ก๋วยเตี๋ยวน่องไก่

นกกับแฟนคลับเราทั้งสองคนชอบทานก๋วยเตียวเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวแห้ง ก๋วยเตี๋ยวน้ำ เส้นเล็ก เส้นใหญ่ หรือจะป็นเส้นหมี่ เราทั้งสองไม่เกี่ยงค่ะ แต่ที่จะต่างกันก็คงเรื่องผักค่ะ นกชอบทานแบบถั่วงอกเยอะ รสเผ็ดจัด ๆ ค่ะ ส่วน แฟนคลับนกไม่ชอบทานถั่วงอก รสเผ็ดนิดหน่อย ชามที่เพื่อน ๆ เห็นนี้เป็นของแฟนคลับค่ะ ( บะหมี่ ไม่งอก ไม่เผ็ด)


ส่วนผสม
น่องไก่เลือกขนาดตามชอบ 5-6 น่อง
แครอท 2 หัว
หัวผักกาด (หัวไชเทา-หรือฉ่ายเท้า) 1 หัว
เห็ดแซมปิยอง 10 ดอก
ต้นหอมผักซีซอย 2 ต้น
ซีอิ้วขาว 2 ชต
เกลือตามชอบ
รากผักชี 2 ราก
กระเทียม 4 กลีบ
พริกไทย 2 ชช
ซุปไก่ก้อน (ถ้ามี)
ถั่วงอก หรือผักอืน ๆ ตามชอบ

วิธีทำ
1. ปอกเปลือกแครอท หัวผักกาด และเห็ดแซมปิยอง หั่นเป็นชิ้นพอคำล้างให้สะเด็ดน้ำพักไว้
2. โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย พอหยาบ ๆ
3. ตั้งหม้อใส่นำ้ตามต้องการใส่ ซีอิ้วขาว เกลือ ซุปไก่ก้อน และ รากผักชี กระเทียม พริกไทยที่โขลกไว้แล้ว
4. พอน้ำเดือดเล็กน้อย นำน่องไก่ลงต้ม พอสุก ใส่เแครอท หัวผักกาดลงไปต้มต่อจนกระทั้งผักสุกนิ่ม จากนั้นใส่เห็ดแซมปิยองลงไปต้มต่อจนกระทั้งเห็ดสุก ชิมรสตามชอบ ตั้งอุ่นให้ร้อน
5. ตั้งหม้ออีกใบใส่น้ำลงไปรอจนกระทั้งน้ำเดือด ลวกถั่วงอก หรือผักอืนๆตามชอบลงไปลวก จนกระทั้งผัดสลบได้ที่เทใส่กระชอนสะเด็ดน้ำออกให้หมด ใส่ชามรอ ลวกเส้นก๋วยเตียวที่ต้องการลงชามผัก ตักน่องไก่ แครอท หัวผักกาด เห็ดแซมปิยอง และนำ้ซุปลงชามผัก โรยหน้าด้วยหอมผักชี ยกเสริฟร้อนๆ ได้เลยค่ะ

ซี่โครงหมูทอดกระเทียมพริกไทย

ส่วนผสม
ซี่โครงหมู สับเป็นท่อนสั้นๆ 1/2 ก.ก.
กระทียม 10 กลีบ
เกลือ 1 ชช
พริกไทยป่น 2 ชช
ซี้อิ้วขาว 2 ชต
ซีอิ้วดำเล็กน้อยตามชอบ
น้ำตาลเล็กน้อยตามชอบ
วิธีทำ
1.โขลกกระเทียม พริกไทยป่น ให้เข้ากัน
2.ซี่โครงหมูตัดชิ้นตามต้องการ ล้างพักให้สะเด็ดน้ำ
3.นำเครื่องที่โขลก คลุกเคล้ากับซี่โครงหมูปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว ซีอิ้วดำ น้ำตาล เคล้าให้ทั่วหมักไว้อย่างน้อย 30 นาที - 1 ชม.
4.ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันมาก ทอดในน้ำมันร้อนปานกลางไฟปานกลางค่อยข้างแรง จนสุกสีเหลืองสวยตักขึ้นพักในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน ยกขึ้นเสริฟพร้อมกับซอสพริกทานคุ่กับข้าวสวย หรือจะเสิรฟพร้อมข้าวเหนียวส้มตำก็ได้ค่ะ

Apple Crumble


ส่วนผสม
แอ๊ปเปิ้ลเขียว 6 ผล
น้ำตาลทราย 250 กรัม
แป้งสาลี 200 กรัม
เนย 150 กรัม
อบเชย 1 แท่ง

วิธีทำ
1.ปลอกเปลือกแอ๊ปเปิ้ล หั่นเป็นชิ้นๆพอคำ
2. เอาแอ๊ปเปิ้ลที่หั่น อบเชย น้ำตาลทราย 50 กรัม ใส่ลงในหม้อ นำขึ้นตั้งเตาใช้ไฟปลานกลาง เคี่ยวให้แอ๊ปเปิ้ลอ่อนและนิ่ม ยกขึ้นจากเตาเขี่ยอบเชยออกตักแอ๊ปเปิ้ลใส่พิมพ์ที่ต้องการพักไว้ให้เย็น
3. เปิดเตารอไว้ที่ 150 C ทิ้งให้อุณหภูมิคงที่
4. นำแป้งสาลี่ เนย และน้ำตาลทรายที่เหลือทั้งหมด ใส่ลงในอ่างผสม นวดคลุกให้เข้าก้น จะได้แป้งเค้ก ร่วน ๆ
5.เอาแป้งเค้กที่ได้โรยให้ทั่วพิมพ์ ปิดหน้าไม่เห็นแอ๊ปเปิ้ล จากนั้นนำเข้าเตาอบ อบประมาณ 30 นาที่ หรือจนกระทั้งสุกได้ที่ ยกออกจากเตา พักให้เย็น

****หน้าเค้กที่เห็นวันนี้นกใส่ แอลมอนลง เพื่อน ๆ จะใส่ก็ได้ ไม่ใส่ก็ได้ค่ะ แต่ที่นกใส่มีเห็นผลเพราะอยากทานนะค่ะ โรยหน้าให้ทั่ว ๆ ก่อนเข้าเตาอบค่ะ****



Chicken Tikka Masala

แฟนคลับนกชอบทานไก่มาก ๆ ค่ะ นกไปเจอะสูตรนี้ในหนังสือพิมพ์ถามแฟนคลับว่ารู้จักเมนูนี้หรือเปล่า แฟนคลับตอบกลับมาว่า ทำไม่จะไม่รู้จักละ แกงนี้เป็นของอีนเดียขึ้นชื่อมากที่เดียว แฟนคลับเล่าให้ฟังว่าเคยไปทานที่ร้านอาหารกับเพื่อน ยังติดอกติดใจอยู่เลย อย่างนี้เข้าทางเราพอดีเลย นกเองก็อยากจะทำอยู่แล้วไม่ต้องรีรอจัดการทำเป็นอาหารมื้อเย็นวันนี้เสียเลยคะเพื่อน ๆ ผลตอบรับเป็นไปอย่างที่คิดเอาไว้ค่ะ เห็นที่นกต้องเอาไปเป็นเมนูขึ้นโต๊ะอีกหลายหนละ


ส่วนผสม
เนื้อไก่หน้าอก 3 ชิ้น
น้ำมันพืช 3 ชต (ใช้สำหรับผัด)

หัวหอม1 1/2 ลูก หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า
มะเขือเทศลูกใหญ่ 1 ลูก หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า
Tomato puree 1 ชช
น้ำซุปไก่ หรือ น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
หัวกระทิ 1/2 ถ้วย
กระวาน 1 ชช
อบเชย 1 ชช
กระเที่ยมสับ 2 ชช
ขิงสับ 2 ชช
ยี่หร่า 1 ชช
เม็ดผัดชี 1 ชช
ขมิ้น 1/4 ชช
Cayenne pepper 1ชช
Paprika 1 ชต
Garam masala 1 ชช
เกลือ ตามชอบ
น้ำตาล ตามชอบ

วิธีทำ
1.ผสมเครื่องแกงก่อนโดยเอา กระวาน อบเชย กระเที่ยมสับ ขิงสับ ยี่หร่า เม็ดผัดชี ขมิ้น Cayenne pepper Paprika และGaram masala ผสมให้เข้ากันพักไว้ (เครื่องเทศอย่างพวกกระวาน อบเชย ยี่หร่า เม็ดผัดชีแนะนำให้ใช้แบบที่ทำสำเร็จเรียบร้อยแล้วไม่ต้องมาโขลกกันอีก)
2.ตั้งกะทะบนเตาใช้ไฟปานกลางใส่น้ำมันลงในกะทะพอน้ำมันเริ่มร้อน นำหอมลงผัดให้จนกระทั้งสุก
3.นำส่วนเครื่องแกงที่เตรียมไว้ลงผัด จากนั้นนำมาเขือเทศลงผัด ใส่Tomato puree ลงผัดไปจนกระทั้งมะเขือเทศสุก
4. ใส่ไก่ผัดคนให้เข้ากับเครื่องแกง เติมน้ำ หรือน้ำซุป เคี่ยวไปจนกระทั้งไก่สุกได้ที่ ใส่กะทิ เคี่ยวอีกครั้ง พอกะทิสุก ชิมรสตามชอบ ตักใส่จานยกเสริฟได้เลยค่ะ

***จานนี้ของแฟนคลับค่ะ เพื่อน ๆ รสไม่เผ็ดเท่าไร ทานคู่กับขนมปังอินเดีย ที่เรียกว่านานนะค่ะ****







เค้กแอ๊ปเปิ้ล


ส่วนผสม
แป้งเค้ก 120 กรัม
น้ำตาลทราย 120 กรัม
เนย 120 กรัม
ผงฟูู 1 ชช
ไข่ไก่ 2 ฟอง
แอ๊ปเปิ้ลเขียว 3 ลูก (ถ้าลูกขนาดใหญ่ ใช้ 2 ลูกก็พอค่ะ)
ผงอบเชย 1 ชช (ใช้โรยหน้าก่อนอบ)
น้ำตาลทราย 2 ชช (ใช้โรยหน้าก่อนอบ)

วิธีทำ
1.เปิดเตาอบใช้ไฟ180 องศาเซลเซียส หรือ 350 องศาฟาเรนไฮต์ ผสมผงอบเชยและน้ำทรายสำหรับใช้โรยหน้าก่อนอบเข้าด้วยกัน พักไว้
2.แอ๊ปเปิ้ลเขียวปอกเปลือกหั่นเป็นเสี้ยว ๆ เหมือนรูปเรือ แช่น้ำมะนาวทิ้งไว้สักครู่ สงขึ้นจากน้ำ พักให้แห้ง
3.นำแป้งสาลี ผงฟูู ผสมร่อนพักไว้
4. นำน้ำตาล และเนย ใส่ลงอ่างผสมตีด้วยเครื่องจนกระทั้งส่วนผสมเข้ากัน
5. ตอกไข่ใส่ชามตีให้ไข่แดงพอแตกใส่ลงในอ่างผสม ตีให้เข้ากัน จากนั้นใส่แป้งไปในอ่างผสม ตีด้วยเครื่องอีกครั้งจนกระทั้งแป้งและไข่เข้ากัน
6. นำพิมพ์ทีเตรียมไว้ทาเนยให้ทั่ว จากนั้นเอาแป้งเค้กเทใส่ในพิมพ์เกลี่ยให้เสมอกัน
7. นำแอ๊ปเปิ้ลที่หั่นไว้เรียบร้อยแล้ว วางเรียงลงบนแป้งกดลงไปสักนิดหน่อย เรียงให้ทั่วพิมพ์ จากนั้นโรยด้วยหน้าด้วยน้ำตาลทราย และ ผงอบเชยที่เตรียมไว้ให้ทั่ว นำเข้าเตาอบ อบประมาณ 45 นาที หรือจนกระทั้งเค้กสุก เมื่ออบได้ที่แล้วนำออกจากเตาอบ ตั้งทิ้งไว้สักพักจากนั้นเอาออกจากพิมพ์ผึ่งบนตะแกรงให้เย็น ตัดใส่จานเสริฟ คู่กับครีม หรือไอศรีม ตามชอบได้เลยค่ะ

***ความร้อนในเตาแต่ละบ้านอาจไม่เท่ากัน ต้องสักเกตความร้อน และเวลาในการอบอบ ทดสอบว่าเค้กสุกแล้วหรือยังให้เอาไม้เสียบลูกชิ้นจิ้มลงในเนื้อเค้ก ถ้าเนื้อเค้กไม่ติดไม่ขึ้นมาแสดงว่าเค้กสุกได้ที่***

