ส่วนผสม
ปลากระเบน 300 กรัม
น้ำพริกแกงเผ็ด 1 ชต
หัวกะทิ1/2 ถ้วย
มะเขือพวง ตามชอบ
มะเขือเปราะ ตามชอบ
น้ำตาลปีบ 1 ชช
น้ำปลา 1-2 ชต
น้ำมันพืช 2ชต
พริกไทยอ่อน (ถ้ามี)
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ ตามชอบ
ใบโหระพาเด็ดเป็นใบ ๆ 1 กิ่ง
ใบมะกรูด ฉีก 2-3 ใบ
กระชายหั่นซอย ตามชอบ (ถ้ามี)
วิธีทำ
1. ลอกหนัง ล้างปลากระเบนให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น ๆ พักให้เสด็ดน้ำสักครู่
2. โรยด้วยเกลือเเละเเป้งทอดกรอบลงไปคลุกให้กัน แล้วน้ำไปทอดให้เหลืองกรอบ ใส่จานพักไว้
3. ตั้งกระทะบนเตาใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันลงไปในกระทะ พอน้ำมันเริ่มร้อนเอาพริกแกงเผ็ดลงผัดให้หอม ใส่กระทิลงไป ผัดให้เข้ากัน จากนั้นใส่น้ำปลา น้ำตาลทราย ผักให้เข้ากัน ชิมรส ใส่ใบมะกรูด กระชาย มะเชือพวง มะเขือเปราะ
พริกชี้ฟ้าเหลือง ผัดให้เข้ากันพอผักเริ่มสุก ใส่ปลาลงไปผัดต่อจากนั้นจึงใส่ใบโหระพา ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟในเตาตักใส่จานยกเสริฟกินคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ
***วิธีการล้างปลากระเบนให้ใช้น้ำส้มสายชู ผสมกับเกลือคลุกเคล้าปลาให้ทั่ว พักไว้สักประเดี๋ยว แล้วนำไปล้างให้สะอาดช่วยดับความคาวของปลากระเบนได้เยอะเลยที่เดียวค่ะ***
ปลากระเบนผัดเผ็ด
เป็ดอบ/ข้าวหน้าเป็ด
ส่วนผสม
เป็ด 1 ตัว
น้ำผึ้ง 2-3 ชต
น้ำมันหอย 2 ชต
น้ำมันงา 1 ชต
น้ำส้ม 1ผล
ผงอบเชย 1 ชช
โป๊ยกั๊ก 2 ดอก
อบเชย 2 แท่ง
ต้นหอม ตามชอบ
ผักชื ตามชอบ
Bay leaves 5-6 ใบ (ถ้ามี)
เกลือป่่่น 3 ชต (แบ่งเป็น 1 ต่อ 2)
ซีอิ๊วดำ 1 ชต
พริกไทยดำ 1 ชต
กระเทียม 1หัว
รากผักชี 4-5 ราก
วิธีทำ
1. ล้างเป็ดให้สะอาดโดยล้างผ่านน้ำร้อน ตัดส่วนของตูดเป็ดทิ้งไป เอาไม้กัด
2. นำส้มมาคั่นเอาน้ำผสมกับเกลือ 1 ชต คนให้เข้ากันแล้ว นำไปทาให้ทั่วบนตัวเป็ด พักผึ่งลมให้แห้งและทาซ้ำอีก ทำอย่างนี้จนน้ำส้มหมด
3. โขลกพริกไทย กระเทียม และรากผักชีให้ละเอียด จากนั้นแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งนำไปทาให้ทั่วบนตัวเป็ด อีกส่วนใส่เกลือป่นที่เหลือนำยัดใส่ทาให้ทั่วใน
ตัวเป็ด แล้วพักไว้ประมาณ 10-15 นาที
4. ระหว่างที่พักเป็นผสม น้ำผึ้ง น้ำมันหอย น้ำมันงา ผงอบเชย ซีอิ้วดำ จากนั้นคนให้เข้ากัน จากนั้นนำไปทาให้ทั่ว ๆ บนตัวเป็ด พักไว้ให้แห้งทาซ้ำอีกครั้ง (น้ำซอสเหลือเก็บไว้อย่าทิ้ง)
5. เอาโป๊ยกั๊ก อบเชย ต้นหอม ผักชี bay leaves ยัดใส่ในตัวเป็ด เอาไม้กัด เย็บปิดส่วนหัวท้าย พยายามเย็บปิดให้สนิท จากนั้นนำไปอบที่ 160 องศาซี อบประมาณ 20 นาทีให้เอาเป็ดออกมาราดซอสที่เหลือให้ทั่วตัวเป็ดอีกครั้งและเข้าอบต่ออีก 30 นาที ตอนนี้จะมีน้ำมันออกจากตัวเป็ดพยายามตักแล้วราดบนตัวเป็ด และตักส่วนหนึ่งเอาไว้ใช้ทำซอสตามชอบ อบไปสักพักก็นำเป็ดออกมาดู หากมีน้ำมันออกมาก็ตักราดบนตัวเป็ดอีกรอบ พยายามกลับด้านหันอบให้ทั่วตัวเป็ด ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ใช้เวลาอบเกือบ ๆ 2 ชม หรือจนกระทั้งเป็ดสุก (อุณหภูมิของเตาให้ปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมเนื่องจากเตาอบแต่ละชนิดความ ร้อนอาจจะไม่เท่ากัน) อบเสร็จตัดชิ้นใส่ยกเสริฟกินคู่กับน้ำจิ้ม หรือจะไปปรุงเป็นอาหารอย่างอื่นได้เช่นเดียวกันคะ
***สำหรับนกวันนี้ เอาไปทำข้าวหน้าเป็ด จานนี้เป็นของแฟนคลับค่ะไม่เอาน้ำจิ้มราดซอสโรยหอมผักชีก็เสร็จ เท่านี้ก็อร่อยยิ้มไปแล้วค่ะ กลับมาว่ากันต่อที่สูตรข้าวหน้าเป็ด สูตรนี้นกเดา ๆ เอาว่าน่าจะใส่อะไรบ้างจากที่ได้เคยชิมมานะค่ะ คิดว่าคงไม่ห่างไกลจากสูตรข้าวหน้าเป็ดเจ้าร้านประจำ****
ส่วนผสม
น้ำอบเป็ดที่อยู่ในถาด ตามชอบ
น้ำมันงา 2 ชต
เหล้าจีน 1 ชต
ผงพะโล้ เล็กน้อย (ใส่ให้พอน้ำซอสหอม ๆ นะค่ะ)
ซีอิ้วขาว 3 ชต
ซีอิ้วดำ 1 ชช
ซอสมะเขือเทศ 2 ชต
แป้งข้าวโพด ตามชอบ
น้ำตาลทราย ตามชอบ
น้ำเปล่า ตามชอบ
วิธีทำ
1. ผสมน้ำเป็ดอบ น้ำมันงา เหล้าจีน ผงพะโล้ ซีอิ้วขาว ซีอิ้วดำ น้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน จากนั้นนำเคี่ยวให้น้ำตาลละลาย
2. หากน้ำซอสน้อยเติมน้ำนิดหน่อยลงไป คอยให้น้ำซอสเดือด ชิมรสตามชอบ จากนั้นใส่แป้งข้าวโพดละลายน้ำลงไป คนให้เข้ากันพอน้ำซอสเดือดอีกครั้งปิด ไฟในเตาได้เลยค่ะ
*** ส่วนน้ำจิ้มราดข้าวหน้าเป็ด นกใช้ซีอิ้วดำ ซีอิ้วขาว ซอสเปรี้ยว (ไม่มีใช้น้ำส้มสายชูแทน) น้ำตาลทราย พริกสดหัั่น ตามชอบ ผสมเข้าด้วยกันเท่านี้ก็ได้น้ำจิ้มสูตรเด็ดอร่อย ๆ กินคู่ข้าวหน้าเป็ดแล้วละค่ะ ***
ไส้กรอกอีสาน
ส่วนผสม
หมูบดติดมัน 500 กรัม
หนังหมู 100 กรัม (ถ้ามี)
กระเทียมสับ 15-20 กลีบ
ซีอิ้วขาว 3 ชต
พริกไทยป่น ตามชอบ
ผงปรุงรสหมู 1 ชช (ไม่มีไม่ต้องใส่)
