ราดหน้าหมูนุ่มแผ่นปอเปียะเวียดนาม

เมื่อพูดถึงอาหารจานเส้น นกเองก็เป็นเด็กเส้นกะเค้าเหมือนกัน วันนี้เลยนำเมนูอาหารจานเส้นที่ติดอันดับในใจมาให้เพื่อนๆได้ชมกัน เมนูนั้นก็คือราดหน้านั้นเอง นกว่าหลายๆ คนคงชอบเมนูราดหน้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ราดหน้า พอพูดถึงก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ หลาย ๆคนที่อยู่ในต่างแดนคงไม่มีปัญหาในการหาก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ นกเองก็เป็นปัญหาใหญ่คือหาหาแหล่งซื้อไม่ได้ เวลาอยากกินก๋วยเตียวเส้นใหญ่ นกมักจะทำเส้นใหญ่เอง หรือไม่ก็จะใช้เจ้าแผ่นปอเปียะเวียดนามนี้ละค่ะมาใช้แทนก๋วยเตียวเส้นใหญ่ เพราะส่วนผสมคล้าย ๆ กัน ถ้าเพือน ๆ มีปัญหาเรื่องก๋วยเตียวเส้นใหญ่เหมือนกันละก็ ลองนำไปใช้ดูนะค่ะ เผื่อว่าจะชอบใจ ว่าแล้วก็ลงมือกันเลยค่ะ
ส่วนผสม แผ่นปอเปียะเวียดนาม 2 ห่อ (หนึ่งห่อมีประมาณ 10 แผ่น) คะน้าหั่นเฉียง 6-8 ต้น เนื้อหมูสันในหมัก 1 ถ้วย
กระเทียมสับ 5-6 กลีบ ซีอิ้วขาว 2 ชต ซีอิ้วดำ 2 ชต น้ำมันหอย 2 ชต น้ำตาลทราย ตามชอบ เต้าเจี้ยว 2 ชต แป้งข้าวโพด 2 ชต น้ำมันสำหรับผัด น้ำซุปไก่ ตามชอบ (ไม่มีใช้น้ำเปล่าได้ค่ะ)
ส่วนผสมหมูหมัก
เนื้อหมูสันใน หั่นสไลด์ 1 ถ้วย
แป้งข้าวโพด 1 ชช
ซีอิ้วขาว 1 ชต
ซอสหอยนางรม 1 ชต
น้ำมันงา 1 ชช
วิธีทำ
1.นำแผ่นปอเปียะไปจุ๋มในน้ำอุ่นให้แผ่นนิ่มเสียก่อน นำขึ้นซับกับผ้าให้แผนแป้งไม่มีน้ำก็ใช้ได้แล้วละ เวลาซับเบามือหน่อยนะค่ะ เดี่ยวแผ่นแป้งขาด จากนั้นก็เอาแป้งชุปน้ำมันแล้วทาลงบนแผ่นแป้งให้ทั่วพักไว้ ทำอย่างนี้ไปจดหมดแผ่นแป้ง
2.นำแผ่นแป้งที่ได้ทั้งหมด ไปตัดให้เป็นเส้น ๆ ขนาดตามต้องการ กะขนาดตามชอบ (ของนกประมาณ 1 นิ้วเห็นจะได้มั่งค่ะ) ตัดเส้นเสร็จก็ลอกเส้นให้ออกจากกัน เหมือนกับลอกก๋วยเตียวเส้นใหญ่
3.เมื่อได้เส้นก๋วยเตี๋ยวตามต้องการแล้ว ให้คลุกซีอิ้วดำให้ทั่วๆ
4.พอคลุกซีอิ้วดำเรียบร้อยแล้วก็นำไปผัดในกะทะ ปกติจะใส่น้ำมันนิดหน่อย แต่วันนี้ ไม่ใส่ค่ะ เพราะตอนทาน้ำมันบนเส้นทาเยอะไปหน่อย น้ำมันมีเยอะเลยเลยเอาลงไปผัดในกะทะเลย ผัดให้เส้นสุกหอม เวลาผัดจะได้กลิ่นเหมือนผัดเส้นก๋วยเตียว ตักใส่จานพักไว้
5.ผสมส่วนผสมหมูหมักทั้งหมดเข้าด้วยกัน จากนั้นหมักไว้ประมาณ 1 ชม
6. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไปพอประมาณ จากนั้นรอจนน้ำมันร้อน ใส่เส้นหมี่ ซีอิ้วดำ ลงไป ผัดให้ซีอิ้วดำคลุกเส้นให้ทั่ว จากนั้นปิดเตา ตักขึ้นใส่จาน พักไว้ 7. ตั้งกระทะอีกครั้ง ใส่น้ำมันลงไปน้ำมันร้อนก็ใส่กระเทียมลงไปผัดจนกระเทียมหอม ใส่เนื้อหมูหั่นลงไป ผัดจนหมูเริ่มสุกก็ใส่เครื่องปรุงต่างๆ คือ ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย และน้ำตาลทรายลงไป 8.ผัดให้เครื่องปรุงต่างๆ เข้ากัน จนหมูสุกก็เติมน้ำซุปลงไป รอจนน้ำซุปเดือด ก็ใส่เต้าเจี้ยวลงไป ชิมรสตามชอบ จากนั้นรอให้น้ำซุปเดือดอีกครั้งก็ใส่ผักคะน้าที่หั่นไว้ลงไป ระหว่างนี้ให้ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำเปล่า คนให้แป้งละลายจนหมด จากนั้นเทลงน้ำซุป คนเร็วๆ อย่าให้แป้งจับตัวเป็นก้อน น้ำซุปจะข้นขึ้น รอจนน้ำซุปเดือดอีกครั้งปิดไฟในเตา ตักน้ำซุปราดบนเส้นหมี่ โรยด้วยพริกไทยป่น ยกเสริฟได้เลยค่ะ
*** เวลาละลายแป้งลงไปแล้วหาน้ำซุปยังไม่ข้นตามที่ต้องการ ก็ให้ละลายแป้งเพิ่มลงไปอีก นกจากแผ่นแป้งปอเปียะเวียดนามที่นกใช้ทำราดหน้าแล้ว ก็ยังมีเส้นก๋วยเตียวที่นกทำเอง หากเพื่อนสนใจ สามารถอ่านได้ที่เมนูก๋วยเตียวถังแตก โดยคลิ๊กลิงค์ https://pinkroselove-nd.blogspot.com/2010/07/blog-post_30.html ได้เลยค่ะ ***



พาสต้าเขียวหวานไก่

แกงเขียวหวานไก่เป็นเมนูที่แฟนคลับชอบมาก ที่บ้านมักจะทำบ่อยๆ เพราะเป็นเมนูที่ทำงาน แถมทำที่ไรได้คำชมทุกที่ คริๆ เลยทำบ่อย เวลาทำนกจะนึกถึงขนมจีน แต่ถ้าไม่มีขนมจีนก็ใช้เส้นอื่น ๆ แก้ขัดกันไปค่ะ อย่างวันนี้ ก็เป็นพาสต้านี้ละค่ะ





ส่วนผสม


พาสต้าต้มสุก ตามชอบ (Farfalle/Butterfly Pasta)

น้ำพริกแกงเขียวหวาน 1 ชต
เนื้อไก่หั่นชิ้นพอคำ ตามชอบ (นกใช้ประมาณ 1/2 ถ้วย)

มะเขือม่วงหั่นชิ้นพอคำ 1/4 ถ้วย
ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อน ๆ 1/4 ถ้วย
หน่อไม้ 1 กป
พริกชี้ฟ้า เขียว/แดง ตามชอบ
หัวกะทิ 1/4 ถ้วย
หางกะทิ 1/2 ถ้วย
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำตาลปี๊บ 2 ชช
ใบโหระพา ตามชอบ
น้ำมันพืช 1 ชต

วิธีทำ
1. ใส่น้ำมันพืชลงกระทะ นำน้ำพริกแกงเขียวหวานลงไปผัด พอส่งกลิ่นหอมหวน จากนั้นใส่หัวกะทิ ลงไปผะต่อ พอน้ำกะทิเดือดก็ใส่ไก่ลงไป
2. เมื่อเนื้อไก่เริ่มจะสุกก็ปรุงรสด้วย น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ จากนั้นก็ใส่ผักลงไป ตามด้วยหางกะทิ พอทุกอย่างสุก ก็ใส่ใบโหระพาพริกชี้ฟ้าคนให้เข้ากันอีกครั้ง ตักราดลงบนเส้นพาสต้านุ่ม ๆ ยกเสริฟได้เลยค่ะ

***ถ้าเพื่อนๆ ไม่ชอบกะทิ หริอหากะทิไม่ได้ก็อาจจะใช้นมสดปรุงอาหารแทนก็ได้เช่นกัน นกเองบางครั้งก็ใช้นมสดแทนกะทิ แต่วันนี้มีกะทิ เลยใช้กะทินะค่ะ ส่วนผักทำให้เลือกผักแข็งลงต้มก่อน อย่างมะเขือม่วงนกใส่หลังสุดนะค่ะ***

ผัดบะหมึ่กึ่งสำเร็จรูปกับกุ้ง /ผัดมาม่ากับกุ้ง

ไม่รู้จะทำอะไรเป็นเมนูมื้อเที่ยงดี หันไปหันมาเอานี้ละบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือมาม่า ง่าย ๆ สะดวก คริ ๆ เรียกว่าสิ้นคิดเลยก็ว่าได้ค่ะ ถ้าพูดไปแล้วมาม่ากับนกนี้ถือว่าเป็นอะไรที่คู่กันเลยที่เดียว เพื่อน ๆ มีมาม่าที่ชอบในใจหรือไม่ จำได้เด็กๆ มาม่าหมูสับเป็นอะไรที่ชอบมากๆ ต่อมามีรสออกมาหลาย ๆ รส เลยมีมาม่าที่ชอบเพิ่มอีกรสคือรสต้มยำกุ้ง ดังนั้นนกจะทำมาม่าผัดนกจะใช้ มาม่าหมูสับ แต่ถ้าต้มละก็นกจะใช้มาม่าต้มยำกุ้ง ที่บ้านจะมีอยู่สองรสให้เลือก เพื่อนๆ ละค่ะ มีมาม่าในใจไม่ค่ะ




ส่วนผสม
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรส (มาม่า) ตามชอบ ขนาดใหญ่ 1 ซอง
ไข่ไก่ 1 ฟอง
กุ้งสด ตามชอบ
ผักกาดขาวหั่นเป็นชิ้นพอคำ 3-4 ก้าน
มะเขือเทศ 1 ลูก
กระเทียมสับ ตามชอบ (นกใช้ประมาณ 4-5 กลีบ)
ซีอิ๊วขาว 1 ชต
น้ำมันหอย 1 ชต
น้ำตาลทราย ตามชอบ
ซีอิ้วดำ ตามชอบ
ต้นหอมผักชีหั่นเป็นท่อนๆ 2-3 ต้น

วิธีทำ
1. ตั้งหม้อเตาไฟ ใส่น้ำลงไปสูงพอประมาณให้ต้นม่าม่าได้ พอน้ำเดือดหย่อนก้อนมาม่าลงไปทั้งก้อนไม่ต้องบิให้แตก เอาทัพพีกด ๆ ให้จมน้ำต้มประมาณ 1 นาที ให้พอเส้นมาม่าเริ่มคลายตัวพอประมาณอย่าให้นิ่มมาก จานนึง จากนั้นก็ช้อนขึ้นใส่กระชอน พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2. เปิดไฟกลางไปค่อนข้างอ่อน ใส่น้ำมันพืชไป 2-3 ชต ลงในกะทะ เอาขึ้นตั้งบนเตา รอน้ำมันอุ่นใส่กระเทียมลงไปเจียวพอ
3. ใส่กุ้งลงไปผัด ผัดพอกุ้งเปลี่ยนสี ไม่ต้องรอให้กุ้งสุก จากนั้นตอกไข่ใส่ลงไป ใช้ตะหลิวขยี้ให้ไข่แตก ทิ้งเวลาไว้ให้ไข่ด้านล่างสุก สักพักกลับไข่อีกด้านลงไป ผัดให้ไข่สุกทั้งหมด
4. ใส่ผักกาดขาวลงไปผัด ใส่ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย จนกระทั่งผักสุก ใส่ม่าม่าลงไปผัด ใส่ซีอิ้วดำลงไปผัดให้เข้ากัน ผัดเร็ว ๆให้ทั่วกัน ชิมรสตามชอบ จากนั้นปิดไฟในเตาตักใส่จาน โรยหอมผักซีจากนั้นยกเสริฟได้เลยค่ะ

***ถ้าใครไม่ชอบกุ้งจะเปลี่ยนเป็นเนื้อสัตย์อื่นๆ ก็ได้ค่ะ ผัดมาม่านี้ถือเมนูหนึ่งในเมนูอาหารสิ้นคิดของนกเลยถ้าไม่มีอะไร หันไปมองในตู้มีม่าม่าหรือเปล่าถ้ามีก็ใช่เลย นอกจากมาม่าผัดแล้วยังมีมาม่าต้มที่ชอบกินบ่อย ๆ โดยเฉพาะมาม่าปลากระป๋องถ้าไม่ลืมนกจะเอาสูตรมาลงต่อท้ายมาม่าผัดอีกครั้งนะค่ะ***

มันเทศเชื่อม





ส่วนผสม
มันเทศ ขนาดกลาง 2 หัว
น้ำตาลทราย 1 1/2ถ้วย
น้ำเปล่า 1 ถ้วย
น้ำปูนใส ตามชอบ (นกใช้น้ำปูนใส ปริมาณพอท่วมมันเทศ)
หัวกะทิ 1 ถ้วย
เกลือป่น 1/2 ชช
น้ำมะนาว 1 ชช

