เป็ดอบ/ข้าวหน้าเป็ด


เป็ดอบ/ข้าวหน้าเป็ด นาน ๆ นกจะอบเป็ดทั้งตัวสักครั้งเหตุเพราะมันแพงจริงๆ ถ้าจะซื้อยกตัว ส่วนใหญ่นกจะซื้อหน้าอกที่ตัดขายเป็นชิ้น ๆ ไว้อบ แกง หรือไม่ก็น่องเป็ดไว้ทำก๋วยเตียว  หากจะซื้อทั้งตัวจะต้องคอยว่าเมื่อไรห้างจะเอามาลดราคา แล้วก็วันลดราคาก็มาถึงเจ้าเป็ดตัวนี้นอนลดราคาขายตามราคากิโลครึ่งต่อครึ่ง ซึ่งห้างฯ เค้าจัดลดราคาเนื้อสัตว์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อแกะก็ตัดขายชิ้นใหญ่ๆ นกเลยได้เจ้าเป็ดตัวนี้มาก็เท่านั้นเอง  ที่บ้านส่วนใหญ่หากมีการลดราคาเนื้อสัตว์อย่างนี้จะซื้อแล้วเอามาแช่แข็งเอาไว้  ต้องการจะทำอาหารเมื่อไรก็เอาออกจากตู้แช่ทิ้งไว้ในตู้เย็นให้น้ำแข็งละลาย ที่บ้านจะทำอย่างนี้เพราะจะประหยัดเงินครึ่งต่อครึ่งเลยที่เดียว  วันนี้ซื้อทั้งหมด 3 ตัว สองตัวแช่แข็ง อีกตัวก็เอามาอบอย่างที่เพื่อนๆ เห็นนี้ละค่ะ นกผสมน้ำอบเป็ดเองไม่ได้ใช้ผงสำเร็จรูป




ส่วนผสม
เป็ด 1 ตัว
น้ำผึ้ง 2-3 ชต
น้ำมันหอย 2 ชต
น้ำมันงา 1 ชต
น้ำส้ม 1ผล
ผงอบเชย 1 ชช
โป๊ยกั๊ก 2 ดอก
อบเชย 2 แท่ง
ต้นหอม ตามชอบ
ผักชื ตามชอบ
Bay leaves 5-6 ใบ (ถ้ามี)
เกลือป่่่น 3 ชต (แบ่งเป็น 1 ต่อ 2)
ซีอิ๊วดำ 1 ชต
พริกไทยดำ 1 ชต
กระเทียม 1หัว
รากผักชี 4-5 ราก

วิธีทำ
1. ล้างเป็ดให้สะอาดโดยล้างผ่านน้ำร้อน ตัดส่วนของตูดเป็ดทิ้งไป เอาไม้กัด
2. นำส้มมาคั่นเอาน้ำผสมกับเกลือ 1 ชต คนให้เข้ากันแล้ว นำไปทาให้ทั่วบนตัวเป็ด พักผึ่งลมให้แห้งและทาซ้ำอีก ทำอย่างนี้จนน้ำส้มหมด
3. โขลกพริกไทย กระเทียม และรากผักชีให้ละเอียด จากนั้นแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งนำไปทาให้ทั่วบนตัวเป็ด อีกส่วนใส่เกลือป่นที่เหลือนำยัดใส่ทาให้ทั่วใน
ตัวเป็ด แล้วพักไว้ประมาณ 10-15 นาที
4. ระหว่างที่พักเป็นผสม น้ำผึ้ง น้ำมันหอย น้ำมันงา ผงอบเชย ซีอิ้วดำ จากนั้นคนให้เข้ากัน จากนั้นนำไปทาให้ทั่ว ๆ บนตัวเป็ด พักไว้ให้แห้งทาซ้ำอีกครั้ง (น้ำซอสเหลือเก็บไว้อย่าทิ้ง)
5. เอาโป๊ยกั๊ก อบเชย ต้นหอม ผักชี bay leaves ยัดใส่ในตัวเป็ด เอาไม้กัด เย็บปิดส่วนหัวท้าย พยายามเย็บปิดให้สนิท จากนั้นนำไปอบที่ 160 องศาซี อบประมาณ 20 นาทีให้เอาเป็ดออกมาราดซอสที่เหลือให้ทั่วตัวเป็ดอีกครั้งและเข้าอบต่ออีก 30 นาที ตอนนี้จะมีน้ำมันออกจากตัวเป็ดพยายามตักแล้วราดบนตัวเป็ด และตักส่วนหนึ่งเอาไว้ใช้ทำซอสตามชอบ อบไปสักพักก็นำเป็ดออกมาดู หากมีน้ำมันออกมาก็ตักราดบนตัวเป็ดอีกรอบ พยายามกลับด้านหันอบให้ทั่วตัวเป็ด ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ใช้เวลาอบเกือบ ๆ 2 ชม หรือจนกระทั้งเป็ดสุก (อุณหภูมิของเตาให้ปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมเนื่องจากเตาอบแต่ละชนิดความ ร้อนอาจจะไม่เท่ากัน) อบเสร็จตัดชิ้นใส่ยกเสริฟกินคู่กับน้ำจิ้ม หรือจะไปปรุงเป็นอาหารอย่างอื่นได้เช่นเดียวกันคะ

***สำหรับนกวันนี้ เอาไปทำข้าวหน้าเป็ด จานนี้เป็นของแฟนคลับค่ะไม่เอาน้ำจิ้มราดซอสโรยหอมผักชีก็เสร็จ เท่านี้ก็อร่อยยิ้มไปแล้วค่ะ กลับมาว่ากันต่อที่สูตรข้าวหน้าเป็ด สูตรนี้นกเดา ๆ เอาว่าน่าจะใส่อะไรบ้างจากที่ได้เคยชิมมานะค่ะ คิดว่าคงไม่ห่างไกลจากสูตรข้าวหน้าเป็ดเจ้าร้านประจำ****









ส่วนผสม
น้ำอบเป็ดที่อยู่ในถาด ตามชอบ
น้ำมันงา 2 ชต
เหล้าจีน 1 ชต
ผงพะโล้ เล็กน้อย (ใส่ให้พอน้ำซอสหอม ๆ นะค่ะ)
ซีอิ้วขาว 3 ชต
ซีอิ้วดำ 1 ชช

ซอสมะเขือเทศ 2 ชต
แป้งข้าวโพด ตามชอบ
น้ำตาลทราย ตามชอบ
น้ำเปล่า ตามชอบ

วิธีทำ
1. ผสมน้ำเป็ดอบ น้ำมันงา เหล้าจีน ผงพะโล้ ซีอิ้วขาว ซีอิ้วดำ น้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน จากนั้นนำเคี่ยวให้น้ำตาลละลาย
2. หากน้ำซอสน้อยเติมน้ำนิดหน่อยลงไป คอยให้น้ำซอสเดือด ชิมรสตามชอบ จากนั้นใส่แป้งข้าวโพดละลายน้ำลงไป คนให้เข้ากันพอน้ำซอสเดือดอีกครั้งปิด ไฟในเตาได้เลยค่ะ

*** ส่วนน้ำจิ้มราดข้าวหน้าเป็ด นกใช้ซีอิ้วดำ ซีอิ้วขาว ซอสเปรี้ยว (ไม่มีใช้น้ำส้มสายชูแทน) น้ำตาลทราย พริกสดหัั่น ตามชอบ ผสมเข้าด้วยกันเท่านี้ก็ได้น้ำจิ้มสูตรเด็ดอร่อย ๆ กินคู่ข้าวหน้าเป็ดแล้วละค่ะ ***


ไส้กรอกอีสาน

ไส้กรอกอีสาน ตามคำขอมาแล้วค่ะ วันนี้นกทำไส้กรอกอีสาน ใช้หมูล้วน ๆ เพราะครั้งที่แล้วนกทำใส่ข้าวเหนียว แฟนคลับไม่กินข้าวเหนียว เลยบอกว่าครั้งต่อไปทำไม่ใส่ข้าวเหนียวได้ไม่ผมจะได้กินด้วย คราวนี้ทำอีกเลยไม่ใส่ให้ตามคำขอ แต่ก็แบ่งออกไส้กรอกเป็นสองส่วนอยู่ดี เพราะของนกชอบให้ไส้กรอกออกรสเปรี้ยวหน่อย ๆ แต่ของแฟนคลับไม่เอาเปรี้ยว ทำเหมือนไส้กรอกธรรมดาทั่วๆไปที่ สูตรที่นกจะเขียนให้เป็นแบบเต็มรูปแบบนะค่ะ เผื่อว่าเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ สนใจเอาไปทำกันนะค่ะ



ส่วนผสม
หมูบดติดมัน 500 กรัม
หนังหมู 100 กรัม (ถ้ามี)
กระเทียมสับ 15-20 กลีบ
ซีอิ้วขาว 3 ชต
พริกไทยป่น ตามชอบ
ผงปรุงรสหมู 1 ชช (ไม่มีไม่ต้องใส่)
ข้าวเหนียวนึ่งสุก /ข้าวสวย 2 ถ้วย (วันนี้นกไม่ได้ใช้ค่ะ)
ไส้หมู ตามชอบ

วิธีทำ
1. ล้างไส้หมูให้สะอาดซับน้ำให้แห้งพักไว้
2. นำส่วนผสมนวดให้เข้ากัน ยกเว้นไส้หมู
3. เอาส่วนผสมที่นวดบรรจุลงในไส้หมู ใช้เชือกมัดเป็นข้อ ขนาดตามต้องการ ถ้าไส้พองลมให้ใช้เข็มแหลมแทงไล่ลมออก
4. นำไปหมักไว้ในตู้เย็น 1 คืน หากชอบเปรี้ยว ให้นำออกจากตู้เย็นผึ่งแดดไว้ 1 วัน (แต่ถ้าไม่มีแดดผึ่งลมไว้ก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ)แล้วค่อยน้ำมาทอดหรือปิ้ง ก็จะได้ไส้กรอกรสเปรี้ยวอร่อยถูกใจเสริฟกินคู่กับขิ่งสด พริกสด หรือผัดสดตามชอบได้เลยค่ะ

***ถ้าเพื่อน ๆ จะใส่ข้าวเหนียวนึ่ง ต้องเพิ่มเกลือลงไปอีก 1 ชช เพราะสูตรที่นกให้เป็นสูตรใช้หมูล้วน เลยใช้แต่ซีอิ้วขาวอย่างเดียวเวลาจะชิมรส ให้หยิบส่วนผสมหมูนิดหน่อยเอาเข้าไมโครเวป เวปให้สุกจากนั้นก็ปรุงรสตามชอบนะค่ะ***


เส้นหมี่ราดหน้าหมูหมัก

นกทำเมนูจานเส้นอีกแล้วค่ะเพื่อน ๆ จริง ๆ แล้วเมนูจานนี้ทำกินบ่อยมาก ๆ เลยค่ะ ตอนอยู่เมืองไทยที่บ้านชอบทำวันเสาร์-อาทิตย์ ไม่มีใครไปทำงาน แม่หรือไม่ก็น้องสาวมักจะทำกินกันเป็นประจำ นอกจากราดหน้าแล้วยังมีผัดแห้งอีกอย่างอร่อยสุด ๆ ไปเลย จะว่าไปแล้วทุก ๆ คนชอบราดหน้าหมูหมักฝีมือแม่สุด ๆ ไม่ว่าเส้นอะไรก็อร่อยเหมือนกันหมด ว่าแล้วไปทำกันเลยดีกว่าค่ะ




ส่วนผสม
เส้นหมี่ 250 กรัม
น้ำมันพืช 2 ชต
ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
ข้าวโพดอ่อนหั่นชิ้น 5-6 ฝัก
บ๊อคโคลี่ หั่นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย
เต้าเจี้ยวดำ 1 ช้อนชา
น้ำหรือน้ำซุปหมู 1 1/2 ถ้วย
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
แป้งมัน 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา

ส่วนผสมหมูหมัก
เนื้อหมูส่วนสะโพกหั่นชิ้นพอคำ 150 กรัม
แป้งมัน 2 ช้อนชา
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ
1. ทำหมูหมักโดยเคล้าเนื้อหมู แป้งมัน น้ำมันหอย ซอสปรุงรส และน้ำตาลเข้าด้วยกันในชาม หมักนานประมาณ 30-45 นาที
2. ตั้งกระทะบนเตาใช้ไฟ รอจนร้อนจัดใส่น้ำมัน 1 ชต กลอกให้ทั่วกระทะ จากนั้นใส่เส้นหมี่ลงผัดให้เส้นไหม้เกรียมและพองกรอบ ใส่ซีอิ๊วดำ ผัดให้ทั่ว ปิดไฟในเตา ตักใส่จาน พักไว้
3. ตั้งกระทะบนเตาอีกครั้งใช้ไฟแรงปานกลาง พอน้ำมันร้อนใส่เนื้อหมูหมักลงไปผัดพอสุก จากนั้นใส่บ๊อกโคลี่ ข้าวโพดอ่อน ลงผัดให้ทั่ว ใส่เต้าเจี้ยวดำ เติมน้ำหรือน้ำซุปหมู ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส น้ำตาล ชิมรสตามชอบ พอเดือดละลายแป้งมันเทลงกระทะ คนพอแป้งสุกข้น ปิดไฟในเตา
4. ตักเส้นหมี่ที่ผัดเรียบร้อยแล้วใส่จาน ราดด้วยน้ำราดหน้า โรยพริกไทยป่น ยกเสิรฟร้อนๆ คู่กับเครื่องปรุงรสได้เลยค่ะ


อูด้งลูกชิ้นหมู

หลังจากจัดการภาระกิจหน้าที่ผู้จัดการบ้านเสร็จเรียบร้อนแล้ว ก็ถึงเวลามื้อกลางวันของฉานบ้างแล้ว วันนี้เป็นอูด้งลูกชิ้นหมู ทำง่าย ๆ มีเครื่องปรุงไม่มากนักเอาแบบสบาย ๆ ค่ะ ส่วนผสมพร้อมแล้วเราเข้าครัวกันเลยค่ะ