ข้าวเหนียวนึ่งสุก /ข้าวสวย 2 ถ้วย (วันนี้นกไม่ได้ใช้ค่ะ)
ไส้หมู ตามชอบ
วิธีทำ
1. ล้างไส้หมูให้สะอาดซับน้ำให้แห้งพักไว้
2. นำส่วนผสมนวดให้เข้ากัน ยกเว้นไส้หมู
3. เอาส่วนผสมที่นวดบรรจุลงในไส้หมู ใช้เชือกมัดเป็นข้อ ขนาดตามต้องการ ถ้าไส้พองลมให้ใช้เข็มแหลมแทงไล่ลมออก
4. นำไปหมักไว้ในตู้เย็น 1 คืน หากชอบเปรี้ยว ให้นำออกจากตู้เย็นผึ่งแดดไว้ 1 วัน (แต่ถ้าไม่มีแดดผึ่งลมไว้ก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ)แล้วค่อยน้ำมาทอดหรือปิ้ง ก็จะได้ไส้กรอกรสเปรี้ยวอร่อยถูกใจเสริฟกินคู่กับขิ่งสด พริกสด หรือผัดสดตามชอบได้เลยค่ะ
***ถ้าเพื่อน ๆ จะใส่ข้าวเหนียวนึ่ง ต้องเพิ่มเกลือลงไปอีก 1 ชช เพราะสูตรที่นกให้เป็นสูตรใช้หมูล้วน เลยใช้แต่ซีอิ้วขาวอย่างเดียวเวลาจะชิมรส ให้หยิบส่วนผสมหมูนิดหน่อยเอาเข้าไมโครเวป เวปให้สุกจากนั้นก็ปรุงรสตามชอบนะค่ะ***
เส้นหมี่ราดหน้าหมูหมัก
น้ำมันพืช 2 ชต
ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
ข้าวโพดอ่อนหั่นชิ้น 5-6 ฝัก
เต้าเจี้ยวดำ 1 ช้อนชา
น้ำหรือน้ำซุปหมู 1 1/2 ถ้วย
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
แป้งมัน 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
ส่วนผสมหมูหมัก
เนื้อหมูส่วนสะโพกหั่นชิ้นพอคำ 150 กรัม
แป้งมัน 2 ช้อนชา
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
1. ทำหมูหมักโดยเคล้าเนื้อหมู แป้งมัน น้ำมันหอย ซอสปรุงรส และน้ำตาลเข้าด้วยกันในชาม หมักนานประมาณ 30-45 นาที
2. ตั้งกระทะบนเตาใช้ไฟ รอจนร้อนจัดใส่น้ำมัน 1 ชต กลอกให้ทั่วกระทะ จากนั้นใส่เส้นหมี่ลงผัดให้เส้นไหม้เกรียมและพองกรอบ ใส่ซีอิ๊วดำ ผัดให้ทั่ว ปิดไฟในเตา ตักใส่จาน พักไว้
3. ตั้งกระทะบนเตาอีกครั้งใช้ไฟแรงปานกลาง พอน้ำมันร้อนใส่เนื้อหมูหมักลงไปผัดพอสุก จากนั้นใส่บ๊อกโคลี่ ข้าวโพดอ่อน ลงผัดให้ทั่ว ใส่เต้าเจี้ยวดำ เติมน้ำหรือน้ำซุปหมู ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส น้ำตาล ชิมรสตามชอบ พอเดือดละลายแป้งมันเทลงกระทะ คนพอแป้งสุกข้น ปิดไฟในเตา
4. ตักเส้นหมี่ที่ผัดเรียบร้อยแล้วใส่จาน ราดด้วยน้ำราดหน้า โรยพริกไทยป่น ยกเสิรฟร้อนๆ คู่กับเครื่องปรุงรสได้เลยค่ะ
อูด้งลูกชิ้นหมู
เส้นอุด้ง 1 ห่อ
ลูกชิ้นหมู ตามชอบ
ซุปไก่ก้อน 1 ก้อน
ต้นหอม/ผักชี ซอย 2-3 ต้น
ซีอิ้วขาว 2 ชต
ซอสปรุงรส 1 ชต (ถ้ามี)
น้ำมันหอย 1 ชช
น้ำตาลทราย 2 ชช
หัวผักกาด 1/2 หัว
เห็ดหอม 6-8 ดอก
น้ำเปล่าตามชอบ
วิธีทำ
1. เห็ดหอมแห้งมาล้างฝุ่นผงออก แล้วนำไปแช่น้ำประมาณ 2 ถ้วย แช่ทิ้งไว้ประมาณ 45 นาที หรือจนกระทั้งเห็ดหอมนิ่ม เมื่อเห็ดหอมนิ่มได้ที่แล้วให้บีบน้ำออก (อย่าทิ้งน้ำแช่เห็ด) ตัดก้านส่วนที่แข็งๆออกไป พักใส่ถ้วยเอาไว้
2. หัวผักกาดปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นท่อน ๆ เอาไว้ใช้ต้มกับน้ำซุป
3. เปิดเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ใส่น้ำเปล่าลงไปในหม้อ ใส่ซุปไก่ก้อนลงไป พอน้ำเดือดใส่หัวผักกาด เห็ดหอมและน้ำแช่เห็ดลงไปต้ม ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย และน้ำตาลทราย รอจนกระทั้งเดือดอีกครั้งใส่ลูกชิ้นลงไปต้ม
4. ตั้งหมดอีกใบใส่น้ำลงไป พอน้ำเดือดเอาเส้นอุด้งลงไปลวกตั้งขึ้นใส่ชาม น้ำชุป ลูกชิ้นหมู เห็ดหอม ลงในชาม โรยด้วยหอมผักชี ยกเสริฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ
ราดหน้าหมี่กรอบ
เส้นหมี่ไข่ (บะหมี่) 2 ก้อน
คะน้าหั่นเฉียง 6-8 ต้น
เนื้อไก่หมัก 1 ถ้วย
ซีอิ้วขาว 2 ชต
ซีอิ้วดำ 2 ชต
น้ำมันหอย 2 ชต
น้ำตาลทราย ตามชอบ
เต้าเจี้ยว 2 ชต
แป้งข้าวโพด 2 ชต
น้ำมันสำหรับผัด
น้ำซุปไก่ ตามชอบ (ไม่มีใช้น้ำเปล่าได้ค่ะ)
ส่วนผสมไก่หมัก
3. ตั้งกระทะอีกครั้ง ใส่น้ำมันลงไปน้ำมันร้อนก็ใส่กระเทียมลงไปผัดจนกระเทียมหอม ใส่เนื้ไก่หั่นลงไป ผัดจนไก่เริ่มสุกก็ใส่เครื่องปรุงต่างๆ คือ ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย และน้ำตาลทรายลงไป
4. ผัดให้เครื่องปรุงต่างๆ เข้ากัน จนหมูสุกก็เติมน้ำซุปลงไป รอจนน้ำซุปเดือด ก็ใส่เต้าเจี้ยวลงไป ชิมรสตามชอบ จากนั้นรอให้น้ำซุปเดือดอีกครั้งก็ใส่ผักคะน้าที่หั่นไว้ลงไป ระหว่างนี้ให้ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำเปล่า คนให้แป้งละลายจนหมด จากนั้นเทลงน้ำซุป คนเร็วๆ อย่าให้แป้งจับตัวเป็นก้อน น้ำซุปจะข้นขึ้น รอจนน้ำซุปเดือดอีกครั้งปิดไฟในเตา ตักน้ำซุปราดบนเส้นหมี่กรอบ โรยด้วยพริกไทยป่น ยกเสริฟได้เลยค่ะ
ยำผักบุ้งทอดกรอบ
ผักบุ้งจีน 10 ต้น
กุ้งลวก ตามชอบ
หมูบดรวนสุก 200 กรัม
พริกขี้หนูซอย ตามชอบ
หอมแดงหั่นซอย 3-4 หัว
น้ำปลา 2 ชต
มะนาว ตามชอบ
น้ำตาล 1 ชต
น้ำมันพืชสำหรับทอด
วิธีทำ