วิธีทำ
1. ปลอกเปลือกมันเทศ นำไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นตามขนาดที่ต้องการ
2. นำมันเทศไปแช่น้ำปูนใสไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นจึงเทน้ำปูนใสทิ้ง แล้วนำไปล้างน้ำเปล่าอีกครั้งให้หมดกลิ่นปูน พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
3. นำน้ำตาลและน้ำผสมลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนเตาต้มให้เดือดจนน้ำตาลละลายหมด จากนั้นนำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง
4. นำน้ำเชื่อมที่กรองเรียบร้อยแล้ว ขึ้นตั้งไฟต่ออีกประมาณ 10 นาที และนำมันเทศใส่เชื่อมด้วยไฟอ่อน ๆ จนน้ำเชื่อมเข้าในเนื้อมันเทศมีสีใสเป็นเงา ใส่มะนาวลงค้นให้ทั่วอีกครั้งปิดไฟในเตา ตักมันเชื่อมใส่ถ้วย ราดด้วยหัวกะทิยกเสริฟได้เลยค่ะ

***การใส่มะนาวลงไปนิดหน่อยเพื่อที่จะช่วยไม่ให้น้ำตาลตะกอนและเป็นเกล็ดเวลาน้ำเชื่อมเย็น นะค่ะ จะใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน***

ไข่ดาวน้ำ (Poached eggs)

วันหยุดส่วนใหญ่นกกับแฟนคลับถ้าไม่ได้ไปไหน เราสองคนก็จะตื่นสายกว่าปกติ ส่วนใหญ่ถ้าตื่นสายนกจะทำเมนูอะไรง่าย ๆ อย่างไข่ดาวน้ำ กับขนมปังปิ้ง แถมด้วยกาแฟหอม ๆ คนละแก้ว แค่นี้ก็พออยู่ไปจนถึงมื้อเที่ยงแล้วละค่ะ





ส่วนผสม
น้ำส้มสายชู 1 ชต (นกใช้ Apple cider vinegar)
ไข่ไก่ 2 ฟอง
ขนมปังปิ้ง  2  แผ่น
เกลือป่าน เล็กน้อย
พริกไทยป่น เล็กน้อย

วิธีทำ
1.  เปิดไฟในเราใช้ไฟปานกลาง เอาน้ำใส่หม้อประมาณ 1/3 ของหม้อต้ม ต้มน้ำให้เดือดใส่น้ำส้มสายชู แล้วลดไฟในเตาให้อ่อนลง
2.  ตอกไข่ใส่ในถ้วยครั้งละ 1 ฟอง ใช้ช้อนคนน้ำในหม้อให้เป็นน้ำวน แล้วเทไข่ที่ตอกไว้ลงไป ทิ้งให้ไข่สุกในหม้อประมาณ 3-4 นาที ตักไข่ขึ้นมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ โรยด้วยเกลือป่น พริกไทยป่นเสริฟเป็นอาหารเช้าคู่กับขนมปังได้เลยค่ะ

ก๋วยเตียวถังแตก

เพื่อน ๆ รู้จักก๋วยเตี๋ยวถังแตกกันไม่ค่ะ ก๋วยเตียวที่นี้เส้นเยอะๆ เนื้อหมู ไก่ นิดเดียว หรือไม่มีเลย บางเจ้าก็จะใช้เต้าหู้ หรือลูกชิ้น เรามักจะเห็นตามขายตามเทศกาลงานวัด หรือไม่ก็ตลาดนัด นกเห็นที่ไรต้องซื้อติดมือกลับบ้านทุกที่ ราคาไม่แพงกล่องละ 10 บาท ส่วนผสมของก๋วยเตี๋ยวถังแตกมีไม่มากแต่อร่อยขอบอก



ส่วนผสม
เส้นก๋วยเตี๋ยว ตามชอบ
เนื้อหมู ไก่ เต้าหู้ ลูกชิ้น หั่นเป็นชิ้นๆ ตามชอบ (วันนี้นกใช้เบคอนทำค่ะ)
กระเทียมสับ 1 ชต
ถั่วงอก 1 ถ้วย
ต้นหอม หั่นเป็นท่อน 3-4 ต้น (วันนี้ไม่มีกุ่ยช่ายใช้ต้นหอมแทน)
ซีอิ้วดำ 2 ชต
ซีอิ้วขาว 2 ชต
น้ำมันหอย 1 ชต
น้ำตาล ตามชอบ
น้ำมันพีช สำหรับผัด

วิธีทำ
1. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป รอจนน้ำมันร้อนก็ใส่กระเทียมลงไปผัดจนกระเทียมหอม
2. ใส่เบคอนลงไป ผัดจนเบคอนเริ่มสุกก็ใส่เส้นก๋วยเตียวลงไปผัด เติมเครื่องปรุง ซีอิ้วขาว ซิ้อิ้วดำ น้ำมันหอย และน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ
3. ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นใส่ต้นหอม และถั่วงอกลงไปผัดสองสามทีปิดไฟในเตาตักก๋วยเตี๋ยวใส่จานเสริฟ โรยหน้าด้วยถั่วลิสงบด และพริกป่น ยกเสริฟได้เลยค่ะ

***ของนกวันนี้ไม่มีถั่วลิสงบดค่ะ แต่สิ่งที่พิเศษสุดในการทำถังแตกวันนี้อยู่ที่เส้นก๋วยเตี๋ยวที่เพื่อนๆ เห็นนะค่ะเป็นเส้นก๋วยเตียวที่นกทำเอง อยู่ที่นี้ก๋วตเตี๋ยวเส้นใหญ่ค่อนข้างหายากค่ะ ถ้าเพื่อนๆ สนใจนกมีสูตรและวิธีทำให้แล้วลองเอาไปทำดูนะค่ะ***







ส่วนผสม
แป้งข้าวจ้าว 2 ถ้วยตวง
แป้งมัน5 ชต
น้ำสะอาด 2 1/2 ถ้วย (ดูที่ความเข้มข้นของแป้ง ค่อยเติมน้ำหากข้นเกินไป)
น้ำมันพืชสำหรับทากันเส้นก๋วยเตี๋ยวติดกันพอประมาณ

วิธีทำ
1. ผสมส่วนผสมทั้งหมดคนให้เข้ากัน สังเกตแป้งหากข้นเกินให้เติมน้ำลงไปได้นิดหน่อย (อย่าให้เหลวเกินไปนะค่ะ ให้พอหยอดเป็นแผ่น ๆ เหมือนข้าวเกรีบปากหม้อได้นะค่ะ)
2. เติมน้ำใส่หม้ออะลูมิเนียมปากกว้างประมาณค่อนหม้อ เว้นช่องให้ไอน้ำลอยขึ้นมาด้วยสักนิด แล้วค่อยผูกผ้าขาวให้แน่นๆที่ปากหม้อ (ผ้าที่ผูกปากหม้อต้องไม่คลุมมิดหมด ให้มีช่องเว้นนิดหนึ่งนะค่ะ)
3. พอน้ำเดือดก็คนแป้งให้เข้ากันก่อนตักหยอดลงบนผ้า ละเลงแป้งให้ทั่ว ๆ เหมือนทำข้าวเกรีบปากหม้อนะค่ะ (เวลาละเลงแผ่นก๋วยเตี๋ยวจะต้องเป็นแผ่นใหญ่กว่าและหนากว่า) จากนั้นปิดฝาบริเวณที่ละเลงแผ่นแป้ง รอจนแป้งสุกแล้วก็แซะออก
4. ก่อนจะแซะออกให้ใช้น้ำมันพืชทาตอนบนแผ่นแป้งให้ทั่วๆก่อน เพื่อที่เวลาแซะแผ่นใหม่มาวางทับจะได้ลอกออกง่าย (อย่าลืมทาน้ำมันด้านบนทุกครั้งนะคะ)
5. ทำอย่างนี้จนหมดแป้ง จากนั้นให้ยกแผ่นก๋วยเตี๋ยวที่วางซ้อนกันทั้งหมดนั้นออกมาหั่น เป็นเส้น ๆ ขนาดตามต้องการ แล้วค่อยลอกแป้งออกจากกันที่ละเส้น จนหมดเท่านี้ก็จะได้เส้นใหญ่ที่เหนียวนุ่มอร่อยมาทำก๋วยเตียวผัดแล้วละค่ะ

***ส่วนจานนี้เป็นเส้นเล็กถังแตกนะค่ะ ส่วนผสมต่างกัน เส้นเล็กถังแตกส่วนผสมจะคล้าย ๆ กับผัดไท เส้นเล็ก ถั่วงอก กุ้ยช่าย น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะขามเปียก ซอสมะเขือเทศ น้ำมันพืช กระเทียมสับ ไข่ไก่ และเต้าหู้หั่นชิ้นเล็กๆ นะค่ะ***



ยำผักกาดดองทรงเครื่อง

ฝนตกทั้งคืนเลยค่ะ เช้าตื่นมาก็ย้งตกอยู่ อากาศวันนี้ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไร นี้ยังไม่เข้าหน้าหนาวยังรู้สึกหนาวเลย อากาศเย็น ๆ ได้อะไรอุ่น ๆ ร้อน ๆ ก็ดีไม่น้อยเลย เมื่อวานมีข้าวสวยเหลือทำข้าวต้มกุ๋ยเสียเลย แล้วกินกับอะไรละดี ความคิดแรกไข่เจียว ควมคิดต่อมา ก็ผักกาดดองที่ซื้อเก็บไว้งัย ยังเหลืออีกกระป๋อง ได้เมนูแล้วก็ลงมือต้มข้าวก่อนเสร็จแล้วก็มาต่อที่ผักกาดดองนี้ละ




ส่วนผสม
ผักกาดดองชนิดเปรี้ยวหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 1 ถ้วย
หอมแดงหั่นซอย 4-5 หัว
ขิ่งหั่นซอย 1 แง่ง
กุ้งแห้ง 1 กำมือ (ถ้ามี)
น้ำมะนาว ตามชอบ
น้ำตาล ตามชอบ
เกลือ/น้ำปลา ตามชอบ
พริกป่นหยาบ1/2 ช้อนชา
ต้นหอมผักชีหั่นหยาบ 2 ต้น

วิธีทำ
1. ผสม น้ำตาล น้ำมะนาว เกลือและพริกป่นเข้าด้วยกัน คนจนน้ำตาลละลาย
2. ใส่ผักกาดดอง หอมแดง และขิง คนให้ทั่ว ชิมรสตามชอบ
3. โรยหอมผักชี คนให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นตักใส่จานพร้อมเสริฟได้เลยค่ะ

***เสียดายจังเลยกุ้งแห้งที่บ้านหมดค่ะ นี้ถ้าได้กุ้งแห้งให้นำมาล้างน้ำอุ่นให้ความเค็มออกไปสักหน่อย พักให้สะเด็ดน้ำแล้วนำไปผสมเข้ากับส่วนผสมอื่น ๆ นะค่ะ ได้ครบสูตรอย่างนี้ยิ่งอร่อยเข้าไปใหญ่ค่ะ***



มะเขือยาว/มะขือม่วงผัดเต้าเจี้ยวหมูสับ

ฝนตกอีกแล้วละค่ะ สองสามวันนี้มาแปลก หน้าร้อนแท้ ๆ กลับมีลมหนาว แถมยังฝนตกลงมาอีก แฟนคลับบอกว่าสงสัยปีนี้หน้าหนาวคงมาเร็วขึ้นแล้วละมั่ง อากาศเป็นอย่างนี้ไม่สนุกเลยถ้าจะออกไปไหน จริงๆ นกกับแฟนคลับมีโปรแกรมจะไปซุปเปอร์ด้วยกัน พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องตื่นแต่เช้า พอฝนตกนกเลยตัดสินใจไม่ออกไปซุปเปอร์ค้นดูในตู้เย็นว่ามีอะไรอยู่บ้างพอที่จะทำเป็นมื้อเที่ยง อีกอย่างตอนเย็นมีโปรแกรมออกไปดินเนอร์นอกบ้านกันอยู่แล้ว ของแฟนคลับมื้อเที่ยงนี้ขอเป็นขนมปังกับกาแฟเท่านั้นพอ แต่นกติดนิสัยคนไทยต้องกินมื้อเที่ยง ถ้าไม่ได้กินหิวเดี๋ยวหาโน่นนี้กินไม่หยุด ค้นดูในตู้มีมะเขือยาว หมูสับ ได้แล้วเมนูของฉานว่าแล้วลงมือกันเถอะค่ะ



ส่วนผสม
มะเขือยาว หั่นเป็นชิ้น 2 ลูก
หมูสับติดมันนิดหน่อย 250-300 กรัม
ใบโหระพา 4-5 กิ่ง
กระเทียมสับ 4-5 กลีบ
พริกขี้หนูตีพอแตก 5-10 เม็ด
พริกชี้ฟ้าหั่นเฉียง ตามชอบ
น้ำตาลทราย ตามชอบ
เต้าเจี้ยวดำ 1 ชต
ซีอิ๊วขาว 1 ชต
น้ำมันสำหรับผัด 2 ชต
น้ำซุป / น้ำเปล่า ตามชอบ
เกลือป่น สำหรับผสมน้ำแช่มะเขือยาว นิดหน่อย