ส่วนผสม
เส้นอุด้ง 1 ห่อ
ลูกชิ้นหมู ตามชอบ
ซุปไก่ก้อน 1 ก้อน
ต้นหอม/ผักชี ซอย 2-3 ต้น
ซีอิ้วขาว 2 ชต
ซอสปรุงรส 1 ชต (ถ้ามี)
น้ำมันหอย 1 ชช
น้ำตาลทราย 2 ชช
หัวผักกาด 1/2 หัว
เห็ดหอม 6-8 ดอก
น้ำเปล่าตามชอบ

วิธีทำ
1. เห็ดหอมแห้งมาล้างฝุ่นผงออก แล้วนำไปแช่น้ำประมาณ 2 ถ้วย แช่ทิ้งไว้ประมาณ 45 นาที หรือจนกระทั้งเห็ดหอมนิ่ม เมื่อเห็ดหอมนิ่มได้ที่แล้วให้บีบน้ำออก (อย่าทิ้งน้ำแช่เห็ด) ตัดก้านส่วนที่แข็งๆออกไป พักใส่ถ้วยเอาไว้
2. หัวผักกาดปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นท่อน ๆ เอาไว้ใช้ต้มกับน้ำซุป
3. เปิดเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ใส่น้ำเปล่าลงไปในหม้อ ใส่ซุปไก่ก้อนลงไป พอน้ำเดือดใส่หัวผักกาด เห็ดหอมและน้ำแช่เห็ดลงไปต้ม ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย และน้ำตาลทราย รอจนกระทั้งเดือดอีกครั้งใส่ลูกชิ้นลงไปต้ม
4. ตั้งหมดอีกใบใส่น้ำลงไป พอน้ำเดือดเอาเส้นอุด้งลงไปลวกตั้งขึ้นใส่ชาม น้ำชุป ลูกชิ้นหมู เห็ดหอม ลงในชาม โรยด้วยหอมผักชี ยกเสริฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

ราดหน้าหมี่กรอบ





ส่วนผสม
เส้นหมี่ไข่ (บะหมี่) 2 ก้อน
คะน้าหั่นเฉียง 6-8 ต้น
เนื้อไก่หมัก 1 ถ้วย
กระเทียมสับ 5-6 กลีบ
ซีอิ้วขาว 2 ชต
ซีอิ้วดำ 2 ชต
น้ำมันหอย 2 ชต
น้ำตาลทราย ตามชอบ
เต้าเจี้ยว 2 ชต
แป้งข้าวโพด 2 ชต
น้ำมันสำหรับผัด
น้ำซุปไก่ ตามชอบ (ไม่มีใช้น้ำเปล่าได้ค่ะ)

ส่วนผสมไก่หมัก
เนื้ออกไก่ หั่นสไลด์ 1 ถ้วย
แป้งข้าวโพด 1 ชช
ซีอิ้วขาว 1 ชต
ซอสหอยนางรม 1 ชต
น้ำมันงา 1 ชช

วิธีทำ
1. ผสมส่วนผสมไก่หมักทั้งหมดเข้าด้วยกัน จากนั้นหมักไว้ประมาณ 1/2 ชม
2. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไปให้ทอดหมี่ไข่ได้ รอจนน้ำมันร้อนจึงใส่เส้นหมี่ไข่ลงไปทอด ทอดจนกระทั้งกรอบเหลือง ตักใส่จานวางรองด้วยกระดาษซับน้ำมันพักไว้
3. ตั้งกระทะอีกครั้ง ใส่น้ำมันลงไปน้ำมันร้อนก็ใส่กระเทียมลงไปผัดจนกระเทียมหอม ใส่เนื้ไก่หั่นลงไป ผัดจนไก่เริ่มสุกก็ใส่เครื่องปรุงต่างๆ คือ ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย และน้ำตาลทรายลงไป
4. ผัดให้เครื่องปรุงต่างๆ เข้ากัน จนหมูสุกก็เติมน้ำซุปลงไป รอจนน้ำซุปเดือด ก็ใส่เต้าเจี้ยวลงไป ชิมรสตามชอบ จากนั้นรอให้น้ำซุปเดือดอีกครั้งก็ใส่ผักคะน้าที่หั่นไว้ลงไป ระหว่างนี้ให้ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำเปล่า คนให้แป้งละลายจนหมด จากนั้นเทลงน้ำซุป คนเร็วๆ อย่าให้แป้งจับตัวเป็นก้อน น้ำซุปจะข้นขึ้น รอจนน้ำซุปเดือดอีกครั้งปิดไฟในเตา ตักน้ำซุปราดบนเส้นหมี่กรอบ โรยด้วยพริกไทยป่น ยกเสริฟได้เลยค่ะ

*** เวลาละลายแป้งมันลงไปแล้วหาน้ำซุปยังไม่ข้นตามที่ต้องการ ก็ให้ละลายแป้งเพิ่มลงไปอีก***

ยำผักบุ้งทอดกรอบ

สองสามวันนี้อยากกินอะไรที่แซบ ๆ เลยต้องสรรหาเมนูแซบ ๆ มาทำจริงๆ แล้วจะทำตำแตงกิน แต่อากาศมันเย็นเลยไม่เอาดีกว่าเปลี่ยนใจ ผักบุ้งนี้ซื้อมากำใหญ่เลยกะจะเอามาทำผักบุ้งไฟแดง กับแกงเทโพปลาเค็ม แยกออกมาทำยำสักจานก็ยังเหลืออีกเยอะ งานนี้กินคนเดียวอีกแล้วเราเผ็ด ๆ อย่างนี้แฟนคลับเค้าขอบายค่ะ นกเลยต้องทำเมนูอย่างอื่นให้แทนว่าแล้วไปเข้าครัวกันเถอะค่ะ




ส่วนผสม
ผักบุ้งจีน 10 ต้น
กุ้งลวก ตามชอบ
แป้งทอดกรอบ ตามชอบ
น้ำพริกแกงเผ็ด 1 ชช
หมูบดรวนสุก 200 กรัม
พริกขี้หนูซอย ตามชอบ
น้ำพริกเผา 1 ชต
หอมแดงหั่นซอย 3-4 หัว
น้ำปลา 2 ชต
มะนาว ตามชอบ
น้ำตาล 1 ชต
น้ำมันพืชสำหรับทอด
น้ำเย็นจัด ตามชอบ

วิธีทำ
1 ผักบุ้งแยกใบกับก้านออกจากกัน ก้านจะหั่นเป็นท่อนๆ ผ่าปลายออก ส่วนใบเด็ดแยกออกเป็นใบๆ ล้างทำความสะอาดพักให้สะเด็ดน้ำ
2 ผลมแป้งทอดกรอบ น้ำพริกแกงเผ็ด กับน้ำเย็นจัดผสมเข้าด้วยกันสังเกตแป้งอย่าให้เหลวจนเกินไป ผสมให้ชุบผักบุ้งติด
3 นำผักบุ้งที่เตรียมไว้มาชุบ นำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ ทอดพอให้เหลืองกรอบสวย
4 ปรุงน้ำยำ น้ำปลา มะนาว น้ำตาล พริกขี้หนูซอย น้ำพริกเผา และหอมแดง ผสมเข้าด้วยกันชิมรสตามชอบ ผักบุ้งทอดเสร็จร้อน ๆ จัดใส่จานยกเสริฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

ไอศครีมวานิลลา(วานิลา)

ไอศครีมวานิลาทำอยู่หลายต่อหลายรอบ เหตุเพราะแฟนคลับอยากให้ใช้วานิลาฝัก เพราะได้รสชาติที่ดีกว่าวานิลาที่บรรจุในขวดนะค่ะ นกเลยตามใจทำให้ แต่ไม่ได้ลงในครัวสักที่จนวันหนึ่งมีเพื่อน ๆ ชาวครัวถามเรื่องสูตรไอศครีมซึ่งที่ครัวจะเฉพาะไอศครีมผลไม้ วันนี้ทำอีกรอบเลยเอาสูตรมาลงให้เสียเลย จริงๆ แล้ว ตัวนกชอบกินไอศครีมผลไม้ แต่เท่าที่สังเกตุเห็น คนที่นี้ชอบกินไอศครีมวานิลา หรืออาจเป็นเพราะชอบกินคัสตารส์กันก็ไม่ทราบได้ เก็บความสงสัยเอาไว้ก่อน อย่าได้เสียเวลาเลยค่ะส่วนผสมพร้อรออยู่แล้วลงมือกันเลย




ส่วนผสม
นมสดรสจืด 2 ถ้วย
ไข่แดง 4 ฟอง
น้ำตาลทรายละเอียด 1 ถ้วย
วิปปิ้งครีม 1 ถ้วย
วานิลา 1 ฝัก

วิธีทำ
1 เอานมจืดและวานิลาเอาเม็ด และฝัก ใส่หม้อ ต้มนมจนกระทั้งเดือด กรองให้เรียบร้อยพักไว้
2 ตีไข่แดงให้ข้น เติมน้ำตาลลงไปตีที่ละน้อย ให้น้ำตาลละลายจนหมด จากนั้นใส่นมที่พักไว้จนเย็นลงไปคนให้เข้ากัน
3 เอาส่วนผสมที่ตีเข้ากันเทลงในหม้อตุ๋นแล้วนำขึ้นตั้งบนเตาใช้ไฟกลาง หมั่นคนอยู่ตลอดเวลาจนเป็นคัสตาร์ด ยกเทลงใส่อ่างผสมพักไว้ให้เย็น จากนั้นนำเข้าตู้เย็นแช่ไว้ประมาณ 6-8 ชม
4 ครบกำหนด เอามคัสตารด์ วิปปิ้งครีมใส่โถปั่น ปั้นประมาณ 30-45 นาที จากนั้นตักใส่กระปุกแช่แข็งประมาณ 4-5 ชม ก็ได้ไอศครีมวานิลาอร่อยแล้วละค่ะ

***ในรูปนกใส่ชอคโกแลตซอส ลงไปกินคู่กับไอศครีมวานิลา อร่อยสุด ๆ ส่วนของแฟนคลับเป็นสตรอเบอร์รี่ซอส นกใส่นกตกแต่งด้วยเชอรี่ด้านบนให้ด้วยนะค่ะ***




และนี้เป็นฝักวานิลาที่นกใช้ทำไอศครีมค่ะ แฟนคลับบอกว่าคราวหน้าขอใส่สองฝักนะ เพราะอยากได้กลิ่นมากว่านี้ คงเห็นว่ามีฝักวานิลาเยอะก็อยากให้ใส่เยอะ ๆ มั่งค่ะ ไม่รู้หรือว่ามันแพง ฝักหนึ่งหลายกะตังนะเจ้าค่ะ





หมูแดดเดียว

ช่วงนี้อากาศที่บ้านถือว่าดีสุด ๆ เลยค่ะ แดดออกเกือบทุกวันทำให้นึกถึงเมนูข้าวเหนียวหมูแดดเดียวขึ้นมาทันที จริง ๆ ถ้าจะพูดไปแล้วแดดที่ออกมาคงสู้แดดที่เมืองไทยไม่ได้ ตากเช้าถึงเที่ยงก็เก็บได้แล้ว แต่ที่นี้ต้องดูพยากรณ์อากาศให้ดี ๆ กะให้เป็นไม่นั้นเจอฝน แต่อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์อากาศดี เช็คพยากรณ์ตลอดโดยเฉพาะวันนี้อุณหภูมิอยุ่ที่ 25 องศาถือว่าร้อนกว่าทุก ๆ วัน นกตากตอนเช้าเก็บเอาตอนเย็น จะบอกว่าเย็นไม่ได้ซิ เอาว่าเก็บตอนค่ำๆ ไม่มีแดดให้เห็นแล้วนะค่ะ



ส่วนผสม
เนื้อหมูสันในหั่นเป็นเส้น 500 กรัม
กระเทียมโขลกละเอียด4-5 กลีบ
พริกไทยป่น 2 ชช
เม็ดผักชีป่น 1 ชช
น้ำตาลทราย 2 ชต
ซีอิ้วขาว 2 ชต
ซอสหอยนางรม 1 ชต
เหล้าจีน 1 ชต
งาขาว ตามชอบ (ถ้ามี)
น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ
1 นำเนื้อหมูที่หั่นเรียบร้อยแล้ว หมักด้วยส่วนผสมทั้งหมดหมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 1 คืน
2 ครบกำหนดนำเนื้อวางเรียงบนตะแกรงตากแดดตอนเช้า แล้วเก็บทอดตอนเย็น
3 เอาน้ำมันใส่ในกระทะตั้งบนเตาเปิดไปอ่อนปานกลาง นำเนื้อหมูลงทอดประมาณ 10 นาที หรือจนกระทั้งเนื้อหมูสุก ตักขึ้นวางบนกระดาษซับมัน ยกเสริฟคู่กับข้าวเหนียว หรือข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

***หาต้องการจะชิมรสให้เอาเนื้อหมูที่หมักเรียบร้อยแล้วนิดหน่อยเข้าไมโครเวป จากนั้นชิมรสดูหาไม่ถูกใจให้เพิ่มเติมที่ต้องการเพิ่มได้เลย งาขาวหากมีให้คลุกพร้อมกับส่วนผสมหมักเนื้อได้เลยค่ะ***