1 ผักบุ้งแยกใบกับก้านออกจากกัน ก้านจะหั่นเป็นท่อนๆ ผ่าปลายออก ส่วนใบเด็ดแยกออกเป็นใบๆ ล้างทำความสะอาดพักให้สะเด็ดน้ำ
2 ผลมแป้งทอดกรอบ น้ำพริกแกงเผ็ด กับน้ำเย็นจัดผสมเข้าด้วยกันสังเกตแป้งอย่าให้เหลวจนเกินไป ผสมให้ชุบผักบุ้งติด
3 นำผักบุ้งที่เตรียมไว้มาชุบ นำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ ทอดพอให้เหลืองกรอบสวย
ไอศครีมวานิลลา(วานิลา)
ส่วนผสม
นมสดรสจืด 2 ถ้วย
ไข่แดง 4 ฟอง
น้ำตาลทรายละเอียด 1 ถ้วย
วิปปิ้งครีม 1 ถ้วย
วานิลา 1 ฝัก
วิธีทำ
1 เอานมจืดและวานิลาเอาเม็ด และฝัก ใส่หม้อ ต้มนมจนกระทั้งเดือด กรองให้เรียบร้อยพักไว้
2 ตีไข่แดงให้ข้น เติมน้ำตาลลงไปตีที่ละน้อย ให้น้ำตาลละลายจนหมด จากนั้นใส่นมที่พักไว้จนเย็นลงไปคนให้เข้ากัน
3 เอาส่วนผสมที่ตีเข้ากันเทลงในหม้อตุ๋นแล้วนำขึ้นตั้งบนเตาใช้ไฟกลาง หมั่นคนอยู่ตลอดเวลาจนเป็นคัสตาร์ด ยกเทลงใส่อ่างผสมพักไว้ให้เย็น จากนั้นนำเข้าตู้เย็นแช่ไว้ประมาณ 6-8 ชม
4 ครบกำหนด เอามคัสตารด์ วิปปิ้งครีมใส่โถปั่น ปั้นประมาณ 30-45 นาที จากนั้นตักใส่กระปุกแช่แข็งประมาณ 4-5 ชม ก็ได้ไอศครีมวานิลาอร่อยแล้วละค่ะ
หมูแดดเดียว
เนื้อหมูสันในหั่นเป็นเส้น 500 กรัม
กระเทียมโขลกละเอียด4-5 กลีบ
พริกไทยป่น 2 ชช
เม็ดผักชีป่น 1 ชช
น้ำตาลทราย 2 ชต
ซีอิ้วขาว 2 ชต
ซอสหอยนางรม 1 ชต
เหล้าจีน 1 ชต
งาขาว ตามชอบ (ถ้ามี)
น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ
1 นำเนื้อหมูที่หั่นเรียบร้อยแล้ว หมักด้วยส่วนผสมทั้งหมดหมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 1 คืน
2 ครบกำหนดนำเนื้อวางเรียงบนตะแกรงตากแดดตอนเช้า แล้วเก็บทอดตอนเย็น
3 เอาน้ำมันใส่ในกระทะตั้งบนเตาเปิดไปอ่อนปานกลาง นำเนื้อหมูลงทอดประมาณ 10 นาที หรือจนกระทั้งเนื้อหมูสุก ตักขึ้นวางบนกระดาษซับมัน ยกเสริฟคู่กับข้าวเหนียว หรือข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ
***หาต้องการจะชิมรสให้เอาเนื้อหมูที่หมักเรียบร้อยแล้วนิดหน่อยเข้าไมโครเวป จากนั้นชิมรสดูหาไม่ถูกใจให้เพิ่มเติมที่ต้องการเพิ่มได้เลย งาขาวหากมีให้คลุกพร้อมกับส่วนผสมหมักเนื้อได้เลยค่ะ***
ข้าวไก่แดง
***เนื้อไก่วันนี้นกใช้เนื้อส่วนน่องติดสะโพกทำนะค่ะ แต่ถ้าเพื่อนใช้เนื้ออกไก่เวลาอบจะใช้เวลาน้อยกว่าสักเกตเนื้อไก่เวลาอบด้วยนะค่ะ พยายามราดน้ำบนเนื้อไก่ให้ทั่ว ๆ เดี่ยวจะแห้งเกินไปไม่อร่อย น้ำราดถ้าชอบแบบข้น ๆ ให้เติมแป้งข้าวโพดละลายน้ำเพิ่มตามชอบได้เลยค่ะ ***
ขนมไข่นกกระทา/ขนมไข่เตา
มันเทศ (Sweet Potato) 2 หัว (ประมาณ 500 กรัม)
แป้งมัน 200 กรัม
แป้งสาลี 50 กรัม
น้ำตาลทราย 100 กรัม
ผงฟู 1 ชช
หัวกระทิ 2 ชต
เกลือป่น หยิบมือ
น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ
1 นำมันเทศมาปลอกเปลือกล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น ๆ นำไปนึ่งจนกระทั้งสุก จากนั้นนำไปบดให้ละเอียด พักไว้จนมันเทศบดเย็น
2 ใส่นำแป้งมัน แป้งสาลี น้ำตาลทราย ผงฟู และเกลือ ลงไปในมันบด นวดให้ส่วนผสมเข้ากัน เติมกระทิลงไปที่ละน้อย นวดจนกระทั้งจับได้เป็นก้อน ๆ จากนั้นนำมาปั้นเป็นลูกกลม ๆ เหมือนกับไข่นกกระทา เล็กใหญ่ตามชอบ
3 ใส่น้ำมันสำหรับทอดลงในกระทะ เปิดไฟในเตาใช้ไฟแรง ใส่แป้งที่ปั้นไว้ลงไปทอด ลดไฟในเตาลงเป็นไฟปานกลาง ใช้ทัพพีโปร่งคนขนมไปมาในกระทะ กดตัวขนมเบา ๆ ทอดจนกระทั้งสุกเหลืองสวยทั่วกัน จากนั้นตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน จากนั้นยกเสริฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ
***ถ้าแป้งแห้งเกินไปให้เพิ่มหัวกระทิลงไปอีก แต่ถ้าแป้งแฉะเกินให้เพิ่มแป้งมันลงไปอีกนะค่ะ ขนมไข่นกกระทา นอกจากจะปรุงกับมันเทศแล้ว ยังสามารถใช้กับมันฝรั่ง มันสำปะหลัง ฟักทองได้อีกด้วยเช่นกัน***
ไข่ครอบ
ส่วนผสม
ไข่เป็ด/ไข่ไก่ ตามชอบ
เกลือป่น ตามชอบ
วิธีทำ
1 นำไข่เป็ดมาล้างเปลือกให้สะอาด จากนั้นตอกไข่ให้แยกออกจากกันแบ่งส่วนของไข่ให้พอเหมาะ จากนั้นแยกไข่ขาว และไข่แดงออกจากกัน
2 นำไข่แดงที่แยกไว้ 2 ฟองเทกลับไปในเปลือกไข่เดิม ใส่เกลือลงไปหนึ่งหยิบมือ ถ้าต้องการความเค็มเพิ่มก็ให้เพิ่มเกลือตามชอบ
3 นำเปลือกไข่ที่เหลือด้านหนึ่งมาครอบไข่แดงเอาไว้หมักไว้ 1 คืน ในเกลือซึมเข้าไข่แดง
4 ครบกำหนดนำไข่ไปนึ่งจนกระทั้งสุก ยกเสริฟทานคู่กับข้าวสวย ข้าวต้ม หรือจะนำไปปรุงเป็นอาหารอย่างอื่นก็ได้เช่นกัน
***ไข่ครอบวันนี้นกนำไปทำเมนูหมูสับผัดไข่เค็มเลยมีไข่ขาวติดมาด้วยนิดหน่อย ถ้าเพื่อน ๆ สนใจสุตรเมนูหมูสับผัดไข่เค็ม คลิ๊กที่รูปอาหารนะค่ะ เมนูนี้นกเปลี่ยนจากส่วนผสมไข่เค็มเป็นไข่ครอบแทน ก็ได้เมนูเพื่อครอบครัวแล้วละค่ะ ***
แกงส้มมะรุม
มะรุมปลอกเปลือกหั่นเป็นท่อน ๆ 10 ฝัก
กุ้งสด 250 กรัม
เนื้อหมู/หมูสามชั้น หั่นชื้นพอคำ 200 กรัม
