แกงอ่อมปีกไก่

พอเข้าหน้าร้อนที่ไร นกและแฟนคลับชอบหาเวลาเที่ยวพักผ่อนเสมอเลยทำให้ต้องทิ้งร้างห่างครัวไปหลายวัน อย่างเมนูนี้จริง ๆ นกทำแล้วทิ้งรูปเอาไว้ในเวป วันนี้กลับมาแล้วค่ะมีเวลามากขึ้นเพราะ ช่วงนี้เข้าหนาวไม่ได้ไปไหนมีเวลาเข้าครัวบ่อยขึ้น นกเลยมาเล่าสู่เรื่องแกงอ่อมกับเพื่อน ๆ นกเคยได้ยินคนเฒ่าคนแก่พูดกันว่าแกงอ่อมทางภาคเหนือ กับทางภาคอีสานไม่เหมือนกัน จะแตกต่างกันที่ส่วนผสมของน้ำแกง อย่างที่นกทำวันนี้เป็นของทางภาคอีสานค่ะ อ่อมไก่ทำได้ง่ายมาก ๆ เพราะส่วนผสมของผักนั้นใส่ตามใจคนทานค่ะ ผักที่นกใส่เยอะกว่าอย่างอื่นเห็นจะเป็นลูกcourgette ปลูกได้ผลมีมากจริง ๆ เลยค่ะ



ส่วนผสม
ปีกไก่บน 8-10 ชิ้น
ผักชีลาว ตามชอบ
ใบแมงลัก ตามชอบ (ถ้ามี)
courgette หั่นเป็นชิ้น ๆ 2-3 ลูก
เห็ด หั่นเป็นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย
ต้นหอม หั่นเป็นท่อน ๆ ตามชอบ
ผักอื่น หั่นเป็นชิ้นพอคำ ตามชอบ
น้ำปลา 2 ชต
น้ำปลาร้า 2 ชต (ถ้ามี)
ข้าวเบือ 2 ชต
ใบมะกรูด ตามชอบ

ส่วนผสมเครื่องแกง
พริกสด ตามชอบ
หอมแดง 3-4 หัว
กระเทียม 2-3 กลีบ
ตะไคร้ หั่นเป็นท่อนเล็ก ๆ 2 ต้น

วิธีทำ
1 โขลกส่วนผสมเครื่องแกงให้ละเอียด พักไว้
2 เอาหม้อตั้งบนเตา เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลางใส่ไก่ และเครื่องแกงที่ตำคั่วให้หอม จากนั้นเติมน้ำนิดหน่อยพอขลุกขลิก คนต่อจนไก่สุก
3. พอน้ำแกงเริ่มเดือดใส่ผักลงไป ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำปลาร้า ชิมรสตามชอบอีกครั้ง
4.เติมข้าวเบือลงไปหมั่นคนบ่อย ๆ เพราะ ข้าวเบือจะเหนียวหนืดทำให้ข้น จากนั้นเติมน้ำเพิ่มตามต้องการ
5. พอน้ำแกงเริ่มเดือดอีกครั้งใส่ผักลงไปยกเว้น ผักชีลาว ต้นหมอ รอจนกระทั้งผัดเริ่มสุกจากนั้นใส่ผักชีลาว ต้นหอมลงไปคนให้เข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟในเตา ตักใสชามยกเสริฟได้เลยค่ะ

*** หากพูดถึงข้าวเบือ บางคนอาจนึกไม่ออก ข้าวเบือ คือข้าวดิบไม่ว่าจะข้าวเหนียวหรือข้าวสารเอามาแช่น้ำให้นิ่มๆ จากนั้นเอามาตำให้ละเอียด ข้าวเบือจะทำให้น้ำแกงเหนียว อาหารเกาะตัว หากไม่ชอบข้าวเบื่อ จะใช้เป็นข้าวคั่วก็อร่อยเช่นเดี่ยวกันค่ะ ไว้ครั้งหน้านกจะนำเมนูแกงอ่อมทางเหนือมาให้เพื่อน ๆ ได้ชมได้ชิมอีกครั้งค่ะ ***

ปลาแชลม่อนทอดต้มยำน้ำข้น

พูดถึงปลาแชลม่อนที่นี้มีเยอะเลยที่เดียวหากินง่ายกว่าปลาอื่น ๆ ราคาก็ไม่แพงเท่าไร ถ้าเทียบกับปลาอื่น ๆ นกเลยซื้อมาทำอาหารเป็นประจำ จึงทำให้นกต้องเปลี่ยนเมนูโน่นนี้ไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ผัด ทอด อบ นึ่ง ยำ ไปจนถึงต้ม อย่างเมนูวันนี้นกคิดทำต้มยำ และก็อยากกินปลาทอดด้วยเลยทำมันเสียทั้ง 2 อย่างในหนึ่งเมนูเสียดูแล้วมันตรงจุดความต้องการพอดี


ส่วนผสม
ปลาแชลม่อนหั่นชิ้นพอคำ 500 กรัม
แป้งทอดกรอบ 2-3 ชต
หอมแดงทุบ ตามชอบ
เห็ดหั่นชิ้นพอคำ 250 กรัม
ตะไคร้หั่นเฉียง 2 ต้น
ข่าอ่อนหั่นบาง ๆ 2 หัว
มะเขือเทศสีดา ตามชอบ
ใบมะกรูดฉีก ตามชอบ
ต้นหอม ผักชี 2 ต้น
พริกสด 5 เม็ด
ซีอิ้วขาว 3 ชต
น้ำพริกเผา 2 ชต
น้ำมะนาว ตามชอบ
ซุปก้อนรสไก่ 1 ก้อน
นมข้มจืด ตามชอบ

วิธีทำ
1 นำปลาแชลมอนหั่นชิ้นมาคลุกกับแป้งทอดกรอบ นำไปทอดให้สุกเหลือง กรอบ
2. ผสมน้ำพริกเผากับนมจืดให้เข้ากัน พักไว้
2 เปิดเตาที่ไฟแรงปานกลาง เอาน้ำใส่หม้อ ใส่ซุปก้อนรสไก่ลงไป ต้มน้ำซุปจนกระทั้งเดือด จากนั้นใส่ตะไคร้ ใบมะกรูดลงไปต้ม ประมาณ 5 นาที
3 ใส่เห็ด มะเขือเทศสีดา ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว น้ำมะนาว น้ำพริกเผาผสมนมจืด และพริกทุบ ชิมรสตามชอบ จากนั้นใส่ต้นหมอ ผักชี คนให้เข้ากัน
4 เอาปลาแชลมอนกรอบใส่ถ้วย ตักน้ำต้มยำราดลงบนปลา โรยหน้าด้วยหอมผักชีอีกครั้ง จากนั้นก็ยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ


แกงส้มปักษ์ใต้ (แกงเหลือง)

วันนี้เข้าครัวเป็นเมนูปักษ์ใต้อีกแล้วค่ะ แกงส้ม หรือแกงเหลืองที่ใคร ๆ เค้าเรียกกัน ถ้าพูดถึงแกงส้มรสชาดคนใต้บอกเลยว่าเน้นเผ็ด เปรี้ยว สะใจ มีคนถามว่าแกงส้มภาคใต้ กับภาคกลางแตกต่างกันตรงไหน แกงภาคส้มใต้จะใส่ขมิ้น ส่วนแกงส้มภาคกลางจะใส่กระชาย อีกทั้งแกงส้มภาคกลางจะออกรสหวาน ส่วนภาคใต้จะออกรสเปรี้ยว นี้คือข้อแตกต่างของแกงส้มที่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยที่เดียว อีกทั้งความเผ็ดงานนี้ต้องยกให้แกงส้มภาคใต้ละค่ะ




ส่วนผสม
พริกขี้หนูสด ตามชอบ (นกใช้ประมาณ 20-25 เม็ดได้ค่ะ)
ขมิ้นผง 2 ชช
กระเทียม 5-6 กลีบ
หอมแดง 2 หัว
เกลือ 1 ชช
ปลาแซลมอนหั่นขนาดตามชอบ 6 ชิ้น
ลูก courgette หั่นเป็นชิ้นขนาดพอคำ 2 ลูก
กะปิ 1 ชต
น้ำตาลปี้บ 1 ชต
น้ำมะขามเปียก ตามชอบ

วิธีทำ
1 เอาพริกขี้หนูสด กระเทียม หัวหอม ขมิ้น และเกลือ โขลกหรือปั่นให้ละเอียด จากนั้นใส่กะปิ น้ำตาลปี้บ โขลกให้เข้ากันอีกครั้ง พักไว้
2 ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ ยกหม้อตั้งบนเตาเปิดไฟแรง พอน้ำเดือนใส่เครื่องแกงละลายให้เข้ากัน รอให้เดือดอีกครั้ง ใส่ผักตามต้องการ (ลูก courgette ของนกวันนี้สีเหลือง) จากนั้นใส่น้ำปลา น้ำมะขามเปียก ชิมรส ตามชอบ พอเดือดอีกครั้งปิดไฟในตักใส่ถ้วยยกเสริฟได้เลยค่ะ

***นี้เป็น courgette ที่ปลูกไว้ที่บ้าน จริงๆ แล้ว ปลูกแค่ 4 ต้น ออกลูกเยอะ กินกันไม่ทันเลย บางลูกต้องปล่อยให้โตติดต้นไปเลยก็มี สงสัยปีหน้าปลูกแค่ 2 ต้นน่าจะพอดี***




ขนมลุกตุ้ม /ขนมลูกระเบิด /ขนมโป้งเหน่ง

เมนูนี้มีน้องคนหนึ่งบอกว่าอยากได้สูตรขนมทีมีไส้กรอกตรงกลางจะเอาไปทำขายตอนเปิดเทอม แต่น้องเค้าไม่รู้ว่าขนมที่อยากจะทำขายชื่ออะไร เค้าบอกแต่เพียงแต่รูปลักษณ์มาให้ นกเองก็เดา ๆ ว่าน่าจะเป็นขนมแบบนี้เพราะเคยเห็นที่หน้าโรงเรียนหลานชาย กับที่ตลาด วันนี้เลยลองทำให้น้องเค้าได้ดูว่าใช้ขนมที่อยากจะทำหรือเปล่า จะว่าไปแล้วขนมลูกตุ้ม หลายๆ คนรู้จักเคยเห็น แถมบางบางคนได้ลิ้มลองมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่าอะไรกัน ขนมนี้มีหลายชื่อให้เรียกเลยที่เดียวค่ะ เคยถ้าแม่ค้าที่ขาย เค้าบอกว่าขนมลูกระเบิด แต่แม่เจ้าของร้านที่ขายขนมบอก ไม่ใช้ เค้าเรียกว่าลูกตุ้ม เลยไม่รู้ว่าลูกอะไรกันแน่น แถมเพื่อนยังบอกว่าอีกว่าที่บ้านเค้าเรียกขนมโป้งเหน่ง อ๋าวแล้วจะเรียกว่าอะไรดี นกไม่รู้จะใช้ชื่อไหนดี เลยเอามาทั้งหมด 3 ชื่อตัดปัญหาไปเลย มีใครบอกนกได้มั่งเอ๋ยชื่อที่ถูกต้องมันเรียกว่าอะไร


ส่วนผสม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 200 กรัม
แป้งข้าวเจ้า 1 ชต
ผงฟู 2 ชช
ไข่ไก่ 1 ฟอง
น้ำตาล 2 ชต
เกลือ 1 หยิบมือ
น้ำมันพืช 4 ช้อนโต๊ะ
นมสด 1/4 ถ้วย
น้ำปูนใส 2 ชช (ถ้ามี)
ไส้กรอกหั่นท่อนสั้นเสียบไม้ปิ้งลูกชิ้น ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับทอด


วิธีทำ
1 ร่อนแป้งสาลี แป้งข้าวเจ้า ผงฟู รวมกัน แป้งจะได้ฟู ร่อนรวมกัน 2 ครั้งพักไว้
2 ตอกไข่ลงในอ่างผสม ใช้ตะกร้อมือ ตีจนไข่ขึ้นเป็นครีมสีเหลืองๆ จากนั้นผสมน้ำตาลกับเกลือ ลงไปตีจนรู้สึกว่าไม่มีเม็ดน้ำตาล ใส่น้ำมันพืชลงไปตีต่อจนส่วนผสมเข้ากัน
3 ตักแป้งที่ร่อนไว้ใส่ในไข่ที่ตี สลับกับนมสด จนหมด ตีให้แป้งจะละลาย ถ้าแป้งเหนียวให้เติมนม ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จะได้แป้งชุบทอดที่เนื้อเนียนเข้ากัน สังเกตแป้งเหนียวหนืด ไม่เหลว ชุบไส้กรอกติดดีก็เป็นอันใช้ได้
4 เอาน้ำมันใส่หม้อให้เยอะพอทอดขนม จากนั้นตั้งบนเตาเปิดไฟปานกลาง รอให้น้ำมันร้อน จุ่มไส้กรอกลงในแป้ง นำไปทอด คอยดูอยุ่ตลอดเวลา พอเหลืองให้ตักออก ซับน้ำมันให้แห้ง จากนั้นนำไปจุ่มรอบที่ 2 ทอดไปจนเหลืองสุกสวยตักออก ซับน้ำมันให้แห้ง เสริฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

*** ถ้าต้องการให้ขนมมีขนาดโตเท่าใด ก็จุ่มแป้งเพิ่มตามขนาดที่ต้องการ การจุ่มแป้งครั้งที่2 พยายามหมุนแป้งให้ลงตามไม้ลูกชิ้นจะทำให้แป้งสวยเวลาทอด เวลาทอดค่อย ๆ หมุนแป้งให้โดนน้ำมันจะได้เหลืองเท่า ๆ กัน***

ไข่ลูกเขย



ส่วนผสม
ไข่ไก่หรือไข่เป็ดต้มสุก 3 ฟอง
น้ำตาลปี๊บ ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำมะขามเปียก
พริกแห้งทอด 5-6 เม็ด
หัวหอมซอยทอด 4-5 หัว
ผักชีสำหรับแต่งหน้า 1 กิ่ง