ข้าวไก่แดง

ข้าวไก่แดงเมนูใหม่เอาในคนชอบกินไก่ นกนำเสนอเมนูข้าวไก่แดง คริๆ อย่า "งง" ทีบ้านนกนอกจากจะมทำข้าวหมูแดง ข้าวหน้าเป็ด ข้าวหน้าไก่ ข้าวไก่แดง ซึ่งเป็นเมนูที่นกชอบทำแล้วนกยังมีเมนูข้าวไก่แดงอีกหนึ่งเมนูที่ชอบทำกินเป็นมื้อเที่ยงจานเดี่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ให้กับแฟนคลับเช่นกันค่ะ เมนูนี้วิธีทำคล้ายกับข้าวหมูแดง แต่เปลี่ยนจากหมูมาเป็นไก่แทนนะค่ะ ถ้าใครที่ทำข้าวหมูแดงเป็นอยู่แล้ว มาทำข้าวไก่แดงขอบอกว่าง่ายสุด ๆ ไปเลยละค่ะ


ส่วนผสมไก่แดง
เนื้อไก่ 500 กรัม 
เหล้าจีน 2 ชต 
ฮอยซินซอส (Hoisin Sauce) 1 ชต
ผงหมักหมูแดง 2 ชต 
น้ำมันงา 2 ชต 
น้ำตาล 1 ชต 
เกลือ 1 ชช 
ซิอิ๊วดำ 1 ชต 
ซิอิ๊วขาว 2 ชต 
ซอสมะเขือเทศ 3 ชต 
ไข่ต้มสุก 2 ฟอง 
ผักชี แตงกวา 
ต้นหอม ตามชอบ 

 วิธีทำ 
1ล้างหมูให้สะอาดจากนั้นพักให้สะเด็ดน้ำ นำไก่ไปหมักกับเหล้าจีน น้ำมันงา ผงหมักหมูแดง ฮอยซินซอสน้ำตาล เกลือ ซิอิ๊วดำ ซิอิ๊วขาว และซอสมะเขือเทศ คนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี ชิมรสตามชอบแล้วนไปคลุกกับไก่ หมักทิ้งไว้ 3-4 ชั่วโมง 
2 ใส่น้ำมันเล็กน้อยลงไปในกระทะพอทอดไม่ให้หนังไก่ติดกระทะ จากนั้นนำกระทะตั้งไฟร้อนปานกลาง นำไก่ที่หมักลงทอดให้หนังไก่ออกสีน้ำตาลตามชอบ (นกทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที )จากนั้นนำไก่ไปใส่ในเตาอบ ใช้ไฟปานกลาง อบไปประมาณ 20 นาที นำไก่ออกมาทาน้ำหมักไก่ให้ทั่ว ๆ ทั้งหมด จากนั้นนำเข้าหมักต่ออีก 20 หรือจนกระทั้งไก่สุก ๆ แดงสวย 
3 นำไก่ออกจากเตาอบและนำไปหั่นเป็นชิ้น ๆ พอดีคำจัดใส่จานเสริฟยกเสริฟกับคู่แตงกวา ต้นหอม ได้เลยค่ะ 

 ส่วนผสมน้ำซอสราดข้าวไก่แดง 
น้ำซุปไก่ 1 ถ้วย (ไม่มีใช้น้ำเปล่า) 
น้ำจากการอบไก่ ตามชอบ 
ซีอิ้วขาว 3 ชต 
ซีอิ้วดำ 1 ชช 
น้ำตาลปี๊ป 3 ชต 
ผงพะโล้ 1/4 ชช 
แป้งข้าวโพด 2 ชช 
น้ำมันงา 1 ชช 
งาคั่ว 2 ชช 
ซอสมะเขือเทศ 1 ชต 

 วิธีทำ 
1 เอาน้ำซุปใส่กระทะตั้งไฟ พอน้ำซุปเดือดใส่ส่วนผสมทั้งหมดยกเว้นแป้งข้าวโพด และงาคั่ว เคี่ยวให้น้ำข้น 
2.เติมแป้งมันละลายน้ำลงไปคนเร็ว ๆ ให้เข้ากัน ยกลงจากเตาเติมงาคั่วลงไป เสร็จแล้วนำไปราดบนข้าวไก่แดงได้เลยค่ะ

***เนื้อไก่วันนี้นกใช้เนื้อส่วนน่องติดสะโพกทำนะค่ะ แต่ถ้าเพื่อนใช้เนื้ออกไก่เวลาอบจะใช้เวลาน้อยกว่าสักเกตเนื้อไก่เวลาอบด้วยนะค่ะ พยายามราดน้ำบนเนื้อไก่ให้ทั่ว ๆ เดี่ยวจะแห้งเกินไปไม่อร่อย น้ำราดถ้าชอบแบบข้น ๆ ให้เติมแป้งข้าวโพดละลายน้ำเพิ่มตามชอบได้เลยค่ะ ***

ขนมไข่นกกระทา/ขนมไข่เตา

ขนมไข่นกกระทา หรือขนมไข่เตาเป็นขนมไทยโบราณทำกันมานาน จะว่าไปแล้วตั้งแต่เด็กจำความได้ก็เห็นขนมไข่นกกระทา แล้วละค่ะ ฝีมือแม่เป็นหนึ่งไม่รองใครเลยที่เดี่ยว ขนมไข่นกกระทาที่แม่ทำจะใช้แป้งมันเป็นหลัก ซึ่งจะทำให้ขนมไข่นกกระทา กรอบนอกในนุ่มเหนียว แต่นกเคยเห็นมีบางร้านใช้แป้งสาลีเป็นหลัก และใส่นมแทนกระทิก็มีเหมือนกัน นกไม่เคยลองทำสูตรนี้ แต่มีเพื่อนเคยใช้สูตรนี้บอกว่าเนื้อจะแข็งๆ นะค่ะ ขนมไข่นกกระทาบ้านเราจะหาซื้อง่ายตามร้านขายกล้วยทอด มันทอด เผือกทอด ทางข้างทาง ถุงหนึ่ง 10 บาทก็ได้เยอะแล้วละค่ะ



ส่วนผสม
มันเทศ (Sweet Potato) 2 หัว (ประมาณ 500 กรัม)
แป้งมัน 200 กรัม
แป้งสาลี 50 กรัม
น้ำตาลทราย 100 กรัม
ผงฟู 1 ชช
หัวกระทิ 2 ชต
เกลือป่น หยิบมือ
น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ
1 นำมันเทศมาปลอกเปลือกล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น ๆ นำไปนึ่งจนกระทั้งสุก จากนั้นนำไปบดให้ละเอียด พักไว้จนมันเทศบดเย็น
2 ใส่นำแป้งมัน แป้งสาลี น้ำตาลทราย ผงฟู และเกลือ ลงไปในมันบด นวดให้ส่วนผสมเข้ากัน เติมกระทิลงไปที่ละน้อย นวดจนกระทั้งจับได้เป็นก้อน ๆ จากนั้นนำมาปั้นเป็นลูกกลม ๆ เหมือนกับไข่นกกระทา เล็กใหญ่ตามชอบ
3 ใส่น้ำมันสำหรับทอดลงในกระทะ เปิดไฟในเตาใช้ไฟแรง ใส่แป้งที่ปั้นไว้ลงไปทอด ลดไฟในเตาลงเป็นไฟปานกลาง ใช้ทัพพีโปร่งคนขนมไปมาในกระทะ กดตัวขนมเบา ๆ ทอดจนกระทั้งสุกเหลืองสวยทั่วกัน จากนั้นตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน จากนั้นยกเสริฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

***ถ้าแป้งแห้งเกินไปให้เพิ่มหัวกระทิลงไปอีก แต่ถ้าแป้งแฉะเกินให้เพิ่มแป้งมันลงไปอีกนะค่ะ ขนมไข่นกกระทา นอกจากจะปรุงกับมันเทศแล้ว ยังสามารถใช้กับมันฝรั่ง มันสำปะหลัง ฟักทองได้อีกด้วยเช่นกัน***

ไข่ครอบ

นกมีเมนูมาแนะนำเพื่อน ๆ ที่ชอบทานไข่แดงเค็ม อยู่ต่างแดนหาซื้อลำบาก หรือเบื่อที่จะต้องใช้เวลาในการดองไข่เค็มนาน กว่าจะได้ทาน ไข่ครอบจึงทางเลือกใหม่ให้กับเพื่อน ๆ ที่ใช้เวลาและขั้นตอนในการทำที่ไม่ยุ่งอยาก แค่ 1 คืนก็ได้กินแล้วละค่ะ



ส่วนผสม
ไข่เป็ด/ไข่ไก่ ตามชอบ
เกลือป่น ตามชอบ

วิธีทำ
1 นำไข่เป็ดมาล้างเปลือกให้สะอาด จากนั้นตอกไข่ให้แยกออกจากกันแบ่งส่วนของไข่ให้พอเหมาะ จากนั้นแยกไข่ขาว และไข่แดงออกจากกัน
2 นำไข่แดงที่แยกไว้ 2 ฟองเทกลับไปในเปลือกไข่เดิม ใส่เกลือลงไปหนึ่งหยิบมือ ถ้าต้องการความเค็มเพิ่มก็ให้เพิ่มเกลือตามชอบ
3 นำเปลือกไข่ที่เหลือด้านหนึ่งมาครอบไข่แดงเอาไว้หมักไว้ 1 คืน ในเกลือซึมเข้าไข่แดง
4 ครบกำหนดนำไข่ไปนึ่งจนกระทั้งสุก ยกเสริฟทานคู่กับข้าวสวย ข้าวต้ม หรือจะนำไปปรุงเป็นอาหารอย่างอื่นก็ได้เช่นกัน

***ไข่ครอบวันนี้นกนำไปทำเมนูหมูสับผัดไข่เค็มเลยมีไข่ขาวติดมาด้วยนิดหน่อย ถ้าเพื่อน ๆ สนใจสุตรเมนูหมูสับผัดไข่เค็ม คลิ๊กที่รูปอาหารนะค่ะ เมนูนี้นกเปลี่ยนจากส่วนผสมไข่เค็มเป็นไข่ครอบแทน ก็ได้เมนูเพื่อครอบครัวแล้วละค่ะ ***





แกงส้มมะรุม

นกคิดว่าหลาย ๆ คนคงไม่รู้จักแกงส้มมะรุม แกงส้มที่กำลังจะหากินได้ยาก ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยทำกันเพราะกว่าจะได้กินต้องมานั่งปอกเปลือก และเกลาฝักมะรุมกันก่อน งานนี้กว่านกจะได้แกงต้องโทรไปถามแม่ที่บ้านว่าทำอย่างไร พอได้สูตรก็ลงมือแกงทันที่ แต่กว่าจะได้แกงเล่นเอาฝักมะรุมของนกไม่สดเท่าที่ควร เวลาปอก เกลาค่อนข้างลำบากนิดหน่อย บางส่วนจึงเห็นแต่เนื้อมะรุม เลยออกมาไม่ค่อยสวยเท่าไร



ส่วนผสม
มะรุมปลอกเปลือกหั่นเป็นท่อน ๆ 10 ฝัก
กุ้งสด 250 กรัม
เนื้อหมู/หมูสามชั้น หั่นชื้นพอคำ 200 กรัม
น้ำพริกแกงส้ม 2ชต
เนื้อปลาต้มสุก 1 ตัว
น้ำปลา 1 ชต
น้ำตาลปีบ 1 ชช
น้ำมะขามเปียก 1 ปั้น
น้ำเปล่าสำหรับแกง

วิธีทำ
1 นำเนื้อปลาต้มสุกโขลกกับพริกแกงให้ละเอียด
2 เอาหม้อตั้งบนเตาใส่น้ำลงไปต้มให้เดือด ใส่พริกแกงที่โขลกเสร็จแล้วลงไป พอน้ำแกงเดือดใส่มะรุมที่ปอกเปลือกเสร็จแล้วลงในหม้อน้ำแกง ต้มให้มะรุมสุก จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาลปึบ น้ำปลาดี น้ำมะขามเปียก ชิมรสตามชอบ ใส่เนื้อหมูลงไปต้มต่อ
3 พอหมูสุก น้ำแกงเดือดอีกรอบใส่กุ้งค้นให้เข้ากันปิดไฟในเตาตักใส่ถ้วยเสริฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

coffee cupcakes

นกเป็นคนหนึ่งที่ชอบทานเค้กกาแฟเป็นที่สุด ที่ไหนมีเค้กกาแฟขายเห็นก็มักจะซื้อทานเป็นประจำ แต่ไม่เคยลงมือทำกะเค้าสักที เหตุเพราะแฟนคลับไม่ชอบทานเค้กกาแฟเอาเสียเลย เค้าบอกว่าผิดวัฒนธรรม เอากาแฟมาทำอย่างอื่นไม่ได้ จะว่าไปแล้วเค้าเองก็เคยได้ลิ่มลองมาบ้างเวลานกชื้อมาแต่ไม่เคยชอบเลย เมื่อวานนกมีเวลาว่าง เลยคิดลองทำเค้กกาแฟเองดูบ้าง ผลเป็นที่น่าพอใจ แฟนคลับบอกว่า อร่อยมาก ผมคงทานเค้กกาแฟของคุณอีกในครั้งต่อๆ ไป เป็นปลื้มเลยเรา


ส่วนผสม
เนยรสจืด 250 กรัม
น้ำตาล 180 กรัม
แป้งเค้ก 200 กรัม
ผงฟู 1 ชช
ไข่ไก่ขนาดใหญ่ 4 ฟอง
กาแฟสำเร็จรูป 2 ชช ละลายกับน้ำร้อน 1 1/2 ชช
ครีม 100 มิลลิลิตร
เกลือ 1 หยิบมือ