เต้าหู้ทอด

เต้าหู้ทอดสูตรไม่ได้มีอะไรพิเศษค่ะ ความพิเศษอยู่ที่ตัวเต้าหู้แข็งค่ะเพื่อน ๆ เต้าหู้แข็งที่เห็นนกทำเองกับมือนะค่ะ รสชาติเหมือนกับที่ซื้อในตลาดเลยละ อย่างพึ่งหัวเราะนกนะว่าทำไม่มีความมานะขนาดนี้ เหตุผลมีข้อเดียวคือหาซื้อเต้าหู้แข็งไม่ได้ แถวบ้านไม่มีร้านขายของเอเซียค่ะ ถ้าอยากได้จริง ๆ ต้องขับรถไปกลับเกือบ 2 ชมไม่คุ้ม แถมนกทานคนเดียวแฟนคลับเค้าไม่ได้ทานกับนกด้วยหรอกค่ะ ทานไม่เป็น ดีแล้วฉันทานคนเดียวก็อร่อยคนเดียว อิ่มไปเลยมื้อนี้





ส่วนผสม
เต้าหู้ขาวแข็ง 1 ก้อน

น้ำมันสำหรับทอด
ผักชี หั่นหยาบ



วิธีทำ
1. หั่นเต้าหู้ให้เป็นชิ้นเๆ ตามชอบ ใส่พริกป่น พักไว้
2. ตั้งกระทะน้ำมันด้วยไฟกลางจนน้ำมันใกล้จะร้อน นำเต้าหู้ลงทอดจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน ทอดจนหมด จัดใส่จานยกเสริฟร้อน ๆ เป็นของว่างพร้อมกับน้ำจิ้มรสเด็ด ได้เลยค่ะ

*** น้ำจิ้มแล้วแต่จะชอบค่ะ ของนกใช้น้ำจิ้มไก่ ผสม ถั่วลิสงคั่วบุบพอแตก โรยหน้าด้วยผักชีซอย ก็อร่อยได้ใจแล้วค่ะ แต่นกมีสูตรน้ำจิ้มรสเด็ดมาฝาก เพือน ๆ หาใครขยันทำลองสูตรน้ำจิ้มนี้แล้วจะติดใจเช่นเดียวกันค่ะส่วนผสม ก็มี น้ำตาลทรายแดง น้ำมะขามเปียก เกลือป่น พริกป่น และถั่วลิสงคั่วบุบพอแตก ค่ะส่วนขั้นตอนการทำก็ไม่ได้ยุ่งยากค่ะ เคี่ยวน้ำตาลทรายแดง มะขามเปียก เกลือ พริกป่น ด้วยไฟอ่อนจนข้นเหนียว ยกลงพักไว้ให้เย็น เวลาจะรับประทานจึงโรยด้วยถั่วลิสงคั่ว น้ำจิ้มที่ได้จะมีรสเผ็ด เปรี้ยว หวาน กลมกล่อมค่ะ***

หลังจากที่นกเขียนเมนูนี้ให้เพื่อน ๆ ได้ชิมกัน มีน้องคนหนึ่งหลังไมค์ถึงนกว่านกทำเต้าหู้แข็งได้อย่างไร นกส่งข้อความกับไปพร้อมสูตร นึกขึ้ได้ ว่าที่บล๊อกเอกก็ยังไม่สูตรเหมือนกัน เลยเอามาลงเสียเลยเผื่อเพื่อน ๆชาวครัวอีกหลาย ๆคนสนใจส่วนภาพเต้าหู้แข็งติดไว้ก่อนไว้ทำครั้งต่อไปจะเอามาให้ชมกัน เอาส่วนผสมและวิธีทำกันไปก่อน

ส่วนผสม
น้ำเต้าหู้ 1 กล่อง (รสจืด)
น้ำดีเกลือ 1 ชต (ภาษาอังกฤษเรียกแมกเนเซี่ยมซันเฟท )
พิมพ์ (กล่องพลาสติกขนาดกลาง)
ผ้าขาวบาง

วิธีทำ
1.นำน้ำเต้าหู้มาต้มให้พอร้อนไม่เดือด
2.เทน้ำดีเกลือลงในหม้อที่ละนิดคนให้ทั่ว จากนั้นใส่น้ำดีเกลืออีกและคนให้ทั่ว ทำแบบนี้จนหมดน้ำดีเกลือ สังเกตน้ำเต้าหู้เริ่มจับตัวขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นทิ้งให้น้ำเต้าหู้แยกตัวออกจากน้ำ
3.ตักเต้าหู้ที่แยกตัวใส่ในพิมพ์ที่รองด้วยผ้าขาวกรอง จนพูนเต็มกล่อง ห่อผ้าให้เรียบร้อย ทับด้วยของหนักประมาณ 1 ชม เพื่อไล่น้ำออกจากโปรตีน
4.ครบกำหนดจะได้เต้าหู้แข็ง นำเต้าหู้ที่ได้ไปนึ่งสักครู่จน (จับดูเต้าหู้ร้อนทั่วก็ใช้ได้) จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็น เก็บใส่กล่องปิดฝา นำเข้าแช่ตู้เย็น รอนำไปปรุงอาหารตามชอบได้เลย

***เต้าหู้ที่เราทำเองสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นประมาณ 8-9 วัน***


ข้าวอบพริก


ส่วนผสม
ข้าวสวย 2 ถ้วย
กุ้งสด 8-10 ตัว
กุนเชียง หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 ข้าง
ไก่ หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 250 กรัม
พริกหวานลูกใหญ่ ๆ หั่นครึ่งลูก 4 ลูก
แครอท หั่นเป็นลี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/2 หัว
ถั่วลันเตา 1/4 ถ้วย
ข้าวโพดอ่อน 1/4 ถ้วย
ผักกาดขาว หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 3 ใบ
หน่อไม้ฝรั่ง หั่นเป็นท่อนเล็ก ๆ 5 ต้น
กระเทียม 2 กลีบ
หอมหัวใหญ่ หั่นเป็นสี่เหลี่ยม 1/2 หัว
ผักชี ต้นหอม หันหยาบ ๆ ตามชอบ
น้ำพริกเผา 1 ชต
น้ำมันหอย 2 ชต.
ซีอิ้วขาว1ชต.
น้ำตาลทราย 1/4 ชช
พริกไทยดำป่น ตามชอบ
น้ำมันพืช 2 ชต

วิธีทำ
1.กุ้งสด แกะเปลือกไว้หาง ผ่าหลังแล้วดึงเส้นดำออก
2.นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่ กุนเชียงลงไปทอดพอสุก นำหอมหัวใหญ่ กระเทียมลงผัดให้หอมผัดสักครู่ ใส่ไก่ลงไปผัดรวมกันจนไก่เริ่มสุก ใส่กุ้งลงไปผัดให้กุ้งพอเปลี่ยนสี
3.นำผักที่เตรียมไว้ทั้งหมดลงผัดให้พอสะดุง (ยกเว้นพริกหวาน) ใส่น้ำมันหอย ซีอิ้วขาว น้ำพริกเผา และน้ำตาลทรายลงไปผัดให้เข้ากัน
4.เร่งไฟแรงสุด ใส่ข้าวสวยลงไปผัดจนหอม ชิมรสตามชอบ โรยพริกไทย แล้วใส่ ต้นหอม คน 2-3 ครั้ง ปิดไฟค่ะ ตักข้าวใส่พริกหวานที่เตรียมไว้ นำเข้าเตาอบ อบจนกระทั้งพริกสุกได้ที่ ใส่จานยกเสริฟได้เลยค่ะ

กุ้งกั้งผัดผงกระหรี่

อย่างที่นกบอกเพื่อน ๆ นะค่ะ ช่วงนี้ติดใจกับการทำขนมฝรั่ง ไม่ได้ทำอาหารเมนูใหม่ๆ เลย ดีใจที่เมื่อเช้าไปซื้อของกับแม่แฟนคลับที่บ้าน นกดันไปเจอะกุ้ง กั้งขายคู่กันในกล่อง ตัวไม่เล็ก ไม่ใหญ่ กำลังน่าทานเลยค่ะเพื่อน ๆ เมนูนี้อยู่ในใจนานแล้วค่ะว่าจะทำให้แฟนคลับทาน เพราะ กุ้งกั้ง ถือเป็นของโปรด ของชอบแฟนคลับก็ว่าได้ค่ะ วันนี้นกเลยได้ฤกษ์โชว์ฝีมือแม่ครัวมือใหม่ว่าแล้วก็ลงมือทำเป็นอาหารเย็นเสียเลยค่ะ




ส่วนผสม
กุ้ง กั้ง 300 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง
ต้นหอมหั่นเป็นท่อนสั้น 2 ต้น
คึ่นฉ่ายหั่นเป็นท่อนสั้น 2 ต้น
หอมใหญ่หั่นเป็นชิ้น 1 หัว
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ 2 เม็ด
ผงกะหรี่ 2 ชช
พริกไทยป่น 1/ 4 ชช
น้ำมันหอย 1 ชต
น้ำพริกเผา 1 ชต
นมสด 1 /2 ถ้วย
กระเทียมสับ 2 กลีบ
น้ำมันสำหรับผัด 2 ชต

วิธีทำ
1.นำกุ้ง กั้งแกะเปลือกออกล้างให้สะอาดพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2.เอานมสด น้ำพริกเผา ไข่ไก่ ใส่ถ้วยตีให้เข้ากัน พักไว้
3.ใส่น้ำมันลงในกระทะตั้งไฟให้ร้อน ใส่กระเทียมสับลงผัดให้หอม นำกุ้ง กั้งลงผัดต่อพอให้สะดุง ใส่ผงกะหรี่ ตามด้วยส่วของนมที่เตรียมไว้ ใส่น้ำมันหอย ผัดให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
4.ใส่หัวหอมใหญ่ ต้นหอม คื่นฉ่าย พริกชี้ฟ้าแดง ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง โรยพริกไทย ปิดไฟในเตา ตักใส่จาน เสริฟ คู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

เค้กส้ม (Tangy Orange Cream Sponge)

นกเป็นคนชอบทานส้มมาก ๆ โดยเฉพาะน้ำสัม ชอบคั่นเองสด ๆ ดื่มได้รสชาดดีค่ะ นกไม่ได้เป็นนางเอกกับเค้าหรอกนะค่ะเพื่อน ๆ ที่ชอบก็เพราะไปอ่านหนังสือเจอว่าช่วยลด คอเลสเตอรอล หรือไขมันในเส้นเลือด ช่วยคลายเครี่ยด เมื่อรู้แล้วว่ามีประโยชน์ก็น่าจะทานใช่ไม่ค่ะ นกเลยซื้อติดบ้านเป็นประจำ แถมบังคับแฟนคลับให้ทานส้มอีกต่างหาก ด้วยความที่นกตั้งใจหลายครั้งหลายหนว่าจะทำเค้กส้มแต่ก็ยังไม่มีโอกาสสักทำสักที่ มาวันนี้ไปเที่ยวตลาดตอนเช้าได้สัมสวย ๆ มาหลายลูกแถมราคาถูกใจ จัดการซื้อมาทำเสียเลยยิ่งตอนบ่าย ๆ ว่างงานไม่มีโปรแกรมว่าจะทำอะไรอยู่ด้วย ทำเค้กนี้ละ ดีกว่านั่งเล่น ๆ ดูทีวีคอยแฟนคลับกลับบ้าน ว่าแล้วก็ลงมือกันเถอะค่ะเพื่อน ๆ

ส่วนผสม

แป้งเค้ก 2 ถ้วย
ผงฟู 2 ชช
น้ำตาลทราย 1 1/2ถ้วย
เกลือ 1 ชช
ไข่ไก่ 3 ฟอง (ถ้าไข่ไก่เบอร์เล็กใช่ 4 ฟอง)
น้ำมัน 1/3 ถ้วย
นม 1/4 ถ้วย
ส้ม 2 ผล (ใช้ผิวส้ม และน้ำส้ม)

วิธีทำ
1.เปิดเตาให้อุณหภูมิคงที่ไว้ที่ 180 องศา C
2.ร่อนแป้งเค้ก กับผงฟูรวมกัน 2 ครั้งพักไว้
3.นำผลส้มมาขุดผิว และคั่นน้ำใส่ถ้วยพักไว้
4.ตอกไข่ใส่อ่างผสม ใส่น้ำตาล และเกลือลงไป ตีด้วยความเร็วสูงประมาณ 7- 8 นาที สังเกตเมื่อส่วนผสมเข้ากันจะมีลักษณะข้น ๆ
5.ใส่แป้งที่ร่อนรวมกับผงฟูลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำที่สุด ประมาณ 1-2 นาที จากนั้นใส่น้ำมันพืช นม น้ำส้ม และผิวส้มลงไปตีด้วยความเร็วต่ำประมาณ 1 นาที หรือจะใช้ไม่้พายคนให้เข้ากันก็ได้
6.เมื่อเข้ากันดีแล้วตักส่วนผสมทั้งหมดใส่พิมพ์ที่ต้องการ นำเข้าเตาอบ ใช้เวลาในการอบประมาณ 20-25 นาที หรือจนกระทั้งเค้กสุก นำออกจากเตาพักไว้บนตะแกรงทิ้งไว้จนเย็น พอเย็นนำเค้กมาแต่งหน้าตามชอบ


