ยำส้มโอ
ส่วนผสม
ส้มโอแกะเนื้อ 1/2 ลูก
กุ้งต้มสุก ตามชอบ
เนื้อไก่อบฉีกเป็นเส้น ตามชอบ
มะพร้าวคั่ว 1/2 ถ้วย
เม็ดมะม่วงหิมพานต์บด ตามชอบ
กุ้งแห้งป่น 50-100 กรัม (นกกะเอาประมาณ 1 กำมือ)
น้ำตาลปี๊บ 1 ชต
เกลือป่น 1 ชช
หอมแดงซอย 5-7 หัว
กระเทียมซอย 5-6 กลีบ
พริกแห้งป่น 2 ชต
ผักชีเด็ดใบ ตามชอบ
วิธีทำ
1.ละลายน้ำตาลปี๊บใส่ถ้วย พักไว้ให้เย็น (นกใช้ละลายกับไมโครเวป สะดวกรวดเร็วดี)
2.ปอกเปลือกส้มโอ แกะเอาเฉพาะส่วนเนื้อใส่ชาม ใช้มือแกะ ยีส้มโอในชามให้แตกออกจากกันจนทั่้วเตรียมไว้
3.ใส่กุ้งลวก มะพร้าวคั่ว น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์ป่น กุ้งแห้งป่น พริกแห้งป่น หอมแดงซอย และกระเทียมซอย คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
4.ตักใส่จาน แต่งหน้าด้วย มะพร้าวคั่ว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และผักชี ยกเสิรฟได้เลยค่ะ
***ยำส้มโอนกตักใส่กระทงทองใบใหญ่ กระทงทองของนกทำจากแผ่นปอเปียะนำไปอบให้เหลือง ๆ นะค่ะ ส่วนส้ัมโอที่นกซื้อมามีผิวสีเหลือง มีเปลือกบางกว่าส้มโอสีเขียวของบ้านเรา เสียดายจัง ตอนซื้อกะว่าถ้าเปลือกหนาก็จะเอาเปลือกส้มโอมาทำเปลือกส้มโอเชื่อม แต่พอปลอกดูเอาเปลือกบางนิ ไม่ได้อีกแล้วเปลือส้มโอเชื่อม เสียดายปลอกเปลือกเสร็จคิดได้ว่ายังไม่ถ่ายรูปเก็บไว้เลย ไม่เป็นไรคราวหน้าจะถ่ายรูปส้มโอให้เพื่อนๆ ชมนะค่ะ***
ฮือก้วย /ลูกชิ้นปลาแผ่น/ปลาเส้น
ส่วนผสม
เนื้อปลาสด 1 กก.
เกลือ 1 ชช
น้ำตาลทราย หยิบมือ
พริกไทยป่น หยิบมือ
ผงฟู 1/2 ชช
น้ำเย็นจัด 4 ชต
วิธีทำ
1. นำมาที่ได้มาล้างทำความสะอาด แล่และขูดเอาแต่เนื้อปลาล้วน ๆ นำเนื้อปลาที่ได้ไปบดให้ละเอียด
2. ผสม เกลือ น้ำตาลทราย พริกไทยป่น ผงฟู และน้ำเย็นจัด คนละลายให้เข้ากัน
3. นำไปผสมกับเนื้อปลา บดให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นนำออกจากเครื่องบด แล้วนำมานวดต่ออีกประมาณ 10 นาที คลุมด้วยพสาสติกเอาเข้าช่องแช่แข็ง แช่ไว้ประมาณอีก 30 นาที หรือจะช่องแช่เย็นธรรมดาในตู้เย็นก็ได้ ประมาณ 1-2 ชม
4. พอครบกำหนดนำเนื้อปลามาปั้นให้เป็นเส้นทรงกลม หรือสี่เหลี่ยมตามชอบ จากนั้นนำไปนึ่งประมาณ 10-15 นาที หรือจนกระทั้งปลาสุก พักทิ้งไว้จนเย็น
5. เมื่อครบกำหนดนำไปทอดให้เหลือสุกสวย ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมันทิ้งไว้จนเย็นตัดเป็นเส้นๆ บางหนา ตามชอบ เท่านี้นกก็ได้ลูกชิ้นปลาเส้นกินคู่กับก๋วยเตียว หรือจะลวกกินกับน้ำจิ้มแซบ ๆ ยกเสริฟแฟนคลับแล้วละค่ะ
***จานนี้เป็นปลาเส้นที่นกทำเสร็จแล้วหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ จะได้เห็นเนื้อด้านในของปลาเส้นชัด ๆ ไปเลย เพื่อนๆ คนไหนมีปลาเยอะ ลงทำดู ดีกว่าเราไปซื้อทำง่ายไมยากเลย หรือไม่เวลาเพื่อนๆ ทำลูกชิ้นปลาแล้วแบ่งส่วนมาทำปลาเส้นบ้างก็ได้ค่ะจะได้มีหลากหลายในชามก๋วยเตี๋ยวของเรากันนะค่ะ***
ขนมเครป
ส่วนผสม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 2 ฟอง
น้ำตาลทราย 3 ชต
เกลือป่น หยิบมือ
นมสด 1 ถ้วย
เนยละลาย 1/4 ถ้วย
กลิ่นวานิลา 1/2 ชช
วิธีทำ
1. ร่อนแป้งพักไว้ จากนั้นเติมน้ำตาลทรายและเกลือ คนให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ
2.เติมเนยละลาย ไข่ไก่ นมสด และกลิ่นวานิลา คนให้เข้ากันจนแป้งเนียนเป็นครีมและเป็นเนื้อเดียวกัน (เวลาคนอย่าให้แป้งเกาะกันเป็นเม็ด)
3.เปิดไฟในเตาใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อน เอากระทะตั้งบนเตา ทาเนยบาง ๆ บนกระทะ พอกระทะร้อนตักแป้งใส่กระทะประมาณ 1 1 ทัพพี หยอดลงบนกระทะ กรอกแป้งให้ทั่วกระทะ พักแป้งบนเตา
4.พอแป้งเริ่มสุก ให้เติมไส้ที่ต้องการ โดยทาเกลี่ยไส้ให้ทั่วๆแป้งเครป แต่ถ้าไส้เป็นชิ้นหนาๆ่ให้วางไว้แค่ครึ่งหนึ่งของแป้ง ใช้เกรียงแซ่ะขอบ พับครึ่งก่อน แล้วจึงพับประกบด้านซ้าย ขวา ใส่ซองเครปแบบกระดาษที่เตรียมไว้ตามชอบได้เลย
***นกไม่มีซองเครปกับเค้าหรอกค่ะ นกพับเสร็จแล้วก็จัดใส่จานยกเสริฟร้อนๆ คนชิมคอยชิมอยู่แล้วค่ะ วันนี้ทำสองไส้คือไส้หวานกับไส้คาวนะค่ะ อย่างที่นกบอกนกไม่มีเตาเครป ถ้ามีเตาเครปจะละเลงแป้งได้ง่ายกว่าการกรอกแป้งบนกระทะ เพราะแป้งที่ได้จะมีความหนาบางที่ต่างกันอยู่***
กระทงทูน่า