วิธีทำ
1 อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาซี ร่อนแป้งเค้ก+ผงฟู+เกลือ เข้าด้วยกัน
2 ผสมกาแฟที่ละลายแล้วลงในครีม จากนั้นวางถ้วยกระดาษไว้ในถาดมัฟฟิน พักไว้
3 ตีเนยสดให้อ่อนตัว เติมน้ำตาลทรายลงไป ตีต่อจนขึ้นฟู
4 เติมไข่ไก่ทีละฟอง ตีด้วยความเร็วสูงให้เข้ากันดีก่อนเติมฟองต่อไป ตีต่อให้ส่วนผสมเข้ากันดี จากนั้นเปลี่ยนเป็นใช้ความเร็วต่ำ เติมส่วนผสมแป้งสลับกับส่วนผสมครีม โดยเริ่มด้วยแป้งก่อนและปิดท้ายด้วยแป้ง
5 เทส่วนผสมใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ อบประมาณ 20-25 นาที หรือจนกระทั่งสุก ยกออกจากพิมพ์ ทิ้งไว้ให้เย็นบนตะแกรงก่อนนำไปแต่งหน้าตามชอบได้เลยค่ะ

***นกแต่งหน้าไว้สองแบบนะค่ะ เลยเอามาให้ชมทั้งสองแบบ ถ้าเพื่อน ๆ มีแบบแต่งหน้าอื่น ๆ แล้วแต่จะชอบกันนะค่ะ***




ข้าวต้มไก่สับ /ไก่ฉีก

วันนี้ทั้งลมทั้งฝนเซ็งจิตจริงๆ เลยเรา ออกไปไหนก็ไม่สะดวกเลย อากาศอย่างนี้เมนูข้าวต้มถ้าจะดีข้าวสวยมีเหลือจากเมื่อวานเย็นเอามาต้มเสียเลยง่ายดี ไก่บดก็มีอยู่แล้ว เสียดายขิงกับผักชีไม่มี แต่ไม่ใช้ปัญหาใหญจริงไม่ค่ะเพื่อน ๆ




ส่วนผสม
เนื้อไก่บด/เนื้ออกไก่สุกหั่นชิ้น ตามชอบ ( นกใช้ประมาณ 250 กรัม)
ข้าวสวย 2 ถ้วย
น้ำชุปไก่ 4-5 ถ้วย
รากผักชี 2 ราก
พริกไทยป่น ตามชอบ
ต้นหอม ตามชอบ
เกลือ ตามชอบ

วิธีทำ
1 เปิดไฟในเตาใช้ไฟแรง เอาน้ำซุปใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด จากนั้นใส่รากผักชีทุบ ใส่ซีอิ้วขาว
2 ใส่ข้าวสุกลงไปต้มตามชอบ ถ้าชอบเม็ดสวยๆก็ใช้เวลาต้มไม่นาน ชิมรสตามชอบ หาชอบเค็มหน่อยให้เพิ่มเกลือลงไป
3 พอข้าวต้มได้ที่ใส่เนื้อไก่บด/ไก่ฉีกลงไปต้มต่อจนกระทั้งสุก ตักใส่ชามโรยพริกไทยป่น ต้นหอม ยกเสริฟได้เลยค่ะ

***รากผักชีที่บ้านเวลซื้อผักชีมาจะตัดรากแช่แข็งไว้เลยค่ะ เวลาจะทำอะไรก็เอาออกมาใช้งานได้ทันที่ นี้เป็นรากผักชี 2 รากสุดท้ายของนกค่ะ ไม่เป็นไรไปตลาดคราวหน้าก็ได้มาแล้ว***

แกงส้มผักกระเฉด

มาต่อกันอีกวันสำหรับแกงส้ม ยังไม่อิ่มใจหลังจากอร่อยกับแกงส้มชะอมไข่แล้ว นกยังมีอีกอย่างที่ได้มาพร้อม ๆ กับชะอม นั้นก็คือผักกะเฉด จริงๆ กะว่าจะยำผักกระเฉด แต่ใจอยากกินแกงส้มมากกว่าเลยตัดใจจากยำ ไว้คราวหน้ามีผักกะเฉดเมื่อไรต้องเอามายำแน่นนอนค่ะ เพื่อน ๆ คนไหนชอบทานยำผักกะเฉด นกติดไว้ก่อนนะค่ะ



ส่วนผสม 
ปลาสด หั่นเป็นชิ้นขนาดกลาง 1 ตัว
ผักกระเฉดหั่นเป็นท่อน ๆ 1 กำ 
ปลาต้มสุก 1 ตัว 
น้ำปลา ตามชอบ 

ส่วนผสมเครื่องแกง 
พริกแห้ง 10-15 เม็ด 
หอมแดง 2-3 หัว 
กระเทียม 4-5 กลีบ 
กระชาย 1 แง่ง (ถ้ามี) 
น้ำมะขามเปียก ตามชอบ 
กะปิ 2 ชช 
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา 
น้ำตาลปีบ ตามชอบ 

 วิธีทำ 1 เอาพริกแห้งแช่น้ำให้นิ่ม พริกนิ่มแล้วให้บีบน้ำออก หั่นหรือฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในครก ใส่เกลือป่นไปนิดหน่อย โขลก ๆ ให้พริกละเอียด จากนั้นเติมส่วนผสมอื่นเข้าไปโขลกต่อจนส่วนผสมทุกอย่างละเอียดเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน 
2 แกะเนื้อปลาที่ต้มและพักเย็นแล้วลงไปโขลกให้เข้ากันกะพริกแกงให้ละเอียดพักไว้ 
3 เอาหม้อตั้งบนเตาใส่น้ำลงไปต้มให้เดือด ใส่พริกแกงที่โขลกเสร็จแล้วลงไป ใส่ปลาสดหั่นชิ้น ปรุงรสด้วยน้ำตาลปึบ น้ำปลาดี น้ำมะขามเปียก ชิมรสตามชอบ พักไว้ให้น้ำแกงเดือด 
4 นำผักกะเฉดหั่นท่อนใส่ในชามแกงรอไว้ จากนั้นตักแกงร้อน ๆ ราดลงบนผักกะเฉด ยกเสริฟได้เลยค่ะ

***แกงส้มผักกะเฉดของนกชอบแบบสุกเยอะหน่อย เวลาทำจะใส่ในลงไปต้มในหม้อแกง แต่ถ้าใครชอบแบบกรอบ กรุบ ๆ ก็ใช้วิธีตักน้ำแกงราดเอาแล้วแต่จะชอบนะค่ะ***


แกงส้มชะอมไข่กุ้งสด

หลังจากที่นกตั้งตาคอยเจ้าชะอมอย่างใจจดใจจ่อมานานเลยที่เดียว วันนี้ก็ได้มาแล้วสมใจ แต่แพงจริงๆ ถ้าอยู่เมืองไทยกำนี้ไม่เกิน 10 บาท แต่นั้นละเราอยู่ต่างแดนต้องทำใจจริงไม่ค่ะเพื่อน ๆ งานนี้นกตั้งใจตั้งแต่ต้นเลยว่าจะต้องแกงส้มชะอมไข่ให้ได้ จะว่าไปแล้วแกงส้มเป็นแกงยอดฮิตของนกเลยก็ว่าได้ เมนูนี้แฟนคลับไม่เกี่ยว เพราะไม่ชอบกินแกงส้ม บอกว่าเผ็ดมาก แถมยังเปรี้ยวมอีกด้วย ไม่รู้เสียแล้วนี้ละเสหน์ของแกงส้มที่ใคร ๆ ก็หลงใหล




ส่วนผสม
ชะอม1 กำ
ไข่ไก่ 2 ฟอง
กุ้งสด 1 ขีด
น้ำตาลปีบ ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำมะขามเปียก ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับทอดชะอม ตามชอบ

ส่วนผสมพริกแกง
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
หัวหอมแดง 5-6 หัว
กระชาย 3 ราก (ถ้ามี)
กะปิ 1 ชต
เกลือป่น 1/2 ชช
ปลาต้มสุกแกะเนื้อ 1 ตัว

วิธีทำ
1 เอาพริกแห้งแช่น้ำให้นิ่ม พริกนิ่มแล้วให้บีบน้ำออก หั่นหรือฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในครก ใส่เกลือป่นไปนิดหน่อย โขลก ๆ ให้พริกละเอียด จากนั้นเติมส่วนผสมอื่นเข้าไปโขลกต่อจนส่วนผสมทุกอย่างละเอียดเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
2 เอาหม้อตั้งบนเตาใส่น้ำลงไปต้มให้เดือด ใส่พริกแกงที่โขลกเสร็จแล้วลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลปึบ น้ำปลาดี น้ำมะขามเปียก ชิมรสตามชอบพักไว้ เวลาจะทานยกหม้อตั้งเตาอีกครั้งพอน้ำแกงเดือดค่อยใส่กุ้งลงไป
3 เด็ดชะอมตีผสมกับไข่ปรุงรสด้วยน้ำปลา ลงทอดเหลืองสองด้านแล้ว ตักขึ้นมาพักไว้รอเย็น แล้วหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าพอคำ จากนั้นราดด้วยน้ำแกง ยกเสริฟทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

***ถ้าใครหาชะอมไม่ได้นกแนะนำชะอมเทียมทำง่ายมากๆ เลยค่ะ ใช้ใบคะน้า หรือใบSpinach หั่นเป็นเส้น ๆ จากนั้นเอาไปชุบไข่ทอดสุกแล้วนำมาตัดเป็นชิ้นพอคำ แล้วนำไปปรุง ออกมาแล้วหน้าตาเหมือนไข่ชะอมมากๆ เลยค่ะ แต่ไม่มีกลิ่นเท่านั้นเอง ชามนี้เป็นแกงส้มชะอมเทียมที่นกใช้ใบSpinachทำค่ะ ส่วนใครที่ใช้ใบSpinach สนใจสูตรคลิ๊กที่รูปไปยังลิงค์สูตรได้เลยค่ะ**



ไก่หยอง /หมูหยอง

เมื่อวานแฟนคลับหยุดพักผ่อน เลยชวนกันไปซุปเปอร์ฯ โอ๋แม่เจ้า เนื้อไก่ลดราคา จริงๆ แล้วจะบอกว่าลดราคาคงไม่ถูกเท่าไร เพราะเค้าขาย สองกล่องถึงจะได้ลดราคา ถ้าซื้อกล่องเดียวก็เต็มราคาเหมือนเดิม จัดการหยิบใส่รถเข็นสียเลย 4 กล่อง ตอนซื้อนกไม่คิดว่าจะมาเมนูอะไร คิดแต่ว่ามันถูกดี เดินดูโน่นนี้ไปเรื่อยๆ อยู่ๆแฟนคลับหันมาพูดเรื่องอยากกินขนมปังพริกเผ็ดใส่เนื้อหมูสีน้ำตาล (ขนมปังหมูหยอง) เอางานเข้าละเราของเก่าดันกินไปหมดแล้วเมื่อสองวันก่อน ไม่คิดว่าอยู่ ๆ นึกอยากจะกินขึ้นมา หมูหยองหมด กินไก่หยองได้อะป่าว วันนี้ซื้อไก่เยอะทำขนมปังไก่หยองก็แล้วกัน และแล้วก็ได้เมนูมื้อกลางวันทันใจดีจริง กลับถึงบ้านลงมือเข้าครัว


ส่วนผสม
เนื้ออกไก่ 500 กรัม/เนื้อหมู 500 กรัม
อบเชย 1 แท่ง
โป๊ยกั้ก 1 ดอก
ผงพะโล้ 2 ชช
น้ำตาลแดง 5 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ชช
ซีอิ๊วขาว 4 ชต
ซีอิ๊วดำ 2 ชต

วิธีทำ
1.นำ อบเชย โป๊ยกั้ก ผงพะโล้ห่อใส่ผ้าขาวบางก่อน ใส่ลงไปในหม้อใส่น้ำให้ท่วมไก่หรือเนื้อหมูยกตั้งไฟจนเดือด จากนั้นใส่เนื้อไก่หรือเนื้อหมูลงไป ระหว่างต้มให้ใช้ช้อนค่อย ๆ ตักฟองทิ้งไปจนไม่มีฟอง
2.ใส่น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว ซีอิ้วดำ เกลือป่น ต้มต่อไปเรื่อยๆจนกระทั้งเนื้อไก่หรือเนื้อหมูเปื่อยยุ่ยดี และน้ำเริ่มแห้ง
3.พอน้ำเริ่มแห้งดีแล้วให้ยีเนื้อไก่หรือเนื้อหมูให้เป็นเส้น ๆ ผัดไปเรื่อย ๆ หรีไฟในเตาลงใช้ไฟอ่อน ผัดจนกระทั้งเนื้อแห้งดี ปิดในไฟ ตักจานพักให้เย็น เสริฟคู่กับขนมปัง หรือจะนำไปทานกับข้าวต้มร้อน ๆ ก็อร่อยเช่นเดียวกัน

***ขนมปังไก่หยองที่บ้านจะทาด้วยน้ำพริกเผาทำเองเหมือนกันของนกเป็นพริกเผาแบบเผ็ด ของแฟนคลับแบบไม่เผ็ด หรือก็ทาเนยแล้วโรยด้วยไก่หยอง หมูหยอง ในรูปนี้เป็นของแฟนคลับค่ะ***



ฟักทองเชื่อม (Pumkin in syrup)

นกอดใจที่ทำขนมไทยไม่ได้สักที่ วันนี้ทำอีกแล้วค่ะ รู้ทั้งรู้ว่าทำทีไรกินคนเดียวแต่ก็ยังอยากจะทำอยู่ เมนูนี้ไม่ยากแต่ใช้เวลานานหน่อยเท่านั้นเอง แต่ผลที่ได้บอกคำเดียวคุ้มค่าเกินคำบรรยายเพราะฟักทองมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง เสียดายแต่ไม่ใช้ฟักทองไทย นี้ถ้าได้เป็นฟักทองไทยเนื้อแน่น ๆ ต้องอร่อยกว่านี้แน่นนอนเลย




ฟักทอง ขนาดกลาง 1ลูก
น้ำตาลทราย 250 กรัม
น้ำเปล่า 450 กรัม
น้ำปูนใส (สำหรับแช่ฟักทอง)