วิธีทำ
1. ต้มไข่ให้สุกไว้พักไว้ จากนั้นจึงนำไข่ไปทอดให้เหลืองสวย
เวลาจะทอดไข่ ใช้เข็ม หรือส้อมจิ้มไข่ให้ทั่วทั้งฟองไข่จะได้ไม่ระเบิดตอนทอด
2.เมื่อทอดไข่เสร็จแล้วตัดไข่ออกเป็นสองส่วนพักไว้ในจาน จากนั้นให้ทอดพริกแห้ง และหอมซอยไว้ให้เหลืองกรอบเช่นกัน
3.ทำน้ำราดไข่ลูกเขย โดยการผสมน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย เคี่ยวไปจนน้ำตาลละลายหมด เติมน้ำปลา ชิมรสให้ได้สามรส หวาน เปรี้ยว และก็เค็ม ยกลงราดไข่ลูกเขย โรยด้วยผักชี พริกแห้งทอด หัวหอมทอด ยกเสริฟได้เลยค่ะ

ปอเปี๊ยะสดเวียดนาม (Goi Guon /ก๋อยก้วน)

นกดีใจสุด ๆ เลยละค่ะเพื่อน ๆ ที่ได้ไปเจอะกับเจ้าแผ่นปอเปี้ยะโดยบังเอิญ จัดการเหมาหมดยกแผงเลย ดูออกจะเวอร์ไปหน่อย จริง ๆ แล้วมีเหลือแค่ 3 ห่อเองค่ะ ไม่เป็นไรเอาเท่าที่มีไปก่อน รู้แล้วว่าครั้งต่อไปเราจะหาซื้อได้จากที่ไหน ตอนซึ้อเจ้าแผ่นปอเปี้ยะแฟนคลับทำหน้า งง ผสมตื่นเต้นเล็ก ๆ คงรู้ตัวว่าต้องเป็นนักชิมที่ดีอีกตามเคย อาหารเวียดนามหลาย ๆ คนชอบเพราะขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เต็มไปด้วยผัก จริงแล้วอาหารเวียดนามหลายๆอย่างทำได้ไม่ยาก อย่างเจ้าปอเปี้ยะเป็นเมนูหนึ่งที่หลาย ๆ คนติดใจ สะดวกสามารถทำกินเองที่บ้านได้


ส่วนผสม ปอเปี้ยะ
กุ้งต้มขนาดกลาง 24 ตัว
อกไก่ต้มสุกหั่นเป็นชิ้นตาม 12 ชิ้น
แผ่นปอเปี๊ยะ 12 ชิ้น
ใบสะระแหน่ ตามชอบ (นกใช้ 3 ใบต่อ 1 ชิ้น)
แครรอทหั่นเป็นแท่งยาว ๆ ขนาด 2 นิ้ว 24 แท่ง
แตงกวาหั่นเป็นแท่งยาว ๆ ขนาด 2 นิ้ว 24 แท่ง
ใบSpinach ตามชอบ (นกใช้ 3 ใบต่อ 1 ชิ้น)

ส่วนผสมน้ำจิ้มเผ็ด
น้ำมะนาว 1/2 ลูก
เกลือ 1/2 ชช
พริกสด ตามชอบ
กระเทียม 3-4 กลีบ
น้ำตาล 2 ชช
ขิงซอยละเอียด ตามชอบ

วิธีทำ
1 ปรุงน้ำจิ้มโดยตำพริกกระเทียมให้ละเอียดจากนั้นนำส่วนผสมอื่นคนให้เข้ากันจนเกลือและน้ำตาลละลาย ตักใส่ถ้วยพักไว้
2 เทน้ำอุ่นใส่จานแบน แช่แผ่นแป้งปอเปี๊ยะสดในน้ำประมาณกะพอให้แป้งนุ่ม วางแผ่นปอเป๊ยะที่แข่น้ำแล้วบนพื้นที่เรียบ
3 วางใบใบSpinachตรงกลางแผ่นแป้ง เรียงแครอท แตงกวาง กุ้ง ไก่ แลละใบสาระแหน่ พับด้านข้างแผ่นแป้งปอเปี๊ยะทำใส่ ม้วนให้เป็นแท่ง ค่อยกดหัวท้ายให้บิดปลาย พักปอแปี๊ยะสดที่ห่อเสร็จแล้วในจาน ใช้ผ้าขาวสะอาดบางชุบให้่เปียกน้ำพอหมาดๆๆ คลุมปอเปี้ยะ
เพื่อป้องกันการแห้ง ทำส่วนที่เหลือต่อไปจนหมด จัดใส่จานยกเสริฟพร้อมน้ำจิ้มได้เลยค่ะ

***ผักที่ใช้แล้วแต่จะชอบ จะใช้ผักกาดหอม พริกหวาน หรือผักสลัดอื่น ๆ ก็ได้เช่นเดียวกัน ส่วนน้ำจิ้ม นอกเหลือจากนี้แล้วยังมีน้ำจิ้มถั่ว น้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน แล้วแต่จะชอบกันค่ะ จานนี้ของนกเองคะ ราดน้ำจิ้มเผ็ดเสียเยอะ***


เย็นตาโฟ รวมมิตรทะเล (น้ำซอสทำเอง)

แฟนคลับเค้าหยุดลาพักร้อน 3 วัน วันนี้เราสองคนไม่มีโปรแกรมจะไปไหนกัน เพราะอากาศคลึ้ม มืด ๆ ไม่ค่อยจะเป็นใจให้ออกไปเที่ยวสักเท่าไร ตัดสินใจพักผ่อนกันที่บ้าน คิดว่าจะทำเมนูอาหารกลางวันอะไรดี ไป ๆ มา ๆ จบลงที่ก๋วยเตียวอีกตามเคย แต่วันนี้ของนกทำพิเศษขอเป็นเย็นตาโฟ รวมมิตรทะเล ส่วนแฟนคลับขอเป็นก๋วยเตี๋ยวหมูธรรมดา เพราะไม่กินหอยนางรม กับปลาหมึก งานนี้เสร็จเรา ของอร่อยไม่รู้เสียแล้ว



ส่วนผสม
เส้นก๋วยเตียว ตามชอบ
กระดูกหมู/ไก่ ตามชอบ
กุ้งสด 10-15 ตัว
หอยนางรม 15-20 ตัว
น้ำมันกระเทียมเจียว ตามชอบ
เนื้อหมูต้ม หั่นเป็นชิ้นพอคำ ตามชอบ
เต้าหู้ทอด หั่นซอย ตามชอบ
หอมผักซีซอยหยาบ 1 ถ้วย
ผักบุ้ง หั่นเป็นท่อน ๆ 10-12 ต้น
ถั่วงอกสด ตามชอบ
น้ำซอสเย็นตาโฟ 1 ถ้วย
ซุปไก่ 1ก้อน (ถ้ามี)






ส่วนผสมน้ำซอสเย็นตาโฟ
เต้าหู้ยี้ 3 ก้อน

พริกสดขี้หนูแดง 3 เม็ด
ซอสมะเขือเทศ 5 ชต
เหล้าจีน 1 ชต
ซอสพริก 2 ชต
น้ำเชื่อม 5 ชต

น้ำเปล่า เล็กน้อย


วิธีทำ
1. เอาน้ำใส่ในหม้อ เปิดไฟในเตา ใช้ไฟแรง พอน้ำเดือดใส่กระดูกหมูหรือไก่ ใส่เกลือ และซุปไก่ก้อนลงไป ชิมรสตามชอบ
2.เอาเต้าหู้ยี้ พริกขี้หนูแดง น้ำเปล่า ใส่โถปั่น
ให้พอละเอียดตามชอบ จากนั้นใส่ส่วนผสมน้ำซอสทั้งหมดปั่นให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่หม้อต้ม นำขึ้นตั้งบนเตาใช้ไฟอ่อน ๆ คนให้เดือดสักพักปิดไฟในเตาพักไว้ให้เย็น
3.เอาหม้ออีกใบใส่น้ำตั้งไปให้เดือด ลวก ผักบุ้ง ถั่วงอก เส้นก๋วยเตียว กุ้ง หอยลงไปลวก ให้สุกพักไว้ จากนั้นเอาเส้นก๋วยเตียวที่ลวกสุกแล้วคลุกกับน้ำมันกระเทียมเจียวพักไว้
4.เอาผักบุ้ง ถั่วงอก ก๋วยเตียว เนื้อหมู กุ้ง หอย ที่ลวกเสร็จแล้วใส่ชามก๋วยเตียว จากนั้นโรยด้วย เต้าหู้ทอด ตักน้ำซุปกระดูกลงในชามก๋วยเตียวตามชอบ
5.ตักน้ำซอสเย็นตาโฟใส่ในชามก๋วยเตียว1-2 ชต จากนั้นโรยด้วยต้นหอมผักชี ยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ









ข้าวขาหมู

นกและแฟนคลับกลับมาแล้วค่ะหลังจากที่เราสองคนหายไปพักผ่อนหลายวันเลยที่เดี่ยว กลับเข้าครัวมาฝุ่นเต็มไปหมด เลยต้องทำความสะอาดกันยกใหญ่เลยค่ะ คิดถึงเพื่อนสมาชิกครัวเอ็นดีทุกคนนะค่ะ เพื่อเป็นการฉลองกลับเข้าครัว วันนี้นกเลยจัดเมนูเด็ดเพิ่มไขมันด้วยขาหมูที่ซื้อมาไว้ก่อนไปเที่ยวเสียเลย เก็บนอนแข็งอยู่หลายวัน เมนูนี้ตอนที่นกเจอะกับน้องขาหมู ขอบอกว่าหยิบโดยไม่รั้งรอเลยนะค่ะ อยากกินมานานจะรอกลับไปกินที่เมืองไทยไม่ไหว มีความคิดทำเองเถอะมันจะได้รู้แล้วรู้รอดไปเลย นกเลือกขนาดขากำลังดีไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป อย่าให้เสียเวลาปรุงกันเลยดีกว่า เมนูนี้ใช้เวลาปรุงนานสุด ๆ แบบว่าครึ่งค่อนวันเลยที่เดียว ออกมาแล้วประทับใจในฝีมือตัวเอง คราวหน้ามีโอกาสต้องทำอีกครั้งแล้วเรา



ส่วนผสม ขาหมู
ขาหมูขนาดพอเหมาะ 1 ขา
ไข่ไก่ต้ม ตามชอบ
เต้าหู้ทอด ตามชอบ (ถ้ามี)
น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วยตวง
ไมโล 2 ชต
เห็ดหอม 10 ดอก
กระเทียมทุบพอแตก 7-8 กลีบ
พริกไทยดำตำหยาบ 1 ชช
ขิงทุบ 1 แง่ง
ข่าทุบ 1 แง่ง
รากผักชี 4 ต้น
ซีอิ๊วดำ 2 ชต
ซีอิ๊วขาว 4 ชต
น้ำมันหอย 2 ชต
โป้ยกั้ก 2 ดอก
อบเชย 1แท่ง
ลูกผักชี 1 ชช
น้ำตาลปี้บ 1 ชต
ชุปหมู 1 ก้อน (ถ้ามี)
น้ำมันสำหรับทอดขาหมู ตามชอบ (ใส่ให้พอประมาณทอดขาหมูได้นะค่ะ)
น้ำเปล่า (ใส่จนท่วมขาหมู)

ส่วนผสมผักเคียงทานกับข้าวขาหมู
ผักคะน้าต้นเล็ก ตามชอบ
ผักกาดดองเปรี้ยว ตามชอบ

ส่วนผสม น้ำจิ้มขาหมู
พริกขี้หนูสด 10-15 เม็ด
กระเทียม 7-8 กลีบ
น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 2 ชต
เกลือ 2 ชช

วิธีทำ
1.ทำความสะอาดขาหมูที่ต้องการทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำจากนั้นนำมาสับให้พอขาด จากนั้นนำไปทอดให้พอเหลือกรอบ
2.นำโป๊ยก๊ก อบเชย ลูกผักชีมาคั่วไปอ่อน ๆ พอให้หอม ๆ จากนั้นตักเครืองเทศใส่ถุงผ้ามัดปากให้แน่น (ถุงผ้าขาวๆ เล็กทำเองง่ายนิดเดียค่ะ เอาผ้าขาวกรองนะค่ะมาเย็บให้เป็นถุงพอใส่เครื่องปรุงได้นะค่ะ)
3.เปิดไฟในเตาใช้ไฟแรงนำหมูที่ทอดเรียบร้อยแล้ว ใส่ลงในหม้อใส่น้ำเปล่าจนท่วมขาหมู ยกขึ้นตั้งบนเตาต้มจนกระทั้งขาหมูเดือด เอาช้อนตักฟองทิ้งไป
4.ลดไฟในเตาใช้ไปอ่อนใส่เครื่องปรุงทั้งหมด ถุงเครืองเทศ น้ำตาลทราย น้ำตาลปี้บ ไมโล กระเทียม พริกไทย ขิงทุบ ข่าทุบ รากผักชี ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ชุปหมู เคี่ยวเรื่อย ๆ ประมาณ3-4 ชั่วโมง พอได้ทิ้งใส่ไข่ต้ม และ เต้าหู้ทอดลงไปต้มต่อสักอีก 1 ชั่วโมง
5.ทำน้ำจิ้มขาหมู นำพริก กระเทียม และเกลือ ใส่ในครกตำให้ละเอียดตามชอบ จากนั้นใส่น้ำตาลและน้ำส้มสายชูลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยพร้อมเสริฟ
6.ลวกผักคะน้าในน้ำเดือด พอสุกรีบนำออกมาแช่ลงน้ำเย็นทันที (ผักมีสีเขียวน่ารับประทาน)ผักดาดดองชนิดเปรี้ยวหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
7.ขาหมูได้ที่ตักหั่นเป็นชิ้น ๆ ใส่จานทานกับข้าวสวยร้อน พร้อม ไข่ต้ม เต้าหู้ทอด ผักเคียง ยกเสริฟได้เลย

