ทอดมันปลากระป๋อง

อากาศหนาวเย็นแถมฝนตกอีกไม่ไหวๆ อยู่บ้านคนเดียวเข้าครัวหาเมนูง่าย ๆ ส่วนผสมไม่มากเป็นเมนูกินเล่นระหว่างดูที่วี อย่างปลากระป๋องจับมาทำทอดมันกินคู่กับน้ำจิ้มอาจาดก็อร่อยไปอีกแบบ  ทอดมันกินคู่กับอะไรก็อร่อย แล้วแต่เพื่อนชาวครัวจะเลือกกัน อย่างวันนี้ของนกกินคู่กับน้ำจิ้มค่ะ





ส่วนผสม 
ปลากระป๋อง 1 กระป๋อง (นกใช้กระป๋องใหญ่)
พริกแกงเผ็ด 1 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่  1 ฟอง
ถั่วฝักยาวซอย  ตามชอบ
แป้งทอดกรอบ 3 ช้อนโต๊ะ
ใบโหระพาซอย ตามชอบ
น้ำตาลทราย ตามชอบ
น้ำปลา  เล็กน้อย
น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ 
1.นำปลากระป๋องมาแยกเนื้อและน้ำออก ใส่เนื้อปลาในถ้วยผสมพักไว้
2.ใส่พริกแกงเผ็ด ไข่ไก่ แป้งทอดกรอบ ถั่วฝักยาวซอย ใบโหระพาซอย น้ำตาลทราย และน้ำปลาลงในถ้วยผสม จากนั้นนวดให้แป้งและพริกแกงเข้ากันกับเนื้อปลา พักทิ้งไว้ประมาณ 15-20  นาที
3.ตั้งกระทะใส่น้ำมันบนเตา รอให้น้ำมันร้อน ต้กทอดมันลงทอดให้สุกเหลืองทั้งสองด้านตักขึ้นพักบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมันจัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟคู่น้ำจิ้ม






กระดูกหมูตุ๋นน้ำจิ้มสุกี้

เพื่อน ๆ ชาวครัวคนไหนชอบกินสุกี้ยกมือขึ้น ที่บ้านนกชอบกินสุกี้กันทุกคนโดยเฉพาะสุกี้MK  แต่ช่วงโควิด น้องสาวจะไปนั่งกินที่ร้านก็ไม่ได้ น้องสาวเลยซื้อหม้อมาทำกินที่บ้านเองส่วนน้ำจิ้มจะใช้ของพันทายฯ น้องสาวว่าซอสเค้ากินได้ไม่ต้องเสียเวลามาทำเอง นกเห็นที่ร้านขายของอินเดียมีเลยซื้อมาไว้ที่บ้านบ้างเวลาอยากกินสุกี้ได้ไม่ต้องทำน้ำจิ้มให้เสียเวลา น้ำจิ้มสุกี้นอกใช้กินคู่กับสุกี้แล้วยังนำมาใช้ทำเป็นเมนูตุ๋นได้อีกด้วย





ส่วนผสม 
กระดูกหมู 1/2 กิโลกรัม
กระเทียมทุบ 5 กลีบ
ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย  ตามชอบ
เกลือป่น ตามชอบ
พริกไทยป่น  หยิบมือ
น้ำจิ้มสุกี้ 3 ช้อนโต๊ะ
ซุปหมูก้อน 1 ก้อน
งาขาว 1 ช้อนโต๊ะ
คะน้า ตามชอบ
น้ำเปล่า  สำหรับตุ๋นหมู
น้ำมันสำหรับทอดกระดูกหมู

วิธีทำ 
1.ล้างหั่นกระดูกหมูขาดตามชอบ จากนั้นตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย พอน้ำมันร้อนนำกระดูกหมูลงไปจีให้เหลืองทั่วทั้งสองด้าน ตักขึ้นพักไว้ในหม้อตุ๋น
2.ใส่กระเทียมทุบ น้ำจิ้มสุกี้ ซีอิ้วขาว ซอสหอยนางรม  น้ำตาลทราย พริกไทยป่น เกลือป่น ซุปหมูก้อน และน้ำเปล่า คนให้เข้ากัน เปิดไฟหม้อตุ๋น ตุ๋นไปจนกระดูกหมูเปื่อยสุกนุ่ม ชิมรสตามชอบ
3.ตักใส่ถ้วยโรยด้วยงาขาว น้ำจิ้มสุกี้ พร้อมเสิร์ฟคู่กับผักคะน้าลวกตามชอบ








ปลาต้มขิง




ส่วนผสม 
ปลาเนื้อขาวทอด 4-6 ชิ้น
กระเทียมทุบ 4 กลีบ
หอมทุบ 2 หัว
ขิงซอย  1 แง่ง
ขิงแก่หั่นทอน 1 แง่ง
พริกสด 5-6 เม็ด
พริกไทยป่น ตามชอบ
เกลือป่น   ตา่มชอบ
ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย  ตามชอบ
น้ำเปล่าสำหรับทำน้ำซุป

วิธีทำ 
1.ใส่น้ำเปล่า กระเทียมทุบ หอมทุบ และขิงแก่หั่นท่อน ลงในหม้อต้มตั้งบนเตา พอน้ำเดือดใส่ซุปผักก้อน
รอจนกระทั้งน้ำซุปเดือด
2.ใส่ปลาทอดลงไปต้ม ปรุงรสด้วย  ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย น้ำตาลทราย เกลือป่น พริกไทยป่น ชิมรสตามชอบ
3.รอให้เดือดอีกครั้ง ใส่พริกสด ต้นหอมและผักชี คนให้เข้ากัน จากนั้นยกลงจากเตาตักใส่ชามยกเสิร์ฟ 








