น้ำพริกมะเขือเทศ

น้ำพริกกับคนไทยนี้ขาดจากกันไม่ได้จริง กินอาหารอะไร ๆ ก็ไม่อร่อยเท่ากินน้ำพริกเผ็ดคลุกกับข้าวร้อน ๆ เพื่อน ๆ คิดเหมือนกับนกไม่ค่ะ คนไทยส่วนใหญ่จะไม่อดน้ำพริก ไปเที่ยวบ้านไหน ทุก ๆ บ้านมักจะทำติดตู้กับข้าวไว้เสมอ หรือแม้กระทั้งไปกินข้าวตามร้านข้าวแกง เรามักจะเห็นมีถ้วยน้ำพริกและผักสดเสริฟบริการให้ลูกค้ากินฟรีไม่คิดเงินเช่นเดียวกัน แล้วคนไทยอย่างเรามาอยู่ต่างแดนน้ำพริกจะตัดขาดกันได้อย่างไร ที่บ้านทำครั้งหนึ่งก็จะทำไว้เยอะตักใส่ขวดปิดฝามิดชิดเก็บใส่ตู้เย็นกินได้หลายวันเลยละค่ะ




ส่วนผสม
มะเขือลูกเล็ก 10-12 ลูก (หรือมะเขือเทศสีดา)
พริกขี้หนู ตามชอบ
หอม 2 หัว
กระเทียม 6-8 กลีบ
กะปิ 2 ชช
กุ้งแห้งโขลกละเอียด 2-3 ชต
น้ำตาล 1 ชต
น้ำปลา 1 ชต
น้ำมะนาว2 ลูก

วิธีทำ
1. นำมะเขือเทศ พริกขี้หนู หอม กระเทียม เข้าเตาอบ หรือ เตาเผาให้ทุกอย่างสุกหอม แล้วนำไปโขลกพักพักไว้
2.ใส่โขลกกุ้งแห้งลงผสมให้เข้ากัน แล้วใส่กะปิ น้ำตาลโขลกให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้น ใส่น้ำปลา มะนาว ชิมรสให้กลมกล่อมตามชอบแล้วตักใส่ถ้วยเสริฟคุ่กับ ผักสดได้เลยค่ะ

***วันนี้ไม่ได้วางแผนไว้ก่อน นกมีไข่เจียวแครอท ทานคู่กับน้ำพริก ถ้ามีปลาเค็ม หรือปลาทอดขมิ้น ต้องอร่อยมากว่านี้แน่น ๆ เลย***

ขนมปังฝรั่งเศส


ส่วนผสม
แป้งขนมปัง 3 ถ้วย (Strong White Flour)
ยีส 1 ซอง (7 กรัม)
น้ำอุ่น 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 2 ชต
Olive Oil 2 ชต (ถ้าไม่มีใช้น้ำมันพืชทั่วไปก็ได้ค่ะ)
เกลือ 1 ชช
ไข่ผสมน้ำเจือจาง เอาไว้ทาขนมปัง (จะทาก็ได้ไม่ทาก็ได้ค่ะ)

วิธีทำ
1. ใส่น้ำอุ่นใส่แก้ว ใส่ยีสต์ และน้ำตาลลงไปจากนั้นคนให้เข้ากันพักไว้ให้ยีสต์ทำงาน (ประมาณ 5นาที )
2.ใส่แป้งลงในอ่างผสมจากนั้นทำหลุมตรงกลาง เทส่วนผสมยีสต์ลงไป ค่อยๆตะล่อมแป้ง นวดให้เป็นเนื้อเดียวกันจนเนียน เมื่อแป้งเนียนได้ที่เอาออกจากอ่างผสม คลึงแป้งเป็นลูกกลม ๆ
3.หาอ่างผสมอีกใบ ทาเนยให้ทั่วอ่าง แล้วใส่แป้งที่เรานวดคลึงเป็นก้อนกลมๆลงไปในอ่าง หาผ้าสะอาด หรือพาสติกมาคลุมไว้ จากนั้นนำอ่างแป้งไปวางไว้ในที่อุ่นๆ พักจนแป้งขึ้นเป็นสองเท่า (หมักทิ้งไว้ประมาณ 1 ชม)
4.เมื่อแป้งขึ้นเต็มที่ ให้เอากำปั้นกดแป้งลงไปไล่ลม แล้วหยิบแป้งขึ้นมาคลึงทำเป็นก้อนกลมๆรีๆ จากนั้นเอาแป้งวางบนถาดสำหรับที่จะนำเข้าเตา หมักแป้งต่ออีกเป็นให้แป้งจะขึ้นเป็นสองเท่า (ประมาณ 45-50 นาที)5.ระหว่างที่หมักแป้งเปิดเตาอบที่ 170 C พอแป้งขึ้นเต็มที่แล้ว ใช้มีคคม ๆ กรีดขนมปังสามกรีด
แล้วทาด้วยไข่ผสมน้ำเจือจาง นำเข้าเตาอบ อบขนมปังไปนานประมาณ ๒0 นาที หรือจนขนมปังเป็นสีน้ำตาลสวย จากนั้นเอาออกจากเตาอบ พักบนตะแกง พร้อมเสริฟได้เลยค่ะ

***วันนี้นกทำสองแบบ ธรรมดา กับโรยงา ถ้าต้องการจะโรยงาให้โรยหลังจากทาไข่ผสมนม จากนั้นเอาเข้าเตาอบได้เลย***


ข้าวเหนียวถั่วแดงต้มกระทิ

ถั่วแดงเม็ดโต ที่นี้เรียกว่า Red Kidney Beans นกซื้อเอาไว้นานแล้วละค่ะ คนที่นี้เค้าเอาปรุงอาหารชื่อ Chili Con Carne แต่นกไม่กินเนื้อ เลยไม่ได้ทำ ตอนที่ซื้อกะจะลองเอามาทำถั่วแดงกวน ไว้ทำซาลาเปาไส้ถั่วแดง แต่ไป ๆ มา ๆ ไม่ได้ทำสักกะที อยู่ในตู้นานแล้วเลยเปลี่ยนใจมาเป็นข้าวเหนียวถั่วแดงดีกว่า เหตุผลหรือค่ะ เพราะความยากเหมือนเดิมงานนี้กินคนเดียวตามระเบียบ แฟนคลับนกไม่ชอบขนมหวานไทยบอกว่ามันแปลก ๆ แปลกตรงไหนยังหาคำตอบไปได้สักที่ อ๋อเกือบลืมไปค่ะ ถั่วแดงที่นี้เม็ดโตมาก ๆ ไม่เหมือนถั่วแดงหลวงอย่างบ้านเราหรอกค่ะ รสชาดต่างกันไม่ บอกได้ว่าต่างกัน อร่อยไปคนละแบบ เพื่อนๆ ลองทำดูนะค่ะ


ส่วนผสม
กะทิสำเร็จรูป 1 1/2กระป๋อง
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย

เกลือป่น หยิบมือ
ถั่วแดงต้มสุก 2 ถ้วย
ข้าวเหนียวมูน 2 ถ้วย

น้ำเปล่า เล็กน้อย ( จะใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้)


วิธีทำ
1.เอากะทิสำเร็จรูป น้ำตาล น้ำ และเกลือป่น ใส่หม้อนำขึ้นตั้งไฟใช้ไฟแรงพอน้ำกระทิเดือด เติมถั่วแดงต้มสุกลงไป คนให้เข้ากัน ชิมรสหวานตามชอบอีกครั้ง เดือดอีกครั้งปิดไฟในเตาพักไว้
2 ตักข้าวเหนียวมูนใส่ถ้วย ราดด้วยถั่วแดงต้มกะทิที่เตรียมไว้ ยกเสริฟได้เลยค่ะ จะทานตอนร้อน ๆ หรือเย็นตามชอบ


*** น้ำเปล่าใส่เล็กน้อยถ้ากะทิข้นเกินไป ส่วนข้าวเหนียวถ้าไม่ชอบข้าวเหนียวมูล จะใช้ข้าวเหนียวนึ่งก็ได้เช่นเดียวกัน***


กล้วยหอมทอด สูตรแป้งสาลี


ส่วนผสม 
กล้วยหอมสุกผ่าครึ่ง 5 ผล 
แป้งสาลี 1 ถ้วย 
ไข่ไก่ 1 ฟอง 
น้ำตาลทราย 2 ชต
น้ำมันเนยละลาย 3 ชต 
ผงฟู 1 ชช 
น้ำมันพืช 2 ถ้วย 
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย

วิธีทำ 
1. ตอกไข่ใส่ชามผสมก้นลึก ตามด้วยน้ำตาลทราย เนยละลาย ผงฟู ตีส่วนผสมทั้งหมดให้ละลายเข้ากัน
2. ใส่แป้งสาลีลงไป ค่อยๆ เทน้ำเปล่าที่ละนิดลงไปตีแป้งให้ละลายกับน้ำแล้วก็หยุดเติมน้ำ ระวังอย่าให้แป้งเหลวจนเกินไป 3. เอาน้ำมันใส่กระทะตั้งบนเตาใช้ไฟค่อนข้างแรง พอน้ำมันร้อนเบาไฟใฟ้เหลือปานกลาง นำกล้วยหอมลงชุบกับแป้ง แล้วทอดในน้ำมันจนกระทั้งสุกเหลืองสวย จากนั้นตักใส่จานเสิร์ฟร้อนๆ พร้อมน้ำตาลไอซิ่ง หรือ น้ำผึ้ง ตามชอบ


ขนมหัวล้าน

นกไม่รู้ว่าที่อื่นเรียกขนมนี้ว่าอะไรกันบ้าง แต่ที่บ้านนกเรียกว่าขนมหัวล้าน เป็นขนมของทางปักษ์ใต้ ขนมหัวล้านนี้จะนึ่งหรึอต้มแล้วนำไปราดน้ำกระทิ แล้วแต่ใครจะถนัดแบบไหน นอกจากราดน้ำกระทิแล้ว บางคนก็จะนำไปทอด ถ้านำไปทอดจะเรียกว่าขนมหัวล้านทอด หรือขนมมด



ส่วนผสมไส้
ถั่วเขียวเราะเปลือก 1 ถ้วย
น้ำตาล 1 ถ้วย
น้ำกะทิ 1 ถ้วย
เกลือ หยิบมือ

ส่วนผสมตัวแป้ง
แป้งข้าวเหนียว 250 กรัม
น้ำอุ่น 1 ถ้วย (ค่อยๆรินใส่นะคะ ถ้าไม่พอให้เติมน้ำลงไปอีก)

ส่วนผสมกะทิสำหรับราดขนม
หัวกะทิ 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 2ชต
เกลือ หยิบมือ

วิธีทำ
1.ล้างถั่วให้สะอาด แช่น้ำค้างคืนไว้ 1 คืน พอครบกำหนดนำถั่วที่แช่น้ำล้างให้สะอาดจากนั้นนำไปนึงให้สุกพักไว้ให้เย็น
2. นำถั่วที่นึ่งสุกแล้วมาบดให้ละเอียด จากนั้นนำถั่วที่บดละเอียดใส่ลงในหม้อพร้อมกับกะทิ น้ำตาล และเกลือ กวนส่วนผสมให้เข้ากันจนเหนียวจนสามารถปั้นได้ จากนั้นยกลงจากเตาพักไว้ให้เย็น แล้วปั้นเป็นก้อนกลมขนาดเล็กใหญ่ตามชอบ ใส่จานพักไว้เป็นไส้
3.นวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำอุ่น นวดจนกระทั้งแป้งไม่ติดมือ ปั้นเป็นก้อนๆไว้สำหรับห่อ จากนั้นไส้แล้วห่อไส้ให้เรียบร้อย พยายามให้แป้งหนาสักหน่อย จะได้ห่อง่าย พอห่อไส้ครบทุกลูกแล้ว ให้เอาหม้อใส่น้ำ พอน้ำเดือดเอาขนมลงต้ม ขนมลูกที่สุกแล้วจะลอยน้ำขึ้นมา ตักขึ้นใส่ถ้วยพักไว้
4. ทำน้ำกะทิสำหรับราดขนม ให้เอากะทิ น้ำตาล และเกลือ ใส่หม้อ ตั้งบนเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรง คนให้น้ำตาลละลาย ชิมรสตามชอบ พอน้ำกะทิเดือดเปิดไฟในเตาพักไว้ จากนั้นตักขนมใส่ถ้วยราดด้วยน้ำกะทิยกเสริฟได้เลย จะทานร้อน หรือเย็นก็ได้ตามชอบ

ผัดขนุนอ่อน / ตำขนุน (ตำบ่าหนุน)

แฟนคลับมีวันหยุดพักผ่อนหลายวันเลยมีเวลาว่างไปร้านค้าจีนที่อยู่อีกเมืองหนึ่ง ก่อนไปจดรายการของที่ต้องการไว้เสร็จ แต่พอไปถึงที่ร้านเท่านั้น โอโห้มีเยอะกว่าที่เราคิดเสียอีก นกไม่พลาดโอกาส จัดการขนซื้อเสียหลายอย่าง บางอย่างไม่มีในรายการก็ได้มาเพราะความยาก อย่างเจ้าขนุนที่เอามาผัดขนุน (ตำขนุน หรือตำบ่าหนุน) นี้ก็เหมือนกัน ขอโปรดเลยที่เดียว แม่เท่านั้นที่จะช่วยเหลือเราได้ รุ่งขึ้นโทรถามสูตรจากแม่เลย ได้สูตรเสร็จแล้วดูส่วนผสมว่ามีอะไรบ้างสาย ๆ จะได้ออกไปซื้อวันนี้ต้องสนองความอยากให้ได้ โชคดีจังเลยส่วนผสมมีครบ นั้นก็จัดการเสียเลยค่ะ




ส่วนผสม
ขนุนอ่อน 400 กรัม
หมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย
พริกแกงเผ็ด 2 ชต
น้ำมันพืชเล็กน้อย
ใบมะกรูดซอย
น้ำปลา 1 ชต
น้ำตาลทราย ตามชอบ