***ไข่ต้มวันนี้หมดไม่มีให้เห็นไม่ว่ากันนะค่ะ เพื่อน ๆ เวลาไปทานข้าวขาหมูเคยรู้สึกไม่ค่ะว่าไข่ต้มเค้าจะแข็ง ๆ เค้าต้มในน้ำขาหมูนานนะค่ะไข่ต้มเลยแข็ง ๆ ถ้าเพื่อน ๆ คนไทยชอบก็ให้ใส่ไข่พร้อมเครื่องปรุงได้เลยค่ะ ส่วนเต้าหู้ทอดจะมีก็ได้ไม่มีก็ได้ค่ะ นกชอบเป็นการส่วนตัวเลยใส่นะค่ะ***

ขนมถั่วแปบ

นกทำขนมไทยอีกแล้วค่ะ อย่าว่ากันนะค่ะ พอดีมีเครื่องปรุงพร้อม เลยทำไม่หยุดก็ว่าได้ค่ะ อีกอย่างไม่อยากเก็บแป้งทิ้งไว้นาน ๆ ด้วยนะค่ะ เมื่อมีของอยู่พร้อมตรงหน้าแล้ว ไม่อยากให้เสียเวลาลงมือทำเลยค่ะ



ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วย
น้ำเปล่า 1 ถ้วย
สีผสมอาหาร ตามชอบ
ถั่วเขียวดิบ 1 ถ้วย
เกลือป่น 1/2ชช.
มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 2-3 ถ้วย
เกลือ 1 ชต.
งาขาวคั่ว ตามชอบ
น้ำตาลทราย ตามชอบ

วิธีทำ
1. นำถั่วเขียวซีกมาล้างให้สะอาด แช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 1 ชม จากนั้นนำไปนึ่งจนสุกคลุกเคล้ากับเกลือพักไว้ 2..นวดแป้งกับน้ำเปล่าจนนุ่มพอปั้นได้ แบ่งแป้งออกเป็นก่อน ๆ หยดสีผสมอาหารลงไปจากนั้นนวดต่อจนกระทั้งสีเข้ากับเนื้อแป้ง ใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำบิดพอหมาดปิดไว้
3. งาคั่วสุกใส่ครกโขลกพอแตก ใส่น้ำตาลเกลือคลุกให้เข้ากัน ใส่ชามพักไว้
4. ปั้นแป้งเป็นก้อนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง1/2นิ้ว แผ่แป้งให้แบนตามยาว
ใส่ถั่วตรงกลางคลึงแป้งปิดให้มิด เหมือนรูปครึ่งวงพระจันทร์ อาไปต้มจนแป้งสุกลอยตัวขึ้นมาตักแป้งออกใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ
5. นำถั่วเขียวที่ห่อไส้มาคลุกกับมะพร้าวจากนั้นเอาแป้งที่ต้มสุกแล้วลงไปคลุกกับมะพร้าวและถั่วใส่จานยกโรยหน้าด้วยน้ำตาลผสมงา ยกเสริฟได้เลยค่ะ

ขนมเม็ดขนุน (สูตรไม่ใช้น้ำกระทิ)

วันนี้นกเข้าครัวลงมือทำตั้งแต่เช้าถึงบ่ายเลยค่ะเพื่อนๆ ขนมไม่ได้อยากแต่ขั้นตอนในการทำต้องใช้เวลา ตั้งแต่กวนถั่ว ปั่นเม็ดขนุน และอีกหลาย ๆ อย่าง เห็นผลงานแล้วสมดังใจหลายเหนื่อยไปเลยค่ะ ขอบอกว่าผลงานนี้ทำครั้งแรกในชีวิตเลยละค่ะ งานนี้ไม่มีคนช่วยชิมค่ะ นกเลยจัดการเสียคนเดียวหายคิดถึงไปเลย




ส่วนผสมถั่วกวน
ถั่วเหลืองซีกดิบ 2 ถ้วย
มะพร้าวขาวขูดฝอย 1 1/2ถ้วย
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
ไข่แดง 8 ฟอง

ส่วนผสมน้ำเชื่อม
น้ำตาลทราย 3 ถ้วย
น้ำเปล่า 2 ถ้วย

วิธีทำ
1.แช่ถั่วซีกประมาณ 2-3 ชั่วโมง เมื่อครบแล้วรินน้ำทิ้งแล้วล้างน้ำประมาณ 2-3 ครั้ง จากนั้นเทถั่วลงไปในห้อม เติมน้ำลงให้สูงจากถั่วประมาณหนึ่งนิ้ว เอาหม้อตั้งบนเตาใช้ไฟแรง โดยไม่ต้องปิดฝา คอยสังเกตสักนิดเพราะมันจะล้นจนเดือดแล้วให้ลดไฟลงปานกลางเคี่ยวต่อไป จนน้ำเกือบแห้งลดไฟให้ต่ำลง เทมะพร้าวและน้ำตาลทรายลงไป คนให้ทั่ว กวนไปเรื่อยๆ จนแห้ง ลดไฟลงเรื่อย ๆ กวนต่อไปจนเหนียว เวลากวนพยายามเร็ว ๆ เมื่อยหน่อยแต่ถ้ากวนไม่เร็วเดียวจะไหม้ได้ค่ะ
2.เมื่อแห้งได้ที่แล้ว ตักใส่จานพักไว้ให้เย็น จากนั้นนวดและปั่นให้ได้ขนาดตามต้องการใส่ถาดพักไว้
3. ตกไข่ใส่ชามแยกไข่ขาวออกจากไข่แดง พยายามรีดเอาแต่ไข่ขาวออกจากไข่แดงให้หมด
4. จากนั้นมาทำน้ำเชื่อมกันโดยนำน้ำเปล่าและน้ำตาลทรายใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด แล้วหรี่ไฟอ่อนๆ เคี่ยวต่ออีกประมาณ 20-30 นาที ปิดไฟ จากนั้นคนไข่แดงเบาๆ พอให้ไข่แตกหยิบเม็ดขนุนที่ปั้นแล้วส่วนหนึ่ง ใส่ลงในชามไข่แดง แล้วหยิบหย่อนลงไปในน้ำเชื่อมทีละเม็ด ทำต่อไปจนหมดเวลาหย่อนเม็ดขนุนลงไป เม็ดขนุนจะดิ่งลงไปก้นหม้อแล้วลอยกลับขึ้นมา ไข่ก็จะแข็งตัวสุก ตักออกใส่จานแล้วทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นยกเสริฟได้เลยค่ะ

***เวลาเคี่ยวน้ำตาลใส่เปลือกไข่ลงไปด้วยนะค่ะ และถ้าเป็นไปได้ใช้เวลาทำน้ำเชื่อมพยายามทำให้เยอะหน่อยให้น้ำเชื่อมสูงจากก้นหม้อประมาณ 1คืบใหญ่ จะดีมาก ๆ เลยค่ะ เพราะความร้อนจากก้นหม้อจะมีมากทำให้ไข่สุกแข็งตัวได้ดี*

ไอศครีมมะม่วง

ที่บ้านมีหนังสือเกี่ยวกับการทำไอศครีมอยู่สองสามเล่ม แต่เล่มนี้ทำแล้วไม่เคยผิดหวังสักที่ เลยใช้สูตรนี้ทำไอศครีมผลไม้ตลอด แฟนคลับเองก็ชอบ พอถึงหน้าร้อนก็ลงมือทำไอศครีมกันอีกแล้ว แต่วันนี้ยังไม่ถึงหน้าร้อน แต่มะม่วงมันถูกซื้อมาหลายลูกกลัวกินไม่ทันเลยเอามาทำไอศครีมเสียเลย




ส่วนผสม
มะม่วงสุกหั่นชิ้นพอคำ 2-3 ลูก
น้ำตาลไอซิ่ง 100 กรัม
น้ำมะนาว 1/2 ลูก
วิปปิ้งครีม 300 ml

วิธีทำ
1นำมะม่วงสุก น้ำตาลไอซิ่ง และน้ำมะนาว ใสเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียดจากนั้นนำไปพักไว้ในตู้เย็นประมาณ 2-3 ชม
2 ครบกำหนด ตีวิปปิ้งครีมจนขึ้นฟู ตั้งยอดอ่อน ๆ นำมารอผสมกับส่วนผสมไอศครีม
3 นำส่วนผสมไอศรีมจากตู้เย็นมาปั่นในโถปั่นไอศครีมปั้นไปประมาณครึ่งชม จากนั้นเทวิปปิ้งครีมลงไปปั่นกับส่วนผสมไอศครีม สักเกตให้ส่วนผสมเข้ากันดีหยุดโถปั่นไอศครีม ตักส่วนผสมทั้งหมดใส่กระปุกแช่ช่องแข็งรอจนกระทั้งไอศครีมเซ็ตตัวก็เสริฟได้้เลยค่ะ

***ไอศครีมสตอเบอรี่ที่เห็นใช้สูตรเดียวกัน สำหรับสตรอเบอรี่ที่ใช้ทำไอศครีม นกใช้ 1กล่องประมาณ 450 กรัม ปั่นเสร็จแล้วกรองจากนั้นถึงจะเอาไปแช่ตู้เย็นนะค่ะไว้คราวหน้านกจะลงไอศครีมสตอเบอรรี่ให้เต็ม ๆ สูตรนะค่ะ***




เต้าส่วน

มาอีกแล้วจ้าเมนูขนมหวาน ช่วงนี้กำลังเห่อทำขนมหวานค่ะเพื่อน ๆ ทำที่ไรกินคนเดียวทุกที่ แฟนคลับชิมแล้ว บอกว่าหวานมาก แถมเอาผักมาทำแปลก ๆ เลยไม่กินด้วย นกเองก็พยายามที่จะทำให้แฟนคลับกินขนมไทยให้ได้ สู้ ๆๆ แต่ครั้งนี้เหมาคนเดียวเหมือนเดิม



ส่วนผสม
ถั่วเขียวกระเทาะเปลือก ½ ถ้วย
น้ำ 1 ½ ถ้วย
หัวกะทิ ½ กระป๋อง
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
แป้งมัน หรือแป้งข้าวโพด 3-4 ชต
เกลือ หยิบมือ

วิธีทำ
1.เอาถั่วเขียวที่กระเทาะเปลือกแล้ว แช่น้ำไว้ประมาณ 3-4 ชม. พอถั่วนิ่มเทใส่ตะกร้าพักไว้ ให้พอสะเด็ดน้ำ จากนั้นนำถั่วเขียวไปนึ่งให้สุก พักไว้
2. ละลายแป้งมัน หรือแป้งข้าวโพดกับน้ำเล็กน้อยคนให้แป้งละลายไม่เป็นก้อนเตรียมไว้
3.เอาน้ำใส่ลงในหม้อ ตั้งบนเตาจนน้ำเดือด ใส่น้ำตาลลงไป ชมรสตามชอบ เทแป้งลงในหม้อที่ส่วนผสมกำลังเดือด คนเร็วๆให้เข้ากันจนส่วนผสมข้นเหนียว ถ้าเหนียวไม่พอใจก็ใสแป้งเพิ่ม่อีกตามชอบยกลงจากเตาจากนั้นใส่ถั่วที่สุกแล้วลงไป ในขณะที่ยังร้อนๆ แล้วคนเบาๆให้ทั่ว
4.เอากะทิใส่ในหม้ออีกใบ ตั้งบนเตาใส่เกลือเล็กน้อย คนให้เกลือละลาย พอกะทิเดือดก็ยกหม้อกะทิลงจากเตาตักเต้าส่วนใส่ถ้วยราดน้ำกระทิยกเสิรฟทานร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

แกงเลียงกุ้งสด



ส่วนผสมน้ำพริกแกงเลียง
พริกไทยเม็ด 1 ชช
หอมแดง 6-8 หัว
เกลือ 1/2 ชช
กะปิ 1 ช้อนชา
กุ้งแห้ง 1/4 ถ้วย (ถ้ามี)
กุ้งสด 5-6 ตัว

ส่วนผสมผักแกง
กุ้งสดตามชอบ
ซุคคินีหั่นเป็นชิ้น ๆ 1 ลูก
เห็ดหั่นเป็นชิ้น ๆ พอคำ 5-6 ดอก
แครอทหั่นเป็นแว่น ๆ 1 หัว
ใบแมงลัก ตามชอบ (ไม่มีไม่ต้องใส่)
ข้าวโพดอ่อนหันเป็นท่อน ๆ 5-6 ฝัก
หัว(Swede)หั่นเป็นชิ้น ๆ 1 ถ้วย
พริกขี้หนูสด 7-8 ดอก

วิธทำ
1.โขลกส่วนผสมเครื่องปรุงน้ำแกงให้ละเอียดเข้ากัน
2.เอาหม้อใส่น้ำตั้งบนเตาใช้ไปกลางค่อยข้างแรงต้มน้ำพอเดือนใส่น้ำพริกแกงเลียงลงไป คนให้ละลาย
3.เมื่อน้ำแกงเดือดอีกครั้งจึงใส่ผักให้ใส่ผักที่สุกยากลงไปก่อน แล้วใส่ผักที่สุกง่ายตามลำดับ จากนั้นใส่กุ้งสดลงไป ปรุงรสตามชอบ
4.พอเดือดอีกครั้งเสร็จอีกครั้งจึงใส่ใบแมงลัก คนสองสามที่ให้เข้ากัน ปิดไปในเตาตักใส่ชามยกเสริฟ ร้อน ๆ ได้เลยค่ะ


บัวลอยน้ำขิง (ขนมอี้)