***เค้กส้มที่เพือน ๆ เห็น นกแต่งด้านบนใช้มาร์มาเลด ตรงกลางใช้วิปครีมและมาร์มาเลด ค่ะ***


ขนมปังกระเทียม

วันนี้เข้าครัวมาทำอะไรง่ายๆทานเล่นกันดีกว่าค่ะ นกคิดว่าขนมปังกระเทียมคงเป็นของโปรดของเพื่อนหลายๆ คน แฟนคลับที่บ้านนกก็อีกคนที่ชอบทานค่ะ วิธีทำไม่มีอะไรยุ่งยาก และใช้เวลาก็ไม่มากคะขนมปังกระเทียมจะอร่อยได้รสชาติกรอบนอกนุ่มในค่ะ



ส่วนผสม
กระเทียมสับละเอียด 10 กลีบ
เนยจืด 1/4 ถ้วย ทิ้งไว้ให้อุ่นณหภูมิห้องให้นุ่ม
น้ำมันมะกอก 1 1/2 ชต
พาสลีย์ (parsley) สับละเอียด 1/4 ถ้วย
Baguette ( Frencs stick baguette ) 1 อันใหญ่ ๆ หั่่นเป็นชิ้นๆ หนาประมาณ 1 1/2 ชม
เกลือ 1/4 ชช

วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 180 องศาเชลเซียส
2. เอาเนย น้ำมันมะกอก กระเทียมสับ พาสเลย์สับ และเกลือ ผสมเข้าให้กัน จากนั้นนำไปทาบนขนมปัง
3. นำขนมปังที่ทาเนยเรียบร้อยแล้วเข้าอบเป็นเวลา 15 นาที หรือจนกระทั้งขนมปังเหลือง ใส่จานยกเสริฟทานคู่กับสปาเก็ตตี พิซซ่า หรือ สเต็ก ก็ได้ค่ะ


เค้กกล้วยหอม

ช่วงนี้ผีเบเกอรี่เข้าสิงนกค่ะเพื่อนๆ ไม่รู้ว่าเป็นอะไรคิดอยากจะทำโน่นนี้ไม่ได้หยุด วันนี้ก็เหมือนกันค่ะ นกคิดว่าจะทำของว่างไว้ทานหลังอาหาร ที่บ้านนกจะมีกล้วยหอมติดบ้านไว้เป็นประจำถึงว่าเป็นผลไม้หลัก ๆ ก็ว่าได้ค่ะ นกทิ้งไว้ให้สุกเหลืองมาก ๆ จนเปลือกจะมีสีน้ำตาลเล็กน้อย จนนกต้องบอกแฟนคลับว่าอย่างเอากล้วยที่นกเก็บไว้ไปทิ้งเพราะจะใช้ทำเค้กกล้วยหอม ซึ่งตามจริงแล้วนกตั้งใจจะทำตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว แต่กล้วยหอมที่เก็บเอาไว้ มีมือดีเอาไปทิ้งเสียก่อน แถมยังบอกว่าเราลืมกินกล้วยจนกระทั้งมันเป็นสีน้ำตาลหาว่ากล้วยหอมเราเน่าแล้ว มาคราวนี้ต้องบอกว่ากล้วยหอมไม่ได้เสียตั้งใจทิ้งไว้ให้สุกมาก ๆ จะเอาไปทำเค้กกล้วยหอม เหตุที่ต้องให้มันสุกมาก ๆ ก็เพราะเวลาเอาไปทำเค้กจะมีกลิ่นหอมของกล้วยแรงนะค่ะ แต่ถ้าใช้แค่พอสุกกลิ่นที่ได้จะมีน้อย เดี่ยวจะไม่รู้ว่าเป็นเค้กกล้วยหอม ต้องมาเพิ่มกลิ่นกล้วยหอมกันอีก





ส่วนผสม
แป้งเค้ก 200 กรัม

ผงฟู 1 1/2 ชช
เบคกิ้งโฃดา 1ชช
เกลือป่น ½ ชช
ไข่ไก่ 4 ฟอง (ถ้าไข่เบอร์ใหญ่ 3 ฟอง)
น้ำตาลทราย 200 กรัม (หากไม่ชอบลงลงมาให้เหลือ 180 กรัม ความหวานกำลังพอดี)
กล้วยหอมบด 3 ลูก
น้ำมันพืช 1 ถ้วย
มะนาว 1 เสี้ยว
กลิ่นกล้วยหอม (พี่นกไม่ได้ใช้กลิ่นกล้วยหอม แต่ใช้กล้วยหอมที่สุกมาก ๆ กลิ่นจะแรงอยู่แล้วนะค่ะ)

วิธีทำ
1. เปิดเตาตั้งไว้ที่อุณหภูมิที่ 180 องศาเซลเซียส เพื่อให้ความร้อนคงที่

2.นำแป้ง ผงฟู เบคกิ้งโซดา มาร่อนในตะแกรงด้วยกันก่อน 2 ครั้ง พักไว้
3. ตอกไข่ใส่อ่างผสม ใส่นำ้ตาลทราย เกลือป่นลงไป แล้วตีด้วยความเร็วเจากนั้นใส่น้ำตาลลงไปตีด้วยความเร็วสูง โดยตลอดจนกระทั่งขึ้นฟู หรือประมาณ7-8 นาที สังเกตส่วนผสมจะออกมาค่อนข้างข้น ๆ
4.นำกล้วยหอมที่ใช้มาปลอกเปลือกออกให้หมด ใส่ลงในโถบด ปีบมะนาวลงไป จากนั้นบดให้ละเอียด พักไว้5.ใส่แป้งทีร่อนไว้ลงในอ่างผสมตีด้วยความเร็วตำ่ ประมาณ 2 นาที่ให้ส่วนผสมเข้ากัน
6. เมื่อส่วนผสมเข้ากันแล้วเติมนำ้มันพืช (กลิ่นกล้วยหอม) ลงไป ตีด้วยความเร็วปานกลางประมาณ 3 นาที่ ใส่กล้วยหอมบดละเอียดลงไปทั้งหมด ตีด้วยความเร็วตำอีก 2 นาที
7. ตักส่วนผสมทั้งหมดใส่ถ้วยหรือพิมพ์ทีต้องการ เอาเข้าเตาอบ ใช้เวลาในการอบประมาณ 20-25 นาที หรือจนกระทั้งสุกให้เปิดเตาอบดูสังเกตสีจะเข้มขึ้นเมื่อสุกได้ที่แล้วนำาออกจากเตา
มาพักไว้บนตะแรงให้เย็น

ข้าวผัดแอ๊ปเปิ้ล

มนูข้าวผัดนี้นกทำฉลองห้องครัว ND แม่ครัวมือใหม่หัดทำค่ะ วันนี้ตอนบ่าย ๆ ของอังกฤษมีเพื่อนสมาชิกให้ความสนใจเข้ามาชม มาชิมอาหารในห้องครัวครบ 400 คน พอดี นกต้องขอบคุณหลาย ๆ กำลังใจ อีกครั้งค่ะ



ส่วนผสม
ข้าวสวย 2 ถ้วย
กุ้งสด 250 กรัม
หมูแดงหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/2 ถ้วย
แอ๊ปเปิ้ลหั่่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/2 ถ้วย

ถั่วลันเตา 1/4 ถ้วย
แครอทหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/4 ถ้วย
บร็อคคอรีหั่่นสี่เหลี่ยมลูกเตา 1/4 ถ้วย
หัวหอมใหญ่ หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/4 ถ้วย
ข้าวโพดอ่อน หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 1/4 ถ้วย
ไข่ต้ม หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 2 ฟอง (ถ้าไม่มีใช้ไข่ไก่่สดใส่ผัดเหมือนข้าวผัดทั่ว ๆ ไปก็ได้ค่ะ)

ต้นหอมผักชีซอย ตามชอบ
กระเทียมสับ 3 กลีบ

น้ำมันหอย 2 ชต
ซีอิ้วขาว 2 ชต
เกลือ 1/2 ชช
น้ำตาลทราย (ตามชอบ)


วิธีทำ
1.เอากระทั้งตั้งบนเตาใส่นำ้มันพีืชลง พอน้ำมันร้อนเอากระเทียมลงไปผัดให้หอม ใส่หมูแดงลงไปผัดพอสุกใส่กุ้งลงไปผัดพอให้กุ้งเปลี่ยนสีเล็กน้อย เอาหัวหอมใหญ่ลงไปผัดให้หอม จากนั้นใส่แครอท บร็อคคอรี ข้าวโพดอ่อน และถั่วลันเตา ลงไปผัดให้เข้ากันจนกระทั้งผักเริ่มสุก
2. ใส่ข้าวสวยลงไปผัดจนกระทั้งสวนผสมทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นเอาไข่ต้มลงไปผัดคนให้เข้ากับข้าวผัด ( ถ้าใครใช้ไข่สดให้ใช้ตะหลิดคุ้ยข้าวตรงกลางกระทะออกโดยรอบ ใส่นำ้มันลงไปเล็กน้อย ตอกไข่ลงไป ใช้ตะหลิวเขี่ยไข่ขาวและแดงให้รวมกัน ตลบข้าวลงมาปิด ผัดเคล้าให้เข้ากัน)
3.ใส่นำ้มันหอย ซีอิ้วขาว เกลือ ผักเคล้าให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากนั้นเอาแอ๊ปเปิ้ลลงไปผัด (แอปเปิ้ลจะหวานขึ้น ไม่ต้องใช่นำ้ตาลทรายเลย หากทานหวานจะเพิ่มน้ำตาลลงไปอีกสักเล็กน้อยก็ได้ค่ะ) ชมรสตามชอบโรยต้นหอมผักชีปิดเตา ตักใส่จานทานคู่กับไข่ดาว ราดด้วยซอสมะเขือเทศนิดหน่อย ยกเสริฟได้เลยค่ะ

ขนมเบื้องญวน

วันนี้นกหมดแรงจริงๆ ค่ะเพื่อน ๆ เครื่องซักผ้าเจ้ากรรมทำพิษไม่ยอมทำงานหยุดเดินเสียเฉย ๆ เสื้อผ้าที่ซักยังติดอยู่ในเครื่อง แถมที่ยังไม่ซักอีกส่วนที่ยังไม่ได้ซักอีก เวรกรรมของนกเลยต้องกลับมาซักด้วยมือ กว่าจะเสร็จก็เกือบจะบ่าย ท้องมันเริ่มร้องแต่ถ้าทานอะไรที่มันหนักท้องเกินไปก็ไม่ได้ เพราะเย็นวันนี้มีงานเลี้ยงต้องออกไปทานอาหารนอกบ้านกับแฟนคลับ หิว ๆทำอะไรกินดี ๆ สมองตื้อจริง ๆ เมื่อวานทำอาหารเย็นมีถั่วงอกใช้ไม่หมดเหลือต้องคาตู้เย็นอยู่หน่อยรีบๆเอามาทำอาหารเสียก่อนไม่งั้นช้ำดำต้องทิ้งเสียดาย กุ้งก็มีแล้ว เอาเมนูนี้ละทำเลยน่าจะดี ก่อนที่จะทำต้องบอกเพื่อน ๆ ก่อนค่ะว่า ขนมเบื้องญวนมี 2 ชนิดคือ ชนิดกรอบ และชนิดไข่ วันนี้ที่นกจะทำเป็นชนิดไข่ แต่ถ้าเพื่อนคนไหนอยากทานชนิดกรอบเวลาทำแป้งก็ไม่ต้องใส่ไข่ลงไปนะค่ะ


ส่วนผสมแป้ง
แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย

ถั่วเขียวเราะเปลือกคั่วป่น 1 ชต ( นกไม่มีเลยไม่ได้ใส่ค่ะ)
นมสด 1/2 ถ้วย
ขมิ้นผง 1 ชช
เกลือป่น 1/4 ชช
ไข่ไก่ 1 ฟอง


ส่วนผสมไส้กุ้ง
กุ้ง 250 กรัม

เห็ดหอมแห้งหั่นเป็นเส้น 1/2 ถ้วย
แครอท หั่นเป็นเส้น 1/2 ถ้วย
ต้นหอม หั่นเป็นเส้น 1/2 ถ้วย
ถั่วงอก 1/2 ถ้วย
ผักชีตามชอบ