วิธีทำ
1.นำขนุนอ่อนมาหั่นเป็นชิ้นๆ พอคำ จากนั้นเอาหม้อใส่น้ำตั้งบนเตา เปิดไฟปานกลางค่อนข้างแรก พอน้ำเดือนใส่ขนุนอ่อนลงต้ม ต้มจนสุกแล้วเอามาโขลกพอหยาบ ๆ ไม่ต้องละเอียดมาก เสร็จแล้วพักไว้
2.ตั้งกระทะบนเตาใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันเล็กน้อย พอน้ำมันร้อน เอาพริกขี้หนูแห้งลงไปทอดพอสุกสวย ตักใส่จานพักไว้
3.ใช้กระทะใบเดิม เพิ่มน้ำมันลงไปอีกเล็กน้อยสำหรับผัดขนุน จากนั้นเอาพริกแกงเผ็ดลงผัดให้พอหอม ใส่หมูสามชั้นลงไปผัดต่อจนหมูสามชั้นเริ่มสุก เอาขนุนที่โขลกไว้ลงผัด ให้เข้ากับพริกแกง ใส่ใบมะกรูดหั่นฝอย น้ำปลา น้ำตาล ชิมรสตามชอบ ผัดให้ทุกอย่างเข้ากันกับเนื้อขนุนเสร็จแล้ว ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วย พริกขี้หนูทอด เสริฟคู่กับข้าวสวยหรือ ข้าวเหนียวร้อน ๆ



ฟักทองนมสม (Butternut Squash)

นกกลัวว่าเพื่อน ๆ ยังหวานกันไม่เต็มที่ วันนี้เลยทำของหวานอีกเมนูค่ะ แต่เปลี่ยนจากกระทิมาเป็นนมสด เอาใจเพื่อนสมาชิกที่ไม่ชอบกระทิกันนะค่ะ แต่สำหรับนกแล้วอะไรก็ได้ชอบเหมือนๆ กันนะค่ะ จะว่าไปแล้วเมนูนี้อุดมไปด้วยสารอาหารจริง ๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นฟักทอง หรือ นมสด โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟักทองมีสารเบต้าแคโรทีน ช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็ง พูดเสียเยอะอยากรู้แล้วใช้ไม่ละว่าปรุงกันอย่างไร



ส่วนผสม
ฟักทอง (butternut squash ) หั่นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย
นมสด 1 1/2 ถ้วย
น้ำตาล 1/2 ถ้วย
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
เกลือ (หยิบมือ

วิธีทำ
1.เอาน้ำใส่หม้อ ตั้งไฟร้อนปานกลาง พอน้ำเดือดใส่น้ำตาลลงคนให้ละลาย
2.นำฟักทองที่หั่น นมสด เกลือ ใส่ลงในหม้อต้มจนฟักทองสุก ชิมรสตามชอบ จากนั้นปิดไฟในเตาตักใส่ถ้วยยกเสริฟได้เลยคะ

บวดคง (บวดข้าวโพด)

นานแล้วละค่ะที่นกไม่ได้ทำขนมหวานไทยเลย ช่วงนี้หนาวเลยทำแต่พวกซุปเสียส่วนใหญ่ อยู่ ๆ คิดถึงของหวานเสียเหลือเกินโดยเฉพาะ พวกใส่น้ำกระทิ ยิ่งเป็นกระทิคั่นสด ๆ ละก็ได้ใจเลยละ แต่นั้นละมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอย่างนี้จะหาจากไหนนอกจากกระทิกระป๋องเท่านั้นละ คิดแล้วกลุ้ม ว่าแล้วเข้าครัวเถอะค่ะ





ส่วนผสม
ข้าวโพดแกะเม็ด 1 กป
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
กะทิ 1 กป (แยกหัวกระทิ หางกระทิ)
เกลือป่น หยิบมือ
วิธีทำ
1. เอาหม้อใส่หางกระทิตั้งบนเตา ใช้ไฟแรง คนจนไปเรื่อย ๆ จนกระทั้งกระทิเดือด
2.ใส่ข้าวโพดลงไปต้มประมาณ 10 นาที ใส่น้ำตาลทรายต้มจนน้ำตาลละลาย
3. ใส่หัวกระทิ และเกลือ ลงไปชิมรสหวานตามชอบ ต้มให้เดือดสักพักปิดไฟในเตาตักใส่ถ้วยยกเสริฟได้เลย

***ความหวานแล้วแต่ใครจะชอบหวานมากหวานน้อยนะค่ะ สูตรที่นกให้กำลังพอดีกับความหวานแบบปานกลางนะค่ะ (เอารสตัวเองเป็นหลักนะค่ะ) ถ้าต้องการหวานเยอะเพิ่มน้ำตาลลงไปอีกนะค่ะ***

แกงจืดปลาหมึกยัดไส้

ช่วงนี้อากาศที่บ้านเริ่มหนาวแล้วละค่ะ ได้อะไรร้อน ๆ ชดคล้องคอน่าจะดี ปลาหมึกนี้นกซื้อมาชุปแป้งทอดกรอบให้แฟนคลับ เป็นเมนูปลาหมึกอย่างเดียวที่แฟนคลับกินค่ะ ถ้าเอาไปทำเมนูอย่างอื่นบอกลา กลุ้ม ไม่คิดจะเปลี่ยนเมนูมัง ปลาหมึกนี้นกทอดไปจานใหญ่แล้ว ยังเหลืออยู่เลยเอามาแกงจืดเสียเลย ปลาหมึกที่นี้ไม่สดใสเหมือนบ้านเราหรอกค่ะ เค้าลอกลอกเยื่อบาง ๆ ออกหมดใส่ถุงแช่แข็งมาเสร็จ ถ้าซื้อที่บ้านเรา ก็ต้องเลือกที่เนื้อแน่น ไม่เละ ไม่มีกลิ่นฉุน ๆ ตาใส ปลาหมึกมี 2 ประเภท คือปลาหมึกกล้วย และ ปลาหมึกกระดอง ที่นกทำเป็นปลาหมึกกล้วยส่วนใหญ่ใช้แกงจืด ส่วนปลาหมึกกระดอง ส่วนใหญ่จะใช้ปิ้ง ผัด หรือไม่ก็ยำ นะค่ะ




ส่วนผสม
ปลาหมึกตัวขนาดพอเหมาะ ประมาณ 6-8 ตัว
หมูสับ 250 กรัม
แครอทหั่นลูกเต๋าเล็กๆ 1 ถ้วย (แบ่งออกเป็น 2 ส่วน)
ต้นหอม หั่นหยาบ 2 ต้น
วุ้นเส้น แช่น้ำจนนิ่ม หั่นเป็นท่อนประมาณ 1 กำมือ
เห็ดหอม หั่นเป็นลี่เหลี่ยมลูกเต๋า 3-4 ดอก
รากผักชี 2 ราก
กระเทียม 3-4 กลีบ
น้ำต้มกระดูกไก่ พอประมาณ
ต้นหอมผักชี หั่นหยาบๆโรยหน้า ตามชอบ
น้าปลา 1-2 ชต
ซีอิ้วขาว 2 ชต
พริกไทยป่น ตามชอบ

วิธีทำ
1. โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทยให้ละเอียด คลุกเคล้ากับหมูสับให้เข้ากัน ใส่ซีอิ๊วขาว วุ้นเส้น ต้นหอมหั่นหยาบ และแครอทส่วนที่หนึ่งลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง นำเข้าตู้เย็นหมักให้ส่วนผสมเข้ากัน ประมาณ 30 นาที
2. ให้นำปลาหมึกไปล้างให้สะอาด ดึงหัวดึงไส้ออกออก ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ นำผสมหมูที่หมักไว้ยัดลงไปในตัวปลาหมึก เอาแค่พอให้ปลาหมึกอ้วนๆ ไม่ต้องถึงกับแน่นเต็มท้อง จากนั้นบั้งปลาหมึกเป็นริ้วๆ พักไว้
3. เอาหม้อน้ำซุปตั้งบนเตาเปิดไฟค่อนข้างแรง รอจนกระทั้งน้ำซุปให้เดือด ใส่แครอทส่วนที่สอง ปลาหมึกลงไปในหม้อ ใส่น้ำปลาลงไป ชิมรสตามชอบอีกครั้ง ต้มจนปลาหมึกสุก ( (อย่าต้มนานนะค่ะ เดี่ยวปลาหมึกเหนียวไม่อร่อย) จากนั้นปิดไฟในเตาตักใส่ชาม โรยด้วยผักชี ยกเสริฟ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ได้เลยค่ะ



แตงกวาผัดไข่ (แตงกวาพ่อปลูก)

นกไปบ้านพ่อแม่แฟนคลับมาค่ะ พ่อเก็บแตงกวามาให้หลายลูกเลยค่ะ ตอนรับมามีเมนูไว้ในใจแล้วว่าจะทำเมนูอะไรดี เพราะทำกินคนเดียว ไม่ต้องนึกถึงแฟนคลับ เค้าไม่กินแตงกวา เมนูนี้นึกอยากมาหลายวันแล้ว นกจำได้เด็ก ๆ แม่ผัดให้กิน ในจานผัดจะมีน้ำผัดเยอะหน่อย ผัดให้ออกรสหวานนิด ๆ ตักราดข้าวบนสวยร้อน ๆ บอกได้คำเดียวอร่อยสุด ๆๆ เมนูนี้ถ้าบ้านไหนมีเด็ก ๆ แล้วละก็ลองทำดูนะค่ะ นกรับรองว่าเด็ก ๆ ต้องกินข้าวได้เยอะกว่าปกติแน่นนอนค่ะ (จริง ๆ นะไม่เชื่อลองดู)



ส่วนผสม
แตงกวา ตามชอบ (นกใช้ 2 ลูก)
ไข่ไก่ 2 ฟอง
กระเทียมสับละเอียด 5-6 กลีบ
ซีอิ้วขาว 2-3 ชต
น้ำตาล 1 ชช
น้ำมันสำหรับผัด

วิธีทำ
1.แตงกวาล้างปอกเปลือกออกผ่าซีกหั่นเฉียงบางหนาตามชอบ ตอกใส่ชามตีให้ไข่แตกพักไว้
2.นำกะทะตั้งไฟให้กะทะแห้ง ใ่ส่น้ำมันลงไป รอน้ำมันร้อนใส่กระเทียมลงไปเจียว
3.ใส่แตงกวาลงไป ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว น้ำตาล ชิมรสตามชอบผัดแตงกวาพอเริ่มเปลี่ยนสีเขี่ยแตงกวาไวด้านหนึ่ง ใส่ไข่ลงไปรอจนไข่เริ่มสุก จากนั้นเขี่ยแตงกวาลงมาผัดให้เข้ากัน ผัดจนไข่สุกทั่ว ตักใส่จานพร้อมเสิรฟร้อน ๆ ทานคู่กับข้าวสวยได้เลยค่ะ (อร่อยมื้อนี้นกมีน้ำพริกหนุ่ม สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังหาสูตรน้ำพริกหนุ่มอยู่แวะอ่านที่ลิงค์นี้ได้เลย https://pinkroselove-nd.blogspot.com/2010/10/blog-post_8.html)


ปีกไก่ทอดขมิ้น

มาอีกแล้วอาหารปักษ์ใต้บ้านเรา จริง ๆ เมนูนี้ถือว่าเป็นเมนูที่ชอบมากๆ เมนูหนึ่งเลยละค่ะ ได้ข้าวเหนียวร้อน ๆ เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม เมนูนี้แฟนคลับเองก็ติดอกติดใจกับกลิ่นขมิ้นบอกว่าหอมดี ทำที่ไรหยิบไม่วางมือ ชิ้นเดียวไม่พอก็ว่าได้ค่ะ



ส่วนผสม
ปีกไก่ 8-10 ปีก
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
ขมิ้นผง 2 ชช
แป้งทอดกรอบ 2 ชต

วิธีทำ
1.นำปีกไก่ใส่อ่างเอาส่วนผสมทุกอย่างคลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 30-45 นาทีให้เครื่องซึมเข้าในเนื้อไก่
2.นำกะทะตั้งบนเตาเปิดไฟปานกลางค่อยข้างแรงพอประมาณเติมน้ำมันพอทอด พอน้ำมันร้อนใส่ปีกไก่ ลงทอดในกระทะ พอเนื้อสุกเหลืองตักขึ้นพักในกระดาษซับมัน จัดใส่จานเสริฟคู่กับข้าวเหนียวร้อน ๆ โรยหน้ายกเสริฟได้เลยค่ะ

หลนปูทะเล

นกไปเที่ยวตลาดนัดวันศุกร์ กะไปเดินดูโน่นนี้ให้หายเบื่อสักหน่อย ไปเห็นปูราคาไม่แพงเท่าไรเลยซื้อมา 2 ตัวค่ะ จริง ๆแล้วปูที่มีราคาแพงไม่เล่นเลยค่ะ แถมไม่ค่อยอร่อยเหมือนปูที่บ้านเรา อีกอย่างปูที่นี้เค้าจะปรุงสุกแกะเนื้อมาให้เรียบร้อยใส่กระดองปูกลับมาสวยงามไม่ต้องเสียเวลามานั่งปรุงกันอีก แต่สำหรับนกแล้วคิดว่าอย่างบ้านเราดีกว่าเพราะดูแล้วสดเนื้อหวานกว่ากันเยอะเลยค่ะ



ส่วนผสม
ปูสุกแกะเนื้อ 1 ถ้วย
ไข่ปูนึ่ง 1/2 ถ้วย (ถ้ามี)

กะทิ 1 1/2 ถ้วย
หอมแดงซอยบาง ๆ 8 หัว

หอมแดงสำหรับโขลกกับเนื้อปู 2 หัว
พริกชี้ฟ้าสีเขียว สีแดง สีเหลือง หั่นเป็นแว่น ตามชอบ
น้ำมะขามเปียก 2-3 ชต
น้ำตาลปึก ตามชอบ
เกลือหยิบมือ

วิธีทำ
1.เรื่มจากโขลกหอมแดง 3 หัว กับเกลือให้ละเอียด ตักเนื้อปูที่แกะประมาณ 2 ชต มาโขลกรวมกัน พักไว้