ห่างหายจากครัวไปหลายวันเลยค่ะ กลับมาอีกที่วันนี้นกเข้าครัวมาว่าด้วยเมนูของหวานทำทานง่าย ๆ มีวิธีการทำไม่ยุ่งยาก ที่บ้านแม่เรียกขนมอี้ ถ้าจะบอกว่าคนจีนโปราณจะมีการทำขนมอี้เพื่อเป็นเครื่องหมายของความกลมเกลียว จะช่วยให้ชีวิตราบรื่นหมุนไปไม่มีสะดุดเหมือนวงกลมที่ไม่มีที่สิ้นสุดนะค่ะ ที่บ้านแม่จะทำให้กินเป็นประจำในช่วงเทศกาลไหว้อี๊ หรือไม่ก็ ตรุษจีน สำหรับนกวันนี้ไม่ใช้วันกินขนมอี้ หรือตรุษจีนหรอค่ะอากาศมันหนาวเลยหาอะไรร้อน ๆ อุ่น ๆ กินนะค่ะ





ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้่วย
แป้งข้าวจ้าว 1/2 ถ้วย
น้ำ 1/4 ถ้วย
ขิงแก่หั้นเป็นแว่น ๆ 2 แง่ง
น้ำตาลทรายแดง ตามชอบ
น้ำสำหรับต้มน้ำขิงตามชอบ
สีผสมอาหารตามชอบ

วิธีทำ
1.นวดแป้งทั้งสองชนิดกับน้ำเข้าด้วยกันจนนุ่ม แบ่งแป้งเป็นก้อนๆใส่สีผสมอาหารลงไป 1 หยดจากนั้นนวดให้สีเข้ากับเนื้อแป้งอีกครั้ง
2.ตั้งน้ำให้เดือด ลดไฟพอน้ำร้อน ใส่แป้งที่ปั้นเรียบร้อย ต้มพอแป้งสุก ตักขึ้นแช่น้ำเย็นทันที
3.ใส่น้ำลงในหม้อตั้งไฟพอเดือด ใส่ขิงแว่น และน้ำตาลทรายตั้งไฟพอเดือด ยกลง
4.ตักบัวลอยใส่ถ้วยและตักน้ำขิงลงไปในถ้วยตามชอบ จากนั้นยกเสริฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

***ขนมอี้มีสองแบบค่ะเพื่อน ๆ แบบมีไส้ กับไม่มีไส้นะค่ะ วันนี้นกทำแบบไม่มีไส้ ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการจะใส่ไส้ นกมีสูตรและวิธิทำไส้มาให้ด้วย หลาย ๆ คนเรียกบัวลอยไส้งาดำ

ส่วนผสมไส้
งาำดำป่น 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย (ใช้น้ำตาปี้บ ถ้ามี)

วิธีทำ
1.นำงาดำมาคั่วจากนั้นนำไปโขลกให้ละเอียดจากนั้นนำไปคั่วกับน้ำตาลทรายจนเข้ากัน ทิ้งไว้จนเย็น
2.แบ่งแป้งเป็นก้อนๆ ตักใส่ใส้ประมาณ 1 ช้อนชา ห่อให้มิด ทำจนหมด
3.ตั้งน้ำให้เดือด ลดไฟพอน้ำร้อน ใส่แป้งที่ปั้นเรียบร้อย ต้มพอแป้งสุก ตักขึ้นแช่น้ำเย็นทันที


ปลาเกยตื้น/ปลาลุยสวน (ยำปลาทอดกรอบ)

หลังจากทำเมนูนี้เสร็จนก ยังไม่ได้มีโอกาสเอามาโพสในครัวเอ็นดีเลย นกได้นำเมนูนี้ไปโพสให้เพื่อน ๆ ในเวปที่นกเป็นสมาชิกอยู่ได้ชิมกันก่อน จากนั้นก็จะเอามาโพสให้สมาชิกครัวเอ็นดีได้ชิมกันต่อ ซึ่งจริง ๆ แล้วแต่ก่อนโพสอาหาร ด้วยความที่เราท่องเน็ตดันไปเจอะเมนูและภาพอาหารไปโพสในเวป ๆ หนึ่งที่ไม่เคยแม้แต่จะเข้าไปดูหรือเป็นสมาชิกมาก่อนเลย จริงๆ แล้วอาหารทุก ๆเมนูเมื่อนำมาโพสก็คิดว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน จะไม่รู้สึกเสียใจถ้าคุณ....ไม่ได้เอาทั้งภาพและสูตรไปโพสโดยที่คุณ....แสดงความเป็นเจ้าของอย่างเต็มภาคภูมิ นั้นมันเป็นอาหารของนกนะทำให้รู้สึกเสียใจนิด ๆ ที่เมื่อเอาไปแล้วน่าจะบอกแหล่งที่มาสักนิดว่ามาจากไหน คนที่เข้ามาโพสก็คงไม่ทราบว่าเป็นอาหารของนก คงคิดว่าเป็นอาหารของผู้ที่นำมาโพสชื่นชมเสียยกใหญ่ ถ้าเป็นเมนูที่เพื่อน ๆ ทำแล้วมีคนเอาไปทำอย่างนี้ เพื่อน ๆ ไปเห็นเข้าจะรู้สึกอย่างไร คงมีความรู้สึกเดียวกับนกจริงๆไม่ค่ะ


ส่วนผสมปลาสด ขนาดกลาง ๑ ตัว
มะม่วงดิบซอยเป็นเส้น 1 ผล (ไม่มีใช้แอ๊ปเปิ้ลเขียวแทน)
ขิงซอย 1 แง่ง
ตะไคร้ซอยหั่นเล็ก ๆ 2-3 ต้น
หอมแดงซอย 3-4 หัว
พริกขี้หนูซอยหั่นเล็กๆ ตามชอบ
พริกชี้ฟ้าเขียวซอยหั่นเล็ก ๆ 1-2 ดอก
พริกแห้งป่นหยาบ 1 ชช
ใบขึ้นฉ่าย หั่นหยาบ ตามชอบ
ผักชี หั้นหยาบ ตามชอบ
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอดกรอบ ตามชอบ
น้ำปลา 1 ชต
น้ำมะนาว 1 ลูก
น้ำตาลทราย 2 ชช
เกลือ หยิบมือ

วิธีทำ
1.เอาปลามาล้างทำความสะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นเอาเกลือมาคลุกให้ทั่วตัวปลาหมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
2.นำน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ ใส่ พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า พริกแห้ง ตะไคร้ มะม่วงซอย ขิงซอย ใบขึ้นฉาย ผักชี เม็ดมะม่วงหมิพานต์ มาผสมคลุกให้เข้ากัน
3.เมื่อครบกำหนดเอาน้ำมันใส่กระทะตั้งบนเตาเปิดไฟปานกลาง พอน้ำมันเดือดเอาปลาลงทอดให้กรอบเหลืองสุก ตักขึ้นนำไปพักในกระดาษซับมัน
4.จัดปลาใส่จานราดน้ำยำให้ทั่วๆตัวปลา จากนั้นยกเสริฟได้เลยทานคู่ผักสดตามชอบ ถือจะทานคู่กับข้าวสวยร้อย ๆ ก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ






***มีเพื่อน ๆ อยากทราบว่าเมนูนี้ไปอยู่ที่ไหน นกนำมาให้ชมกันแล้วนะค่ะ***






หมูคลุกฝุ่น

นกนำเมนูอาหารจานทอดมาฝากเพื่อน ๆ ค่ะ เมนูนี้เป็นสูตรที่คิดและทำปรับปรุงสูตรอยู่หลายรอบ จนเป็นที่ถูกปากถูกใจแฟนคลับและเพื่อน ๆ ที่ได้ชิม วันนี้เลยเอาสูตรมาลงให้กับเพื่อนๆ แม่ครัวมือให้หัดทำทุกคนได้ชมได้ชิมด้วยเช่นกัน และหาเพื่อน ๆ นำสูตรไปปรุงแล้วเป็นอย่างไรอย่าลืมส่งข้อความส่งเสียงบอกเล่าถึงความอร่อยด้วยนะค่ะ



ส่วนผสมหมู
หมูบด 500 กรัม
หัวหอม 1/2 หัว
แครรอท ขนาดกลาง 1 หัว
ต้นหอม 3 ต้น
ผักชี 8-10 ก้าน
ไข่ไก่ 1 ฟอง
กระเทียมสับ 6-8 กลีบ
พริกชี้ฟ้าแดง 2 ดอก
เหล้าจีน 1 ชต
น้ำมันงา 1 ชต

น้ำมันหอย 1 ชต
นมสด 2 ชต
ซีอิ้วขาว 2 ชต
เกลือ 1 ชช
น้ำตาลทราย 1 ชช
พริกไทย ตามชอบ
น้ำมันสำหรับทอด ตามชอบ



ส่วนผสมฝุ่นคลุก
เกร็ดขนมปัง 1 ถ้วย
พริกป่น 1 ชช
เกลือ 1 หยิบมือ

วิธีทำ
1.หัวหอม แครรอท หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาดเล็ก พริกชี้ฟ้าแดงผ่าเอาไส้ในออก จากนั้นหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาดเล็ก ต้นหอมผักชีหั่นซอยละเอียด พักไว้
2. นำหมูบดลงอ่างผสม ใส่ เหล้าจีน น้ำมันงา นมสด ซีอิ้วขาว เกลือ และน้ำตาลทราย จากนั้นนำผักที่หั่นเรียบร้อยแล้วลงไปคลุกให้เข้ากัน
3. ตักหมูนิดหน่อยนำไปอุ่นในเตาไมโครเวป ประมาณ 2 นาที หมูสุกนำมาชิม ปรุงรสตามชอบอีกครั้ง จากนั้นนำไปหมักในตู้เย็น 3-4 ชม
4. นำส่วนผสมฝุ่นมาคลุกให้เข้ากันในจาน พอครบกำหนดเอาน้ำมันสำหรับทอดใส่ลงในกระทะตั้งบนเตาเปิดไฟปานกลางรอจนน้ำมันเดือด นำหมูมาปั่นให้เป็นก้อนขนาดตามชอบนำไปคลุกกับฝุ่นแล้วไปทอดจนกระทั้งสุก ตักลงพักในกระดาษซับมัน จากนั้นจัดใส่จานเสริฟคู่กับน้ำจิ้มตามชอบได้เลยค่ะ




ขนมหัวผักกาด

มาแล้วค่ะรอตั้งสองเดือนนะค่ะ กว่านกจะได้ทำเมนูนี้เล่นเอาสูตรที่โทรถามจากแม่หายไปไหนไม่ทราบได้ นกเขียนสูตรตั้งไว้ตรงไหนจำไม่ได้จริงๆ เลยต้องมีการโทรถามกันใหม่อีกรอบ สุตรของแม่แป้งไม่เยอะเหมือนที่ขายในตลาดทานแล้วได้รสชาดของหัวผักกาดมากกว่าแป้งค่ะ จริง ๆแล้วเมนูนี้ถ้ามีส่วนผสมครบก็สามารถทำได้เลยไม่ยุ่งอยากอะไร แต่ที่ทำไม่ได้ก็เพราะแป้งจ้าวส่วนผสมสำคัญไม่มีเลยต้องคอยสั่ง งานนี้นกสั่งเสียหลายแป้งเลยละค่ะ กลัวว่าเมื่อต้องการใช้อีกเดี่ยวจะไม่มีนะค่ะ ทำเสร็จรีบตักใส่จานทานร้อน ๆ ขอบอกว่าอร่อยเหมือนกับที่แม่ทำให้ทานละค่ะ (คริ ๆๆ คิดเอาเองว่าเหมือน)




ส่วนผสมตัวแป้ง
หัวผักกาด (หัวไชเท้า)ขูดฝอย 2 ถ้วย  (บีบน้ำออกแล้ว)
แป้งข้าวจ้าว 1 ถ้วย
แป้งมัน 1/4 ถ้วย
เกลือป่น  เล็กน้อย
พริกไทยป่น หยิบมือ
น้ำตาลทราย หยิบมือ

น้ำเปล่า เล็กน้อย

ส่วนผสมขนมผักกาด
ขนมผักกาด (สำเร็จแล้ว) 2 ถ้วย
ไข่ไก่ 2 ฟอง
กระเทียมสับ ตามชอบ
ถั่วงอก ตามชอบ
กุ้ยช่ายหั่นท่อน ตามชอบ (ไม่มีใช้ต้นหอมแทน)
เห็ดหอมต้มสุก หั่นเส้น ตามชอบ (ถ้ามี)
ซีอิ๊วขาว 1 ชช
ซีอิ๊วดำ เล็กน้อย (ใส่ให้พอออกสีนิด ๆ)
เหล้าจีน 1/2 ชช
น้ำตาลทราย 1 ชต
น้ำมันสำหรับผัด ตามชอบ

วิธีทำ
1.เอาหัวไชเท้าขูดฝอย คลุกกับเกลือให้เข้ากันขยำจนนิ่ม แล้วเทน้ำทิ้ง(จะได้หายเฝื่อน)จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดบีบให้แห้ง เอาขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ
2. นำหม้อนึ่งใส่น้ำตั้งไฟให้เดือดเตรียมถาดไว้ใส่ขนมนึ่ง ถาดทาน้ำมันไว้ให้ทั่ว(ขนมจะได้ไม่ติด)
3. ผสมหัวไชเท้าขูดฝอย แป้งข้าวเจ้า แป้งมัน พริกไทย น้ำตาล คลุกให้เข้ากัน และหัวไชเท้ากับเนื้อแป้งจับตัวกันเล็กน้อยหากเนื้อแป้งแห้งให้เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย
4. กรุแป้งลงในถาดความหนาประมาณ 1 นิ้วจากนั้นนำไปนึ่งใช้ไฟแรง นึ่งประมาณ 25-30 นีาท หรือจนกระทั้งสุก พอสุกเอาออกมาพักให้หายร้อน
5.ตัดขนมเป็นชิ้นๆ ขนาดพอคำจากนั้นตั้งกะทะบนเตาใส่น้ำมันพอน้ำมันร้อนเอากระเทียมลงไปเจียวให้พอให้หอม ใส่แป้งขนมผักกาดที่หั่นเป็นชิ้นๆแล้วมากน้อยตามชอบ ลงไปผัดให้พอเหลืองกรอบแล้วเขี่ยไปไว้ข้างกระทะ
6.ใส่ไข่ลงไป ยีๆให้แตกกระจายผัดไข่จนสุก แล้วเขี่ยแป้งรวมกัน ใส่ถั่วงอก กุ้ยช่าย ซีอิ๊วขาว-ดำ น้ำตาล ชิมรสตามชอบ ผัดเร็ว ๆ สองสามทีให้ผักสลด จากนั้นตักขึ้นใส่จานเสริฟคู่กับน้ำส้มพริกดอง พริกป่น ซอสพริกตามชอบ ได้เลยค่ะ