วิธีทำ
1. นำมะเขือหั่นชิ้นเรียบร้อยแล้ว แช่น้ำเกลือพักไว้ก่อน (เพื่อไม่ให้มะเขือเปลี่ยนสีเป็นสีดำคล้ำ)
2. ตั้งไฟกะทะบนเตาเปิดไฟร้อนค่อนข้างแรง ใส่น้ำมันพืชสำหรับผัดลงไป พอน้ำมันร้อนใส่กระเทียมสับ เจียวกระเทียมให้หอม
3. ใส่หมูสับลงไปผัดให้พอหมูเริ่มสุก ใส่มะเขือยาวลงไปผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเต้าเจี้ยว น้ำตาลทราย และซีอิ้วขาว จากนั้นเติมน้ำซุปไก่หรือน้ำเปล่าลงไปพอให้มีน้ำผัดนิดหน่อย ผัดจนกระทั้งมะเขือสุก
4. ใส่โหระพา และพริกขี้หนู พริกชี้ฟ้าลงไปคนสองสามที จากนั้นก็ปิดไฟตัดใส่จานยกเสริฟคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ


***ถ้าเพื่อนๆ ไม่ชอบหมูสับจะเปลี่ยนเป็นไก่ก็ได้เช่นกันค่ะ อย่างจานนี้นกใส่เนื้อไก่ทำไว้นานแล้วไม่ได้เขียนสูตรไว้นะค่ะ***



หน่อไม้ผัดไข่




ส่วนผสม
หน่อไม้ปี๊บหั่นเส้นยาว 1 ถ้วย (นกใช้แบบต้ม)
ไข่ไก่ 2 ฟอง
กระเทียมสับละเอียด 3-4 กลีบ
พริกไทยป่น หยิบมือ
น้ำตาลทราย ตามชอบ
ซีอิ๊วขาว 2 ชช
น้ำปลา 2 ชช
น้ำซุป/น้ำเปล่า ตามชอบ
น้ำมัน 2 ชต

วิธีทำ
1.ใส่น้ำมันลงในกะทะ ตั้งไฟให้ร้อน เจียวกระเทียมให้พอหอม จากนั้นตอกไข่ใส่กะทะ ผัดยีให้กระจาย
2.ใส่หน่อไม้ลงไปผัดให้ทั่ว ปรุงรสด้วยน้ำตาล ซีอิ๊วขาว น้ำปลา น้ำซุปนิดหน่อ ผัดให้พอมีน้ำคลุกคลิก ชิมรสตามชอบ จากนั้นปิดไฟในเตาตักใส่จานเอาใบผักซีแต่งนิดหน่อย ยกเสริฟได้เลยค่ะ

***หน่อไม้ผัดไข่ของนก ใส่ซีอิ้วดำลงไปนิดหน่อยให้มีสีสรรนิดหน่อย เพื่อนๆ จะใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้ แล้วแต่ความชอบส่วนตัวนะค่ะ***

ผัดเผ็ดหมูมะเขือ






ส่วนผสม
เนื้อหมูหั่นชิ้นพอคำ 300 กรัม
น้ำพริกแกงเผ็ด 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
นมข้นจืด ½ ถ้วย
ใบโหระพา 1 กิ่ง
ใบมะกรูด ตามชอบ
มะเขือเปราะหั่นชิ้น ตามชอบ
มะเขือม่วงหั่นชิ้น ตามชอบ
น้ำมันสำหรับผัด
พริกชี้ฟ้าหั่นเฉียง ตามชอบ

วิธีทำ
1.นำนมข้นจืดประมาณ 2-3 ชต ใส่ลงไปหมักกับเนื้อหมูที่หั่นไว้ประมาณ 20-30 นาที
2.เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป รอจนน้ำมันเริ่มร้อน ให้ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัดจนน้ำพริกละลายและเริ่มหอม ก็ใส่เนื้อหมูลงไป
3.ผัดหมูกับเครื่องแกงไปเรื่อยๆ จนหมูเริ่มสุก ใส่มะเขือเปาะ มะเขื่อม่วง ใบมะกรูดฉีกใส่ลงไปในกะทะ ผัดจนมะเขือกับพริกแกงและเนื้อหมูเข้ากันแล้ว จากนั้นให้เติมน้ำเปล่าลงไปนิดหน่อย
4.พอมะเขือสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ ใส่ใบโหระพา พริกชี้ฟ้า ใบโหระพา คนให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นตักใส่จานยกเสริฟได้เลยค่ะ

ตับหมูผัดต้นกระเทียม

นกซื้อตับมาแช่แข็งเก็บไว้เกือบๆ สองอาทิตย์ได้มั่งค่ะ รอต้นกระเทียมอยู่นะค่ะ วันนี้ไปตลาดได้ต้นกระเทียมแล้วละค่ะ กลับถึงบ้านลงมือเสียเลย ต้นกระเทียมสดมากๆ เลยค่ะ แต่ต้นไม่ใหญ่อวบเหมือนบ้านเรานะค่ะ จริงๆ แล้วจะผัดกับต้นลีก (Leek) ก็ได้แต่นกอยากกินต้นกระเทียมบ้านเราเลยต้องคอยนานสักหน่อย เมนูนี้แฟนคลับกินด้วย แต่เลือกกินแต่ตับเอากับเค้านั้น เป็น งง ชอบกินกระเทียม แต่ไม่กินต้นกระเทียมไม่เข้าใจจริงๆ เลย




ส่วนผสม
ตับหมูหั่นสไลด์ เป็นชิ้น ๆ 250-300 กรัม
ต้นกระเทียมหั่นเป็นท่อนๆ 1 กำมือ
กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
ซี้อิ้วขาว 1 ชต
น้ำมันหอย 1 ชต
น้ำตาล ตามชอบ

วิธีทำ
1.เปิดเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อน ให้นำกระเทียมที่สับไว้ลงไปผัดให้หอม จากนั้นใส่ตับหมูสไลด์ลงไปผัดจนตับหมูเริ่มสุก เติมซีอิ้วขาวลงไป
2.ใส่ต้นกระเทียมที่หั่นไว้แล้วลงไป จากนั้นใส่น้ำมันหอย น้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ ผัดต่อไปประมาณ 2-3 นาที หรือผัดจนต้นกระเทียมสุก (อย่าผัดนานนะค่ะ) จากนั้นปิดไฟในเตาตักใส่จานยกเสริฟ คู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ


ข้าวเหนียวมะม่วง

มาแล้วจ้า...ข้าวเหนียวมะม่วง อยู่เมืองไทยมะม่วงน้ำดอกไม้มีให้เลือกสวย ๆ หวาน ๆ อร่อยๆ อยู่ต่างแดนจะเลือกซื้อน้ำดอกไม้อร่อยๆ เห็นที่ได้ของแพงแถมไม่หวานอีกต่างหาก ส่วนใหญ่ที่บ้านจะซื้อมะม่วงอินเดียลูกเล็กๆ เหมือนกับมะม่วงแก้วบ้านเรากินนะค่ะ เพราะเคยซื้อลูกใหญ่เขียวๆ แดง ๆ มาทำข้าวเหนียวมะม่วงแล้วไม่อร่อยเลย ถึงแม้ว่าจะนาน ๆ ทำกินสักที่ก็อยากได้อะไรดั่งใจเพื่อน ๆ ว่าจริงๆไม่ค่ะ





ข้าวเหนียว 2 ถ้วย
กะทิ 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย1/2 ถ้วย
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ใบเตย ตามชอบ (ถ้ามี)
มะม่วง ตามชอบ

วิธีทำ
1. นำข้าวเหนียวมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมงหรือทิ้งไว้ข้ามคืนก็ได้
2. เปิดเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ตั้งหม้อนึ่ง ใส่น้ำลงไป เมื่อน้ำเดือดให้สะเด็ดน้ำข้าวเหนียวขึ้นมา ห่อผ้าขาวบาง ตัดใบเตย(ถ้ามี)วางลงไปแล้วนำไปนึ่ง นึ่งไปประมาณ 30-45 นาที หรือจนกระทั้งข้าวเหนียวสุก 3. นำกะทิใส่ลงในหม้อ ใส่น้ำตาลและเกลือลงไป นำไปตั้งบนไฟอ่อน มัดใบเตย(ถ้ามี)ลงไปในหม้อคนเรื่อยๆ จนน้ำตาลละลาย กะทิเดือดอีกครั้งก็ปิดไฟในเตา
4. ตักข้าวเหนียวที่สุกแล้วใส่ในอ่างผสม เทกะทิร้อนๆ ใส่ลงไป คนเร็วๆ ให้ทั่วแล้วปิดฝาให้ข้าวเหนียวระอุ ประมาณ 15-20 นาที เท่านี้ก็ได้ข้าวเหนียวมูนไว้กินกับมะม่วงแล้วละค่ะ





***นี้เป็นมะม่วงอินเดียที่นกเอามากินกับข้าวเหนียวมะม่วงนะค่ะ หลาย ๆ คนเวลากินข้าวเหนียวมะม่วงจะมีน้ำกะทิราดอีก แต่ของนกไม่ชอบราด เลยไม่ได้ทำไว้ หากเพื่อนๆ คนไหนชอบน้ำกะทิราด นกมีสูตรให้ไว้ง่ายๆค่ะ น้ำกะทิ 3/4 ถ้วย เกลือ หยิบมือ และแป้งข้าวจ้าว 1 ชช. นำทุกอย่างผสมคนให้เข้ากัน จากนั้นนำไปตั้งไฟ คนเรื่อยๆ จนกะทิข้น พอกะทิเดือดก็ปิดไฟในเตาได้ เท่านี้ก็จะได้น้ำกะทิสำหรับราดหน้าแล้วละค่ะ***

ผัดกะเพราตับไก่ราดข้าว

นกไม่ได้เขียนเมนูเพิ่มเลย มัวแต่เที่ยว ช่วงนี้หน้าร้อน นกกับแฟนคลับเลยหาโอกาสเที่ยวกันนะค่ะ เดียวเข้าหน้าหนาว ก็ไม่ได้ไปไหน หน้าร้อนเป็นหน้าท่องเที่ยวเหมือนกับบ้านเรา ทุกๆ ที่ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเต็มไปด้วยผู้คน ยิ่งทะเลหาดทรายแล้วไม่ต้องพูดถึง คนเยอะจริงๆ พูดถึงแหล่งท่องเที่ยวทีนี้กับที่บ้านเราไม่เหมือนกันตรงที่ค่าใช้จ่าย บ้านเราค่าใช้จ่ายไม่แพงเท่ากับที่นี้ ไม่ว่าจะเป็นที่พัก หรืออาหารการกิน แต่นั้นละค่ะ อยากเที่ยวก็ต้องจ่ายเพื่อน ๆ ว่าอย่างนั้นไม่ค่ะ ผัดกะเพราตับราดข้าวที่เห็นจานนี้ นกทำกินคนเดียวเป็นมื้อกลางวัน นะค่ะ แฟนคลับไปทำงาน คนที่นี้ไม่ค่อยนิยมกินตับไก่ที่นำมาทำและปรุงเป็นอาหารเองมากนัก แต่ชอบที่จะกินตับไก่บดสำเร็จที่เรียกว่า Pate กับขนมปังปิ้ง



ส่วนผสม
ตับไก่หั่นเป็นชิ้นพอคำ 2-3 ชิ้น
ใบกะเพรา ตามชอบ
พริกขี้หนูสับ ตามชอบ
กระเทียมสับ 5-6 กลีบ
หอมหัวใหญ่หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าใหญ่ 1/2 ลูก
ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อนเล็ก ๆ 5 ฝัก
น้ำตาล ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำมันหอย 1 ชต
น้ำมันพืชสำหรับผัด ตามชอบ

วิธีทำ
1. ตั้งกระทะบนเตา เปิดไฟร้อนปานกลาง ใส่น้ำมันลงในกระทะ พอน้ำมันร้อนใส่กระเทียมกับพริกลงไปผัดให้หอม จากนั้นใส่ตับไก่ลงไปผัดต่อ
2. พอตับเริ่มสุกใส่หอมหัวใหญ่ ถั่วฝักยาวลงไปผัด จากนั้นใส่เครื่องปรุงน้ำตาล น้ำปลา น้ำมันหอย ชิมรสตามชอบ เมื่อทุกอย่างสุกได้ที่ใส่ใบกะเพราลงไปผัดให้ทั่ว ๆ สองสามครั้ง ปิดไปในเตาตักราดบนข้าวสวยร้อน ๆ ยกเสริฟ คู่กับไข่ดาวหรือไข่เจียวตามชอบได้เลยค่ะ



ข้าวหน้าTurkey / ราดซอสน้ำมันTurkey

เมื่อวานนกมีเวลาว่างหลังจากจัดการงานบ้านเสร็จ ก็รื้อตู้เย็นจัดการทำความสะอาดเช็คของที่อยู่ในตู้เย็นจดรายการที่จะต้องซื้อในวันพุธว่ามีอะไรบ้าง แต่พอรื้อดูซ่องฟรีซ อ๋าวอะไรเนี้ยไก่งวง 2 น่องแอบอยู่ในกล่อง ซื้อมาหลายวันนอนแข็ง ไม่ได้แล้วต้องจัดการ เอาออกจากช่องฟรีซ ใส่ช่องธรรดา เที่ยงวันนี้ใช้การได้เลยละค่ะ ส่วนใหญ่เวลาทำ นกก็จะอบกับเกลือ พริกไทยธรรมดา เวลาจะกินก็ราดGravyลงไป กินกับผักต้มและ Yorkshire Pudding ซึ่งถือว่าเป็นต้นตำรับของอังกฤษก็ว่าได้ค่ะ แต่วันนี้นกอยากจะเปลี่ยนเป็นเมนูอื่นบ้าง พลิกTurkey ไปมาอยู่หลายรอบว่าจะทำอะไรดี สุดท้ายก็มาจบลงด้วยเมนูนี้ละค่ะ ใจจริงว่าจะทำแค่น่องเดี่ยว แต่เปลี่ยนใจทำเสีย 2 น่อง เพราะถ้ากินไม่หมดก็จะเอาเนื้อไปปรุงอาหารอย่างอื่นพรุ่งนี้เสียเลย ว่าแล้วมาดูสูตรกันเลยค่ะ