น้ำพริกแกงส้ม 2ชต
เนื้อปลาต้มสุก 1 ตัว
น้ำปลา 1 ชต
น้ำตาลปีบ 1 ชช
น้ำมะขามเปียก 1 ปั้น
น้ำเปล่าสำหรับแกง
วิธีทำ
1 นำเนื้อปลาต้มสุกโขลกกับพริกแกงให้ละเอียด
2 เอาหม้อตั้งบนเตาใส่น้ำลงไปต้มให้เดือด ใส่พริกแกงที่โขลกเสร็จแล้วลงไป พอน้ำแกงเดือดใส่มะรุมที่ปอกเปลือกเสร็จแล้วลงในหม้อน้ำแกง ต้มให้มะรุมสุก จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาลปึบ น้ำปลาดี น้ำมะขามเปียก ชิมรสตามชอบ ใส่เนื้อหมูลงไปต้มต่อ
coffee cupcakes
ส่วนผสม
เนยรสจืด 250 กรัม
น้ำตาล 180 กรัม
แป้งเค้ก 200 กรัม
ผงฟู 1 ชช
ไข่ไก่ขนาดใหญ่ 4 ฟอง
กาแฟสำเร็จรูป 2 ชช ละลายกับน้ำร้อน 1 1/2 ชช
ครีม 100 มิลลิลิตร
เกลือ 1 หยิบมือ
วิธีทำ
1 อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาซี ร่อนแป้งเค้ก+ผงฟู+เกลือ เข้าด้วยกัน
2 ผสมกาแฟที่ละลายแล้วลงในครีม จากนั้นวางถ้วยกระดาษไว้ในถาดมัฟฟิน พักไว้
3 ตีเนยสดให้อ่อนตัว เติมน้ำตาลทรายลงไป ตีต่อจนขึ้นฟู
4 เติมไข่ไก่ทีละฟอง ตีด้วยความเร็วสูงให้เข้ากันดีก่อนเติมฟองต่อไป ตีต่อให้ส่วนผสมเข้ากันดี จากนั้นเปลี่ยนเป็นใช้ความเร็วต่ำ เติมส่วนผสมแป้งสลับกับส่วนผสมครีม โดยเริ่มด้วยแป้งก่อนและปิดท้ายด้วยแป้ง
5 เทส่วนผสมใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ อบประมาณ 20-25 นาที หรือจนกระทั่งสุก ยกออกจากพิมพ์ ทิ้งไว้ให้เย็นบนตะแกรงก่อนนำไปแต่งหน้าตามชอบได้เลยค่ะ
***นกแต่งหน้าไว้สองแบบนะค่ะ เลยเอามาให้ชมทั้งสองแบบ ถ้าเพื่อน ๆ มีแบบแต่งหน้าอื่น ๆ แล้วแต่จะชอบกันนะค่ะ***
ข้าวต้มไก่สับ /ไก่ฉีก
เนื้อไก่บด/เนื้ออกไก่สุกหั่นชิ้น ตามชอบ ( นกใช้ประมาณ 250 กรัม)
ข้าวสวย 2 ถ้วย
พริกไทยป่น ตามชอบ
แกงส้มผักกระเฉด
ปลาสด หั่นเป็นชิ้นขนาดกลาง 1 ตัว
***แกงส้มผักกะเฉดของนกชอบแบบสุกเยอะหน่อย เวลาทำจะใส่ในลงไปต้มในหม้อแกง แต่ถ้าใครชอบแบบกรอบ กรุบ ๆ ก็ใช้วิธีตักน้ำแกงราดเอาแล้วแต่จะชอบนะค่ะ***
แกงส้มชะอมไข่กุ้งสด
ส่วนผสม
ชะอม1 กำ
ไข่ไก่ 2 ฟอง
กุ้งสด 1 ขีด
น้ำตาลปีบ ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำมะขามเปียก ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับทอดชะอม ตามชอบ
ส่วนผสมพริกแกง
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
หัวหอมแดง 5-6 หัว
กระชาย 3 ราก (ถ้ามี)
กะปิ 1 ชต
เกลือป่น 1/2 ชช
ปลาต้มสุกแกะเนื้อ 1 ตัว
วิธีทำ
1 เอาพริกแห้งแช่น้ำให้นิ่ม พริกนิ่มแล้วให้บีบน้ำออก หั่นหรือฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในครก ใส่เกลือป่นไปนิดหน่อย โขลก ๆ ให้พริกละเอียด จากนั้นเติมส่วนผสมอื่นเข้าไปโขลกต่อจนส่วนผสมทุกอย่างละเอียดเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
2 เอาหม้อตั้งบนเตาใส่น้ำลงไปต้มให้เดือด ใส่พริกแกงที่โขลกเสร็จแล้วลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลปึบ น้ำปลาดี น้ำมะขามเปียก ชิมรสตามชอบพักไว้ เวลาจะทานยกหม้อตั้งเตาอีกครั้งพอน้ำแกงเดือดค่อยใส่กุ้งลงไป
3 เด็ดชะอมตีผสมกับไข่ปรุงรสด้วยน้ำปลา ลงทอดเหลืองสองด้านแล้ว ตักขึ้นมาพักไว้รอเย็น แล้วหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าพอคำ จากนั้นราดด้วยน้ำแกง ยกเสริฟทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ
***ถ้าใครหาชะอมไม่ได้นกแนะนำชะอมเทียมทำง่ายมากๆ เลยค่ะ ใช้ใบคะน้า หรือใบSpinach หั่นเป็นเส้น ๆ จากนั้นเอาไปชุบไข่ทอดสุกแล้วนำมาตัดเป็นชิ้นพอคำ แล้วนำไปปรุง ออกมาแล้วหน้าตาเหมือนไข่ชะอมมากๆ เลยค่ะ แต่ไม่มีกลิ่นเท่านั้นเอง ชามนี้เป็นแกงส้มชะอมเทียมที่นกใช้ใบSpinachทำค่ะ ส่วนใครที่ใช้ใบSpinach สนใจสูตรคลิ๊กที่รูปไปยังลิงค์สูตรได้เลยค่ะ**
ไก่หยอง /หมูหยอง
อบเชย 1 แท่ง
โป๊ยกั้ก 1 ดอก
ผงพะโล้ 2 ชช
น้ำตาลแดง 5 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ชช
ซีอิ๊วขาว 4 ชต
ซีอิ๊วดำ 2 ชต
วิธีทำ
1.นำ อบเชย โป๊ยกั้ก ผงพะโล้ห่อใส่ผ้าขาวบางก่อน ใส่ลงไปในหม้อใส่น้ำให้ท่วมไก่หรือเนื้อหมูยกตั้งไฟจนเดือด จากนั้นใส่เนื้อไก่หรือเนื้อหมูลงไป ระหว่างต้มให้ใช้ช้อนค่อย ๆ ตักฟองทิ้งไปจนไม่มีฟอง
2.ใส่น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว ซีอิ้วดำ เกลือป่น ต้มต่อไปเรื่อยๆจนกระทั้งเนื้อไก่หรือเนื้อหมูเปื่อยยุ่ยดี และน้ำเริ่มแห้ง
3.พอน้ำเริ่มแห้งดีแล้วให้ยีเนื้อไก่หรือเนื้อหมูให้เป็นเส้น ๆ ผัดไปเรื่อย ๆ หรีไฟในเตาลงใช้ไฟอ่อน ผัดจนกระทั้งเนื้อแห้งดี ปิดในไฟ ตักจานพักให้เย็น เสริฟคู่กับขนมปัง หรือจะนำไปทานกับข้าวต้มร้อน ๆ ก็อร่อยเช่นเดียวกัน
ฟักทองเชื่อม (Pumkin in syrup)
น้ำตาลทราย 250 กรัม
น้ำเปล่า 450 กรัม
น้ำปูนใส (สำหรับแช่ฟักทอง)
วิธีทำ