วิธีทำ
1 นำฟักทองไปทำความสะอาด และหั่นเป็นชิ้นๆ จากนั้นนำไปแช่น้ำปูนใสประมาณครึ่งชั่วโมง ครบกำหนดนำขึ้นมาล้างน้ำและผึ่งฟักทองให้แห้งสะเด็ดน้ำ
2 ใส่น้ำเปล่า, น้ำตาลทรายและน้ำมะนาวลงในกระทะ นำขึ้นตั้งบนเตาไฟร้อนปานกลางต้มจนน้ำตาลละลายหมดจึงใส่ฟักทองลงไปเชื่อม พลิกกลับชิ้นฟักทองบ้างนาน ๆ ครั้ง
3 พอน้ำตาลเริ่มข้น ให้ลดไฟลงเชื่อมจนชิ้นฟักทอง มีลักษณะเป็นเงาใส ปิดไฟในเตา พักให้ฟักทองเย็นจากนั้นตักใส่ถ้วยยกเสริฟได้เลย จะราดกระทิ หรือจะใส่น้ำแข็งแล้วแต่ชอบค่ะ
****วันนี้นกไม่ได้ทำน้ำกระทิราดแตถ้าใครชอบแบบราดน้ำกระทิ แต่ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการน้ำกระทิราดนกก็มีส่วนผสมมี น้ำกระทิ 100 กรัม เกลือ 1/2 ชช และแป้งข้าวเจ้า 1/2 ชต จากนั้นนำทุกอย่างใส่หม้อผสมเข้าด้วยกัน ตั้งบนไฟอ่อนๆคนจนเข้ากันดี ปิดไฟและพักไว้ ก็จะได้น้ำกระทิราดฟักทองแสนอร่อยแล้วละค่ะ***

ขนมฟักทอง(butternut squash)

ต้นเหตุเกิดเพราะซื้อฟักทองลูกโต จริงๆ แล้วลูกเล็กเค้าก็มีขายไม่ใช่ไม่มี แต่เค้าดันขายราคาเดียวกันเลยเลือกเอาลูกโตๆ ไว้ก่อน เลือกแล้วเลือกอีกจนแฟนคลับถามว่าคุณจะซื้อกี่ลูก เห็นเลือกดูหลายลูกจัง ซื้อลูกเดียวแต่ฉันจะเอาที่ใหญ่ที่สุดแบบว่า"งง"นะค่ะ หลังจากที่ทำแกงไปแล้วส่วนหนึ่ง ยังเหลืออีกเลยเอามานึ่งขนมเสียเลย งานนี้กินคนเดียวเหมือนเดิม แต่ยังดีหน่อยทำขนมไทยทุกครั้งแฟนคลับจะชิม 1 คำทุกครั้ง ตามด้วยคำตอบว่า ไม่ชอบ ไม่เป็นไรขนมนี้ไม่ชอบต้องมีสักอย่างที่ชอบจนได้ สู้ ๆๆ


ส่วนผสม
Butternut Squash นึ่งบด 1 ถ้วย
แป้งข้าว 1 ถ้วย
แป้งมัน 1/3 ถ้วย
กะทิ 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
มะพร้าวขูด ตามชอบ
เกลือป่น 1 หยิบมือ

วิธีทำ
1 ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำตาล และเกลือเข้าด้วยกันจากนั้นค่อย ๆ เทกะทิลงไปนวดจนส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกันจนกะทิหมด
2 ใส่ Butternut Squash ที่บดแล้วลงไปผสมกับแป้งคนให้เ้ข้ากัน จากนั้นหยอดลงในถ้วยโรยมะพร้าวพร้อมลงนึ่ง
3 นำถ้วยใส่ในลังถึง ลงนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 20 นาที หรือจนขนมสุกได้ที่ยกลงพักไว้จนเย็นแกะออกจัดใส่จานเสริฟได้เลยค่ะ

***ถ้าใครไม่ชอบฟักทองจะเปลี่ยนเป็นเผือก กล้วยก็ได้แล้วแต่จะเลือกกันค่ะ สำหรับนกวันนี้ขอเป็นฟักทองไปก่อนค่ะ***

โฮมเมดแฮมเบอร์เกอร์

เมื่อวานตอนค่ำ ๆ นั่งดูทีวีด้วยกัน เห็นเค้าโฆษณาแฮมเบอร์เกอร์ชิ้นโตกำลังโปรโมชั่นลดราคา เลยที่เดียว นกหันไปถามแฟนคลับว่ากินแฮมเบอร์เกอร์อะป่าว ไม่เคยเห็นซื้อกินกับเค้าเลย แฟนคลับบอกว่ามีได้กินอยู่บ้างคุณไม่เห็น อย่างเวลาขับรถเดินทางไปประชุมหยุดพักระหว่างทางบางครั้งก็ซื้อกิน นกเลยบอกว่าพูดออกไปว่า ฉันจะทำแฮมเบอร์เกอร์กินดีไม่พรุ่งนี้ แฟนคลับร้องทัก คุณไม่กินเนื้อไม่ใช้เหรอ ไหมถึงฉันไม่กินเนื้อไม่ใช้จะทำไม่ได้สักกะหน่อย




ส่วนผสมเนื้อเบอร์เกอร์
เนื้อบด 500 กรัม
ข้าวโอ๊ด 4-5 ชต
หอมใหญ่สับละเอียด 1 ลูก
ไข่ไก่ 1 ฟอง
เฮิร์บส์ ตามชอบ
เกลือ 2ชช
เหล้าจีน 1 ชต (ถ้ามี)
พริกไทย ตามชอบ


ส่วนผสมเบอร์เกอร์
เนื้อเบอร์เกอร์ทอดสุก 1 ชิ้น
ขนมปังเบอร์เกอร์ ผ่าแบ่งครึ่ง 1 ก้อน
มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ 1 ชิ้น
ชีส 1 แผ่น
ผักสลัดตามชอบ
มันฝรั่งทอดตามชอบ
น้ำมันมะกอ


วิธีทำ
1.ผสมเครื่องปรุงเนื้อเบอร์เกอร์ทั้งหมดลงในอ่างผสมนวดให้เข้ากัน จากนั้นปั้นเป็นก้อนกลมๆ แล้วใช้มือกดให้มีลักษณะแบนลง หนาประมาณ 1/2 นิ้ว ขนาดเล็กใหญ่ตามชอบ (ส่วนผสมนี้นกได้ประมาณ 9 ก้อน)
2.ตั้งกระทะบนเตาใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อนใส่น้ำมันลงบนกระทะเล็กน้อย พอน้ำมันร้อนค่อยๆวางเนื้อลงบน ทอดจนสุกทั้งสองด้าน
3.ระหว่างที่ทำเนื้อ ให้นำขนมปังไปจี่ หรือจะอบให้ร้อนวางผักต่างๆ ลงไป ตามด้วยเนื้อที่สุกดีและชีส เสริฟพร้อมสลัด หรือมันฝรั่งทอดได้เลยค่ะ


***จานนี้เป็นของนกเป็นเบอร์เกอร์หมู ส่วนผสมและวิธีการจะเหมือนกัน เปลี่ยนจากเนื้อ เป็นหมูเท่านั้นเองค่ะ***


คุ๊กกี้ครีมชีสไส้แยม

วันนี้นกทำคุ๊กกี้ไปฝากเพื่อนๆ แฟนคลับที่ทำงานย้อนหลังวันแห่งความรักนะค่ะ นกจำได้ปีที่แล้วนกทำขนมดอกลำดวน/กลีบลำดวนขายดีมาก ๆ จริงๆ ตั้งใจจะทำอีกรอบ แต่ดันทำให้ตอนคริสต์มาสที่ผ่านมา เลยต้องเปลี่ยนแผน จริงๆ แล้วจะทำคุ๊กกี้คาวบอยให้ แต่แฟนคลับบอกอยากกินคุ๊กกี้นี้เลยทำตามใจแฟนคลับนะค่ะ



ส่วนผสม
ครีสชีส 200 กรัม
เนยจืด 150 กรัม (ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง)
น้ำตาลทราย 2 ชต
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ถ้วย
เกลือ 1 หยิบมือ
วาลิลา 1 ชช
แยมตามชอบ

วิธีทำ
1.ตีครีมชีสและ เนยจืดให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีม จากนั้นเติมน้ำตาลทราย เกลือ ตีต่อให้ขึ้นฟูจากนั้เติมวาลิลาลงไปตีต่ออีกประมาณ 2-3 นาที
2.เติมแป้งลงไป 1/2 ถ้วย ผสมให้เข้ากันจนหมดแป้ง จากนั้นนำแป้งที่เหลือลงไปผสมต่อ ที่ละ 1/2 ถ้วยลงหมดแป้ง จากนั้นปั่นแป้งให้เป็นก้อนกลม ๆ คลุมด้วยพลาสติก จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นอย่างน้อย 2-3 ชม
3.ครบกำหนดโรยแป้งบนโต๊ะนำโดว์ออกมาคลึงเป็นแผ่นบางๆ ตัดเป็นสี่เหลี่ยมด้านเท่าขนาดเล็กใหญ่ตามชอบ (นกใช้ 3*3 ชม) จากนั้นตักแยมใส่ลงกลางแป้งพับมุมทั้งสองข้างซ้อนเข้าหากัน ทาน้ำลงบนแป้งแล้วกดให้แน่น นำเข้าเตาอบ อบให้เหลืองสุกประมาณ 15-20 นาที หรือจนกว่าแป้งจะสุก เอาออกมาพักบนตะแกรงให้เย็นจากนั้นเก็บใส่ในภาชนะปิดให้สนิท

อูด้งราดหน้าทะเล

ช่วงเวลากลางวันนกจะอยู่บ้านคนเดียวแฟนคลับไปทำงาน อาหารมื้อกลางวันสำหรับนกแล้วเป็นอะไรที่ง่าย ๆ เสียส่วนใหญ่ เปิดดูตู้เย็นมีอะไรก็จะเอามาทำ แต่ก็มีบางที่วันก็มีแผนล่วงหน้าว่าจะกินอะไรดี เวลาไปซุปเปอร์ฯ ก็มีซื้อตุนไว้เหมือนกัน ส่วนใหญ่ที่ซื้อก็จะเป็นพวกเส้นก๋วยเตียวต่าง ๆ นี้ละค่ะของชอบ ยิ่งเวลาซื้อหนึ่งแถมหนึ่งยิ่งชอบใหญ่ เพื่อน ๆ ชอบเหมือนนกไม่ค่ะ



ส่วนผสม
เส้นอูด้ง 1 ห่อ
เต้าเจี้ยว 2 ชช
ซีอิ๊วขาว 1 ชต
น้ำมันงา 2 ชช (ถ้ามี)
เหล้าจีน 1 ชช (ถ้ามี)
กระเทียมสับละเอียด 2-3 กลีบ
ข้าวโพดอ่อนหั่นเป็นชิ้น พอคำ ตามชอบ
ผักกาดขาวหั่นเป็นชิ้นพอคำ 4-5 ก้าน
เห็ดแชมปิญองหั่นเป็นชิ้น 1 ถ้วย
แป้งมัน 2 ชต
น้ำซุปไก่ ตามชอบ (นกใช้ประมาณ 3 ถ้วย)
น้ำตาลทราย ตามชอบ
พริกไทยป่น ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับผัด
น้ำเปล่าสำหรับละลายแป้งมัน

วิธีทำ
1.เตรียมเส้นด้วยการนำเส้นอูด้งไปต้มให้สุก พักไว้
2.ใส่น้ำมันในกระทะใบเดิมเจียวกระเทียมให้พอหอม จากนั้นใส่เต้าเจี้ยวลงผัดพอเข้ากัน เติมน้ำซุป ต้มจนกระทั่งเดือด ใส่แครอทลงผักให้พอสุกจากนั้น ใส่กุ้ง ปลาหมึก หอยลงไป ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทรายและพริกไทยชิมรสตามชอบ
3.รอให้ส่วนผสมเดือดอีกครั้ง ใส่ผักกาดขาวคนให้เข้ากันอีกครั้ง ใส่แป้งมันที่ละลายน้ำ คนผสมจนกระทั่งส่วนผสมข้นเหนียว เติมน้ำมันงาและเหล้าจีน คนผสมพอเข้ากัน ชิมรสอีกครั้ง จากนั้นปิดไฟในเตาตักราดบนเส้นอูด้งที่เตรียมไว้ ยกเสริฟร้อน ๆ กับพริกดอง หรือพริกน้ำส้มตามชอบได้เลยค่ะ

ผัดไข่ผักกาดดอง



ส่วนผสม
ผักกาดดอง 1 ต้น
กระเทียมสับละเอียด 4-5 กลีบ
น้ำตาลทราย 1 ชต
ไข่ไก่ 2 ฟอง
น้ำซุป ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับผัด

วิธีทำ
1 ล้างผักกาดดองให้สะอาด บีบน้ำให้แห้ง จากนั้นหั่นผักกาดดองตามขวางเป็นเส้นเล็กขนาดพอเหมาะ
2 ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งบนเตาใช้ไฟค่อนข้างร้อน พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่กระเทียมลงไปเจียวให้หอม ใส่ผักกาดดอง น้ำซุป ผัดให้เข้ากัน
3 พอผัดเข้ากันได้ที่แล้ว ใส่น้ำตาลทรายลงไป แยกผักในเป็นหลุมตกกลางกระทะใส่ไข่ลงไปยีไข่ให้แตกเอาผักกาดลงกลบบนไข่พักให้พอไข่สุก ผัดให้ทั่ว ๆ ชิมรสตามชอบ จากนั้นปิดไฟในเตาตักใส่จานเสริฟกับข้าวสวย ข้าวต้มร้อน ๆ ได้เลย