***ถ้าต้องการหวานอีกหน่อยให้เพิ่มน้ำตาลลงไปอีก สูตรนี้เป็นสูตรแป้งน้อยนึ่งเสร็จจะเห็นแต่เนื้อหัวผักกาด ***

ปลานึ่งมะนาว



ส่วนผสม
ปลาสด 1 ตัว  (นกใช้ปลา Sea bass)
พริกขี้หนูสดหั่นซอย ตามชอบ
กระเทียมสับ ตามชอบ
น้ำปลา 2 ชต.
ซีอิ๊วขาว 2 ชต.
น้ำมะนาว  ตามชอบ
น้ำตาลทราย เล็กน้อย
น้ำเปล่า เล็กน้อย
ต้นหอม ผักชีหั่นท่อนเล็ก

วิธีทำ
1.  ขอดเกล็ด ควักเหงือกและไส้ออกให้หมด ล้างให้สะอาด บั้งตัวปลาทั้ง 2 ด้าน พักเตรียมไว้
2.  นำปลาใส่ภาชนะสำหรับนึ่งแล้วนำไปนึ่งท ด้วยไฟแรง ประมาณ 20-25 นาที หรือจนกระทั้งสุก
3.  ผสมน้ำปลา ซีอิ๊วขาว น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และน้ำเปล่า ลงในถ้วย คนให้เข้ากัน ชิมรสชาติเปรี้ยว เผ็ด เค็ม ตามชอบ
4. ใส่กระเทียมและพริกขี้หนู คนให้พอเข้ากัน วางปลานึ่งสุกลงในจานสำหรับเสริฟ ราดน้ำยำ แต่งด้วยมะนาวฝาน และผักชีตามชอบได้เลยค่ะ

ปลาทอดขมิ้น (sea bass)

วันนี้นกขอนำเมนูอาหารปักษ์ใต้ เป็นเมนูที่แม่ทำให้ลูก ๆ ทานอยู่บ่อยครั้ง เหมือนกับคำพูดที่ว่า "เด็กทานได้ผู้ใหญ่ทานดี" ยิ่งโดยเฉพาะวันไหนมีน้ำพริกจะต้องเรียกร้องให้มีปลาทอดขมิ้นอยู่คู่เมนูเสมอ แต่ถ้าใครไม่ชอบทานน้ำพริกหรือไม่มีน้ำพริก ปลาทอดขมิ้นทานกับข้าวสวย หรือข้าวเหนียวร้อน ๆ ก็อร่อยแล้วค่ะ ยิ่งพูดยิ่งหิวมาทำกันเลยดีกว่า





ส่วนผสม
ปลาสดขนาดพอเหมาะ ตามชอบ
ขมิ้น 1 แง่ (ไม่มีใช้แบบผงก็ได้ค่ะ)
กระเทียม 15-20 กลีบ
เกลือ ตามชอบ

วิธีทำ
1. ล้างปลาให้สะอาด จากนั้นบั้งปลาให้ลึกๆ พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2.โขลกขมิ้นให้ละเอียด จากนั้นใส่กระเทียมโขลกต่อพอหยาบๆ จากแล้วเติมเกลือลงไป กะประมาณให้เกลือเค็มพอดีกับตัวปลา
3. นำส่วนผสมที่โขลกเรียบร้อยแล้ว มาทาให้ทั่วตัวปลาทั้งสองด้านและยัดกะเทียมใส่ไว้ในตัวปลา จากนั้นนำไปใส่ในถุงพลาสติก หรือห่อไว้ด้วยกะดาษอลูมินียมฟอยด์ แล้วนำไปแช่ไว้ในตู้เย็นประมาณ2-3 ชม หรือจะทิ้งไว้ 1 วัน ให้ส่วนผสมเข้าไปในเนื้อปลา ( ปลาที่เห็นนกทิ้งไว้ 1 วัน)
4.เมื่อครบกำหนดนำปลาออกจากตู้เย็น เอาน้ำมันใส่กระทะกะให้พอท่วมตัวปลา เปิดไฟในเตาใช้ไฟแรง พอน้ำมันร้อนจัดนำปลาลงทอด จากนั้นหรี่ไฟให้เหลือร้อนปานกลาง (เวลาทอดให้ค่อยตักกะเทียมออกเรื่อย ๆ อย่าให้ไหม้ เพราะจะนำมาโรยบนตัวปลา)
5.ทอดปลาไปจนกระทั้งปลาสุกเหลืองสวยตักใส่จานที่มีกระดาษซับน้ำมันรองพักให้สะเด็ดน้ำมันจากนั้นแล้วจัดลงจานเสริฟได้เลยค่ะ




***เวลาทอดใช้กระทะก้นลึกหน่อยนะค่ะ เดี่ยวปลาจะติดกระทะไหม้ดำนะค่ะ***



คุ๊กกี้สิงค์โปร์




ส่วนผสม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 3 ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
น้ำตาลทรายป่น 100 กรัม
มะม่วงหิมพานต์บด 80 กรัม
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ผ่าครึ่ง 1/4 ถ้วย
ผงฟู 1 ชช
เกลือป่น 1 ชช
เนยขาว 150 กรัม
น้ำมันพืช 3 ชต

วิธีทำ
1. ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ เข้าด้วยกัน 2 ครั้ง
2. คลุกเม็ดมะม่วงหิมพานต์กับน้ำตาลเข้าด้วยกัน เทใส่ในแป้งคนให้ทั่ว ๆ
3. ใส่ไข่ เนยขาว น้ำมัน ลงในแป้ง เคล้าให้เข้ากัน อย่านวด พักแป้งไว้ประมาณ 20 นาที จากนั้นคลึงแป้งออกให้หนาประมาณ 1-1 1/2 ซม. ใช้พิมพ์กดเป็นรูปตามต้องการ กดจนหมดแป้ง
4. ทาด้านหน้าด้วยไข่แดงให้ทั่ว วางทับด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ผ่าครึ่งซีก ทำจนหมด เรียงใส่ถาด นำเข้าอบที่ 150 องศา ประมาณ 25 นาที หรือจนขนมสุก พักให้เย็นจัดใส่กระปุก หรือขวดเสริฟคู่ชา กาแฟยามบ่ายได้เลยค่ะ

ข้าวต้มกุ้ง


กุ้งสด ตามชอบ
หมูสับ 200 กรัม (ถ้ามี)
กระเทียมสับ 1 ชต
รากผักชี 1-2 ราก
น้ำมันหอย 2 ชช
ข้าวสวย ตามชอบ
ซุปก้อน 1 ก้อน
ต้นหอม ผักชี สำหรับโรยหน้า
น้ำมันพืช 2ชต

วิธีทำ
1.ทำความสะอาดกุ้ง ล้างแล้วซับน้ำให้แห้งใส่ถ้วย หมักด้วยน้ำมันหอย แล้วพักไว้
2.นำหมูสับใส่ถ้วยหมักด้วยน้ำมันหอย แล้วพักไว้
3.เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันเริ่มรัอนใส่กระเทียมลงเจียวลงไป จากนั้นหรี่ไฟให้เบาลงเล็กน้อ เจียวให้พอเหลือง ๆไม่ต้องเหลืองมากจากนั้นเทใส่ถ้วยพักไว้ค่ะ (กระเทียมจะเหลืองขึ้นเรื่อยๆ เพราะน้ำมันยังร้อนอยู่)
4.ใช้กระทะใบเดิมค่ะเหลือน้ำมันติดกระทะนิดหน่อยใส่กุ้งลงผัดค่ะผัดเร็วๆ พอสุกตักใส่ถ้วยพักไว้
จากนั้นใส่หมูสับลงผัดต่อใส่น้ำมันที่เจียวไว้นิดหน่อยรวนจนกระทั้งหมูสุก ตักใส่ถ้วยพักไว้
5.ปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรงเอาหม้อใส่น้ำพอประมาณ (ตามจำนวนคนทาน) จากนั้นใส่เกลือนิดหน่อย ซุปก้อน รากผักชี ต้มจนกระทั้งน้ำเดือดแล้วหรี่ไฟลงเป็นปานกลาง
6.ใส่ข้าวที่เตรียมไว้ลงไปตามด้วยหมูที่รวนไว้ คนเบาๆปิดไฟ ใส่กุ้ง หอมซอย ผักชีตักใส่ถ้วย โรยด้วยน้ำมันกระเทียมเจียวนิดหน่อยเสริฟร้อนๆ พร้อมด้วยพริกไทยตามชอบได้เลยค่ะ


น้ำขิง

ในช่วงหน้าหนาวต้องดูแลสุขภาพกันหน่อยค่ะเพื่อน ๆ โดยเฉพาะเป็นหวัด ควรจะหาเครื่องดื่มร้อนๆ ที่ช่วยให้ชุ่มคอ ลดอาการไอ และแก้หวัด ที่บ้านนกชอบต้มน้ำขิงสมุนไพรดืมเป็นประจำซึ่งจะช่วยป้องกันการเป็นหวัดในช่วงหนาวนี้ได้ แถมยังช่วยให้ร่างกายอบอุ่นอีกด้วย นอกจากสรรพคุณที่บอกมาแล้วขิงยังมีประโยชน์ช่วยบรรเทาอาการจุกเสียดแน่นเฟ้อ และช่วยย่อยอาหาร รู้อย่างนี้แล้วมาทานขิงกันเถอะค่ะ





ส่วนผสม
ขิงแก่ 50 กรัม
น้ำเปล่า ตามชอบ
น้ำตาลทรายแดง ตามชอบ

วิธีทำ
1.นำขิงมาบอกเปลือกล้างให้สะอาด จากนั้นหั่นเป็นแว่น ๆ พักไว้
2.เอาหม้อใส่น้ำ ตั้งบนเตาเปิดไฟในเตาใช้ไฟแรงปานกลาง เอาขิ่งที่หั่นใส่ลงไปต้มจนเดือดสักครู่ จากนั้นลดไฟลงเคี่ยวต่อสักพัก จนขิงละลายเข้ากับน้ำ
3.ใส่น้ำตาลทรายแดงลงไปเคี่ยวจนน้ำตาลละลายชิมรสตามชอบ จากนั้นยกลงจากเตา เสริฟได้ทั้งร้อนหรือเย็น แล้วแต่จะชอบได้เลยค่ะ

***บางคนอาจะจะไม่ใส่น้ำตาลทรายแดงลงไปเลย อาจจะทำเป็นน้ำเชื่อมก่อน จะทานเมื่อไร ก้อตักน้ำเชื่อมใส่ลงไป***

ปลาแชลม่อนผัดเปรี้ยวหวาน

อีกครั้งกับเมนูที่หลาย ๆ คนรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี จริง ๆ แล้วในครัวเอ็นดี นกก็เคยลงสูตรไว้แล้วเหมือนกันแต่เป็นเปรี้ยวหวานไก่ วันนี้นกขอเปลี่ยนมาทำเมนูปลากันบ้างเป็นเอาใจเพื่อน ๆ ที่ทานปลาโดยเฉพาะ สำหรับแฟนคลับแล้วขอให้เป็นผัดเปรี้ยวหวานเมนูไหนก็ทานได้ทั้งนั้นค่ะ



ส่วนผสม
ปลาแชลมอน 2 ชิ้น
สับปะรด หั่นเป็นชิ้อพอคำ 1/2 ถ้วย
แครอท หั่นเป็นเส้น 1/2 ถ้วย
ต้นหอมหั่นเป็นท่อน ๆ 2 ต้น
ผักชีหั่นเป็นท่อน ๆ 4-5 ก้าน
มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้นพอคำ 2 ลูก
แตงกวาหั่นชิ้นพอคำ 1/2 ถ้วย
พริกหวานแดง-เขียว หั่นสี่เหลี่ยมอย่างละ 1/2 ลูก
พริกขี้หนูสดหั่นเฉียง 3 เม็ด
หอมหัวใหญ่ขนาดกลางหั่นสี่เหลี่ยม 1 ลูก
กระเทียม สับหยาบ 4-5 กลีบ
ซีอิ้วขาว 2 ชต
ซอสมะเขือเทศ 1 ชต
ซอสหอยนางรม 1 ชต
น้ำตาลทราย 1 ชต
แป้งสาลี ตามชอบ
น้ำมันพืช ตามชอบ
น้ำซุปไก่ หรือน้ำเปล่า เล็กน้อย

วิธีทำ
1. นำมาแชลมอนไปล้างขอดเกล็ดออกให้หมด ใส่จานพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นนำไปคลุกกับปลาแชลม่อนให้ทั่ว
2. เปิดเตาในเตาใช้ไฟปานกลาง เอาน้ำมันใส่ลงในกระทะพอน้ำมันเริ่มร้อน ให้นำปลาลงไปทอดจนสุกเหลือง จากนั้น ตักขึ้นพักไว้ใส่กระดาษซับมัน
3.ตักน้ำมันในกระทะออกให้เหลือไว้สำหรับผัด ใส่กระเทียมลงไปผัดจนกระทั้งหมด จากนั้นใส่แตงกวา, หอมใหญ่ แครอท พริกหวาน มะเขือเทศ ผัดไปจนกระทั้งผักเริ่มสุกใส่ซอสมะเขือเทศ น้ำซุปไก่ลงไป ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ
4.ผัดทุกอย่างให้เข้ากันจนผักสุกทั่วใส่หอมผักชี พริกขี้หนูสดลงไปผัด2-3 ที ปิดไฟในเตานำเปรี้ยวหวานที่ได้ราดบนชิ้นปลาที่จัดใส่จานเตรียมไว้ จากนั้นยกเสริฟได้ทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆเลยค่ะ