ส่วนผสม
ขนมปัง 10 แผ่น
มายองเนส ตามชอบ
พริกไทยป่น หยิบมือ
เกลือป่น หยิบมือ
หอมหัวใหญ่ ขนาดกลาง 1/2 หัว
แตงกวา 1/2 ลูก (ถ้ามี)
วิธีทำ
1. เทน้ำเกลือในปลาทูน่าิทิ้งออกไปให้หมด เอาเฉพาะเนื้อปลา จากนั้นนำมายีพอแหลก
2. นำหอมใหญ่และแตงกวามาหัั่่นซอยเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าตามชอบ (แตงกวาให้เอาส่วนของเมล็ดแตงออกให้เหลือเฉพาะเนื้อเพราะเนื้อ เพราุ้ะถ้าใส่ส่วนที่เป็นเม็ดไปจะทำให้แฉะเป็นน้ำ) จากนั้นผสมด้วยมายองเนส เพิ่มรสชาติด้วยมพริกไทยป่น เกลือป่นได้ ตามชอบ แล้วคนส่วนผสมให้เข้ากันคะ (เวลาใส่มายองเนสสังเกตุอยากให้ส่วนผสมเหลวแฉะเกินไปก็ใช้ได้แล้ว) นำเข้าตู้เย็นรอกระทง
3. นำขนมปังทีี่ใช้สำหรับทำกระทงมาัตัีด โดยใช้พิมพ์กดคุ๊กกี้แบบกลมขนาดใหญ่กว่าถ้วยสำหรับทำเค้กมาตัด หรือจะตัดเป็นสี่เหลี่ยมก็ได้ตามชอบ จากนั้นนำขมมปังที่ตัดมาจับจีบให้เป็นรูปดอกไม้วางกดลงในถ้วย นำเข้าเตาอบประมาณ 10 นาที หรือจนกระทั้งกรอบเหลืองสวยเสร็จแล้วก็เอาออกจากเตา วางพักไว้บนตะแกรงเพื่อให้คลายความร้อน 4.นำทูน่าที่แช่พักไว้ตักใส่ในกระทงที่คลายความร้อนเรียบร้อยแล้ว จัดใส่จานราดหน้าด้วยมายองเนสอีกครั้ง เ่ท่านี้ก็ได้กระทงทูน่า น่ารักจุมจิ๋มยกเสริฟได้เลยค่ะ
**นกทำกระทงไว้ 2 แบบ เป็นแบบกลม และสี่เหลี่ยม เพื่อน ๆ ชอบแบบไหนก็เลือกเอานะค่ะ เข้าเตาอบ อบเสร็จออกมาอย่างที่เห็นนี้ ภาพบนนกตัดขนมปังเป็นแบบกลม ส่วนภาพล่างตัดขนมปังเป็นสี่เหลี่ยมละค่ะ ใครชอบแบบไหนแล้วแต่จะเลือกกัน อยู่ที่เราตัดขนมปังนะค่ะ นกเอามาให้ดูทั้งสองแบบ และสำหรับเศษขนมปังที่เราตัด อย่าทิ้งให้นำมาทำขนมปังเนย วิธีการคือนำขนมปังที่เหลือมาทาเนย แล้วตัดให้เป็นเส้นความกว้างยาวตามชอบ จากนั้นโรยด้วยน้ำตาลทรายนำเข้าเตาอบ อบให้เหลืองกรอบ เท่านี้ก็ได้ขนมปังเนยน้ำตาลไว้เป็นของกินแล้วละค่ะ นี้เป็นขนมปังที่เหลือแล้วนกเอาทำไว้กินคู่กับกาแฟยามบ่ายนะค่ะ***
และนี้ก็เศษขนมปังที่เหลืออย่างที่บอก นกเอามาทำขนมปังอบเนยน้ำตาล ไว้กินเล่นกับกาแฟ ยามบ่าย ค่ะ
หมูผัดพริกแกงไข่เค็ม
ส่วนผสม
เนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นพอคำ 350 กรัม
ไข่แดงของไข่เค็มหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 2 ฟอง
น้ำพริกแกง 2 ชต
พริกชี้ฟ้า หั่นเฉียง 2 เม็ด
ใบมะกรูดหั่นฝอย (ถ้ามี)
น้ำปลา 2 ชช
น้ำตาลทราย 1 ชต
น้ำมันพืชสำหรับผัด
วิธีทำ
1. ตั้งน้ำมันในกระทะบนไฟร้อนปานกลาง ใส่ลงไปผัดจนหอมและแตกมัน จากนั้นใส่เนื้อหมูลงไป ผัดจนเนื้อหมูเกือบสุก
2.ใส่ไข่แดงเค็มลงไปผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันกับเนื้อหมู ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ ใส่พริกชี้ฟ้าแดงผัดให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นตักใส่จานโรยด้วยใบมะกรูดยกเสริฟได้เลยค่ะ
หมูโสร่ง
ส่วนผสม
เส้นหมี่ไข่/เส้นหมี่ซั่ว 2 พับ (เส้นหมี่ของนกเป็นแบบแห้งพับบาง ๆ )
หมูบดละเอียด 250 กรัม
ซีอิ้วขาว 2 ชต
กระเทียม 3-4 กลีบ
พริกไทย 1 ชช
เกลือป่น 1 ชช
น้ำมันหอย 1 ชต
แป้งข้าวโพด 1 ชต
น้ำมันงาน 1 ชช
น้ำมันพืชสำหรับทอด
วิีธีทำ
1. โขลกพริกไทย กระเทียม รากผักชี และเกลือให้ละเอียดตามชอบ แล้วนำไปผสมกับเนื้อหมู นวดเคล้าให้เข้ากัน ใส่น้ำมันหอย แป้งข้าวโพด และน้ำมันงา จากนั้นนวดให้เข้ากันทั้งหมด นำไปหมักไว้ในตู้เย็น ประมาณ 30 นาที ครบกำหนดนำไปนึ่งให้พอสุก ใช้เวลานึ่งประมาณ 10-15 นาที พักไว้ให้เย็น
2. นำเส้นหมี่ไปลวกแล้วผ่านน้ำเย็น พักให้สะเด็ดน้ำ นำเส้นหมี่มาพันกับหมูที่ปั่นก้อนไว้แล้ว พันจนหมดทุกก้อน แล้วนำไปทอด
3. เปิดไฟในเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างร้อน ตั้งกะทะบนเตาใส่น้ำมันให้พอทอด รอจนน้ำมันร้อน นำหมูโสร่งลงทอดให้เหลืองกรอบ ตักวางบนกระดาษซับมัน จากนั้นจัดใส่จานเสริฟพร้อมน้ำจิ้มบ่วย หรือน้ำจิ้มไก่ตามชอบได้เลยค่ะ