2.เอากระทะตั้งเตาเปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลางใส่กะทิลงในกระทะรอจนกระทั้งกะทิเดือดเคี่ยวให้กะทิแตกมัน
3.ใส่เนื้อปูและไข่ปู เคี่ยวไปจนพอจวนจะงวด ใส่หอมซอย พริก น้ำตาล เกลือ น้ำส้มมะขามเปียก ชิมรสตามชอบ คนให้เข้ากันอีกครั้งตักใส่ถ้วยยกเสริฟทานคู่กับผักสดตามชอบได้เลยค่ะ


แกงหน่อไม้ปลาย่าง

แกงหน่อไม้เมนูนี้นกแกงตามแบบฉบับปักษ์ใต้ ใจจริงนกจะแกงกับไก่ แต่ดันลืมเอาไก่ไปทอดทำข้าวมันไก่ทอดเสียหมด เปิดกระป๋องหน่อไม้แล้ว ไม่อยากเก็บไว้นาน วันนี้เลยเอามาแกงกับปลาเสียเลย ถือว่าเป็นเมนูเอาใจคนชอบกินปลาก็แล้วกันนะค่ะ




เนื้อปลาย่าง ตามชอบ
น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ชต

กะทิ1กป (แยกหัวกะทิ หางกะทิ)
น้ำปลา 2 ชต

พริกชี้ฟ้าแดง เขียว หั่นตามยาว 3-4 ดอก
โหระพา เด็ดใบ 2 กิ่ง
ใบมะกรูด ฉีกเป็นชิ้น ๆ 4-5 ใบ
น้ำตาล 1ชต
หน่อไม้ หั่นเป็นชิ้น ๆ 1 กป

เกลือ ตามชอบ

วิธีทำ
1. เอาหม้อตั้งบนเตาเปิดไฟในเตาปานกลางค่อนข้างแรง ใส่หัวกะทิ รอให้กะทิแตกมัน จากนั้นเติมน้ำพริกแกงเผ็ดลงไป คนจนเครื่องแกงกับกะทิเข้ากัน รอจนกระทั้งน้ำแกงเืดือด
2.ใส่เนื้อปลาย่างและใบมะกรูดลงไป จากนั้น เติมหางกะทิและหน่อไม้ลงไปในหม้อ ปรุงรสด้วย น้ำปลา, น้ำตาล, เกลือ คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน ชิมรสตามชอบ รอจนเดือดอีกครั้ง
3.ใส่ใบโหระพา พริกชี้ฟ้าลงไป คนให้ทั่วจึงปิดไฟแล้ว ตักแกงใส่ถ้วย แต่งหน้าด้วยใบโหระพาเสริฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ได้เลยค่ะ




แกงไตปลา

นกไปเที่ยวทะเลกับแฟนคลับ เลยถือโอกาสตกปลาเสียเลย ได้ปลาซาบะตามที่ตั้งใจไว้แต่ต้น แถมยังตกได้หลายตัวดีใจมาก ๆ เลยละค่ะ แต่หลักใหญ่ๆที่ทำให้ดีใจมากที่สุดเห็นจะเป็นพุงปลาละค่ะ วิธีการหมักไม่ยากค่ะเพื่อน เพียงนำพุงปลามารีดเอา ขี้ปลาไส้ออกให้หมด ล้างพุงปลาให้สะอาดทิ้งให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นใส่เกลือหมักไว้ประมาณ 1 เดือนขึ้นไป แม่สอนมาอย่างนั้น อ๋อขวดที่หมักต้องเอาไปต้มฆ่าเชื้อโรคเสียก่อนนะค่ะ ครบกำหนดนำมาปรุงอาหารได้ และแล้ววันที่รอคอยของนกก็มาถึงค่ะ ไตปลาพร้อม ขนมจีนพร้อม เครื่องปรุงพร้อม ลงมือเข้าครัวกันเลยค่ะ



ส่วนผสม
ปลาสด 1 ตัว
ไตปลา 2-3 ชต
ห่อไม้ 1 กป
ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อน ๆ พอคำ 1/2 ถ้วย
เห็ด 1/2 ถ้วย
มะเขือเปราะหั่นสี่ส่วน ประมาณ 8-10 ลูก
ข้าวโพดอ่อน หั่นเป็นท่อน ๆ พอคำ 1/2 ถ้วย
พริกชี้ฟ้าแดงเขียว หั่นเฉียง 3-4 ดอก
ใบมะกรูดฉีก 4-5 ใบ
น้ำเปล่า ตามชอบ ( นกใส่ประมาณ 2 ถ้วย)

ส่วนผสมเครื่องแกง
ขมิ้นผง1 ชช
ข่าหั่น5-6 แว่น
หอมแดง2 หัว
กระเทียม6-8 กลีบ
ตะไคร้หั่นละเอียด 2 ต้น
พริกขี้หนูสด ตามชอบ
ผิวมะกรูด 1 ชช
พริกไทยเม็ด 1 ชช
เกลือ 1 ชช
กะปิ 1/2 ชต
น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช.ช

วิธีทำ
1. โขลกส่วนผสมเครื่องแกงทั้งหมดให้ละเอียด หรือจะใช้เครื่องปั่นก็ได้ปั่นให้ละเอียด ยกเว้นกระปิ และน้ำตาลไว้โขลกหลังสุดโขลกให้เข้ากัน พักไว้
2. ปลาสด นำมาควักไส้ออกล้างให้สะอาด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นนำไปย่างให้สุกแกะเอาแต่เนื้อปลา พักไว้
3. ตักไตปลาใส่ชาม พักไว้ จากนั้นใส่น้ำลงในหม้อ ตั้งบนเตาใช้ไปปานกลางค่อนข้างแรง รอให้น้ำเดือดใส่ไตปลา ละลายไตปลา กรองใส่หม้อ
4. ใส่เครื่องแกงที่โขลกไว้พอหอม ใส่ผัก ใส่เนื้อปลาย่าง ใส่ใบมะกรูดฉีก ชิมรสตามชอบ รอให้เดือดอีกครั้ง ปิดไฟในเตา ตักใส่ชามยกเสริฟ ทานกับข้าวสวย ร้อน ๆ หรือจะเป็นขนมจีน ค่ะ

*** นี้เป็นพุงปลาที่นกหมักเองค่ะ ภูมิใจสุด ๆ เลยนำภาพมาให้เพื่อน ๆ ได้ชมกันด้วยนะค่ะ



วิธีการหมักพุงปลา นำพุงปลาที่ได้ คลุกเคล้ากับเกลือ ใช้เวลาในการหมัก ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ก็นำไปทำแกงไตปลาได้แล้วค่ะ ( แต่ของนกหมัก 1 เดือน สำหรับเกลือที่ใส่นกกะประมาณเอา ดูจากพุงปลาที่มีนะค่ะ
)

แกงคั่วหอยแมงภู่กับใบSpinach

ใครที่กำลังคิดถึงแกงหอยจุ๊บ(หอยขม)ใบชะพูลอยู่ละก็ เมนูนี้คงจะช่วยเพื่อน ๆ ที่อยู่ต่างแดนหายคิดถึงไปได้เยอะเลยที่เดียว ส่วนผสมเครื่องปรุงหาได้ง่ายในต่างแดน หากเพื่อนคนไหนไม่ชอบหอย เปลี่ยนเป็นแกงกับกุ้ง หรือปลา ก็อร่อยเช่นเดียวกัน



ส่วนผสม
หอยแมงภู่ลวก 250 กรัม
กระทิ 1 กป (แยกหัวกระทิ หางกระทิ)
ใบSpinach
น้ำพริกแกงคั่ว 1 ชต
ใบมะกรูดซอย 2-3 ใบ
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำตาลปีบ ตามชอบ

วิธีทำ
1. เอาหม้อตั้งบนเตาใส่หัวกระทิลงไปผัดให้แตกมัน พอกะทิแตกมัน ใส่น้ำพริกแกงลงไปละลายผัดให้หอม
2. ใส่หอยแมงภู่ลงไปผัดสองสามที จากนั้นใส่หางกะทิ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปีบ ใบมะกรูดชิมรสตามชอบ
3.กระทิเดือดอีกครั้งใส่ใบSpinach ลงไปคนนิดหน่อยพอให้ผักสลบ ปิดไฟในเตาตักใส่ชามยกเสริฟได้เลยค่ะ

***อันนี้เป็นแกงคั่วปลากับใบSpinach ใช้สูตรเดียวกัน นกนำมาฝากเพื่อน ๆ เผื่อว่าไม่ชอบหอยแมงภู่นะค่ะ***





ปลาซาบะสามรส



ส่วนผสม
ปลาซาบะ 2 ตัว
พริกขี้หนู 2-3 ดอก
กระเทียม 2-3 กลีบ
หัวหอม 1 หัว
น้ำปลา 1 ชต
น้ำตาล 2 ชต
น้ำมะขามเปียก 2 ชต
น้ำเปล่า 2-3 ชต
ต้นหอมหั่นหยาบ 1 ต้น
น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ
1. เอาปลาตัดหัวผ่าท้อง ดึงเอาไส้ออกให้หมด ตัดเป็นชิ้น ๆ ล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งไว้ในตะแกรงหรือกระชอนให้สะเด็ดน้ำ
2.โขลกพริกขี้หนู กระเทียม หอม ให้ละเอียดตามชอบพักไว้
3.นำกระทะตั้งบนเตาเปิดไฟในเตาใช้ไฟค่อนข้างร้อน ใส่น้ำมันสำหรับทอดลงไปรอจนกระทั้งน้ำมันร้อนจัด ๆ นำปลาลงทอดให้เหลืองกรอบแล้วตักขึ้นพักไว้บนจานที่เตรียมไว้ จากนั้นตักน้ำมันขึ้นให้เหลือเพียงเล็กน้อยสำหรับผัด
3. นำส่วนผสมที่โขลกไว้มันผัดให้พอหอม ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล น้ำส้มมะขาม น้ำเปล่า ผัดลงคลุกเคล้าให้ทั่ว ชิมรสตรตามชอบให้ได้สามรส เปรี้ยว หวาน เค็ม กลมกล่อมดีแล้วตักราดลงบนตัวปลาแต่งหน้าด้วยด้วยต้นหอมหั่นหยาบเสร็จแล้วยกเสริฟได้เลยค่ะ

***จะใช้ผักชี โรยหน้าโดย เด็ดผักชีเป็นใบ ๆ พริกชีฟ้าหั่นเป็นเส้น ๆ โรยหน้าก่อนเสริฟก็ได้เช่นกันค่ะ***

ยำปลากระป๋อง

ปลากระป๋องซื้อจากร้านขายของเอเซียตอนแฟนคลับว่างครั้งก่อน ตายนานมากเลยนะเนี้ย ดีนะที่วันนี้ไปจัดตู้เอาของที่ซื้อใหม่ใส่ไว้ด้านหลัง ไม่นั้นลืมทิ้งเสียของแน่นเลย ตอนที่ซื้อมาใหม่ ๆ จำได้ว่าอยากจะเอามาแกงส้มมะระกอ แต่ไม่มีมะระกอจะแกงสักที่เลยทำให้ลืม ไม่เป็นไรไม่ทำแกง เอามายำก็อร่อย พุงกางเหมือนกัน




ส่วนผสม
ปลากระป๋องขนาดเล็ก 2 กป
น้ำมะนาว 2 ลูก
หอมแดงซอย 8-9 หัว
ตะไคร้ซอย 3 ต้น
พริกขี้หนูซอย ตามชอบ
น้ำปลา 1 ชต
ใบสะระแหน่ ตามชอบ
ขิงซอย 1 แง่ง (ถ้ามี)

วิธีทำ
1 ผสมน้ำยำโดยผสมพริกขี้หนู เกลือ และน้ำมะนาว เข้าด้วยกัน
2 ใส่ขิง หอมแดง ตะไคร้ พริกขี้หนู ใบสะระแหน่ ปลากระป๋องลงไปในน้ำยำ คลุกเคล้าให้พอทั่ว ๆ จากนั้นตักใส่จานตกแต่งด้วยใบสาระแหน่ยกเสริฟได้เลย
***ขิงซอยเหลือจากเมื่อวานอยู่หน่อยหนึ่งเลยเอามาใส่เสียด้วยเลย จะได้ไม่เสียของ ถ้าเพื่อน ๆ ไม่มีไม่ต้องใส่ก็ได้นะค่ะ***

พิซซ่า

พิซซ่าร้อน ๆ BY NOK เสริฟร้อน ๆ มาแล้วจ้า ที่บ้านนกจะทำเป็นแบบแป้งบางกรอบ ถ้าเป็นพิซซ่าที่บ้านส่วนใหญ่จะทำกินเองเหตุเพราะจะได้ใส่หน้าตามที่ตัวเองชอบ แป้งพิซซ่านกจะทำติดตู้แช่แข็งเอาไว้ อยากจะกินเมื่อไรก็เอามาพักให้หายเย็นจากนั้นก็ลงมือทำหน้าพิซซ่าได้เลย ไม่เกินชม. ก็ได้กินแล้วละค่ะ



ส่วนผสมแป้งพิซซ่า
แป้งอเนกประสงค์ 2 ถ้วย
ยีสต์แห้ง 1 ซอง
น้ำตาลทราย 1 ชช
น้ำมันมะกอก 2 ชต.
น้ำอุ่น
เกลือหยิบมือ

ส่วนผสมหน้าพิซซ่า
แฮมหั่นเป็นเส้น 200 กรัม
เบคอนหั่นเป็นเส้น 200 กรัม
Tomato puree 2 ชต
ซอสมะเขือเทศ 1 ชต
ผงปาปริกา 2 ชช
หอมใหญ่หั่เป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก 1 หัว
พริกหวาน หั่นซอย 1 ลูก
เห็ดแชมปิยอง หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ 1 ถ้วย
มอสซาเรลล่าชีส ตามชอบ