ปลาราดขิง

"มาแล้วเมนูปลามาอีกแล้วจ๊ะ" ช่วงนี้ที่บ้านทำแต่เมนูปลาติดกันหลายวัน ด้วยความที่เราซื้อขนซื้อกันมาเยอะเลยต้องทำกันทุกวัน เพื่อน ๆ อย่าพึ่งเบื่อกันไปเสียก่อนนะค่ะ เมนูนี้ดีมาก ๆ สำหรับอากาศยามนี้เลยละคะยิ่งถ้าได้ทานกับข้าวต้มร้อน ๆ ยิ่งอร่อยเลยทีเดียว



ส่วนผสม
ปลาขนาดกลาง 1 ตัว
ขิงซอย 1/2 ถ้วย
กระเทียมสับ 2 กลีบ
เต้าเจี้ยว 2 ชต
น้ำตาล ตามชอบ
ต้นหอม หั่นเป็นท่อนๆ 3 ต้น
ผักชี หั่นเป็นท่อนๆ 6-8 ก้าน
พริกชี้ฟ้าแดงเขียว หั่นเฉียง 3 ดอก
พริกขี้หนูสด หั่นเฉียง 2-3 เม็ด
เกลือ หยิบมือ

วิธีทำ
1.นำปลามาขอดเกล็ดล้างออกให้สะอาด จากนั้นบั้งตัดเป็นชิ้น ๆ พักให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นโรยเกลือคลุกเคล้าให้ทั่ว ๆ
2.ใส่น้ำมันในกระทะพอทอดปลา เปิดไฟในเตาใช้ไฟแรงปานกลาง พอน้ำมันร้อนนำปลาลงไปทอนให้เหลืองกรอบสวย แล้วตักพักไว้บนกระดาษซับมันจากนั้นจัดใส่จานพักไว้
3.ตักน้ำมันในกระทะออกให้เหลือเพียงเล็กน้อย เอากระเทียมลงผัดให้หอม จากนั้นเอาขิงซอยลงไปผัดต่อให้ขิงพอสลบใส่เต้าเจี้ยว และน้ำตาลลงไป เติมน้ำสักหน่อยพอให้ขลุกขลิก ใส่ต้นหอม ผักชี พริกชี้ฟ้า พริกขี้หนู ผัดสักสองสามทีพอทุกอย่างเข้ากันดีชิมรสตามชอบ ปิดไฟในเตาตักเครื่องที่ผัดราดบนตัวปลา ยกเสริฟทานได้เลยค่ะ

เต้าหู้ทอดราดซอสกุ้ง





ส่วนผสม
กุ้งสดขนาดตามชอบ 250 กรัม
เต้าหู้ทอดหั่นสีเหลี่ยมพอคำ 10 ชิ้น
เห็ดหอมขนาดกลางหั่นฝอย 6-7 ดอก
ซีอิ้วขาว 1 ชต
น้ำมันหอย 2 ชต
น้ำตาลทราย 1 ชต
แป้งข้าวโพด 1 ชต
หอมผักชีหั่นหยาบเป็นท่อน ๆ ตามชอบ
พริกชี้ฟ้าแดงเขียวหั่นเฉียง 2 ดอก
พริกสดหั่นเฉียง 2-3 ดอก
น้ำซุปเห็ดหอม 1/2 ถ้วย
ผงปรุงรสไก่ 1ชช
น้ำมันสำหรับผัด 2 ชต
น้ำปลา เล็กน้อย

วิธีทำ
1.เอากระทั้งตั้งบนเตาเปิดเตาในเตาใช้ไฟปานกลางใส่น้ำมันสำหรับลงไป รอจนน้ำมันร้อนก็ใส่เห็ดหอมลงไปผัด จากนั้นใส่กุ้งลงไปผัดจนกุ้งเริ่มสุก ก็ใส่น้ำซุปเห็ดหอมลงไป รอจนน้ำซุปเดือดใส่ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย ผงปรุงรสไก่ และน้ำตาลทรายชิมรสตามชอบ ผัดให้เครื่องทุกอย่างเข้ากัน
2.ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำเปล่าเล็กน้อยคนให้แป้งละลาย จากนั้นก็ใส่ลงไปในน้ำซอส คนเร็วๆ อย่าให้แป้งจับตัวเป็นก้อน
3.คนไปจนกระทั้งน้ำซอสข้นได้ที ใส่พริกสด พริกชี้ฟ้า ต้นหอมผักชีที่หั่นไว้ลงไป คน2-3 ที ปิดเตาตักน้ำซอสราดลงบนเต้าหู้ทอดที่จัดใส่จานเตรียมไว้ ยกเสริฟทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ



ตับไก่ทอดกระเทียมพริกไทย




ส่วนผสม
ตับไก่ ตามชอบ
กระเทียมปลอกเปลือก 8 กลีบ
กระเทียบทุบหยาบ 8 กลีบ
รากผักชี 1 ราก (ไม่มีใช้ก้านแทนได้ค่ะ)
พริกไทยดำ ตามชอบ
เม็ดผักชี 1 ชช
แป้งสาลีนิดหน่อย 2 ชช
ซีอิ๊วขาว 2 ชต
น้ำตาลทราย 1 ชช
เกลือหยิบมือ
น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ
1.นำกระเทียมปลอกเปลือก พริกไทย เม็ดผักชี และรากผักชี ใส่ในครกโขลกให้พอละเอียด พักไว้
2.เอาตับไก่ใส่ในชาม เอาพริกไทยกระเทียมที่โขลกแล้วใส่ลงไป จากนั้นใส่ซีอิ้ว น้ำตาลทราย เกลือ และแป้งสาลีลงไปเคล้า ๆ ให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 30- 45 นาที
3.เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง เอากระทะใส่น้ำมันลงไปรอจนน้ำมันร้อน จากนั้นใส่ตับไก่ที่เตรียมไว้ลงไปทอดจนสุก ตักขึ้นพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน นำตับไก่ที่ทอดสุกแล้วจัดใส่จานยกเสริฟได้เลยค่ะ

เค้กแยมโรล

เหงา ๆ ไม่รู้จะทำอะไรดี แฟนคลับก็ไม่อยู่ไปประชุมตั้งแต่วันจันทร์ กว่าจะกลับก็วันพฤหัส อยู่บ้านคนเดียวหลายวันเลยเรา อากาศก็ไม่ค่อยเป็นใจให้ออกไปช๊อปปิ้งเลย หนาวจริง ๆ อยู่บ้านทำแยมโรลทานกับกาแฟดีกว่า อีกอย่างพรุ่งนี้พ่อแม่แฟนคลับก็มารับไปช๊อปปิ้งแล้วเลยไปทานอาหารที่บ้านท่านอยู่แล้ว ถือโอกาสทำไปให้ทั้งสองได้ชิมเสียเลย จริงๆแล้วเมนูนี้นกเองทำหลายต่อหลายครั้งแต่ไม่เคยทำไปให้ทั้งสองชิมสักที นกเลยถือโอกาสเป็นของขัวญวันแห่งความรักที่ผ่านมาเสียเลย แล้วก็เอาสูตรมาลงให้เพื่อนในครัวเอ็นดีได้ชมได้ชิมกันเสียด้วยเลยค่ะ




ส่วนผสม
แป้งเค้ก 1 ถ้วย
น้ำตาลทรายละเอียด 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 5 ฟอง
ผงฟู 1 ชช
เกลือ 1/2 ชช
วาลิลา 1 ชช
แยม ตามชอบ (วันนี้นกใช้ราสเบอร์รี่แยม)
น้ำตาลไอซิ่ง 4-5 ชต

วิธีทำ
1.เอาแป้งเค้ก ผงฟู เกลือร่อนรวมกัน พักไว้
2.แยกไข่แดงไข่ขาวออกจากกัน นำไข่ขาวไปตีจนขี้นฟู
3.นำไข่แดงใส่ลงในอ่างผสม ตีไข่แดงจนกระทั้งเป็นครีมข้น ๆ จากนั้น ค่อย ๆ เติมน้ำตาลทรายลงไปตีไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลทรายหมดและเป็นสีนวล ใส่วาลิลาลงไปตีให้เข้ากันอีกครั้ง
4.นำแป้งเค้กที่ร่อนไว้แล้วใส่ลงไปในอ่างผสมไข่แดงที่ตีไว้ก่อนหน้านี้ ค่อยคนให้เข้ากัน จากนั้นนำไข่ขาวใส่ลงไปคนผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
5. ทาเนยบนถาดรองด้วยกระดาษรองอบให้เหลือปลายทั้ง 2 ข้างไว้เล็กน้อย แล้วทาเนยบนกระดาษรองอบอีกที จากนั้นเทแป้งลงบนถาดและเกลี่ยแป้งให้ทั่วจนถึงมุมทั้งสี่ด้าน เอาเข้าเดาอบ อบประมาณ 10-12 นาที หรือให้พอเป็นสีเหลืองนวล อย่าอบนานจนเป็นสีน้ำตาลเข้ม หรือเกรียมจนเกินไปจะทำให้ม้วนยาก
6.เมื่อเค้กได้ที่นำยกออกจากเตานำไปคว่ำลงบนกระดาษรองอบที่โรยด้วยน้ำตาลไอซิ่งไว้เรียบร้อยแล้ว จากนั้นลอกกระดาษออก ใช้มีดกรีดริมแข็งออกทั้งสี เวลาม้วนจะได้ไม่แตก จากนั้นม้วนตามขวางหรือตามยาวแล้วแต่จะเลือก
7. เมื่อม้วนเสร็จคลี่ออกแล้วทาแยมได้เลย เวลาทาไม่ต้องให้เยอะเกินไปเดี่ยวม้วนกลับไส้แยมจะเลอะออกมา ท่าเสร็จม้วนอีกรอบยกวางในถาดให้ตรงตะเข็บทิ้งไว้ให้แล้วหั่นด้วยมีดคม ๆ จัดใส่จานเสิรฟคู่กับชากาแฟยามบ่ายได้เลยค่ะ

***ถ้าต้องการจะใช้ไส้ครีมผสมด้วยก็ต้องคอยให้เค้กเย็นเสียก่อนแล้วค่อยใส่ไส้ครีมลงไป ส่วนวิธีการอื่น ๆ เหมือนกันค่ะ***

สปาเก็ตตี้ปลาแซลมอน

ช่วงนี้เมนูปลากำลังมาแรงเลยเชียวค่ะ ด้วยความที่ปลามันถูกเลยซื้อเสียเยอะ ต้องรีบ ๆ เอาออกมาทำไม่อยากจะเก็บปลาไว้นานๆ อย่าพึ่งเบื่อเมนูปลาเสียก่อนนะค่ะเพื่อน ๆ แต่วันนี้เป็นนานาชาติสักหน่อย นกทำเมนูนี้เอาใจเพื่อน ๆ ที่ชอบสปาเก็ตตี้รสชาดแบบฝรั่งแต่คนไทยปรุงค่ะ







ส่วนผสม
เส้นสปาเก็ตตี้ต้มสุก 2 จาน
ปลาแซลมอน 4 ชิ้น
มะเขือเทศสดหั่นเป็นสี่เหลื่ยมลูกเต๋า 1 ถ้วย
มะเขือเทศสับ 1 กป
กระเทียมสับ 4-5 กลีบ
หัวหอม หั๋นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 หัว
แครอท หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเตา 1/2 ถ้วย
ซอสมะเขือเทศ 4 ชต
ซอสพริก 2 ชต
ซาลาลี (celery)หั่นละเอียดเป็นชิ้น ๆ 1/2 ถ้วย
ปาปริก้า (paprika) 1 ชช
tomato pree 1 ชช
italian seasoning 1 ชช

oregno 1 ชช
น้ำมันมะกอก 2 ชต
พริกไทย ตามชอบ
เกลือ ตามชอบ
น้ำซุปไก่ ตามชอบ

วิธีทำ
1.เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง ตั้งกระทะเอาน้ำมันใส่ลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อนก็นำหอมหัวใหญ่ที่หั่นไว้ใส่ลงไป ผัดจนหอมหัวใหญ่เริ่มสุกใสและมีกลิ่นหอม ใส่กระเที่ยมลงไปผัดต่อ แล้วจึงใส่แครอท ซาลาลี มะเขือเทศสดลงไปผัดให้พอสุก
2.ใส่มะเขือเทศกระป๋อง ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก paprika tomato pree italian seasoning และoregnoเติมน้ำซุปไก่ลงไปหรี่ไฟให้เบาลงจากนั้นผัดเคี่ยวจนเป็นน้ำซอสเนื้อเดียวกัน ปรุงรสด้วย พริกไทย เกลือ ชิมรสตามชอบอีกครั้ง
3.เมื่อน้ำซอสได้ที่นำปลาแซลมอนลงไปคลุกกับซอส เคี่ยวต่อไปอีกจนกระทั้งปลาสุก(อย่าผัดคนบ่อย ๆ เดี่ยวเนื้อปลาจะแตก) ปิดไฟในเตา ตักสปาเก็ตตี้ใส่จาน ราดด้วยซอสเสริฟได้เลยค่ะ



ปลาราดพริก (ปลาสามรส)





ส่วนผสม
ปลาสดขนาดใหญ่ 1ตัว
แป้งสาลี 1/2 ถ้วย
ต้นหอมหั่นหยาบ 3 ต้น
ผักชีหั่นหยาบ 4 ก้าน
หัวหอมแดง 4-5 หัว
กระเทียม 10-12 กลีบ
พริกขี้หนู ตามชอบ (แล้วแต่จะชอบทานเผ็ดมากหรือน้อย)
น้ำตาลปี๊บ 2 ชต
น้ำตาลทราย 1ชต
น้ำปลา 2 ชต
เกลือหยิบมือ
น้ำมะขามเปียก ตามชอบ
น้ำเปล่า เล็กน้อย (ประมาณ 1ชต)