รากผักชีหั่น 1 ชต
พริกไทยป่น 1/ 2 ชช
เกลือป่น 1/2 ชช

วิธีทำ
1. นำแป้งข้าวเจ้า ถั่วเขียว (ถ้ามี) นมสด ไข่ไก่ เกลือ และน้ำ ใส่ลงในชามที่เตรียมไว้คนและนวดให้แป้งละลายเป็นเนื้อเดียวกัน
2.โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย เกลือ เข้าด้วยกันให้ละเอียด นำไปผัดกับน้ำมันให้หอม ใส่กุ้ง ผัดพอสุก ตักใส่จานพักไว้
3.เอากระทะขึ้นตั้งไฟปานกลาง พอกระทะร้อนใส่แป้ง กลอกแป้งให้ทั่วกระทะ พอแป้งสุก ใส่ไส้กุ้ง โรยพริกไทย ผักชี พับครึ่ง ตักใส่จานยกเสริฟร้อน ๆ พร้อมอาจาด (แต่วันนี้อาจง อาจาดเอาไม่ทันแล้ว ใช้น้ำจิ้มไก่แทนไปก่อนละค่ะเพื่อนๆ หิวมาก ๆ)


ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋น

เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวานไปซื้อของกับคุณแม่สามี ดันไปเห็นน่องเป็ดราคาไม่แพงน่องโต ๆ สวย ๆ สะใจเสียด้วย นกยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีแบบว่าราคาถูกซื้อไว้ก่อน(งก)นะค่ะเพื่อน ๆ พอถึงบ้านเลยต้องมานั่งคิดว่าจะทำอะไรกับเจ้าน่องเป็ดนี้ดี กุล้มจริง ๆ ไม่หน้าจะซื้อเลยเรา คิดอยู่นานว่าในชีวิตทานอาหารจำพวกเป็ดๆ มีอะไรบ้างและแล้วก็ได้คิดจริง ๆ นกมีก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นเจ้าประจำแถว ๆ ธนาคารไปกินกี่ครั้ง ๆ กี่ที่ก็ยังติดใจกับรสชาดของเนื้อเป็ดที่นุ่มไม่เหนียว น้ำซุปมีกลิ่นหอมหวาน เครื่องปรุงเข้มข้น เรีกกว่าตุ๋นกันจนเนื้อหลุดออกจากกระดูกเลยที่เดียวเลยค่ะ ถ้าจะทำให้แฟนคลับทานน่าจะดี เพราะเมนูนี้ยังไม่เคยได้ทำเช่นกัน



ส่วนผสม
น่องเป็ด 4
น่อง

อบเชย 1 แท่ง

โป๊ยกั๊ก 2 ดอก

ลูกผักชี 2 ชต.
ข่า 1 ท่อน (ขนาดสัก2-3 นิ้วทุบให้แตกพอหบายๆ)
พริกไทย 10-15 เม็ด
กระเทียม 3 กลีบกลางๆบุบพอแหลก
หอมเดง 3 หัว บุบพอแหลก
ซีอิ๊วดำหวาน 2 ชต
ซีอิ๊วขาว 2 ชต
น้ำมันหอย 2 ชต
น้ำตาลปี้ป 1 ชต
ผงพะโล้ 1 ชต
คื่นช่าย 1 ต้น
กระเทียมเจียว ตามชอบ
หอมผักชีซอย ตามชอบ
ถั่วงอก ตามชอบ
ผักกาดขาวหั่นเป็นชิ้นพอคำ ตามชอบ
เส้นก๋วยเตี๋ยวตามชอบ (วันนี้นกใช้เส้นก๋วยเตี๋ยว และเส้นบะหมี่ค่ะ)

วิธีทำ
1. เอากระทะตั้งไปอ่อนนำส่วนผสมพวกเครื่องเทศที่ชิ้นเล็กชิ้นน้อยคั่วแล้วห่อผ้าขาว บางพักเอาไว้
2. เปิดไฟให้เแรงขึ้นเอาหม้อใส่น้ำตั้งให้เดือดจัดๆ แล้วเครื่องเทศที่พักไว้ และเครื่องปรุงทั้งหมดลงไปต้มจนกระทั้งเดือด พอเดือดให้ ช้อนฟองทิ้ง แล้วก็ลดไฟลงเป็นไฟอ่อนเคี่ยวไปจนกระทั้งเนื้อเป็ดนุ่ม (นกใช้เวลาเคี่ยวประมาณ 3-4 ชม ก๋วยเตี๋ยวเป็ด อยู่ที่เนื้อเป็ดจะต้องนุ่ม ไม่เหนียวถึงจะอร่อยค่ะ)
3. พอเคี่ยวจนได้ทีชิมรสตามชอบ่ใส่คื่นช่ายลงไปเพิ่มควมหอมให้กับน้ำชุป
4. เมื่อน้ำชุปเสร็จได้ที่แล้วมาเตรียมเครื่องก๋วยเตี๋ยว เอาผักลงไปลวกให้พอสลบใส่ชาม ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวพอเส้นสุกเอาลงใส่ชามผัก เอาเป็ดที่่เค่ี่ยวไว้มาหั่นเอามาทุบๆให้แบน ใส่ลงไปในชามผัก ตักน้ำซุปใส่ลงไป โรยหน้าด้วย กระเทียมเจียว พริกไทยป่นและหอมผักชี ยกเสริฟทานกับคู่กับความเผ็ดของพริกป่น น้ำส้มพริกดอง เท่านี้ก็อร่อยแล้วค่ะ

พะแนงปลาแซลมอน


ส่วนผสม
ปลาแซลมอนตัดเป็นชิ้นยาว แบบสเต๊ก 2 ชิ้น
น้ำพริกพะแนง 1 ช้อนโต๊ะ
ถั่วลิสงคั่วปุ่น 1/4 ถ้วย หรือตามชอบ (แต่ถ้าไม่มีไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ)

น้ำปลา 1 ชต
น้ำตาลปึก 2 ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูดหั่นฝอย ตามชอบ (หรือใส่พอได้กลิ่น)
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ ตามชอบ
หัวกะทิ 1 1/2 ถ้วย (แบ่งออก 2 ส่วน)

วิธีทำ

1.เอากระทะตั้งบนเตาใส่กะทิลงไปครึ่งหนึ่ง ตามด้วยพริกแกงพะแนง น้ำปลา น้ำตาลปึก อย่างละนิดหน่อย ชิมรสตามชอบ เคี่ยวไปเรื่อย ๆ ด้วยไฟอ่อนๆ หมั่นคนจนกะทิแตกมัน
2.เติมกะทิที่เหลือลงไปพอเดือด ใส่ปลาเรียงชิ้นลงไป โดยเอาด้านหนังลงไปก่อน ปิดฝา เคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อนๆประมาณ ๓ นาที (กลับปลาโดยใช้ตะหลิว ๒ อัน ค่อยๆพลิก เอาทางด้านเนื้อลงระวังชิ้นปลาจะแตกได้ง่ายนะค่ะเพื่อนๆ เดี่ยวชิ้นปลาไม่สวยค่ะ)
3.เคี่ยวต่อไปจนกระทั้งปลาสุกชิมรสตามชอบ ปิดเตาตักใส่จานโรยพริกชี้ฟ้าแดง และใบมะกรูดหั่นฝอย ยกเสริฟได้เลยค่ะ


ข้าวผัดไส้กรอก

วันนี้นกออกไปทำธุระที่ในตัวเมืองมาค่ะ กว่ากลับถึงบ้านก็บ่ายแล้วหิวจนตาลาย เพราะตอนเช้าดันไม่ได้ทานอะไรมั่วแต่ยุ่ง ๆ ทำโน่นนี้จนลืมทานอาหารเช้า ดูนาฬิกาอีกที่ต้องรีบแล้วละเดี๋ยวจะไม่ทันรถบัส มั่วแต่หว่งกินอยู่ไม่ได้แล้ว กลับถึงบ้านเลยหิว***สุดชีวิตเลยค่ะเพื่อน ๆ วางของเสร็จเดินตรงไปดูในตู้เย็นทำอะไรทานดีที่ใช้เวลาไม่มาก เอาแบบทันใจคนกินนะค่ะ เห็นแล้วเมนูนี้ละง่าย และใช้เวลาไม่เกิน 10-15 นาที ก็ได้ทาน




ส่วนผสม
ข้าวสวย 2 ถ้วย
ไส้กรอกหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 1/2 ถ้วย (หรือตามชอบ)
แครอท หั่นสีเหลี่ยมลูกเต๋า1/2 ถ้วย
กระเทียมสับ 2 กลีบ
หอมหัวใหญ หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/2 ถ้วย
ข้าวโพดอ่อน 1/2 ถ้วย
ต้นหอมซอย 2 ต้น
ไข่ไก่ 2 ฟอง
น้ำมันพืช 1-2 ชต
ซีอิ้วขาว 2 ชต
น้ำมันหอย 1 ชต.
น้ำตาลทราย 1ชต.
พริกไทยดำป่น

วิธีทำ
1. ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันร้อนนำกระเทียม ลงไปผัดให้พอหอม ใส่ไส้กรอกลงไปผัดสักครู่ ใส่หัวหอม แครอท ข้าวโพดอ่อนลงไปผัดให้เข้ากัน จนกระทั้งผัดเริ่มสุก
2. ใส่ข้าวสวยลงไปผัดจนหอม เกลี่ยข้าวไปไว้ข้างกระทะ ตอกไข่ลงไปในกระทะ แล้วใช้ตะหลิว ขยี้ไข่ให้แตกและไข่เป็นวุ้นใกล้สุก เกลี่ยข้าวมากลบไข่แล้วผัดให้เข้ากัน
3. ปรุงรสด้วยชี้อิ้วขาว นำ้มันหอย นำ้ตาล ชิมรสตามชอบ แล้วใส่ ต้นหอม โรยพริกไทยป่น ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟ ตักข้าวใส่จานยกเสริฟพร้อมน้ำปลาพริกได้เลยค่ะ


ไก่สะเต๊ะ

นกคิดเอาไว้ว่าเมื่อไรที่มีเพื่อนๆ สมาชิกเข้ามาชม มาชิม อาหารในห้องครัวเอ็นดี ครบ 300 คน นกจะเอาเมนูปิ้ง ๆ ย่าง ๆ มานำเสนอให้เพื่อน ๆ ได้ชมชิมกัน วันนี้ได้โอกาสแล้วค่ะ นกคิดว่าเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนคงชอบสะเต๊ะ ไม่ว่าจะเป็นหมู หรือ ไก่ ส่วนผสมและวิธีปรุงเหมือนกันค่ะ หากเพื่อน คนไหนไม่มีเตาสำหรับปิ้ง ๆ ย่าง ๆ ไม่ต้องกังวลไปเราใช้เตาอบแทนได้ ไก่สะเต๊ะที่นกทำวันนี้ก็ใช้เตาอบย่างไก่ค่ะ

ส่วนผสมสำหรับหมักไก่ เนื้อไก่ส่วน อก สะโพก ตามชอบ 400 กรัม ขมิ้นผง 1 ชช ผงกะหรี่่ 1 ชต โซดาไบคาร์บอเนต หรือ เบคกิ้งโซดา 1 ชช (ช่วยให้เนื้อนุ่ม) เกลือป่น 1/2 ชช น้ำตาลปึก หรือน้ำตาลทราย 1 ชต เกลือป่น 1/2 ชช หัวกะทิ 1/2 ถ้วย นม 1/4 ถ้วย วิธีทำไก่สะเต็ะ 1. หั่นไก่เป็นชิ้นยาวๆ แล้วนำไปหมักกับขมิ้นผง ผงกะหรี่่ โซดาไบคาร์บอเนต เกลือป่น น้ำตาลปึก หรือนำ้ตาลทราย หัวกะทิ นม หมักไว้อย่างน้อย 5-6 ชั่วโมงในตู้เย็น 2. นำสะเต๊ะที่เสียบไว้มาย่างด้วยไฟอ่อนๆ จุ่มลงในน้ำกะทิก่อนนำไปย่างด้วยเตาถ่านให้สุก ระหว่างย่างให้ทาน้ำหมักสลับกับน้ำกะทิ 3. พอย่างเสร็จให้จัดเรียงใส่จาน รับประทานร้อนๆ โดยเสิร์ฟไก่สะเต๊ะกับน้ำจิ้มสะเต๊ะ และอาจาด ส่วนผสมน้ำจิ้มสะเต๊ะ น้ำพริกแกงแดง 2 ชต น้ำพริกแกงมัสมั่น 1 ชต น้ำมะขามเปียก 1/4 ถ้วย น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย น้ำปลาดี 1 1/2 ชต ถั่วลิสงคั่วบด 1/2 ถ้วย หัวกะทิ 2 ถ้วย วิธีทำน้ำจิ้มสะเต๊ะ 1. ผัดน้ำพริกแกงแดงและน้ำพริกแกงมั่สมั่นกับน้ำกะทิจนเดือด เติมน้ำตาลทราย น้ำมะขามเปียก น้ำปลาลงไป 2.ใส่ถั่วลิสงคั่วบดตามลงไป เคี่ยวจนได้ที่ ชิมรสชาติดตามชอบ น้ำจิ้มให้ออกรสหวานเค็ม และมีรสเปรี้ยวตัดเล็กน้อย ส่วนผสมอาจาด น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย เกลือป่น 1 ช้อนชา แตงกวาซอย 1/2 ถ้วย หอมแดงซอย 1/4 ถ้วย พริกชี้ฟ้าแดง เขียว หั่น ตามชอบ ผักชีหั่นฝอย ตามชอบ วิธีทำอาจาด 1.ผสมน้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย และเกลือป่นในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟคนจนละลายดี จึงยกลง ทิ้งไว้ให้เย็น 2.ผสมหอมแดง พริกชี้ฟ้า แตงกวา และผักชีลงในถ้วย ตักส่วนผสมด้านบนใส่ลงในถ้วย