ผัดพริกแกงกระดูกหมู หน่อไม้ฝรั่ง




ส่วนผสม 
กระดูกหมูต้มสุก 350 กรัม
หน่อไม้ฝรั่ง 1 มัด
ใบโหระพา 1 กำมือ
พริกชี้ฟ้า 5 เม็ด
พริกแกงเผ็ด  1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำตาลทราย  ตามชอบ
นมสด 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืชสำหรับผัด

วิธีทำ  
1.ล้างหั่นหน่อไม้ฝรั่ง เป็นท่อน ๆ ขนาดตามชอบ ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันสำหรับผัด รอให้น้ำมันเริ่มร้อนใส่พริกแกงเผ็ดลงผัดให้พอหอม 
2.ใส่กระดูกหมูต้มสุกลงไปผัดให้เข้าเครื่องแกง
3.ใส่หน่อไม้ฝรั่งปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย ใส่นมสดชิมรสตามชอบ รอจนทุกอย่างสุกใส่พริกชี้ฟ้าและใบโหระพาผัดให้เข้ากันปิดไฟในเตา ตักใส่จานยกเสิรฟ์









แกงกิมจิจีเก (Kimchi Jjigae) หรือ กิมจิชีเก (김치찌개)

อันยองฮาเซโย.... จ้าเพื่อน ๆ ชาวครัว วันนี้นกมาช่วนเพื่อน ๆ ทำเมนูอาหารเกาหลีที่หลาย ๆ คนรู้จักกันดีจากซีรีส์เกาหลีที่เราเห็นกันอยู่เป็นประจำKimchi (김치) คือ ผักดองเกาหลี ส่วน Jjigae (찌개 ) คือ สตูว์ พอรวมกันแล้วก็เป็น สตูว์กิมจินั้นเอง กิมจิชีเก เป็นเมนูพื้นบ้านๆ ของคนเกาหลีที่เค้าทำกินกันทุกบ้าน สำหรับกิมจิที่นกใช้วันนี้เป็นกิมจิที่นกทำเอง หากเพื่อนสนใจแวะอ่านได้จากลิงค์นี้นะค่ะ https://pinkroselove-nd.blogspot.com/2016/11/blog-post_42.html




ส่วนผสม 
กระดูกหมู  1/2 กิโลกรัม
เต้าหู้แข็ง 2 ก้อน
กิมจิพร้อมน้ำกิมจิ 1 ถ้วย
โคชูจัง 2 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงหัวใหญ่ 2 หัว
ต้นหอม 4 ต้น
เกลือป่น ตามชอบ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย  ตามชอบ
ซุปหมูก้อน 1 ก้อน
น้ำเปล่าสำหรับทำน้ำแกง

วิธีทำ  
1.ล้างหั่นกระดูกหมูเป็นชิ้นๆ ขนาดตามชอบ ล้างพักให้สะเด็ดน้ำ หั่นหอมใหญ่ ซอยต้นหอมพักไว้ จากนั้นตั้งหม้อน้ำเปล่าบนเตาใส่ซุปหมูก้อนลงไป รอให้พอเดือนใส่กระดูกหมูลงต้มให้สุกนิ่ม
2.หั่นเต้าหู้แข็งเป็นชิ้น ขนาดตามชอบ จากนั้นตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันลงในกระทะรอให้น้ำมันร้อน นำเต้าหู้แข็งลงทอดให้เหลือง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
3.ใส่น้ำมันในกระทะเล็กน้อยพอน้ำม้นร้อนใส่หอมแดงลงผัดให้พอหอม ตักใส่ลงในหม้อกระดูกหมู
4.ใส่กิมจิพร้อมน้ำกิมจิ โคชูจัง ปรุงรสด้วย เกลือป่น น้ำปลา น้ำตาลทราย และน้ำมันงา คนทุกอย่างให้เข้ากันชิมรสตามชอบ 
5.ต้มให้เดือดอีกรอบใส่เต้าหู้ที่ทอดเอาไว้ คนให้ทั่ว ๆ ปิดไฟในเตาตักใส่ถ้วยโรยต้นหอมยกเสิร์ฟ












ปลา​​แซลมอนทอดซอสส้ม

หากพูดถึงปลาที่บ้านชอบซื้อบ่อย ๆ คงจะเป็นปลาแซลมอน นกจะซื้อเก็บแช่แข็งเวลาห้างฯ ลดราคาปลาแซลมอน ซื้อเป็นตัว ๆ ให้เค้าหั่นชิ้นขนาดที่เราชอบ เวลาซื้อทั้งตัวส่วนใหญ่ นกจะบอกให้เก็บส่วนหัว ส่วนพุงปลาไว้ให้ด้วย เพราะคนที่นี้เค้าไม่เอากลับบ้านกัน เค้าเอาแต่ส่วนเนื้อปลาเท่านั้น ที่บ้านนกจะเอาส่วนหัว ส่วนพุงไว้แกงส้ม หากเพื่อน ๆ สนใจแวะอ่านได้จากลิงค์นี้ได้เลย เป็นสูตรแกงส้ม หรือแกงเหลืองแบบปักษ์ใต้  http://pinkroselove-nd.blogspot.com/2023/03/blog-post_3.html