วิธีทำแป้งพิซซ่า
1 เอาน้ำอุ่นมาใส่ลงในถ้วยประมาณ 1/4 ถ้วย เทยีสต์ น้ำตาลลงไป คนให้เข้ากัน พักไว้ให้ยีสต์ขึ้น
2 เทแป้ง น้ำมันมะกอก เกลือ ลงในอ่างผสม จากนั้นใส่ยีสต์ที่มักจนขึ้นแล้ว มาผสมกันแล้วนวดให้เข้ากันเติมน้ำอุ่นลงไปเป็นระยะ ๆ อย่าเติมเยอะจนแป้งเปียก นวดจนแป้งเนียนได้ไม่ติดมือ ทำแป้งเป็นก้อนกลม นำกลับใส่ชามอ่าง เอาผ้าคลุมพักไว้ประมาณ 30 นาที ให้แป้งขึ้น
3.นำแป้งที่พักไว้มาคลึงให้เป็นแผ่นกลมๆ แล้วยกใส่ถาดพิซซ่า รีดให้ได้ขนาดเท่ากันกับถาด
4.เทTomato puree ซอสมะเขือเทศลงไปทาให้ทั่วแผ่นแป้ง แล้วแบ่งมอสซาเรลล่าชีสมาครึ่งนึง โรยให้ทั่ว จากนั้นโรยแฮม เบคอนวางผักต่างๆ และโรยชีสอีกรอบ จากนั้นแล้วโรยผงปาปริกา ก่อนนำเข้าอบที่ 200C ประมาณ 20 นาที หรืออบจนแป้งสุกกรอบเหลือได้ที่ เอาออกจากเตายกเสิรฟ คู่กับขนมปังกระเทียม หรือจะเป็นสลัดผัดได้เลย

***สุตรแป้งพิซซ่าแล้วแต่ใครจะชอบนะค่ะ จริง ๆ แล้วนกมีหลายสูตรเลยที่เดียว บางสูตรใช้แป้งขนมปัง เป็นแบบแป้งหนานุ่ม บางสูตรก็ใส่ผงฟู แทนยีสต์ แต่ที่บ้านเวลาทำนกจะใช้สูตรนี้ทำนะค่ะ ขั้นตอนไม่เยอะได้กินเลย***

ก๋วยเตียวหมูสับ

เมนูนี้มีน้องที่น่ารักคนหนึ่งถามนกว่า"รู้จักไม่ค่ะ แล้วเค้าทำกันอย่างไร ถ้าอย่างไรขอสูตรหน่อยให้นู๋หน่อยนะค่ะ" เมนูนี้ของชอบเสียด้วยเลยไม่รอช้าทำเสร็จถ่ายรูปจัดการส่งสูตรให้น้องทันที่ จริงๆแล้วนกคิดว่าจะเอาสูตรมาเขียนไว้ในครัวให้เพื่อน ๆ ได้ชมได้ชิมกันด้วย นกมั่วแต่ยุ่ง ๆ ไม่ได้เอาสูตรมาลงจนลืมไปเลยละคะ วันนี้มีโอกาสค้นรูปอาหารให้แฟนคลับเมนูหนึ่ง (สงสัยจะเอาไปโชว์เพื่อน)ไปเจอะรูปนี้พอดีจัดการเก็บรูปลงสูตรเสียเลยเดียวจะลืมอีก จริง ๆ เมนูนี้แฟนคลับยังไม่ได้ชิมเลยค่ะ ให้ดูรูปแล้วบอกว่าหน้าตาน่าสนใจดี คิดว่าคงต้องทำให้กินในวันหยุดนี้เสียหน่อย วันเสาร์นี้ต้องไปเดินดูที่ตลาดหาดูผักกาดหมอเสียหน่อย เพราะแฟนคลับไม่ชอบทานผักกาดขาวเอาเสียเลยกลุ้มจริง



ส่วนผสม
ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ ตามชอบ (วันนี้นกใช้เส้นก๋วยเตี่ยวประมาณ 500 กรัม)

หมูสับ 250-300 กรัม
มะเขือเทศลูกใหญ่ หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก 1 ลูก
ผักกาดหอม 1 ต้น

หัวหอมใหญ่ หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก ½ หัว
กระเทียมสับละเอีดย 3-4 กลีบ
ต้นหอมหั่นเป็นท่อนเล็ก ๆ 2 ต้น
ซีอิ้วขาว2 ชต

ซีอิ้วดำ 1 ชต

น้ำมันหอย 2 ชต
น้ำตาลทราย 1 ชต
ผงกะหรี่ 1ชช

แป้งข้าวโพด 2ชต

น้ำเปล่า

น้ำมันสำหรับผัด

วิธีทำ
1.เอาก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ใส่จานนำมายีให้เส้นแยกออกจากกัน จากนั้น เปิดเตาในเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อนให้นำเส้นใหญ่ที่ยีไว้แล้วลงไปผัด เติมซีอิ้วดำลงไป ผัดให้ซีอิ้วดำคลุกกับเส้นให้ทั่วก็ปิดไฟในเตา ตักใส่จาน พักไว้
2.เปิดเตาในเตาอีกครั้งไฟปานกลาง ตั้งกระทะใบเดิม ใส่น้ำมันลงไปพอน้ำมันเริ่มร้อนให้นำกระเทียมสับหัวหอมใหญ่หั่นและส่วนก้านของต้นหอมซอยที่เป็นสีขาวลงไปผัดให้หอม พอหอมเริ่มสุก แล้วจึงใส่หมูสับลงไปผัดจนกระทั้งหมูเริ่มสุกเติมเครื่องปรุง ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทรายลงไป ชิมรสตามชอบ ผัดให้หมูสับและเครื่องปรุงเข้ากัน

3.นำมะเขือเทศที่หั่นไว้แล้วลงไป ผัดซักพักจนมะเขือเทศเริ่มนิ่มก็ใส่น้ำเปล่าลงไป คนให้ทั่ว รอจนกระทั้งน้ำซุปในกระทะเริ่มเดือด ก็ใส่ผงกะหรี่ลงไปและเคี่ยวต่อไปสักหน่อย แล้วจึงละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำเปล่าใส่ลงไปในกระทะ คนเร็วๆ อย่าให้แป้งจับตัวเป็นก้อนจนส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นใส่ต้นหอมซอยลงไปคนให้เข้ากันปิดไฟในเตา

4.จัดผักกาดหอมรองในจาน ใส่เส้นก๋วยเตียวที่ผัดไว้แล้วลงไป ราดน้ำผัดลงไปบนเส้นก๋วยเตี๋ยว ยกเสริฟได้เลยค่ะ

*** เส้นก๋วยเตียวที่ใช้วันนี้เป็นเส้นที่ทำเองเพราะถ้าคอยสั่งซื้อเดียวจะนานช้าไปอีกไม่อยากให้น้องคอยนาน เลยทำเส้นก๋วยเตียวเสียเองเลย และมีอีกอย่างผักที่รองเป็นผักกาดขาวนะค่ะ ในตู้เย็นไม่มีผักกาดหมอ เลยใช้ใบผักกาดขาว 3 ใบ เลาะเอาเฉพาะใบมารองจานนะค่ะ ****

หมี่ผัดซีอิ้วหมูแดง



ส่วนผสม
ก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่ 250 กรัม
หมูแดงหั่นสไลด์เป็นชิ้นพอคำ 300 กรัม
ผักคะน้าหั่นเป็นชิ้น ๆ ตามชอบ
ถั่วงอก ตามชอบ
กระเทียมสับ 4-5 กลีบ
น้ำมันหอย 3 ชต
ซีอิ้วขาว 1 ชต
ซีอิ้วดำ 2 ชต
น้ำตาลทราย 1 ชต
น้ำมันสำหรับผัด ตามชอบ

วิธีทำ
1.นำเส้นหมี่มาแช่น้ำประมาณ 10 นาที จากนั้นสะเด็ดน้ำพักไว้
2.เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง นำกระทะตั้งลงบนเตา ใส่น้ำมันลงไป รอจนกระทั้งน้ำมันร้อนใส่กระเทียมลงไปผัดจนกระเทียมหอม ใส่หมูแดงลงไป จากนั้นใส่ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย น้ำตาลทราย ผัดให้เครื่องปรุงเข้ากัน
3.ใส่เส้นหมี่ลงไปผัดจากนั้นใส่ซีอิ้วดำลงไปผัดให้เข้ากันอีกครั้ง
4.ใส่ผักคะน้าลงไปผัดให้เข้ากัน จนกระทั้งผักสุด ปิดเตาตักใส่จานยกเสริฟได้เลยค่ะ

***ถ้าชอบใส่ไข่ ก่อนจะใส่เส้นหมี่ก็ให้ทำหลุมตรงกลางกระทะ ตอกไข่ลงไป ตีไข่ให้กระจาย รอจนไข่เริ่มสุกก็นำหมูมากลบ รอซักพักก็กลับไข่ จากนั้นใส่เส้นหมี่ลงไปและผัดให้เข้ากัน***

แกงอ่อมปีกไก่

พอเข้าหน้าร้อนที่ไร นกและแฟนคลับชอบหาเวลาเที่ยวพักผ่อนเสมอเลยทำให้ต้องทิ้งร้างห่างครัวไปหลายวัน อย่างเมนูนี้จริง ๆ นกทำแล้วทิ้งรูปเอาไว้ในเวป วันนี้กลับมาแล้วค่ะมีเวลามากขึ้นเพราะ ช่วงนี้เข้าหนาวไม่ได้ไปไหนมีเวลาเข้าครัวบ่อยขึ้น นกเลยมาเล่าสู่เรื่องแกงอ่อมกับเพื่อน ๆ นกเคยได้ยินคนเฒ่าคนแก่พูดกันว่าแกงอ่อมทางภาคเหนือ กับทางภาคอีสานไม่เหมือนกัน จะแตกต่างกันที่ส่วนผสมของน้ำแกง อย่างที่นกทำวันนี้เป็นของทางภาคอีสานค่ะ อ่อมไก่ทำได้ง่ายมาก ๆ เพราะส่วนผสมของผักนั้นใส่ตามใจคนทานค่ะ ผักที่นกใส่เยอะกว่าอย่างอื่นเห็นจะเป็นลูกcourgette ปลูกได้ผลมีมากจริง ๆ เลยค่ะ



ส่วนผสม
ปีกไก่บน 8-10 ชิ้น
ผักชีลาว ตามชอบ
ใบแมงลัก ตามชอบ (ถ้ามี)
courgette หั่นเป็นชิ้น ๆ 2-3 ลูก
เห็ด หั่นเป็นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย
ต้นหอม หั่นเป็นท่อน ๆ ตามชอบ
ผักอื่น หั่นเป็นชิ้นพอคำ ตามชอบ
น้ำปลา 2 ชต
น้ำปลาร้า 2 ชต (ถ้ามี)
ข้าวเบือ 2 ชต
ใบมะกรูด ตามชอบ

ส่วนผสมเครื่องแกง
พริกสด ตามชอบ
หอมแดง 3-4 หัว
กระเทียม 2-3 กลีบ
ตะไคร้ หั่นเป็นท่อนเล็ก ๆ 2 ต้น

วิธีทำ
1 โขลกส่วนผสมเครื่องแกงให้ละเอียด พักไว้
2 เอาหม้อตั้งบนเตา เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลางใส่ไก่ และเครื่องแกงที่ตำคั่วให้หอม จากนั้นเติมน้ำนิดหน่อยพอขลุกขลิก คนต่อจนไก่สุก
3. พอน้ำแกงเริ่มเดือดใส่ผักลงไป ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำปลาร้า ชิมรสตามชอบอีกครั้ง
4.เติมข้าวเบือลงไปหมั่นคนบ่อย ๆ เพราะ ข้าวเบือจะเหนียวหนืดทำให้ข้น จากนั้นเติมน้ำเพิ่มตามต้องการ
5. พอน้ำแกงเริ่มเดือดอีกครั้งใส่ผักลงไปยกเว้น ผักชีลาว ต้นหมอ รอจนกระทั้งผัดเริ่มสุกจากนั้นใส่ผักชีลาว ต้นหอมลงไปคนให้เข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟในเตา ตักใสชามยกเสริฟได้เลยค่ะ

*** หากพูดถึงข้าวเบือ บางคนอาจนึกไม่ออก ข้าวเบือ คือข้าวดิบไม่ว่าจะข้าวเหนียวหรือข้าวสารเอามาแช่น้ำให้นิ่มๆ จากนั้นเอามาตำให้ละเอียด ข้าวเบือจะทำให้น้ำแกงเหนียว อาหารเกาะตัว หากไม่ชอบข้าวเบื่อ จะใช้เป็นข้าวคั่วก็อร่อยเช่นเดี่ยวกันค่ะ ไว้ครั้งหน้านกจะนำเมนูแกงอ่อมทางเหนือมาให้เพื่อน ๆ ได้ชมได้ชิมอีกครั้งค่ะ ***

ปลาแชลม่อนทอดต้มยำน้ำข้น

พูดถึงปลาแชลม่อนที่นี้มีเยอะเลยที่เดียวหากินง่ายกว่าปลาอื่น ๆ ราคาก็ไม่แพงเท่าไร ถ้าเทียบกับปลาอื่น ๆ นกเลยซื้อมาทำอาหารเป็นประจำ จึงทำให้นกต้องเปลี่ยนเมนูโน่นนี้ไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ผัด ทอด อบ นึ่ง ยำ ไปจนถึงต้ม อย่างเมนูวันนี้นกคิดทำต้มยำ และก็อยากกินปลาทอดด้วยเลยทำมันเสียทั้ง 2 อย่างในหนึ่งเมนูเสียดูแล้วมันตรงจุดความต้องการพอดี


ส่วนผสม
ปลาแชลม่อนหั่นชิ้นพอคำ 500 กรัม
แป้งทอดกรอบ 2-3 ชต
หอมแดงทุบ ตามชอบ
เห็ดหั่นชิ้นพอคำ 250 กรัม
ตะไคร้หั่นเฉียง 2 ต้น
ข่าอ่อนหั่นบาง ๆ 2 หัว
มะเขือเทศสีดา ตามชอบ
ใบมะกรูดฉีก ตามชอบ
ต้นหอม ผักชี 2 ต้น
พริกสด 5 เม็ด
ซีอิ้วขาว 3 ชต
น้ำพริกเผา 2 ชต
น้ำมะนาว ตามชอบ
ซุปก้อนรสไก่ 1 ก้อน
นมข้มจืด ตามชอบ