ส่วนผสม
Turkey 2 น่อง
น้ำผึ้ง 2-3 ชต
น้ำมันหอย 1 ชต
น้ำมันงา 1 ชต
ผงหมูแดง 2 ชต
เหล้าจีน 2 ชต
น้ำตาลทราย 2 ชต
ซอสมะเขือเทศ 2 ชต
เกลือป่่่น 1 ชต
ซีอิ๊วดำ 1 ชต
พริกไทยดำ 1 ชต
กระเทียม 1หัว
รากผักชี 5-6 ราก

วิธีทำ
1. ล้างน่องไก่งวงให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นหั่นเฉียงเล็กน้อย (เพื่อให้เครื่องหมักเข้าไปในเนื้อไก่งวง)
2. โขลกพริกไทย กระเทียม และรากผักชีให้ละเอียดใส่เกลือป่น ยัดใส่ทาให้ทั่วๆ น่อง แล้วพักไว้ประมาณ
10-15 นาที
3. ระหว่างที่พักเป็นผสม น้ำผึ้ง น้ำมันหอย น้ำมันงา ซีอิ้วดำ เหล้าจีน และผงหมูแดง คนให้ส่วนผสมเข้ากัน และนำไปทาให้ทั่ว ๆ บนน่อง พักไว้ให้แห้งทาซ้ำอีกครั้ง (น้ำซอสเหลือเก็บไว้อย่าทิ้ง)จากนั้นนำไปอบที่ 160 องศาซี อบประมาณ 20 นาทีให้เอาน่องออกมาราดซอสที่เหลือให้ทั่วและเข้าอบต่ออีก 30 นาที ตอนนี้จะมีน้ำมันออกมาให้ตักส่วนหนึ่งเอาไว้ใช้ทำซอสตามชอบ อบไปสักพักพยายามกลับด้านหันอบให้ทั่วทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ใช้เวลาอบเกือบ ๆ 2 ชม หรือจนกระทั้งเป็ดสุก (อุณหภูมิของเตาให้ปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมเนื่องจากเตาอบแต่ละชนิดความร้อนอาจจะไม่เท่ากัน) อบเสร็จตัดชิ้นใส่ยกเสริฟกินคู่กับน้ำจิ้ม หรือจะไปปรุงเป็นอาหารอย่างอื่นได้เช่นเดียวกันคะ




ส่วนผสมน้ำซอสราดข้าวไก่แดง
น้ำซุปไก่ 1 ถ้วย (ไม่มีใช้น้ำเปล่า)
น้ำจากการอบTurkey ตามชอบ
ซีอิ้วขาว 2 ชต
น้ำตาลปึก 3 ชต
แป้งข้าวโพด 2 ชช
น้ำมันงา 1 ชช
งาคั่ว ตามชอบ (ถ้ามี)

ผงหมูแดง 1 ชต
ซอสมะเขือเทศ 3 ชต

วิธีทำ
1. เอาน้ำซุปใส่กระทะตั้งไฟ พอน้ำซุปเดือดใส่ส่วนผสมทั้งหมดยกเว้นแป้งข้าวโพด และงาคั่ว เคี่ยวให้น้ำข้น
2.เติมแป้งมันละลายน้ำลงไปคนเร็ว ๆ ให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ยกลงจากเตาเติมงาคั่วลงไป เสร็จแล้วนำไปราดบนข้าวหน้าไก่งวงได้เลยค่ะ

***สังเกตเนื้อไก่เวลาอบด้วยนะค่ะ พยายามราดน้ำบนเนื้อไก่ให้ทั่ว ๆ เดี่ยวจะแห้งเกินไปไม่อร่อย ถ้าต้องการให้ไก่มีสีแดงให้เพิ่มผงหมูแดง ส่วนน้ำราดถ้าชอบแบบข้น ๆ ให้เติมแป้งข้าวโพดละลายน้ำเพิ่มตามชอบได้เลยค่ะ น้ำซอส่จะต้องเป็นน้ำซอสสีแดง ๆ และออกหวานนิด ๆ ถึงจะอร่อย ***



ขนมจีนน้ำยาปักษ์ใต้

ถ้าพูดถึงขนมจีนน้ำยาปักษ์ใต้ไม่มีใครไม่รู้จักเป็นเมนูยอดนิยมของคนใต้เลยก็ว่าได้ กินได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้า มื้อเที่ยง หรือมื้อเย็น จะว่าไปแล้วน้ำแกง หรือน้ำยาของแต่ละที่จะแตกต่างกันนิดหน่อยในเรื่องของรสชาติ สำหรับนกแล้วนกชอบน้ำแกงทีมีความเผ็ดร้อน และความเปรี้ยวจากส้มแขก หรือส้มกระท้อน เวลากินขนมจีนก็ต้องมี "ผักเหนาะ"เยอะๆ ยิ่งเป็นผักบ้าน ๆ ยิ่งชอบใหญ่ ผักลวก ผักต้มกระทิ นอกเหนือจากผักที่กล่าวแล้ว หลายๆ คนยังชอบกินคู่กับไข่ต้ม หรือไก่ทอด อีกด้วย สำหรับนกวันนี้กินกับไข่ต้มค่ะ




ส่วนผสมน้ำพริกแกง
ตะไคร้หั่นซอย 2ต้น
พริกแห้ง ตามชอบ
พริกขี้หนูสด ตามชอบ
ข่าซอย 2แว่น
กระเทียม 5-6 กลีบ
หอมแดง 2หัว
ขมิ้นสด 1 แง่ง
พริกไทยดำ 1 ชช
กะปิประมาณ 1 ชต
เกลือป่น 1 ชช

ส่วนผสมน้ำยา
กะทิ 1 กป(แยกหัวกะทิ /หางกะทิ )
ปลาทูน่ากระป๋อง 2 กป
ส้มแขก 5-6 ชิ้น (ไม่มีใช้น้ำมะขามเปียกแทน)
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำตาลปึก ตามชอบ

วิธีทำ
1. นำส่วนผสมเครื่องแกงลงโขลกทุกอย่างยกเว้นกระปิ โขลกจนละเอียด จากนั้นใส่กระปิลงไปโขลกให้เข้ากัน
2. ปลาทูน่ากระป๋องบีบน้ำออกหมดแล้วลงไปโขลกให้เข้ากันกับน้ำพริกแกง โดยแบ่งโขลกปลาทูน่าทีละกระป๋อง
3. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ใส่หางกระทิลงไปในหม้อ ต้มให้เดือด ใส่น้ำพริกแกงคนให้ละลาย ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลแว่นและน้ำมะขามเปียก เคี่ยวไฟอ่อนๆสักครู่ จากนั้นชิมรสตามชอบใจ เติมหัวกะทิลงไปต้มจนเดือดชิมรสอีกครั้ง ปิดไฟยกลงจากเตา เสริฟได้เลยค่ะ

***พริกสด และพริกแห้ง นกใช้รวม ๆ กันประมาณ 30 เม็ด ส่วนขมิ้นนกใช้ขมิ้นผง 2 ชช ถ้าเพื่อนๆ ชอบเหลืองเยอะให้ใส่เพิ่มได้นะค่ะ


กุนเชียงไร้สาร

นกกลับมาจาก Wales แล้วค่ะเพื่อนๆ ก่อนไปเที่ยว นกติดเมนูกุนเชียงไร้สารเอาไว้ กลับมาถึงก็ลงมือพิมพ์เลยคิดว่าคงจะหายคิดถึงกันนะค่ะ กุนเชียงนี้นกกินอยู่หลายรอบแล้วค่ะ แฟนคลับเองก็ชอบโดยเฉพาะเมนูข้าวผัดกุนเชียงทำกี่ครั้งกี่ครั้งก็มีแต่คำชม แต่แปลกเวลาเอามาทอดกินเปล่ากลับไม่ชอบเป็น งง นอกจากนกจะเอามาทำข้าวผัดกุนเชียงแล้ว ยังเอามายำกินกับข้าวต้มกุ๋ย ข้าวหมูแดง งานนี้ต้องขอบคุณแม่คนเดียวเลยค่ะที่ทำให้ลูกมีกุนเชียงกิน ถึงแม้จะแตกต่างกันแต่พื้น ๆ จะมาจากสูตรของแม่ ดีใจที่เกิดเป็นลูกสาวของแม่ พูดมากคิดถึงแม่อีกแล้วไปเที่ยวอาทิตย์หนึ่งไม่ได้คุยกันเลยพรุ่งนี้ต้องเอ็มคุยกันหน่อยแล้วเรา




ส่วนผสม
หมูสับติดมัน 500 กรัม
เกลือป่น 1/2 ชช
ซีอิ้วขาว 1 ชต
น้ำตาลทรายแดง 3 ชต
เหล้าจีน 2 ชต
ไส้หมู ตามชอบ
น้ำเปล่า เล็กน้อย (นกใช้ประมาณ 2 ชต)



วิธีทำ
1. ล้างใส้หมูให้สะอาดผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
2. นำหมูสับติดมัน และส่วนผสมทุกอย่างลงในอ่างผสมนวดคลุกเคล้าให้เข้ากัน
จนเหนียวพักไว้ในตู้เย็น 1 คืน หรือประมาณ 5-6 ชม
3. เมื่่อหมักได้ที่แล้วกรอกหมูที่ผสมแล้วลงในไส้หมูมัดเป็นข้อๆตามชอบ
จากนั้นนำเข้าเตาอบ อบที่ 50 องศาซี ประมาณ 2 ชมหรือจนกระทั้งกุนเชียงเริ่มแห้ง
และหดเล็กลง จากนั้นปิดไฟในเตาอบค้างกุนเชียงไว้ในเตาอบอีก 2 ชม เปิดประตูแง้มไว้นิด ๆ เพื่อให้อากาศระบาย ครบ 2 ชม สังเกตกุนเชียงจะแห้งแข็ง เอาออกมาแขวนเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องหรือเก็บไว้ในตู้เย็นได้เลยค่ะ

*** กุนเชียงที่นกทำ นกหมักตู้เย็นไว้ 1 คืน ทีบ้านเตาอบค่อนข้างร้อน นกเลยใช้ที่ 50 องศาซี แต่ถ้าบ้านไหนไม่ค่อยร้อนใช้ที่ 60 องศาซี หมั่นดูกุนเชียงขณะอบ วิธีสังเกตกุนเชียงว่าแห้งได้ที่หรือไม่นั้นให้ดูขนาดกุนเชียงที่ลดลง สีของกุนเขียง ถ้ายังไม่แน่นใจให้ตัดเนื้อกุนเชียงออกดู (นกตัดทอดชิมเลยค่ะ) ถ้าเพื่อนๆ ยังไม่แน่นใจ ให้แขวนตากแดดอีกสักหน่อยก็ได้นะค่ะ เพราะถ้าไม่แห้งกุนเชียงจะขึ้นราเก็บได้ไม่นาน เกือบลืมค่ะถ้าเพื่อนๆ สนใจสูตรข้าวผัดกุนเชียงกดที่ภาพจะไปที่ลิงค์เมนูข้าวผัดกุนเชียงค่ะ***











ปลากระเบนผัดเผ็ด

วันนี้นกทำผัดเผ็ดปลากระเบนค่ะ นกคิดว่าเพื่อน ๆคงรู้จักปลากระเบนกันเป็นอย่างดี บางคนกิน บางคนไม่กิน เนื่องจากปลากระเบนมีกลิ่นคาวมากกว่าปลาอื่นๆ แต่มีคนบอกว่าปลากระเบนมี คอลาเจนเยอะกินแล้วจะป้องกันริ้วรอยความแก่ ไม่รู้จริงหรือเปล่า นกเริ่มกินปลากระเบนก็เมื่อได้ยินคำบอกเล่านั้นละค่ะ ปลากระเบนสามารถนำมาปรุงอาหารได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นผัดฉ่า ผัดเผ็ด แกงป่า แกงเผ็ด ทอด และ ย่าง การทำผัดเผ็ดปลากระเบนเท่าที่นกเห็นมีสองแบบค่ะ แบบแรกเอาไปย่างให้แห้งก่อนจากนั้นหั่นเป็นชิ้น ๆ แล้วนำมาผัด ส่วนแบบที่สองหั่นเป็นชิ้น ๆ คลุกแป้งทอดกรอบ แล้วนำไปทอดจากนั้นถึงจะนำไปทำผัดเผ็ด ซึ่งแบบที่สองเป็นวิธีที่นกเลือกทำผัดเผ็ดมื้อนี้ค่ะ




ส่วนผสม
ปลากระเบน 300 กรัม
น้ำพริกแกงเผ็ด 1 ชต
หัวกะทิ1/2 ถ้วย
มะเขือพวง ตามชอบ
มะเขือเปราะ ตามชอบ
น้ำตาลปีบ 1 ชช
น้ำปลา 1-2 ชต
น้ำมันพืช 2ชต
พริกไทยอ่อน (ถ้ามี)
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ ตามชอบ
ใบโหระพาเด็ดเป็นใบ ๆ 1 กิ่ง
ใบมะกรูด ฉีก 2-3 ใบ
กระชายหั่นซอย ตามชอบ (ถ้ามี)

วิธีทำ
1. ลอกหนัง ล้างปลากระเบนให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น ๆ พักให้เสด็ดน้ำสักครู่
2. โรยด้วยเกลือเเละเเป้งทอดกรอบลงไปคลุกให้กัน แล้วน้ำไปทอดให้เหลืองกรอบ ใส่จานพักไว้
3. ตั้งกระทะบนเตาใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันลงไปในกระทะ พอน้ำมันเริ่มร้อนเอาพริกแกงเผ็ดลงผัดให้หอม ใส่กระทิลงไป ผัดให้เข้ากัน จากนั้นใส่น้ำปลา น้ำตาลทราย ผักให้เข้ากัน ชิมรส ใส่ใบมะกรูด กระชาย มะเชือพวง มะเขือเปราะ
พริกชี้ฟ้าเหลือง ผัดให้เข้ากันพอผักเริ่มสุก ใส่ปลาลงไปผัดต่อจากนั้นจึงใส่ใบโหระพา ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟในเตาตักใส่จานยกเสริฟกินคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