ส่วนผสม 
ปลาแซลมอน  4 ชิ้น
น้ำส้ม 2 ผล
แป้งทอดกรอบ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น หยิบมือ
พริกไทยป่น  หยิบมือ
น้ำซุปไก่ สำหรับผสมน้ำซอส
เนยสดรสเค็ม 50 กรัม
น้ำมันพืชสำหรับทอด 

วิธีทำ 
1.ตั้งกระทะบนเตาโรยน้ำตาลทรายให้ทั่ว ๆ กระทะ ใช้ไฟกลางรอให้น้ำตาลทรายละลาย จากนั้นใส่น้ำส้มและน้ำซุปไก่ลงไปเคี่ยวจนซอสเริ่มเหนียว ใส่เนยสด ปรุงรสด้วยเกลือป่น และพริกไทยป่น คนให้ทุกอย่างเข้ากันชิมรสตามชอบ พักไว้
2.นำปลาแซลมอนมาล้างทำความสะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ นำกระดาษมาซับชิ้นปลาให้แห้งสนิท โรยเกลือป่น พริกไทยป่น คลุกกับแป้งทอดกรอบบาง ๆ ให้ทั่ว ๆ ชิ้นปลา
.ตั้งกระทะใส่น้ำมันสำหรับทอดปลา ใช้ไฟกลาง พอน้ำมันร้อนนำปลาแซลมอนที่ชุบแป้งไว้ลงไปทอดจนสุกเหลืองทั้งสองด้าน ตักปลาขึ้นพักบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน นำปลามาจัดใส่จานราดด้วยซอสส้ม ยกเสิรฟ์ผักต้มตามชอบ 









ข้าวผัดโคชูจัง

นกเคยลงสูตรและวิธีทำพริกโคชูจัง หรือโกชูจังที่ทำไว้ในห้องน้ำพริก เพื่อน ๆ ชาวครัวหากสนใจลงแวะเข้าไปอ่านสูตรตามลิงค์นี้ได้เลย https://nd-thaifood4.blogspot.com/2017/04/kochujan-saucegochujang-sauce.html  ข้าวผัดโคชูจังเป็นข้าวผัดเกาหลีที่นกทำกินอยู่บ่อย วิธีการง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากเพื่อนๆ ชาวครัวทำเองที่บ้านได้เลยค่ะ



ส่วนผสม 
ข้าวสวยเย็น  1 ถ้วย
กระเทียม 5  กลีบ
เนื้อไก่ต้มสุก 180 กรัม
กุ้งต้มสุก 8-10 ตัว
พริกโคชูจัง 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 2  ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย เล็กน้อย
ไข่ไก่ 3 ฟอง
พริกไทยป่น  ตามชอบ 
ผักกระหล่ำ 1/4  หัว
มะเขือเทศ 4 ผล
ต้นหอม 4 ต้น
น้ำมันพืชสำหรับผัด

วิธีทำ  
1.หั่นผักกะหล่ำ ต้นหอม มะเขือเทศ ขนาดตามชอบ นำข้าวสวยเย็นคลุกกับพริกโคชูจัง 
2.ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันในกระทะ พอน้ำมันเริ่มร้อน ใส่กระเทียม เนื้อไก่ลงไปผัดให้เข้ากัน แล้วใส่ใบกะหล่ำ ผัดให้ผัดเริ่มสุก
3.นำข้าวสวยที่คลุกพริกโคชูจังไว้ใส่ลงในกระทะ ใส่กุ้ง หอมใหญ่ มะเขือเทศผัดและต้นหอม ปรุงรสด้วย ซอสปรุงรสและน้ำตาลทราย ชิมรส 
4.ผัดเร็ว ๆ ให้เข้ากันอีกครั้ง พอทุกอย่างสุกตักใส่จานยกเสิรฟ์พร้อมด้วยไข่ดาว แตงกวา มะนาว ได้เลย








ปลาหมึกต้มตะไคร้

วันนี้นกทำปลาหมึกต้มตะไคร้แซบๆ กิน ช่วงนี้อากาศหนาว ๆ ทำให้รู้สึกคัดจมูกขึ้นมา ปลาหมึกที่ใช้วันนี้เป็นปลาหมึกกล้วยแช่แข็งตัวใหญ่ จริงๆ แล้วอยากได้ปลาหมึกไข่ตัวไม่ต้องใหญ่มากนักมาต้ม แต่ไม่มีเอาเท่าที่ได้ทำกินไปก่อน ว่าแล้วไปเข้าครัวกันเลยจ้า





ส่วนผสม 
ปลาหมึก 3 ตัว
ตะไคร้ 2 ต้น
หอมแดงหัวใหญ่  1 หัว
ซุปไก่ก้อน  1 ก้อน
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำมะนาว ตามชอบ
มะเขือเทศ  1 ผล
พริกสด 4  เม็ด
เกลือป่น  เล็กน้อย
น้ำเปล่าสำหรับทำน้ำซุป

วิธีทำ
1.ล้างหั่นปลาหมึกเป็นชิ้นตามชอบ หั่นซอยตะไคร้  หอมแดงหัวใหญ่ ต้นหอม มะเขือเทศ และพริกสดพักไว้
2.ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่า ซุปไก่ก้อน ตะไคร้ซอย หอมแดง ต้มให้น้ำซุปเดือด 
3.ใส่ปลาหมึกลงไปต้มต่อจนกระทั้งปลาหมึกสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือป่น
4.ใส่ต้นหอม มะเขือเทศคนให้เข้ากัน ตักปลาหมึกต้มตะไคร้ใส่ถ้วย โรยด้วยพริกซอย และใส่น้ำมะนาว ยกเสิรฟ์