วิธีทำ
1 นำปลาแชลมอนหั่นชิ้นมาคลุกกับแป้งทอดกรอบ นำไปทอดให้สุกเหลือง กรอบ
2. ผสมน้ำพริกเผากับนมจืดให้เข้ากัน พักไว้
2 เปิดเตาที่ไฟแรงปานกลาง เอาน้ำใส่หม้อ ใส่ซุปก้อนรสไก่ลงไป ต้มน้ำซุปจนกระทั้งเดือด จากนั้นใส่ตะไคร้ ใบมะกรูดลงไปต้ม ประมาณ 5 นาที
3 ใส่เห็ด มะเขือเทศสีดา ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว น้ำมะนาว น้ำพริกเผาผสมนมจืด และพริกทุบ ชิมรสตามชอบ จากนั้นใส่ต้นหมอ ผักชี คนให้เข้ากัน
4 เอาปลาแชลมอนกรอบใส่ถ้วย ตักน้ำต้มยำราดลงบนปลา โรยหน้าด้วยหอมผักชีอีกครั้ง จากนั้นก็ยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ


แกงส้มปักษ์ใต้ (แกงเหลือง)

วันนี้เข้าครัวเป็นเมนูปักษ์ใต้อีกแล้วค่ะ แกงส้ม หรือแกงเหลืองที่ใคร ๆ เค้าเรียกกัน ถ้าพูดถึงแกงส้มรสชาดคนใต้บอกเลยว่าเน้นเผ็ด เปรี้ยว สะใจ มีคนถามว่าแกงส้มภาคใต้ กับภาคกลางแตกต่างกันตรงไหน แกงภาคส้มใต้จะใส่ขมิ้น ส่วนแกงส้มภาคกลางจะใส่กระชาย อีกทั้งแกงส้มภาคกลางจะออกรสหวาน ส่วนภาคใต้จะออกรสเปรี้ยว นี้คือข้อแตกต่างของแกงส้มที่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยที่เดียว อีกทั้งความเผ็ดงานนี้ต้องยกให้แกงส้มภาคใต้ละค่ะ




ส่วนผสม
พริกขี้หนูสด ตามชอบ (นกใช้ประมาณ 20-25 เม็ดได้ค่ะ)
ขมิ้นผง 2 ชช
กระเทียม 5-6 กลีบ
หอมแดง 2 หัว
เกลือ 1 ชช
ปลาแซลมอนหั่นขนาดตามชอบ 6 ชิ้น
ลูก courgette หั่นเป็นชิ้นขนาดพอคำ 2 ลูก
กะปิ 1 ชต
น้ำตาลปี้บ 1 ชต
น้ำมะขามเปียก ตามชอบ

วิธีทำ
1 เอาพริกขี้หนูสด กระเทียม หัวหอม ขมิ้น และเกลือ โขลกหรือปั่นให้ละเอียด จากนั้นใส่กะปิ น้ำตาลปี้บ โขลกให้เข้ากันอีกครั้ง พักไว้
2 ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ ยกหม้อตั้งบนเตาเปิดไฟแรง พอน้ำเดือนใส่เครื่องแกงละลายให้เข้ากัน รอให้เดือดอีกครั้ง ใส่ผักตามต้องการ (ลูก courgette ของนกวันนี้สีเหลือง) จากนั้นใส่น้ำปลา น้ำมะขามเปียก ชิมรส ตามชอบ พอเดือดอีกครั้งปิดไฟในตักใส่ถ้วยยกเสริฟได้เลยค่ะ

***นี้เป็น courgette ที่ปลูกไว้ที่บ้าน จริงๆ แล้ว ปลูกแค่ 4 ต้น ออกลูกเยอะ กินกันไม่ทันเลย บางลูกต้องปล่อยให้โตติดต้นไปเลยก็มี สงสัยปีหน้าปลูกแค่ 2 ต้นน่าจะพอดี***




ขนมลุกตุ้ม /ขนมลูกระเบิด /ขนมโป้งเหน่ง

เมนูนี้มีน้องคนหนึ่งบอกว่าอยากได้สูตรขนมทีมีไส้กรอกตรงกลางจะเอาไปทำขายตอนเปิดเทอม แต่น้องเค้าไม่รู้ว่าขนมที่อยากจะทำขายชื่ออะไร เค้าบอกแต่เพียงแต่รูปลักษณ์มาให้ นกเองก็เดา ๆ ว่าน่าจะเป็นขนมแบบนี้เพราะเคยเห็นที่หน้าโรงเรียนหลานชาย กับที่ตลาด วันนี้เลยลองทำให้น้องเค้าได้ดูว่าใช้ขนมที่อยากจะทำหรือเปล่า จะว่าไปแล้วขนมลูกตุ้ม หลายๆ คนรู้จักเคยเห็น แถมบางบางคนได้ลิ้มลองมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่าอะไรกัน ขนมนี้มีหลายชื่อให้เรียกเลยที่เดียวค่ะ เคยถ้าแม่ค้าที่ขาย เค้าบอกว่าขนมลูกระเบิด แต่แม่เจ้าของร้านที่ขายขนมบอก ไม่ใช้ เค้าเรียกว่าลูกตุ้ม เลยไม่รู้ว่าลูกอะไรกันแน่น แถมเพื่อนยังบอกว่าอีกว่าที่บ้านเค้าเรียกขนมโป้งเหน่ง อ๋าวแล้วจะเรียกว่าอะไรดี นกไม่รู้จะใช้ชื่อไหนดี เลยเอามาทั้งหมด 3 ชื่อตัดปัญหาไปเลย มีใครบอกนกได้มั่งเอ๋ยชื่อที่ถูกต้องมันเรียกว่าอะไร


ส่วนผสม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 200 กรัม
แป้งข้าวเจ้า 1 ชต
ผงฟู 2 ชช
ไข่ไก่ 1 ฟอง
น้ำตาล 2 ชต
เกลือ 1 หยิบมือ
น้ำมันพืช 4 ช้อนโต๊ะ
นมสด 1/4 ถ้วย
น้ำปูนใส 2 ชช (ถ้ามี)
ไส้กรอกหั่นท่อนสั้นเสียบไม้ปิ้งลูกชิ้น ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับทอด


วิธีทำ
1 ร่อนแป้งสาลี แป้งข้าวเจ้า ผงฟู รวมกัน แป้งจะได้ฟู ร่อนรวมกัน 2 ครั้งพักไว้
2 ตอกไข่ลงในอ่างผสม ใช้ตะกร้อมือ ตีจนไข่ขึ้นเป็นครีมสีเหลืองๆ จากนั้นผสมน้ำตาลกับเกลือ ลงไปตีจนรู้สึกว่าไม่มีเม็ดน้ำตาล ใส่น้ำมันพืชลงไปตีต่อจนส่วนผสมเข้ากัน
3 ตักแป้งที่ร่อนไว้ใส่ในไข่ที่ตี สลับกับนมสด จนหมด ตีให้แป้งจะละลาย ถ้าแป้งเหนียวให้เติมนม ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จะได้แป้งชุบทอดที่เนื้อเนียนเข้ากัน สังเกตแป้งเหนียวหนืด ไม่เหลว ชุบไส้กรอกติดดีก็เป็นอันใช้ได้
4 เอาน้ำมันใส่หม้อให้เยอะพอทอดขนม จากนั้นตั้งบนเตาเปิดไฟปานกลาง รอให้น้ำมันร้อน จุ่มไส้กรอกลงในแป้ง นำไปทอด คอยดูอยุ่ตลอดเวลา พอเหลืองให้ตักออก ซับน้ำมันให้แห้ง จากนั้นนำไปจุ่มรอบที่ 2 ทอดไปจนเหลืองสุกสวยตักออก ซับน้ำมันให้แห้ง เสริฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

*** ถ้าต้องการให้ขนมมีขนาดโตเท่าใด ก็จุ่มแป้งเพิ่มตามขนาดที่ต้องการ การจุ่มแป้งครั้งที่2 พยายามหมุนแป้งให้ลงตามไม้ลูกชิ้นจะทำให้แป้งสวยเวลาทอด เวลาทอดค่อย ๆ หมุนแป้งให้โดนน้ำมันจะได้เหลืองเท่า ๆ กัน***

ไข่ลูกเขย



ส่วนผสม
ไข่ไก่หรือไข่เป็ดต้มสุก 3 ฟอง
น้ำตาลปี๊บ ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำมะขามเปียก
พริกแห้งทอด 5-6 เม็ด
หัวหอมซอยทอด 4-5 หัว
ผักชีสำหรับแต่งหน้า 1 กิ่ง

วิธีทำ
1. ต้มไข่ให้สุกไว้พักไว้ จากนั้นจึงนำไข่ไปทอดให้เหลืองสวย
เวลาจะทอดไข่ ใช้เข็ม หรือส้อมจิ้มไข่ให้ทั่วทั้งฟองไข่จะได้ไม่ระเบิดตอนทอด
2.เมื่อทอดไข่เสร็จแล้วตัดไข่ออกเป็นสองส่วนพักไว้ในจาน จากนั้นให้ทอดพริกแห้ง และหอมซอยไว้ให้เหลืองกรอบเช่นกัน
3.ทำน้ำราดไข่ลูกเขย โดยการผสมน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย เคี่ยวไปจนน้ำตาลละลายหมด เติมน้ำปลา ชิมรสให้ได้สามรส หวาน เปรี้ยว และก็เค็ม ยกลงราดไข่ลูกเขย โรยด้วยผักชี พริกแห้งทอด หัวหอมทอด ยกเสริฟได้เลยค่ะ

ปอเปี๊ยะสดเวียดนาม (Goi Guon /ก๋อยก้วน)

นกดีใจสุด ๆ เลยละค่ะเพื่อน ๆ ที่ได้ไปเจอะกับเจ้าแผ่นปอเปี้ยะโดยบังเอิญ จัดการเหมาหมดยกแผงเลย ดูออกจะเวอร์ไปหน่อย จริง ๆ แล้วมีเหลือแค่ 3 ห่อเองค่ะ ไม่เป็นไรเอาเท่าที่มีไปก่อน รู้แล้วว่าครั้งต่อไปเราจะหาซื้อได้จากที่ไหน ตอนซึ้อเจ้าแผ่นปอเปี้ยะแฟนคลับทำหน้า งง ผสมตื่นเต้นเล็ก ๆ คงรู้ตัวว่าต้องเป็นนักชิมที่ดีอีกตามเคย อาหารเวียดนามหลาย ๆ คนชอบเพราะขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เต็มไปด้วยผัก จริงแล้วอาหารเวียดนามหลายๆอย่างทำได้ไม่ยาก อย่างเจ้าปอเปี้ยะเป็นเมนูหนึ่งที่หลาย ๆ คนติดใจ สะดวกสามารถทำกินเองที่บ้านได้


ส่วนผสม ปอเปี้ยะ
กุ้งต้มขนาดกลาง 24 ตัว
อกไก่ต้มสุกหั่นเป็นชิ้นตาม 12 ชิ้น
แผ่นปอเปี๊ยะ 12 ชิ้น
ใบสะระแหน่ ตามชอบ (นกใช้ 3 ใบต่อ 1 ชิ้น)
แครรอทหั่นเป็นแท่งยาว ๆ ขนาด 2 นิ้ว 24 แท่ง
แตงกวาหั่นเป็นแท่งยาว ๆ ขนาด 2 นิ้ว 24 แท่ง
ใบSpinach ตามชอบ (นกใช้ 3 ใบต่อ 1 ชิ้น)

ส่วนผสมน้ำจิ้มเผ็ด
น้ำมะนาว 1/2 ลูก
เกลือ 1/2 ชช
พริกสด ตามชอบ
กระเทียม 3-4 กลีบ
น้ำตาล 2 ชช
ขิงซอยละเอียด ตามชอบ

วิธีทำ
1 ปรุงน้ำจิ้มโดยตำพริกกระเทียมให้ละเอียดจากนั้นนำส่วนผสมอื่นคนให้เข้ากันจนเกลือและน้ำตาลละลาย ตักใส่ถ้วยพักไว้
2 เทน้ำอุ่นใส่จานแบน แช่แผ่นแป้งปอเปี๊ยะสดในน้ำประมาณกะพอให้แป้งนุ่ม วางแผ่นปอเป๊ยะที่แข่น้ำแล้วบนพื้นที่เรียบ
3 วางใบใบSpinachตรงกลางแผ่นแป้ง เรียงแครอท แตงกวาง กุ้ง ไก่ แลละใบสาระแหน่ พับด้านข้างแผ่นแป้งปอเปี๊ยะทำใส่ ม้วนให้เป็นแท่ง ค่อยกดหัวท้ายให้บิดปลาย พักปอแปี๊ยะสดที่ห่อเสร็จแล้วในจาน ใช้ผ้าขาวสะอาดบางชุบให้่เปียกน้ำพอหมาดๆๆ คลุมปอเปี้ยะ
เพื่อป้องกันการแห้ง ทำส่วนที่เหลือต่อไปจนหมด จัดใส่จานยกเสริฟพร้อมน้ำจิ้มได้เลยค่ะ

***ผักที่ใช้แล้วแต่จะชอบ จะใช้ผักกาดหอม พริกหวาน หรือผักสลัดอื่น ๆ ก็ได้เช่นเดียวกัน ส่วนน้ำจิ้ม นอกเหลือจากนี้แล้วยังมีน้ำจิ้มถั่ว น้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน แล้วแต่จะชอบกันค่ะ จานนี้ของนกเองคะ ราดน้ำจิ้มเผ็ดเสียเยอะ***


เย็นตาโฟ รวมมิตรทะเล (น้ำซอสทำเอง)

แฟนคลับเค้าหยุดลาพักร้อน 3 วัน วันนี้เราสองคนไม่มีโปรแกรมจะไปไหนกัน เพราะอากาศคลึ้ม มืด ๆ ไม่ค่อยจะเป็นใจให้ออกไปเที่ยวสักเท่าไร ตัดสินใจพักผ่อนกันที่บ้าน คิดว่าจะทำเมนูอาหารกลางวันอะไรดี ไป ๆ มา ๆ จบลงที่ก๋วยเตียวอีกตามเคย แต่วันนี้ของนกทำพิเศษขอเป็นเย็นตาโฟ รวมมิตรทะเล ส่วนแฟนคลับขอเป็นก๋วยเตี๋ยวหมูธรรมดา เพราะไม่กินหอยนางรม กับปลาหมึก งานนี้เสร็จเรา ของอร่อยไม่รู้เสียแล้ว