1 นำฟักทองไปทำความสะอาด และหั่นเป็นชิ้นๆ จากนั้นนำไปแช่น้ำปูนใสประมาณครึ่งชั่วโมง ครบกำหนดนำขึ้นมาล้างน้ำและผึ่งฟักทองให้แห้งสะเด็ดน้ำ
2 ใส่น้ำเปล่า, น้ำตาลทรายและน้ำมะนาวลงในกระทะ นำขึ้นตั้งบนเตาไฟร้อนปานกลางต้มจนน้ำตาลละลายหมดจึงใส่ฟักทองลงไปเชื่อม พลิกกลับชิ้นฟักทองบ้างนาน ๆ ครั้ง
ขนมฟักทอง(butternut squash)
ส่วนผสม
Butternut Squash นึ่งบด 1 ถ้วย
แป้งข้าว 1 ถ้วย
แป้งมัน 1/3 ถ้วย
กะทิ 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
มะพร้าวขูด ตามชอบ
เกลือป่น 1 หยิบมือ
วิธีทำ
1 ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำตาล และเกลือเข้าด้วยกันจากนั้นค่อย ๆ เทกะทิลงไปนวดจนส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกันจนกะทิหมด
2 ใส่ Butternut Squash ที่บดแล้วลงไปผสมกับแป้งคนให้เ้ข้ากัน จากนั้นหยอดลงในถ้วยโรยมะพร้าวพร้อมลงนึ่ง
3 นำถ้วยใส่ในลังถึง ลงนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 20 นาที หรือจนขนมสุกได้ที่ยกลงพักไว้จนเย็นแกะออกจัดใส่จานเสริฟได้เลยค่ะ
***ถ้าใครไม่ชอบฟักทองจะเปลี่ยนเป็นเผือก กล้วยก็ได้แล้วแต่จะเลือกกันค่ะ สำหรับนกวันนี้ขอเป็นฟักทองไปก่อนค่ะ***
โฮมเมดแฮมเบอร์เกอร์
ส่วนผสมเนื้อเบอร์เกอร์
เนื้อบด 500 กรัม
ข้าวโอ๊ด 4-5 ชต
หอมใหญ่สับละเอียด 1 ลูก
ไข่ไก่ 1 ฟอง
เฮิร์บส์ ตามชอบ
เกลือ 2ชช
เหล้าจีน 1 ชต (ถ้ามี)
พริกไทย ตามชอบ
ส่วนผสมเบอร์เกอร์
เนื้อเบอร์เกอร์ทอดสุก 1 ชิ้น
ขนมปังเบอร์เกอร์ ผ่าแบ่งครึ่ง 1 ก้อน
มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ 1 ชิ้น
ชีส 1 แผ่น
ผักสลัดตามชอบ
มันฝรั่งทอดตามชอบ
น้ำมันมะกอ
วิธีทำ
1.ผสมเครื่องปรุงเนื้อเบอร์เกอร์ทั้งหมดลงในอ่างผสมนวดให้เข้ากัน จากนั้นปั้นเป็นก้อนกลมๆ แล้วใช้มือกดให้มีลักษณะแบนลง หนาประมาณ 1/2 นิ้ว ขนาดเล็กใหญ่ตามชอบ (ส่วนผสมนี้นกได้ประมาณ 9 ก้อน)
2.ตั้งกระทะบนเตาใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อนใส่น้ำมันลงบนกระทะเล็กน้อย พอน้ำมันร้อนค่อยๆวางเนื้อลงบน ทอดจนสุกทั้งสองด้าน
3.ระหว่างที่ทำเนื้อ ให้นำขนมปังไปจี่ หรือจะอบให้ร้อนวางผักต่างๆ ลงไป ตามด้วยเนื้อที่สุกดีและชีส เสริฟพร้อมสลัด หรือมันฝรั่งทอดได้เลยค่ะ
***จานนี้เป็นของนกเป็นเบอร์เกอร์หมู ส่วนผสมและวิธีการจะเหมือนกัน เปลี่ยนจากเนื้อ เป็นหมูเท่านั้นเองค่ะ***
คุ๊กกี้ครีมชีสไส้แยม
อูด้งราดหน้าทะเล
เส้นอูด้ง 1 ห่อ
เต้าเจี้ยว 2 ชช
ซีอิ๊วขาว 1 ชต
น้ำมันงา 2 ชช (ถ้ามี)
เหล้าจีน 1 ชช (ถ้ามี)
กระเทียมสับละเอียด 2-3 กลีบ
ข้าวโพดอ่อนหั่นเป็นชิ้น พอคำ ตามชอบ
ผักกาดขาวหั่นเป็นชิ้นพอคำ 4-5 ก้าน
เห็ดแชมปิญองหั่นเป็นชิ้น 1 ถ้วย
แป้งมัน 2 ชต
น้ำซุปไก่ ตามชอบ (นกใช้ประมาณ 3 ถ้วย)
น้ำตาลทราย ตามชอบ
พริกไทยป่น ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับผัด
น้ำเปล่าสำหรับละลายแป้งมัน
วิธีทำ
1.เตรียมเส้นด้วยการนำเส้นอูด้งไปต้มให้สุก พักไว้
2.ใส่น้ำมันในกระทะใบเดิมเจียวกระเทียมให้พอหอม จากนั้นใส่เต้าเจี้ยวลงผัดพอเข้ากัน เติมน้ำซุป ต้มจนกระทั่งเดือด ใส่แครอทลงผักให้พอสุกจากนั้น ใส่กุ้ง ปลาหมึก หอยลงไป ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทรายและพริกไทยชิมรสตามชอบ
ผัดไข่ผักกาดดอง
ผักกาดดอง 1 ต้น
กระเทียมสับละเอียด 4-5 กลีบ
น้ำตาลทราย 1 ชต
ไข่ไก่ 2 ฟอง
น้ำซุป ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับผัด
วิธีทำ
1 ล้างผักกาดดองให้สะอาด บีบน้ำให้แห้ง จากนั้นหั่นผักกาดดองตามขวางเป็นเส้นเล็กขนาดพอเหมาะ
2 ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งบนเตาใช้ไฟค่อนข้างร้อน พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่กระเทียมลงไปเจียวให้หอม ใส่ผักกาดดอง น้ำซุป ผัดให้เข้ากัน
3 พอผัดเข้ากันได้ที่แล้ว ใส่น้ำตาลทรายลงไป แยกผักในเป็นหลุมตกกลางกระทะใส่ไข่ลงไปยีไข่ให้แตกเอาผักกาดลงกลบบนไข่พักให้พอไข่สุก ผัดให้ทั่ว ๆ ชิมรสตามชอบ จากนั้นปิดไฟในเตาตักใส่จานเสริฟกับข้าวสวย ข้าวต้มร้อน ๆ ได้เลย
แกงป่ากุ้งลูกswede
ส่วนผสม
กุ้งสด 250 กรัม
ลูกswedeหั่นชิ้นพอคำ 2 ถ้วย
พริกขี้หนูสด ตามชอบ
กระชายซอย 1 แง่ง
ใบมะกรูดฉีก 3-5 ใบ
ใบกะเพรา ตามชอบ
น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า ตามชอบ
น้ำพริกแกงป่า 2 ชต
วิธีทำ
1.ตั้งหม้อบนเตาใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันลงไปพอน้ำมันเริ่มร้อนใส่พริกแกงผัดจนหอม เติมน้ำเปล่า swedeหั่นชิ้น ใบมะกรูด ต้มจนswedeนิ่ม ปรุงรสด้วย น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ ชิมรสตามชอบ
กระเพาะปลา
ส่วนผสม
กระเพาะปลา ตามชอบ
เห็ดหอม 5-8 ดอก
หน่อไม้กระป๋อง 1 กระป๋อง