แกงส้มหัวปลา พุงปลาแซลมอน






ส่วนผสม 
หัวปลาพุงปลาแซลมอน 1 ตัว
น้ำพริกแกงส้ม 2 ช้อนโต๊ะ
สับปะรด 1 ถ้วย
กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ ตามชอบ
น้ำมะนาว ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ
เกลือป่น เล็กน้อย
น้ำเปล่า สำหรับทำน้ำแกง

วิธีทำ 
1.หั่นชิ้นหัวปลา พุงปลา ล้างทำความสะอาดพักให้สะเด็ดน้ำ 
2.เปิดไฟในเตาใช้ไฟแรง เอาน้ำใส่ในหม้อแกงยกขึ้นตั้งบนเตาต้มให้น้ำเดือด ใส่พริกแกงและกะปิคนให้ละลาย 
3.ใส่หัวปลาพุงปลาแซลมอนลงไปต้มให้สุก  
4.ใส่สับปะรดลงไปต้มปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือป่น น้ำมะนาวชิมรสตามชอบ รอให้เดือดอีกครั้งปิดไฟในเตาตักเสิร์ฟได้เลย








ยำหมูอบแตงกวา






ส่วนผสม
หมูอบ 1 ถ้วย
แตงกวา 1/2  ลูก
หอมใหญ่ 1/2 หัว
มะเขือเทศ 2 ผล
ต้นหอม 2 ต้น
พริกสด 4 เม็ด
น้ำมะนาว ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำตาลทราย  ตามชอบ

วิธีทำ 
1.นำหมูอบมาหั่นชิ้นขนาดตามชอบ ล้างหั่นแตงกวาขนาดบาง ๆ  หั่นหอมใหญ่  พริกสด ต้นหอม และมะเขือเทศพักไว้ 
2.ในอ่างผสม ใส่น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทรายคนให้ทุกอย่างเข้ากันน้ำตาลละลายดี ชิมรส
3.ใส่หมูอบ แตงกวา หอมใหญ่ มะเขือเทศ ต้นหอม พริกสดลงไปคุลกกับน้ำยำ จัดใส่จานยกเสิรฟ์


ต้มจืดปีกไก่กวางตุ้ง

ปีกไก่ที่นี้เค้าขายใส่กล่องมาเรียบร้อยแล้ว กล่องหนึ่งก็ประมาณกิโลกรัมเห็นจะได้ ซื้อมาแต่ละครั้งก็แบ่งปีกไก่บนล่าง จากนั้นแบ่งเก็บใส่ถุงคะกันไปเก็บเข้าช่องแช่แข็ง เพราะทำกินครั้งเดียวไม่หมด เอาไว้ทำเมนูอื่นบ้าน แฟนคลับชอบกินแบบทอด เวลาทอดนกจะทอดหมดเลย ถ้าเป็นแบบต้มไม่ค่อยชอบสักเท่าไร เลยต้องแบ่งมาทำพอกินคนเดียวเท่านั้น






ส่วนผสม 
ปีกไก่ 8 ปีก
ผักกวางตุ้ง 1 กำมือ
วุ้นเส้น 1 ห่อ 
กระเทียมทุบ 2 กลีบ 
หอมทุบ 1 หัว
ต้นหอมผักชี  ตามชอบ
ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
ซุปหมูก้อน 1 ก้อน
เกลือป่น  ตามชอบ
น้ำตาลทราย  เล็กน้อย
พริกไทยป่น  ตามชอบ
น้ำมันกระเทียมเจียว ตามชอบ
น้ำเปล่าสำหรับทำน้ำซุป

วิธีทำ 
1.ล้างทำความสะอาดปีกไก่พักให้สะเด็ดน้ำ ล้างหั่นผักกวางตุ้ง ต้นหอมและผักชีเป็นทอน ๆขนาดตามชอบ 2.นำวุ้นเส้นไปแช่น้ำ พักไว้ ตั้งหม้อน้ำเปล่าใส่ซุปก้อน  กระเทียมทุบ หอมทุบ ยกขึ้นตั้งบนเตาใช้ไฟแรงรอจนกระทั้งน้ำเดือด ใส่ปีกไก่ลงไป รอให้ปีกไก่เริ่มสุก 
3.ใส่ผักกวางตุ้ง ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำมันหอย เกลือป่น น้ำตาลทราย พอทุกอย่างสุก ชิมรส
4.ใส่วุ้นเส้นลงต้มต่อ รอให้วุ้นเส้นสุก ใส่ต้นหอมผักชีคนให้เข้ากันปิดไฟในเตาตักใส่ถ้วย โรยด้วยน้ำมันกระเทียมเจียวยกเสิร์ฟ











พะโล้เต้าหู้


นกชอบกินเต้าหู้มากๆ เมนูนี้ถือว่าเป็นเมนูที่ชอบมา่กที่สุด กินได้บ่อย ๆ ครั้งไม่ค่อยได้ทำสักเท่าไร เพราะแฟนคลับไม่ชอบกินเต้าหู้ เค้าบอกว่ามันไม่มีรสชาติอะไรเลย เคยบอกกับแฟนคลับว่าอยู่ที่เรานำไปปรุงมันจะได้รสชาติของอาหารที่เราใช้เต้าหู้ทำ