***วิธีการล้างปลากระเบนให้ใช้น้ำส้มสายชู ผสมกับเกลือคลุกเคล้าปลาให้ทั่ว พักไว้สักประเดี๋ยว แล้วนำไปล้างให้สะอาดช่วยดับความคาวของปลากระเบนได้เยอะเลยที่เดียวค่ะ***

เป็ดอบ/ข้าวหน้าเป็ด


เป็ดอบ/ข้าวหน้าเป็ด นาน ๆ นกจะอบเป็ดทั้งตัวสักครั้งเหตุเพราะมันแพงจริงๆ ถ้าจะซื้อยกตัว ส่วนใหญ่นกจะซื้อหน้าอกที่ตัดขายเป็นชิ้น ๆ ไว้อบ แกง หรือไม่ก็น่องเป็ดไว้ทำก๋วยเตียว  หากจะซื้อทั้งตัวจะต้องคอยว่าเมื่อไรห้างจะเอามาลดราคา แล้วก็วันลดราคาก็มาถึงเจ้าเป็ดตัวนี้นอนลดราคาขายตามราคากิโลครึ่งต่อครึ่ง ซึ่งห้างฯ เค้าจัดลดราคาเนื้อสัตว์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อแกะก็ตัดขายชิ้นใหญ่ๆ นกเลยได้เจ้าเป็ดตัวนี้มาก็เท่านั้นเอง  ที่บ้านส่วนใหญ่หากมีการลดราคาเนื้อสัตว์อย่างนี้จะซื้อแล้วเอามาแช่แข็งเอาไว้  ต้องการจะทำอาหารเมื่อไรก็เอาออกจากตู้แช่ทิ้งไว้ในตู้เย็นให้น้ำแข็งละลาย ที่บ้านจะทำอย่างนี้เพราะจะประหยัดเงินครึ่งต่อครึ่งเลยที่เดียว  วันนี้ซื้อทั้งหมด 3 ตัว สองตัวแช่แข็ง อีกตัวก็เอามาอบอย่างที่เพื่อนๆ เห็นนี้ละค่ะ นกผสมน้ำอบเป็ดเองไม่ได้ใช้ผงสำเร็จรูป




ส่วนผสม
เป็ด 1 ตัว
น้ำผึ้ง 2-3 ชต
น้ำมันหอย 2 ชต
น้ำมันงา 1 ชต
น้ำส้ม 1ผล
ผงอบเชย 1 ชช
โป๊ยกั๊ก 2 ดอก
อบเชย 2 แท่ง
ต้นหอม ตามชอบ
ผักชื ตามชอบ
Bay leaves 5-6 ใบ (ถ้ามี)
เกลือป่่่น 3 ชต (แบ่งเป็น 1 ต่อ 2)
ซีอิ๊วดำ 1 ชต
พริกไทยดำ 1 ชต
กระเทียม 1หัว
รากผักชี 4-5 ราก

วิธีทำ
1. ล้างเป็ดให้สะอาดโดยล้างผ่านน้ำร้อน ตัดส่วนของตูดเป็ดทิ้งไป เอาไม้กัด
2. นำส้มมาคั่นเอาน้ำผสมกับเกลือ 1 ชต คนให้เข้ากันแล้ว นำไปทาให้ทั่วบนตัวเป็ด พักผึ่งลมให้แห้งและทาซ้ำอีก ทำอย่างนี้จนน้ำส้มหมด
3. โขลกพริกไทย กระเทียม และรากผักชีให้ละเอียด จากนั้นแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งนำไปทาให้ทั่วบนตัวเป็ด อีกส่วนใส่เกลือป่นที่เหลือนำยัดใส่ทาให้ทั่วใน
ตัวเป็ด แล้วพักไว้ประมาณ 10-15 นาที
4. ระหว่างที่พักเป็นผสม น้ำผึ้ง น้ำมันหอย น้ำมันงา ผงอบเชย ซีอิ้วดำ จากนั้นคนให้เข้ากัน จากนั้นนำไปทาให้ทั่ว ๆ บนตัวเป็ด พักไว้ให้แห้งทาซ้ำอีกครั้ง (น้ำซอสเหลือเก็บไว้อย่าทิ้ง)
5. เอาโป๊ยกั๊ก อบเชย ต้นหอม ผักชี bay leaves ยัดใส่ในตัวเป็ด เอาไม้กัด เย็บปิดส่วนหัวท้าย พยายามเย็บปิดให้สนิท จากนั้นนำไปอบที่ 160 องศาซี อบประมาณ 20 นาทีให้เอาเป็ดออกมาราดซอสที่เหลือให้ทั่วตัวเป็ดอีกครั้งและเข้าอบต่ออีก 30 นาที ตอนนี้จะมีน้ำมันออกจากตัวเป็ดพยายามตักแล้วราดบนตัวเป็ด และตักส่วนหนึ่งเอาไว้ใช้ทำซอสตามชอบ อบไปสักพักก็นำเป็ดออกมาดู หากมีน้ำมันออกมาก็ตักราดบนตัวเป็ดอีกรอบ พยายามกลับด้านหันอบให้ทั่วตัวเป็ด ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ใช้เวลาอบเกือบ ๆ 2 ชม หรือจนกระทั้งเป็ดสุก (อุณหภูมิของเตาให้ปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมเนื่องจากเตาอบแต่ละชนิดความ ร้อนอาจจะไม่เท่ากัน) อบเสร็จตัดชิ้นใส่ยกเสริฟกินคู่กับน้ำจิ้ม หรือจะไปปรุงเป็นอาหารอย่างอื่นได้เช่นเดียวกันคะ

***สำหรับนกวันนี้ เอาไปทำข้าวหน้าเป็ด จานนี้เป็นของแฟนคลับค่ะไม่เอาน้ำจิ้มราดซอสโรยหอมผักชีก็เสร็จ เท่านี้ก็อร่อยยิ้มไปแล้วค่ะ กลับมาว่ากันต่อที่สูตรข้าวหน้าเป็ด สูตรนี้นกเดา ๆ เอาว่าน่าจะใส่อะไรบ้างจากที่ได้เคยชิมมานะค่ะ คิดว่าคงไม่ห่างไกลจากสูตรข้าวหน้าเป็ดเจ้าร้านประจำ****









ส่วนผสม
น้ำอบเป็ดที่อยู่ในถาด ตามชอบ
น้ำมันงา 2 ชต
เหล้าจีน 1 ชต
ผงพะโล้ เล็กน้อย (ใส่ให้พอน้ำซอสหอม ๆ นะค่ะ)
ซีอิ้วขาว 3 ชต
ซีอิ้วดำ 1 ชช

ซอสมะเขือเทศ 2 ชต
แป้งข้าวโพด ตามชอบ
น้ำตาลทราย ตามชอบ
น้ำเปล่า ตามชอบ

วิธีทำ
1. ผสมน้ำเป็ดอบ น้ำมันงา เหล้าจีน ผงพะโล้ ซีอิ้วขาว ซีอิ้วดำ น้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน จากนั้นนำเคี่ยวให้น้ำตาลละลาย
2. หากน้ำซอสน้อยเติมน้ำนิดหน่อยลงไป คอยให้น้ำซอสเดือด ชิมรสตามชอบ จากนั้นใส่แป้งข้าวโพดละลายน้ำลงไป คนให้เข้ากันพอน้ำซอสเดือดอีกครั้งปิด ไฟในเตาได้เลยค่ะ

*** ส่วนน้ำจิ้มราดข้าวหน้าเป็ด นกใช้ซีอิ้วดำ ซีอิ้วขาว ซอสเปรี้ยว (ไม่มีใช้น้ำส้มสายชูแทน) น้ำตาลทราย พริกสดหัั่น ตามชอบ ผสมเข้าด้วยกันเท่านี้ก็ได้น้ำจิ้มสูตรเด็ดอร่อย ๆ กินคู่ข้าวหน้าเป็ดแล้วละค่ะ ***


ไส้กรอกอีสาน

ไส้กรอกอีสาน ตามคำขอมาแล้วค่ะ วันนี้นกทำไส้กรอกอีสาน ใช้หมูล้วน ๆ เพราะครั้งที่แล้วนกทำใส่ข้าวเหนียว แฟนคลับไม่กินข้าวเหนียว เลยบอกว่าครั้งต่อไปทำไม่ใส่ข้าวเหนียวได้ไม่ผมจะได้กินด้วย คราวนี้ทำอีกเลยไม่ใส่ให้ตามคำขอ แต่ก็แบ่งออกไส้กรอกเป็นสองส่วนอยู่ดี เพราะของนกชอบให้ไส้กรอกออกรสเปรี้ยวหน่อย ๆ แต่ของแฟนคลับไม่เอาเปรี้ยว ทำเหมือนไส้กรอกธรรมดาทั่วๆไปที่ สูตรที่นกจะเขียนให้เป็นแบบเต็มรูปแบบนะค่ะ เผื่อว่าเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ สนใจเอาไปทำกันนะค่ะ



ส่วนผสม
หมูบดติดมัน 500 กรัม
หนังหมู 100 กรัม (ถ้ามี)
กระเทียมสับ 15-20 กลีบ
ซีอิ้วขาว 3 ชต
พริกไทยป่น ตามชอบ
ผงปรุงรสหมู 1 ชช (ไม่มีไม่ต้องใส่)
ข้าวเหนียวนึ่งสุก /ข้าวสวย 2 ถ้วย (วันนี้นกไม่ได้ใช้ค่ะ)
ไส้หมู ตามชอบ

วิธีทำ
1. ล้างไส้หมูให้สะอาดซับน้ำให้แห้งพักไว้
2. นำส่วนผสมนวดให้เข้ากัน ยกเว้นไส้หมู
3. เอาส่วนผสมที่นวดบรรจุลงในไส้หมู ใช้เชือกมัดเป็นข้อ ขนาดตามต้องการ ถ้าไส้พองลมให้ใช้เข็มแหลมแทงไล่ลมออก
4. นำไปหมักไว้ในตู้เย็น 1 คืน หากชอบเปรี้ยว ให้นำออกจากตู้เย็นผึ่งแดดไว้ 1 วัน (แต่ถ้าไม่มีแดดผึ่งลมไว้ก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ)แล้วค่อยน้ำมาทอดหรือปิ้ง ก็จะได้ไส้กรอกรสเปรี้ยวอร่อยถูกใจเสริฟกินคู่กับขิ่งสด พริกสด หรือผัดสดตามชอบได้เลยค่ะ

***ถ้าเพื่อน ๆ จะใส่ข้าวเหนียวนึ่ง ต้องเพิ่มเกลือลงไปอีก 1 ชช เพราะสูตรที่นกให้เป็นสูตรใช้หมูล้วน เลยใช้แต่ซีอิ้วขาวอย่างเดียวเวลาจะชิมรส ให้หยิบส่วนผสมหมูนิดหน่อยเอาเข้าไมโครเวป เวปให้สุกจากนั้นก็ปรุงรสตามชอบนะค่ะ***


เส้นหมี่ราดหน้าหมูหมัก

นกทำเมนูจานเส้นอีกแล้วค่ะเพื่อน ๆ จริง ๆ แล้วเมนูจานนี้ทำกินบ่อยมาก ๆ เลยค่ะ ตอนอยู่เมืองไทยที่บ้านชอบทำวันเสาร์-อาทิตย์ ไม่มีใครไปทำงาน แม่หรือไม่ก็น้องสาวมักจะทำกินกันเป็นประจำ นอกจากราดหน้าแล้วยังมีผัดแห้งอีกอย่างอร่อยสุด ๆ ไปเลย จะว่าไปแล้วทุก ๆ คนชอบราดหน้าหมูหมักฝีมือแม่สุด ๆ ไม่ว่าเส้นอะไรก็อร่อยเหมือนกันหมด ว่าแล้วไปทำกันเลยดีกว่าค่ะ




ส่วนผสม
เส้นหมี่ 250 กรัม
น้ำมันพืช 2 ชต
ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
ข้าวโพดอ่อนหั่นชิ้น 5-6 ฝัก
บ๊อคโคลี่ หั่นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย
เต้าเจี้ยวดำ 1 ช้อนชา
น้ำหรือน้ำซุปหมู 1 1/2 ถ้วย
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
แป้งมัน 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา

ส่วนผสมหมูหมัก
เนื้อหมูส่วนสะโพกหั่นชิ้นพอคำ 150 กรัม
แป้งมัน 2 ช้อนชา
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ
1. ทำหมูหมักโดยเคล้าเนื้อหมู แป้งมัน น้ำมันหอย ซอสปรุงรส และน้ำตาลเข้าด้วยกันในชาม หมักนานประมาณ 30-45 นาที
2. ตั้งกระทะบนเตาใช้ไฟ รอจนร้อนจัดใส่น้ำมัน 1 ชต กลอกให้ทั่วกระทะ จากนั้นใส่เส้นหมี่ลงผัดให้เส้นไหม้เกรียมและพองกรอบ ใส่ซีอิ๊วดำ ผัดให้ทั่ว ปิดไฟในเตา ตักใส่จาน พักไว้
3. ตั้งกระทะบนเตาอีกครั้งใช้ไฟแรงปานกลาง พอน้ำมันร้อนใส่เนื้อหมูหมักลงไปผัดพอสุก จากนั้นใส่บ๊อกโคลี่ ข้าวโพดอ่อน ลงผัดให้ทั่ว ใส่เต้าเจี้ยวดำ เติมน้ำหรือน้ำซุปหมู ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส น้ำตาล ชิมรสตามชอบ พอเดือดละลายแป้งมันเทลงกระทะ คนพอแป้งสุกข้น ปิดไฟในเตา
4. ตักเส้นหมี่ที่ผัดเรียบร้อยแล้วใส่จาน ราดด้วยน้ำราดหน้า โรยพริกไทยป่น ยกเสิรฟร้อนๆ คู่กับเครื่องปรุงรสได้เลยค่ะ