*** เส้นหมี่ของนกเป็นแบบแห้ง จึงต้องเอาไปต้มแล้วนำมาพัน แต่ถ้าเส้่นหมี่ของเพื่อนๆ เป็นแบบเ้ส้นสด ก็นำมาพันกันหมูนวดหมักได้เลย ไม่ต้องนำหมูไปนึ่งก่อน พอพันเส้นเสร็จแล้วถึงจะนำไปนึ่ง ระยะเวลาในการนึ่งใช้เวลา 10-15 นาที เช่นกัน ส่วนวิธีการพัน จะพันมากน้อยแล้วแต่ชอบกัน อย่างวันนี้นกพันไม่มากเท่าไร ยังเห็นเนื้อหมูอยู่เยอะ ถ้าเพื่อนๆ ขยันจะพันให้จนไม่เห็นเนื้่อหมูก็ได้ เวลาพันให้ัเก็บเส้นให้เรียบร้อย เวลานำไปทอดเส้นหมี่ที่พันไว้จะได้มีจะได้ไม่ชี้โด่เด่นะค่ะ***
ข้าวเกรียบมันฝรั่ง/ ข้าวเกรียบกุ้ง
ส่วนผสมข้าวเกรียบกุ้ง
เนื้อกุ้งสด (ปอกเปลือก) 1 ถ้วย
กระเทียมโขลกละเอียด 2 ชต
พริกไทยปน 1 ชช
เกลือปน 1 ชช
แป้งมัน 2 ถ้วย
น้ำเดือด 1/2 ถ้วย
วิธีทำ
1.โขลกกุ้งให้ละเอียด ใส่กระเทียม พริกไทย เกลือ โขลกให้เข้ากัน
2. ผสมกุ้งกับแป้งมันให้เข้ากัน นวดให้นิ่ม ถ้าแป้งยังแข็งให้ใส่น้ำเล็กน้อยพอให้แป้งจับตัวปั้นเป็นก้อนได้ จากนั้น นำแป้งมาปั้นให้เป็นรูปกลมยาว
3.ปูผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาดในลังถึง วางส่วนผสมที่ปั้นไว้ตรงกลางนึ่ง โดยใช้ไฟแรงประมาณ 1 ชมหรือจนกระทั้งสุก จากนั้นก็นำไปแช่ไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาประมาณ 4-5 ชม (ให้แป้งแข็งตัวเพื่อจะได้หั่นง่าย ๆ แต่อย่าให้แข็งตัวมากเกิืนไปจะหั่นยาก หรืออ่อนตัวเกินไปก็จะติดมือหั่นไม่ได้)
4.จากนั้นก็นำไปแช่ไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา1วัน เอาออกมาหั่นเป็นแผ่นบางๆ นำตากให้แห้งสนิท ประมาณ 1-2 แดด (ที่บ้านไม่ค่อยมีแดด เลยตากประมาณ 2 วัน) จากนั้นนำไปทอดได้เลยค่ะ
5.เวลาทอดใช้ไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน ทอดน้ำมันมาก ใส่ข้าวเกรียบทีละน้อย ช้อนข้าวเกรียบตลอดเวลา ให้ข้าวเกรียบพองเสมอกันทั่ว ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน พักให้เย็นแล้ วนำบรรจุถุง เท่านี้ก็ได้ข้าวเกรียบอร่อยๆ ไว้เลี้ยงในงานสังสรรแล้วละค่ะ
***นอกจากข้าวเกรียบกุ้งแล้ว นกยังทำข้าวเกรียบฟักทอง ข้าวเกรียบมันฝรั่ง ข้าวเกรียบแครรอท ซึ่งส่วนผสมและวิธีการทำคล้าย ๆ กับข้าวเกรียบกุ้ง แต่จะไม่มีส่วนผสมของน้ำเดือด เพราะผักจะมีน้ำอยู่ในตัวแล้ว การใส่ส่วนผสมของผักจะใส่สัดส่วนของ ผักให้น้อยกว่าสัดส่วยของแป้ง ครึ่งหนึ่ง เช่นข้าวเกรียบฟักทอง ถ้าใช้แป้งมัน 2 ถ้วย เนื้อฟักทองบดจะใช้ 1 ถ้วย เป็นต้น การทำข้าวเกรียบผัก จะต้องบดผักที่ใช้่อย่างละเอียด แล้วนำมาผสมกับแป้งในขณะที่ผักบดยังร้อนอยู่ไม่ต้องคอยให้เย็นนะค่ะ และจะต้องใส่น้ำมันพืชลงไปสักเล็กน้อย เพื่อให้แป้งนวลไม่ติดมือ การนวดส่วนผสมจะต้องไม่เหลวเกินไป หรือแข็งเกินไป นะค่ะ***
ส่วนผสมของข้าวเกรียบมันฝรั่ง
เนื้อมันฝรั่งบด 1/2 ถ้วย แป้งมัน 1 ถ้วย
กระเทียมโขลกละเอียด 2 ชต
พริกไทยปน 1 ชช
เกลือปน 1 ชช
น้ำมันพืช เล็กน้อย
วิธีทำ
1.โขลกกระเทียม พริกไทย เกลือ โขลกให้ละเอียดเข้ากัน
2.ต้มมันฝรั่งแล้วนำมาบด จากนั้นนำไปแป้งมัน กระเทียมที่โขลกละเอียดไว้แล้ว นวดให้นิ่ม ถ้าแป้งยังแข็งให้ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อยพอให้แป้งจับตัวปั้นเป็ นก้อนได้ จากนั้น นำแป้งมาปั้นให้เป็นรูปกลมยาว
3.ปูผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาดในลังถึง วางส่วนผสมที่ปั้นไว้ตรงกลางนึ่ง โดยใช้ไฟแรงประมาณ 1 ชมหรือจนกระทั้งสุก จากนั้นก็นำพาสติกมาพันหุ้มให้เรียบร้อย พักให้เย็นแล้วไปแช่ไว้ ในตู้เย็นช่องธรรมดาประมาณ 4-5 ชม (ให้แป้งแข็งตัวเพื่อจะได้หั่นง่าย ๆ แต่อย่าให้แข็งตัวมากเกิืนไปจะหั่นยาก หรืออ่อนตัวเกินไปก็จะติดมือหั่นไม่ได้)
4.จากนั้นก็นำไปแช่ไว้ในตู้เย็น ช่องธรรมดา1วัน เอาออกมาหั่นเป็นแผ่นบางๆ นำตากให้แห้งสนิท ประมาณ 1-2 แดด (ที่บ้านไม่ค่อยมีแดด เลยตากประมาณ 2 วัน) จากนั้นนำไปทอดได้เลยค่ะ
5.เวลา ทอดใช้ไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน ทอดน้ำมันมาก ใส่ข้าวเกรียบทีละน้อย ช้อนข้าวเกรียบตลอดเวลา ให้ข้าวเกรียบพองเสมอกันทั่ว ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน พักใ ห้เย็นแล้วนำบรรจุถุง เท่านี้ก็ได้ข้าวเกรียบอร่อยๆ ไว้เลี้ยงในงานสังสรรแล้วล ะค่ะ