ส่วนผสม 
เต้าหู้แข็ง 2 ก้อน
ฟองเต้าหู้ 3 แท่ง
โปรตีนเกษตร 2 กำมือ
เก๋ากี้ 1 กำมือ
น้ำตาลปี๊บ 3  ก้อน
ซีอิ๊วหวาน  1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาวเจ  2  ช้อนโต๊ะ
ซอสถั่วเหลือง  2  ช้อนโต๊ะ
ผงพะโล้  1  ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น เล็กน้อย
น้ำมันพืช น้ำเปล่าสำหรับต้ม

วิธีทำ 
1.นำฟองเต้าหู้ โปรตีนเกษตรแช่น้ำให้ฟองตัว นำขึ้นจากน้ำพักไว้ หั่นเต้าหู้เป็นชิ้นใหญ่ ขนาดตามชอบ ตั้งกระทะเอาเต้าหู้ลงไปทอดให้เหลือง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน
2.ใช้กระทะใบเดิมตักน้ำมันออกให้เหลือนิดหน่อย จากนั้นใส่น้ำตาลปี๊บลงผัดให้น้ำตาลปี๊บละลาย ใส่ซีอิ๊วหวาน  ซีอิ๊วขาวเจ  ซอสถั่วเหลือง  ผงพะโล้ และน้ำเปล่า
2.ใส่เต้าหู้แข็ง ฟองเต้าหู้ โปรตีนเกษตร ต้มจนน้ำเดือดใส่เก๋ากี้ ชิมรสตามชอบ รอให้ทุกย่างสุกได้ที่ตักใส่ชามยกเสิรฟ์





ปีกไก่ทอดเกาหลีซอสส้ม

ช่วงนี้อะไรก็แพงไปหมดเรียกว่ายุดข้าวยากหมากแพงก็ว่าได้จะ หลังจากโควิด19 ค่าครองชีพสูงขึ้นเยอะในประเทศ หลาย ๆ ครอบครัวเริ่มจะลำบากช่วงนี้บางครอบครัวต้องอาศัย Food Bank (ธนาคารอาหาร- a place where people in need can go to get free food) ยิ่งมีข่าวว่าค่าไฟฟ้าจะขึ้นอีกทำให้คนเริ่มคิดหนักเพราะเข้าหน้าหนาวต้องใช้ไฟฟ้าในการปรับอุณหภูมิในบ้าน นานๆจะคุยเรื่องหนัก ๆ กับเพื่อน ๆ ชาวครัวสักครั้งอย่าพึ่งเบื่อกันเสียก่อน ถือว่าเป็นการเล่าสู่กันฟังก่อนทำกับข้าว





ส่วนผสม 
ปีกไก่  1/2 กิโลกรัม
เกลือป่น ตามชอบ
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
กระเทียมผง  1 ช้อนโต๊ะ
แป้งทอดกรอบ  3 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ (หากชอบหวานมากเพิ่มน้ำตาลทรายได้)
น้ำเปล่า  เล็กน้อย
น้ำส้ม  1  ผล
ซอสปรุงรส ตามชอบ
Gochujang (โคชูจัง) 2 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมผักชีซอย  ตามชอบ
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง 2 เม็ด
ส้มหั่นชิ้น 1/2 ผล
งาขาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ 
1.นำปีกไก่มาหั่นชิ้นแบ่งปีกบนปีกล่าง แล้วล้างทำความสะอาดพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ 
2.นำปีกไก่ไปหมักด้วยเกลือป่น กระเทียมผงและพริกไทย คลุกให้เข้ากันหมักทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ครบกำหนดนำไปคลุกกับแป้งทอดกรอบให้ทั่วชิ้น นำลงทอดให้สุกกรอบ พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
3.ตั้งกระทะบนเตาใช้ไฟอ่อน ใส่น้ำตาลและน้ำเปล่าเล็กน้อยลงกระทะ รอให้น้ำตาลละลายจนหมดทิ้งไว้ให้น้ำตาลเริ่มมีสีน้ำตาลอ่อน ๆ จากนั้น เติมน้ำส้มลงไป ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส และGochujang (โคชูจัง) คนให้ส่วนผสมเข้ากัน ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำ เทลงกระทะคนเร็ว ๆ ให้ซอสเหนียวข้น ชิมรส โรยด้วยต้นหอมผักชี 
4.นำปีกไก่ทอดไว้มาคลุกเคล้ากับซอสส้มให้ทั่วชิ้นไก่ จัดใส่จาน ตกแต่งด้วยส้มหั่นชิ้น พริกชี้ฟ้าแดงแล้วโรยงาขาว ยกเสิรฟ์









แกงส้มปลากะพงยอดมะพร้าว






ส่วนผสม

ปลากะพงหั่นชิ้น 1/2 กิโลกรัม
ยอดมะพร้าวอ่อนหั่นชิ้น 1 หัว
น้ำพริกแกงส้มใต้ 2 ช้อนโต๊ะ
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา  ตามชอบ
น้ำตาลปี๊บ  ตามชอบ
น้ำมะขาม   ตามชอบ (นกใช้มะขามเปียก 1 ก้อนประมาณ 30 กรัม  )
น้ำมะนาว  ตามชอบ  (นกใช้มะนาว 1 ลูก)
น้ำเปล่า สำหรับต้มน้ำแกง