ส่วนผสม
เส้นก๋วยเตียว ตามชอบ
กระดูกหมู/ไก่ ตามชอบ
กุ้งสด 10-15 ตัว
หอยนางรม 15-20 ตัว
น้ำมันกระเทียมเจียว ตามชอบ
เนื้อหมูต้ม หั่นเป็นชิ้นพอคำ ตามชอบ
เต้าหู้ทอด หั่นซอย ตามชอบ
หอมผักซีซอยหยาบ 1 ถ้วย
ผักบุ้ง หั่นเป็นท่อน ๆ 10-12 ต้น
ถั่วงอกสด ตามชอบ
น้ำซอสเย็นตาโฟ 1 ถ้วย
ซุปไก่ 1ก้อน (ถ้ามี)






ส่วนผสมน้ำซอสเย็นตาโฟ
เต้าหู้ยี้ 3 ก้อน

พริกสดขี้หนูแดง 3 เม็ด
ซอสมะเขือเทศ 5 ชต
เหล้าจีน 1 ชต
ซอสพริก 2 ชต
น้ำเชื่อม 5 ชต

น้ำเปล่า เล็กน้อย


วิธีทำ
1. เอาน้ำใส่ในหม้อ เปิดไฟในเตา ใช้ไฟแรง พอน้ำเดือดใส่กระดูกหมูหรือไก่ ใส่เกลือ และซุปไก่ก้อนลงไป ชิมรสตามชอบ
2.เอาเต้าหู้ยี้ พริกขี้หนูแดง น้ำเปล่า ใส่โถปั่น
ให้พอละเอียดตามชอบ จากนั้นใส่ส่วนผสมน้ำซอสทั้งหมดปั่นให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่หม้อต้ม นำขึ้นตั้งบนเตาใช้ไฟอ่อน ๆ คนให้เดือดสักพักปิดไฟในเตาพักไว้ให้เย็น
3.เอาหม้ออีกใบใส่น้ำตั้งไปให้เดือด ลวก ผักบุ้ง ถั่วงอก เส้นก๋วยเตียว กุ้ง หอยลงไปลวก ให้สุกพักไว้ จากนั้นเอาเส้นก๋วยเตียวที่ลวกสุกแล้วคลุกกับน้ำมันกระเทียมเจียวพักไว้
4.เอาผักบุ้ง ถั่วงอก ก๋วยเตียว เนื้อหมู กุ้ง หอย ที่ลวกเสร็จแล้วใส่ชามก๋วยเตียว จากนั้นโรยด้วย เต้าหู้ทอด ตักน้ำซุปกระดูกลงในชามก๋วยเตียวตามชอบ
5.ตักน้ำซอสเย็นตาโฟใส่ในชามก๋วยเตียว1-2 ชต จากนั้นโรยด้วยต้นหอมผักชี ยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ









ข้าวขาหมู

นกและแฟนคลับกลับมาแล้วค่ะหลังจากที่เราสองคนหายไปพักผ่อนหลายวันเลยที่เดี่ยว กลับเข้าครัวมาฝุ่นเต็มไปหมด เลยต้องทำความสะอาดกันยกใหญ่เลยค่ะ คิดถึงเพื่อนสมาชิกครัวเอ็นดีทุกคนนะค่ะ เพื่อเป็นการฉลองกลับเข้าครัว วันนี้นกเลยจัดเมนูเด็ดเพิ่มไขมันด้วยขาหมูที่ซื้อมาไว้ก่อนไปเที่ยวเสียเลย เก็บนอนแข็งอยู่หลายวัน เมนูนี้ตอนที่นกเจอะกับน้องขาหมู ขอบอกว่าหยิบโดยไม่รั้งรอเลยนะค่ะ อยากกินมานานจะรอกลับไปกินที่เมืองไทยไม่ไหว มีความคิดทำเองเถอะมันจะได้รู้แล้วรู้รอดไปเลย นกเลือกขนาดขากำลังดีไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป อย่าให้เสียเวลาปรุงกันเลยดีกว่า เมนูนี้ใช้เวลาปรุงนานสุด ๆ แบบว่าครึ่งค่อนวันเลยที่เดียว ออกมาแล้วประทับใจในฝีมือตัวเอง คราวหน้ามีโอกาสต้องทำอีกครั้งแล้วเรา



ส่วนผสม ขาหมู
ขาหมูขนาดพอเหมาะ 1 ขา
ไข่ไก่ต้ม ตามชอบ
เต้าหู้ทอด ตามชอบ (ถ้ามี)
น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วยตวง
ไมโล 2 ชต
เห็ดหอม 10 ดอก
กระเทียมทุบพอแตก 7-8 กลีบ
พริกไทยดำตำหยาบ 1 ชช
ขิงทุบ 1 แง่ง
ข่าทุบ 1 แง่ง
รากผักชี 4 ต้น
ซีอิ๊วดำ 2 ชต
ซีอิ๊วขาว 4 ชต
น้ำมันหอย 2 ชต
โป้ยกั้ก 2 ดอก
อบเชย 1แท่ง
ลูกผักชี 1 ชช
น้ำตาลปี้บ 1 ชต
ชุปหมู 1 ก้อน (ถ้ามี)
น้ำมันสำหรับทอดขาหมู ตามชอบ (ใส่ให้พอประมาณทอดขาหมูได้นะค่ะ)
น้ำเปล่า (ใส่จนท่วมขาหมู)

ส่วนผสมผักเคียงทานกับข้าวขาหมู
ผักคะน้าต้นเล็ก ตามชอบ
ผักกาดดองเปรี้ยว ตามชอบ

ส่วนผสม น้ำจิ้มขาหมู
พริกขี้หนูสด 10-15 เม็ด
กระเทียม 7-8 กลีบ
น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 2 ชต
เกลือ 2 ชช

วิธีทำ
1.ทำความสะอาดขาหมูที่ต้องการทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำจากนั้นนำมาสับให้พอขาด จากนั้นนำไปทอดให้พอเหลือกรอบ
2.นำโป๊ยก๊ก อบเชย ลูกผักชีมาคั่วไปอ่อน ๆ พอให้หอม ๆ จากนั้นตักเครืองเทศใส่ถุงผ้ามัดปากให้แน่น (ถุงผ้าขาวๆ เล็กทำเองง่ายนิดเดียค่ะ เอาผ้าขาวกรองนะค่ะมาเย็บให้เป็นถุงพอใส่เครื่องปรุงได้นะค่ะ)
3.เปิดไฟในเตาใช้ไฟแรงนำหมูที่ทอดเรียบร้อยแล้ว ใส่ลงในหม้อใส่น้ำเปล่าจนท่วมขาหมู ยกขึ้นตั้งบนเตาต้มจนกระทั้งขาหมูเดือด เอาช้อนตักฟองทิ้งไป
4.ลดไฟในเตาใช้ไปอ่อนใส่เครื่องปรุงทั้งหมด ถุงเครืองเทศ น้ำตาลทราย น้ำตาลปี้บ ไมโล กระเทียม พริกไทย ขิงทุบ ข่าทุบ รากผักชี ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ชุปหมู เคี่ยวเรื่อย ๆ ประมาณ3-4 ชั่วโมง พอได้ทิ้งใส่ไข่ต้ม และ เต้าหู้ทอดลงไปต้มต่อสักอีก 1 ชั่วโมง
5.ทำน้ำจิ้มขาหมู นำพริก กระเทียม และเกลือ ใส่ในครกตำให้ละเอียดตามชอบ จากนั้นใส่น้ำตาลและน้ำส้มสายชูลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยพร้อมเสริฟ
6.ลวกผักคะน้าในน้ำเดือด พอสุกรีบนำออกมาแช่ลงน้ำเย็นทันที (ผักมีสีเขียวน่ารับประทาน)ผักดาดดองชนิดเปรี้ยวหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
7.ขาหมูได้ที่ตักหั่นเป็นชิ้น ๆ ใส่จานทานกับข้าวสวยร้อน พร้อม ไข่ต้ม เต้าหู้ทอด ผักเคียง ยกเสริฟได้เลย

***ไข่ต้มวันนี้หมดไม่มีให้เห็นไม่ว่ากันนะค่ะ เพื่อน ๆ เวลาไปทานข้าวขาหมูเคยรู้สึกไม่ค่ะว่าไข่ต้มเค้าจะแข็ง ๆ เค้าต้มในน้ำขาหมูนานนะค่ะไข่ต้มเลยแข็ง ๆ ถ้าเพื่อน ๆ คนไทยชอบก็ให้ใส่ไข่พร้อมเครื่องปรุงได้เลยค่ะ ส่วนเต้าหู้ทอดจะมีก็ได้ไม่มีก็ได้ค่ะ นกชอบเป็นการส่วนตัวเลยใส่นะค่ะ***

ขนมถั่วแปบ

นกทำขนมไทยอีกแล้วค่ะ อย่าว่ากันนะค่ะ พอดีมีเครื่องปรุงพร้อม เลยทำไม่หยุดก็ว่าได้ค่ะ อีกอย่างไม่อยากเก็บแป้งทิ้งไว้นาน ๆ ด้วยนะค่ะ เมื่อมีของอยู่พร้อมตรงหน้าแล้ว ไม่อยากให้เสียเวลาลงมือทำเลยค่ะ



ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วย
น้ำเปล่า 1 ถ้วย
สีผสมอาหาร ตามชอบ
ถั่วเขียวดิบ 1 ถ้วย
เกลือป่น 1/2ชช.
มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 2-3 ถ้วย
เกลือ 1 ชต.
งาขาวคั่ว ตามชอบ
น้ำตาลทราย ตามชอบ

วิธีทำ
1. นำถั่วเขียวซีกมาล้างให้สะอาด แช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 1 ชม จากนั้นนำไปนึ่งจนสุกคลุกเคล้ากับเกลือพักไว้ 2..นวดแป้งกับน้ำเปล่าจนนุ่มพอปั้นได้ แบ่งแป้งออกเป็นก่อน ๆ หยดสีผสมอาหารลงไปจากนั้นนวดต่อจนกระทั้งสีเข้ากับเนื้อแป้ง ใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำบิดพอหมาดปิดไว้
3. งาคั่วสุกใส่ครกโขลกพอแตก ใส่น้ำตาลเกลือคลุกให้เข้ากัน ใส่ชามพักไว้
4. ปั้นแป้งเป็นก้อนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง1/2นิ้ว แผ่แป้งให้แบนตามยาว
ใส่ถั่วตรงกลางคลึงแป้งปิดให้มิด เหมือนรูปครึ่งวงพระจันทร์ อาไปต้มจนแป้งสุกลอยตัวขึ้นมาตักแป้งออกใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ
5. นำถั่วเขียวที่ห่อไส้มาคลุกกับมะพร้าวจากนั้นเอาแป้งที่ต้มสุกแล้วลงไปคลุกกับมะพร้าวและถั่วใส่จานยกโรยหน้าด้วยน้ำตาลผสมงา ยกเสริฟได้เลยค่ะ

ขนมเม็ดขนุน (สูตรไม่ใช้น้ำกระทิ)

วันนี้นกเข้าครัวลงมือทำตั้งแต่เช้าถึงบ่ายเลยค่ะเพื่อนๆ ขนมไม่ได้อยากแต่ขั้นตอนในการทำต้องใช้เวลา ตั้งแต่กวนถั่ว ปั่นเม็ดขนุน และอีกหลาย ๆ อย่าง เห็นผลงานแล้วสมดังใจหลายเหนื่อยไปเลยค่ะ ขอบอกว่าผลงานนี้ทำครั้งแรกในชีวิตเลยละค่ะ งานนี้ไม่มีคนช่วยชิมค่ะ นกเลยจัดการเสียคนเดียวหายคิดถึงไปเลย




ส่วนผสมถั่วกวน
ถั่วเหลืองซีกดิบ 2 ถ้วย
มะพร้าวขาวขูดฝอย 1 1/2ถ้วย
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
ไข่แดง 8 ฟอง

ส่วนผสมน้ำเชื่อม
น้ำตาลทราย 3 ถ้วย
น้ำเปล่า 2 ถ้วย

วิธีทำ
1.แช่ถั่วซีกประมาณ 2-3 ชั่วโมง เมื่อครบแล้วรินน้ำทิ้งแล้วล้างน้ำประมาณ 2-3 ครั้ง จากนั้นเทถั่วลงไปในห้อม เติมน้ำลงให้สูงจากถั่วประมาณหนึ่งนิ้ว เอาหม้อตั้งบนเตาใช้ไฟแรง โดยไม่ต้องปิดฝา คอยสังเกตสักนิดเพราะมันจะล้นจนเดือดแล้วให้ลดไฟลงปานกลางเคี่ยวต่อไป จนน้ำเกือบแห้งลดไฟให้ต่ำลง เทมะพร้าวและน้ำตาลทรายลงไป คนให้ทั่ว กวนไปเรื่อยๆ จนแห้ง ลดไฟลงเรื่อย ๆ กวนต่อไปจนเหนียว เวลากวนพยายามเร็ว ๆ เมื่อยหน่อยแต่ถ้ากวนไม่เร็วเดียวจะไหม้ได้ค่ะ
2.เมื่อแห้งได้ที่แล้ว ตักใส่จานพักไว้ให้เย็น จากนั้นนวดและปั่นให้ได้ขนาดตามต้องการใส่ถาดพักไว้
3. ตกไข่ใส่ชามแยกไข่ขาวออกจากไข่แดง พยายามรีดเอาแต่ไข่ขาวออกจากไข่แดงให้หมด
4. จากนั้นมาทำน้ำเชื่อมกันโดยนำน้ำเปล่าและน้ำตาลทรายใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด แล้วหรี่ไฟอ่อนๆ เคี่ยวต่ออีกประมาณ 20-30 นาที ปิดไฟ จากนั้นคนไข่แดงเบาๆ พอให้ไข่แตกหยิบเม็ดขนุนที่ปั้นแล้วส่วนหนึ่ง ใส่ลงในชามไข่แดง แล้วหยิบหย่อนลงไปในน้ำเชื่อมทีละเม็ด ทำต่อไปจนหมดเวลาหย่อนเม็ดขนุนลงไป เม็ดขนุนจะดิ่งลงไปก้นหม้อแล้วลอยกลับขึ้นมา ไข่ก็จะแข็งตัวสุก ตักออกใส่จานแล้วทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นยกเสริฟได้เลยค่ะ