ลาบหมูทอด
ส่วนผสม
หมูบด 500 กรัม
พริกป่น ตามชอบ ( นกใช้ 3 ชต)
ข้าวคั่ว 1/4 ถ้วย
น้ำปลา 2 ชต
ซีอิ้วขาว 1 ชต
น้ำมะนาว ตามชอบ
แป้งสาลี 3 ชต
หอมแดงหั่นซอย 4-5 หัว
ต้มหอมหั่นซอย 3-4 ต้น
วิธีทำ
1. นำหมูสับมาผสมกับพริกป่น ข้าวคั่ว หอมแดงซอย ต้นหอมซอย คลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และใส่แป้งสาลีลงไปคลุกเคล้าให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันอีกครั้ง
2. นำส่วนผสมทั้งหมดมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ ขนาดตามชอบ อย่าให้หนาเกินหรือบางเกินไป เพราะบางเกินไปก็จะแห้งแข็ง หนาเำกินก็จะทอดไม่สุข ปั้นเสร็จลองทอดดูสักก้อนก่อน เพื่อชิมและดูว่าขนาดได้หรือไม่
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน เปิดไฟปานกลาง รอจนกระทั้งน้ำมันร้อน นำก้อนลาบที่ปั่้นไว้แล้วลงทอด ทอดจนเหลืองสุกได้ที่ ตักขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมันจนสะเด็ดน้ำมัน แล้วก็ตักใส่จาน ยกเสริฟคู่กับผักสดตามชอบได้เลย
***สำหรับน้ำมันที่ใช้ทอด ให้ใช้เพียงพอที่จะทอดก้อนลาบไม่้ต้องใส่ให้เยอะไปพอน้ำมันร้อนแล้วหยิบก้อนลาบที่ปั้นไว้ใส่ลงไป รอให้เหลืองแล้วจึงค่อยกลับ ไม่จำเป็นต้องกลับไปมาบ่อยๆนะคะ หากจะทอดชุดใหม่เอาตะหลิวช้อนเศษผักที่คากระทะออกให้หมดเสียก่อน เพราะเดียวจะทำให้น้ำมันดำไหม้ เวลาทอดชุดใหม่จะไม่สวยนะคะ ***
ยำกุนเชียง/กุนเชียงไร้สาร
กุนเชียง 3 แท่ง
ไก่อบราดซอสแกงเขียวหวานสปาเก็ตตี้
ส่วนผสม
เส้นสปาเกตตีต้มสุก ตามชอบ
กะทิ 1 กป (แยกหัวกะทิ หางกะทิ)
น้ำพริกแกงเขียวหวาน 2 ชต
เห็ดแชมปิญอง หั่นชิ้น 1/4 ถ้วย
พริกหวานหั่นพอคำ 1 ลูก
ใบโหระพา 1 กำมือ
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง 2-3 เม็ด
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
วิธีทำ
1. ใส่หัวกะทิลงในกระทะ ตั้งไฟกลาง เคี่ยวให้แตกมัน ใส่น้ำพริกแกง ผัดพอทั่ว ค่อยๆ ใส่กะทิจนหมด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล คนพอทั่ว ใส่พริกหวาน เห็ดลงไปผัดให้สุก ชิมรสตามชอบ เดือดอีกครั้งปิดไฟในเตาโรยพริกชี้ฟ้าแดง และใบโหระพา คนให้เข้ากันพักไว้
2. หั่นเนื้อไก่อบเป็นชิ้นพอคำ เรียงชิ้นไก่อบใส่จานและจัดเส้นสปาเกตตีใส่จานเดียวกัน ตักซอสแกงเขียวหวานใส่จาน ยกเสริฟได้เลย
***ไก่อบนกใช้ไก่อบที่เหลือจากเมื่อวาน เอาไปอุ่นให้ร้อน อีกครั้ง ส่วนผักที่ใส่ในแกงแล้วแต่จะชอบกัน วันนี้ที่บ้่านนก มีผักไม่กี่อย่างเลยใส่เท่าที่มี แต่ถ้าเพื่อน ๆ มีมะเขือพวง มะเขือเปราะ ข้าวโพดหวาน ก็ใช้ได้เช่นกันค่ะ ส่วนไก่อบ นกไม่ได้ลงสูตรไว้ แต่คิดว่าหลายๆ บ้านคงทำกันเป็นประจำอยู่แล้ว ไก่อบแล้วแต่สูตรของแต่ละบ้าน หากไม่มีเนื้อส่วนหน้าอก จะใช้เนื้อส่วนอื่นก็ได้เช่นกันค่ะ***
สาคูเปียกข้าวโพด
ส่วนผสม
ข้าวโพด 1 กป
ัหัวกะทิ 1/2 ถ้วย
เกลือป่น หยิบมือ
น้ำตาลทราย ตามชอบ (นกใช้ัประมาณ 4 ชต)
น้ำเปล่า ตามชอบ (นกกะใช้ประมาณ 3-4 ถ้วย)
วิธีทำ
1. นำสาคูเทใส่ในกระชอนร่อนเอาเศษผงออกเปิดน้ำผ่านเสียก่อนเพื่อล้างฝุ่นที่เกาะเม็ดสาคูออก สงให้สะเด็ดน้ำ แล้วพักไว้
2. ต้มน้ำเปล่าจนเดือด เทสาคูลงไปและคอยคนให้ทั่วสาคูจะได้ไม่ติดก้นหม้อ ต้มทิ้งไว้สักครู่ จนสาคูมีลักษณะเป็นตากบ (ข้างนอกใสข้างในเป็นสีขาว)
3. ใส่น้ำตาลลงไปคนน้ำตาล และัข้าวโพดลงไปคนให้เข้ากัน พอเม็ดสาคูสุกใสไม่มีไตขาวปิดไฟในเตาให้ยกลงได้เลย
4. ้นำหัวกะทิประมาณ 1 ถ้วย ใส่หม้อเติมเกลือ ยกขึ้นตั้งไฟ คนให้ละลาย พอกะทิเริ่มเดือดยกลง ตักสาคูเปียกใส่ถ้วยหยอดหน้าด้วยหัวกะทิเสิรฟได้เลยค่ะ
***ถ้าสาคูข้นขึ้นให้เติมน้ำร้อนลงไป เพราะเวลาเย็นสาคูจะแห้งข้นขึ้นอีก เรื่องความหวานถ้าต้องการให้หวานอีก ก็ให้เพิ่มน้ำเชื่อมลงไปในหม้อ หรือเวลาทำหัวกะทิราดสาคูก็ให้ผสมน้ำตาล ไม่ต้องใส่น้ำตาลเวลาต้มสาคูก็ได้เช่นกันค่ะ***
หมูผัดผักกาดดองเค็ม
ส่วนผสม
เนื้อหมู 400 กรัม (นกซื้อจากที่เค้าหั่นมาเสร็จแล้วจากซุปเปอร์ฯ)
ผักกาดดองเค็ม (เกี่ยมฉ่าย) 1 กป
น้ำมันหอย 1 ชต