อูด้งลูกชิ้นหมู

หลังจากจัดการภาระกิจหน้าที่ผู้จัดการบ้านเสร็จเรียบร้อนแล้ว ก็ถึงเวลามื้อกลางวันของฉานบ้างแล้ว วันนี้เป็นอูด้งลูกชิ้นหมู ทำง่าย ๆ มีเครื่องปรุงไม่มากนักเอาแบบสบาย ๆ ค่ะ ส่วนผสมพร้อมแล้วเราเข้าครัวกันเลยค่ะ





ส่วนผสม
เส้นอุด้ง 1 ห่อ
ลูกชิ้นหมู ตามชอบ
ซุปไก่ก้อน 1 ก้อน
ต้นหอม/ผักชี ซอย 2-3 ต้น
ซีอิ้วขาว 2 ชต
ซอสปรุงรส 1 ชต (ถ้ามี)
น้ำมันหอย 1 ชช
น้ำตาลทราย 2 ชช
หัวผักกาด 1/2 หัว
เห็ดหอม 6-8 ดอก
น้ำเปล่าตามชอบ

วิธีทำ
1. เห็ดหอมแห้งมาล้างฝุ่นผงออก แล้วนำไปแช่น้ำประมาณ 2 ถ้วย แช่ทิ้งไว้ประมาณ 45 นาที หรือจนกระทั้งเห็ดหอมนิ่ม เมื่อเห็ดหอมนิ่มได้ที่แล้วให้บีบน้ำออก (อย่าทิ้งน้ำแช่เห็ด) ตัดก้านส่วนที่แข็งๆออกไป พักใส่ถ้วยเอาไว้
2. หัวผักกาดปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นท่อน ๆ เอาไว้ใช้ต้มกับน้ำซุป
3. เปิดเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ใส่น้ำเปล่าลงไปในหม้อ ใส่ซุปไก่ก้อนลงไป พอน้ำเดือดใส่หัวผักกาด เห็ดหอมและน้ำแช่เห็ดลงไปต้ม ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย และน้ำตาลทราย รอจนกระทั้งเดือดอีกครั้งใส่ลูกชิ้นลงไปต้ม
4. ตั้งหมดอีกใบใส่น้ำลงไป พอน้ำเดือดเอาเส้นอุด้งลงไปลวกตั้งขึ้นใส่ชาม น้ำชุป ลูกชิ้นหมู เห็ดหอม ลงในชาม โรยด้วยหอมผักชี ยกเสริฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

ราดหน้าหมี่กรอบ





ส่วนผสม
เส้นหมี่ไข่ (บะหมี่) 2 ก้อน
คะน้าหั่นเฉียง 6-8 ต้น
เนื้อไก่หมัก 1 ถ้วย
กระเทียมสับ 5-6 กลีบ
ซีอิ้วขาว 2 ชต
ซีอิ้วดำ 2 ชต
น้ำมันหอย 2 ชต
น้ำตาลทราย ตามชอบ
เต้าเจี้ยว 2 ชต
แป้งข้าวโพด 2 ชต
น้ำมันสำหรับผัด
น้ำซุปไก่ ตามชอบ (ไม่มีใช้น้ำเปล่าได้ค่ะ)

ส่วนผสมไก่หมัก
เนื้ออกไก่ หั่นสไลด์ 1 ถ้วย
แป้งข้าวโพด 1 ชช
ซีอิ้วขาว 1 ชต
ซอสหอยนางรม 1 ชต
น้ำมันงา 1 ชช

วิธีทำ
1. ผสมส่วนผสมไก่หมักทั้งหมดเข้าด้วยกัน จากนั้นหมักไว้ประมาณ 1/2 ชม
2. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไปให้ทอดหมี่ไข่ได้ รอจนน้ำมันร้อนจึงใส่เส้นหมี่ไข่ลงไปทอด ทอดจนกระทั้งกรอบเหลือง ตักใส่จานวางรองด้วยกระดาษซับน้ำมันพักไว้
3. ตั้งกระทะอีกครั้ง ใส่น้ำมันลงไปน้ำมันร้อนก็ใส่กระเทียมลงไปผัดจนกระเทียมหอม ใส่เนื้ไก่หั่นลงไป ผัดจนไก่เริ่มสุกก็ใส่เครื่องปรุงต่างๆ คือ ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย และน้ำตาลทรายลงไป
4. ผัดให้เครื่องปรุงต่างๆ เข้ากัน จนหมูสุกก็เติมน้ำซุปลงไป รอจนน้ำซุปเดือด ก็ใส่เต้าเจี้ยวลงไป ชิมรสตามชอบ จากนั้นรอให้น้ำซุปเดือดอีกครั้งก็ใส่ผักคะน้าที่หั่นไว้ลงไป ระหว่างนี้ให้ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำเปล่า คนให้แป้งละลายจนหมด จากนั้นเทลงน้ำซุป คนเร็วๆ อย่าให้แป้งจับตัวเป็นก้อน น้ำซุปจะข้นขึ้น รอจนน้ำซุปเดือดอีกครั้งปิดไฟในเตา ตักน้ำซุปราดบนเส้นหมี่กรอบ โรยด้วยพริกไทยป่น ยกเสริฟได้เลยค่ะ

*** เวลาละลายแป้งมันลงไปแล้วหาน้ำซุปยังไม่ข้นตามที่ต้องการ ก็ให้ละลายแป้งเพิ่มลงไปอีก***

ยำผักบุ้งทอดกรอบ

สองสามวันนี้อยากกินอะไรที่แซบ ๆ เลยต้องสรรหาเมนูแซบ ๆ มาทำจริงๆ แล้วจะทำตำแตงกิน แต่อากาศมันเย็นเลยไม่เอาดีกว่าเปลี่ยนใจ ผักบุ้งนี้ซื้อมากำใหญ่เลยกะจะเอามาทำผักบุ้งไฟแดง กับแกงเทโพปลาเค็ม แยกออกมาทำยำสักจานก็ยังเหลืออีกเยอะ งานนี้กินคนเดียวอีกแล้วเราเผ็ด ๆ อย่างนี้แฟนคลับเค้าขอบายค่ะ นกเลยต้องทำเมนูอย่างอื่นให้แทนว่าแล้วไปเข้าครัวกันเถอะค่ะ




ส่วนผสม
ผักบุ้งจีน 10 ต้น
กุ้งลวก ตามชอบ
แป้งทอดกรอบ ตามชอบ
น้ำพริกแกงเผ็ด 1 ชช
หมูบดรวนสุก 200 กรัม
พริกขี้หนูซอย ตามชอบ
น้ำพริกเผา 1 ชต
หอมแดงหั่นซอย 3-4 หัว
น้ำปลา 2 ชต
มะนาว ตามชอบ
น้ำตาล 1 ชต
น้ำมันพืชสำหรับทอด
น้ำเย็นจัด ตามชอบ

วิธีทำ
1 ผักบุ้งแยกใบกับก้านออกจากกัน ก้านจะหั่นเป็นท่อนๆ ผ่าปลายออก ส่วนใบเด็ดแยกออกเป็นใบๆ ล้างทำความสะอาดพักให้สะเด็ดน้ำ
2 ผลมแป้งทอดกรอบ น้ำพริกแกงเผ็ด กับน้ำเย็นจัดผสมเข้าด้วยกันสังเกตแป้งอย่าให้เหลวจนเกินไป ผสมให้ชุบผักบุ้งติด
3 นำผักบุ้งที่เตรียมไว้มาชุบ นำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ ทอดพอให้เหลืองกรอบสวย
4 ปรุงน้ำยำ น้ำปลา มะนาว น้ำตาล พริกขี้หนูซอย น้ำพริกเผา และหอมแดง ผสมเข้าด้วยกันชิมรสตามชอบ ผักบุ้งทอดเสร็จร้อน ๆ จัดใส่จานยกเสริฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

ไอศครีมวานิลลา(วานิลา)

ไอศครีมวานิลาทำอยู่หลายต่อหลายรอบ เหตุเพราะแฟนคลับอยากให้ใช้วานิลาฝัก เพราะได้รสชาติที่ดีกว่าวานิลาที่บรรจุในขวดนะค่ะ นกเลยตามใจทำให้ แต่ไม่ได้ลงในครัวสักที่จนวันหนึ่งมีเพื่อน ๆ ชาวครัวถามเรื่องสูตรไอศครีมซึ่งที่ครัวจะเฉพาะไอศครีมผลไม้ วันนี้ทำอีกรอบเลยเอาสูตรมาลงให้เสียเลย จริงๆ แล้ว ตัวนกชอบกินไอศครีมผลไม้ แต่เท่าที่สังเกตุเห็น คนที่นี้ชอบกินไอศครีมวานิลา หรืออาจเป็นเพราะชอบกินคัสตารส์กันก็ไม่ทราบได้ เก็บความสงสัยเอาไว้ก่อน อย่าได้เสียเวลาเลยค่ะส่วนผสมพร้อรออยู่แล้วลงมือกันเลย




ส่วนผสม
นมสดรสจืด 2 ถ้วย
ไข่แดง 4 ฟอง
น้ำตาลทรายละเอียด 1 ถ้วย
วิปปิ้งครีม 1 ถ้วย
วานิลา 1 ฝัก

วิธีทำ
1 เอานมจืดและวานิลาเอาเม็ด และฝัก ใส่หม้อ ต้มนมจนกระทั้งเดือด กรองให้เรียบร้อยพักไว้
2 ตีไข่แดงให้ข้น เติมน้ำตาลลงไปตีที่ละน้อย ให้น้ำตาลละลายจนหมด จากนั้นใส่นมที่พักไว้จนเย็นลงไปคนให้เข้ากัน
3 เอาส่วนผสมที่ตีเข้ากันเทลงในหม้อตุ๋นแล้วนำขึ้นตั้งบนเตาใช้ไฟกลาง หมั่นคนอยู่ตลอดเวลาจนเป็นคัสตาร์ด ยกเทลงใส่อ่างผสมพักไว้ให้เย็น จากนั้นนำเข้าตู้เย็นแช่ไว้ประมาณ 6-8 ชม
4 ครบกำหนด เอามคัสตารด์ วิปปิ้งครีมใส่โถปั่น ปั้นประมาณ 30-45 นาที จากนั้นตักใส่กระปุกแช่แข็งประมาณ 4-5 ชม ก็ได้ไอศครีมวานิลาอร่อยแล้วละค่ะ

***ในรูปนกใส่ชอคโกแลตซอส ลงไปกินคู่กับไอศครีมวานิลา อร่อยสุด ๆ ส่วนของแฟนคลับเป็นสตรอเบอร์รี่ซอส นกใส่นกตกแต่งด้วยเชอรี่ด้านบนให้ด้วยนะค่ะ***




และนี้เป็นฝักวานิลาที่นกใช้ทำไอศครีมค่ะ แฟนคลับบอกว่าคราวหน้าขอใส่สองฝักนะ เพราะอยากได้กลิ่นมากว่านี้ คงเห็นว่ามีฝักวานิลาเยอะก็อยากให้ใส่เยอะ ๆ มั่งค่ะ ไม่รู้หรือว่ามันแพง ฝักหนึ่งหลายกะตังนะเจ้าค่ะ





หมูแดดเดียว

ช่วงนี้อากาศที่บ้านถือว่าดีสุด ๆ เลยค่ะ แดดออกเกือบทุกวันทำให้นึกถึงเมนูข้าวเหนียวหมูแดดเดียวขึ้นมาทันที จริง ๆ ถ้าจะพูดไปแล้วแดดที่ออกมาคงสู้แดดที่เมืองไทยไม่ได้ ตากเช้าถึงเที่ยงก็เก็บได้แล้ว แต่ที่นี้ต้องดูพยากรณ์อากาศให้ดี ๆ กะให้เป็นไม่นั้นเจอฝน แต่อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์อากาศดี เช็คพยากรณ์ตลอดโดยเฉพาะวันนี้อุณหภูมิอยุ่ที่ 25 องศาถือว่าร้อนกว่าทุก ๆ วัน นกตากตอนเช้าเก็บเอาตอนเย็น จะบอกว่าเย็นไม่ได้ซิ เอาว่าเก็บตอนค่ำๆ ไม่มีแดดให้เห็นแล้วนะค่ะ



ส่วนผสม
เนื้อหมูสันในหั่นเป็นเส้น 500 กรัม
กระเทียมโขลกละเอียด4-5 กลีบ
พริกไทยป่น 2 ชช
เม็ดผักชีป่น 1 ชช
น้ำตาลทราย 2 ชต
ซีอิ้วขาว 2 ชต
ซอสหอยนางรม 1 ชต
เหล้าจีน 1 ชต
งาขาว ตามชอบ (ถ้ามี)
น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ
1 นำเนื้อหมูที่หั่นเรียบร้อยแล้ว หมักด้วยส่วนผสมทั้งหมดหมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 1 คืน
2 ครบกำหนดนำเนื้อวางเรียงบนตะแกรงตากแดดตอนเช้า แล้วเก็บทอดตอนเย็น
3 เอาน้ำมันใส่ในกระทะตั้งบนเตาเปิดไปอ่อนปานกลาง นำเนื้อหมูลงทอดประมาณ 10 นาที หรือจนกระทั้งเนื้อหมูสุก ตักขึ้นวางบนกระดาษซับมัน ยกเสริฟคู่กับข้าวเหนียว หรือข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