แกงป่ากุ้งลูกswede

เมนูนี้จริง ๆ แล้วจะต้องเป็นแกงด้วยมะระกอ อยู่ต่างแดนหลาย ๆ อย่างต้องปรับแต่งเอา บางประเทศหาซื้อของกินได้ทุกอย่างเหมือนกับอยู่ประเทศไทย แต่บางประเทศหาอยากหาเย็นเย็น มีก็ราคาแพง คนไทยในต่างแดนส่วนใหญ่จะเวลาตำส้มตำจะใช้ลูก Swede (หรือบางประเทศเรียกว่า Rutabaga ,yellow turnip) ตำส้มตำแทนแก้ขัดพอให้หายคิดถึงส้มตำนะค่ะ


ส่วนผสม
กุ้งสด 250 กรัม
ลูกswedeหั่นชิ้นพอคำ 2 ถ้วย

พริกชี้ฟ้าหั่นเฉียง ตามชอบ
พริกขี้หนูสด ตามชอบ
กระชายซอย 1 แง่ง
ใบมะกรูดฉีก 3-5 ใบ
ใบกะเพรา ตามชอบ
น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า ตามชอบ
น้ำพริกแกงป่า 2 ชต

วิธีทำ
1.ตั้งหม้อบนเตาใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันลงไปพอน้ำมันเริ่มร้อนใส่พริกแกงผัดจนหอม เติมน้ำเปล่า swedeหั่นชิ้น ใบมะกรูด ต้มจนswedeนิ่ม ปรุงรสด้วย น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ ชิมรสตามชอบ
2.ใส่กุ้ง กระชาย พริกขี้หนูสด พริกชี้ฟ้าลงในหม้อ ต้มจนกระทั้งกุ้งสุก ปิดไฟในเตาใส่ใบกะเพราแล้วคนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยยกเสริฟได้เลยค่ะ

กระเพาะปลา

ตรุษจีนอีกปีหนึ่งแล้ วันนี้วันไห้ว บ้านที่เมืองไทยคงวุ่นทำโน้นนี้กันตั้งแต่ไก่โห่ ปีนี้แม่บอกว่าของแพงหลายอย่าง แต่ถึงจะแพงอย่างไรก็ต้องซื้อ แม่บอกเพราะมันจำเป็นทีจะต้องซื้อให้ครบ แต่แม่เท่าที่จะซื้อได้ ปีนี้เทศกาลตรุษจีนตรงกับวันแห่งความรัก เพื่อน ๆมีของขวัญหรือมีสถานที่โรแมนติกแล้วยังค่ะ



ส่วนผสม
กระเพาะปลา ตามชอบ

เนื้อน่องไก่ฉีก 5-6 น่อง (เนื้อไก่ใช้เนื้อส่วนอื่นตามชอบ)
เห็ดหอม 5-8 ดอก
หน่อไม้กระป๋อง 1 กระป๋อง
ไข่ต้ม ตามชอง
หอมผักชีหั่นหยาบ 2 ต้น
ขิงทุบ 1 แง่ง
พริกไทยดำ
ซีอิ๋วขาว 2 ชต
นำมันหอย 2 ชต
ซีอิ๋วดำ 1 ชต
เหล้าจีน 1 ชต
เกลือ 1 ชช
ซุปไก่ก้อน 1 ก้อน
แป้งมัน 2 ชต

วิธีทำ
1.นำหน่อไม้กระป๋องมาล้างต้มให้หมดกลิ่น จากนั้นหั่นเป็นเส้น ๆ พักไว้
2.เห็ดหอมแช่น้ำ พอนิ่มแล้วเอามาหั่นเป็นเส้น ๆ พักไว้
3.เอาหม้อใส่น้ำตั้งบนเตาใช้ไฟแรงใส่ซุปก้อน ซีอิ๋วขาว น้ำมันหอย เหล้าจีน ใส่ขิงทุบ รากผักชี พอน้ำเดือดใส่น่องไก่ลงไปต้มต่อจนกระทั้งน่องไก่สุก ตักน่องไก่ออก เอามาชีกเป็นชิ้น ๆ
4.น้ำซุปหลังจากตักน่องไก่ออกเติมซีอิ้วดำลงไปให้มีสีดูน่ากิน ใส่เห็ดหอม น่องไก่ฉีก กระเพาะปลา เกลือ ชิมรสตามชอบ รอให้เดือดอีกครั้ง ละลายแป้งมันใส่ลงในหม้อ ให้น้ำข้นได้ที่เดือดอีกรอบปิดไฟในเตาตักใส่ชามเสริฟคู่กับไข่ต้ม โรยหน้าด้วยหอมผักชี พริกไทยป่น ได้เลยค่ะ

***เวลาทำกระเพาะปลาให้แช่กระเพาะปลาในน้ำผสมส้มสายชู ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที เพื่อช่วยดับกลิ่นคาวและเหม็นหืน แล้วเอาไปต้มในน้ำเดือด สักครู่จากนั้นตักขึ้นแช่ในน้ำเย็น แล้วค่อยๆบีบเอาน้ำมันออก ล้างให้สะอาดจนไม่มีน้ำมัน ที่บ้านเมืองไทยเวลาทำแม่กระเพาะปลาพวกเรามักกินกับเส้นหมี่ หรือไม่ก็มาม่า เติมน้ำพริกน้ำส้ม จิ๊กโฉ่วหน่อย อร่อยไปเลยละค่ะ***



ขนมกลีบลำดวน/ดอกลำดวน

ขนมกลีบลำดวน หรือดอกลำดวน ขนมหวานมงคลของไทยเราที่นิยมใช้ในงานพิธีมงคลสมรส หรือเป็นของฝากในเทศกาลต่างๆ สำหรับที่บ้านส่วนใหญ่แล้ว นกจะทำวันสำคัญ ๆ ให้คู่กับของขวัญเสมอ ปีแรกที่นกทำให้กับญาติพี่น้อง แฟนคลับ และเพื่อน ๆ ในวันคริสต์มาส ทุกคนชอบใจใหญ่ คงไม่เคยเห็นมั่งค่ะ นกเคยอ่านหนังสือจำไม่ได้ว่าอ่านจากไหนเพราะอ่านเยอะ เค้าให้ความหมายว่า เป็นการสร้างความงดงามให้กับชีวิต ชื่อเสียงขจรขจายไปทั่ว จำได้ว่าเด็ก ๆ แม่เอามาให้ดู ดอกเป็นสีเหลืองนวล ๆ มีกลิ่นหอมเย็น ๆ ทางบ้านแม่จะเรียกดอกลำดวนว่า หอมนวล



ส่วนผสม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ ๑ ถ้วย
น้ำตาลไอซิ่ง 1/2 ถ้วย
น้ำมันพืช 6 ชต
กลิ่นดอกมะลิ 1/2 ชช (ไม่มีเทียนอบเลยใช้กลิ่นมะลิแทน)

วิธีทำ
1.ร่อนแป้งสาลี และน้ำตาลไอซิ่งรวมกัน
2.ใส่น้ำมันพืชทีละน้อย แล้วนวดให้เข้ากัน จากนั้นปั้นเป็นลูกบอลกลม ๆ ขนาดเล็กใหญ่ตามชอบ
3.เอามีดหั่นลูกบอล แบ่งเป็น 4 ส่วนเท่าๆกันหยิบกลีบออกมา 3 กลีบ ตั้งลงบนถาดที่รองด้วยกระดาษไขสำหรับอบ หรือถาดทาเนยขาว จากนั้นปั้นลูกบอลกลมๆขนาดเล็กอีกลูกหนึ่งเอาไว้เป็นเกษร ติดด้านบนกลีบทั้ง 3 ทำอย่างนี้ไปจนหมดแป้ง
4.นำเข้าอบที่ 180 องศาเซลเซียส นาน 10 ถึง 15 นาที หรือจนกระทั้งขนมสุกเหลือง


***เวลาเอาออกจากเตาอบ ตั้งพักให้เย็นก่อนแล้วค่อยแซะออก ไม่งั้นกลีบดอกจะหลุดออกจากกันนะคะ จากนั้นนำใส่ในขวดโหล อบด้วยควันเทียนหอม***

คัฟเค้กGrapefruit

ตอนเย็นก่อนกลับบ้านนกให้แฟนคลับช่วยแวะไปซุปเปอร์ซื้อแครอท กับไข่ไก่ให้หน่อย ตอนกลับเข้าบ้านมาแฟนคลับมาพร้อมกับของที่สั่งให้ซื้อแต่ของแถมติดมือเป็น Grapefruit อีก 4 ผลใหญ่ๆ เลยค่ะ แฟนคลับซื้อมาฝากเห็นว่าเราชอบกิน แหมน่ารักจริงๆ เลย แต่ซื้อมาเยอะจังอย่างนี้กินไม่ทันหรอกจ้าที่รัก นกเลยแบ่งออกมาทำคัฟเค้ก เอาไปฝากพ่อแม่วันหยุดนี้เสียเลย



ส่วนผสม
ไข่ไก่ขนาดกลาง 4 ฟอง (แยกไข่แดง-ไข่ขาว)
น้ำตาลทราย 1 1/3 ถ้วย (แยกออกเป็น 1 ถ้วย และ 1/3 ถ้วย)
ผงฟู 1 ชต
แป้งเค้ก 2 ถ้วย
น้ำมัน 5 ชต
เกลือ 1 หยิบมือ
นม 1/4 ถ้วย
น้ำเกรปฟรุต 2/3 ถ้วย
แยมผลไม้ (Grapefruit) ตามชอบ
วิธีทำ
1.แยกไข่แดง และไข่ขาวออกจากกัน เอาไข่ขาวที่แยกไว้ใส่อ่างผสมเริ่มตีจากความเร็วต่ำแล้วเร่งสปีดขึ้นเรื่อยๆ จากนั้น ค่อยๆใส่น้ำตาลทรายทีละ 1 ชต ขั้นตอนนี้ใส่น้ำตาลแค่ 1/2 ถ้วย ตีไปจนน้ำตาลหมดไข่ขาวขึ้นฟู ตั้งยอดอ่อน พักไว้
2.ผสม แป้ง ผงฟู เกลือ น้ำมัน นม น้ำเกรปฟรุต ไข่แดง และน้ำตาลที่เหลือเข้าด้วยกัน ใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมให้เข้ากัน
3.เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วใส่ไข่ขาวที่ตีขึ้นฟูไว้ลงในชามส่วนผสมของแป้ง แล้วใช้ตะกร้อมือตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง เมื่อเข้ากันดีตักใส่ถ้วยกระดาษ เอาเข้าเตาอบ อบประมาณ 20-25 นาที หรือพอให้เค้กหน้าเหลืองสวย พออบเสร็จแล้ว พักเค้กให้เย็นจากนั้นใช้มีตัดหน้าเค้กเล็กน้อยใส่แยมลงไปตรงกลางเค้ก เอาเค้กส่วนเดิมที่ตัดไว้มาปิดทับ หรือจะใช้แยมราดหน้าเค้กก็ได้เช่นกันค่ะ

***นกคิดว่าหลาย ๆ คนคงรู้จักเกรปฟรุตเป็นอย่างดี แต่ก็มีอีกหลาย ๆ คนไม่รู้จัก เกรปฟรุตเป็นผลไม้เกรปฟรุต เป็นไม้ผลกึ่งเขตร้อน สหรัฐอเมริกากลายเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ เลยที่เดียวเท่าที่รู้มานะค่ะ แถว ๆ บ้านเราที่ปลูกก็มีจีน เวียดนาม มาเลเซีย และ ไต้หวัน เกรปฟรุตเป็นลูกผสมระหว่างส้มโอและส้ม ลำต้นคล้ายกับต้นส้มทั่วไปๆ ใบบางมีกลิ่นหอม ดอกออกเป็นช่อสีขาวผลมีขนาดเล็กกว่าผลส้มโอแต่ขนาดใหญ่กว่าส้ม เปลือกหนาสีเหลือง ส่วนใหญ่ที่นี้กินเกรปฟรุตตอนอาหารมื้อเช้า โดยจะนำเกรปฟรุตมาผ่าแบ่งครึ่งตามขวางกลางลูก แล้วโรยด้วยน้ำตาลหรือน้ำผึ้ง ใช้ช้อนตักกินตามชอบ หรือไม่ก็จะนำไปกินเป็นฟรุตสลัด แยมผลไม้ ในภาษาสเปนจะเรียกเกรปฟรุตว่า Toronja หรือ Pomelo นะค่ะ (รูปภาพนี้นกได้มาจาก Google)




คัฟเค้กส้มมาร์มาเล็ด

วันเสาร์-อาทิตย์หากไม่ได้ออกไปไหน มีเวลาว่างตอนกลางวัน แฟนคลับดูฟุตบอล นกมีเวลามักทำขนมไม่ว่าจะเป็นขนมไทย หรือขนมฝรั่ง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นขนมฝรั่งเสียมากกว่า เพราะทำแล้วมีคนกินหลายคน ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ และเพื่อน ๆ ที่ทำงานของแฟนคลับ ส่วนขนมไทยทำที่ไรกินคนเดียวทุกที แต่ขนมไทยก็ไม่ได้ขาดบ้านหรอกนะค่ะถึงแม้จะกินคนเดียวก็ตาม



ส่วนผสม
ไข่ไก่ขนาดกลาง 4 ฟอง (แยกไข่แดง-ไข่ขาว)
น้ำตาลทราย 1 1/3 ถ้วย (แยกออกเป็น 1 ถ้วย และ 1/3 ถ้วย)
ผงฟู 1 ชต
แป้งเค้ก 2 ถ้วย
น้ำมัน 5 ชต
เกลือ 1 หยิบมือ
นม 1/4 ถ้วย
น้ำส้ม 2/3 ถ้วย
ผิวส้ม ตามชอบ