วิธีทำ
1.เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลางค่อนข้างร้อน จากนั้นเอาน้ำใส่หม้อแกงยกขึ้นตั้งบนเตาพอน้ำเดือด ใส่น้ำพริกแกงส้ม และกะปิคนให้ละลายเข้ากัน
2. ใส่ปลาลงในหม้อแกง พอปลาเริ่มสุก ใส่ยอดมะพร้าวอ่อนลงต้มต่อปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขาม คนให้เข้ากันชิมรสตามชอบ (หากยังเปรี้ยวไม่พอให้เติม น้ำมะนาว /น้ำส้มสายชู เพิ่มรส) ปรุงให้ทุกอย่างสุกเข้ากัน ปิดไฟในเตา ยกเสิร์ฟได้เลย


ข้าวฟ่างเปียก

ข้าวฟ่างเปียกเป็นของหวานที่ไปร้านขายขนมหวานก็จะมองดูตลอดว่าที่ร้านมีขายหรือเปล่า เวลากลับบ้านก็จะให้น้องสาวซื้อจากตลาดมาให้กินบ่อยครั้ง ข้าวฟ่างนี้นกซื้อจากร้านขายของคนอินเดีย ที่นั้นมีข้าวฟ่างขาย ถุงขนาด 250 กรัม ขนาดกำลังดี ไม่เยอะจนเกินไป สำหรับร้านขายของคนอินเดียร้านนี้นกเป็นลูกค้านานตั้งแต่เค้ามาเปิดร้านในเมือง ที่ร้านขายของเยอะดี ราคาก็พอสู้ได้อยู่





ส่วนผสม 
ข้าวฟ่าง 1 ถ้วย
น้ำเปล่าสำหรับต้มข้าวฟ่าง 2 ถ้วย 
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
แป้งเท้ายายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่าเล็กน้อยสำหรับละลายแป้งเท้ายายม่อม
หัวกะทิ 1 ถ้วย
เกลือป่น หยิบมือ
แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่าเล็กน้อยสำหรับละลายแป้งข้าวเจ้า

วิธีทำ
1.ล้างทำความสะอาดข้าวฟ่างพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2.ตั้งหม้อใส่น้ำต้มบนเตาต้มจนน้ำเดือด ใส่ข้าวฟ่างลงต้มจนข้าวฟ่างบาน ใส่น้ำตาลทรายลงไป จากนั้นละลายแป้งเท้ายายม่อมกับน้ำเปล่าลงในหม้อข้าวคนให้ข้น ปิดไฟยกลงจากเตา
3.ตั้งหม้อใส่หัวกะทิกับเกลือป่นลงไปต้มไฟอ่อนให้พอเดือด ใส่แป้งข้าวเจ้าผสมน้ำคนให้น้ำกะทิข้นชิมรสให้ออกเค็มๆ ยกลงจากเตา
4.ตักข้าวฟ่างใส่ถ้วยราดหน้าด้วยกะทิยกเสิรฟ์


ต้มกระดูกหมูใบชะมวง





ส่วนผสม
กระดูกอ่อน 500 กรัม
ใบชะม่วง 2 กำ
หอมแดง 2 หัว
กระเทียม 4 กลีบ
เกลือป่นตามชอบ
ซุปหมูก้อน  1 ก้อน
น้ำเปล่า สำหรับทำน้ำซุป

วิธีทำ
1 นำกระดูกอ่อนมาล้างทำความสะอาด  จากนั้นล้างด้วยน้ำต้มสุก อีกรอบเทน้ำทิ้งพักให้สะเด็ดน้ำ
2 เด็ดและหั่นใบชะมวงขนาดตามชอบ แช่น้ำทิ้งไว้สักพัก จากนั้นล้างทำความสะอาด พักไว้
3 ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่าบนเตา ใส่ซุปหมูก้อน หอมแดงบุ กระเทียมบุลงไป รอจนกระทั้งน้ำเดือด 
4ใส่กระดูกอ่อนต้มเคี่ยวจนกระดูกอ่อนสุกเปื่อยนุ่ม ใส่ใบชะม่วง ปรุงรสด้วยเกลือป่น ชิมรสตามชอบปิดไฟ ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ




บ๊ะจ่าง

บ๊ะจ่างเป็นอาหารจีนมงคล สำหรับคนที่มีเชื้อสายจีนจะรู้จักเทศกาลไห้ว บ๊ะจ่างกันเป็นอย่างดี ที่บ้านชอบกินบ๊ะจ่างกันทุกคน โดยเฉพาะแม่ และน้องสาว เป็นนักชิมก็ว่าได้ เวลาออกไปซื้อของที่ตลาดคนจีนจะซื้อกลับบ้านเป็นประจำ พอนกมาอยู่ที่นี้ก็ไม่ได้กิน หากอยากกินจริง ๆ ก็ต้องทำ นกใช้สูตรนี้ทำแบบไม่ใช้ใบไผ่จีนอยู่หลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้โชคดีได้ใบไผ่จีน มาทำบ๊ะจ่างเลยนำสูตรมาลงในครัวให้เพื่อนๆ ชาวครัวได้ชิมกัน บ๊ะจ่างที่ทำนกใส่ถั่วลิสงเล็กน้อย เพราะส่วนตัวไม่ชอบค่อยกินถั่วลิสงในบ๊ะจ่างสักเท่าไร