น้ำตาลทราย 2 ชช
เกลือป่น หยิบมือ
พริกไทยป่น 1 ชช
พริกป่นหยาบ ตามชอบ
น้ำมันสำหรับผัด ตามชอบ
วิธีทำ
1. นำเนื้อหมูมาล้างน้ำให้สะอาด สะเด็ดน้ำแล้วนำเกลือป่นมาโรย คลุกให้ทั่วเินื้อหมู พักไว้
2. เอาผักกาดดองเค็มมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ขนาดตามชอบ และเก็บน้ำผักกาดดองเอาไว้ใช้ผัด
3. เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อนให้ใส่หมูลงไปทอดจนหมูค่อนสุกเหลืองคล้าย ๆ หมูทอด จากนั้นตักวขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน จากนั้นเทน้ำมันออกจากกะทะให้หมด
4. เทหมูลงกะทะใหม่อีกครั้ง จากนั้นเทน้ำผักกาดดองลงไปผัดเนื้อหมู ใส่พริกไทยป่น พริกป่นหยาบลงไป ผัดไปเรื่อยๆ จนน้ำเกือบจะแห้งจากนั้นจึงนำผักกาดดองเค็มที่หั่นไว้ใส่ลงไปผัดต่อ เติมน้ำมันหอยและน้ำตาลทราย ผัดให้เครื่องปรุงทุกอย่างเข้ากันชิมรสตามชอบ เสร็จแล้วปิดไฟในเตาตักใส่จานยกเสริฟคู่กับข้า่วต้ม หรือข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ
***ผักหมูผักกาดดองเค็มจะมีรสเค็มๆ หวาน ๆ และเผ็ดเล็ก ๆ ถ้าบ้านไหนมีเด็กไม่ต้องใส่พริกป่นก็ได้นะค่ะ เด็กๆ จะได้กินได้นะค่ะ วันนี้นกใส่พริกป่นนิดหน่อย เพราะมันหมด นกชอบกินคู่กับข้าวต้มกุ๋ยร้อน ๆ ยิ่งอากาศเย็น อย่างนี้ได้ข้าวต้มสักถ้วยคงทำให้ร่างกายอุ่นขึ้ันอีกเยอะเลยละค่ะ สำหรับเกลือนกใส่ไม่เยอะเพราะผักกาดดองมีความเค็มอยู่แล้ว ถ้าใส่เยอะไปจะทำให้ยิ่งเค็มขึ้นไปอีกนะค่ะ แตุ่ถ้าเพื่อนๆ ชอบเค็มให้เพิ่มเกลือให้นิดหน่อย แต่ทางที่ดีชิมผักกาดของเราก่อนว่ามีรสชาติอย่างไรจะได้ใส่เกลือไดุ้ถูกนะค่ะ***
Chocolate and Beer Cake
หมูสามชั้นผัดพริกแกงมะเขือพวง
เนื้อหมูสามชั้นหั่นชิ้นเล็ก ๆ พอคำ 350 กรัม
มะเขือพวง ตามชอบ
น้ำพริกแกงเผ็ด 1 ชต
น้ำปลา 1 ชต
ใบโหระภาพ ตามชอบ
พริกชี้ฟ้า/พริกขี้หนูสด หั่นเฉียง ตามชอบ
น้ำตาลทราย ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับผัด
วิธีทำ
1. เอาน้ำมันใส่กระทะนิดหน่อยให้พอผัดเครื่องแกง จากนั้นเอากระทะตั้งบนเตาใช้ไฟร้อนปานกลาง ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัดจนหอมแตกมัน ใส่เนื้อหมูลงผัดจนเนื้อหมูสุก ผัดให้มันหมูสามชั้ันออกสักหน่อย
2. ใส่เนื้อหมูลงผัดจนเนื้อหมูสุก ผัดให้มันหมูสามชั้ันออกสักหน่อย
3. ใส่มะเขือเปาะลงไป ผัดให้เข้ากันจากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ชิมรสตามชอบ
4. เร่งไฟให้ร้อนขึ้นผัดให้ทุักอย่างเข้ากันดี มะเขือพวงสุก ใส่ใบโหระพา และพริกชี้ฟ้า/พริกขี้หนูสดหั่นเฉียง ผัดให้เข้ากันจากนั้นปิดไฟในเตาตักใส่จานยกเสริฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ได้เลยค่ะ
กุ้งทอด
ส่วนผสม
เกลือ 1 ชช
สีแดงผสมอาหาร (ถ้ามี)
***ถ้าต้องการให้กุ้งทอดมีสีสรร ก็ให้หยดสีผสมอาหารลงไปในแป้งคนให้เข้ากัน ก่อนที่จะใส่กุ้ง วันนี้นกแบ่งทำแบบใส่สีและไม่ใส่สีให้เพื่อนๆ เห็นความแตกต่าง แล้วแต่จะชอบกันนะค่ะ ส่วนน้ำเปล่าหากใส่แล้วแป้งยังข้นไม่ได้ ที่ก็ให้เพิ่มน้ำลงไปอีกจนกว่าแป้งสามารถทอดกุ้งได้ก็หยุดเติมน้ำ***
แกงเผ็ดหมูแดงมะระหวาน
ส่วนผสม
ข้าวคะน้าหมูทอด
ส่วนผสม
เนื้อหมูหั่นสไลด์ 300 กรัม
ยอดคะน้า/ใบคะน้า หั่น 3-4 ต้น
กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
น้ำมันหอย 2 ชต
น้ำตาลทราย ตามชอบ
ซีอิ้วขาว 1 ชช
พริกสดหั่นท่อน 2-3 เม็ด (ุถ้าต้องการให้มีรสเผ็ดนิด ๆ)
เกลือหยิบมือ
วิธีทำ
1. เอาหมูคลุกกับเกลือหมักไว้ประมาณ 30 นาที ครบกำหนดเปิดเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่หมูลงไปทอดจนกรอบเหลือง ตักหมูขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
2. ตั้งกะทะใส่น้ำมันสัก 2 ช้อนโต๊ะ พอน้ำมันร้อนใส่กระเทียมสับลงไปผัด พอกระเทียมเหลืองใส่คะน้าที่หั่นเตรียมไว้ ผัดสักหน่อยแล้วเติมน้ำมันหอย ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ ถ้าต้องการให้มีรสเผ็ดนิด ๆ ก็ใส่พริกสดหั่นลงไป ผัดต่อไปซักพักจนผักคะน้าเริ่มสลดก็ปิดเตาและยกลงได้
3. ตักข้าวใส่จาน ราดด้วยคะน้าที่ผัดไว้ จากนั้นเอาหมูทอดโรยหน้ายกเสริฟร้อนๆ ได้เลยค่ะ