วิธีทำ
1.แยกไข่แดง และไข่ขาวออกจากกัน เอาไข่ขาวที่แยกไว้ใส่อ่างผสมเริ่มตีจากความเร็วต่ำแล้วเร่งสปีดขึ้นเรื่อยๆ จากนั้น ค่อยๆใส่น้ำตาลทรายทีละ 1 ชต ขั้นตอนนี้ใส่น้ำตาลแค่ 1/2 ถ้วย ตีไปจนน้ำตาลหมดไข่ขาวขึ้นฟู ตั้งยอดอ่อน พักไว้
2.ผสม แป้ง ผงฟู เกลือ น้ำมัน นม น้ำส้ม ผิวส้ม ไข่แดง และน้ำตาลที่เหลือเข้าด้วยกัน ใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมให้เข้ากัน
3.เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วใส่ไข่ขาวที่ตีขึ้นฟูไว้ลงในชามส่วนผสมของแป้ง แล้วใช้ตะกร้อมือตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง เมื่อเข้ากันดีตักใส่ถ้วยกระดาษ เอาเข้าเตาอบ อบประมาณ 20-25 นาที หรือพอให้เค้กหน้าเหลืองสวย พออบเสร็จแล้ว พักเค้กให้เย็นจากนั้นใช้มาร์มาเลดแยมราดหน้าเค้กตามชอบได้เลยค่ะ

แกงขี้เหล็กเทียม (ใบGreen Kale)

มีพี่ที่น่ารักคนหนึ่งแนะนำเจ้าผักนี้เอาไว้ในเวป ๆ หนึ่งว่าสามารถนำมาทำแกงขี้เหล็กได้ นกเลยสนใจอยากลองทำดู แต่ตอนนี้พี่เค้าบอกชื่อผักเป็นภาษาเยอรมันเรียกว่าGrünkohl แล้วก็โพสรูปภาพของต้นผักให้ดูด้วย พอเห็นต้นผักนกจำได้ในสมุดสวนดอกไม้และผักของแม่แฟนคลับมีชื่อดอกไม้และผักเยอะไปหมด เลยไปค้นดูเจอะเจ้าผักนี้จริง ๆ ด้วย เค้าเรียกว่า Green Kale ที่นี้มีขายในซุปเปอร์ฯ เดินดูตรงชั้นผักรับรองเจอะแน่นนอน แต่ถ้าใครหาแบบสดไม่ได้ก็ซื้อเป็นแบบแช่แข็ง หรือบรรจุกระป๋องก็ได้




ส่วนผสม
ผักต้มแล้วบีบให้แห้ง 1 ถ้วย
กะทิ 1 กป (แยกหัวกระทิ หางกระทิ)
น้ำพริกแกงเผ็ดปักษ์ใต้ 1 ชต
ปลาย่าง แกะเนื้อขนาดกลาง 1 ตัว
น้ำตาลปึก 2 ชช
น้ำปลา 1 ชต

วิธทำ
1. เอาหม้อตั้งบนเตาเปิดไฟกลางค่อนข้างแรง เอาหัวกระทิใส่ลงในหม้อตั้งไฟพอร้อน ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงผัดจนกลิ่นหอม จากนั้นเติมหางกระทิที่เหลือลงไป
2.ใส่ใบ ลงไปคนให้เข้ากับเครื่องแกงต้มให้เดือดสักพัก ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ชิมรสตามชอบ
3.ใส่เนื้อปลาย่างลงไปคนให้เข้ากันชิมรสชาดอีกครั้ง รอให้เดือดอีกรอบจากนั้นปิดไฟในเตาตักใส่ถ้วยเสริฟได้เลยค่ะ

***ได้กินแกงขี้เหล็กเทียมนี้แล้วพอทำให้หายคิดถึง ได้ไม่มากก็น้อย ยิ่งถ้าใครชอบแบบไม่ขมรับรองไม่ผิดหวังเลยค่ะ ***

ต้มหน่อไม้กระดูกหมู

อากาศหนาว ๆ ได้กินอะไรอุ่น ๆ ร้อน ๆ ทำให้รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย เพื่อน ๆ ว่าจริงๆไม่ค่ะ มื้อนี้นกทำอาหาร 2 อย่าง ต้มหน่อไม้นี้เป็นของนก ส่วนแฟนคลับ เป็น Pork Cider กินคู่กับมันฝรั่งนะค่ะ





ส่วนผสม
หน่อไม้หวาน 1 กป
กระดูกหมู 250 กรัม
ซีอิ้วขาว 2 ชต
เกลือ ตามชอบ
ซุปหมู 1 ก้อน (ถ้ามี)

วิธีทำ
1.ล้างหมูให้สะอาดพักไว้
2.หน่อไม้นำมาหั่นเป็นชิ้น ๆ ขนาดพอคำ แล้วต้มน้ำน้ำทิ้ง 1 ครั้ง
3. เอาน้ำใส่หม้อ ใส่ซุปก้อนลงไป ตั้งบนเตาใช้ไฟค่อนข้างแรง พอน้ำเดือดใส่กระดูกหมูต้มไปจนกระทั้งหมูเปี่อยจากนั้นใส่หน่อไม้ ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว เกลือชิมรสตามชอบ พอเดือดอีกครั้งปิดไฟในเตาตักใส่ถ้วยยกเสริฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

คุ๊กกี้ชินาม่อน

คุ๊กกี้นี้แฟนคลับถามหา นกเลยจัดตามคำขอเสียเลย แต่คราวนี้บอกให้ทำเยอะเป็นพิเศษเพราะจะเอาไปให้เพื่อน ๆ ทีทำงานกินด้วย สงสัยคงคิดถึงฝีมือเราแน่น ๆ ปกติเวลาทำขนมอบที่ไรมักจะแบ่งให้แฟนคลับถือไปให้เพื่อน ๆ ทีทำงานกินด้วยเป็นประจำ แต่หลังจากคริสต์มาส ปีใหม่ นกไม่ได้ทำขนมอบเลย วันนี้ถือว่าเป็นเป็นเมนูแรกต้อนรับปีใหม่ก็ว่าได้ค่ะ



ส่วนผสม
แป้งพายสำเร็จ 1 ห่อ
เนยเค็มสด 2-3 ชต
ผงชินาม่อน 2 ชต
น้ำตาลทรายแดง 1/4 ถ้วย

วิธีทำ
1.แบ่งแป้งพายออกเป็น 2 ส่วน คลึงแป้งให้บาง ๆ จากนั้นทาด้วยเนยบาง ๆให้ทั่วแผ่นแป้ง
2.โรยผงชินาม่อน และน้ำตาลทรายแดงให้ทั่ว เสร็จแล้วม้วนให้จนสุดปลายอีกด้านหนึ่ง ตัดให้เป็นท่อน ๆ ขนาดตามชอบ
3.ทาเนยบนถาดอบวางขนมให้ห่างกันประมาณ พอประมาณ เอาเข้าอบประมาณ 15 นาที หรือจนกระทั้งขนมสุก

***สูตรที่นกให้เป็นแป้งพายสำเร็จ สะดวก และง่ายสำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่ชอบนวดแป้งเอง แต่สำหรับนกแล้วเวลาทำทุกครั้งจะนวดแป้งเอง เพราะแฟนคลับชอบแป้งที่ทำเองมากกว่าที่ซื้อจากซุปเปอร์นะค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ สนใจแป้งพาย สุตรเคยเขียนไว้แล้วใน
Apple and Blackberry Pie คลิ๊กเข้าไปอ่านดูได้เลยค่ะ***


ปีกไก่ทอดธัญพืช



ส่วนผสม
ปีกบนไก่ 10ชิ้น
ถั่วผสม (Mixed Nut) 1/2 ถ้วยตวง
เมล็ดมะม่วงหิมพานต์อบบดหยาบ 1/2 ถ้วยตวง
เมล็ดทานตะวันอบบดหยาบ 1/4 ถ้วย
งาขาว 2-3 ชต
เกลือป่น 1 ชช
แป้งทอดกรอบ 1/2 ถ้วย
น้ำเปล่า พอประมาณ
น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ
1 เลาะเนื้อส่วนกระดูกปีกบนไก่ ตรงโคนลงมาพอประมาณ (นกเลาะประมาณ 1-2 ซม)
2 นำถั่ว เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ งา เกลือป่นผสมให้เข้ากัน พักไว้
3 ผสมแป้งทอดกรอบ น้ำเปล่าให้เข้ากัน เวลาเทน้ำเปล่าให้เทลงที่ละนิด ผสมแป้งดูอย่าให้เหลวเกินไป จากนั้นนำปีกไก่ลงชุบในแป้ง และชุบ ส่วนผสมของธัญพืช ให้ทั่วทั้งชิ้น
4 ตั้งกระทะบนเตา เปิดไฟแรง ใส่น้ำมันลงในกระทำ รอให้น้ำมันร้อน จากนั้นนำปีกบนไก่ลงทอดในน้ำมันเบาไฟให้เป็นไฟปานกลาง ทอดจนกระทั่งไก่สุก ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานเสิรฟคู่กับน้ำจิ้มตามชอบได้เลย

***ถ้าเพื่อน ๆ ชอบ ธัญพืชอื่น สามารถนำมาผสมได้อีกนะค่ะ ของนกเอาเท่าที่พอจะหาได้นะค่ะ สำหรับงาถ้าจะใส่งาดำก็ได้เช่นเดียวกัน ที่บ้านงาดำหาซื้อไม่ได้นะค่ะ ***

ราดหน้าคะน้าหมูนุ่ม



ส่วนผสม
เส้นก๋วยเตียว ตามชอบ (วันนี้นกใช้เส้นหมี่)
คะน้าหั่นเฉียง 6-8 ต้น
เนื้อหมูสันในหมัก 1 ถ้วย
กระเทียมสับ 5-6 กลีบ
ซีอิ้วขาว 2 ชต
ซีอิ้วดำ 2 ชต
น้ำมันหอย 2 ชต
น้ำตาลทราย ตามชอบ
เต้าเจี้ยว 2 ชต
แป้งข้าวโพด 2 ชต
น้ำมันสำหรับผัด
น้ำซุปไก่ ตามชอบ (ไม่มีใช้น้ำเปล่าได้ค่ะ)

ส่วนผสมหมูหมัก
เนื้อหมูสันใน หั่นสไลด์ 1 ถ้วย
แป้งข้าวโพด 1 ชช
ซีอิ้วขาว 1 ชต
ซอสหอยนางรม 1 ชต
น้ำมันงา 1 ชช

วิธีทำ
1 ผสมส่วนผสมหมูหมักทั้งหมดเข้าด้วยกัน จากนั้นหมักไว้ประมาณ 1 ชม
2 เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไปพอประมาณ จากนั้นรอจนน้ำมันร้อน ใส่เส้นหมี่ ซีอิ้วดำ ลงไป ผัดให้ซีอิ้วดำคลุกเส้นให้ทั่ว จากนั้นปิดเตา ตักขึ้นใส่จาน พักไว้
3 ตั้งกระทะอีกครั้ง ใส่น้ำมันลงไปน้ำมันร้อนก็ใส่กระเทียมลงไปผัดจนกระเทียมหอม ใส่เนื้อหมูหั่นลงไป ผัดจนหมูเริ่มสุกก็ใส่เครื่องปรุงต่างๆ คือ ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย และน้ำตาลทรายลงไป
4 ผัดให้เครื่องปรุงต่างๆ เข้ากัน จนหมูสุกก็เติมน้ำซุปลงไป รอจนน้ำซุปเดือด ก็ใส่เต้าเจี้ยวลงไป ชิมรสตามชอบ จากนั้นรอให้น้ำซุปเดือดอีกครั้งก็ใส่ผักคะน้าที่หั่นไว้ลงไป ระหว่างนี้ให้ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำเปล่า คนให้แป้งละลายจนหมด จากนั้นเทลงน้ำซุป คนเร็วๆ อย่าให้แป้งจับตัวเป็นก้อน น้ำซุปจะข้นขึ้น รอจนน้ำซุปเดือดอีกครั้งปิดไฟในเตา ตักน้ำซุปราดบนเส้นหมี่ โรยด้วยพริกไทยป่น ยกเสริฟได้เลยค่ะ

*** เวลาละลายแป้งมันลงไปแล้วหาน้ำซุปยังไม่ข้นตามที่ต้องการ ก็ให้ละลายแป้งเพิ่มลงไปอีก***

ลูกชื้นหมู

ลูกชิ้นเด้งดึง ๆ มาแล้วจ้า ด้วยความที่เป็นคนชอบอาหารเส้น ดังนั้นลูกชิ้นเป็นเมนูที่ขาดไม่ได้เลยที่เดียว ทำครั้งหนึ่งเก็บไว้กินหลายวันเลยค่ะ ส่วนใหญ่นกจะแบ่งแช่แข็งเอาไว้ นอกจากจะใส่ในก๋วยเตียวแล้วบางครั้งยังเอามาทอด ปิ้งย่าง ยำ หรือไม่ก็เอามาแกง อยู่เมืองไทยหาซื้อได้ง่าย อยู่ต่างแดนหาซื้อยากแถมยังแพงทำเองดีกว่าปลอดภัยไร้สาร ว่าแล้วเข้าครัวกันเถอะค่ะ



ส่วนผสม
เนื้อหมูบดละเอียด 500 กรัม
ซีอิ๊วขาว 2 ชต.
น้ำตาล 1 ชต.
แป้งข้าวโพด 2 ชต.
ผงฟู 1 1/2 ชต.
เกลือ 1/2 ชช
น้ำมันพืช 2 ชต.
น้ำเย็นจัด 2 ชต
พริกไทยตามชอบ