ไข่ต้ม ตามชอง
หอมผักชีหั่นหยาบ 2 ต้น
ขิงทุบ 1 แง่ง
พริกไทยดำ
ซีอิ๋วขาว 2 ชต
นำมันหอย 2 ชต
ซีอิ๋วดำ 1 ชต
เหล้าจีน 1 ชต
เกลือ 1 ชช
ซุปไก่ก้อน 1 ก้อน
แป้งมัน 2 ชต
วิธีทำ
1.นำหน่อไม้กระป๋องมาล้างต้มให้หมดกลิ่น จากนั้นหั่นเป็นเส้น ๆ พักไว้
2.เห็ดหอมแช่น้ำ พอนิ่มแล้วเอามาหั่นเป็นเส้น ๆ พักไว้
3.เอาหม้อใส่น้ำตั้งบนเตาใช้ไฟแรงใส่ซุปก้อน ซีอิ๋วขาว น้ำมันหอย เหล้าจีน ใส่ขิงทุบ รากผักชี พอน้ำเดือดใส่น่องไก่ลงไปต้มต่อจนกระทั้งน่องไก่สุก ตักน่องไก่ออก เอามาชีกเป็นชิ้น ๆ
4.น้ำซุปหลังจากตักน่องไก่ออกเติมซีอิ้วดำลงไปให้มีสีดูน่ากิน ใส่เห็ดหอม น่องไก่ฉีก กระเพาะปลา เกลือ ชิมรสตามชอบ รอให้เดือดอีกครั้ง ละลายแป้งมันใส่ลงในหม้อ ให้น้ำข้นได้ที่เดือดอีกรอบปิดไฟในเตาตักใส่ชามเสริฟคู่กับไข่ต้ม โรยหน้าด้วยหอมผักชี พริกไทยป่น ได้เลยค่ะ
***เวลาทำกระเพาะปลาให้แช่กระเพาะปลาในน้ำผสมส้มสายชู ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที เพื่อช่วยดับกลิ่นคาวและเหม็นหืน แล้วเอาไปต้มในน้ำเดือด สักครู่จากนั้นตักขึ้นแช่ในน้ำเย็น แล้วค่อยๆบีบเอาน้ำมันออก ล้างให้สะอาดจนไม่มีน้ำมัน ที่บ้านเมืองไทยเวลาทำแม่กระเพาะปลาพวกเรามักกินกับเส้นหมี่ หรือไม่ก็มาม่า เติมน้ำพริกน้ำส้ม จิ๊กโฉ่วหน่อย อร่อยไปเลยละค่ะ***
ขนมกลีบลำดวน/ดอกลำดวน
ส่วนผสม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ ๑ ถ้วย
น้ำตาลไอซิ่ง 1/2 ถ้วย
น้ำมันพืช 6 ชต
กลิ่นดอกมะลิ 1/2 ชช (ไม่มีเทียนอบเลยใช้กลิ่นมะลิแทน)
วิธีทำ
1.ร่อนแป้งสาลี และน้ำตาลไอซิ่งรวมกัน
2.ใส่น้ำมันพืชทีละน้อย แล้วนวดให้เข้ากัน จากนั้นปั้นเป็นลูกบอลกลม ๆ ขนาดเล็กใหญ่ตามชอบ
3.เอามีดหั่นลูกบอล แบ่งเป็น 4 ส่วนเท่าๆกันหยิบกลีบออกมา 3 กลีบ ตั้งลงบนถาดที่รองด้วยกระดาษไขสำหรับอบ หรือถาดทาเนยขาว จากนั้นปั้นลูกบอลกลมๆขนาดเล็กอีกลูกหนึ่งเอาไว้เป็นเกษร ติดด้านบนกลีบทั้ง 3 ทำอย่างนี้ไปจนหมดแป้ง
4.นำเข้าอบที่ 180 องศาเซลเซียส นาน 10 ถึง 15 นาที หรือจนกระทั้งขนมสุกเหลือง
***เวลาเอาออกจากเตาอบ ตั้งพักให้เย็นก่อนแล้วค่อยแซะออก ไม่งั้นกลีบดอกจะหลุดออกจากกันนะคะ จากนั้นนำใส่ในขวดโหล อบด้วยควันเทียนหอม***
คัฟเค้กGrapefruit
ไข่ไก่ขนาดกลาง 4 ฟอง (แยกไข่แดง-ไข่ขาว)
น้ำตาลทราย 1 1/3 ถ้วย (แยกออกเป็น 1 ถ้วย และ 1/3 ถ้วย)
ผงฟู 1 ชต
แป้งเค้ก 2 ถ้วย
น้ำมัน 5 ชต
เกลือ 1 หยิบมือ
นม 1/4 ถ้วย
น้ำเกรปฟรุต 2/3 ถ้วย
1.แยกไข่แดง และไข่ขาวออกจากกัน เอาไข่ขาวที่แยกไว้ใส่อ่างผสมเริ่มตีจากความเร็วต่ำแล้วเร่งสปีดขึ้นเรื่อยๆ จากนั้น ค่อยๆใส่น้ำตาลทรายทีละ 1 ชต ขั้นตอนนี้ใส่น้ำตาลแค่ 1/2 ถ้วย ตีไปจนน้ำตาลหมดไข่ขาวขึ้นฟู ตั้งยอดอ่อน พักไว้
2.ผสม แป้ง ผงฟู เกลือ น้ำมัน นม น้ำเกรปฟรุต ไข่แดง และน้ำตาลที่เหลือเข้าด้วยกัน ใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมให้เข้ากัน
3.เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วใส่ไข่ขาวที่ตีขึ้นฟูไว้ลงในชามส่วนผสมของแป้ง แล้วใช้ตะกร้อมือตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง เมื่อเข้ากันดีตักใส่ถ้วยกระดาษ เอาเข้าเตาอบ อบประมาณ 20-25 นาที หรือพอให้เค้กหน้าเหลืองสวย พออบเสร็จแล้ว พักเค้กให้เย็นจากนั้นใช้มีตัดหน้าเค้กเล็กน้อยใส่แยมลงไปตรงกลางเค้ก เอาเค้กส่วนเดิมที่ตัดไว้มาปิดทับ หรือจะใช้แยมราดหน้าเค้กก็ได้เช่นกันค่ะ
***นกคิดว่าหลาย ๆ คนคงรู้จักเกรปฟรุตเป็นอย่างดี แต่ก็มีอีกหลาย ๆ คนไม่รู้จัก เกรปฟรุตเป็นผลไม้เกรปฟรุต เป็นไม้ผลกึ่งเขตร้อน สหรัฐอเมริกากลายเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ เลยที่เดียวเท่าที่รู้มานะค่ะ แถว ๆ บ้านเราที่ปลูกก็มีจีน เวียดนาม มาเลเซีย และ ไต้หวัน เกรปฟรุตเป็นลูกผสมระหว่างส้มโอและส้ม ลำต้นคล้ายกับต้นส้มทั่วไปๆ ใบบางมีกลิ่นหอม ดอกออกเป็นช่อสีขาวผลมีขนาดเล็กกว่าผลส้มโอแต่ขนาดใหญ่กว่าส้ม เปลือกหนาสีเหลือง ส่วนใหญ่ที่นี้กินเกรปฟรุตตอนอาหารมื้อเช้า โดยจะนำเกรปฟรุตมาผ่าแบ่งครึ่งตามขวางกลางลูก แล้วโรยด้วยน้ำตาลหรือน้ำผึ้ง ใช้ช้อนตักกินตามชอบ หรือไม่ก็จะนำไปกินเป็นฟรุตสลัด แยมผลไม้ ในภาษาสเปนจะเรียกเกรปฟรุตว่า Toronja หรือ Pomelo นะค่ะ (รูปภาพนี้นกได้มาจาก Google)
คัฟเค้กส้มมาร์มาเล็ด
ไข่ไก่ขนาดกลาง 4 ฟอง (แยกไข่แดง-ไข่ขาว)
น้ำตาลทราย 1 1/3 ถ้วย (แยกออกเป็น 1 ถ้วย และ 1/3 ถ้วย)
ผงฟู 1 ชต
แป้งเค้ก 2 ถ้วย
น้ำมัน 5 ชต
เกลือ 1 หยิบมือ
นม 1/4 ถ้วย
น้ำส้ม 2/3 ถ้วย
ผิวส้ม ตามชอบ
วิธีทำ
1.แยกไข่แดง และไข่ขาวออกจากกัน เอาไข่ขาวที่แยกไว้ใส่อ่างผสมเริ่มตีจากความเร็วต่ำแล้วเร่งสปีดขึ้นเรื่อยๆ จากนั้น ค่อยๆใส่น้ำตาลทรายทีละ 1 ชต ขั้นตอนนี้ใส่น้ำตาลแค่ 1/2 ถ้วย ตีไปจนน้ำตาลหมดไข่ขาวขึ้นฟู ตั้งยอดอ่อน พักไว้