พายแยมแอปเปิ้ล
ส่วนผสมแป้งพาย
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ถ้วย
เนยสด หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 150 กรัม
น้ำเย็นจัด 1 ถ้วย (ใส่ที่ละนิดจนกระทั้งแป้งไม่ติดมือ)
ไข่ไก่ 1ฟอง
ไส้แยมแอปเปิ้ล
วิธีทำ
1.เริ่ม ทำแป้งพายโดยนำส่วนผสมของแป้ง และเนย ใส่ลงในอ่างผสมใช้มือบีบคลุกเค้าให้เข้ากันทั้งหมด เติมน้ำเย็นจัดลงไปที่ละนิดจน ใช้มือนวดให้เข้ากันจนกระทั้งเป็นแป้งโดว์ จากนั้นนำเข้าตู้เย็นพักไว้ประมาณ 1-2 ชม
2. นำแป้งโดว์ที่พักไว้มาคลึงให้ได้ขนาดตามพิมพ์ที่ต้องการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกนำมาบุลงในพิมพ์ ใช้มือกดให้แป้งแนบกับพิมพ์ จากนั้นเอาไส้แยมแอ๊ปเปิ้ลใส่ลง ให้เกลี่ยไส้กระจายทั่วพิมพ์เอาแป้งพายอีกส่วนนำมาตัดให้เป็นเส้น ๆ แล้วปิดหน้ากดให้ริมทั้งสอง ติดกัน
3.ตีไข่ให้แตก แล้วนำมาทาให้ทั่วหน้าพายจากนั้น เอาเข้าเตาอบที่ไฟ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 25 นาที หรือจนกระทั้งจนแป้งพายเป็นสีเหลืองสุกสวย ใส่จานยกเสริฟคู่กับไอศกรีมหรือคัสตาร์ด ก็ได้ค่ะ
***ถ้าเพื่ือน ๆ มีเวลาไม่มาก หรือไม่อยากจะนวดแป้งเอง สามารถใช้แป้งพายสำเร็จที่ขายตามซุปเปอร์ทั่วไปก็ได้สะดวกดี สำหรับเพื่อน ๆที่ต้องการความรวดเร็ว นกเห็นที่นี้ขายราคาไม่แพงเลยค่ะ แต่วันนี้นกทำแป้งพายเอง เพราะเห็นว่าที่บ้านมีส่วนผสม ไม่ต้องออกไปซื้อหาอีกนะค่ะ***
ขนมปังเกลียวแยมแอปเปิ้ล
แป้งขนมปัง 200 กรัม
ยีสต์ 1 ชช
น้ำตาลทราย 1 ชต
นมข้นหวาน 1 ชต
ไข่ไก่ตีแตก 1 ฟอง
เกลือป่น หยิบมือ
เนยจืดละลาย 25 กรัม
นมสด 100 ซีซี
แยมแอปเปิ้ล ตามชอบ
เนยสำหรับทาอ่างผสม นิดหน่อย
วิธีทำ
1. นำนมจืดไปต้มให้พออุ่น ๆ แบ่งนมอุ่นออกมาเล็กน้อยใส่ยีสต์ และน้ำตาลลงไปจากนั้นคนให้เข้ากันพักไว้ให้ยีสต์ทำงาน (ประมาณ 5นาที )
2.ใส่ แป้งลงในอ่างผสมจากนั้นทำหลุมตรงกลาง เทส่วนผสมยีสต์ ไข่ตีแตก เกลือ เนยจืด นมข้นหวานลงไป ค่อยๆตะล่อมแป้ง นวดให้เป็นเนื้อเดียวกันจนเนียน เมื่อแป้งเนียนได้ที่เอาออกจากอ่างผสม คลึงแป้งเป็นลูกกลม ๆ
3.หาอ่างผสมอีกใบ ทาเนยให้ทั่วอ่างผสม แล้วใส่แป้งที่เรานวดคลึงเป็นก้อนกลมๆลงไปในอ่าง หาผ้าสะอาด หรือพาสติกมาคลุมไว้ จากนั้นนำอ่างแป้งไปวางไว้ในที่อุ่นๆ พักจนแป้งขึ้นเป็นสองเท่า (หมักทิ้งไว้ประมาณ 1 ชม)
4.เมื่อแป้งขึ้นเต็ม ที่ ให้เอากำปั้นกดแป้งลงไปไล่ลม นำแป้งที่ได้ยกออกมาวางบนโต๊ะ ตัดแป้งออกเป็นก้อนๆ เท่า ๆกัน พักแป้งให้ขึ้นอีกครั้ง ประมาณ 10 นาที แล้วนำแป้งมาคลึงเบาๆ ตรงการก้อนแป้งทั้งสองด้านคลึงเบา ๆ พยายามแผ่ให้เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตักแยมใส่ลงไปด้านหนึ่งของแป้ง ให้แยมให้อยู่ประมาณครึ่งของแผ่นแป้งด้านใดด้านหนึ่ง โดยเว้นขอบด้านล่างไว้สักนิดประมาณ 1 ชม จากนั้นพับครึ่งแป้งและใช้นิ้วกดให้ทุกด้านปิดกันสนิท
5.ใช้มีดตัดตรงกลางของแผ่นแป้ง สองเส้นให้มีระยะห่างกันพอควร โดยให้เหลือด้านข้างไว้ ประมาณ 2 ซม. จากนั้นจับแป้งที่หั่นไว้แล้วขึ้นมาจับบิดเป็นเกลียว 2 รอบ แล้วจับเกลียวที่ได้ ม้วนเป็นวงกลม จับปลายของแป้งทั้งสองข้างประกบกันอยู่ด้านล่างวางบนถ้วยฟรอย์ พักโดว์อีกครั้ง โดยใช้แผ่นพลาสติกใส (Warp) ปิดทับหลวม ๆ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาด ๆ คลุมเอาไว้อีกชั้น พักโดว์ไว้ในที่อุ่น ประมาณ 25-30 นาที
6.ระหว่างที่หมักแป้งเปิดเตาอบที่ 160 C พอแป้งขึ้นเต็มที่แล้ว ทาหน้าขนมด้วยนมสดนำเข้าเตาอบ ประมาณ 15-20 นาที หรือจนขนมปังเป็นสีน้ำตาลสวย จากนั้นเอาออกจากเตาอบ พักบนตะแกง พร้อมเสริฟได้เลยค่ะ
***สำหรับไส้แยม แล้วแต่จะชอบว่าจะไส้แยะอะไรก็ได้นะค่ะ หน้านี้แอปเปิ้ลเยอะ เลยต้องเอามาทำแยมแอปเปิ้ล เก็บไว้หลายขวดเลยที่เดียว ช่วงนี้เลยเห็นขนมอบที่มีส่วนผสมของแอปเปิ้ลมากว่าช่วงอื่น ๆ เห็นแอปเปิ้ลตกไม่เอาไปทำอะำไรปล่้อยให้เน่าเสีย ดูแล้วเสียดายนะค่ะ***
แยมแอปเปิ้ล
ส่วนผสม
แอปเปิ้ล 2 กก
น้ำตาลทราย 1/2 กก
น้ำมะนาว 1/2 ลูก
เกลือป่น พอประมาณ
วิธีทำ