วิธีทำ
1 ผสมเกลือ น้ำตาล ซีอิ๊ว แป้งข้าวโพด ผงฟู น้ำและน้ำมันเข้าด้วยกันใส่ลงไปเนื้อหมูบดละเอียด นวดให้เข้าจนเป็นเนื้อเดียวกันทั้งหมด เติมพริกไทยลงไปแล้วนวดต่อให้เข้ากันอีกครั้ง
2 นำหมูบดที่นวดเสร็จแล้วแช่ตู้เย็นประมาณ 1 ชม
3.ตั้งกระทะใส่น้ำตั้งบนเตาใช้ไฟแรงต้มให้เดือด จากนั้นดับไฟที่ต้มน้ำในกระทะ เอาหมูบดออกมาบีบให้เป็นก้อนกลม แล้วใช้ช้อนตักใส่ลงในกระทะที่มีน้ำร้อนทำแบบนี้จนหมดค่ะ เปิดเตาอีกครั้งต้มต่อใช้ไฟอ่อนที่สุดอย่าให้น้ำในกระทะเดือน
4 เตรียมน้ำเย็นใส่น้ำแข็งไว้1กะละมัง พอลูกชิ้นในกระทะเริ่มลอยลูกชิ้นได้ที่เริ่มจะสุก พอลูกชิ้นสุกได้ที่ตักใส่กะละมังที่ใส่น้ำและน้ำแข็งทิ้งๆไว้สักครู่จากนั้นตักใส่จานหรือกล่องเก็บแช่ตู้เย็นไว้ปรุงกับกว๋ยเตียว หรืออาหารอื่น ๆ ได้เลย

***สุตรนี้ใช้ได้กับทุกเนื้อ แต่ที่บ้านส่วนใหญ่จะมีลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นไก่ และลูกชิ้นไก่งวง ส่วนลูกชิ้นกุ้ง ปลา นกใช้อีกสูตรหนึ่ง แต่ขั้นตอนของการทำลูกชิ้นก็จะคล้าย ๆ กันนะค่ะ***

ลูกชิ้นไก่


ลูกชิ้นไก่งวง




แกงส้มใบSpinachไข่กุ้งสด

จริงๆ แล้วเมนูนี้นกทำอยู่หลายรอบแต่ไม่มีโอกาสได้เอามาลงสักที่วันนี้ว่างมีโอกาสเลยพิมพ์เสียที่ นกเป็นคนที่ชอบทานแกงส้มชะอมไข่ แต่ที่บ้านชะอมนั้นอยู่ห่างไกลกันเหลือเกิน นี้ถ้าอยู่เมืองไทยไปตลาดก็ได้มาแล้ว แต่อยุ่ต่างแดนบ้านไกลกว่าจะได้มาความอยากคงจบ หรือไม่ก็ยากกินต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ชะอม นกเลยใช้ใบSpinach ที่หาซื้อง่ายแกงกินนะค่ะ ที่บ้านส่วนใหญ่ทำไข่เจียวใบ Spinach กินกับน้ำพริกอยู่เป็นประจำ นกเอามาใสแกงเสียเลยง่ายดี




ส่วนผสม
ใบSpinach หั่นเป็นเส้น ๆ 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 2 ฟอง
กุ้งสด 1 ขีด
น้ำตาลปีบ ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำมะขามเปียก ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับทอดชะอม ตามชอบ

ส่วนผสมพริกแกง
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
หัวหอมแดง 5-6 หัว
กระชาย 3 ราก (ถ้ามี)
กะปิ 1 ชต
เกลือป่น 1/2 ชช
ปลาต้มสุกแกะเนื้อ 1 ตัว

วิธีทำ
1.เอาพริกแห้งแช่น้ำให้นิ่ม พริกนิ่มแล้วให้บีบน้ำออก หั่นหรือฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในครก ใส่เกลือป่นไปนิดหน่อย โขลก ๆ ให้พริกละเอียด จากนั้นเติมส่วนผสมอื่นเข้าไปโขลกต่อจนส่วนผสมทุกอย่างละเอียดเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
2.เอาหม้อตั้งบนเตาใส่น้ำลงไปต้มให้เดือด ใส่พริกแกงที่โขลกเสร็จแล้วลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลปึบ น้ำปลาดี น้ำมะขามเปียก ชิมรสตามชอบพักไว้ เวลาจะทานยกหม้อตั้งเตาอีกครั้งพอน้ำแกงเดือดค่อยใส่กุ้งลงไป
3.ใบSpinach หั่นซอยผสมกับไข่ปรุงรสด้วยน้ำปลา ลงทอดเหลืองสองด้านแล้ว ตักขึ้นมาพักไว้รอเย็น แล้วหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าพอคำ จากนั้นราดด้วยน้ำแกง ยกเสริฟทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

****ถ้าใครแกงด้วยใบSpinach เหมือนนก เวลาใส่น้ำปลาให้ใส่เยอะกว่าชะอมนิดหน่อย เพราะใส่น้อยเกินไปไข่จะจืดเวลากินไม่ค่อยได้รสเท่าไร แต่ถ้าใครไม่ชอบใบSpinach เปลี่ยนเป็นไข่เจียวใบคะน้า หรือไข่เจียวแครอทก็ได้ค่ะ****

ข้าวผัดขิง

ขิงๆๆๆ สมุนไพรไทยมีคุณประโยชน์ โดยเฉพาะหน้าหนาวอย่างนี้ต้องกินเยอะ ๆ จะได้ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นถ้าเราพูดถึงคุณประโยชน์ของขิงคงพูดกันไม่จบมีเยอะมาก ๆ อย่างเรากินขิงอ่อน แต่ถ้าขิงแก่ก็จะเอาไปทำยานะค่ะ ขิงเป็นพืชที่ปลูกได้ดีในเขตร้อน อย่างเมืองไทยบ้านเราถือว่าเป็นแหล่งปลูกขิงเลยก็ว่าได้ค่ะ คุยเรื่องขิงแค่นี้ก่อนนะค่ะ เพราะว่าหิวแล้วไปเข้าครัวก่อนนะจ้า




ส่วนผสม
กุ้งสดขนาดเล็กใหญ่ ตามชอบ (วันนี้นกใช้กุ้งตัวใหญ่ 10 ตัว)
หมูกรอบ 1/2 ถ้วย
ข้าวสวย 2 ถ้วย
กระเทียมสับ ตามชอบ
ขิงซอย 1 แง่ง
พริกหวานหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 ลูก
ข้าวโพดอ่อนหั่นเป็นท่อนบาง ๆ 1/2 ถ้วย
หัวหอมใหญ่ หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/2 ลูก
แครอท หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/4 ถ้วย
ต้อนหอมผักชี หั่นหยาบ 2 ต้น
ชีอิ้วขาว 2 ชต
น้ำตาล ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ

วีธีทำ
1. เอากะทะตั้งบนเตาใช้ไฟแรงปานกลาง ใส่น้ำมันสำหรับผัดลงไป พอน้ำมันร้อนใส่เจียวกระเทียมลงผัดให้หอม เอากุ้งลงผัดให้พอกุ้งมีเริ่มมีสีแดงสุก
2.ใส่หัวหอมใหญ่ แครอทลงไปผัดให้เข้ากันจนกระทั้งผักเริ่มสุก ใส่ข้าวสวย หมูกรอบ ลงไปผัด ปรุงรสด้วย ชีอิ้วขาว น้ำตาล น้ำปลา ชิมรสตามชอบ
3.ผัดให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นใส่ขิงซอยลงไปผัดต่อให้ขิงสุก ชิมรสอีกครั้ง หากได้ที่ปิดไฟในเตา ใส่ต้นหอมผักชีลงไป ผัดให้เข้ากันตักใส่จานโรยขิงซอยอีกนิดหน่อย ยกเสริฟคู่กับไข่ดาวได้เลย ค่ะ

***ถ้าใครต้องการความเผ็ด เวลาเสริฟ ก็ตักพริกมะนาวใส่ลงไป และถ้าไม่ชอบกินไข่ดาว จะใส่ไข่ตอนที่ผัดก็ได้เช่นเดียวกันคะ **


ข้าวผัดพริกแกงไก่

จำได้เด็ก ๆ เวลาแม่ทำกับข้าวมีผัดพริกแกง หรือผัดเผ็ด หลังจากตักอาหารใส่จานเสร็จแล้วในกระทะยังมีเครื่องแกงเหลืออยู่แม่ก็จะเอาข้าวสวยลงไปผัดเสมอ ลูก ๆ ก็จะตักข้าวที่ผัดเครื่องแกงในกระทะราดด้วยผัดพริกแกง หรือผัดเผ็นที่แม่ทำอีกที่ อร่อยจริงๆ




ส่วนผสม
ข้าวสวย 1 1/2 ถ้วย
เนื้อไก่หั่นเป็นชิ้นพอคำ ตามชอบ
ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อนๆ 2-3 ฝัก
พริกแกงเผ็ดใต้ 1 ชต
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำตาลทราย ตามชอบ
ใบโหระพา ตามชอบ
พริกชี้ฟ้าแดงเขียว หั่นเฉียง 2-3 ดอก
น้ำมันสำหรับผัด

วิธีทำ
1.ตั้งกระทะบนเตาไฟใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันลงไปในกระทะสำหรับผัดพริกแกง ผัดให้พริกแกงพอหอม จากนั้นใส่เนื้อไก่ลงในกระทะผัดจนกระทั้งไก่เริ่มสุก
2.ใส่ข้าวสวยลงไปผัด ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ ผัดให้ข้าวเข้ากันดี พอได้ที่ใส่ถั่วฝักยาว พริกชี้ฟ้า ลงผัดให้เข้ากันสัก สองสามครั้ง ปิดไฟในเตา ใส่ใบโหระพาลงไปผัดคลุกเค้าอีกครั้งตักใส่จานเสริฟคู่กับไข่ดาว หรือไข่เจียวตามชอบได้เลยค่ะ

เต้าเจี้ยวหลน



ส่วนผสม
เต้าเจี้ยวขาวตำละเอียด 3 ชต
เนื้อกุ้งสดสับ 1/2 ถ้วย
หมูสับ 1/2 ถ้วย
หัวหอมแดงซอย 5-6 หัว
พริกชี้ฟ้าเขียว แดง หั่นเป็นท่อนๆ ตามชอบ
พริกขี้หนูสดหั่นเป็นท่อน ๆ ตามชอบ
กะทิ ๑ กระป๋อง
น้ำตาลทราย ตามชอบ
เกลือ 1 ชช
น้ำมะขามเปียก ตามชอบ

วิธีทำ
1.เทกะทิใส่หม้อ ละลายเต้าเจี้ยว หมู กุ้ง แล้วตั้งไฟคนให้สุก
2.ใส่พริกชี้ฟ้า พริกขี้หนูสด หอมแดง ลงในหม้อ จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือ น้ำมะขามเปียก ชิมรส เปรี้ยว หวาน เค็ม ตามชอบ พอเดือนอีกครั้งตักใส่ถ้วยเสริฟพร้อมผักสด แครปหมู ได้เลยค่ะ


แกงหมูตะไคร้

เมนูนี้นกทำหลายรอบแต่ไม่เคยได้ลงสูตรในครัวสักที ช่วงนี้อากาศหนาวไปไหนมาไหนไม่สะดวกยิ่งวันนี้มีหิมะแต่เช้าเลยได้โอกาสสะสางเมนูเก่า ๆ ได้ไปหลายเมนูเลย นกประทับใจแกงหมูตะไคร้เป็นที่สุด ตอนที่ทำครั้งแรกยังกังวลว่าจะชอบกลิ่นของตะไคร้หรือเปล่า เพราะใส่มากกว่าปกติ อีกอย่างตัดเป็นท่อน ๆ ไม่ได้โขลกให้ละเอียดเหมือนทำแกงอื่น ๆ พอทำเสร็จยกขึ้นโตแฟนคลับชิมชมใหญ่เลยค่ะ ว่าได้กลิ่นสมุนไพร แถมแฟนคลับยังบอกว่าแกงตะไคร้นี้ บอกตัวตนของความเป็นสมุนไพรไทยที่มีกลิ่นหอมชื่นใจทำเอานกยิ้มแก้มป่องไปเลย







ส่วนผสม
เนื้อหมูหั่นชิ้น 500 กรัม
สับประรดหั่นชิ้น 1 ถ้วย
ตะไคร้ทุบพอหยาบหั่นเป็นท่อน ๆ 4-5 ต้น
น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ชต
กระทิ 1 กป
ใบมะกรูด 6-8 ใบ
พริกขี้หนูสด ตามชอบ
น้ำมันพืช 2 ชต
น้ำตาล 1 ชต
น้ำปลา ตามชอบ

วิธีทำ
1.ตั้งกระทะบนเตาเปิดไฟในเตาปานกลาง เอาน้ำมันใส่กระทะ พอน้ำมันร้อน ใส่เครื่องแกง และตะไค้รลงผัดให้พอหอม (ระวังอย่าให้ไฟแรงเดียวเครื่องแกงจะไหม้)
2.เครื่องแกงหอมใส่เนื้อหมูและสับปะรด พริกขี้หนูสด ลงไปผัด ผัดให้เนื้อหมูพอเริ่มสุกหน่อย ๆ จากนั้นใส่น้ำกระทิ ใบมะกรูด ลงไป ค้นให้ส่วนผสมเข้ากัน พักให้น้ำแกงเดือด
4. พอน้ำแกงเดือดอีกรอบ ใส่ น้ำตาล น้ำปลา ชิมรสตามชอบ เคี่ยวให้แกงงวดซึมเข้าเนื้อหมู และเนื้อหมูนุ่ม ได้ที่ชิมรสอีกครั้งตามชอบ จากนั้นตักใส่ถ้วยยกเสริฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

***เนื้อหมูที่ใช้ให้พอมติดมันนิด ๆ เพราะเวลาผัดน้ำมันจะได้ออกมาไม่ทำให้เครื่อแกงแห้งเกินไปนะค่ะ เวลาเนื้อหมูหั่นพยายามหั่นให้หนาๆ สักหน่อย เพราะถ้าหั่นบางๆ จะทำให้เนื้อหมูร่วนแตกดูไม่น่ากิน***