2.ผสม แป้ง ผงฟู เกลือ น้ำมัน นม น้ำส้ม ผิวส้ม ไข่แดง และน้ำตาลที่เหลือเข้าด้วยกัน ใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมให้เข้ากัน
3.เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วใส่ไข่ขาวที่ตีขึ้นฟูไว้ลงในชามส่วนผสมของแป้ง แล้วใช้ตะกร้อมือตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง เมื่อเข้ากันดีตักใส่ถ้วยกระดาษ เอาเข้าเตาอบ อบประมาณ 20-25 นาที หรือพอให้เค้กหน้าเหลืองสวย พออบเสร็จแล้ว พักเค้กให้เย็นจากนั้นใช้มาร์มาเลดแยมราดหน้าเค้กตามชอบได้เลยค่ะ
แกงขี้เหล็กเทียม (ใบGreen Kale)
ส่วนผสม
ผักต้มแล้วบีบให้แห้ง 1 ถ้วย
กะทิ 1 กป (แยกหัวกระทิ หางกระทิ)
น้ำพริกแกงเผ็ดปักษ์ใต้ 1 ชต
ปลาย่าง แกะเนื้อขนาดกลาง 1 ตัว
น้ำตาลปึก 2 ชช
น้ำปลา 1 ชต
วิธทำ
1. เอาหม้อตั้งบนเตาเปิดไฟกลางค่อนข้างแรง เอาหัวกระทิใส่ลงในหม้อตั้งไฟพอร้อน ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงผัดจนกลิ่นหอม จากนั้นเติมหางกระทิที่เหลือลงไป
2.ใส่ใบ ลงไปคนให้เข้ากับเครื่องแกงต้มให้เดือดสักพัก ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ชิมรสตามชอบ
3.ใส่เนื้อปลาย่างลงไปคนให้เข้ากันชิมรสชาดอีกครั้ง รอให้เดือดอีกรอบจากนั้นปิดไฟในเตาตักใส่ถ้วยเสริฟได้เลยค่ะ
***ได้กินแกงขี้เหล็กเทียมนี้แล้วพอทำให้หายคิดถึง ได้ไม่มากก็น้อย ยิ่งถ้าใครชอบแบบไม่ขมรับรองไม่ผิดหวังเลยค่ะ ***
ต้มหน่อไม้กระดูกหมู
คุ๊กกี้ชินาม่อน
ส่วนผสม
แป้งพายสำเร็จ 1 ห่อ
เนยเค็มสด 2-3 ชต
ผงชินาม่อน 2 ชต
น้ำตาลทรายแดง 1/4 ถ้วย
วิธีทำ
1.แบ่งแป้งพายออกเป็น 2 ส่วน คลึงแป้งให้บาง ๆ จากนั้นทาด้วยเนยบาง ๆให้ทั่วแผ่นแป้ง
2.โรยผงชินาม่อน และน้ำตาลทรายแดงให้ทั่ว เสร็จแล้วม้วนให้จนสุดปลายอีกด้านหนึ่ง ตัดให้เป็นท่อน ๆ ขนาดตามชอบ
3.ทาเนยบนถาดอบวางขนมให้ห่างกันประมาณ พอประมาณ เอาเข้าอบประมาณ 15 นาที หรือจนกระทั้งขนมสุก
***สูตรที่นกให้เป็นแป้งพายสำเร็จ สะดวก และง่ายสำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่ชอบนวดแป้งเอง แต่สำหรับนกแล้วเวลาทำทุกครั้งจะนวดแป้งเอง เพราะแฟนคลับชอบแป้งที่ทำเองมากกว่าที่ซื้อจากซุปเปอร์นะค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ สนใจแป้งพาย สุตรเคยเขียนไว้แล้วใน Apple and Blackberry Pie คลิ๊กเข้าไปอ่านดูได้เลยค่ะ***
ปีกไก่ทอดธัญพืช
ปีกบนไก่ 10ชิ้น
ถั่วผสม (Mixed Nut) 1/2 ถ้วยตวง
เมล็ดมะม่วงหิมพานต์อบบดหยาบ 1/2 ถ้วยตวง
เมล็ดทานตะวันอบบดหยาบ 1/4 ถ้วย
งาขาว 2-3 ชต
เกลือป่น 1 ชช
แป้งทอดกรอบ 1/2 ถ้วย
น้ำเปล่า พอประมาณ
น้ำมันพืชสำหรับทอด
วิธีทำ
1 เลาะเนื้อส่วนกระดูกปีกบนไก่ ตรงโคนลงมาพอประมาณ (นกเลาะประมาณ 1-2 ซม)
2 นำถั่ว เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ งา เกลือป่นผสมให้เข้ากัน พักไว้
3 ผสมแป้งทอดกรอบ น้ำเปล่าให้เข้ากัน เวลาเทน้ำเปล่าให้เทลงที่ละนิด ผสมแป้งดูอย่าให้เหลวเกินไป จากนั้นนำปีกไก่ลงชุบในแป้ง และชุบ ส่วนผสมของธัญพืช ให้ทั่วทั้งชิ้น
4 ตั้งกระทะบนเตา เปิดไฟแรง ใส่น้ำมันลงในกระทำ รอให้น้ำมันร้อน จากนั้นนำปีกบนไก่ลงทอดในน้ำมันเบาไฟให้เป็นไฟปานกลาง ทอดจนกระทั่งไก่สุก ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานเสิรฟคู่กับน้ำจิ้มตามชอบได้เลย
***ถ้าเพื่อน ๆ ชอบ ธัญพืชอื่น สามารถนำมาผสมได้อีกนะค่ะ ของนกเอาเท่าที่พอจะหาได้นะค่ะ สำหรับงาถ้าจะใส่งาดำก็ได้เช่นเดียวกัน ที่บ้านงาดำหาซื้อไม่ได้นะค่ะ ***
ราดหน้าคะน้าหมูนุ่ม
เส้นก๋วยเตียว ตามชอบ (วันนี้นกใช้เส้นหมี่)
คะน้าหั่นเฉียง 6-8 ต้น
เนื้อหมูสันในหมัก 1 ถ้วย
ซีอิ้วขาว 2 ชต
ซีอิ้วดำ 2 ชต
น้ำมันหอย 2 ชต
น้ำตาลทราย ตามชอบ
เต้าเจี้ยว 2 ชต
แป้งข้าวโพด 2 ชต
น้ำมันสำหรับผัด
น้ำซุปไก่ ตามชอบ (ไม่มีใช้น้ำเปล่าได้ค่ะ)
ส่วนผสมหมูหมัก
3 ตั้งกระทะอีกครั้ง ใส่น้ำมันลงไปน้ำมันร้อนก็ใส่กระเทียมลงไปผัดจนกระเทียมหอม ใส่เนื้อหมูหั่นลงไป ผัดจนหมูเริ่มสุกก็ใส่เครื่องปรุงต่างๆ คือ ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย และน้ำตาลทรายลงไป
4 ผัดให้เครื่องปรุงต่างๆ เข้ากัน จนหมูสุกก็เติมน้ำซุปลงไป รอจนน้ำซุปเดือด ก็ใส่เต้าเจี้ยวลงไป ชิมรสตามชอบ จากนั้นรอให้น้ำซุปเดือดอีกครั้งก็ใส่ผักคะน้าที่หั่นไว้ลงไป ระหว่างนี้ให้ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำเปล่า คนให้แป้งละลายจนหมด จากนั้นเทลงน้ำซุป คนเร็วๆ อย่าให้แป้งจับตัวเป็นก้อน น้ำซุปจะข้นขึ้น รอจนน้ำซุปเดือดอีกครั้งปิดไฟในเตา ตักน้ำซุปราดบนเส้นหมี่ โรยด้วยพริกไทยป่น ยกเสริฟได้เลยค่ะ
ลูกชื้นหมู
ส่วนผสม
เนื้อหมูบดละเอียด 500 กรัม
ซีอิ๊วขาว 2 ชต.