วิธีทำ
1.เอาพริกขี้หนู หอมแดง และกระเทียม โขลกให้พอหยาบๆ หรือจะโขลกให้ละเอียดแล้วแต่จะชอบ พักไว้
2.นำปลามาขอดเกล็ดทำความสะอาดหั่นเป็นขนาดตามชอบ พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ แล้วนำไปคลุกกับแป้งสาลี
3.เอา น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย น้ำปลา น้ำมะขาม และน้ำเปล่าเล็กน้อย ใส่หม้อตั้งเตาใช้ไฟปานกลาง คนให้ละลายดี ชิมรสตามชอบ (ชิมให้ได้ เปรี้ยว หวาน เค็ม ครบ 3 รส) เคี่ยวจนได้น้ำซอสเหนียว ๆ ปิดไฟในเตาพักไว้
4.ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันสำหรับทอดปลาลงไป เปิดไฟในเตาไฟปานกลางค่อนข้างแรง พอน้ำมันร้อนเอาปลาที่คลุกแป้งแล้วลงทอดจนกระทั้งสุกเหลืองกรอบ ตักใส่กระดาษซับมัน จากนั้นเอาหอมผักชีใส่จาน เอาปลาทอดวางบน
5.ตักน้ำมันในกระทะออกให้เหลือนิดหน่อยเอาพริก หอมแดง และกระเทียมที่โขลกไว้แล้วลงผักให้หอมจากนั้นเอาน้ำซอสที่เคี่ยวไว้ลงไปผัดคลุกให้เข้ากันปิดไฟในเตา ตักซอสพริกราดบนตัวปลาเสริฟคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

***ปลาที่เอามาทอดจะทอดทั้งตัว หรือจะแล่เอาแต่เนื้อปลามาทอดก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ อย่างของนกทำส่วนใหญ่แล้วแล่เอาแต่เนื้อปลามาทอด เพราะแฟนคลับไม่ชอบทานปลามีก้างนะค่ะ ***

แกงป่าปลาแซลมอน

เมนูนี้ทำทานเมื่อหลายวันก่อนคะเพือน ๆ แต่ไม่มีเวลาจะเขียนบล๊อกเลยค่ะ มั่วแต่ยุ่ง ๆ กับการหาของขัวญให้กับเพื่อนขึ้นบ้านใหม่ เลยทำให้ลืมเมนูนี้ไป วันนี้นกเข้าดูรูปภาพในคลังภาพเลยหยิบมาให้เพื่อน ๆได้ชมได้ชิมกันค่ะ


ส่วนผสม
น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ
ปลาแซลมอนในน้ำเกลือ 1 กป
เห็ดหั่นเป็นสี่ส่วนพอคำ 10-12 ดอก
กะเพราเด็ดเป็นใบ 1 ถ้วย
กระชายซอยเป็นเส้น 2 แง่ง
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง 2 ดอก
พริกขี้หนูสด ตามชอบ
น้ำปลา 1 ชต
น้ำตาลทราย 2 ชช
น้ำเปล่า ตามชอบ

วิธีทำ
1.บีบน้ำเกลือในปลาแซลมอนออกให้หมดแล้วจากนั้นยีปลาให้พอแตกนิดหน่อยใส่ชามพักไว้
1.เปิดเตาในไฟใช้ไฟกลางค่อนข้างแรง เอาน้ำเปล่าใส่ในหม้อพอประมาณรอจนน้ำเดือด ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไป คนให้น้ำพริกแกงละลายจนทั่ว ตั้งให้น้ำแกงเดือด
2.เมื่อน้ำแกงเดือดได้ที่ใส่ปลา รอจนน้ำแกงเดือดอีกครั้งใส่เห็ดลงไป คนให้ทั่วแล้วปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ
3.เคี่ยวแกงไปอีกเล็กน้อย ใส่พริกชี้ฟ้าแดง พริกขี้หนูสด กระชาย และใบกะเพาลงไป คนให้เครื่องทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นปิดในเตาตักใส่ชามเสริฟ คู่ข้าวสวยร้อน หรือจะเป็นขนมจีนก็ได้ค่ะ

***นกกลัวว่าแกงเผ็ดจะไม่ได้รสสมใจ เลยเพิ่ม พริกขี้หนู ตะไคร้ กระชาย ข่า โขลกเพิ่มในเครื่องแกงอีกรสชาดถึงใจจริงๆค่ะ งานนี้ทานเดียวเลยใส่เสียเต็มที่เลย สำหรับแกงป่าเมนูนี้ขอเป็นขนมจีนนะค่ะ เพื่อน ๆ ***






ยำกุ้งแห้ง

ช่วงนี้หนาวจริง ๆ โดยเฉพาะอาทิตย์นี้ หิมะตก สาม สี ครั้งน่าจะได้ แฟนคลับบอกว่าปีนี้หิมะตกบ่อยกว่าที่เคยเห็นแถมยังตกหนักอีกด้วย แต่สำหรับนกแล้วหิมะตกมาแยอะ ๆ สวยดีค่ะ ชอบสีขาวเต็มพี้นที่ไปหมด มีเสียอยู่อย่างเดียวก็คือหนาว เวลาอากาศหนาวมาก ๆ ร่างกายต้องการความอบอุ่น นกเลยทำเมนูแก้หนาวทานเสีย เป็นเมนูง่าย ๆ ธรรมดา แต่เต็มไปด้วยความอร่อยของสมุนไพร โดยเฉพาะจานนี้เอาใจเป็นพิเศษสำหรับเพื่อน ๆ ที่ชอบทานขิงค่ะ





ส่วนผสม
กุ้งแห้ง 1 ถ้วยตวง
ขิงอ่อนหั่นฝอย 1/2 ถ้วย
กระเทียมหั่นบางๆ 2 หัว
หอมแดงหั่นบาง ๆ 4-5 หัว
พริกขี้หนูสดซอย ตามชอบ
พริกชี้ฟ้าแดงเขียวซอย 2 ดอก
ต้นหอมหั่นหยาบ 2 ต้น
ผักชีหั่นหยาบ 2-3 ก้าน
น้ำปลาดี 3 ชต
น้ำตาลทราย 1 ชต
น้ำมะนาว 1 ผล

วิธีทำ
1.นำกุ้งแห้งล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำไปแช่น้ำร้อนจนนิ่ม เทใสกระชอนพักให้สะเด็ดน้ำ
2.เอากุ้งใส่ลงถ้วย จากนั้นใส่ขิงอ่อน กระเทียม หอมแดง พริกขี้หนูสด พริกชี้ฟ้า จากนั้นคลุกเคล้าให้ทั่ว ชิมรสตามชอบ
3.โรยหน้าด้วยต้นหอม ผักชี เคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จานยกเสริฟ ทานคู่กับข้าวต้มกุ๋ยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

***ข้าวต้มกุ่ยชามนี้ยกมาให้ชิมร้อน ๆ เลยค่ะ ยำกุ้งแห้ง แถมด้วยไข่เจียวแครอท อร่อยจริง ๆ เลยค่ะ***





ฉู่ฉี่ปลาแซลมอน




ส่วนผสม
ปลาแซลมอนตัดเป็นชิ้นยาว แบบสเต๊ก 2 ชิ้น
น้ำพริกแกงเผ็ด 1ชต
น้ำปลา 1 ชต
น้ำตาลปึก 2 ช้อน
โหระพาเด็ดเป็นใบ ๆ 1 กิ่ง
ใบมะกรูดหั่นฝอย ตามชอบ
พริกชี้ฟ้าเขียวแดงหั่นแฉลบ 3 ดอก
กระทิ 2 ถ้วย (หัวกระทิ 1 ถ้วย หางกระทิ 1 ถ้วย)
นมสด 1/2 ถ้วย
แป้งสาลี 1/2 ถ้วย
น้ำมันพืช ตามชอบ

วิธีทำ
1.นำปลาแซลมอนมาคลุกกับแป้งสาลีพักไว้
2.ใส่น้ำมันลงกระทะตั้งบนเตาใช้ไฟปาน นำปลาที่คลุกแป้งมาทอดให้เหลืองสวย จากนั้นตักขึ้นจากกระทะพักในไว้กระดาษซับมัน
3.ตักน้ำมันในกระทะออกให้เหลือเพียงเล็กน้อยใส่พริกแกงเผ็ดลงไปผัดจนกระทั้งหอม แล้วค่อย ๆ เติมหัวกระทิลงไปผัดให้แตกมัน จากนั้นเติมหางกระทิเคี่ยวต่อไปจนกระทั้งน้ำกระทิเดือด ใส่นมสด ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล ชิมรสตามชอบอีกครั้ง (ปรุงให้ได้รสเค็ม ๆ หวาน ๆ )
4.พอน้ำแกงได้ที่ใสปลาแซลมอน ใบมะกรูด โหระพา พริกชี้ฟ้าแดง ลงไปผัดสองสามที ตักใสจานเสริฟได้เลยค่ะ

ผัดผักบุ้งไฟแดง

อาหารจานโปรดของใครหลาย ๆ คน เมนูนี้จะว่าง่ายก็แสนง่าย จะว่ายากก็แสนจะยากเช่นเดียวกัน เพราะจะทำอย่างไรให้อร่อยเหมือนกับร้านขายข้าวต้มนะเป็นเรื่องยาก หลาย ๆ คนคิดว่าทำไม่เวลาเราผัดไม่อร่อยเหมือนที่ร้านผัดใช่ไม่ค่ะ นกมีคำตอบให้กับเพื่อนนะค่ะ ไม่แน่นใจว่าจะเป็นคำตอบเดียวกันหรือเปล่า คือที่ร้านผัดเสร็จตักในจานเสริฟทานร้อน ๆ ผักบุ้งมีสีเขียวกรอบหวาน แถมเวลาผัดไฟในเตาก็ดูท่วมกระทะดูตื่นเต้นดีแท้ทำให้ยิ่งเพิ่มความอร่อยเข้าไปอีก นกเคยได้ยินมาว่าผัดผักบุ้งไฟยิ่งสูงผักบุ้งยิ่งอร่อย ไม่รู้จะจริงอะป่าวค่ะ แต่สำหรับนกแล้วผัดที่บ้านหรือผัดที่ร้านก็ไม่ต่างกันค่ะ เพราะมันคือของชอบกินเท่าไรก็ไม่เบื่อ






ส่วนผสม
ผักบุ้งจีนกำใหญ่ 1 กำ
กระเทียมทุบสับหยาบ 5-6 กลีบ
พริกขี้หนูสดทุบหยาบ 2 ดอก
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง 1 ดอก
เต้าเจี้ยว 1 ชต
น้ำมันหอย 2 ชต
น้ำตาลทราย หยิบมือ
น้ำเปล่า 3 ชต
น้ำมันพืช 2 ชต

วิธีทำ
1.เด็ดผักบุ้งตามขนาดที่ต้องการ เอาส่วนก้านแข็งทิ้งไป จากนั้นล้างน้ำ สงใส่จานพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2.เอากระเทียม พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้าแดง เต้าเจี้ยว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย และน้ำเปล่า ใส่ลงไปในจากผักบุ้ง รอผัด
3.ใส่น้ำมันในกระทะเปิดไฟในเตาใช้ไฟแรง รอจนกระทั้งน้ำมันร้อนขึ้นควันสักครู่หนึ่ง ใส่ผักบุ้งที่มีส่วนผสมรอผัดไว้แล้ว ผัดเร็ว ๆ ไปมา 4-5 ครั้งปิดไฟในเตาตักใส่จากยกเสริฟร้อนๆ ๆได้เลยค่ะ

***อย่าผัดผักบุ้งนาน ๆ ผักบุ้งจะไม่กรอบหวานมีสีเขียวน่ากิน  จากนี้เป็นวิธีที่นกใช้ผัดค่ะ***






หมูทอดกระเทียมพริกไทย

วันนี้นกทำหมูทอดกระเทียมพริกไทย เมนูง่าย ๆ แต่พบพาความอร่อยมาเต็มที่ค่ะ หมูทอดกระเทียมพริกไทยจะอร่อยได้ก็อยู่ที่หมูที่เราเอามาทอดค่ะส่วนใหญ่จะเลือกเอาเนื้อหมูสันใน เวลาทอดเสร็จแล้วจะมีความนุ่มลิ้นทานอร่อย เสียอย่างเดียวราคาแพง ทำให้หลาย ๆคนคิดหาว่าส่วนไหนที่อร่อยไม่แพ้เจ้าสันใน เพื่อนๆ ทราบไม่ค่ะว่าจริงๆ แล้วยังมีส่วนอื่นที่นิ่มนุ่มลิ้นเช่นเดียวกันอย่างตรงเนื้อส่วนสะโพก ดังนั้นจึงเห็นหลาย ๆ คนชอบที่จะใช้เนื้อส่วนสะโพกแทนสันในค่ะ เมนูนี้นกทำเอาใจคนชอบทานหมูโดยเฉพาะเลยละค่ะ