1. เอาน้ำใส่ลงให้หม้อ หรือภาชนะใบใหญ่ เติมเกลือป่นลงไปพอประมาณ แล้วคนให้เกลือละลาย หั่นปอกเปลือกแอ๊ปเปิ้ล คว้านไส้ และเม็ดออก จากนั้นนำลงแช่ลงในน้ำเกลือที่เตรียมไว้
2. นำแอ๊ปเปิ้ลที่แช่น้ำเกลือ มาหั่นซอย แล้วสับละเอียดตามชอบ (พยายามให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้)พักไว้
3. เอาแอ๊ปเปิ้ลที่หั่นเตรียมไว้ เทใส่ลงหม้อ หรือกระทะ ยกขึ้นตั้งเตาไฟใช้ไฟอ่อน ให้เนื้อแอ๊ปเปิ้ลสุกนิ่ม โดยใช้ไม้พายกวนไปมา กดบี้เนื้อให้เละ (พยายามกวนให้ทั่วถึงกัน แต่ไม่ต้องกวนบ่อยนะค่ะ)
4. พอเนื้อแอปเปิ้ลสุกนิ่มดีแล้วใส่น้ำตาลลง กวนจนกระทั้งน้ำตาลละลายเข้ากันดีกับเนื้อแอปเปิ้ล ใส่น้ำมะนาวลงไป ชิมรสตามชอบ กวนต่อไปจนกระทั้งน้ำงวดแห้ง (ต้องกวนอยู่ตลอดเวลา)เสร็จแล้วนำบรรจุขวดที่ต้มฆ่าเชื้อไว้แล้ว ปิดฝาขณะที่แยมยังร้อนอยู่
5.นำขวดแยมไปต้มในน้ำร้อนอีกประมาณ 30-45 นาที ครบกำหนดยกขวดออกมาตั้งทิ้งไว้ให้เย็น เสร็จแล้วเก็บไว้ในตู้เย็นเท่านี้ก็ได้แยมอร่อยแล้วละค่ะ
***แยมที่นกทำสามารถเก็บไว้ได้เป็นเดือนเลยที่เดียวค่ะ เรื่องของความหวานของแยม ถ้าเพื่อนๆ ชิมรสแล้วอยากให้แยมมีรสหวานอีก เพิ่มน้ำตาลลงไปได้นะค่ะ ของนกไม่ได้เพิ่มน้ำตาลเพราะแอปเปิ้ลไม่เปรี้ยเลยไม่ได้เพิ่มน้ำตาล แต่ถ้าแอปเปิ้ลของเพื่อน ๆ มีรสเปรี้ย ไม่ต้องเพิ่มน้ำมะนาวนะค่ะ เพราะมันเปรี้ยอยู่แล้ว วันนี้นกได้แยมประมาณ 4 ขวด แต่นกใส่ขวดไว้ 3 ขวดที่เหลือเอาไปทำขนมอบ และนี้ก็เป็นแอปเปิ้ลที่พ่อแฟนคลับให้มาค่ะ***
ส่วนนี้ก็เป็น Apple Lattiec Pies ไส้แยมค่ะ
เต้าคั่ว/ท่าวคั่ว/เปรี้ยวหวาน/สลัดทะเลสาบ
เกลือ หยิบมือ
มะเขือเทศแช่อิ่มแห้ง/มะเขือเทศเชื่อมแห้ง
มะเขือเทศเชอร์รี่ ประมาณ 1 กก
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
น้ำมะนาว 1/2 ซีก
น้ำปูนใส 2 ถ้วย
วิธีทำ
1. ล้างมะเขือเทศเชอร์รี่ให้สะอาด ผึ่งไว้พอแห้ง จากนั้น ใช้มีดคม ๆ กรีดข้าง ๆ ผลแต่ละลูกกรีด(อย่าให้ขาด) 4-5 แฉก แล้วใช้สันมือกดเบาๆให้เมล็ดข้างในไหลออกมา ทำเช่นนี้จนหมดมะเขือเทศ
2. นำมะเขือเทศที่เตรียมไว้ ไปแช่ในน้ำปูนใส กะให้น้ำปูนใสท่วมมะเขือเทศ ใช้มือกดเบา ๆ ให้น้ำปูนใส่ท่วมมะเขือเทศ แช่ในน้ำปูนใส นานประมาณ 1-2 ชม
3. เมื่อครบกำหนดเวลา นำมะเขือเทศขึ้นบีบส่ายเขย่าเบา ๆ ทีละลูก นำเอามาวางพักให้แค่พอสะเด็ดน้ำ
4. นำมะเขือเทศลงในกระทะทองเหลือง หรือกระทะเทฟลอน ใส่น้ำตาลลงไปในกระทะมะเขือเทศ เปิดไฟกลางค่อนข้างอ่อน เคี่ยวให้น้ำตาลละลาย เชื่อมจนกว่าน้ำเชื่อมจะงวดเหนียว จากนั้นบีบน้ำมะนาวใส่ลงไปในกระทะมะเขือเทศ ใช้ช้อนตักขึ้นทีละลูก นำเรียงบนตะแกรงนำไปตากแดดจนแห้งสนิท เก็บใส่ขวดหรือใส่กล่อง ปิดฝาให้สนิท เก็บไว้กินเล่นหรือจะใช้ทำขนมคุ๊กกี้เค้กแล้วแต่จะชอบได้เลยค่ะ
***มะเขือเทศแช่อิ่มแห้งสามารถเก็บไว้ได้นานเป็นเดือนเลยละค่ะ ที่บ้านเก็บไว้ไม่ถึงเดือนหลอกค่ะนกหยิบกินเล่นไม่กี่วันก็หมด ครั้งนี้กะไว้ว่าจะไม่หยิบกินเล่นทำเสร็จแล้วจะเก็บเอาไว้ใช้ทำขนมไม่รู้จะได้ไม่นะเนี้ย กลัวหยิบกินจนลืมเหมือนครั้งก่อนอีก นึกขึ้นได้ไม่พอใช้ทำขนมเสียอีก***
ซอสมะเขือเทศ
ส่วนผสม
มะเขือเทศสุก 1 กก
หอมใหญ่ 1/2 หัว
กระเทียม 7-8 กลีบ
พริกแดงผ่าเม็ดออก 1 เม็ด
กานพลู 2-3 ดอก
อบเชย 1 ชิ้น (ยาวประมาณ 2-3 นิ้ว)
น้ำตาลทราย ตามชอบ
เกลือป่น หยิบมือ
น้ำสมสายชู ตามชอบ (นกใช้ไปชิมไปให้ออกรสเปรี้ยวนิด ๆ)
พริกไทยป่น หยิบมือ
วิธีทำ
1. นำมะเขือเทศมาล้างให้สะอาด แล้วหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ ตามชอบ หั่นหอมหัวใหญ่ พริก และกระเทียมใส่ลงในหม้อ
2. เอาหม้อขึ้นตั้งบนเตาเปิดไฟค่อนข้างอ่อน ตั้งไฟเคี่ยวจนนุ่ม
3. เมื่อส่วนผสมนุ่มได้ที่ ปิดไฟในเตา ยกออกมาวางพักไว้ให้เย็น เมื่อเย็นแล้วก็นำไปปั่นให้ละเอียด กรองเอาแต่เนื้อ ส่วนกากที่เหลือให้เททิ้งไป
4. นำเนื้อที่กรองแล้วไปเคี่ยวให้งวดสักนิดหน่อย จากนั้นโรยพริกไทยป่น น้ำส้มสายชู กานพูล อบเชย (เครื่องเทศต้องห่อผ้าขาวผูกให้เรียบร้อยแล้วจึงเอาลงต้ม) น้ำตาลทราย และเกลือ ชิมรสตามชอบ จากนั้นเคี่ยวต่อให้งวดจนเหมือนกับซอส