BUN (ขนมไข่)




ส่วนผสม
เนยสดรสจืด 160 กรัม
น้ำตาลทรายขาว 160 กรัม (หากไม่ชอบหวานให้ลดปริมาณน้ำตาลลง)
ไข่ไก่ 3 ฟอง (หากไข่ใบเล็กให้ใช่ 4 ฟอง)
แป้งเค้ก 150 กรัม

วิธีทำ
1.ก่อนทำให้วอร์มเตาไว้ก่อนที่ไฟ 180 องศาเซลเซียส
2.เอาเนยใส่อ่างผสมแล้วก็ตีจนเนยแค่พอนิ่มเป็นครีม (ไม่ต้องตีจนฟูขาว) ใช้เครื่องตีระดับกลาง
3.ใส่น้ำตาลลงไปที่ละครึ่ง จากนั้นใช้เครื่องตีน้ำตาลให้เข้ากับเนยประมาณ 25-30 วินาที จนน้ำตาลเข้ากับเนต (ไม่ต้องตีจนขาวฟูนะค่ะ)
4.ใส่ไข่ลงไปปั่นต่อ ให้เข้ากันจนกระทั้งได้แป้งหนืดๆ ข้นๆ เทใส่พิมพ์ที่เตรียมๆไว้
5.นำเข้าตู้อบประมาณ 30 นาที อบจนได้ที่ นำออกจากเตาตัดเสริฟพร้อมกาแฟ ยามบ่ายได้เลยค่ะ





ข้าวผัดกุนเชียง(กุนเชียงทำเอง)

เมนูที่นำมาเสนอนี้ไม่ยากเลยค่ะ เป็นข้าวผัดที่ธรรมดาสุดๆ แต่ไม่ธรรมดาตรงกุนเชียงที่เพื่อน ๆ เห็นเป็นกุนเชียงที่นกทำเอง นี้เป็นครั้งแรกในชีวติที่ทำกุนเซียงทานเองเลยที่เดียวก็ว่าได้ ตอนอยู่เมืองไทย นกจะเห็นแม่ทำทานเองบ่อยๆ เวลาทำแต่ละครั้งก็จะทำครั้งละมาก ๆ เก็บไว้ได้นานค่ะ แม่บอกว่าซื้อเค้าทานไม่อร่อยไม่ได้ดังใจทำเองจะอร่อยกว่านะค่ะ นกเลยได้ความรู้มานิด ๆ หน่อย ๆ เรียกว่าครูพักลักจำเอาก็ได้ค่ะ




ส่วนผสม
ข้าวสวย 2 ถ้วย
กุนเชียงหั่นเป็นเฉียง ๆ พอคำ 2 ข้าง
ไข่ไก่ 1 ฟอง
หัวหอมใหญ่หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/4 ถ้วย
ต้นหอมซอยตามชอบ
กระเทียมสับ 1 ชต
ผักกาดขาวหั่นเป็นท่อน ๆ 5 ใบ (ส่วนใหญ่ใช้ผักคะน้าผัดนกไม่มีเลยใช้ผักกาดขาวแทน)
พริกชี้ฟ้าหั่นเฉียง 1/4 ถ้วย

พริกไทยป่นตามชอบ
น้ำมันหอย 2 ชต
ซีอิ้วขาว 2 ชต
น้ำตาลทราย 1 ชต
น้ำมันพืช 2 ชต

วิธีทำ
1. ตั้งกระทะบนเตาเปิดไฟปานกลางพอน้ำมันร้อนใส่กระเทียมสับลงไปผัดจนหอม จากนั้นใส่กุนเชียงลงไปผัดจนกระทั้งสุก
2. ใส่ข้าวสวยลงไปแล้วผัดจนส่วนผสมเข้ากัน

3. ใช้ตะหลิวคุ้ยข้าวตรงกลางกระทะออกโดยรอบ ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อยตอกไข่ลงไป ไปใช้ตะหลิวเขี่ยให้ไข่แดงแตกรวมกับไข่ขาว ตลบข้าวลงมาปิดไข่แล้วผัดเคล้าให้เข้ากัน
4.ใส่ผักกาดขาว พริกชี้ฟ้า ต้นหอมซอย ที่หั่นไว้ลงไป ใส่น้ำมันหอย ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย พริกไทยป่น ผัดให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นปิดเตา ตักใส่จานตกแต่งด้วยต้นหอม แตงกวา มะนาวผ่าซีก ยกเสริฟได้เลยค่ะ


****นกนำเสนอสำหรับเพื่อน ๆ บางคนชอบทานเผ็ดจะทานคู่กับน้ำปลาพริก ก็อร่อยไม่รู้จบเช่นกันค่ะ ส่วนเจ้าน้ำปลาพริกก็ทำแสนจะง่าย ๆ ซอยพริกขี้หนูสดค่อยข้างละเอียดใส่ถ้วยไว้ จากนั้นก็เอากระเทียมมาซอยบางๆใส่ลงไปด้วย นำใส่น้ำปลาลงใส่ให้ท่วมพริกกับกระเทียมที่มี ใส่น้ำตาลลงไปเล็กน้อยลดความเค็มของน้ำปลา บีบมะนาวลงไปอีกสักหน่อยค่ะ รสชาติน้ำปลาพริกก็จะไม่ออกเค็ม จะมีรสเปรี้ยวเล็กๆ หวานหน่อยๆ นะค่ะ นี้เป็นสูตรพริกน้ำปลาบ้านนกเองค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนไม่มีน้ำปลา ก็ใช่ซีอิ้วขาวแทนก็ได้ค่ะ ขั้นตอนเหมือนกันค่ะ****


ผัดตับหมูพริกหวาน

วันนี้นกนำเมนูตับมาเสนอเพื่อน ๆ ค่ะ จะว่าไปแล้วตับเป็นอาหารที่มีรสขม ค่อนข้างคาว คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยนิยมทานกัน จะนำมาปรุงให้อร่อยก็ค่อนข้างยาก ถ้าไม่รู้จักวิธีปรุง มีคนบอกว่าถ้าจะนำไปผัด ควรหั่นตับให้หนาหน่อย เนื้อจะได้อุ้มน้ำไว้ข้างใน เวลากินจะฉ่ำนุ่ม แต่ถ้าจะใส่ในน้ำแกง หั่นให้บางหน่อย ลวกอย่านาน และไม่ควรซื้อตับหมูที่เนื้อออกแดงเข้มจัด(ตับเลือด) รสจะขมมาก ควรเลือกตับที่สด เนื้อขึ้นเงา สีอ่อนๆ (ตับแป้ง) เนื้อจะหนึบๆ กำลังอร่อย ไม่แข็ง กินแล้วเนื้อไม่กระด้างอย่างตับเลือด นี้เป็นเกล็ดเล็กๆ สำหรับเพื่อน ๆ ผู้ที่ชอบทานอาหารที่ปรุงจากตับ



ส่วนผสม
ตับหมูหั่นชิ้นหนา 1/4 นิ้ว 200 กรัม
เนื้อหมูหั่นชิ้นพอคำ 150 กรัม
พริกหวาน 1/2 ถ้วย
หัวหอม 1/2 ถ้วย
กระเทียมสับ 1 ชต.
ต้นหอมหั่นเป็นท่อน ๆ 1/4 ถ้วย
ซีอิ้วขาว 1 ช.ต.
พริกไทยป่น ตามชอบ
น้ำซุป 1/4 ถ้วย
น้ำมันพืช 2 ช.ต.

วิธีทำ
1. เอาน้ำมันใส่กระทะตั้งไฟปานกลางพอน้ำมันร้อนเจียวกระเทียมให้หอม จากนั้นใส่หมูลงผัดพอสุก
2. เร่งไฟในเตาให้แรงขึ้นใส่ตับหมูลงผัดเร็ว ๆ พอตับเริ่มสุกก็ใส่พริกหวาน หอมหัวใหญ่ ผัดต่อจนกระทั้งผักสุก
3. ใส่พริกไทย ซีอิ้วขาว น้ำซุป ชิมรสตามชอบ ผัดพอให้เข้ากัน ปิดไฟในเตาตักใส่จานยกเสริฟ ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ค่ะ

ก๋วยจั๊บไก่ไข่

ลมหนาวมาที่ไรอยากกินของอุ่นๆ ร้อน ๆ ให้มันหายหนาวไปเลย จำได้ว่าสองสามอาทิตย์ก่อนได้คุยกับน้องสาว ถามว่าวันนี้ทีบ้านทำอะไรทาน ได้ความว่าอิ่มสุด ๆๆ วันนี้ทานจั๊บไก่แม่เอ๋ย*** กัน เราเองก้อไม่เคยทำให้แฟนคลับทาน ลองดูสักครั้ง ก๋วยจั๊บที่นกทำเป็นก๋วยจั๊บน้ำพะโล้ ถือได้ว่าเป็นเมนูโปรดประจำบ้านเมนูหนึ่งเลยค่ะ โดยเฉพาะแฟนคลับนกชอบทานเป็นพิเศษ คิดแล้วก้อเข้าครัวปรุงกันเถอะ




ส่วนผสม

ไก่สด(ใช้ส่วนสะโพกหรือน่อง) 5 ชิ้น
ไข่ไก่ต้มปอกเปลือก 3 ฟอง
ผงพะโล้ปรุงสำเร็จ 1 ซอง
น้ำตาลทราย/น้ำตาลปี๊บ
ซิอิ้วขาว
ซิอิ้วดำ
ถั่วงอกลวกสุก
ต้นหอม-ผักชีซอย
เส้นก๋วยจั๊บ /หรือเส้นก๋วยเตียวอื่น ตามใจชอบ


วิธีทำ
1. หมักไก่ไข่กับผงพะโล้ น้ำตาลทราย/น้ำตาลปี๊บ ซิอิ้วขาว ซีอิ้วดำ ให้ส่วนผสมเข้ากันประมาณ 30 นาที

2. ต้มน้ำให้เดือดใส่ไก่ ไข่ที่หมักเรียบร้อยลงหม้อคนให้เข้ากัน เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ ประมาณ 45 นาที จะเนื้อไก่จะนุ่มน่าทาน
3. ตักถั่วงอกลวกสุก และเส้นก๋วยจั๊บ/ หรือเส้นก๋วยเตียวอื่น ใส่ชามแล้วตามด้วยไก่(หั่นเนื้อให้เป็นชิ้น) พร้อมน้ำซุป แต่งหน้าด้วยไข่ต้มผ่าซีก โรยหน้าด้วยต้นหอม-ผักชี

แตงกวาราดน้ำแดง


ส่วนผสม
หมูสับ 100 กรัม
กุ้งสับ ตามชอบ
แครอทหั่นเป็นลูกเต๋าเล็ก ๆ 1/4 ถ้วย
ต้นหอมผักชีซอย 1/4 ถ้วย
น้ำมันหอย
น้ำมันงา 1 ชต
ซีอิ้วขาว
เหล้าจีน 1 ชต
น้ำตาลทราย
พริกไทยป่น
กระเทียมตามชอบ
รากผักชี (นกไม่มีรากใช้ก้านผักชีหั่น) ตามชอบ
แป้งมัน 1 ชช
น้ำซุป (หากไม่มีใช้น้ำเปล่า แทนก็ได้ค่ะ)

วิธีทำ
1.โขลกก้านผักชี พริไทยและกระเทียมให้เข้ากันเอามาผสมกับหมูสับและกุ้งสับที่เตรียมไว้
2.ใส่แครอท ต้นหอมผักชีน้ำมันหอย น้ำมันงา ซีอิ้วขาว ปรุงรสตามชอบ นวดให้ส่วนผสมต่าง ๆ เข้ากัน พักไว้ประมาณ 10 นาที
3.เอาหมูที่หมักได้ที่ยัดใส่ในแตงกวา นำไปนึ่งประมาณ 15 นาที หรือจนกระทั้งหมูสุก
4.ระหว่างรอให้หมูสุก ทำน้ำแดงสำหรับราดแตงงกว่าโดยใช้ น้ำมันหอย ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย เหล้าจีน น้ำ แป้งมัน ชิมรสตามชอบจากนั้นคนผสมเข้าด้วยกัน นำไปเคี่ยวให้เหนียว เตีรยมไว้สำหรับราดหมู
5.หมูสุก จัดใส่จาน ตัดน้ำแดงราด ยกเสริฟได้เลยค่ะ (หากเพื่อน ๆ ต้องการความสวยงามก่อนยกเสริฟ แนะนำให้ตกแต่งด้วยใบผักชี และพริกชี้ๆฟ้าซอย บาง ๆ ตกแต่งบน จากนั้นยกเสริพได้เลยค่ะ)

