อเสร็จแล้วในจาน ใช้ผ้าขาวสะอาดบางชุบให้่เปียกน้ำพอหมาดๆๆ คลุมปอเปี้ยะ
เพื่อป้องกันการแห้ง ทำส่วนที่เหลือต่อไปจนหมด จัดใส่จานยกเสริฟพร้อมน้ำจิ้มได้เลยค่ะ

***ผักที่ใช้แล้วแต่จะชอบ จะใช้ผักกาดหอม พริกหวาน หรือผักสลัดอื่น ๆ ก็ได้เช่นเดียวกัน ส่วนน้ำจิ้ม นอกเหลือจากนี้แล้วยังมีน้ำจิ้มถั่ว น้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน แล้วแต่จะชอบกันค่ะ จานนี้ของนกเองคะ ราดน้ำจิ้มเผ็ดเสียเยอะ***


เย็นตาโฟ รวมมิตรทะเล (น้ำซอสทำเอง)

แฟนคลับเค้าหยุดลาพักร้อน 3 วัน วันนี้เราสองคนไม่มีโปรแกรมจะไปไหนกัน เพราะอากาศคลึ้ม มืด ๆ ไม่ค่อยจะเป็นใจให้ออกไปเที่ยวสักเท่าไร ตัดสินใจพักผ่อนกันที่บ้าน คิดว่าจะทำเมนูอาหารกลางวันอะไรดี ไป ๆ มา ๆ จบลงที่ก๋วยเตียวอีกตามเคย แต่วันนี้ของนกทำพิเศษขอเป็นเย็นตาโฟ รวมมิตรทะเล ส่วนแฟนคลับขอเป็นก๋วยเตี๋ยวหมูธรรมดา เพราะไม่กินหอยนางรม กับปลาหมึก งานนี้เสร็จเรา ของอร่อยไม่รู้เสียแล้ว



ส่วนผสม
เส้นก๋วยเตียว ตามชอบ
กระดูกหมู/ไก่ ตามชอบ
กุ้งสด 10-15 ตัว
หอยนางรม 15-20 ตัว
น้ำมันกระเทียมเจียว ตามชอบ
เนื้อหมูต้ม หั่นเป็นชิ้นพอคำ ตามชอบ
เต้าหู้ทอด หั่นซอย ตามชอบ
หอมผักซีซอยหยาบ 1 ถ้วย
ผักบุ้ง หั่นเป็นท่อน ๆ 10-12 ต้น
ถั่วงอกสด ตามชอบ
น้ำซอสเย็นตาโฟ 1 ถ้วย
ซุปไก่ 1ก้อน (ถ้ามี)






ส่วนผสมน้ำซอสเย็นตาโฟ
เต้าหู้ยี้ 3 ก้อน

พริกสดขี้หนูแดง 3 เม็ด
ซอสมะเขือเทศ 5 ชต
เหล้าจีน 1 ชต
ซอสพริก 2 ชต
น้ำเชื่อม 5 ชต

น้ำเปล่า เล็กน้อย


วิธีทำ
1. เอาน้ำใส่ในหม้อ เปิดไฟในเตา ใช้ไฟแรง พอน้ำเดือดใส่กระดูกหมูหรือไก่ ใส่เกลือ และซุปไก่ก้อนลงไป ชิมรสตามชอบ
2.เอาเต้าหู้ยี้ พริกขี้หนูแดง น้ำเปล่า ใส่โถปั่น
ให้พอละเอียดตามชอบ จากนั้นใส่ส่วนผสมน้ำซอสทั้งหมดปั่นให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่หม้อต้ม นำขึ้นตั้งบนเตาใช้ไฟอ่อน ๆ คนให้เดือดสักพักปิดไฟในเตาพักไว้ให้เย็น
3.เอาหม้ออีกใบใส่น้ำตั้งไปให้เดือด ลวก ผักบุ้ง ถั่วงอก เส้นก๋วยเตียว กุ้ง หอยลงไปลวก ให้สุกพักไว้ จากนั้นเอาเส้นก๋วยเตียวที่ลวกสุกแล้วคลุกกับน้ำมันกระเทียมเจียวพักไว้
4.เอาผักบุ้ง ถั่วงอก ก๋วยเตียว เนื้อหมู กุ้ง หอย ที่ลวกเสร็จแล้วใส่ชามก๋วยเตียว จากนั้นโรยด้วย เต้าหู้ทอด ตักน้ำซุปกระดูกลงในชามก๋วยเตียวตามชอบ
5.ตักน้ำซอสเย็นตาโฟใส่ในชามก๋วยเตียว1-2 ชต จากนั้นโรยด้วยต้นหอมผักชี ยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