***หาต้องการจะชิมรสให้เอาเนื้อหมูที่หมักเรียบร้อยแล้วนิดหน่อยเข้าไมโครเวป จากนั้นชิมรสดูหาไม่ถูกใจให้เพิ่มเติมที่ต้องการเพิ่มได้เลย งาขาวหากมีให้คลุกพร้อมกับส่วนผสมหมักเนื้อได้เลยค่ะ***


ข้าวไก่แดง

ข้าวไก่แดงเมนูใหม่เอาในคนชอบกินไก่ นกนำเสนอเมนูข้าวไก่แดง คริๆ อย่า "งง" ทีบ้านนกนอกจากจะมทำข้าวหมูแดง ข้าวหน้าเป็ด ข้าวหน้าไก่ ข้าวไก่แดง ซึ่งเป็นเมนูที่นกชอบทำแล้วนกยังมีเมนูข้าวไก่แดงอีกหนึ่งเมนูที่ชอบทำกินเป็นมื้อเที่ยงจานเดี่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ให้กับแฟนคลับเช่นกันค่ะ เมนูนี้วิธีทำคล้ายกับข้าวหมูแดง แต่เปลี่ยนจากหมูมาเป็นไก่แทนนะค่ะ ถ้าใครที่ทำข้าวหมูแดงเป็นอยู่แล้ว มาทำข้าวไก่แดงขอบอกว่าง่ายสุด ๆ ไปเลยละค่ะ


ส่วนผสมไก่แดง
เนื้อไก่ 500 กรัม 
เหล้าจีน 2 ชต 
ฮอยซินซอส (Hoisin Sauce) 1 ชต
ผงหมักหมูแดง 2 ชต 
น้ำมันงา 2 ชต 
น้ำตาล 1 ชต 
เกลือ 1 ชช 
ซิอิ๊วดำ 1 ชต 
ซิอิ๊วขาว 2 ชต 
ซอสมะเขือเทศ 3 ชต 
ไข่ต้มสุก 2 ฟอง 
ผักชี แตงกวา 
ต้นหอม ตามชอบ 

 วิธีทำ 
1ล้างหมูให้สะอาดจากนั้นพักให้สะเด็ดน้ำ นำไก่ไปหมักกับเหล้าจีน น้ำมันงา ผงหมักหมูแดง ฮอยซินซอสน้ำตาล เกลือ ซิอิ๊วดำ ซิอิ๊วขาว และซอสมะเขือเทศ คนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี ชิมรสตามชอบแล้วนไปคลุกกับไก่ หมักทิ้งไว้ 3-4 ชั่วโมง 
2 ใส่น้ำมันเล็กน้อยลงไปในกระทะพอทอดไม่ให้หนังไก่ติดกระทะ จากนั้นนำกระทะตั้งไฟร้อนปานกลาง นำไก่ที่หมักลงทอดให้หนังไก่ออกสีน้ำตาลตามชอบ (นกทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที )จากนั้นนำไก่ไปใส่ในเตาอบ ใช้ไฟปานกลาง อบไปประมาณ 20 นาที นำไก่ออกมาทาน้ำหมักไก่ให้ทั่ว ๆ ทั้งหมด จากนั้นนำเข้าหมักต่ออีก 20 หรือจนกระทั้งไก่สุก ๆ แดงสวย 
3 นำไก่ออกจากเตาอบและนำไปหั่นเป็นชิ้น ๆ พอดีคำจัดใส่จานเสริฟยกเสริฟกับคู่แตงกวา ต้นหอม ได้เลยค่ะ 

 ส่วนผสมน้ำซอสราดข้าวไก่แดง 
น้ำซุปไก่ 1 ถ้วย (ไม่มีใช้น้ำเปล่า) 
น้ำจากการอบไก่ ตามชอบ 
ซีอิ้วขาว 3 ชต 
ซีอิ้วดำ 1 ชช 
น้ำตาลปี๊ป 3 ชต 
ผงพะโล้ 1/4 ชช 
แป้งข้าวโพด 2 ชช 
น้ำมันงา 1 ชช 
งาคั่ว 2 ชช 
ซอสมะเขือเทศ 1 ชต 

 วิธีทำ 
1 เอาน้ำซุปใส่กระทะตั้งไฟ พอน้ำซุปเดือดใส่ส่วนผสมทั้งหมดยกเว้นแป้งข้าวโพด และงาคั่ว เคี่ยวให้น้ำข้น 
2.เติมแป้งมันละลายน้ำลงไปคนเร็ว ๆ ให้เข้ากัน ยกลงจากเตาเติมงาคั่วลงไป เสร็จแล้วนำไปราดบนข้าวไก่แดงได้เลยค่ะ

***เนื้อไก่วันนี้นกใช้เนื้อส่วนน่องติดสะโพกทำนะค่ะ แต่ถ้าเพื่อนใช้เนื้ออกไก่เวลาอบจะใช้เวลาน้อยกว่าสักเกตเนื้อไก่เวลาอบด้วยนะค่ะ พยายามราดน้ำบนเนื้อไก่ให้ทั่ว ๆ เดี่ยวจะแห้งเกินไปไม่อร่อย น้ำราดถ้าชอบแบบข้น ๆ ให้เติมแป้งข้าวโพดละลายน้ำเพิ่มตามชอบได้เลยค่ะ ***

ขนมไข่นกกระทา/ขนมไข่เตา

ขนมไข่นกกระทา หรือขนมไข่เตาเป็นขนมไทยโบราณทำกันมานาน จะว่าไปแล้วตั้งแต่เด็กจำความได้ก็เห็นขนมไข่นกกระทา แล้วละค่ะ ฝีมือแม่เป็นหนึ่งไม่รองใครเลยที่เดี่ยว ขนมไข่นกกระทาที่แม่ทำจะใช้แป้งมันเป็นหลัก ซึ่งจะทำให้ขนมไข่นกกระทา กรอบนอกในนุ่มเหนียว แต่นกเคยเห็นมีบางร้านใช้แป้งสาลีเป็นหลัก และใส่นมแทนกระทิก็มีเหมือนกัน นกไม่เคยลองทำสูตรนี้ แต่มีเพื่อนเคยใช้สูตรนี้บอกว่าเนื้อจะแข็งๆ นะค่ะ ขนมไข่นกกระทาบ้านเราจะหาซื้อง่ายตามร้านขายกล้วยทอด มันทอด เผือกทอด ทางข้างทาง ถุงหนึ่ง 10 บาทก็ได้เยอะแล้วละค่ะ



ส่วนผสม
มันเทศ (Sweet Potato) 2 หัว (ประมาณ 500 กรัม)
แป้งมัน 200 กรัม
แป้งสาลี 50 กรัม
น้ำตาลทราย 100 กรัม
ผงฟู 1 ชช
หัวกระทิ 2 ชต
เกลือป่น หยิบมือ
น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ
1 นำมันเทศมาปลอกเปลือกล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น ๆ นำไปนึ่งจนกระทั้งสุก จากนั้นนำไปบดให้ละเอียด พักไว้จนมันเทศบดเย็น
2 ใส่นำแป้งมัน แป้งสาลี น้ำตาลทราย ผงฟู และเกลือ ลงไปในมันบด นวดให้ส่วนผสมเข้ากัน เติมกระทิลงไปที่ละน้อย นวดจนกระทั้งจับได้เป็นก้อน ๆ จากนั้นนำมาปั้นเป็นลูกกลม ๆ เหมือนกับไข่นกกระทา เล็กใหญ่ตามชอบ
3 ใส่น้ำมันสำหรับทอดลงในกระทะ เปิดไฟในเตาใช้ไฟแรง ใส่แป้งที่ปั้นไว้ลงไปทอด ลดไฟในเตาลงเป็นไฟปานกลาง ใช้ทัพพีโปร่งคนขนมไปมาในกระทะ กดตัวขนมเบา ๆ ทอดจนกระทั้งสุกเหลืองสวยทั่วกัน จากนั้นตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน จากนั้นยกเสริฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

***ถ้าแป้งแห้งเกินไปให้เพิ่มหัวกระทิลงไปอีก แต่ถ้าแป้งแฉะเกินให้เพิ่มแป้งมันลงไปอีกนะค่ะ ขนมไข่นกกระทา นอกจากจะปรุงกับมันเทศแล้ว ยังสามารถใช้กับมันฝรั่ง มันสำปะหลัง ฟักทองได้อีกด้วยเช่นกัน***

ไข่ครอบ

นกมีเมนูมาแนะนำเพื่อน ๆ ที่ชอบทานไข่แดงเค็ม อยู่ต่างแดนหาซื้อลำบาก หรือเบื่อที่จะต้องใช้เวลาในการดองไข่เค็มนาน กว่าจะได้ทาน ไข่ครอบจึงทางเลือกใหม่ให้กับเพื่อน ๆ ที่ใช้เวลาและขั้นตอนในการทำที่ไม่ยุ่งอยาก แค่ 1 คืนก็ได้กินแล้วละค่ะ



ส่วนผสม
ไข่เป็ด/ไข่ไก่ ตามชอบ
เกลือป่น ตามชอบ

วิธีทำ
1 นำไข่เป็ดมาล้างเปลือกให้สะอาด จากนั้นตอกไข่ให้แยกออกจากกันแบ่งส่วนของไข่ให้พอเหมาะ จากนั้นแยกไข่ขาว และไข่แดงออกจากกัน
2 นำไข่แดงที่แยกไว้ 2 ฟองเทกลับไปในเปลือกไข่เดิม ใส่เกลือลงไปหนึ่งหยิบมือ ถ้าต้องการความเค็มเพิ่มก็ให้เพิ่มเกลือตามชอบ
3 นำเปลือกไข่ที่เหลือด้านหนึ่งมาครอบไข่แดงเอาไว้หมักไว้ 1 คืน ในเกลือซึมเข้าไข่แดง
4 ครบกำหนดนำไข่ไปนึ่งจนกระทั้งสุก ยกเสริฟทานคู่กับข้าวสวย ข้าวต้ม หรือจะนำไปปรุงเป็นอาหารอย่างอื่นก็ได้เช่นกัน

***ไข่ครอบวันนี้นกนำไปทำเมนูหมูสับผัดไข่เค็มเลยมีไข่ขาวติดมาด้วยนิดหน่อย ถ้าเพื่อน ๆ สนใจสุตรเมนูหมูสับผัดไข่เค็ม คลิ๊กที่รูปอาหารนะค่ะ เมนูนี้นกเปลี่ยนจากส่วนผสมไข่เค็มเป็นไข่ครอบแทน ก็ได้เมนูเพื่อครอบครัวแล้วละค่ะ ***





แกงส้มมะรุม

นกคิดว่าหลาย ๆ คนคงไม่รู้จักแกงส้มมะรุม แกงส้มที่กำลังจะหากินได้ยาก ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยทำกันเพราะกว่าจะได้กินต้องมานั่งปอกเปลือก และเกลาฝักมะรุมกันก่อน งานนี้กว่านกจะได้แกงต้องโทรไปถามแม่ที่บ้านว่าทำอย่างไร พอได้สูตรก็ลงมือแกงทันที่ แต่กว่าจะได้แกงเล่นเอาฝักมะรุมของนกไม่สดเท่าที่ควร เวลาปอก เกลาค่อนข้างลำบากนิดหน่อย บางส่วนจึงเห็นแต่เนื้อมะรุม เลยออกมาไม่ค่อยสวยเท่าไร



ส่วนผสม
มะรุมปลอกเปลือกหั่นเป็นท่อน ๆ 10 ฝัก
กุ้งสด 250 กรัม
เนื้อหมู/หมูสามชั้น หั่นชื้นพอคำ 200 กรัม
น้ำพริกแกงส้ม 2ชต
เนื้อปลาต้มสุก 1 ตัว
น้ำปลา 1 ชต
น้ำตาลปีบ 1 ชช
น้ำมะขามเปียก 1 ปั้น
น้ำเปล่าสำหรับแกง

วิธีทำ
1 นำเนื้อปลาต้มสุกโขลกกับพริกแกงให้ละเอียด
2 เอาหม้อตั้งบนเตาใส่น้ำลงไปต้มให้เดือด ใส่พริกแกงที่โขลกเสร็จแล้วลงไป พอน้ำแกงเดือดใส่มะรุมที่ปอกเปลือกเสร็จแล้วลงในหม้อน้ำแกง ต้มให้มะรุมสุก จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาลปึบ น้ำปลาดี น้ำมะขามเปียก ชิมรสตามชอบ ใส่เนื้อหมูลงไปต้มต่อ
3 พอหมูสุก น้ำแกงเดือดอีกรอบใส่กุ้งค้นให้เข้ากันปิดไฟในเตาตักใส่ถ้วยเสริฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

coffee cupcakes

นกเป็นคนหนึ่งที่ชอบทานเค้กกาแฟเป็นที่สุด ที่ไหนมีเค้กกาแฟขายเห็นก็มักจะซื้อทานเป็นประจำ แต่ไม่เคยลงมือทำกะเค้าสักที เหตุเพราะแฟนคลับไม่ชอบทานเค้กกาแฟเอาเสียเลย เค้าบอกว่าผิดวัฒนธรรม เอากาแฟมาทำอย่างอื่นไม่ได้ จะว่าไปแล้วเค้าเองก็เคยได้ลิ่มลองมาบ้างเวลานกชื้อมาแต่ไม่เคยชอบเลย เมื่อวานนกมีเวลาว่าง เลยคิดลองทำเค้กกาแฟเองดูบ้าง ผลเป็นที่น่าพอใจ แฟนคลับบอกว่า อร่อยมาก ผมคงทานเค้กกาแฟของคุณอีกในครั้งต่อๆ ไป เป็นปลื้มเลยเรา