ซี่โครงหมูอบสับปะรด



ส่วนผสม
ซี่โครงหมูหั่นเป็นท่อนเล็กใหญ่ตามชอบ 500 กรัม
สับปะรดหั่นเป็นชิ้นพอคำ 1 1/2 ถ้วย
ต้นหอม ตามชอบ
พริกชี้ฟ้าแดงซอย ตามชอบ
ซอสมะเขือเทศ 2 ชต
น้ำตาลทราย 2 ชต
น้ำมันงา 1 ชต
เหล้าจีน1 ชต
น้ำมันหอย 2 ชต
ซีอิ๊วขาว 2 ชต
น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ
1.ทำน้ำซอสสำหรับผัด โดยนำน้ำตาลทราย น้ำมันงา เหล้าจีน น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว ซอสมะเขือเทศ ผสมคนให้เข้ากันพักไว้
2.เอากระทะตั้งไฟใส่น้ำมันพอร้อนเอากระดูกหมูลงไปทอดจนกระทั้งหมูสุกเหลืองตักใส่จานพักไว้
3.เทน้ำมันออกจากกระทะใบเดิมที่ทอดหมูให้หมด เอาหมูและสับประรดลงผัดคลุกน้ำซอสให้เข้ากัน
4.เติมน้ำให้ท่วมหมูปิดฝาใช้ไฟอ่อนเคี่ยวหมั่นคนเป็นระยะจนกระทั้งกระดูกหมูเปื่อยน้ำขลุกขลิก(หรือจะนำส่วนผสมทั้งหมดใส่โถอบนำเข้าตู้อบก้อได้ค่ะ)ปิดไฟตักใส่จานโรยต้นหอม และพริกชี้ฟ้า ยกเสิรฟได้เลยค่ะ


***หากไม่มีสับปะรดสด นกแนะนำให้ใช้สับปะรดกระป๋องแทนค่ะอร่อยเช่นเดียวกันค่ะ เพื่อน ๆ อย่าทิ้งน้ำในกระป่องนำมาใช้เป็นน้ำเคี่ยวหมูคะ***


ไก่ผัดขิงเต้าเจี้ยว

เมนูนี้เป็นเมนูที่ทานบ่อยมากตอนอยู่เมืองไทย เพราะที่บ้านชอบทานกันทุกคน ถือว่าเป็นอาหารยอดนิยมของบ้านเลยก็ว่าได้ค่ะ เพื่อน ๆ ทราบไม่ค่ะว่าขิงมีสรรพคุณมากมายเช่น ขับลม แก้ท้องอืด จุกเสียด แน่นเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียน แก้หอบไอ ขับเสมหะ แก้บิด เจริญอากาศธาตุ สารสำคัญในน้ำมันหอมระเหย จะออกฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ ใช้เหง้าแก่ทุบหรือบดเป็นผง ชงน้ำดื่ม แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน แก้จุกเสียด แน่นเฟ้อ เหง้าสด ตำคั้นเอาน้ำผสมกับน้ำมะนาว เติมเกลือเล็กน้อย จิบแก้ไอ ขับเสมหะ (ข้อมูลแน่นไม่ค่ะเพื่อน ๆ นกอ่านจาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรีนะค่ะ)ทราบอย่างนี้แล้วเราเข้าครัวมาทำไก่ผัดขิงกันเถอะค่ะ

ส่วนผสม

เนื้อไก่ หั่นพอคำ 300 กรัม ขิงซอยตามชอบ (วันนี้นกใช้ประมาณ 30 กรัมค่ะ) เต้าเจี้ยว 2 ขต กระเทียม 5 กลีบ หอมหัวใหญ่ 1หัว พริกหวาน 1 ผล พริกไทยป่น 1 ชช ต้นหอม ผักชี 2 ต้น ซีอิ้วขาว 1 ชต น้ำมันหอย 2 ชต น้ำตาลทราย 1 ชต น้ำมันพืช 2 ชต เห็ดหูหนูแห้ง ตามชอบ (นกไม่ใช้) วิธีทำ 1.เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อนจึงใส่กระเทียมสับลงไปเจียวจนหอม แล้วจึงใส่ไก่และซีอิ้วขาวลงไป 2.ผัดจนไก่เริ่มสุกนิดหน่อยจึงใส่ขิงซอย พริกหวานและหอมหัวใหญ่ลงไป ผัดไปเรื่อยๆ จนไก่สุก 3.ปรุงรสด้วยน้ำมันหอยและน้ำตาลทราย เต้าเจี้ยว แล้วผัดให้เครื่องทุกอย่างเข้ากัน ใส่ต้นหอม และพริกไทยลงไปผัดให้ทั่วอีกครั้ง จากนั้นปิดเตาตักไใส่จานยกเสริฟได้เลยค่ะ (หากยังเผ็ดไม่พอใส่พริกสดทุบพอแตกลงไปสัก 2-3 เม็ด)

แกงคั่วไก่ผักรวม


ส่วนผสม
เนื้อไก่สะโพก หั่นชิ้นพอคำ 400 กรัม
น้ำพริกแกงเผ็ดหรือน้ำพริกแกงคั่ว 2 ชต (มากน้อยตามชอบ)
ผักตามชอบ (นกใช้ ถั่ว fine เห็ดแชมปิยอง ข้าวโพดอ่อน และ มะเขือเทศลูกเล็ก แกงนะค่ะ)
ใบโหระพา 3 กิ่ง
ใบมะกรูด 3 ใบ
พริกชี้ฟ้าแดง เขียวหั่นหั่นแฉลบ 1/4 ถ้วย
กะทิ 250 กรัม (แยกเป็น 2 ส่วน)
น้ำปลา หรือซีอิ้วขาว 1 1/2 ชต
น้ำตาล 1 ชต

วิธีทำ
1.เปิดเตาที่ไฟปานกลาง นำหัวกะทิใส่ลงในกระทะรอจนหัวกะทิเดือด ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไป ผัดให้น้ำพริกกับกะทิเข้ากันหมั่นคนเป็นระยะ รอจนกะทิแตกมัน
2.เมื่อกะทิแตกมันได้ที่แล้วจึงใส่เนื้อไก่ที่หั่นไว้ลงไป ผัดจนไก่สุก และทะยอยเติมกะทิที่เหลือลงไป
3.นำผักที่เราหั่นไว้เรียบรัอยแล้วลงไป คนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว (น้ำปลา) และน้ำตาลทราย จากนั้น รอจนกะทิเดือดอีกครั้ง จึงใส่ใบมะกรูด ใบโหระพา และพริกหั่นลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้ง ปิดเตาตักใส่ถ้วยเสริฟได้เลยค่ะ

แกงมัสมั่นเนื้อแกะ



แกงไก่มัสมั่นเนื้อ นพคุณ พี่เอย
หอมยี่หร่ารสฉุน เฉียบร้อน
ชายใดบริโภคภุญช์ พิศวาส หวังนา
แรงอยากยอหัตถ์ข้อน อกให้หวนแสวง ฯ

มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง
ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา


จำได้ตอนเป็นนักเรียนต้องท่องทุกวันหลังเลิกเรียน หากท่องเสียงไม่ดังก็จะไม่ได้กลับบ้าน นกคิดว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงจะได้ท่องกาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 พระราชนิพนธ์เอาไว้จนจำได้ขึ้นใจใช่ไม่ค่ะ วันนี้นกมีวิธีทำมานำเสนอเพื่อน ๆ แต่เราไม่ได้ใช้เนื้อไก่แกงหรอกนะค่ะ เราจะใช้เนื้อ Lamb แกงกันค่ะ







ส่วนผสม
เครื่องแกงมัสมั่น 1 1/2 ชต
เนื้อ Lamb หั่นเป็นชิ้นพอคำ 150 กรัม
กะทิสด 300 กรัม (แยกออกเป็น 2ส่วน)
น้ำปลา 1 ชต
น้ำตาลปี๊บ 1 ชต
น้ำตาลทราย 2 ชต
น้ำมะขามเปรียก 2 ชต
หัวหอมใหญ่ หั่นเป็นชิ้น 1/2 ถ้วย
มันฝรั่งหั่นเป็นชิ้นๆ 3 หัว
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด 1/4 ถ้วย (จริงแล้วต้องเป็นถั่วลิสงค่ะ แต่แฟนคัลบนกไม่ชอบถั่วลิสง เลยเปลี่ยนมาใช้เม็ดมะม่วงฯ ก็อร่อยไปอีกแบบนะค่ะ)


วิธีทำ
1.เอากะทิส่วนแรกหางกะทิใส่หม้อตั้งไฟจนเดือดใส่เนื้อลงเคี่ยว
2.ใส่เครื่องแกงมัสสมั่น ลงไปเคี่ยวเนื้อจนเปื่อย
3.ใส่มันฝรั่ง หอมใหญ่ เม็ดมะม่วงฯเคี่ยวจนเครื่องแกงเข้าเนื้อ
4.ใส่หัวกะทิ ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย น้ำมะขามเปียก ชิมรสตามชอบ ต้มให้เดือด ปิดไฟตักใส่ถ้วยเสริฟ คู่กับข้าวสวยร้อนๆ ไข่เจียว โรตี หรือ จะเป็นขนมปังปิ้งก็ได้เลยค่ะเพื่อน ๆ




ยำปลาทูน่ากระป๋อง



ส่วนผสม
ปลาทูน่า 1 กระป๋อง (ชนิดแช่ในน้ำเกลือ)
แอ๊ปเปิ้ลเขียว สับฝานเป็นเส้นๆ 1 ผล
หอมแดงซอย 3 หัว
แครอทซอย 1/4 ถ้วย (ถ้ามี)
ขิงซอย 1/4 ถ้วย
เม็ดมะมว่งหิมพานต์ทอด ๑/๔ ถ้วย
พริกขี้หนูซอยตามชอบ
น้ำตาลทราย 2 ชต
น้ำปลา 1 ชต
น้ำมะนาว 3 ชต
ต้นหอมผักชีหั่นหยาบ 2 ต้น

วิธีทำ
1.ทำน้ำยำโดยผสมพริกขี้หนูซอย น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาล ลงในถ้วย คนให้ส่วนผสมต่าง ๆ เข้ากันแล้วพักไว้
2.เอาเนื้อปลาทูน่าในน้ำเกลืออุ่นบนเตาให้พอร้อน ตักลงในอ่างผสมราดน้ำยำ แอ๊ปเปิ้ลเขียว แครอท ขิงซอย หอมแดง ต้นหอมผักซีคลุกเคล้าให้เข้ากันชิมรสตามชอบ โรยเม็ดมะมว่งหิมพานต์ ผักชี ตักใส่จานยกเสริฟได้เลยค่ะ

แกงจืดเต้าหู้หมูสับผักกาดขาว

จริง ๆ แล้วเมนูนี้เป็นเมนูที่ใคร ๆ ก็ทำกันได้ค่ะ โดยเฉพาะบ้านไหนที่มีเด็ก ๆ มักจะทำเมนูนี้บ่อยค่ะ แต่ที่นกเอามานำเสนอเพื่อนๆทำวันนี้ ไม่ใช้แกงจืดหรอกนะค่ะ พระเอกตัวจริงวันนี้ก็คือ*** นกว่าเอาไว้เฉลยหลังจากเราเข้าครัวทำแกงจืดเสร็จแล้วดีกว่าค่ะ





ส่วนผสม

เต้าหู้ไข่ หั่นเป็นชิ้นพอคำ 10 ชิ้น

หมูสับ 200 กรัม
ผัดกาดขาวหั่นชิ้นพอคำ 8 ใบ
ซีอิ้วขาว 2 ชต
ต้นหอมผักชี หั่นเป็นท่อน ๆ 4 ต้น
พริกไทยป่น 1 ชช
น้ำมันหอย 2 ชต
น้ำตาลทรายเล็กน้อย
ซุปไก่ก้อน 1 ก้อน
น้ำเปล่า 3 ถ้วย

วิธีทำ
1.นำหมูสับผสมกับน้ำมันหอย ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย และพริกไทยป่น คลุกเคล้าให้เข้ากับหมูสับ พักไว้
2.เปิดเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ใส่น้ำเปล่าลงไปในหม้อ ใส่ซุปไก่ก้อนลงไป(นกไม่มีเลยไม่ได้ใช้) พอน้ำเดือดตักหมูสับที่ปรุงไว้เป็นก้อนเล็กๆ ทะยอยใส่ลงไปตามด้วยผักกาดขาว รอจนน้ำเดือดอีกครั้งใส่เต้าหู้ไข่ที่หั่นไว้ใส่ลงไป
3.ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว และน้ำตาลทรายเล็กน้อย ต้มพอผักเริ่มสุกใส่ต้นหอมและผักชีที่หั่นเป็นท่อนแล้วใส่ลงไป รอจนน้ำเดือดอีกครั้งแล้วปิดเตาตักใส่ถ้วย โรยด้วยพริกไทยป่นเล็กน้อย ยกเสริฟได้เลยค่ะ