น้ำตาล 1 ชต.
แป้งข้าวโพด 2 ชต.
ผงฟู 1 1/2 ชต.
เกลือ 1/2 ชช
น้ำมันพืช 2 ชต.
น้ำเย็นจัด 2 ชต
พริกไทยตามชอบ
วิธีทำ
1 ผสมเกลือ น้ำตาล ซีอิ๊ว แป้งข้าวโพด ผงฟู น้ำและน้ำมันเข้าด้วยกันใส่ลงไปเนื้อหมูบดละเอียด นวดให้เข้าจนเป็นเนื้อเดียวกันทั้งหมด เติมพริกไทยลงไปแล้วนวดต่อให้เข้ากันอีกครั้ง
2 นำหมูบดที่นวดเสร็จแล้วแช่ตู้เย็นประมาณ 1 ชม
3.ตั้งกระทะใส่น้ำตั้งบนเตาใช้ไฟแรงต้มให้เดือด จากนั้นดับไฟที่ต้มน้ำในกระทะ เอาหมูบดออกมาบีบให้เป็นก้อนกลม แล้วใช้ช้อนตักใส่ลงในกระทะที่มีน้ำร้อนทำแบบนี้จนหมดค่ะ เปิดเตาอีกครั้งต้มต่อใช้ไฟอ่อนที่สุดอย่าให้น้ำในกระทะเดือน
4 เตรียมน้ำเย็นใส่น้ำแข็งไว้1กะละมัง พอลูกชิ้นในกระทะเริ่มลอยลูกชิ้นได้ที่เริ่มจะสุก พอลูกชิ้นสุกได้ที่ตักใส่กะละมังที่ใส่น้ำและน้ำแข็งทิ้งๆไว้สักครู่จากนั้นตักใส่จานหรือกล่องเก็บแช่ตู้เย็นไว้ปรุงกับกว๋ยเตียว หรืออาหารอื่น ๆ ได้เลย
***สุตรนี้ใช้ได้กับทุกเนื้อ แต่ที่บ้านส่วนใหญ่จะมีลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นไก่ และลูกชิ้นไก่งวง ส่วนลูกชิ้นกุ้ง ปลา นกใช้อีกสูตรหนึ่ง แต่ขั้นตอนของการทำลูกชิ้นก็จะคล้าย ๆ กันนะค่ะ***
ลูกชิ้นไก่
ลูกชิ้นไก่งวง
แกงส้มใบSpinachไข่กุ้งสด
ส่วนผสม
ใบSpinach หั่นเป็นเส้น ๆ 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 2 ฟอง
กุ้งสด 1 ขีด
น้ำตาลปีบ ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำมะขามเปียก ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับทอดชะอม ตามชอบ
ส่วนผสมพริกแกง
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
หัวหอมแดง 5-6 หัว
กระชาย 3 ราก (ถ้ามี)
กะปิ 1 ชต
เกลือป่น 1/2 ชช
ปลาต้มสุกแกะเนื้อ 1 ตัว
วิธีทำ
1.เอาพริกแห้งแช่น้ำให้นิ่ม พริกนิ่มแล้วให้บีบน้ำออก หั่นหรือฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในครก ใส่เกลือป่นไปนิดหน่อย โขลก ๆ ให้พริกละเอียด จากนั้นเติมส่วนผสมอื่นเข้าไปโขลกต่อจนส่วนผสมทุกอย่างละเอียดเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
2.เอาหม้อตั้งบนเตาใส่น้ำลงไปต้มให้เดือด ใส่พริกแกงที่โขลกเสร็จแล้วลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลปึบ น้ำปลาดี น้ำมะขามเปียก ชิมรสตามชอบพักไว้ เวลาจะทานยกหม้อตั้งเตาอีกครั้งพอน้ำแกงเดือดค่อยใส่กุ้งลงไป
3.ใบSpinach หั่นซอยผสมกับไข่ปรุงรสด้วยน้ำปลา ลงทอดเหลืองสองด้านแล้ว ตักขึ้นมาพักไว้รอเย็น แล้วหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าพอคำ จากนั้นราดด้วยน้ำแกง ยกเสริฟทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ
****ถ้าใครแกงด้วยใบSpinach เหมือนนก เวลาใส่น้ำปลาให้ใส่เยอะกว่าชะอมนิดหน่อย เพราะใส่น้อยเกินไปไข่จะจืดเวลากินไม่ค่อยได้รสเท่าไร แต่ถ้าใครไม่ชอบใบSpinach เปลี่ยนเป็นไข่เจียวใบคะน้า หรือไข่เจียวแครอทก็ได้ค่ะ****
ข้าวผัดขิง
กุ้งสดขนาดเล็กใหญ่ ตามชอบ (วันนี้นกใช้กุ้งตัวใหญ่ 10 ตัว)
ข้าวสวย 2 ถ้วย
ขิงซอย 1 แง่ง
หัวหอมใหญ่ หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/2 ลูก
แครอท หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/4 ถ้วย
ต้อนหอมผักชี หั่นหยาบ 2 ต้น
ชีอิ้วขาว 2 ชต
น้ำตาล ตามชอบ
น้ำปลา ตามชอบ
วีธีทำ
1. เอากะทะตั้งบนเตาใช้ไฟแรงปานกลาง ใส่น้ำมันสำหรับผัดลงไป พอน้ำมันร้อนใส่เจียวกระเทียมลงผัดให้หอม เอากุ้งลงผัดให้พอกุ้งมีเริ่มมีสีแดงสุก
2.ใส่หัวหอมใหญ่ แครอทลงไปผัดให้เข้ากันจนกระทั้งผักเริ่มสุก ใส่ข้าวสวย หมูกรอบ ลงไปผัด ปรุงรสด้วย ชีอิ้วขาว น้ำตาล น้ำปลา ชิมรสตามชอบ
3.ผัดให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นใส่ขิงซอยลงไปผัดต่อให้ขิงสุก ชิมรสอีกครั้ง หากได้ที่ปิดไฟในเตา ใส่ต้นหอมผักชีลงไป ผัดให้เข้ากันตักใส่จานโรยขิงซอยอีกนิดหน่อย ยกเสริฟคู่กับไข่ดาวได้เลย ค่ะ
***ถ้าใครต้องการความเผ็ด เวลาเสริฟ ก็ตักพริกมะนาวใส่ลงไป และถ้าไม่ชอบกินไข่ดาว จะใส่ไข่ตอนที่ผัดก็ได้เช่นเดียวกันคะ **
ข้าวผัดพริกแกงไก่
ข้าวสวย 1 1/2 ถ้วย
เนื้อไก่หั่นเป็นชิ้นพอคำ ตามชอบ
ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อนๆ 2-3 ฝัก
พริกแกงเผ็ดใต้ 1 ชต
น้ำปลา ตามชอบ
น้ำตาลทราย ตามชอบ
ใบโหระพา ตามชอบ
พริกชี้ฟ้าแดงเขียว หั่นเฉียง 2-3 ดอก
น้ำมันสำหรับผัด
วิธีทำ
1.ตั้งกระทะบนเตาไฟใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันลงไปในกระทะสำหรับผัดพริกแกง ผัดให้พริกแกงพอหอม จากนั้นใส่เนื้อไก่ลงในกระทะผัดจนกระทั้งไก่เริ่มสุก
2.ใส่ข้าวสวยลงไปผัด ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ ผัดให้ข้าวเข้ากันดี พอได้ที่ใส่ถั่วฝักยาว พริกชี้ฟ้า ลงผัดให้เข้ากันสัก สองสามครั้ง ปิดไฟในเตา ใส่ใบโหระพาลงไปผัดคลุกเค้าอีกครั้งตักใส่จานเสริฟคู่กับไข่ดาว หรือไข่เจียวตามชอบได้เลยค่ะ