ส่วนผสม
เนื้อหมู 500 กรัม
รากผักชี 3-4 ราก (ไม่มีใช้ก้านผักชีแทนได้ค่ะ)
กระเทียม 14-16 กรีบ
พริกไทยดำ ตามชอบ
ลูกผักชี 1 ชช
แป้งมัน 2 ชช (ถ้าไม่มีใช้แป้งสาลีแทนค่ะ)
ซีอิ๊วขาว 2 ชต
น้ำตาลทราย 1 ชช
เกลือ 1 หยิบมือ
น้ำมันงา 1 ชช
เหล้าจีน 1 ชช
น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ
1.เนื้อหมูหั่นเป็นชิ้น ๆ ความหนาบางตามต้องการจากนั้นเอาฆ้อนทุบเนื้อทุบหน่อย ๆ พอให้หมูนิ่ม ใส่ชามพักไว้
2.แบ่งกระเทียมออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเอาไว้หมักกับหมูอีกส่วนไว้โรยหน้า จากนั้นเอากระเทียมที่ใช้หมักกับหมูปลอกเปลือกให้หมดนำไปโขลกร่วมกันพริกไทย และรากผักชี ให้ละเอียด ส่วนที่เหลืออีกครึ่ง ปลอกเปลือกให้มีเปลือกติดเล็กน้อย เอาไปทุบพอหยาบ ๆ พักไว้
3.นำส่วนที่โขลกใส่ลงไปในชามหมู จากนั้นใส่ ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย น้ำมันงา เหล้าจีน และแป้งสาลีลงไปเคล้าหมักให้เข้ากัน นำเข้าตู้เย็นหมักไว้ประมาณ 25-30 นาที
4.เปิดในเตาใช้ไฟปานกลาง เอากระทะใส่น้ำมันลงไปกะให้พอทอดหมู รอจนน้ำมันร้อน ใส่หมูที่เตรียมไว้ลงไปทอดพยายายมจับเนื้อหมูให้ขยายอย่าพับงอทอดจนหมูสุกเหลือง ตักขึ้นพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน พักไว้
5.เอากระเทียมทุบหยาบไว้สำหรับโรยหน้าลงทอดในกระทะในพอเหลืองสวยตักขึ้น บนกระดาษซับมัน พักไว้ จากนั้นปิดไฟในเตา จัดหมูใส่จานเอากระเทียมเจียวโรยบนหมู แต่งหน้าด้วยผักชีจากนั้นก็ยกเสริฟได้เลยค่ะ

ผัดพริกแกงเผ็ดไก่หน่อไม้ฝรั่ง

มาอีกแล้วเมนูตามใจฉัน แฟนคลับเป็นคนชอบทานหน่อไม้ฝรั่ง ส่วนใหญ่แล้วนกจะเอาไปผัดกับกุ้งหรือไม่ก็ไก่นะค่ะ วันหนึ่งแฟนคลับมีคำถามให้คิด หน่อไม่ฝรั่งเอามาใส่ในแกงได้หรือเปล่า นกตอบว่าได้ซิอร่อยด้วย แฟนคลับเลยถามว่าแล้วทำไม่ไม่เคยเห็นทำให้ทานบ้าง วันนี้นกเลยจัดการตามคำขอเสียเลย


ส่วนผสม
ไก่หั่นเป็นชิ้นพอคำ 300 กรัม
น้ำพริกแกงเผ็ด 1 ชต
หน่อไม้ฝรั่งหั่นเป็นท่อน ๆ พอคำ 200 กรัม
ใบกะเพราเด็ดเป็นใบ 1 กิ่ง
พริกขี้หนูหั่นแฉลบตามชอบ
พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ 1-2 ดอก
ใบมะกรูดฉีก 2-3 ใบ
น้ำปลา 1 ชต
น้ำตาล 1 ชต
น้ำมันพืช 1 ชต
กระทิ 1/2 ถ้วย
นมสด ตามชอบ (นกใส่ประมาณ 1/4 ถ้วยนะค่ะ)

วิธีทำ
1.เอากระทะตั้งไฟกลางๆ ใส่น้ำมัน รอให้ร้อนแล้วใส่เครื่องแกงลงผัดผัดจนเครื่องแกงหอม จากนั้นเติมน้ำกระทิลงไปผัดต่อจนเครื่องเข้ากันดี

2.ใส่ไก่ที่หั่นไว้ลงผัดกับเครื่อง ผัดจนเกือบๆสุก
3.เมื่อไก่เริ่มสุกแล้ว ใส่หน่อไม้ฝรั่ง ผัดเร็วๆให้เข้ากันอีกครั้ง
4.เติมนมสดลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล แล้วคนให้เข้ากันดี ชิมรสตามชอบอีกครั้ง รอจนกระทั้งแกงเดือดอีกครั้ง
5.ใส่พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า และใบมะกรูด ผัดให้เข้ากันอีกสักครั้ง ใส่ใบกะเพรา แล้วคนๆให้ทั่ว ปิดไฟในเตาตักใส่จานเสริฟกับข้าวสวยร้อน ๆได้เลย



***นมสดจะใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้ค่ะ แต่แฟนคลับชอบให้มีน้ำแกงเยอะ ๆ ไม่ชอบน้ำแกงแบบขลุกขลิกนะค่ะ นกไม่อยากใส่กระทิเยอะ เลยใส่นมสดลงไปแทน***



ทอดมันปลาแชลม่อน

วันนี้นกทำปลาทอดมันค่ะ จริงๆ แล้วต้องเป็นปลากรายถึงจะอร่อยได้ใจค่ะ แต่อยู่นี้ปลาที่หาง่ายสุด ๆ ราคาก็ไม่แพงมานักเห็นจะเป็นเจ้าปลาแชลมอนนี้ละค่ะ นกเลยเอามาจัดการเสียเลยค่ะ ผลออกมาเป็นทีน่าพอใจที่เดียวค่ะ แฟนคลับหยิบทานไม่หยุด จนต้องออกปากร้องทักกันเลยค่ะ นะค่ะ



ส่วนผสม
เนื้อปลาแชลมอนบดละเอียด 480 กรัม
น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ชต
ไข่ไก่ 1 ฟอง
กระชายโขลกละเอียด 1 แง่ง
ถั่วฝักยาวหั่นละเอียด 1 ถ้วย
ใบมะกรูดหั่นฝอย ตามชอบ
ซีอิ้วขาว 2 ชต
เกลือ 1 ชช (ละลายน้ำเล็กน้อยใช้เวลานวด)
น้ำตาลทราย 1 ชต
ใบกระเพาทอดกรอบ ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับทอด ตามชอบ

วิธีทำ
1.นำเนื้อปลาแชลมอนที่บดละเอียดนวดกับน้ำเกลือผสมลงเคล้านวดในกะละมัง ใช้เวลานวดประมาณ 3-4 นาที หรือนวดจนกระทั้งน้ำเกลือผสมเข้ากับเนื้อปลา จากนั้นตอกไข่ลงไปในชามนวดให้ไข่ไก่เข้ากันกับเนื้อปลาประมาณ 3-4 นาที
2เอากระชายและน้ำพริกแกงเผ็ดลงไปนวดต่อ นวดให้เข้ากันจากนั้นใส่ถั่วผักยาว และใบมะกรูดหั่นฝอย ลงไปนวดเคล้าให้เข้ากันจนได้ที่ เติมน้ำตาล และซีอิ้วขาว นวดให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นตักใส่ชาม 1 ชช เอาเข้าเข้าไมโครเวฟ ๑ นาที ชิมรส จากนั้นปรุงรสตามชอบอีกครั้ง นำเนื้อปลาทอดมันไปแช่ตู้เย็นประมาณ ครึ่งชม
3.ครบกำหนดเตรียมทอดเปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป รอจนน้ำมันร้อน ปั้นทอดมันตามขนาดที่ต้องการ ทอดกลับไปกลับมาจนเหลืองทั่วกันก็ตักขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมันจัดใส่จานโรยหน้าด้วยใบกระเพาทอดกรอบเสริฟคู่กับน้ำจิ้มได้เลยค่ะ


ไข่พะโล้ปีกไก่



ส่วนผสม
ปีกไก่กลาง 10-12 อัน
ไข่ไก่ 4 ฟอง
ซีอิ้วขาว 3 ชต
ซีอิ้วดำ 1 ชต
น้ำตาลปี๊ป 4-5 ชต (ถ้าไม่มีใช้น้ำตาลทรายค่ะ)
ผงพะโล้ 1 ชช
กระเทียม 2-3 กลีบ
หัวหอมแดง 2-3 หัว
พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
รากผักชี 1 ราก
น้ำเปล่า ตามชอบ
น้ำมัน 1 ชต
เกลือหยิบมือ

วิธีทำ
1.นำไข่ไก่ล้างน้ำให้สะอาด ตั้งหม้อน้ำบนเตาใส่เกลือลงไป จากนั้นเปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ต้มประมาณ 10 นาที พอสุกตักไข่แช่น้ำเย็นปอกเปลือกใส่ชามพักไว้
2.โขลก หัวหอม กระเทียม และพริกไทยเม็ดให้ละเอียด เคล้าปีกไก่ จากนั้นใส่ ซีอิ้วขาว
ซีอิ้วดำ ผงพะโล้ หมักพักประมาณ ครึ่งชม
3.เปิดเตาในไฟปานกลาง เอาน้ำมันใส่หม้อ รอจนน้ำมันเริ่มร้อน เอาน้ำตาลลงไปผัดเร็ว ๆ (คอยคนเรื่อย ๆอย่าไห้มให้ติดก้นกระทะ) เคี่ยวจนน้ำตาลแดงได้ที่แล้วจึงนำไก่ที่หมักเครื่องและไข่ลงผัดให้เข้ากันจนกระทั้งมีกลิ่นหอม จากนั้นเติมน้ำเปล่าลงไป รอจนน้ำแกงเริ่มเดือด ให้ลดไฟในเตาลงเหลือไฟอ่อน ชิมรสตามชอบ จากนั้นเคี่ยวต่อไปเรื่อยประมาณ 1 ชม หรือจนกระทั้งไก่นุ่ม จากนั้นปิดไฟในเตา ตักใส่ถ้วยเสริฟกับข้าวสวยร้อน ๆ หรือจะทานกับก๋วยเตียวก็อร่อยเช่นเดียวกันค่ะ

***พะโล้ทิ้งไว้ค้างคืนแล้วเอามาเคี่ยวใหม่ จะอร่อยกว่าวันแรกค่ะ เพราะส่วนผสมเข้าเนื้อเข้าหนัง แต่วันนี้อดใจไม่ไหวขอตักมาทานก่อนนะค่ะเพื่อน ๆ ***

ผัดดอกกะหล่ำหมูกรอบ





ส่วนผสม
ดอกกะหล่ำหั่นเป็นชิ้น ๆ พอคำ 1 จาน
หมูกรอบ ตามชอบ
กระเทียมสับ 4-5 กลีบ
น้ำมันพืช 2 ชต
น้ำมันหอย 2 ชต
ซีอิ๊วขาว 1 ชต
น้ำตาลทราย 1 ชช
น้ำเปล่า เล็กน้อย (นกใช้พอให้มีน้ำผัดคลุกคลิกนะค่ะ)
พริกขี้หนูสด ทุบพอแตก 2-3 ดอก (ถ้าต้องการให้ออกรสเผ็ดเล็กน้อย)

วิธีทำ
1.เปิดเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อน ให้นำกระเทียมที่สับไว้และพริกหั่นลงไปผัดให้พอหอม
2.ใส่ดอกกะหล่ำลงไป ผัดให้พอสลบ จากนั้นใส่หมูกรอบ และเครืองปรุง น้ำมันหอย ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย และน้ำเปล่า ชิมรสตามชอบ แล้วผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟในเตาตักใส่จานเสริฟคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

***ผัดดอกกะหล่ำอย่าผัดให้นานนะค่ะ เพราะเดียวจะไม่กรอบไม่อร่อยค่ะ***

หมูกรอบ





ส่วนผสม
หมูสามชั้น 500 กรัม
เกลือ 2 ช้อนชา
ซีอิ้วขาว 3 ชต
น้ำตาลทราย 1 ชช
น้ำมันหอย 1 ชต
น้ำเปล่า 6-7 ถ้วย
น้ำมันพืช (ใช้สำหรับทอด)

วิธีทำ
1.ล้างหมูสามชั้นให้สะอาดเอาส้อมจิ้มเนื้อหมูเสร็จแล้วหั่นเป็นชิ้นยาว ๆ พักไว้
2.เปิดไฟเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ใส่น้ำเปล่าลงไปในหม้อ ต้มจนน้ำเริ่มเดือด เอาหมูสามชั้นลงไปต้ม เติมเกลือและซีอิ้วขาว 2ชต จากนั้นลดไฟลงให้เหลือไฟปานกลางค่อย ๆ ประมาณ 1 ชม หรือต้มหมูจนหมูนุ่ม
3.เมื่อต้มหมูได้ที่หนังหมูจะนิ่ม ปิดไฟในเตาตักหมูใส่จาน เอาส้อมมาจิ้มหนังหมูให้ทั่ว
4.นำหมูไปคลุกกับน้ำตาลทราย น้ำมันหอย และซีอิ้วขาวที่เหลือ 1 ชต หมักทิ้งไว้ให้ประมาณ 45 นาที เมื่อหมักหมูจนได้ที่แล้วให้นำขึ้นมาผึ่งไว้บนตะแกรงให้แห้งทั้งสองด้าน จากนั้นเข้าเตาอบ อบพอให้หมูแห้งประมาณ 20-30 นาที
5.เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน เอาใส่น้ำมันลงไปในกระทะพอให้ท่วมหมู รอจนน้ำมันเริ่มร้อน ใส่หมูที่อบแห้งแล้วลงไปทอดจนหมูกรอบเหลืองทั้งสองด้าน ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน จากนั้นนำมาหั่นเป็นชิ้นพอคำใส่จานเสริฟคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด ทำข้าวหมูกรอบ จะนำไปผัดกับผัก หรือจะเอามาผัดกับเครื่องแกง ก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ

***ที่บ้านเวลาทำหมูกรอบที่ไร นกจะไว้วิธีการอบให้น้ำแห้งก่อน เพราะถ้าหมูไม่แห้งน้ำมันจะกระเด็นมากนะค่ะ หมูกรอบที่ทำวันนี้นกเอามาทำข้าวหมูแดงหมูกรอบ หมูกรอบมีเยอะอีกส่วนเก็บไว้ผัดกับผักตามชอบนะค่ะ***