***หลังจากเพื่อน ๆ อร่อยกับแกงจืดแล้ว ถึงเวลาที่นกจะเฉลยคำตอบพระเอกตัวจริงก็คือ "เต้าหู้ไข่" เห็นหน้าตาแล้วใช้ไม่ค่ะ นกทำเป็นเต้าหู้ไข่ทานเอง ตัดปัญหาเรื่องหาซื้อเต้าหู้ไข่ไม่ได้ ทำเองเสียเลยค่ะ และถ้าเพื่อนคนไหนมีปัญหาเหมือนอย่างนกละก็ ต่อไปไม่ต้องกังวลอีกแล้วค่ะ วิธีการทำก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร ว่าแล้วมาทำเต้าหู้ไข่กันเถอะค่ะเพื่อน ๆ



ส่วนผสม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
น้ำเต้าหู้ 1 ถ้วยตวง
เกลือป่นเล็กน้อย (เพิ่มรสให้เต้าหู้นะค่ะ แต่ถ้าใครอยากได้รสดั่งเดิมก็ไม่ต้องใช้ค่ะ)

วิธีทำ
1.ตอกไข่ใส่ชาม ตีให้ไข่แดงไข่ขาวเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
2.เทน้ำเต้าหู้ และเกลือป่นนิดหน่อยใส่ลงไปในถ้วย (นกซื้อน้ำเต้าหู้สำเร็จรูปแบบไม่มีน้ำตาลมาใช้เลยสะดวกและรวดเร็วดี ไม่ได้ทำน้ำเตาหู้เองหรอกค่ะ )
3.ตีไข่และน้ำเต้าหู้ให้เข้ากัน(นกใช้ช้อนตักฟองออก เวลาเอาไปนึ่งผิวหน้าจะได้เรียบสวยออกมาน่าทานค่ะ)นึ่งประมาณ 35 นาที หรือจนกระทั่งเต้าหู้ไข่สุก ปิดไฟพักไว้จนเย็น เอามาหั่นทำแกงจืดได้เลยค่ะ


กุ้งซอสมะขาม

เมนูนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูที่นกคิดเอาไว้ในใจว่า***เมื่อไรที่มีเพื่อนสมาชิกเข้ามาชม มาชิมอาหารในห้องครัว ND "แม่ครัวมือใหม่หัดทำ" ครบ 100 คน นกจะเอาเมนูนี้ขึ้นมานำเสนอให้เพื่อน ๆ เป็นทางเลือกในการทำอาหารสำหรับคนที่ชอบทานกุ้ง และแล้ววันนี้ก็เป็นจริง ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคน ที่เข้ามาให้กำลังใจแก่แม่ครัวคนนี้ด้วยค่ะ




ส่วนผสม
กุ้งสด หรือกุ้งแช่แข็ง 300 กรัม
หอมหัวใหญ่ หั่นสี่เหลี่ยมลูกเตา 1/4 ถ้วย
หอมแดงซอยบาง ๆ 3 หัว
กระเทียมซอยบาง ๆ 4 หัว
ต้นหอมผักชี หั่นเป็นท่อน ๆ ตามชอบ
น้ำตาลปี๊บ 1/4 ถ้วย
น้ำปลา 2 ชต
น้ำมะขามเปียก 1/4 ถ้วย
พริกแห้ง 6 ดอก
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
น้ำมันสำหรับทอด 3 ถ้วย

วิธีทำ
1.ล้างกุ้ง ตัดหนวด ผ่าครึ่งตัวตามยาวทั้งเปลือก เอาถุงมูลที่หัวกุ้งออก (นกไม่ได้ใช้กุ้งสดค่ะใช้กุ้งแช่แข็งที่ปลอกเปลือกเรียบร้อยแล้วเอาออกจากถุงใส่จานพักไว้)
2.ใส่น้ำมันลงในกระทะ นำกุ้งลงทอด จนสุก ยกลง จัดใส่จาน พักไว้ หากเป็นกุ้งสด ส่วนกุ้งแช่แข็งไม่ต้องค่ะ
3.เทน้ำมันออกให้เหลือนิดหน่อย ตั้งไฟกลาง ใส่หอมแดง กระเทียม เจียวให้เหลือง ตักแต่หอมแดงเจียว กระเทียมเจียวขึ้น(แยกเจียวนะค่ะ เพราะ หอมแดง กับกระเทียมเจียวจะเหลือไม่พร้อมกันนะค่ะ)ตักน้ำมันขึ้นไห้เหลือเล็กน้อย เอาพริกแห้งทอดให้หอม ตักขึ้นใส่จานพักไว้
4.เอาน้ำมันใส่ลงกระทะ เอาหัวหอมใหญ่ลงผัดให้สุก จากนั้นใส่น้ำมะขามเปียก น้ำตาล น้ำปลาลงในกระทะ หรี่ไฟในเตาใช้ไฟอ่อน เคี่ยวจนเหนียวเล็กน้อย เอากุ้งแช่แข็งลงผัด ใส่ต้นหอม ผักชี หอมแดงเจียว กระเทียมเจียว (หอมแดงเจียว และกระเทียมเจียวให้แบ่งเอาไว้โรยหน้าไว้ส่วนหนึ่งด้วย)คลุกให้เข้ากัน ปิดไฟในเตายกลงโรยหอมแดงเจียว กระเทียมเจียว พริกแห้งทอด ตักใส่จานยกเสริฟได้เลยค่ะ (หากเป็นกุ้งสด ให้ผัดทุกอย่างให้เข้ากัน ตักราดบนตัวกุ้งที่ทอดได้เลย โรยหอมแดงเจียว กระเทียมเจียว พริกแห้งทอด ซอย)

***นกชอบทานให้มีรสเผ็ดหน่อย ๆ นะค่ะ แต่ถ้าเพื่อนคนไหนไม่ชอบทานเผ็ด ก็ใช้ พริกชี้ฟ้า หั่นโรยหน้าตอนยกเสริฟ ก็ได้ค่ะ***

สปาเก็ตตี้เขียวหวานหมูมะเขือม่วง

จริง ๆ แล้วจะทำแกงเขียวหวานหมูมะเขือม่วงนค่ะ แต่แฟนคลับโทรศัพท์มาบอกว่าวันนี้กลับบ้านค่ำ เพราะที่บริษัทมีประชุมแล้วจะมีงานเลี้ยงส่งเพื่อนพนักงานลาออกไปทำงานที่ใหม่หลังเลิกงาน คงไม่ทานอาหารค่ำที่บ้านอีก ดีนะที่นกไม่ได้หุงข้าว ถ้าหุงเมนูดัดแปลงนี้ก็ไม่เกิดค่ะเพื่อน ๆ




ส่วนผสม

เนื้อหมู หั่นเป็นชิ้นพอคำ 250 กรัม

เส้นสปาเก็ตตี้ 300 กรัม

น้ำพริกแกงเขียวหวาน 2 ชต

กะทิ (แยกหัวกะทิและหางกะทิ) 1 กป
มะเขือม่วง หั่นเป็นชิ้น ๆ พอคำ 2 ถ้วย
ซีอิ้วขาว หรือน้ำปลา 3 ชต
น้ำตาลทราย 2 ชต
ใบโหระพา เด็ดเป็นใบ ๆ ตามชอบ
พริกชี้ฟ้าเขียว , แดง หั่นเฉียงๆ ไม่ใหญ่มากนัก

วิธีทำ
1.เปิดเตาที่ไฟแรง นำน้ำเปล่าใส่กระทะพอประมาณ รอจนน้ำเดือด นำเส้นสปาเก็ตตี้ลงไปต้มจนเส้นสุก (อย่าต้มนานเกินไปจนเส้นนิ่มมากนะคะ) เมื่อเส้นสุกได้ที่แล้วปิดเตา เทน้ำที่ต้มทิ้งไป เปิดน้ำล้างอีกที สะเด็ดน้ำ ใส่น้ำมันลงไปคลุกนิดหน่อยเพื่อไม่ให้เส้นติดกันตักใส่จานพักไว้
2.เปิดเตาที่ไฟปานกลาง นำหัวกะทิใส่ลงในกระทะประมาณ รอจนหัวกะทิเดือดก็ใส่น้ำพริกแกงเขียวหวานลงไป ผัดให้น้ำพริกกับกะทิเข้ากัน รอจนกะทิแตกมัน (หมั่นคนเป็นระยะนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวก้นจะไหม้)
3.เมื่อกะทิแตกมันได้ที่แล้วจึงใส่เนื้อหมูที่หั่นไว้ลงไป ผัดจนหมูสุก ทะยอยเติมกะทิที่เหลือลงไป จากนั้นให้นำมะเขือม่วงที่หั่นไว้ใส่ลงไป คนให้เข้ากัน
4.รอจนกะทิเดือดอีกครั้ง ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ที่ต้มไว้ลงไป ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว หรือน้ำปลา และน้ำตาลทราย ผัดให้เครื่องทั้งหมดเข้ากัน แล้วจึงใส่ใบโหระพา และพริกหั่นลงไป คนให้ทั่ว ปิดเตาและยกลงตักใส่จาน ยกเสริฟร้อนๆได้เลยค่ะ



หมูสับผัดไข่เค็ม






ส่วนผสม
ไข่เค็มหั่นเป็นชิ้นเล็ก 2 ฟอง
หมูสับ 200 กรัม
แครอทหั่นลูกเต๋า 1/2 ถ้วย
ต้นหอม+ผักชี ซอย 4 ค้น
ซีอิ้วขาว 1 ชต
น้ำตาลทราย 2 ชช

กระเทียมสับ 1 ชต
พริกไทยป่น 1 ชช

วิธีทำ
1.ตั้งกะทะบนเตาใส่น้ำมันพอร้อนใส่กระเทียมสับลงไปผัดพอให้หอม
2.ใส่หมูสับลงไปผัดให้พอสุก ใส่แครอทลงไปผัด คลุกๆพอเข้ากัน ผัดจนกระทั้งแครอทสุก
3.ใส่ไข่เค็มลงผัด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย (ซีอิ้วขาวใส่นิดหน่อยเพราะไข่รสชาติเค็มอยู่แล้ว) ชิมรสตามชอบ เสร็จแล้วปิดเตา ใส่ต้นหอม+ผักชีลงไปผัดคลุกให้พอเข้ากัน จากนั้นโรยด้วยพริกไทป่นซักนิดหน่อย แล้วก็ตักใส่จาน ยกเสริฟ ทานคู่กับข้าวต้มร้อนๆ หรือข้าวสวยก็ได้ค่ะ


***ต้องขอบอกเพื่อน ๆ ค่ะว่าเมนูนี้เป็นเมนูที่ทำให้นกต้องมานั่งทบทวนวิชา เรื่องการทำไข่เค็มค่ะ ด้วยเหตุว่าหาไข่เค็มไม่ได้เลยต้องอาศัยความรู้เก่าสมัยประถมมาใช้หากินอีกครั้ง งานนี้ต้องยกความดีให้แก่ครูอาจารย์ค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนไม่มีไข่เค็มก็เอาวิธีการทำไข่เค็มนี้ไปใช้ก็ได้นะค่ะ





สิ่งที่เตรียม มีดังนี้
เกลือ
น้ำเปล่า
ไข่เป็ด หรือ ไข่ไก่ (นกหาไข่เป็ดไม่ได้ทำไข่ไก่ค่ะอร่อยเหมือนกันค่ะ)
ขวดขนาดพอเหมาะกับจำนวนไข่ที่จะดอง

วิธีทำ
1.ต้มน้ำเกลือ โดยใช้อัตราส่วน1 ต่อ 4(เกลือ 1 ถ้วย และน้ำ 4 ถ้วย)ต้มให้เดือด จากนั้นพักให้เย็น
2.เอาขวดที่ใช้ดองไข่ลวกน้ำร้อนให้เชื้อโรคตายเสียก่อนค่ะ
3.ล้างไข่ให้สะอาด ปล่อยให้สะเด็ดน้ำ แล้วบรรจงใส่ไข่ลงไปในขวดที่ละใบ ระวังอย่าให้แตกหรือมีรอยร้าวนะค่ะ
4.นำน้ำเกลือที่ต้มเดือดและพักให้เย็นแล้วใส่ลงไปในโหลระวังอย่าให้ไข่ลอยเหนือน้ำเป็นอันขาดไม่งั้นไข่จะเน่า ให้หาอุปกรณ์มากดทับไว้(นกใช้ถุงพลาสติกใส่เกลือวางไว้ก่อนปิดฝา ถุงเกลือจะช่วยให้ไข่จมลงไปใต้น้ำเกลือ นะค่ะ เท่านี้ก็ได้ไข่เค็มทานสมใจแล้วค่ะ)