5. เตรียมขวดล้างต้มฆ่าเชื้อเสียก่อน จากนั้นตักซอสขณะยังร้อน ๆใส่ขวดปิดฝาให้แน่นทิ้งไว้ให้เย็นจากนั้นเอาเข้าตู้เย็นได้เลยค่ะ
***ซอสมะเขือเทศที่ทำสามารถเก็บไว้นานประมาณ 1 เดือน ของนกทำทีหนึ่งได้ประมาณสองขวด เดือนหนึ่งกินหมดไม่เหลือ จริงๆ แล้วหมดก่อนหนึ่งเดือนเสียอีก อยากบอกว่าแฟนคลับชอบนะค่ะ แต่ถ้านกทำไปฝากพ่อแม่แล้วก็จะไม่ผสมเครื่องเทศ กระเทียม และพริกลงไปนะค่ะ เพราะท่านทั้งสองไม่ชอบใส่แต่หอมอย่างเดียวก็อร่อยเช่นกันค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ ไม่ชอบก็ไม่ต้องใสก็ได้นะค่ะ สำหรับซอสมะเขือเทศของนกจะมีรสเผ็ดนิดๆ ไม่มากค่ะ เด็ก ๆ กินได้ไม่ต้องกังวลนะค่ะ ***
น้ำพริกแคบหมู
ส่วนผสม
แคบหมู 1 ถ้วย
พริกสด ตามชอบ (วันนกใช้พริกหลาย ๆ อย่างรวมกันค่ะ)
กระเทียม 10-20 กลีบ
หอมแดง 5-6 หัว
เกลือ 1/2 ชต
วิธีการทำ
1. ตำแคบหมูให้ละเอียดตามชอบพักไว้
2. นำพริก กระเทียม หอมแดง นำไปย่างไฟให้หอม
3. นำพริก กระเทียม หอมแดงที่ย่างไว้ โขลกรวมกับเกลือให้ละเอียด
4. เอาแคปหมูทีโขลกไว้มาผสมรวมกันน้ำพริก โขลกให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบตักใส่ถ้วยยกเสริฟคู่กับผักสด หรือผักลวกได้เลยค่ะ
***วันนี้นกใช้พริกหลากหลายเก็บสด ๆ จากต้นเลยละค่ะ น้ำพริกแคปหมูวันนี้เอาเผ็ดเค็มเข้าว่าค่ะ คลุกกับข้าวสวยร้อน ๆ อร่อยจริงๆ นี้เป็นพริกที่นกปลูกไว้ปีนี้ค่ะ***
ไข่เจียวเบคอน
ไข่ไก่ 3 ฟอง
ต้นหอมหั่นหยาบ 2 ต้น
เบคอนหั่นสี่เหลี่ยวลูกเต๋าขนาดเล็ก 250 กรัม
พริกสดหั่นหยาบ ตามชอบ (ถ้าไม่ชอบเผ็ดก็ไม่ต้องใส่)
หอมแดงซอยบาง 2-3 หัว
น้ำมันพืช สำหรับทอด
ซอสมะเขือเทศหรือซ๊อสพริก หรือพริกน้ำปลา ตามชอบ
วิธีทำ
1.ตอกไข่ลงในชามตีจนเข้ากัน ใส่ต้นหอม พริกสด หอมแดง และเบคอน คนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี พักไว้
2.ใส่น้ำมันลงในกระทะและนำขึ้นตั้งบนเตาใช้ไฟร้อนปานกลาง รอจนน้ำมันร้อน จากนั้นนำไข่ลงไปในกระทะ ทอดจนกระทั่งเหลืองหอมและสุกทั่วทั้งสองด้าน จากนั้นตักใส่จาน ยกเสริฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ และซอสมะเขือเทศหรือซ๊อสพริก หรือพริกน้ำปลา ตามชอบได้เลยค่ะ
แกงส้มเปลือกแตงโมกับกุ้ง
ส่วนผสมเครื่องแกง
พริกขี้หนูสด/แห้ง ตามชอบ (วันนี้นกใช้พริกขี้หนูสดประมาณ 20-25 เม็ด)
เกลือ1 ชช
หอมแดง 2 หัว
กระเทียม 4-5 กลีบ
ขมิ้นสด 1 แง่ง (นกไม่มีใช้ขมิ้นผง 2 ชช)
เกลือ1 ชช
กะปิ 2 ชช
น้ำตาลปีบ 2 ชช
วิธีทำ
นำส่วนผสมมาโขลกรวมกันยกเว้นกะปิ และน้ำึุตาลปีบ จากนั้นโขลกให้ละเอียดตามชอบ ใส่กะปิและน้ำตาลปีบ โขลกให้เข้ากันอีกครั้ง เสร็จแล้วพักไว้
ส่วนผสมแกงส้ม
กุ้งสดประมาณ 300 กรัม
เปลือกแตงโมหั่นชิ้นพอคำ ประมาณ 2 ถ้วย
เครื่องแกงส้ม 1 1/2 ชต
น้ำมะขามเปียก ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ
วิธีทำ
1. นำกุ้งมาแกะเปลือกออก ผ่าหลัง ดึงเส้นดำออก พักไว้
2. นำเครื่องแกงที่ได้ใส่ลงไปในหม้อ เติมน้ำลงไป คนให้ทั่วแล้วนำไปตั้งเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง นำเครื่องแกงที่ได้ใส่ลงไปในหม้อ เติมน้ำลงไป คนให้ทั่วแล้วนำไปตั้งเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง
3 .น้ำแกงเดือดใส่ แตงโมลงไปต้มสักพัก ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลาและน้ำตาล ชิมรสชาติให้มีความเปรี้ยว เค็ม เผ็ด จากนั้นใส่กุ้งลงไปรอซักพักจนกุ้งเริ่มสุกจึงคนให้เข้ากัน ปิดไฟในเตาอักใส่ชามยกเสริฟพร้อมข้าวสวยร้อนได้เลยค่ะ
***แกงส้มเปลือกแตงโมวันนี้มีเมนู เคียงข้างเป็นไข่เจียวเบคอน สำหรับนกแล้ว คิดถึงแกงส้มเปลือกแตงโมฝีมือแม่ที่สุดเลยค่ะ แม่มักจะทอดปลาทูเค็มแดดเดียวให้ด้วย คิดถึงปลาทูเค็มจริงๆ เลย***
น้ำพริกหนุ่ม สูตรใส่น้ำปลา
กระเทียม 10 กลีบ
หอมแดง 5 ลูก
เกลือป่นตามชอบ (นกใส่ชิมไป)
ผักสดเครื่องเคียง
วิธีทำ
1 นำพริก กระเทียม หอมแดงย่างให้สุก จากนั้นลอกเปลือกออก
2. นำพริก กระเทียมและหอมแดที่ย่างลงโขลกให้ละเอียดตามชอบ ปรุงรสด้วยเกลือป่นชิมรสตามชอบ ตัดใส่ถ้วยเสริฟคู่กับผักเครื่องเคียง ตามชอบ ได้เลยค่ะ