ส่วนผสม บ๊ะจ่าง 
ข้าวเหนียว 1/2 กิโลกรัม 
ไช้โป๊วสับหยาบ 1/2 ถ้วยตวง
ถั่วลิสง เล็กน้อย  (ล้างน้ำสะอาดพักให้แห้ง)
กระเทียมเจียว ตามชอบ
เกลือป่น ตามชอบ
พริกไทยป่น ตามชอบ
น้ำตาลทราย ตามชอบ
ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม ตามชอบ
ซีอิ้วดำ ตามชอบ

วิธีทำ 
1.นำข้าวเหนียวแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง หรือจนเม็ดข้าวเหนียวนุ่มรินน้ำออกให้หมด 
2.ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันในกระทะ รอให้น้ำมันเริ่มร้อนเทข้าวเหนียวลงไปผัด ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ น้ำตาลทราย และพริกไทยป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรส

ส่วนผสมไส้บ๊ะจ่าง 
กุนเชียงทอด 1 ถ้วย (หั่นเป็นชิ้นพอคำ)
ไข่แดงเค็ม 5 ฟอง  (แบ่งครึ่งไข่แดง)
เห็ดหอม 10 ดอก (หั่นครึ่งดอกแช่น้ำ)
แป๊ะก๊วย ตามชอบ
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ตามชอบ 
กุ้งแห้ง 2 กำมือ (แช่น้ำให้นุ่ม นำขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ)
หมูเนื้อสันนอก 280 กรัม (หั่นเป็นชิ้นพอคำ)
ใบไผ่จีน 10 ใบ (แช่นำให้นุ่ม เช็ดด้วยผ้าให้แห้ง) 

วิธีทำ 
1.ตั้งกระทะบนเตาใส่น้ำมันเล็กน้อย นำเนื้อหมูลงผัดให้พอเริ่มสุก จากนั้นใส่กุ้งแห้ง เห็ดหอม แป๊ะก๊วย เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย และพริกไทย ชิมรสตามชอบ 
2.ม้วนใบไผ่ให้เป็นกรวยแล้วตักข้าวเหนียวผัดใส่ลงไปครึ่งกรวย หยิบส่วนผสมของไส้ที่ผัดทั้งหมด ตามด้วยกุนเชียง ไข่แดงเค็ม 
3.ตักข้าวเหนียวอัดข้างบนจนมิดจึงห่อใบไผ่มัดด้วยเชือกแล้วนำไปต้มน้ำเดือดจนสุกยกขึ้นผึ่งให้เย็นพร้อมเสิร์ฟ











ครองแครงกรอบ

วันนี้ชวนเพื่อน ๆ ชาวครัวมาทำขนมไทยทอดกรอบๆ หวานมันอร่อย ทำเก็บไว้กินเพลิน ๆ ตอนดูทีวี ยิ่งช่วงนี้หน้าหนาวไม่ค่อยออกไปเที่ยว สำหรับสูตรที่นกทำเป็นสูตรง่าย ๆ ทำครั้งหนึ่งเก็บไว้กินได้หลายวันเลยที่เดียว 





ส่วนผสมตัวแป้ง
แป้งสาลีเอนกประสงค์ 2 ถ้วย
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
ไข่ 1 ฟอง
กะทิ  1/2 ถ้วย (นกใช้กะทิกระป๋อง ไม่ได้แยกหัวกะทิ หางกะทิ)
น้ำปูนใส  2 ช้อนโต๊ะ  (ถ้าไม่มี ไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ)
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมน้ำตาลเคลือบ
พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ
รากผักชี  2  ราก
กระเทียม  6  กลีบ
น้ำตาลปีบ 1/2 ถ้วยตวง
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า เล็กน้อย
น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ
1.ร่อนแป้งสาลี ครั้ง นำแป้งสาลีที่ร่อนแล้ว ผสมกับ  ไข่ไก่ น้ำปูนใส เกลือป่น และน้ำมันพืช นวดให้เข้ากันเติมน้ำลงได้อีกเล็กน้อยหากแป้งยังไม่ปั่นไม่ดีพอ จากนั้นพักแป้งให้คลายตัว ประมาณ10-15 นาที นำแป้งที่ได้ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ  นำไปกดบนพิมพ์ พักไว้ใส่ถาด (ปูผ้าขาวบาง)
2.โขลก รากผักชี พริกไทยป่น และกระเทียมให้ละเอียดพักไว้
3.ตั้งกระทะบนเตา ใส่น้ำมันสำหรับทอด เปิดไฟในเตา ใช้ไฟแรงปานกลาง  พอน้ำมันร้อนใส่แป้งที่กดไว้ ทีละน้อยทอดจนกรอบ ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน พักไว้ (ทอดจนกระทั้งหมดแป้ง)
4.ใช้กระทะใบเดิม เทน้ำมันที่ทอดออก เหลือเพียงเล็กน้อย จากนั้น ใส่น้ำตาลและน้ำเคี่ยวพอเริ่มเหนียว
5.ใส่สามเกลอที่โขลกไว้ ผักชี ใบหอมซอย ลงผัด เติมน้ำปลาคนพอเข้ากัน เทขนมที่ทอดไว้ลงเคล้าให้ น้ำตาลจับตัวขนมให้ทั่วตักใส่ถาด กระจายให้ทั่ว ๆ ถาดอย่าให้ตัวขนมซ้อนกัน ผึ่งตัวขนมให้เย็นเก็บบรรจุกล่องได้เลย