***ไข่เค็มที่ทำถ้าต้องการเอามาทอดประมาณ 5-7 วัน ก็เอามาทอดได้แล้วค่ะ ความเค็มกำลังดี แต่ถ้าจะเอามาต้มทานละก็ต้องประมาณ 12-14 วันแต่เป็นไข่ไก่นะค่ะ ถ้าเพื่อน ๆทำไข่เป็ดต้องดองเอาไว้นานหน่อยคะประมาณ 18-20 วัน ถึงจะเค็มได้ที่จริง ๆ เปลือกไข่ต่างกันค่ะ (แต่ถ้าเพื่อน ๆ ไม่มั่นใจว่าเค็มหรือไม่ลองเอามาต้มชิมดูก่อนสักฟองก็ได้ค่ะ ถ้าไม่เค็มก็ดองต่อไปอีกสักหน่อยกะประมาณไข่เค็ม เค็มได้ทีถูกใจคนทานนะค่ะ)***


ข้าวผัดหมูน้ำพริกเผา



ส่วนผสม
เนื้อหมูหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 ถ้วย
ข้าวสวยสำหรับผัด 2 ถ้วย
ข้าวโพดอ่อน หั่นเป็นเล็ก ๆ 1/4 ถ้วย
พริกหวาน หั่นเป็นสี่เหลี่ยลูกเต๋า 1/2 ถ้วย
หัวหอมใหญ่ หันเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/4 ถ้วย
ถั่วลันเตา 1/4 ถ้วย
กระเทียมสับ 1 ชต
น้ำพริกเผา ตามชอบ
ซีอิ้วขาว 1 ชต
น้ำตาลทราย (ใส่เล็กน้อย เพราะน้ำพริกเผามีความหวานอยู่บ้างแล้ว)
ผักชีหั่นหยาบ หรือเด็ดเป็นใบ
น้ำมันสำหรับผัด 2 ชต

วิธีทำ
1.ตั้งกระทะบนเตา ใส่น้ำมันเล็กน้อย พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่กระเทียมลงไปผัดให้หอม จากนั้นใส่หมูลงผัดต่อให้สุก
2.ใส่หัวหอม ข้าวโพดอ่อน พริกหวาน และ ถั่วลันเตา ผัดผักจนเกือบสุก
3.ใส่ข้าวสวยและน้ำพริเผาลงผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ ปิดไปในเตา โรยผักชีตักใส่จานยกเสริฟพร้อมไข่เจียว หรือไข่ดาวก็ได้ค่ะ

***สำหรับนกชอบทานคู่กับไข่เจียวหั่นเป็นเส้นบาง ๆ ทานคู่แตงกวา เท่านี้ก็อร่อยแล้วค่ะ***


กุ้งกระเบื้อง

เมนูนี้เป็นเมนูที่นึกอยากกินอยู่หลายวันแต่นกต้องรอเป็นเวลา 2 เดือนถึงจะได้ทำ เหตุเพราะต้องรอเจ้าแผ่นปอเปี้ยะ ที่นกสั่งซื้อไปทางเน็ตนะค่ะ โดยนกจะสั่งซื้อของเครื่องปรุงอาหารของไทย 2 เดือน/ครั้ง จะได้สั่งที่เดียวเยอะ ๆ เสียค่าบริการส่งครั้งเดียวไปเลยนะค่ะ "กุ้งกระเบื้อง" ถ้าไม่มีแผนปอเปี๊ยะพระเอกคนสำคัญก็ยังทำไม่ได้นะค่ะ เวลาสั่งของประมาณ 3-4 วันของก็จะมาถึงนะค่ะ นี้ถ้ามีตลาดขายของ เอเซียแถวบ้านก็คงจะดีไม่น้อยจะทำอะไรไม่ต้องคอยนานขนาดนี้

ส่วนผสม
กุ้งสด หรือ แช่แข็ง สับละเอียด 250 กรัม
หมูบด 100 กรัม
ต้นหอมผักชีซอย 4 ต้น
ไข่ไก่ (แยกไข่แดงและไข่ขาวออกจากกัน)1 ฟอง
เกลือ 1/2 ชช
พริกไทยป่น 1 ชต
แผ่นปอเปี๊ยะ
วิธีทำ
1.ผสมเนื้อกุ้ง เนื้อหมู ไข่แดง หอมซอยและเครื่องปรุงทั้งหมดลงในอ่างผสม นวดให้เข้ากันจนเหนียว
2.เอาแผ่นปอเปี๊ยะ 1 แผ่น ใส่ไส้ลงไปเกลี่ยเป็นวงให้ทั่วอย่าหนามาก เดี๋ยวทอดไม่กรอบ เหลือขอบเอาไว้
3.ทาไข่ขาวตรงขอบแผ่นแป้งให้ทั่ว นำแผ่นปอเปี๊ยะอีกแผ่นมาประกบทับลูบเบาๆให้แป้งปอเปี๊ยะติดแน่นกับส่วนผสมไส้ (ถ้าไม่แน่นเวลาทอดแผ่นจะพองไม่สวย )
4.ตั้งกระทะบนเตาใส่นำมันลงไป ไฟปานกลางค่อนข้างอ่อนไฟแรงไหม้เร็ว ทอดไม่สวย
5.ทอดไปจนแผ่นปอเปี๊ยะเป็นสีเหลืองสวยตัดใส่จานที่มีกระดาษซับน้ำมันรองจากนั้นใช้กรรไกรตัดให้เป็นชิ้นเล็กๆ จัดเสริฟทานคู่กับน้ำจิ้ม กินเพลินเลยไปเลยค่ะ

น้ำพริกอ่อง

ด้วยความที่เราเป็นลูกครึ่งชาวเหนือกะเค้าด้วยคนหนึ่ง เลยทำให้ชอบอาหารเหนือหลายอย่าง ๆ และที่ชอบเป็นพิเศษทำกินกันบ่อย ๆ เห็นจะเป็นเจ้าน้ำพริกอ่องนี้ละ แต่นกไม่เคยลงมือทำกับเขาหรอก เคยแต่นั่งมองแม่และน้องสาวเวลาที่เขาทำให้กิน ไม่คิดว่าวันหนึ่งนกต้องมาทำกินเองแถมยังอร่อยเหมือนต้นตำรับเลย



ส่วนผสม
หมูสับ 250 กรัม
พริกแกงเผ็ด ตามชอบ
มะเขือเทศลูกเล็ก 25 ลูก
หอมผักชีซอย 2 ต้น
ซีอิ้วขาว/น้ำปลา ตามชอบ
น้ำตาลปี๊ป ตามชอบ
น้ำมะขามเปียก ตามชอบ (ถ้ามี)
น้ำมันพืชสำหรับผัด 2 ชต

วิธีทำ
1 นำมะเขือเทศมา หั่นเป็นสี่ส่วน ใส่ครกรวมกับน้ำพริกแกงเผ็ด
2 โขลกมะเขือเทศกับน้ำพริกแกงเผ็ดให้เข้ากันพอหยาบ
3 เอากระทะตั้งบนเตาเปิดไฟปานกลาง พอกระทะร้อนใส่มะเขือเทศและน้ำพริกที่โขลกไว้ลงไป ผัดซักพักจนเริ่มหอมก็ใส่หมูสับลง
4 ผัดหมูสับให้เข้ากับน้ำพริกจนหมูสับสุก ใส่ ซี้อิ้วขาว น้ำตาลปี๊ป และน้ำมะขามเปียกเล็กน้อย คนให้เครื่องปรุงทั้งหมดเข้ากัน ชิมรสตามชอบ
5 ปิดเตาโรยต้นหอมผักชีซอย ตักใส่ถ้วยยกเสริฟพร้อมผักสดหรือผักต้มก็ได้ค่ะ

***แฟนคลับนกไม่ทานผักสดเราเลยต้องมีจานผัก 2 จานเสมอ เพราะนกชอบผักสดโดยเฉพาะทานคู่กับแตงกวา ผักกาดขาวอร่อยดี สำหรับน้ำมะขามเปียกจะใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้ แต่นกชอบใส่นิดหน่อยให้ออกรสเปรี้ยวนิด ๆนะค่ะ***



ข้าวอบรวมมิตร

สวัสดีจ้า..... ท่านผู้ชมมิตรรักแฟนอาหารของนกทุก ๆ ท่าน สบายดีกันไม่ค่ะ***นกสบายดีค่ะ วัน ๆ ยุ่งกับการหาอะไรทำไปเรื่อยๆ เปื่อยๆ ตามประสาชีวิตของคนอยู่ต่างแดน แถมบางครั้งเหนื่อยกับการเปลี่นแปลงที่ต้องเรียนรู้และค้นพบอะไรใหม่ ๆ ในชีวิตทุก ๆ วัน แต่นกก็มีความสุขดีค่ะ โดยเฉพาะช่วงนี้นกไม่รู้เป็นอะไรขยันทำโน่นทำนี้ ไม่ได้หยุด ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาว อาหารหวาน หรืออาหารว่าง สงสัยได้กำลังใจดีจากแฟนคลับที่บ้าน และเพือนสมาชิกที่ ๆ เข้ามาชมมาชิมอาหารในห้องครัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ นะคะ อย่างวันนี้นกก็มีข้าวอบมาให้เพื่อน ๆ ชิม และชมกันอีกแล้วค่ะ


ส่วนผสม

ข้าวสาร 2 1/2 ถ้วย

เนื้อหมู 1/2 ถ้วย

เนื้อไก่ 1/2 ถ้วย
กุ้งสด หรือ กุ้งแช่แข็ง ตามชอบ
แครรอท 1/4 ถ้วย
มันฝรั่ง 1/4 ถ้วย
ถั่วลันเตา 1/4 ถ้วย
เห็ดหอม 4 ดอก
ขึ้นฉ่ายหั่นเป็นท่อน ๆ ตามชอบ
ซีอิ้วขาว 2 ชต
น้ำมันหอย 3 ชต
น้ำตาลทราย 1 ชต
น้ำมันพืช 2 ชต
น้ำเปล่า 3 ถ้วย

วิธีทำ
1.นำเห็ดหอมแห้งมาล้างฝุ่นผงออกแล้วแช่น้ำไว้ให้นิ่ม
2.เมื่อเห็ดหอมนิ่มแล้ว บีบน้ำออกให้หมดแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ (เก็บน้ำแช่เห็ดหอมไว้นะค่ะ)
3.ปลอกเปลือกออกแครอท มันฝรั่ง ล้างน้ำให้สะอาด แล้วหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า
4.นำเนื้อหมู และเนื้อไก่มาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ และกุ้งสดปลอกเปลือกกุ้ง ผ่าหลัง ดึงเส้นดำออกให้เรียบร้อย (หรือจะใช้กุ้งแช่แข็งเหมือนนกก็ได้ค่ะหากไม่มีกุ้งสด)
5.เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป รอจนน้ำมันเริ่มร้อนใส่หมู และไก่ที่หั่นไว้ลงไปลงผัด พอเริ่มสุก ใส่กุ้งลงผัด
6.ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำมันหอย และน้ำตาลทราย
7.ผัดให้เครื่องปรุงต่างๆ เข้ากัน ใส่ผักต่าง ๆ ที่หั่นไว้ลงผัดพอผักเริ่มสุก
8.ใส่น้ำแช่เห็ดหอมลงไปประมาณครึ่งถ้วยคนให้เครื่องทั้งหมดเข้ากัน
9.นำข้าวสารมาซาวให้สะอาดจากนั้นเอาส่วนผสมทั้งหมดใส่หม้อหุงข้าว แล้วคนให้เข้ากันใส่น้ำเพิ่มลงไปอีกประมาณถ้วยครึ่งหรือกะประมาณพอให้เกือบท่วมเครื่อง แล้วหุงในหม้อหุงข้าวตามปกติ (ต้องกะประมาณน้ำให้ดีนะค่ะถ้าน้ำน้อยเกินไปจะทำให้ไม่นั้นข้าวไม่สุกค่ะ)
10.เมื่อข้าวสุกตักออกจากหม้อใส่โถอบ หรือหม้อดิน(ถ้าไม่มีใช้โถอบเหมือนนกก็ได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นหม้อดินจะหอมมาก ๆ เวลาอบนะค่ะ)
11.เอาขึ้นฉ่ายที่หั่นไว้ใส่ลงไป คนให้ทั่ว ปิดฝาเอาเข้าเตาอบ อบไว้ประมาณ 5-8 นาที จากนั้นตักใส่จานยกเสริฟได้เลยค่ะ


(หรือจะอบในหม้อหุงข้าวเลยก็ได้ วิธีการเดียวกันคะเพื่อน ๆ แต่นกใช้โถอบ เพราะนกยกโถอบตั้งโต๊ะตักเสริฟนะค่ะ)