***เวลาเคี่ยวน้ำตาลใส่เปลือกไข่ลงไปด้วยนะค่ะ และถ้าเป็นไปได้ใช้เวลาทำน้ำเชื่อมพยายามทำให้เยอะหน่อยให้น้ำเชื่อมสูงจากก้นหม้อประมาณ 1คืบใหญ่ จะดีมาก ๆ เลยค่ะ เพราะความร้อนจากก้นหม้อจะมีมากทำให้ไข่สุกแข็งตัวได้ดี*

ไอศครีมมะม่วง

ที่บ้านมีหนังสือเกี่ยวกับการทำไอศครีมอยู่สองสามเล่ม แต่เล่มนี้ทำแล้วไม่เคยผิดหวังสักที่ เลยใช้สูตรนี้ทำไอศครีมผลไม้ตลอด แฟนคลับเองก็ชอบ พอถึงหน้าร้อนก็ลงมือทำไอศครีมกันอีกแล้ว แต่วันนี้ยังไม่ถึงหน้าร้อน แต่มะม่วงมันถูกซื้อมาหลายลูกกลัวกินไม่ทันเลยเอามาทำไอศครีมเสียเลย




ส่วนผสม
มะม่วงสุกหั่นชิ้นพอคำ 2-3 ลูก
น้ำตาลไอซิ่ง 100 กรัม
น้ำมะนาว 1/2 ลูก
วิปปิ้งครีม 300 ml

วิธีทำ
1นำมะม่วงสุก น้ำตาลไอซิ่ง และน้ำมะนาว ใสเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียดจากนั้นนำไปพักไว้ในตู้เย็นประมาณ 2-3 ชม
2 ครบกำหนด ตีวิปปิ้งครีมจนขึ้นฟู ตั้งยอดอ่อน ๆ นำมารอผสมกับส่วนผสมไอศครีม
3 นำส่วนผสมไอศรีมจากตู้เย็นมาปั่นในโถปั่นไอศครีมปั้นไปประมาณครึ่งชม จากนั้นเทวิปปิ้งครีมลงไปปั่นกับส่วนผสมไอศครีม สักเกตให้ส่วนผสมเข้ากันดีหยุดโถปั่นไอศครีม ตักส่วนผสมทั้งหมดใส่กระปุกแช่ช่องแข็งรอจนกระทั้งไอศครีมเซ็ตตัวก็เสริฟได้้เลยค่ะ

***ไอศครีมสตอเบอรี่ที่เห็นใช้สูตรเดียวกัน สำหรับสตรอเบอรี่ที่ใช้ทำไอศครีม นกใช้ 1กล่องประมาณ 450 กรัม ปั่นเสร็จแล้วกรองจากนั้นถึงจะเอาไปแช่ตู้เย็นนะค่ะไว้คราวหน้านกจะลงไอศครีมสตอเบอรรี่ให้เต็ม ๆ สูตรนะค่ะ***




เต้าส่วน

มาอีกแล้วจ้าเมนูขนมหวาน ช่วงนี้กำลังเห่อทำขนมหวานค่ะเพื่อน ๆ ทำที่ไรกินคนเดียวทุกที่ แฟนคลับชิมแล้ว บอกว่าหวานมาก แถมเอาผักมาทำแปลก ๆ เลยไม่กินด้วย นกเองก็พยายามที่จะทำให้แฟนคลับกินขนมไทยให้ได้ สู้ ๆๆ แต่ครั้งนี้เหมาคนเดียวเหมือนเดิม



ส่วนผสม
ถั่วเขียวกระเทาะเปลือก ½ ถ้วย
น้ำ 1 ½ ถ้วย
หัวกะทิ ½ กระป๋อง
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
แป้งมัน หรือแป้งข้าวโพด 3-4 ชต
เกลือ หยิบมือ

วิธีทำ
1.เอาถั่วเขียวที่กระเทาะเปลือกแล้ว แช่น้ำไว้ประมาณ 3-4 ชม. พอถั่วนิ่มเทใส่ตะกร้าพักไว้ ให้พอสะเด็ดน้ำ จากนั้นนำถั่วเขียวไปนึ่งให้สุก พักไว้
2. ละลายแป้งมัน หรือแป้งข้าวโพดกับน้ำเล็กน้อยคนให้แป้งละลายไม่เป็นก้อนเตรียมไว้
3.เอาน้ำใส่ลงในหม้อ ตั้งบนเตาจนน้ำเดือด ใส่น้ำตาลลงไป ชมรสตามชอบ เทแป้งลงในหม้อที่ส่วนผสมกำลังเดือด คนเร็วๆให้เข้ากันจนส่วนผสมข้นเหนียว ถ้าเหนียวไม่พอใจก็ใสแป้งเพิ่ม่อีกตามชอบยกลงจากเตาจากนั้นใส่ถั่วที่สุกแล้วลงไป ในขณะที่ยังร้อนๆ แล้วคนเบาๆให้ทั่ว
4.เอากะทิใส่ในหม้ออีกใบ ตั้งบนเตาใส่เกลือเล็กน้อย คนให้เกลือละลาย พอกะทิเดือดก็ยกหม้อกะทิลงจากเตาตักเต้าส่วนใส่ถ้วยราดน้ำกระทิยกเสิรฟทานร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

แกงเลียงกุ้งสด



ส่วนผสมน้ำพริกแกงเลียง
พริกไทยเม็ด 1 ชช
หอมแดง 6-8 หัว
เกลือ 1/2 ชช
กะปิ 1 ช้อนชา
กุ้งแห้ง 1/4 ถ้วย (ถ้ามี)
กุ้งสด 5-6 ตัว

ส่วนผสมผักแกง
กุ้งสดตามชอบ
ซุคคินีหั่นเป็นชิ้น ๆ 1 ลูก
เห็ดหั่นเป็นชิ้น ๆ พอคำ 5-6 ดอก
แครอทหั่นเป็นแว่น ๆ 1 หัว
ใบแมงลัก ตามชอบ (ไม่มีไม่ต้องใส่)
ข้าวโพดอ่อนหันเป็นท่อน ๆ 5-6 ฝัก
หัว(Swede)หั่นเป็นชิ้น ๆ 1 ถ้วย
พริกขี้หนูสด 7-8 ดอก

วิธทำ
1.โขลกส่วนผสมเครื่องปรุงน้ำแกงให้ละเอียดเข้ากัน
2.เอาหม้อใส่น้ำตั้งบนเตาใช้ไปกลางค่อยข้างแรงต้มน้ำพอเดือนใส่น้ำพริกแกงเลียงลงไป คนให้ละลาย
3.เมื่อน้ำแกงเดือดอีกครั้งจึงใส่ผักให้ใส่ผักที่สุกยากลงไปก่อน แล้วใส่ผักที่สุกง่ายตามลำดับ จากนั้นใส่กุ้งสดลงไป ปรุงรสตามชอบ
4.พอเดือดอีกครั้งเสร็จอีกครั้งจึงใส่ใบแมงลัก คนสองสามที่ให้เข้ากัน ปิดไปในเตาตักใส่ชามยกเสริฟ ร้อน ๆ ได้เลยค่ะ


บัวลอยน้ำขิง (ขนมอี้)

ห่างหายจากครัวไปหลายวันเลยค่ะ กลับมาอีกที่วันนี้นกเข้าครัวมาว่าด้วยเมนูของหวานทำทานง่าย ๆ มีวิธีการทำไม่ยุ่งยาก ที่บ้านแม่เรียกขนมอี้ ถ้าจะบอกว่าคนจีนโปราณจะมีการทำขนมอี้เพื่อเป็นเครื่องหมายของความกลมเกลียว จะช่วยให้ชีวิตราบรื่นหมุนไปไม่มีสะดุดเหมือนวงกลมที่ไม่มีที่สิ้นสุดนะค่ะ ที่บ้านแม่จะทำให้กินเป็นประจำในช่วงเทศกาลไหว้อี๊ หรือไม่ก็ ตรุษจีน สำหรับนกวันนี้ไม่ใช้วันกินขนมอี้ หรือตรุษจีนหรอค่ะอากาศมันหนาวเลยหาอะไรร้อน ๆ อุ่น ๆ กินนะค่ะ





ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้่วย
แป้งข้าวจ้าว 1/2 ถ้วย
น้ำ 1/4 ถ้วย
ขิงแก่หั้นเป็นแว่น ๆ 2 แง่ง
น้ำตาลทรายแดง ตามชอบ
น้ำสำหรับต้มน้ำขิงตามชอบ
สีผสมอาหารตามชอบ

วิธีทำ
1.นวดแป้งทั้งสองชนิดกับน้ำเข้าด้วยกันจนนุ่ม แบ่งแป้งเป็นก้อนๆใส่สีผสมอาหารลงไป 1 หยดจากนั้นนวดให้สีเข้ากับเนื้อแป้งอีกครั้ง
2.ตั้งน้ำให้เดือด ลดไฟพอน้ำร้อน ใส่แป้งที่ปั้นเรียบร้อย ต้มพอแป้งสุก ตักขึ้นแช่น้ำเย็นทันที
3.ใส่น้ำลงในหม้อตั้งไฟพอเดือด ใส่ขิงแว่น และน้ำตาลทรายตั้งไฟพอเดือด ยกลง
4.ตักบัวลอยใส่ถ้วยและตักน้ำขิงลงไปในถ้วยตามชอบ จากนั้นยกเสริฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

***ขนมอี้มีสองแบบค่ะเพื่อน ๆ แบบมีไส้ กับไม่มีไส้นะค่ะ วันนี้นกทำแบบไม่มีไส้ ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการจะใส่ไส้ นกมีสูตรและวิธิทำไส้มาให้ด้วย หลาย ๆ คนเรียกบัวลอยไส้งาดำ

ส่วนผสมไส้
งาำดำป่น 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย (ใช้น้ำตาปี้บ ถ้ามี)

วิธีทำ
1.นำงาดำมาคั่วจากนั้นนำไปโขลกให้ละเอียดจากนั้นนำไปคั่วกับน้ำตาลทรายจนเข้ากัน ทิ้งไว้จนเย็น
2.แบ่งแป้งเป็นก้อนๆ ตักใส่ใส้ประมาณ 1 ช้อนชา ห่อให้มิด ทำจนหมด
3.ตั้งน้ำให้เดือด ลดไฟพอน้ำร้อน ใส่แป้งที่ปั้นเรียบร้อย ต้มพอแป้งสุก ตักขึ้นแช่น้ำเย็นทันที


ปลาเกยตื้น/ปลาลุยสวน (ยำปลาทอดกรอบ)

หลังจากทำเมนูนี้เสร็จนก ยังไม่ได้มีโอกาสเอามาโพสในครัวเอ็นดีเลย นกได้นำเมนูนี้ไปโพสให้เพื่อน ๆ ในเวปที่นกเป็นสมาชิกอยู่ได้ชิมกันก่อน จากนั้นก็จะเอามาโพสให้สมาชิกครัวเอ็นดีได้ชิมกันต่อ ซึ่งจริง ๆ แล้วแต่ก่อนโพสอาหาร ด้วยความที่เราท่องเน็ตดันไปเจอะเมนูและภาพอาหารไปโพสในเวป ๆ หนึ่งที่ไม่เคยแม้แต่จะเข้าไปดูหรือเป็นสมาชิกมาก่อนเลย จริงๆ แล้วอาหารทุก ๆเมนูเมื่อนำมาโพสก็คิดว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน จะไม่รู้สึกเสียใจถ้าคุณ....ไม่ได้เอาทั้งภาพและสูตรไปโพสโดยที่คุณ....แสดงความเป็นเจ้าของอย่างเต็มภาคภูมิ นั้นมันเป็นอาหารของนกนะทำให้รู้สึกเสียใจนิด ๆ ที่เมื่อเอาไปแล้วน่าจะบอกแหล่งที่มาสักนิดว่ามาจากไหน คนที่เข้ามาโพสก็คงไม่ทราบว่าเป็นอาหารของนก คงคิดว่าเป็นอาหารของผู้ที่นำมาโพสชื่นชมเสียยกใหญ่ ถ้าเป็นเมนูที่เพื่อน ๆ ทำแล้วมีคนเอาไปทำอย่างนี้ เพื่อน ๆ ไปเห็นเข้าจะรู้สึกอย่างไร คงมีความรู้สึกเดียวกับนกจริงๆไม่ค่ะ


ส่วนผสมปลาสด ขนาดกลาง ๑ ตัว
มะม่วงดิบซอยเป็นเส้น 1 ผล (ไม่มีใช้แอ๊ปเปิ้ลเขียวแทน)
ขิงซอย 1 แง่ง
ตะไคร้ซอยหั่นเล็ก ๆ 2-3 ต้น
หอมแดงซอย 3-4 หัว
พริกขี้หนูซอยหั่นเล็กๆ ตามชอบ
พริกชี้ฟ้าเขียวซอยหั่นเล็ก ๆ 1-2 ดอก
พริกแห้งป่นหยาบ 1 ชช
ใบขึ้นฉ่าย หั่นหยาบ ตามชอบ
ผักชี หั้นหยาบ ตามชอบ
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอดกรอบ ตามชอบ
น้ำปลา 1 ชต
น้ำมะนาว 1 ลูก
น้ำตาลทราย 2 ชช
เกลือ หยิบมือ

วิธีทำ
1.เอาปลามาล้างทำความสะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นเอาเกลือมาคลุกให้ทั่วตัวปลาหมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
2.นำน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ ใส่ พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า พริกแห้ง ตะไคร้ มะม่วงซอย ขิงซอย ใบขึ้นฉาย ผักชี เม็ดมะม่วงหมิพานต์ มาผสมคลุกให้เข้ากัน
3.เมื่อครบกำหนดเอาน้ำมันใส่กระทะตั้งบนเตาเปิดไฟปานกลาง พอน้ำมันเดือดเอาปลาลงทอดให้กรอบเหลืองสุก ตักขึ้นนำไปพักในกระดาษซับมัน
4.จัดปลาใส่จานราดน้ำยำให้ทั่วๆตัวปลา จากนั้นยกเสริฟได้เลยทานคู่ผักสดตามชอบ ถือจะทานคู่กับข้าวสวยร้อย ๆ ก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ






***มีเพื่อน ๆ อยากทราบว่าเมนูนี้ไปอยู่ที่ไหน นกนำมาให้ชมกันแล้วนะค่ะ***






หมูคลุกฝุ่น

นกนำเมนูอาหารจานทอดมาฝากเพื่อน ๆ ค่ะ เมนูนี้เป็นสูตรที่คิดและทำปรับปรุงสูตรอยู่หลายรอบ จนเป็นที่ถูกปากถูกใจแฟนคลับและเพื่อน ๆ ที่ได้ชิม วันนี้เลยเอาสูตรมาลงให้กับเพื่อนๆ แม่ครัวมือให้หัดทำทุกคนได้ชมได้ชิมด้วยเช่นกัน และหาเพื่อน ๆ นำสูตรไปปรุงแล้วเป็นอย่างไรอย่าลืมส่งข้อความส่งเสียงบอกเล่าถึงความอร่อยด้วยนะค่ะ



ส่วนผสมหมู
หมูบด 500 กรัม
หัวหอม 1/2 หัว
แครรอท ขนาดกลาง 1 หัว
ต้นหอม 3 ต้น
ผักชี 8-10 ก้าน
ไข่ไก่ 1 ฟอง
กระเทียมสับ 6-8 กลีบ
พริกชี้ฟ้าแดง 2 ดอก
เหล้าจีน 1 ชต
น้ำมันงา 1 ชต

น้ำมันหอย 1 ชต
นมสด 2 ชต
ซีอิ้วขาว 2 ชต
เกลือ 1 ชช
น้ำตาลทราย 1 ชช
พริกไทย ตามชอบ
น้ำมันสำหรับทอด ตามชอบ



ส่วนผสมฝุ่นคลุก
เกร็ดขนมปัง 1 ถ้วย
พริกป่น 1 ชช
เกลือ 1 หยิบมือ

วิธีทำ
1.หัวหอม แครรอท หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาดเล็ก พริกชี้ฟ้าแดงผ่าเอาไส้ในออก จากนั้นหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาดเล็ก ต้นหอมผักชีหั่นซอยละเอียด พักไว้
2. นำหมูบดลงอ่างผสม ใส่ เหล้าจีน น้ำมันงา นมสด ซีอิ้วขาว เกลือ และน้ำตาลทราย จากนั้นนำผักที่หั่นเรียบร้อยแล้วลงไปคลุกให้เข้ากัน
3. ตักหมูนิดหน่อยนำไปอุ่นในเตาไมโครเวป ประมาณ 2 นาที หมูสุกนำมาชิม ปรุงรสตามชอบอีกครั้ง จากนั้นนำไปหมักในตู้เย็น 3-4 ชม
4. นำส่วนผสมฝุ่นมาคลุกให้เข้ากันในจาน พอครบกำหนดเอาน้ำมันสำหรับทอดใส่ลงในกระทะตั้งบนเตาเปิดไฟปานกลางรอจนน้ำมันเดือด นำหมูมาปั่นให้เป็นก้อนขนาดตามชอบนำไปคลุกกับฝุ่นแล้วไปทอดจนกระทั้งสุก ตักลงพักในกระดาษซับมัน จากนั้นจัดใส่จานเสริฟคู่กับน้ำจิ้มตามชอบได้เลยค่ะ




ขนมหัวผักกาด

มาแล้วค่ะรอตั้งสองเดือนนะค่ะ กว่านกจะได้ทำเมนูนี้เล่นเอาสูตรที่โทรถามจากแม่หายไปไหนไม่ทราบได้ นกเขียนสูตรตั้งไว้ตรงไหนจำไม่ได้จริงๆ เลยต้องมีการโทรถามกันใหม่อีกรอบ สุตรของแม่แป้งไม่เยอะเหมือนที่ขายในตลาดทานแล้วได้รสชาดของหัวผักกาดมากกว่าแป้งค่ะ จริง ๆแล้วเมนูนี้ถ้ามีส่วนผสมครบก็สามารถทำได้เลยไม่ยุ่งอยากอะไร แต่ที่ทำไม่ได้ก็เพราะแป้งจ้าวส่วนผสมสำคัญไม่มีเลยต้องคอยสั่ง งานนี้นกสั่งเสียหลายแป้งเลยละค่ะ กลัวว่าเมื่อต้องการใช้อีกเดี่ยวจะไม่มีนะค่ะ ทำเสร็จรีบตักใส่จานทานร้อน ๆ ขอบอกว่าอร่อยเหมือนกับที่แม่ทำให้ทานละค่ะ (คริ ๆๆ คิดเอาเองว่าเหมือน)




ส่วนผสมตัวแป้ง
หัวผักกาด (หัวไชเท้า)ขูดฝอย 2 ถ้วย  (บีบน้ำออกแล้ว)
แป้งข้าวจ้าว 1 ถ้วย
แป้งมัน 1/4 ถ้วย
เกลือป่น  เล็กน้อย
พริกไทยป่น หยิบมือ
น้ำตาลทราย หยิบมือ

น้ำเปล่า เล็กน้อย

ส่วนผสมขนมผักกาด
ขนมผักกาด (สำเร็จแล้ว) 2 ถ้วย
ไข่ไก่ 2 ฟอง
กระเทียมสับ ตามชอบ
ถั่วงอก ตามชอบ
กุ้ยช่ายหั่นท่อน ตามชอบ (ไม่มีใช้ต้นหอมแทน)
เห็ดหอมต้มสุก หั่นเส้น ตามชอบ (ถ้ามี)
ซีอิ๊วขาว 1 ชช
ซีอิ๊วดำ เล็กน้อย (ใส่ให้พอออกสีนิด ๆ)
เหล้าจีน 1/2 ชช
น้ำตาลทราย 1 ชต
น้ำมันสำหรับผัด ตามชอบ

วิธีทำ
1.เอาหัวไชเท้าขูดฝอย คลุกกับเกลือให้เข้ากันขยำจนนิ่ม แล้วเทน้ำทิ้ง(จะได้หายเฝื่อน)จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดบีบให้แห้ง เอาขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ
2. นำหม้อนึ่งใส่น้ำตั้งไฟให้เดือดเตรียมถาดไว้ใส่ขนมนึ่ง ถาดทาน้ำมันไว้ให้ทั่ว(ขนมจะได้ไม่ติด)
3. ผสมหัวไชเท้าขูดฝอย แป้งข้าวเจ้า แป้งมัน พริกไทย น้ำตาล คลุกให้เข้ากัน และหัวไชเท้ากับเนื้อแป้งจับตัวกันเล็กน้อยหากเนื้อแป้งแห้งให้เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย
4. กรุแป้งลงในถาดความหนาประมาณ 1 นิ้วจากนั้นนำไปนึ่งใช้ไฟแรง นึ่งประมาณ 25-30 นีาท หรือจนกระทั้งสุก พอสุกเอาออกมาพักให้หายร้อน
5.ตัดขนมเป็นชิ้นๆ ขนาดพอคำจากนั้นตั้งกะทะบนเตาใส่น้ำมันพอน้ำมันร้อนเอากระเทียมลงไปเจียวให้พอให้หอม ใส่แป้งขนมผักกาดที่หั่นเป็นชิ้นๆแล้วมากน้อยตามชอบ ลงไปผัดให้พอเหลืองกรอบแล้วเขี่ยไปไว้ข้างกระทะ
6.ใส่ไข่ลงไป ยีๆให้แตกกระจายผัดไข่จนสุก แล้วเขี่ยแป้งรวมกัน ใส่ถั่วงอก กุ้ยช่าย ซีอิ๊วขาว-ดำ น้ำตาล ชิมรสตามชอบ ผัดเร็ว ๆ สองสามทีให้ผักสลด จากนั้นตักขึ้นใส่จานเสริฟคู่กับน้ำส้มพริกดอง พริกป่น ซอสพริกตามชอบ ได้เลยค่ะ



***ถ้าต้องการหวานอีกหน่อยให้เพิ่มน้ำตาลลงไปอีก สูตรนี้เป็นสูตรแป้งน้อยนึ่งเสร็จจะเห็นแต่เนื้อหัวผักกาด ***

ปลานึ่งมะนาว



ส่วนผสม
ปลาสด 1 ตัว  (นกใช้ปลา Sea bass)
พริกขี้หนูสดหั่นซอย ตามชอบ
กระเทียมสับ ตามชอบ
น้ำปลา 2 ชต.
ซีอิ๊วขาว 2 ชต.
น้ำมะนาว  ตามชอบ
น้ำตาลทราย เล็กน้อย
น้ำเปล่า เล็กน้อย
ต้นหอม ผักชีหั่นท่อนเล็ก

วิธีทำ
1.  ขอดเกล็ด ควักเหงือกและไส้ออกให้หมด ล้างให้สะอาด บั้งตัวปลาทั้ง 2 ด้าน พักเตรียมไว้
2.  นำปลาใส่ภาชนะสำหรับนึ่งแล้วนำไปนึ่งท ด้วยไฟแรง ประมาณ 20-25 นาที หรือจนกระทั้งสุก
3.  ผสมน้ำปลา ซีอิ๊วขาว น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และน้ำเปล่า ลงในถ้วย คนให้เข้ากัน ชิมรสชาติเปรี้ยว เผ็ด เค็ม ตามชอบ
4. ใส่กระเทียมและพริกขี้หนู คนให้พอเข้ากัน วางปลานึ่งสุกลงในจานสำหรับเสริฟ ราดน้ำยำ แต่งด้วยมะนาวฝาน และผักชีตามชอบได้เลยค่ะ

ปลาทอดขมิ้น (sea bass)

วันนี้นกขอนำเมนูอาหารปักษ์ใต้ เป็นเมนูที่แม่ทำให้ลูก ๆ ทานอยู่บ่อยครั้ง เหมือนกับคำพูดที่ว่า "เด็กทานได้ผู้ใหญ่ทานดี" ยิ่งโดยเฉพาะวันไหนมีน้ำพริกจะต้องเรียกร้องให้มีปลาทอดขมิ้นอยู่คู่เมนูเสมอ แต่ถ้าใครไม่ชอบทานน้ำพริกหรือไม่มีน้ำพริก ปลาทอดขมิ้นทานกับข้าวสวย หรือข้าวเหนียวร้อน ๆ ก็อร่อยแล้วค่ะ ยิ่งพูดยิ่งหิวมาทำกันเลยดีกว่า





ส่วนผสม
ปลาสดขนาดพอเหมาะ ตามชอบ
ขมิ้น 1 แง่ (ไม่มีใช้แบบผงก็ได้ค่ะ)
กระเทียม 15-20 กลีบ
เกลือ ตามชอบ

วิธีทำ
1. ล้างปลาให้สะอาด จากนั้นบั้งปลาให้ลึกๆ พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2.โขลกขมิ้นให้ละเอียด จากนั้นใส่กระเทียมโขลกต่อพอหยาบๆ จากแล้วเติมเกลือลงไป กะประมาณให้เกลือเค็มพอดีกับตัวปลา
3. นำส่วนผสมที่โขลกเรียบร้อยแล้ว มาทาให้ทั่วตัวปลาทั้งสองด้านและยัดกะเทียมใส่ไว้ในตัวปลา จากนั้นนำไปใส่ในถุงพลาสติก หรือห่อไว้ด้วยกะดาษอลูมินียมฟอยด์ แล้วนำไปแช่ไว้ในตู้เย็นประมาณ2-3 ชม หรือจะทิ้งไว้ 1 วัน ให้ส่วนผสมเข้าไปในเนื้อปลา ( ปลาที่เห็นนกทิ้งไว้ 1 วัน)
4.เมื่อครบกำหนดนำปลาออกจากตู้เย็น เอาน้ำมันใส่กระทะกะให้พอท่วมตัวปลา เปิดไฟในเตาใช้ไฟแรง พอน้ำมันร้อนจัดนำปลาลงทอด จากนั้นหรี่ไฟให้เหลือร้อนปานกลาง (เวลาทอดให้ค่อยตักกะเทียมออกเรื่อย ๆ อย่าให้ไหม้ เพราะจะนำมาโรยบนตัวปลา)
5.ทอดปลาไปจนกระทั้งปลาสุกเหลืองสวยตักใส่จานที่มีกระดาษซับน้ำมันรองพักให้สะเด็ดน้ำมันจากนั้นแล้วจัดลงจานเสริฟได้เลยค่ะ




***เวลาทอดใช้กระทะก้นลึกหน่อยนะค่ะ เดี่ยวปลาจะติดกระทะไหม้ดำนะค่ะ***



คุ๊กกี้สิงค์โปร์




ส่วนผสม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 3 ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
น้ำตาลทรายป่น 100 กรัม
มะม่วงหิมพานต์บด 80 กรัม
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ผ่าครึ่ง 1/4 ถ้วย
ผงฟู 1 ชช
เกลือป่น 1 ชช
เนยขาว 150 กรัม
น้ำมันพืช 3 ชต

วิธีทำ
1. ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ เข้าด้วยกัน 2 ครั้ง
2. คลุกเม็ดมะม่วงหิมพานต์กับน้ำตาลเข้าด้วยกัน เทใส่ในแป้งคนให้ทั่ว ๆ
3. ใส่ไข่ เนยขาว น้ำมัน ลงในแป้ง เคล้าให้เข้ากัน อย่านวด พักแป้งไว้ประมาณ 20 นาที จากนั้นคลึงแป้งออกให้หนาประมาณ 1-1 1/2 ซม. ใช้พิมพ์กดเป็นรูปตามต้องการ กดจนหมดแป้ง
4. ทาด้านหน้าด้วยไข่แดงให้ทั่ว วางทับด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ผ่าครึ่งซีก ทำจนหมด เรียงใส่ถาด นำเข้าอบที่ 150 องศา ประมาณ 25 นาที หรือจนขนมสุก พักให้เย็นจัดใส่กระปุก หรือขวดเสริฟคู่ชา กาแฟยามบ่ายได้เลยค่ะ