ส่วนผสม
เนยรสจืด 250 กรัม
น้ำตาล 180 กรัม
แป้งเค้ก 200 กรัม
ผงฟู 1 ชช
ไข่ไก่ขนาดใหญ่ 4 ฟอง
กาแฟสำเร็จรูป 2 ชช ละลายกับน้ำร้อน 1 1/2 ชช
ครีม 100 มิลลิลิตร
เกลือ 1 หยิบมือ

วิธีทำ
1 อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาซี ร่อนแป้งเค้ก+ผงฟู+เกลือ เข้าด้วยกัน
2 ผสมกาแฟที่ละลายแล้วลงในครีม จากนั้นวางถ้วยกระดาษไว้ในถาดมัฟฟิน พักไว้
3 ตีเนยสดให้อ่อนตัว เติมน้ำตาลทรายลงไป ตีต่อจนขึ้นฟู
4 เติมไข่ไก่ทีละฟอง ตีด้วยความเร็วสูงให้เข้ากันดีก่อนเติมฟองต่อไป ตีต่อให้ส่วนผสมเข้ากันดี จากนั้นเปลี่ยนเป็นใช้ความเร็วต่ำ เติมส่วนผสมแป้งสลับกับส่วนผสมครีม โดยเริ่มด้วยแป้งก่อนและปิดท้ายด้วยแป้ง
5 เทส่วนผสมใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ อบประมาณ 20-25 นาที หรือจนกระทั่งสุก ยกออกจากพิมพ์ ทิ้งไว้ให้เย็นบนตะแกรงก่อนนำไปแต่งหน้าตามชอบได้เลยค่ะ

***นกแต่งหน้าไว้สองแบบนะค่ะ เลยเอามาให้ชมทั้งสองแบบ ถ้าเพื่อน ๆ มีแบบแต่งหน้าอื่น ๆ แล้วแต่จะชอบกันนะค่ะ***




ข้าวต้มไก่สับ /ไก่ฉีก

วันนี้ทั้งลมทั้งฝนเซ็งจิตจริงๆ เลยเรา ออกไปไหนก็ไม่สะดวกเลย อากาศอย่างนี้เมนูข้าวต้มถ้าจะดีข้าวสวยมีเหลือจากเมื่อวานเย็นเอามาต้มเสียเลยง่ายดี ไก่บดก็มีอยู่แล้ว เสียดายขิงกับผักชีไม่มี แต่ไม่ใช้ปัญหาใหญจริงไม่ค่ะเพื่อน ๆ




ส่วนผสม
เนื้อไก่บด/เนื้ออกไก่สุกหั่นชิ้น ตามชอบ ( นกใช้ประมาณ 250 กรัม)
ข้าวสวย 2 ถ้วย
น้ำชุปไก่ 4-5 ถ้วย
รากผักชี 2 ราก
พริกไทยป่น ตามชอบ
ต้นหอม ตามชอบ
เกลือ ตามชอบ

วิธีทำ
1 เปิดไฟในเตาใช้ไฟแรง เอาน้ำซุปใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด จากนั้นใส่รากผักชีทุบ ใส่ซีอิ้วขาว
2 ใส่ข้าวสุกลงไปต้มตามชอบ ถ้าชอบเม็ดสวยๆก็ใช้เวลาต้มไม่นาน ชิมรสตามชอบ หาชอบเค็มหน่อยให้เพิ่มเกลือลงไป
3 พอข้าวต้มได้ที่ใส่เนื้อไก่บด/ไก่ฉีกลงไปต้มต่อจนกระทั้งสุก ตักใส่ชามโรยพริกไทยป่น ต้นหอม ยกเสริฟได้เลยค่ะ

***รากผักชีที่บ้านเวลซื้อผักชีมาจะตัดรากแช่แข็งไว้เลยค่ะ เวลาจะทำอะไรก็เอาออกมาใช้งานได้ทันที่ นี้เป็นรากผักชี 2 รากสุดท้ายของนกค่ะ ไม่เป็นไรไปตลาดคราวหน้าก็ได้มาแล้ว***

แกงส้มผักกระเฉด

มาต่อกันอีกวันสำหรับแกงส้ม ยังไม่อิ่มใจหลังจากอร่อยกับแกงส้มชะอมไข่แล้ว นกยังมีอีกอย่างที่ได้มาพร้อม ๆ กับชะอม นั้นก็คือผักกะเฉด จริงๆ กะว่าจะยำผักกระเฉด แต่ใจอยากกินแกงส้มมากกว่าเลยตัดใจจากยำ ไว้คราวหน้ามีผักกะเฉดเมื่อไรต้องเอามายำแน่นนอนค่ะ เพื่อน ๆ คนไหนชอบทานยำผักกะเฉด นกติดไว้ก่อนนะค่ะ



ส่วนผสม 
ปลาสด หั่นเป็นชิ้นขนาดกลาง 1 ตัว
ผักกระเฉดหั่นเป็นท่อน ๆ 1 กำ 
ปลาต้มสุก 1 ตัว 
น้ำปลา ตามชอบ 

ส่วนผสมเครื่องแกง 
พริกแห้ง 10-15 เม็ด 
หอมแดง 2-3 หัว 
กระเทียม 4-5 กลีบ 
กระชาย 1 แง่ง (ถ้ามี) 
น้ำมะขามเปียก ตามชอบ 
กะปิ 2 ชช 
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา 
น้ำตาลปีบ ตามชอบ 

 วิธีทำ 1 เอาพริกแห้งแช่น้ำให้นิ่ม พริกนิ่มแล้วให้บีบน้ำออก หั่นหรือฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในครก ใส่เกลือป่นไปนิดหน่อย โขลก ๆ ให้พริกละเอียด จากนั้นเติมส่วนผสมอื่นเข้าไปโขลกต่อจนส่วนผสมทุกอย่างละเอียดเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน 
2 แกะเนื้อปลาที่ต้มและพักเย็นแล้วลงไปโขลกให้เข้ากันกะพริกแกงให้ละเอียดพักไว้ 
3 เอาหม้อตั้งบนเตาใส่น้ำลงไปต้มให้เดือด ใส่พริกแกงที่โขลกเสร็จแล้วลงไป ใส่ปลาสดหั่นชิ้น ปรุงรสด้วยน้ำตาลปึบ น้ำปลาดี น้ำมะขามเปียก ชิมรสตามชอบ พักไว้ให้น้ำแกงเดือด 
4 นำผักกะเฉดหั่นท่อนใส่ในชามแกงรอไว้ จากนั้นตักแกงร้อน ๆ ราดลงบนผักกะเฉด ยกเสริฟได้เลยค่ะ

***แกงส้มผักกะเฉดของนกชอบแบบสุกเยอะหน่อย เวลาทำจะใส่ในลงไปต้มในหม้อแกง แต่ถ้าใครชอบแบบกรอบ กรุบ ๆ ก็ใช้วิธีตักน้ำแกงราดเอาแล้วแต่จะชอบนะค่ะ***


แกงส้มชะอมไข่กุ้งสด

หลังจากที่นกตั้งตาคอยเจ้าชะอมอย่างใจจดใจจ่อมานานเลยที่เดียว วันนี้ก็ได้มาแล้วสมใจ แต่แพงจริงๆ ถ้าอยู่เมืองไทยกำนี้ไม่เกิน 10 บาท แต่นั้นละเราอยู่ต่างแดนต้องทำใจจริงไม่ค่ะเพื่อน ๆ งานนี้นกตั้งใจตั้งแต่ต้นเลยว่าจะต้องแกงส้มชะอมไข่ให้ได้ จะว่าไปแล้วแกงส้มเป็นแกงยอดฮิตของนกเลยก็ว่าได้ เมนูนี้แฟนคลับไม่เกี่ยว เพราะไม่ชอบกินแกงส้ม บอกว่าเผ็ดมาก แถมยังเปรี้ยวมอีกด้วย ไม่รู้เสียแล้วนี้ละเสหน์ของแกงส้มที่ใคร ๆ ก็หลงใหล




ส่วนผสม
ชะอม1 กำ
ไข่ไก่ 2 ฟอง
กุ้งสด 1 ขีด
น้ำตาลปีบ ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำมะขามเปียก ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับทอดชะอม ตามชอบ

ส่วนผสมพริกแกง
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
หัวหอมแดง 5-6 หัว
กระชาย 3 ราก (ถ้ามี)
กะปิ 1 ชต
เกลือป่น 1/2 ชช
ปลาต้มสุกแกะเนื้อ 1 ตัว

วิธีทำ
1 เอาพริกแห้งแช่น้ำให้นิ่ม พริกนิ่มแล้วให้บีบน้ำออก หั่นหรือฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในครก ใส่เกลือป่นไปนิดหน่อย โขลก ๆ ให้พริกละเอียด จากนั้นเติมส่วนผสมอื่นเข้าไปโขลกต่อจนส่วนผสมทุกอย่างละเอียดเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
2 เอาหม้อตั้งบนเตาใส่น้ำลงไปต้มให้เดือด ใส่พริกแกงที่โขลกเสร็จแล้วลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลปึบ น้ำปลาดี น้ำมะขามเปียก ชิมรสตามชอบพักไว้ เวลาจะทานยกหม้อตั้งเตาอีกครั้งพอน้ำแกงเดือดค่อยใส่กุ้งลงไป
3 เด็ดชะอมตีผสมกับไข่ปรุงรสด้วยน้ำปลา ลงทอดเหลืองสองด้านแล้ว ตักขึ้นมาพักไว้รอเย็น แล้วหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าพอคำ จากนั้นราดด้วยน้ำแกง ยกเสริฟทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

***ถ้าใครหาชะอมไม่ได้นกแนะนำชะอมเทียมทำง่ายมากๆ เลยค่ะ ใช้ใบคะน้า หรือใบSpinach หั่นเป็นเส้น ๆ จากนั้นเอาไปชุบไข่ทอดสุกแล้วนำมาตัดเป็นชิ้นพอคำ แล้วนำไปปรุง ออกมาแล้วหน้าตาเหมือนไข่ชะอมมากๆ เลยค่ะ แต่ไม่มีกลิ่นเท่านั้นเอง ชามนี้เป็นแกงส้มชะอมเทียมที่นกใช้ใบSpinachทำค่ะ ส่วนใครที่ใช้ใบSpinach สนใจสูตรคลิ๊กที่รูปไปยังลิงค์สูตรได้เลยค่ะ**



ไก่หยอง /หมูหยอง

เมื่อวานแฟนคลับหยุดพักผ่อน เลยชวนกันไปซุปเปอร์ฯ โอ๋แม่เจ้า เนื้อไก่ลดราคา จริงๆ แล้วจะบอกว่าลดราคาคงไม่ถูกเท่าไร เพราะเค้าขาย สองกล่องถึงจะได้ลดราคา ถ้าซื้อกล่องเดียวก็เต็มราคาเหมือนเดิม จัดการหยิบใส่รถเข็นสียเลย 4 กล่อง ตอนซื้อนกไม่คิดว่าจะมาเมนูอะไร คิดแต่ว่ามันถูกดี เดินดูโน่นนี้ไปเรื่อยๆ อยู่ๆแฟนคลับหันมาพูดเรื่องอยากกินขนมปังพริกเผ็ดใส่เนื้อหมูสีน้ำตาล (ขนมปังหมูหยอง) เอางานเข้าละเราของเก่าดันกินไปหมดแล้วเมื่อสองวันก่อน ไม่คิดว่าอยู่ ๆ นึกอยากจะกินขึ้นมา หมูหยองหมด กินไก่หยองได้อะป่าว วันนี้ซื้อไก่เยอะทำขนมปังไก่หยองก็แล้วกัน และแล้วก็ได้เมนูมื้อกลางวันทันใจดีจริง กลับถึงบ้านลงมือเข้าครัว


ส่วนผสม
เนื้ออกไก่ 500 กรัม/เนื้อหมู 500 กรัม
อบเชย 1 แท่ง
โป๊ยกั้ก 1 ดอก
ผงพะโล้ 2 ชช
น้ำตาลแดง 5 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ชช
ซีอิ๊วขาว 4 ชต
ซีอิ๊วดำ 2 ชต

วิธีทำ
1.นำ อบเชย โป๊ยกั้ก ผงพะโล้ห่อใส่ผ้าขาวบางก่อน ใส่ลงไปในหม้อใส่น้ำให้ท่วมไก่หรือเนื้อหมูยกตั้งไฟจนเดือด จากนั้นใส่เนื้อไก่หรือเนื้อหมูลงไป ระหว่างต้มให้ใช้ช้อนค่อย ๆ ตักฟองทิ้งไปจนไม่มีฟอง
2.ใส่น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว ซีอิ้วดำ เกลือป่น ต้มต่อไปเรื่อยๆจนกระทั้งเนื้อไก่หรือเนื้อหมูเปื่อยยุ่ยดี และน้ำเริ่มแห้ง
3.พอน้ำเริ่มแห้งดีแล้วให้ยีเนื้อไก่หรือเนื้อหมูให้เป็นเส้น ๆ ผัดไปเรื่อย ๆ หรีไฟในเตาลงใช้ไฟอ่อน ผัดจนกระทั้งเนื้อแห้งดี ปิดในไฟ ตักจานพักให้เย็น เสริฟคู่กับขนมปัง หรือจะนำไปทานกับข้าวต้มร้อน ๆ ก็อร่อยเช่นเดียวกัน

***ขนมปังไก่หยองที่บ้านจะทาด้วยน้ำพริกเผาทำเองเหมือนกันของนกเป็นพริกเผาแบบเผ็ด ของแฟนคลับแบบไม่เผ็ด หรือก็ทาเนยแล้วโรยด้วยไก่หยอง หมูหยอง ในรูปนี้เป็นของแฟนคลับค่ะ***