ผัดผักกระเฉดน้ำมันหอย

ผักกระเฉด เป็นพืชที่เกิดตามผิวน้ำ ลำต้นเป็นเถา มีใบคล้ายๆกับใบกระถิน ระหว่างข้อจะมีปอดเป็นฟองสีขาวหุ้มลำต้น ใบจะหุบในตอนกลางคืน จึงเรียกกันว่า “ผักรู้นอน”  ผักกระเฉดมีคุณค่าทางอาหารหลายอย่าง โดยเฉพาะคนธาตุไฟและธาตุดินจะช่วยให้ร่างกายเกิดความสมดุลไม่เจ็บป่วยได้ง่าย และยังช่วยในเรื่องของการขับถ่าย ป้องกันโรคท้องผูกอีกด้วย 





ส่วนผสม
ผักกระเฉด2 กำ
กระเทียม 6 กลีบ
พริกสด   ตามชอบ
น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย  เล็กน้อย
ซีอิ้วขาว1/2 ช้อน
น้ำซุป หรือน้ำเปล่า เล็กน้อย
น้ำมันพืช สำหรับผัด

วิธีทำ
1.เด็ดยอดผักกระเฉด ล้างทำความสะอาด ทุบกระเทียม พริกสด พักไว้
2.ตั้งกระทะใส่น้ำมันสำหรับผัดบนเตา ใช้ไฟแรงรอจนกระทั้งน้ำมันร้อน ใส่พริกสด และกระเทียมผัดให้หอม
3.ใส่ผักกระเฉด ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย น้ำตาล เต้าเจี้ยว และน้ำซุป ผัดให้เข้ากัน
4.ผัดจนผักสลด ปิดไฟในเตาแล้วตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ






ปลากระบอกต้มขมิ้น

ที่บ้านเวลาซื้อปลากระบอกแม่มักจะบอกว่าให้ซื้อตัวโต ๆ หน่อย เวลาทำแกง ทำต้ม เวลากินจะได้เห็นก้างปลาชัด นั้นเป็นคำพูดของแม่ ซึ่งเราลูก ๆ ก็จำคำบอกของแม่และทำแบบนี้เป็นประจำ ปลากระบอกเป็นปลาที่แม่และน้องสาวนั้นชอบมากๆ ถ้าเห็นตัว ๆ ก็จะซื้อมาทำเมนูต้มขมิ้นเป็นประจำ




ส่วนผสม
ปลากระบอก 3 ตัว 
หอมแดง 2 หัว
กระเทียม 4 กลีบ
ตะไคร้ 2 ต้น
ส้มแขก ตามชอบ
ขมิ้นสด ตามชอบ  (นกใช้ประมาณ 2 ท่อนเล็ก ๆ )
เกลือป่น  ตามชอบ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ (ใส่ให้พอหอม ๆ)
น้ำเปล่า สำหรับต้มปลา

วิธีทำ
1. ขอดเกล็ด ควักไส้ทิ้ง ตัดหัวหั่นชิ้นใหญ่ ๆ สำหรับต้ม จากนั้นล้างให้สะอาด พักทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2. ทุบหั่นตะไคร้เป็นท่อน  แล้วบุบหอมแดง กระเทียม และขมิ้น ใส่ลงในหม้อน้ำเปล่า นำไปตั้งไฟ ใช้ไฟแรง ต้มให้น้ำเดือด
3. ใส่ส้มแขก เกลือป่น น้ำปลา ปรุงรสตามชอบ จากนั้นใส่ปลากระบอกลงไป ต้มจนปลาสุกปิดไฟในเตาตักใส่ถ้วยยกเสิร์ฟร้อนๆ




เต้าทึงน้ำพุทราจีน

ส่วนใหญ่แล้วเต้าทึงจะต้องมีลำใยแห้งไว้ทำน้ำลำใย  แต่ถ้าเพื่อนชาวครัวไม่มีก็ใช้พุทราจีนต้มน้ำแทนน้ำลำใยก็ได้เช่นกัน ต้าทึงนั้นไม่ได้ทำอยาก และยุ่งยากเรื่องเครื่องผสมในเต้าทึง ยิ่งอากาศร้อน ๆ ได้กินเต้าทึงเย็นๆ ดับร้อนใส่น้ำแข็งดับร้อน แต่ถ้าหน้าหนาว ต้มกินอุ่น ๆ ไล่ความหนาวก็ได้เช่นกัน





ส่วนผสม
ลูกเดือยต้มสุก 1/2 ถ้วย
ถั่วแดงต้มสุก 1/2 ถ้วย
ถั่วขาวต้มสุก 1/2 ถ้วย
แปะก๊วยต้มสุก 1/2 ถ้วย
วุ้นหั่นเต๋า  1/2 ถ้วย
พุทราแห้ง 1/4 ถ้วย
ลำไยแห้ง   1/2 ถ้วย (ุถ้ามี)  
น้ำตาลทรายแดง 1 ถ้วย
น้ำเปล่า 2 ถ้วย
 
วิธีทำ
1. แช่งพุทธทราแห้งในน้ำ ประมาณ 30 นาที จนพองตัว
2. เปิดไฟในเตาใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำตาลทราย น้ำเปล่า ลำไยแห้ง (ุถ้ามี) และพุทราลงต้มจนสุก ปิดไฟในเตา
3. ใส่ลูกเดือด ถั่วแดง ถั่วขาว แปะก๊วย วุ้น ในถ้วยสำหรับเสริฟ ราดด้วยน้ำต้มพุธทรา ยกเสริฟร้อนๆ ได้เลยแต่หากต้องการกินแบบเย็นๆ ก็ให้ใส่น้ำแข็งลงไปเป็นอันเสร็จ